ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic KHR] Robbery! ช่วงชิงอิสภาพกลับคืนมา!

    ลำดับตอนที่ #6 : บทบาทที่2::ต่อปากต่อคำ(?) [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 302
      4
      15 พ.ย. 60

    (c)              Chess theme
     

    บทบาทที่2::ต่อปากต่อคำ(?)

                ร่างสูงโปร่งผมยาวสลวยของหญิงสาวที่กำลังเดินไปตามทางของปราสาทวองโกเล่ที่เธอเพิ่งกลับมาไม่นานมานี้ เธอได้รับคำสั่งจากเจ้าชีวิตของเธอให้ดูแล เด็กใหม่ ดวงตาคู่สวยมองไปตามทางเดิน เรียวขายังคงก้าวต่อไปพร้อมกับความคิดในหัว

                คุณคริสติน่าคะ!”

    เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่สับมาด้วยความเร็ว หญิงสาวผู้ถูกเรียกหันกลับไปมองบุคคลที่เรียกเธอทันที พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ถูกประดับไว้บนหน้า หญิงสาวเรือนผมสีดำหยุดอยู่ตรงหน้าเธอก่อนที่จะระบายยิ้มที่สดใสออกมาให้เห็น

                อรุณสวัสดิ์ค่ะ

                “อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ คุณฮิบิกิ

                “กำลังจะไปไหนเหรอคะ?

    ฮิบิกิถามขึ้น เธอสงสัยมากว่าคริสติน่าได้รับคำสั่งเหมือนเธอรึเปล่า

                กำลังจะไปดูสาวๆที่เพิ่งเข้ามาน่ะค่ะ คุณฮิบิกิได้รับคำสั่งเหมือนกันไหมคะ?

    คำถามที่ถูกเฉลย นั่นทำให้ฮิบิกิดูใจชื้นเล็กน้อยยังดีที่เธอไม่ต้องไปคนเดียวและไปเจอกับคนเยอะๆที่มีผู้ชายคุมอยู่ด้วย นั่นคงไม่พึงประสงค์สำหรับผู้หญิงแบบเธอแน่ๆ

                ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ

                “ถ้างั้นเราก็ไปกันเลยเถอะค่ะ

    คริสติน่าพูดจบเรียวขาก็ออกเดินทันที ฮิบิกิเห็นแบบนั้นก็รีบสาวเท้าเดินข้างๆทันที ทั้งคู่พูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงประตูที่เป็นการวัดดวงว่าจะคนแบบไหน

                ฮิบิกิยื่นมือเปิดประตูทันที ก็ต้อง งงไปสักพักเพราะเมื่อประตูถูกเปิดกลับไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย

                ไม่มีใครอยู่เลยนะคะ

                “เอ๋?

    พอได้ยินคำพูดจากปากของฮิบิกินั่นทำให้คริสติน่าถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกัน แต่อีกใจก็รู้สึกดีที่จะได้ไม่ต้องมีใครทรมานเพราะผู้ชาย

                ทำไมจะไม่มีล่ะ แหกตากันดูหน่อยสิเว้ย!!”

    สิ้นเสียงของชายร่างใหญ่ที่เข้ามาพร้อมกับกลุ่มหญิงสาวที่ถูกมัดมือเดินตามเข้ามาพร้อมกันถึง 8คน หญิงสาวทั้ง8ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนและความเศร้าหมองในแววตาต่างเดินตามมาอย่างเงียบๆก่อนที่จะเงยหน้ามองหญิงสาวทั้ง2ที่อยู่เบื้องหน้า

                กรุณาใช้คำพูดดีๆกับสตรีหน่อยได้ไหมคะ..

    คริสติน่าพูดขึ้นหลังจากที่ชายตรงหน้าพูดไม่ค่อยลื่นหูเท่าไรนัก

                จะทำไมวะ!? เป็นแค่ของเล่นแล้วยังจะปากดีอีกนะแก!”

    เสียงตวาดยังคงดังก้องไปทั่วห้องก่อนที่ชายคนนั้นจะเหยียดยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ และสาวเท้าเข้ามาใกล้คริสติน่าและใช้มือหยาบกร้านเชยคางหล่อนขึ้นมาจนลมหายใจที่น่าขยะแขยงโดนหน้าของเธอ

                ไม่เข้าใจทำไมเจ้านายถึงยังไม่เบื่อแกสักที แบบนี้มันน่า....

    เพี๊ยะ––!

                ฝ่ามือบางตวัดเข้าที่ใบหน้าหยาบก่อนที่จะใช้มือปัดมือของอีกฝ่ายออกจากหน้าของตน แววตาสวยจ้องไปที่ชายตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

                ฉันไม่สนหรอกค่ะว่าจะเบื่อตอนไหน แต่หากเบื่อและฉันต้องไปอยู่กับคนแบบคุณล่ะก็ ขอตายด้วยมือของตัวเองยังดีกว่าไปเป็นของเล่นให้หมูสกปรกแบบพวกคุณก็แล้วกันค่ะ

    คริสติน่ากล่าวเรียบๆพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนที่จะเดินไปแก้มัดให้หญิงสาวที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างงงๆ

                หมูแบบคุณคงเข้าใจนะคะ ว่าไม่มีวันได้แตะร่างกายของสตรีที่เจ้านายของคุณยังไม่เบื่อ

    ฮิบิกิพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปช่วยคริสติน่าแก้มัด ชายร่างใหญ่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ข่มความโกรธไว้ก่อนที่จะกระทืบเท้าเดินออกจากห้องไป

                ....

                ...

    ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องทันทีหลังจากชายคนนั้นออกไป ทำให้คริสติน่าถอนหายใจออกมาอย่างแรงและรีบเดินไปล๊อคประตูทุกบานก่อนที่จะกลับมาหาหญิงสาวทั้ง8คนบางคนยังคงดูเป็นเด็กม.ต้นและบางคนยังคงตื่นกลัวกับเหตุการณ์เมื่อกี้

    นั่นทำให้เจ้าหล่อนถอนหายใจอีกครั้งเธอกับฮิบิกิก็คอยดูแลกันมาตั้งนานจึงเป็นเหมือนพี่น้องกันแต่พอมาเจอคนที่อายุน้อยกว่าพวกเธอ 6-7 ปีนี่ยิ่งทำให้เธอค่อนข้างกังวลว่าจะดูแลคนพวกนี้ไม่ดี

                สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อคิราซากิ  ฮิบิกิค่ะ! จะเรียกว่าฮิบิกิก็ได้นะคะ

    ฮิบิกิพูดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนหน้าผ้าพันคอสีแดงปลิวไปตามแรงการหมุนตัวของเธอ นั่นทำให้เธอยิ่งดูสดใสมากขึ้นไปอีก ก่อนที่จะหยุดและผายมือไปทางคริสติน่า

                ส่วนนี่คือ คุณคริสติน่า บาซีเลียร์ พวกเราทั้งคู่จะเป็นคนดูแลพวกคุณค่ะ

    ฮิบิกิพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้งก่อนที่จะมองทุกคนที่ดูจะมีสีหน้าดีขึ้นมานิดหน่อย

                งั้นฉันขอถามชื่อพวกคุณได้ไหมคะ?

    ฮิบิกิพูดขึ้นก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกเพื่อรับอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดและเตรียมหูฟังอย่างตั้งใจ(?)

                 ฉัน เมแกน เฮสส์ซา

    หญิงสาวเรือนผมสีทองพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้ารูปร่างหน้าตาที่สวยจนทำให้ฮิบิกิชอบมากรวมถึงคริสติน่าเช่นกัน

                ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณเมแกน

                “อย่าเรียกคุณเลยค่ะ ฉันเพิ่งอายุ16 ปีนี้เอง~”

    เมแกนพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะสะบัดผมยาวสลวยของตนไปด้านข้าง แต่พวกสาวๆที่ได้ยินอายุทำให้ให้ตาค้างกันไปบ้างราวกับว่า จริงดิ!’

    เมแกนที่เห็นทุกคนเป็นแบบนั้นก็หัวเราะให้ลำคอก่อนที่จะตัดบทเงียบนี้

                อย่าเพิ่งสนใจเรื่องอายุของฉันเลยค่ะ เอาเป็นว่าแนะนำตัวให้รู้จักกันก่อนดีไหม? อยู่กับคนที่ไม่รู้จักชื่อฉันอึดอัดน่ะ

                “อะ...นะ..นั่นสินะ งั้นแนะนำตัวเลยค่ะ

    ฮิบิกิที่ยังเงอะๆงะๆกับอายุของเด็กสาวเมื่อครู่ทำให้ตะกุกตะกักไปเล็กน้อย แต่หลายๆคนทีอ้ำอึ้งอยู่ ทำให้เหงื่อตกไม่น้อยเหมือนกัน

                เฮ้อ....แบบนี้ล่ะนะเด็กๆเนี่ย งั้นเธอชื่ออะไรเหรอ?

    เมแกนไม่ว่าเปล่าเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้เด็กสาวที่อยู่ใกล้ๆก่อนที่จะวางมือเรียวบนไหล่บางคนทำให้เด็กสาวสะดุ้งเฮือกใหญ่และสบหน้าเธอ ดวงตากลมสีเทาเข้มสบตาดวงตาสีเฮเซลอย่างตื่นกลัว

                อะ...เอ่อ...กะ...กวินเอร่า คาร์มินิสค่ะ...

                “อายุล่ะเมแกนถามอีกครั้ง

                สะ...16 ค่ะ

                “อายุเท่ากันงั้นมาสนิทกันไว้เถอะนะ

    เมแกนพูดพร้อมรอยยิ้มอีกครั้งก่อนที่จะตบบ่าบางนั่นเบาๆ

                พูดเหมือนพากันมาทัศนศึกษายังไงอย่างนั้นเลยนะ!”

    เสียงหวานที่แฝงไปด้วยคำประชดประชันพูดขึ้นหลังจากที่คนข้างๆเธอพูดผูกมิตรกันในที่แบบนี้  นั่นทำให้เมแกนหันไปมองคนพูดทันที

                หึ!”

    เสียงพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับสองแขนที่ถูกยกขึ้นมากอดอกอย่างไม่สบอารมณ์ แววตาที่ดุดันนั่นทำให้เมแกนขำในใจอย่างประหลาด

                ถ้างั้นเธอชื่ออะไรล่ะ?

                “ทำไมฉันต้องบอกชื่อกับคนแปลกหน้าแบบเธอด้วยล่ะ?

                “งั้นฉันเรียกเธอว่ายัยเด็กแว๊นนะ?

                “ฉันไม่ได้ชื่อยัยเด็กแว๊น! ฉันชื่อ ยูเลีย! ยูเลีย ซิลญ่า ย่ะ!!.... อ๊ะ!!”

    เด็กสาวที่เพิ่งประกาศว่าจะไม่บอกชื่อใครดันโพล่งชื่อตัวเองออกไปเต็มปากนั่นทำให้เธอแทบปิดปากตัวเองทันที

                นั่นไง ก็มีชื่อนี่ เป็นชื่อที่เพราะดีนะ เนาะ กวินเอร่า

                “เอ๊ะ...อะ.คะ...ค่ะ

                “ฮึ่ย!” เสียงหงุดหงิดของยูเลียดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันหลังให้เมแกนและหลบใบหน้าที่แดงอย่างไม่ได้ตั้งใจ

                ฉันไม่ได้อยากรู้จักพวกเธอเลยสักนิด แต่ในเมื่อมันเป็นมารยาทฉัน เจสซิก้า ริฮานน่า

    หญิงสาวผมสีชมพูดพูดจบก็ยื่นมือไปหาคริสติน่าก่อนที่คริสติน่าจะยิ้มและจับมือเธอ

                ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ริฮานน่า

                “อือ...

    เจสซิก้าครางตอบในลำคอก่อนที่จะเดินหลบไปอยู่มุมๆหนึ่งและยิ้มให้กับมือของตัวเอง

                แล้วเธอล่ะจ้ะ แม่สาวน้อยเธอดูเงียบๆจังเลยนะ

    เมแกนพูดขึ้นก่อนที่จะมองเด็กสาวที่ดูเหมือนอยากจะหายไปจากตรงนี้ซะเหลือเกินทำหน้าตาซะจนเธออยากจะแกล้งเหมือนกัน

                ฉะ...ฉัน...ฉัน....

