คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ศึกชิงพ่อเทพบุตรกับนายซาตาน
“แกไปรู้จักสนิทสนมกับพี่เค้าได้ไง ไปกินข้าวด้วยกันเมื่อไหร่ นอกจากกินข้าวกับแกแล้วไปต่อกันที่ไหน ไปทำอะไรกันนอกเหนือจากนี้รึเปล่า แล้วแกยังรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ไหม”
ยัยมินท์รัวคำถามมาเร็วยิ่งกว่ารถด่วนขบวนสุดท้ายอีก แล้วกว่ามันจะหยุดอีกแล้วนี่มันหลอกว่าฉันนี่
“นี่มินท์ ยัยเพื่อนบังเกิดเกล้า แกคิดว่าฉันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ขอโทษเพื่อน ว่าไงหละแกตอบคำถามฉันมาดิ” มินท์ตื้อฉัน
“แกคงหิวข้าวกันแล้ว ออกไปกินข้าวกันเหอะแล้วเจอกันที่ห้องนะ” ฉันรีบตัดบทแล้วรีบดันๆ ผลักๆ บอกพวกเพื่อนๆ ออกไปทีละคนจนเหลือคนสุดท้ายยัยมินท์ทำยังไงมันก็ไม่ยอมออกไปซะที
“แล้วฉันจะตอบคำถามแกทู๊กกกคำถามเลยเพื่อน ไปกินข้าวก่อนเถอะน้าพลีสสส...”
มันขว้างค้อนใส่ตาฉันอีกแล้ว ยัยเพื่อนคนนี้ซักวันคงได้ใส่เฝือกที่คอแน่ๆ
เวลานี้เหลือฉันกับพี่ยอร์ท 2 คนในห้อง และแล้วคำพูดที่ว่าที่ปรึกษาส่วนตัวก็แล่นเข้ามาในหัวสมองของฉัน
“พี่ยอร์ท ตอนนี้พี่เป็นที่ปรึกษาของปอแล้วนะอย่าคืนคำหละ” ฉันพูดกับพี่ยอร์ทแต่พี่เค้าทำไมทำหน้าเครียดหละ
“ใครบอก”
“อ้าว ก็พี่ไง”
“ใครบอกว่าพี่เป็นแค่ที่ปรึกษา” อ้าวไอ้พี่คนนี้ยังไงหละเนี่ย
“พี่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของปอคนเดียวเลยต่างหากหละ” พี่ยอร์ทพูดแล้วก็ยิ้มให้ฉัน ส่วนฉันก็คลายปมคิ้วที่มันขมวดกันเมื่อกี้ได้ ฉันอยู่คุยกับพี่ยอร์ทเรื่องไอ้พวกหน้าหลอน ซักพักก็ขอตัวกลับไปเรียน คาบสุดท้ายคงต้อง
เข้าเรียนหน่อยหละเพราะตั้งแต่เรียนคาบแรกของอาจารย์นวพรก็ไม่ได้เรียนคาบไหนอีกเลย
...ที่ห้องเรียน...
“ปอออ ไปแรดๆๆ ที่ไหนมายะ” นังพอลมันทักฉัน(นี่เหรอคำทักทาย) ทำท่าจีบปากจีบคอ เสียดายหน้าตามัน
เห็นหน้าตามันครั้งแรกก็คิดว่าอยากจับทำพันธุ์ แต่พอรู้ว่ามันมีโครโมโซม xxy ในตัว เลยเลิกคิดทันทีเลย
“พอล แล้วเพื่อนฉันที่เหลือหละ” ฉันถามนังพอลอย่างสุภาพสุดๆ เพราะขี้เกียจเถียงกับมัน ถ้าเถียงกับมันแล้วชนะ คงมีคนเดียวเท่านั้นแหละ ก็ยัยมินท์ไง”
“อ๋อ นังพวกชะนีที่เหลือหนะเหรอ ไปนั่งหาผัวที่ห้องอาหารมั้ง” มันตอบกับมาอย่างสะใจ
“อืม ขอบใจนะนังชะนีเทียม” อิอิ คำก็แรดอีกคำก็ชะนีต้องเจอซะบ้าง ว่าจะไม่ด่ากลับละนะแต่ขอทีเหอะ
มันอดไม่ได้จริงๆ แล้วมันก็ด่าภาษาชาติกระเทยของมันมาเป็นขบวนเรือแจวเลย แต่ฉันไม่ได้ใส่ใจหรอก ตอนนี้ที่น่าสนกว่าการฟังนังชะนีเทียมมันด่าคือ ไอ้เดย์ ว่าที่ผัวของนังชะนีเทียม ฉันรีบหยิบหนังยางมัดผมของนังชะนีเทียมมา แล้วก็เล็งไปที่ไอ้เดย์
“แป๊ะ”
“โอ๊ย!!!”
