คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [ประวัติ] 2nd Division(bankai)--Soifon --ซุยฟง
หน่วยที่สอง
ดอกไม้ประจำหน่วย โอคินะงุสะ [ไม่ปรารถนาในสิ่งใด]
ตราสัญลักษณ์ ดอกโอคินะงุสะ
เป็นพืชในตระกูลเดียวกับดอกบัตเตอร์คัพ ผิดกันที่ดอกโอคินะงุสะจะมีรูปร่างคล้ายโคมไฟหรือกระดิ่ง และตัวดอกเป็นสีม่วง (ดอกบัตเตอร์คัพปกติจะเป็นสีเหลือง) ส่วนภาษาดอกไม้ของดอกโอคินะงุสะที่ใช้ในเรื่องนี้คือ "ข้าไม่เรียกร้องสิ่งใด" แต่ความจริงแล้ว ภาษาดอกไม้ของดอกโอคินะงุสะยังมีความหมายอื่นอยู่อีก นั่นคือ "ความรักที่ถูกทรยศ" "หัวใจอันบริสุทธิ์" "รักที่ไม่เคยบอก"
เป็นหน่วยที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของซุยฟงซึ่งรับหน้าที่เป็นหัวหน้าของหน่วยลับ เพราะเหตุนั้นในหน่วยจึงมีสมาชิกที่เชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวอย่างลับๆ เป็น จำนวนมาก จึงเป็นหน่วยรบที่มีอำนาจในการรบจริงสูงมากหน่วยหนึ่ง
หัวหน้าหน่วยที่สอง ซุยฟง
“แม้จะหันมองไป สิ่งที่เหลือไว้คือภาพติดตา”
เป็นคนที่มาจากตระกูลฟงซึ่งรับภารกิจในการลงทัณฑ์และลอบสังหารพักหลังๆ นี้มีข่าวลือว่าเธอเริ่มเก็บสะสมสินค้าที่เป็นแมวจนเป็นความชอบส่วนตัวไปซะแล้ว...
ประวัติส่วนตัว
วันเกิด / 11 กุมภาพันธ์
ส่วนสูง / 150 เซนติเมตร
น้ำหนัก / 38 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ / ซึซึเมะบาจิ
คำปลดปล่อย / “จงไล่ล่าเสียดสังหาร ซึซึเมะบาจิ”
ความชอบส่วนตัว / สะสมสินค้าที่เป็นแมว
ความถนัดส่วนตัว / ลอบสังหาร
อาหาร / อาหารที่ชอบ - ปลา
อาหารที่ไม่ชอบ - เนื้อ
การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด / ฝันถึงวันคืนที่ต่อสู้ร่วมกับโยรุอิจิ, ฝึกฝนชุนโค
*ลับสุดยอด
เยือกเย็นและเย็นชา แต่ขี้อายและมีสเน่ห์ ดูเหมือนว่านิสัยจะกลับตาลปัตรทันทีเฉพาะตอนที่อยู่กับโยรุอิจิ ,แต่เหมือนจะโชคดีที่ลูกน้องในหน่วยยังไม่รู้เรื่องนั้น มีคนในหน่วยที่สองและหน่วยลับมากมายหลงใหลในตัวซุยฟง จนถึงกับมีแฟนคลับ เมื่อรู้ว่าพักหลังๆซุยฟงเริ่มสะสมสินค้าที่เป็นแมว ก็ถึงกับมีสินค้าแมวมาส่งถึงที่ทำการหน่วยที่สองเป็นพักๆ เลยทีเดียวเชียว
ความสามารถในการรบ ซุยฟง
พลังโจมตี 80
พลังป้องกัน 60
การเคลื่อนไหว 100
วิถีมาร/แรงกดดันวิญญาณ 60
ภูมิปัญญา 60
พลังกาย 100
การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วสมกับร่างกายที่บอบบางและพลังโจมตีที่หนักหน่วง
และผนวกเข้ากับพลังกายที่อยู่ในระดับสุดยอด ...ยอดเยี่ยม
sasarai's comment : เพิ่งรู้ว่าเจ๊มีแฟนคลับของตัวเองด้วย ?? แต่ในทางกลับกันเจ๊เองก็เป็นแฟนคลับโยรุอิจิซามะที่เหนียวแน่นและออกหน้าออกตามากเกินไปหน่อยมั้ย ?? แต่ผมก็ชอบเจ๊ซุยฟงนะ แมนออกขนาดนี้ไม่รักได้ไง Bleach Advance: Kurenai ni Somaru Soul Society
>>
ซุยฟง
「砕蜂」
Soifon Soifon Name ชื่อ Soifon Kanji Kanji 砕蜂 Romanji Suìfēng Characteristics ลักษณะเฉพาะ Race Shinigami Birthday วันเกิด February 11 Gender เพศ Female เพศหญิง Height ความสูง 150 cm (4'11") Weight น้ำหนัก 38 kg (83 lbs) Eyes Grey Hair ผม Black สีดำ Professional Status Affiliation Gotei 13 Soul Society ,