    เด็กสาวที่ดูตื่นคนไม่น้อยถึงกับติดอ่างเมื่อถูกถามชื่อ  ทุกคนเห็นแบบนั้นก็พร้อมใจกันเงียบเพราะเสียงที่เปล่งออกมานั้นดูเบาบางราวกับขนนกยังไงยังงั้น

                ฉะ...ฉัน...

    ยิ่งถูกความเงียบกดดันยิ่งทำให้เธออยากแทรกแผ่นดินหนีไปจากตรงนี้ซะเหลือเกิน  คริสติน่าเห็นแบบนั้นก็ยื่นมือไปจับบ่าเล็กของเธอ แต่แรงสะดุ้งของเด็กสาวตรงหน้าทำให้เธอเผลอสะดุ้งไปเหมือนกัน

                “พวกเราไม่ได้กดดันหรอกนะจ้ะ แต่บอกชื่อให้พี่สาวฟังได้ไหมเอ่ย?

    คริสติน่าพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะใช้มืออีกข้างจับมือเด็กสาวไว้ในมือและมองดูมัน

                มือนิ่มจังเลยนะคะ พี่ชื่อคริสติน่า สาวน้อยชื่ออะไรคะ?

                “นะ...หนู..ชื่อ...บะ...เบลล่า เจเนซิสค่ะ..

    เสียงที่ถูกเปล่งออกมาราวกับกระซิบให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว คริสติน่าที่อยู่ใกลได้ยินชัดเจนก่อนที่จะลูบหัวเป็นเชิงขอบคุณและยิ้มให้

                เบลล่าสินะ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ้ะ

    คริสติน่าพูดขึ้นก่อนที่จะบรรจงลูบหัวเธออีกครั้ง เบลล่าพยักหน้าตอบน้อยๆก่อนที่จะยิ้มบางๆให้กับตัวเองโดยไม่มีใครทันสังเกต

                แนะนำตัวกันเก่งจังเลยนะเนี่ย ขนาดนี่เพิ่งเจอกันครั้งแรกนะเนี่ย~”

    สิ้นเสียงที่ดูจะรื่นรมย์ ทำให้สายตาทุกคู่ไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวผมสั้นเพียงคนเดียวในกลุ่มนั้น

                “’งั้นทำไมไม่ลองแนะนำตัวขึ้นมาบ้างล่ะ?

    ยูเลียพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนานดวงตาสวยเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ นั่นทำให้หญิงสาวผมสั้นยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

                ก็ได้ค่ะ จะแนะนำตัวแล้วนะคะ เรเน่ ฮาร์เรนฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะคุณหนูทั้งหลาย

    เรเน่ยกยิ้มขึ้นอย่างเป็นมิตร เธอที่ชอบสวมหน้ากากเป็นประจำทำให้ดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

                แต่ก็ยังเหลืออีกคนที่ไม่ปริปากพูดอะไรมาตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้วนะคะ คุณหนูคิดว่างั้นไหมคะ?

    เรเน่พูดขึ้นพร้อมกับหันหน้าไปทางหญิงสาวเรือนผมสีดำที่เก็บเรียบร้อยกับใบหน้าที่ดูเย็นชาและดูเป็นผู้ดี

    เจ้าหล่อนช้อนตามองเหล่าเด็กสาวที่อยู่ใกล้ๆกัน และพ่นลมหายใจออกมา อุตส่าห์อยู่เงียบๆแล้วยังระรานกันได้ เธอคงคิดแบบนั้นก่อนที่จะมองด้วยสายตาที่เย็นชาใส่คนที่มองเธอ

                อืมมมม ดูท่าน่าจะสัก 16-17 ล่ะนะ เสียงของยูเลียดังขึ้นท่ามกลางความเงียบแต่ดันมีเสียงหวานดังแทรกขึ้นมาซะก่อน

                “...13

    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งและมองไปยังหญิงสาวผมดำอีกครั้ง เธอขมวดคิ้วนิดๆและสูดลมเข้าปอด

                “….สึบากิ ทสึยุ  อายุ..13

    เสียงพูดนิ่งๆและแววตาที่แทบจะไม่มีความรู้สึกอะไรทำให้ภายในห้องถึงกับอยากจะหาเรื่องคุยให่มทันที

    ฮิบิกิที่เห็นว่าห้องมันจะเริ่มอึมครึมไปกว่านี้ก็รีบปรบมือและหัวเราะออกมาอย่างแก้เก้อ

                เอาเป็นว่าทุกคนก็รู้จักกันหมดแล้วสินะ! แต่ที่ถูกพามาที่นี่คงไม่พ้นเรื่องพ่อแม่กันสินะคะ?

    ฮิบิกิว่ายาวเหยียด นั่นเหมือนเป็นสิ่งตอกย้ำในใจของพวกเธอทำให้หน้าเศร้าหมองลงทันที

                อ๊ะ...ขอโทษค่ะ เอาเป็นว่าเรามาคุยกันดีกว่าก่อนที่พวกคนๆนั้นจะมา

    ยิ่งพูดถึงพวกคนๆนั้นทำให้เหล่าเด็กสาวอยากจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนั้นเลย

    เด็กสาวต่างมองหน้ากันอย่างกระวนกระวายใจก่อนที่จะได้พูดอะไรเสียงบิดประตูดังขึ้นจนทำให้คริสติน่าและฮิบิกิถึงกับสะดุ้งก่อนที่จะรีบวิ่งไปเปิดประตูพบกับร่างสูงของมือขวาของ

    บอสแห่งวองโกเล่ ดวงตาที่แข็งกับทุกคนยกเว้นบอสของตัวเองเขาไล่สายตามองใบหน้าของหญิงสาวที่เจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ระบายยิ้มออกมาให้ทันที

                สวัสดีค่ะ คุณโกคุเดระ

    คริสติน่าพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มและผายมือเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มก่อนที่เขาและผู้พิทักษ์คนอื่นๆจะเดินตามเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ(?)

    ก่อนที่สายตาราวกับหมาป่าจะกวาดไปมองเหล่าเด็กสาวที่ยืนกันอยู่  ทำให้บางคนผวาไม่น้อยกับสายตาแบบนั้น

                อะ...เอ่อ...นี่เป็นเด็กๆที่เพิ่งเข้ามาน่ะค่ะ ทราบกันอยู่แล้วหรือเปล่าคะ?

    ฮิบิกิถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยังคงระบายยิ้มไว้บนใบหน้า เหล่าผู้พิทักษ์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่เสียงประตูจะเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุดในปราสาทจะปรากฏ

                มากันแล้วเหรอ?

    บอสหนุ่มระบายยิ้มบนให้หน้าก่อนที่จะย้ายร่างกายของตัวเองมายังกลางห้องและมองกลุ่มเด็กสาวตรงหน้า

                มีให้เลือกเยอะเหมือนกันนะสึนะ

    เสียงของดีโน่ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินไปนั่งบนโซฟาหรูกลางห้อง

                งั้นเราจะเสียเวลากันทำไมล่ะ? ทำไมไม่เลือกกันก่อนเลยล่ะ?

    สึนะไม่พูดเปล่าพร้อมกับเดินตรงไปยังเด็กสาวตัวเล็กดวงตาสีเทาอ่อน ก่อนที่จะใช้มือใหญ่สัมผัสกับเส้นผมนุ่มอย่างสนุกสนาน เด็กสาวเห็นแบบนั้นก็หลับตาปี๋พร้อมกับร่างกายที่สั่นและถอยหนีมือใหญ่นั้น

                อะ....เอ่อ..คุณซาวาดะ...

                “เงียบ!!”

    เสียงตวาดของฉลามคลั่งดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งเข้ามาดวงตากลมมองไปรอบๆก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวที่อยู่กันเป็นกลุ่ม นั่นทำให้คริสติน่าหันไปมองผู้มาเยือนใหม่และรีบเข้าไปหาหญิงสาวที่เจ้าชีวิตของเธอพาเข้ามา

                เด็กคนนี้ด้วยเหรอคะ คุณสควอโล่?

                “เออ! ดูแลด้วย แล้วพอดูแลตรงนี้เสร็จกาแฟดำที่ห้อง!”

    เขาพูดแบบให้คำสั่งแต่ได้ใจความและเดินหนีหายไปที่ประตูอีกบานเพื่อตรงไปที่ห้องของตัวเองทันที ทำให้คริสติน่าถอนหายใจเล็กน้อยและมองเด็กสาวผู้มาใหม่อีกครั้ง

                เอาเป็นว่าไปรวมกันตรงนู้นก่อนแล้วกันนะคะ

    คริสติน่าพูดพร้อมรอยยิ้มเด็กสาวพยักหน้าตามอย่างว่าง่ายก่อนที่จะเดินไปที่กลุ่มเด็กสาวที่เธอมองก่อนอยู่แล้ว

                งั้นก็เริ่มเลือกกันเลยแล้วกันนะ...คนขอเด็กคนนี้แล้วกัน

    สึนะไม่พูดเปล่ามือใหญ่คว้าที่ต้นแขนของกวินเอร่า นั่นยิ่งทำให้เด็กสาวตื่นตกใจเป็นอย่างมากแต่ด้วยเรี่ยวแรงที่ไม่สามารถต้านทานได้ทำให้เธอได้แต่ภาวนาในใจให้ปล่อยแขนเธอให้เร็ว แต่โชคยังเข้าข้างเธอบ้างที่เธอใส่เสื้อแขนยาวมา

    สึนะเห็นท่าทางสั่นๆแบบนั้นก็นึกสนุกและลากเธอออกไปทันที เส้นทางที่มุ่งไป ไม่มีที่ไหนนอกจาก ห้องของเขา นั่นเอง

    Gwyneria Part

    ฮือ...ทำไมต้องโดนผู้ชายจับตัวอีกแล้ว!! ฉันไม่ชอบใจเลยจริงๆค่ะ ที่มีคนมาจับเนื้อต้องตัวแบบนี้ผู้หญิงพอว่า แต่พอเป็นผู้ชายนี่มัน...

    ตลอดทางที่ออกมาจากห้องนั้นฉันพยายามทั้งดึง ทั้งยื้อ ทั้งสะบัด แต่ไม่รู้ทำไมคนๆนี้ถึงได้แรงเยอะแบบนี้! ทั้งๆที่รูปร่างก็ไม่น่าจะแข็งแรงเลยด้วยซ้ำ...

                นี่...อย่าดื้อได้ไหม? ถึงห้องเราจะคุยกันถึงข้อตกลง

    เขาพูดขึ้นโดยไม่หันมามองหน้าฉัน  แต่คนๆนี้ก็อาจจะดูไม่เลวร้ายอะไรก็ได้มั้ง? 

    หลังจากที่ถึงห้องและเราทั้งคู่เข้ามาภายในห้องทำให้ฉันแทบอยากจะหนีออกจากห้องไปทันที เพราะอะไรเหรอคะ? กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงหลายๆกลิ่นเต็มห้องเลยน่ะสิ...เป็นกลิ่นที่ไม่ชอบเลยค่ะ....

                ละ..แล้ว..ข้อตกลง

                “หืม?

    เสียงของฉันแทบจะถูกกลบโดยทันทีเพียงเพราะเขาเอ่ยขึ้นมา จะเรียกว่าเสียงหรือว่าเสียงครางในลำคอดีล่ะ?

                เสียงเธอนี่เบาดีจังนะ? ก่อนอื่นขอถามชื่อก็แล้วกัน คงไม่ต้องถามชื่อฉันหรอกนะ?

                “กะ….กวินเอร่า ....คะ..คาร์มินิสค่ะ

    เสียงของฉันดังขึ้นมานิดหน่อย อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะทำงานและเอาเอกสารออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

                ก่อนอื่นเราก็มาทำสัญญาข้อตกลงกันดีกว่านะ

                ....คะ?

    เสียงแทบไม่ออกจากปากเมื่อได้ยินคำว่าข้อตกลง ในเมื่อจดหมายของพ่อแม่บอกมาว่าเพียงแค่มาพบเขาก็จะได้รับงาน แต่ไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงอะไรด้วย

                มาทำงานก็ต้องมีข้อตกลง มาใกล้ๆสิ

    เขาพูดพร้อมกับกระดิกนิ้วให้เข้าไปใกล้ นั่นทำให้ใจฉันสั่นหน่อยๆเมื่อหากไปใกล้แล้วจะถูกจับตัวอีก  แต่ในเมื่อเพื่องานและช่วยพ่อแม่ กวินเอร่า สู้ๆ!