ฉันดีดหนังเข้ากลางหน้าผากของไอ้เดย์ หน้าของไอ้เดย์ตอนนี้หลอนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก หน้าผากแดงเป็นรอยหนังยางเลย อิอิ สะจาย แล้วฉันก็หันหน้าไปทางอื่นพยายามปรับสีหน้าให้ปกติสุดๆ
“นังปอ แกเอาหนังยางไปดีดหน้าว่าที่สามีฉันทำไมฮะ”
“ใครจะเป็นผัวมึง เอ้ย อีตุ๊ด” ไอ้เดย์มันด่าจนนังพอลเงียบไปเลย
“ยัยปอเต็กตึ้ง เธอเอาหนังยางมาดีดหน้าฉันทำไม” ไอ้เดย์ถามอย่างเอาเรื่อง
“อยากทำ หมั่นไส้ มีไรป๊ะ” ฉันพูดอย่างกวนๆ
“เดี๋ยวปัด...” แล้วมันก็เข้ามาใกล้ๆ ง้างมือ แล้วก็...เสิยผม
“ไอ้เสิยเอ้ย คิดว่าเป็นผู้ชายแล้วจะไม่กล้าสู้เหรอ” ฉันท้าทายมัน
“ทำไมจะไม่กล้า” ไอ้โอพูดขึ้น แก๊งค์หน้าหลอนเข้ามาในห้องกันหมดเลย ยัยเพื่อนบังเกิดเกล้าทั้งหลาย
ทำไมไม่เข้ามาซักทีนะ
“เพื่อนแกมันกำลังง่วนหากระเป๋าอยู่ทั่วห้องอาหารไม่ต้องคิดถึงพวกนั้นหรอก คงอีกนานกว่าจะมา เกริ๊กๆๆๆ”
ไอ้วินพูดขึ้น แล้วพวกมันก็หัวเราะเสียงอุบาทว์กัน ไอ้พวกบ้าแกตัดกำลังคู่ต่อสู้ด้วยวิธีนี้เหรอ
“แกคิดว่าพอเหลือฉันคนเดียวแล้ว จะไม่กล้าสู้กับแกงั้นเหรอ” จะเอาอาร้ายไปสู้กับพวกมัน
“งั้นก็...”
“นักเรียน เคารพ” อาจารย์วราภรณ์เข้ามาพอดี
...20นาทีผ่านไป เฮ้อ! ยัยพวกนั้นคงไม่เรียนแล้วหละ ขณะเรียนฉันต้องทำสงครามหนังยางสู้กับไอ้พวก
หน้าหลอนอยู่คนเดียว...
“ตึ่ง ตึ้ง ตึง ตึ่ง ตึ่ง ตึง ตึ้ง ตึง...”เสียงออดหมดคาบเรียน สัญญานอันตรายออกมาแล้ว พออาจารย์วราภรณืออกห้องไปเท่านั้นแหละ
“โอ๊ยๆๆ อย่าหมาหมู่สิวะ แน่จริงตัวๆ เลยมั้ย” แล้วไอ้เดย์ก็เดินเข้ามา ฉันเริ่มถอยหลังเพราะหน้ามันมาใกล้หน้าฉันไม่ถึงคืบ
“พี่เดย์ขา เล่นอะไรกันอยู่เหรอค่ะ กี้เล่นด้วยคนสิค่ะ หน้าใกล้กันจังเลยกี้ชอบ” น้องพิงค์กี้ว่าที่ภรรยามันอีกคน
ฉันรีบผลักมันออกไป ก็ยัยว่าที่ภรรยาของมันเข้ามาทักได้น่าคิดขนาดนั้น แล้วยัยนี่ก็เดินเข้าไปควงแขนไอ้เดย์
ที่จริงน้องเค้าก็หน้าตาดีนะไม่น่าคิดสั้นมาชอบไอ้เดย์เลย
“นี่! อีกะหรี่ มาขายด๋อยส์อะไรแถวนี้ เดย์อะ เค้าอยากได้อะไรก็เอาจากฉันคนเดียว กะหรี่อย่างหล่อน
มันของไม่ซิง ให้ฟรี เดย์เค้ายังไม่เอาเลย” ขอปรบมือให้นังพอลล่าร์แกด่าได้ใจมากเลยหวะ
“กรี๊ดดดดด อีนังรุ่นพี่กระเทยควาย มีสิทธิ์อะไรมาด่าฉัน พี่เดย์ขาดูสิค้า”
นังรุ่นน้องพิงค์กี้ออดอ้อนเดย์ใหญ่เลย นังพอลล่าร์เริ่มเข้ามาควงแขนไอ้เดย์บ้างหละ
“เดย์ ดูนังรุ่นน้องปากปีจอมันว่าพอลล่าร์สิ” หน้าไอ้เดย์ตอนนี้ไม่อยากจะบรรยายอย่างกะอุจจาระไม่ออกมาเป็นปีๆ ถ้ามันกรี๊ดได้ มันคงกรี๊ดไปนานแล้ว แต่ช่างเหอะ หนีก่อนดีกว่าปล่อยให้มันช่วยกันเคลียร์ปัญหาเอาเอง