Fon Family Occupation อาชีพ Captain of the 2nd Division
Commander of the Onmitsukidō Commander of Onmitsukidō Corp Commander of the
Executive Militia9th Head of the
Fon Family 9 หัวหน้าครอบครัวฟงPrevious Occupation อาชีพก่อนหน้านี้
คุ้มกันของ Yoruichi Shihōin
Executive Militia member Team ทีม 2nd Division
Onmitsukidō Partner Marechiyo Ōmaeda Previous Partner Yoruichi Shihōin Base of Operations ฐานปฏิบัติการ 2nd Division HQ, Seireitei , Soul Society Personal Status สถานะบุคคล Marital Status สถานะภาพ Single (ซุยฟงมักโดนจิ้นกับโยรุอิจิ หรือไม่ก็แซนวิส กับอุรุฮาร่า แต่ที่แปลกประหลาดที่สุ๊ด คือ ซุยฟงกับเบียคุยะและ ซุยฟงกับชูเฮย์) Relatives ญาติพี่น้อง
Soifon (Grandmother, deceased) (ย่า, เสียชีวิต)
5 unnamed brothers (all deceased)
5 พี่น้องไม่มีชื่อ (เสียชีวิตทั้งหมด)Status Incapacitated Zanpakutō Shikai ชิไค Suzumebachi i Bankai บังไค Jakuhō Raikōben Primary Skill ทักษะหลัก Signature Skill Shunpo & Hakuda First Appearance ลักษณะแรก Manga Debut เปิดตัวการ์ตูน Volume 10, Chapter 81 Anime Debut Debut Anime Episode 24 Video Game Debut เปิดตัววิดีโอเกม Media Appearances ลักษณะสื่อ Manga, Anime, Movies, and Video Games Voices Japanese Voice เสียงญี่ปุ่น Tomoko Kawakami, ,
Hōko Kuwashima (วัยรุ่น)English Voice เสียงอังกฤษ Karen Strassman Spanish Voice เสียงภาษาสเปน Adriana Nuñez
(Latin America)
หรือ Sùifēng ในภาษาจีนกลาง, 砕蜂?) ตัวละครในการ์ตูนเรื่อง "เทพมรณะ"(Bleach) เป็นยมทูต หัวหน้าหน่วย 2 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" (ในบูมเขาว่าเป็นหน่วยลงทัณฑ์และเพชฌฆาต)
ซุยฟง (ฟงเชาหลิน)
อาชีพ ยมทูต หัวหน้าหน่วยที่ 2
หัวหน้าหนว่ยปฏิบัติการลับ
วันเกิด 11 กุมภาพันธ์
สีผม สีดำ
สีตา สีดำ
ส่วนสูง 150 เซนติเมตร
น้ำหนัก 38 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ ซึซึเมะบาจิ
พากย์เสียงโดย โทโมโกะ คาวาคามิ
ลักษณะ/อุปนิสัย
ซุยฟง เป็นตัวละครที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดูสงบแต่ก็ดุดัน สิ่งที่พิเศษคือไว้ผมมัดสองข้าง อุปนิสัยที่ดูเย็นชา แต่ก็แฝงความเงียบและโหดเหี้ยมไว้ลึกๆ หากแต่ภายในลึกๆจริงก็แฝงความอ่อนโยนไว้มากเช่นกัน
ประวัติ
ซุยฟง มีชื่อเดิมว่า "ฟงเชาหลิน"(蜂少林 (คำว่า 少林 เป็นภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า "โชริน(shorin)" ซึ่งแปลในภาษาจีนได้เป็น "เชาหลิน"))เป็นบุึตรสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 6 คน ซึ่งเกิดในตระกูลฟงซึ่งเป็นตระกูลที่อุทิศตนให้กับหน่วยปราบปราม เมื่อเธอเข้ามาในหน่วยปราบปรามจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "ซุยฟง" ซึ่งเป็นชื่อรหัสที่สืบทอดมาจากย่าทวด ในระหว่างการเข้าเป็นหน่วยลับ เธอได้มีความรู้สึกยอมรับนับถือหัวหน้าหน่วยปราบปรามในตอนนั้น ซึ่งก็คือ "ชิโฮอิน โยรุอิจิ" เนื่องจากความเก่งกาจและความสง่างาม จนในที่สุด เธอก็ได้เป็นองครักษ์ของโยรุอิจิ ซึ่งเธอก็ได้สาบานจะจงรักภัำกดีกับโยรุอิจิตลอดไป จนเมื่อวันหนึ่ง เธอได้รับข่าวว่าโยรุอิจิได้ทำการช่วยเหลือนักโทษเนรเทศอย่าง "อุราฮาร่า คิสึเกะ" จนโดนปลดจากหัวหน้าหน่วยปราบปราม ทำให้ซุยฟงแทบจะสิ้นศรัทธาในตัวของโยรุอิจิ และสาบานว่าจะจัดการโยรุอิจิด้วยตัวเอง