    ฉันได้แต่เพียงบอกในใจและค่อยๆขยับไปใกล้โต๊ะทำงานของเขาและเขาก็ยื่นเอกสารมาให้ฉันพอดี

                จะอ่านหรือไม่อ่าน?

                อะ...อ่านค่ะ

    ฉันค่อยๆหยิบแผ่นกระดาษบางๆมาอ่านอย่างละเอียดก่อนที่จะโล่งใจเป็นร้อยท่าเพียงแค่ดูแลคนๆนี้เท่านั้น ในระยะ4เดือน ฉันระบายยิ้มออกมาเล็กๆเพื่อไม่ให้ชายตรงหน้าเห็นรอยยิ้มนั้น

    พ่อคะ แม่คะ รอหน่อยนะคะ...

    ฉันคิดในใจเพียงแค่นั้นก่อนที่ปากกาด้ามสวยจะอยู่ตรงหน้า ฉันรับมาอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนที่จะลงเซ็นต์ชื่อของตัวเองลงบนกระดาษบางๆแผ่นนั้นและเขาก็หยิบไปทันทีหลังจากที่ฉันเขียนชื่อตัวสุดท้ายเสร็จเขายัดมันลงในลิ้นชักก่อนจะกระตุกยิ้มออกมา

                ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วยนะ คุณกวินเอร่า คาร์มินิส

    เขาพูดจบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏบนหน้าของเขา  แววตาราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกแบบนี้ ใจฉันก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มซะแล้ว....

    +ในห้องโถงเดิม+

    ดวงตาสวยหลายคู่ต่างจ้องมองฝ่ายชายที่นั่งกันเต็มห้องไปหมด ความตื่นกลัวภายในใจเริ่มเข้าครอบงำ  สายตาเฉียบคมของโกคุเดระค่อยๆเลื่อนไปสบตาสวยคู่หนึ่งเข้า จนทำให้เกือบหยุดหายใจ(?)

              ดวงตากลมที่สบตาอีกฝ่ายทำให้รู้สึกหงุดหงิดในใจเล็กน้อยจึงหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนที่มือหนาจะลุกไปสำรวจหญิงสาวใกล้ๆ จนทำให้ลมหายใจอุ่นๆกระทบกับร่างของเธอ

              “ใกล้ไปรึปล่าวยะ!”

    เสียงหวานแผดดังขึ้นหลังจากที่หน้าของชายหนุ่มเริ่มล่วงล้ำเข้ามาใกล้เกินเหตุ  จนทำให้โกคุเดระยกยิ้มขึ้นก่อนที่จะพยักหน้าให้กับฮิบิกิ

              “อะ..เอ่อ..ยูเลียจัง  ต่อไปนี้ช่วยดูแลคุณโกคุเดระด้วยนะคะ”

    ฮิบิกิพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะหันไปยิ้มแหะๆให้กับโกคุเดระ ยูเลียถึงกับหันไปมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็วก่อนที่จะบ่นอู้อี้ในลำคอ  แต่เธอก็ถอนหายใจแล้วมองชายหนุ่มตรงหน้าตรงๆก่อนที่จะยิ้มออกมากวนๆ

    ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยก่อนที่จะคว้าข้อมือบางดึงตามตัวเองไปที่ห้อง

    [Julie  Part]

    ยูเลียที่ได้แต่หน้านิ่วเพราะไม่ชอบการถูกเนื้อต้องตัว แต่คนที่เอาแต่กระชากลากถูไปนั้นก็ไม่ได้สนใจนัก

              ปึง!

    ประตูห้องถูกเปิดอย่างแรงก่อนที่ร่างทั้ง2จะเข้าไป โกคุเดระหันไปปิดประตูก่อนที่จะหันมามองร่างของหญิงสาวอย่างพิจารณาอีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้าและมองจากล่างขึ้นบน

    นั่นยิ่งทำให้ยูเลียรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมากขึ้น

              “นี่นาย!!”

              “อย่าเพิ่งพ่นไฟใส่น่า เป็นเด็กเลือดร้อนจังเลยนะเธอเนี่ย..”

     เขาว่าอย่างหน่ายๆก่อนที่จะถอนหายใจออกมาและเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ยูเลียที่มองชายตรงหน้าตาไม่กระพริบใช่ว่าเธอพิศวาสเขานะ เธอแค่ต้องการจะชนะเขาแค่นั้นแหละ!

              “ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ?”

              “เรื่องอะไรฉันต้องบอกนายล่ะ หึ!”

    เธอไม่พูดเปล่า เธอเดินตรงไปยังโซฟาหรูกลางห้องก่อนที่จะหย่อนตัวนั่งลงทันทีพร้อมกับขาเรียวที่ไขว้กันแทบจะทันที และใช้หางตามองชายหนุ่มตรงหน้า

              “เห็นเธอแบบนี้แล้วนึกถึงตัวฉันเมื่อก่อนจริงๆนะเนี่ย..”

              “จะระลึกชาติให้ฉนฟังรึไง?”

    ยูเลียแทบจะสวนคำตอยมาทันทีก่อนที่ร่างสูงจะพูดจบประโยค แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรในเมื่อคนตรงหน้าก็ยังเป็นแค่ 

    'เด็กกะโปโล' เขาเค่นหัวเราะเบาๆก่อนที่จะมองเธออย่างนึกสนุก

              “รู้แล้วล่ะว่าจะทำอะไรกับเธอดี”

              “เอ๊ะ...จะทำอะไรกันเหรอคะเจ้านายย ชิ!”

    เธอลากเสียงยาวๆก่อนที่จะทำหน้าตาแบ๊วๆใส่และกลับหน้ากลายมาเป็นหน้าเหวี่ยงๆ้หมือนเดิม

    โกคุเดระยิ้มและท้าวคางมองร่างงามนั้นก่อนที่จะหัวเราะกับตัวเองเบาๆ

              “หัวเราะกับตัวเองได้ด้วยเหรอนายน่ะ น่าเกลียดชะมัด..”

              “เดี๋ยวนี้คนใช้ว่าเจ้านายได้แล้วเหรอเนี่ย เพิ่งรู้เลยนะเนี่ย”

              เชอะ! ใครเป็นคนใช้นายไม่ทราบ!!”

              “งั้นตัดสินใจแล้ว”

              “ตัดสินใจอะรของนาย..” 

