ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความจำเลอะเลือน

    ลำดับตอนที่ #2 : บันทึกอัลไซเมอร์

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 49


    อย่างที่บอกไว้ที่ตอนแรกนะคะว่าจะเอา กรณีศึกษามาเล่าสู่กันฟัง

    เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากับตัวเลยค่ะ

    เรื่องมันเริ่มจากว่าเมื่อประมาณ ปี 2544 คุณตาได้เสียชีวิตลง

    ก็จะเหลือคุณยายเพียงคนเดียวที่อยู่ที่บ้าน(มีแม่บ้านอยู่ด้วยค่ะ)

    คุณยายมักจะบอกเสมอๆ ว่าไม่คิดถึง ไม่รู้สึก และไม่ได้รักคุณตาเท่าไหร่

    แต่แล้วความจริงก็เริ่มเปิดเผย

    เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ คุณยายเริ่มซึมเศร้า และไม่รู้จะทำอะไร
    เมื่อก่อนคุณยายจะเป็นคนทำกับข้าวให้ทุกคนทานโดยเฉพาะคุณตา แต่พอคุณตาเสียไปคุฯยายก็เลิกทำกับข้าวอีกแม้กระทั่งขนม เบเกอรี่ต่างๆที่คุณยายชอบทำ ก็เลิกทำไปทั้งหมด วันทุกวันก็มีชีวิตประจำวันเหมือนๆเดิม
    ในฐานะที่เราเป็นหลานและก็อยู่ด้วย ก็พอจะรับรู้ได้ค่ะว่าท่านเศร้าและเหงาลงมากเพราะถึงแม้จะมีลูกหลานมากกว่า 20 คน แต่จะเคยมีสักคนมั้ยที่จะมาดูท่าน มาคุยกันกับท่านบ้างก็ยังดี

    นั่นคงจะเป็นสาเหตุเริ่มต้นของอาการอัลไซเมอร์นี่แหละค่ะ อย่างที่เคยกล่าวไปนะคะสาเหตุของโรคนี้ก็เกิดจากอาการเศร้าอย่างรุนแรงเหมือนพวกที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปค่ะ กรณีนี้คุณยายโดนเต็มๆๆ
    แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า สักประมาณ2-3 ปีผ่านไป อาการเริ่มแสดงออกมาขึ้นค่ะ เริ่มจากคุณยายมักจะไล่แม่บ้านที่อยู่ที่บ้าน ทำให้แม่บ้านออกคนแล้วคนเล่า คุณยายเริ่มจำไม่ได้ว่าวันๆทำอะไรไปบ้าง ใครเป็นใครเริ่มสับสน

    และมาช่วง 2 ปีหลังเราเริ่มสังเกตอย่างจริงจังและคุยกับที่บ้านว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแล้ว จุดหันเหของเรื่องราวคือ คุณยายล้มป่วยหนักมากเมื่อปีที่แล้ว อาการคือ คุณยายเริ่มหกล้มบ่อยขึ้น เวียนหัวง่าย จากนั้นเริ่มอาเจียนไม่หยุด จนสุดท้ายถ่ายเป็นเลือด วินาทีนั้นเราบอกแม่ว่าเรียกรถพยาบาลมารับคุณยายเถอะแม่ ไม่ไหวแล้วล่ะ คุณยายต้องอยู่ไอซียู จนหมอเริ่มพบว่าคุณยายเป็นแผลในกระเพาะอาหาร(คงเป้นเพราะเวลากลางวันที่อยู่คนเดียวไม่มีกะจิตกะใจจะกิน ข้าวหรืออะไรเลยเหมือนตรอมใจ ) คุณยายมักพูดว่าไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว แต่ว่า ครอบครัวเรา มี เรา พ่อ และแม่บอกว่าคุณยายต้องอยู่ต่อไปนะ

    ใครที่เคยไปเยี่ยมคนป่วยที่อาการโคม่ามากๆคงจะทราบดีค่ะว่า ความรู้สึกมันเป็นอย่างไร หลังจากผ่านช่วงนั้นมาได้ ก็ตัดสินใจย้ายโรงพยาบาลและเริ่มรักษาโรคนี้กันอย่างจริงจังค่ะ คูรยายต้องรับประทานยา บำรุงเส้นประสาท และที่ออกฤทธิควบคุมประสาท เพราะ หมอบอกว่าคนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการก้าวร้าว และจะหงุดหงิดเมื่อมีคนขัดใจ หรือไม่ได้ดังใจ (ตรงเป๊ะๆๆเลยค่ะ) จึงต้องกินยาประสาทไปค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นบ้านะคะ ยาตัวนี้จะทให้อารมณ์ดีและใจเย็น รวมถึงพูดรู้เรื่องมากยิ่งขึ้นค่ะ

    เอาละค่ะ เล่ามาเยอะพอสมควรแล้วนะคะ ถ้าใครมีคำถามหรืออยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรคนี้ สู่กันฟังก็คุยกันได้นะคะ ยินดี ค่ะ จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ค่ะ(แบบเหมือนประสบการณ์ตรงมาตลอด 5 ปีค่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×