ฉันเดินมาที่สวนพฤกษาก็เจอพวกเพื่อนเลิฟทั้งหลายนั่งกินขนมกันอย่างสบายอก สบายใจ
ฉันเลยรีบเดินเข้าไปคุย
“เป็นไงบ้าง ยัยปอสนุกมั้ย” เปิ่นถามฉันด้วยใบหน้าที่ทะเล้นอย่างเช่นเคย
“สนุกกับผีปู่ ผีย่าแกสิ ฉันต้องทำสงครามกับไอ้พวกหน้าหลอนคนเดียว มันยากยิ่งกว่าทำสงครามเก้าทัพ
อีกนะแก” ฉันรัวความแค้นกับเพื่อนๆ
“เรื่องนี้ฉันเดาได้ แต่หมายถึงเรื่องพี่ยอร์ทหนะมันเป็นยังไง แกสัญญาจะตอบแล้วนะ”
ไอ้มินท์มันกระตือรือร้นถามฉัน บอกดีมั้ยนี่
“ซุ่มซ่าส์ กฎข้อแรกคือไม่มีความลับต่อกัน แกเป็นคนตั้งเองน้า” ป่วนย้ำกฎของกลุ่ม
“เออๆ จะเล่าทู๊กกกอย่างเลยเพี่ยนนน”
แล้วฉันก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเจอพี่ยอร์ทที่ห้องพยาบาล ไปให้อาหารปลาที่ห้องเพาะเลี้ยง
ไปกินขนมกันที่ห้องพฤกษา แล้วก็พยุงฉันมาส่งที่ห้องพยาบาลนี่แหละ
“แล้วเค้ามีความสัมพันธ์กับเธอยังไงปอ” ยัยน้ำเริ่มพูหลังจากที่เงียบมานาน
“ก็แค่ ที่ปรึกษาส่วนตัว”
“ที่ปรึกษาส่วนตัว แกคงขอให้เค้าเป็นให้หละสิ” น้ำพูดต่อทันที แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียดด้วยหละเนี่ย
น้ำแกเป็นอะไรของแก
“อย่าให้รู้ละกันว่าแกมีความสัมพันธ์กับพี่เค้ามากกว่านี้ ขอให้รู้ไว้ว่าพี่ยอร์ทหนะชั้นคนเดียว” ยัยบอลลูนพูด
พร้อมกับเปรยตามองทุกๆคน ประมาณว่าของๆข้าใครอย่าแตะ ประมาณนั้นเลย
“แล้วหายไปไหน 2 คนหละ” ไม่อยากจะบอกว่าฉันลืมชื่อเพื่อนที่หายไปชั่วขณะ (บอกไปแล้วนะเนี่ย)
“นิดหน่อยกับยุกยิก มันไปทำการบ้านกันที่ห้องสมุดหนะ” ยัยมินท์แหกปากบอกฉัน
นิดหน่อยกับยุกยิก คือเด็กเรียน มีหน้าที่เป็นต้นฉบับให้กับกลุ่มเวลามีการบ้านหนะค่ะ
“แกไม่ต้องมารเปลี่ยนเรื่องปอ สนุกมั้ยหนีไปกับพี่ยอร์ททั้งวันหนะ”
ไอ้น้ำแกว่าฉันอีกแล้วนะ ฉันทำอะไรผิดอีกหละเนี่ย
“ทำไมแกต้องประชดฉันวะน้ำ หรือว่าแกหึง แกชอบพี่เค้าเหมือนป่วนกับบอลลูนใช่มั้ย”
“แกอย่าพูดมากหน่า ฉันไม่มีทางไปแย่งพี่เค้าอย่างกับยัยสองคนนั่นหรอก” น้ำอธิบาย
“แกพูดอย่างนี้หมายความว่าไง แกน่าจะรูนะถึงยังไงพี่เค้าก็ต้องเลือกคนสวยอย่างฉัน” ป่วนเถียงกลับ
“สวย แต่ว่าจอแบนอย่างแกริจะสู้จอนูนอย่างฉันเหรอ” บอลลูนโต้กลับทันควัน
“พอๆ แกจะมาทะเลาะกันหาพระแสงสุริโยทัยอะไรของแก ถ้าแกอยากรู้ก็ถามพี่เค้าเลยดิ เดินมานี่แล้ว”
ไอ้มินท์พูดขึ้นเพราะความรำคาญ
“พี่ยอร์จ มีคนที่ชอบรึยังค่ะ” เปิ่นแกแน่มาก พี่เค้าหน้าแดงเลย
“พี่เค้าคงไม่อยากบอก” น้ำพูดแทรก
“พี่เค้าไม่อยากบอก หรือว่าแกกลัวคำตอบกันแน่” มินท์เสริม “ว่าไงค่ะพี่”
“พี่เพิ่งจะชอบคนๆนี้ และอยากจะขอคบเป็นแฟนด้วย ถ้าพี่บอกน้องๆสัญญานะว่าจะไม่ทะเลาะกัน” พวกเราพร้อมกันพยักหน้า
“พี่อยากจะขอคบ...”
ความคิดเห็น