     ยูเลียหันไปมองเขาตรงๆก่อนที่จะพบรอยยิ้มที่ยากเกินจะคาดเดาได้ เป็นรอยยิ้มที่ดูกวนเบื้องล่างของเธอและเป็นสิง่ที่ทำให้มือทั้งสองข้างอยากจะรัวไปที่ใบหน้าหล่อๆแบบนั้นเหลือเกิน

              “ฝึกให้เชื่องไง”

              “หา...!”

      [End Julie Part]

     สาวๆที่ตอนนี้ต่างก็อยู่ในห้องที่หนุ่มๆต่างเพ่งเล็ง(?)กันไว้  หลายคนต่างหงุดหิดงแต่อีกส่วนนอยที่กล้าต่อปากต่อคำกับปีศาจพวกนี้  แต่ทุกคนก็จุดประสงค์เดียวกันคือ ช่วยพ่อกับแม่ แต่จิตใจที่ไม่แน่นอนของพวกเธอเองจะทนต่อเรื่องราวที่จะพบเจอต่อไปนี้ได้ไหมนะ?

    [Yamamoto Zone]

     ฮะๆ สวัสดีครับผู้อ่าน เอ๊ะ! ผมสวัสดีได้มั้ยเนี่ย ช่างเถอะแล้วกันนะ ฮ่ะๆๆ

    เห็นผมอารมณ์ดีๆแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ  ก็สึนะ อ้อ เพื่อนผมที่ชื่อสึนะน่ะ ตอนนี้เป็นบอสของผมเองล่ะ ทุกคนจะรู้จักไหมนะ?  แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนมาสนใจเด็กผู้หญิงตรงหน้าผมดีกว่านะครับ

    เธอนั่งจ้องหน้าผมมาตั้งแต่ที่ผมเลือกเธอแล้วล่ะ คนอะไรหน้าตาดุจริง,...

              "ชื่ออะไรล่ะ?"

              "ทำไมฉันต้องตอบลุงด้วยล่ะ?"

    ละ...ลุง?  ผมเนี่ยนะลุง  หืมมมมม ไม่ใช่มั้งงงง  หูฝาดๆ แน่นอน ผมใช้มือลูบหัวตัวเองหนึ่งทีก่อนที่จะยิ้มให้สาวน้อยตรงหน้า เธอก็เอาแต่กอดอกหน้าบึงมองผมแบบนั้นแหละ ความรู้สึกเหมือนตอนเพิ่งเจอโกคุเดระใหม่ๆตอน ม.ต้นเลยแหะ

              "งั้นเปลี่ยนคำถาม อายุเท่าไรล่ะ?"

              "อายุเท่าไรก็เรื่องของฉัน"

              "อย่าตอบกวนประสาทได้ไหมเนี่ย...เฮ้อออ"

    ผมล่ะอยากจะถอนหายใจร้อยๆรอบ  คำพูดเด็กตัวแค่นี้ทำเอาประสาทจะกิน ไม่ได้ๆ ผมโตแล้วผมผ่านช่วงวัยที่ใช้อารมณ์มามากโขแล้วในเย็นไว้ทาเคชิ ฟู่ววว

              "ว่าแต่ห้องนายนี่ก็สะอาดดีเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นห้องผู้ชายก็เถอะ"

    เธอพูดขึ้นหลังจากที่ผมถอนหายใจออกมาไม่กี่วิ  อืมมม ถามว่าสะอาดไหม...ตอบเลยมาก!!   ก็ห้องนอนผู้ชายก็จะสภาพแบบนี้แหละ!


    ก็มีบ้างที่กางเกงผมจะอยู่บนโซฟาบ้าง เตียงบ้าง กงี้แหละครับชายโสด  เจสซิก้า เด็กผู้หญิงตรงหน้าผมเริ่มเดินสำรวจเดินแล้วล่ะ อย่าถามว่าทำไมผมรู้ชื่อเธอ ผมรู้ตั้งแต่ที่สึนะประกาศไว้แล้วล่ะว่าจะให้ดูแลเด็กๆ รายชื่อก็ถูกส่งมาให้พวกผมแล้วล่ะ แต่ก็ยกเว้นนิสัยนี่แหละที่ยังไม่รู้

              "เดินสำรวจระวังเจอสิ่งที่เด็กๆไม่ควรเห็นนะ"

    ผมแกล้งแซวไปงั้นแหละผมเก็บหมดแล้ว.....มั้ง...  ผมปล่อยให้เด็กน้อยเดินสำรวจไปส่วนตัวผมเองก็รีบเปิดทีวีดูถ่ายทอดสดเบสบอลทันที ถึงใจจริงๆอยากจะไปนั่งข้างๆสนามเลยก็เถอะแต่ว่า  อายุขนาดนี้ไปแล้วก็คงแปลกๆนอกจากผมจะมีหลานมีลูกแล้วพาไปดู

              "นี่ นาย"

              "หือ?"

              "นี่มันอะไรน่ะ"

    มือเล็กๆของยัยนั่นชูกล่องเล็กๆบางอย่างขึ้นมา กล่องอะไรหว่าคุ้นๆ สีชมพูด้วย อืมมม มีรูปสตอเบอร์รี่ด้วย คุ้นๆนะเนี่ย....อ้อ ถุงยาง...ห้ะ! ถุงยาง!!

              "ไปเอามาจากไหนน่ะ?"

    ผมถามเรียบๆก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบกล่องมาให้อยู่ในมือตัวเอง  แต่...

              พรึ่บ!

    เด็กน้อยดันเอาหลบไปข้างหลังซะนี่สิ.... นั่น ยังทำหน้ากวนโอ้ยอีก....แบบนี้มันน่านัก......

    .....ไม่ได้ดิ ยังผู้เยาว์อยู่ใจร่มไว้......ฟู่วว

              "นั่นก็แค่หมากฝรั่งธรรมดาแค่นั้นแหละ อยากกินไหมล่ะแต่ต้องไปซือใหม่นะนั่นของฉัน"

    ผมเลือกที่จะบอกปัดๆไป แต่อย่างนั้นใครจะไปเชื่อว่ามันเป็นหมากฝรั่ง กล่องมันก็เขียนอยู่แล้วไงว่า ถุงยาง! ถุงยางน่ะถุงยาง!!

              "เป็นผู้ใหญ่แล้วโกหกเด็กนี่น่าสมเพชจังเลยนะ ผู้ใหญ่เนี่ย"

    นั่น...กัดเลย  กัดซะเองเลย!! จะเอาไงกับเด็กนี่ต่อไปดี!!! นั่น ยิ้มด้วย น่ากัดซะจริงปากบางๆเนี่ยย  ฮึ่ม!!

    [End Yamamoto Zone]

    [Hibari Zone]

    หืมนี่ผมต้องมานั่งอธิบายอิริยาบถของตัวเองงั้นเหรอ พวกคุณคิดว่าพวกคุณเป็นใครที่ผมต้องมานั่งอธิบายกันล่ะ ….แต่ยังไงก็เถอะ ถ้าพวกคุณอยากให้ผมอธิบายผมจะอธิบายก็ได้ ไม่ใช่เพื่อพวกคุณหรอกนะ แต่เพื่อไม่ให้พวกคุณไปไหนมาไหนโดยไม่มีผมเป็นคนควบคุมแค่นั้นเอง 

    นี่…”

    ยัยกระเปี๊ยก(?)นี่ก็พูดขึ้นมา  หน้าตาจิ้มลิ้มแบบนั้นถ้าเป็นผู้ชายรุ่นใกล้ๆเธอล่ะก็ คงใจเต้นกันเป็นแถว แต่ผมมันไม่ใช่พวกประเภทที่จะใจเต้นเพราะเด็กตัวแค่นี้สักหน่อย

    ผมมองหน้าเธอเป็นเชิงให้เธอพูดประโยคต่อไป ก็เพราะเรียกแล้วนี่นะ ก็ต้องมีคำถามล่ะ

                พวกมาเฟียแบบคุณเป็นพวกกินเด็กเหรอคะ

                “ไม่ใช่

    แทบจะไม่ต้องคิดก่อนตอบเลยจริงๆ เป็นธรรมดาล่ะที่ เจ้าสัตว์กินพืชนั่นดันเรียก ตัวขัดดอก ที่อายุเด็กขนาดนี้มา แถมเป็นรุ่นแรกและยังต้องมาให้คอยดูแลแบบนี้อีก เด็กตัวแค่นี้ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าเป็น ที่ระบาย กันล่ะ

                แล้วมีเหตุผลอะไรกันเหรอคะ ถึงยังเอาคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมาน่ะ

    สัตว์กินพืชตัวนี้ ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย พูดสิ่งที่สงสัยออกมาเลยแหะ ผมมองดวงตากลมนั่นนิ่งๆก่อนที่ดวงตาคู่สวยนั้นจะหลบไปอีกทางและก้มหน้ามองมือบนตักตัวเอง

                ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ

    ผมตอบเรียบๆเพียงแค่นั้นก่อนที่จะยกมือขึ้นท้าวกับโซฟาและจ้องมองสัตว์ตัวเล็กข้างหน้า ท่าทางคงไม่ชินกับการอยู่กับผู้ชาย2ต่อ2ล่ะนะ

                ยัยสัตว์กินพืช

    ผมออกเสียงเรียกเธอนิ่งๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาไปพักหนึ่งก่อนที่จะหลบตาไปอีกครั้ง

                ฉะฉันมีชื่อนะคะ!”

    เธอขึ้นเสียงนิดหน่อยย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ แต่ใครจะสนกันล่ะว่าสัตว์ตรงหน้าจะชื่ออะไร ยังไงผมก็ไม่มีทางเรียกอยู่แล้ว

                ผมไม่สนว่าคุณจะชื่ออะไร แต่ต่อไปนี้ชีวิตของคุณอยู่ในกำมือของผม เข้าใจสถานะของตัวเองด้วยล่ะ

                “ฉะ..ฉันมีชื่อและฉันต้องบอกคุณ ฉันก็เป็นคนเหมือนกันนะคะ!”

    เธอไม่พูดเปล่าคราวนี้เงยหน้ามาสบตาและพูดกับผมไปด้วย สายตาที่แน่วแน่แบบนั้นคงเป็นเครื่องหมายที่ทำให้รู้ว่าเธอเองก็มีชีวิตและเป็นมนุษย์สินะ

                ผมจะยอมฟังชื่อของคุณก็ได้

    ใบหน้านั้นยกยิ้มขึ้นมานิดหน่อยก่อนที่มือเล็กทั้งสองจะประสานกันที่หน้าอก

                ฉันชื่อ..”

                เดี๋ยว

                “อะ..เอ๊ะ..?

    ผมยกมือห้ามก่อนที่เธอจะพูดชื่อของเธออกมา ผมมองหน้านั้นนิ่งๆก่อนจะยกยิ้มขึ้นมานิดๆ

                คุณลองแสดงถึงความเป็นคนให้ผมดูก่อนสิ ผมจะรับฟังชื่อจากปากคุณก็ได้

                “เอ๊ะ?

                “อยากแสดงความเป็นคนคุณก็ต้อง…”

    ผมลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินตรงไปหาเธอ ตัวเธอสั่น ความหวาดกลัวเริ่มรุกล้ำเข้าสู่ดวงตาของเธอ

    ท่าทางแบบนั้น จะห้ามใจตัวเองไหวไหมนะ?และผมก็ยกยิ้มขึ้นกับตัวเอง

    [End Hibari Zone]

    [Mukuro Zone]

    นุฟุฟุ  พวกคุณคงคิดถึงผมกันสินะครับ ก็แหม ตัวเอกแบบผมต้องออกมาตอนสุดท้ายเป็นธรรมดา ตัวเองที่แสนวิเศษและสง่างามไงล่ะ ผมอยากจะลุกมาเสยผมแบบที่ทำเป็นประจำเหมือนกันนะ แต่ผมต้องคีปลุคไว้ก่อน เพราะเด็กสาวตรงหน้ากำลังมองผมอยู่น่ะสิ หน้านิ่งๆแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงคนหน้าตายมาหนึ่งคน ทุกคนคงไม่ต้องเดานะครับว่าใคร

    ผมโรคุโด มุคุโร่ ผมคงต้องแนะนำตัวกับคุณแบบนี้ใช่ไหมครับ?

    ผมยิ้มอย่างทุกทีพร้อมมองเด็กสาวตรงหน้า

    “……”

    และความเงียบก็ตอบผมกลับมา ครับ! ความเงียบ!

                สึบากิ  ทสึยุจังสินะ อายุ13 จริงรึเปล่าน่ะเรา

    ผมยิ้มอีกครั้ง ก็จริงไหมล่ะคุณเป็นผมคุณก็ต้องถามแหละ รูปร่าง หน้าอก (เป็นธรรมดาของผู้ชายนะครับ อย่าว่าผมโรคจิต) สะโพก หน้าตา นี่ไม่ใช่เด็กม.ต้นเลยนะ

                “….”

    เธอก็ยังเงียบแต่ผมแอบเห็นคิ้วเธอกระตุกนะ! แววตาก็หงุดหงิดขึ้นด้วย ผมทำให้เธอโกรธเหรอ? โกรธเรื่องอะไรกันล่ะ? แต่ช่างเถอะ ผมไม่สนความรู้สึกใครอยู่แล้ว J

                “’งั้นไม่ยอมพูดอะไรผมจะเรียกคุณว่า ทสึยุจังล่ะกันนะ

    ผมยิ้มให้เธออีกครั้งก่อนที่จะหยิบกระดานพลาสติกเล็กๆแล้วใช้เมจิกเขียนชื่อเธอลงไป

                อย่ามาทำตัวสนิทสนม…”

    ขณะกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อของเธอ เสียงหวานๆของเธอก็ดึงความสนใจของผมทันที เสียงนี้ทำให้ผมเผลอใจเต้นเลยนะ เป็นเสียงที่เพราะมากๆ

                พูดได้ด้วยเหรอครับ ทสึยุจัง

    ผมยิ้มให้เธออีกครั้งก่อนที่จะหันมาสนใจเธอแทนกระดานทันที ก็แหมคนนิ่งๆพอโดนจี้จุดก็พูดออกมาหมดทุกคนนั่นแหละ

                “…ก็บอกว่าอย่ามาทำตัวสนิทสนมไง

    เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ก็แผงไปด้วยความหงุดหงิดนิดๆล่ะนะ ผมเก่งใช่ไหมล่ะ? ฟังเสียงคนนิ่งๆแบบนี้แล้วแยกไว้ว่ารู้สึกยังไง นุฟุฟุ อย่าแอบชมผมล่ะ

                นุฟุฟุ อย่าทำตัวห่างเหินสิครับ ทสึยุจัง ยังไงเราก็ต้องสนิทสนมกันอยู่แล้ว

    ผมยิ้มพร้อมลุกเดินอ้อมโซฟาที่เธอนั่งอยู่ ผมมองต้นขาวของเธอ เด็กคนนี้ขาวจริงๆนะ แถมมวยผมขึ้นแบบนี้อีก น่ากัดจริงๆเลยนะ

                สับประรดแบบคุณก็มีค่าไว้แค่เป็นภาชนะใส่ของกิน พอหมดแล้วก็ไม่มีค่าแล้ว..”

    นุฟุฟุ เป็นคำด่า ที่ทำเอาหิวเลยนะครับ แต่แบบนี้แหละ ถึงจะท้าทาย

                นุฟุฟุ ทสึยุจังหิวเหรอครับ ถึงขนาดว่าผมยังเอาของกินมาใส่ในประโยคแบบนี้น่ะ

    ผมยิ้มขึ้นพร้อมเอื้อมมือไปจับปอยผมที่ล่วงลงมาของเธอ

                เพี๊ยะ!!

    ผมชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะมองมือของตัวเองที่โดนปัดออกอย่างแรง เด็กสาวตรงหน้าลุกขึ้นมองด้วยสายตาที่เย็นราวกับน้ำแข็ง หวงเนื้อหวงตัวจังเลยนะ

                อย่ามาแตะต้อง…”

    เธอพูดนิ่งๆแค่นั้นก่อนที่จะตั้งท่าเดินไปที่ประตู  อืมมมม ผมจะให้ข้อเสนอยังไงให้เธอหยุดดีนะ

                ทสึยุจัง สนใจอยากจะเรียนหนังสือไหมครับ?

    เธอหยุดนิ่งทันทีที่ผมพูดแบบนั้น เธอหันมามองผมพักหนึ่งก่อนที่จะมองด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง

                “….”

                “ผมอ่านประวัติของทสึยุจังแล้วล่ะว่าไม่ได้รับการให้ความรู้มา แต่นี่เป็นข้อเสนอนะครับ จะรับก็ได้ไม่รับก็ได้

    ผมยิ้มให้กับเธอ เธอหันมาประจันหน้ากับผม สงสัยจะสนใจ ก็นะเด็กวัยนี้กำลังต้องการเรียนรู้นี่เนอะ

                “….”

                “ถ้าให้ผมเดา คุณคงกำลังหวงศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่สินะครับ ไม่ต้องห่วงครับผมจะเสนอให้สึนะโยชิคุงให้มีการเรียนการสอนพวกคุณ เพราะจะให้เอาเด็กไม่บรรลุนิติภาวะมาใช้งานแบบไม่มีความรู้ผมก็ว่ามันแปลกๆนะครับ นุฟุฟุ

                “คุณกำลังดูถูกฉันอยู่…”

                “นุฟุฟุ เปล่าครับ ผมแค่ให้ขอเสนอนะครับ

    ผมยิ้มให้กับสาวน้อยตรงหน้า แหมๆ กำหมัดแน่นเลยนะหนู นุฟุฟุ เธอจ้องหน้าผมไม่วางตาเลยแหะ

                “…จะสอนจริงๆใช่ไหม

                “หืม?...ว่าไงนะครับ

                “หนังสือน่ะ  พวกคุณจะสอนจริงๆใช่ไหม?

    ดูท่าความอยากเรียนของเธอจะอยู่เหนือความหยิ่งทะนงนะครับ นุฟุฟุ

                แน่นอนครับ แสดงว่าทสึยุจังตกลงแล้วนะ

                “……..”

                “เงียบแบบนี้เป็นอันข้อเสนอของผมเป็นที่พอใจสินะครับ

                “……..”

                งั้นผมจะบอกสึนะโยชิคุงไว้นะครับ แล้วสักพักคุณก็จะได้จบหลักสูตรนะครับ

    ประโยคหลังผมพูดเบาๆ หลักสูตร ผู้ใหญ่น่ะนะในอนาคตทสึยุจังได้จบแน่ๆ นุฟุฟุ

    [End Mukuro Zone]


     


    [100%]


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×