บทบาท
ภาคโซลโซไซตี้
ซุยฟงซึ่งเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยที่อยู่ ณ ที่เนินโซเคียคุ ได้เผชิญหน้ากับโยรุอิจิอีกครั้ง และทั้งคู่ได้เ้ข้าต่อสู้กัน จนซุยฟงไล่ต้อนโยรุอิจิแทบจะจนมุม ทำให้โยรุิิอิจิงัดไม้เด็ดของตน "ชุนโค" (「瞬閧」, shunkō, ยุทธพริบตา?) ออกมาทำให้สถานการณ์พลิกผันไปในที่สุด แต่ในท้ายที่สุดซุยฟงก็ได้เผยความในใจของตนออกมา จริงๆเธอก็ยังมีศรัทธาในตัวของโยรุอิจิอยู่มากและในตอนนั้นเธอก็ต้องการที่จะไปกับโยรุิอิจิเช่นกัน
ในตอนท้ายของภาคโซลโซไซตี้ ซุยฟงเป็นหนึ่งในหัวหน้่ายมทูตที่เข้าล้อมจับไอเซ็นและพรรคพวก
ภาคเบาท์
ซุยฟงได้เดินทางมาที่โลกพร้อมกับโยรุอิจิเพื่อสืบเรื่องของเหล่าเบาท์ และหลังจากการรุกรานภายในโซลโซไซตี้ของเหล่าเบาท์ เธอได้ต่อสู้กับเบาท์ ที่ชื่อ "มาบาชิ" และแม้จะเสียท่าไปบ้างจากการถูกพิษของมาบาชิ โดยซุยฟงได้จำคำสอนของโยรุอิจิสมัยที่อยู่ในหน่วยปราบปราม จึงได้สลักโฮมงกะที่แขนของเธอและรวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดเพื่อขจัดริซึดอลล์ของมาบาชิ และกำจัดเขาได้ในที่สุดด้วยการโจมตีของซึซึเมะบาจิในครั้งที่สอง
ภาคอารันคาร์
ซุยฟงได้บุกไปที่เมืองคาราคุระพร้อมกับหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆเพื่อต่อสู้กับไอเซ็น
ดาบฟันวิญญาณ
Suzumebachi (雀蜂, ; Hornet):
Shikai: (尽敵螫殺, Jinteki Shakusetsu)
Bankai: Jakuhō Raikōben (雀蜂雷公鞭, Hornet Thunder Whip):
ขั้นต้น(ชิไค)
ซึซึเมะบาจิชื่อ : ซึซึเมะบาจิ (「雀蜂」, Suzumebachi, ตัวต่อ?)
ข้อมูล จาก อาชิโดะคุง ล่าสุดค่ะ
ซึซึบาเมจิ: "ข้าโจมตีใส่ตำแหน่งปอดข้างขวาของมันจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ข้างเล็งไว้ไม่ใช่ปากแผล แต่เป็นอวัยวะภายในตั้งแต่แรกแล้ว" (ในตอนจะมีภาพประกอบคำอธิบายแสดงให้เห็นตำแหน่งแทงของซุยฟงด้วย ว่าแทงลงไปโดนปอดขวาตรงตำแหน่งแผลเดียวกันพอดี)
คำปลดปล่อย : "ไล่ล่าเสียบสังหาร" (「尽敵螫殺」, jinteki shakusetsu, 尽敵螫殺?)
ลักษณะ : จะแปรสภาพของดาบให้กลายเป็นมีดขนาดเล็กติดที่ข้อมือและนิ้ว รูปแบบคล้ายกับเหล็กไนของแมลง
ความสามารถ : เมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ทำร้ายเป้าหมายได้ครั้งหนึ่ง จะสร้างลายรอยสักขึ้นบนร่างของเป้าหมายบริเวณที่โจมตี ที่ชื่อ "โฮมงกะ" (「蜂紋華」, บุปผาลายผึ้ง, 蜂紋華?) และถ้าใช้ซึซึเมะบาจิโจมตีที่จุดนั้นอีกครั้ง ก็จะปลิดชีพเป้าหมายได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นใคร หรือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค)
ชื่อ : "จาคุโฮไรโคเบ็น (คฑาตัวต่อสายฟ้า)"
ลักษณะ : ร่างนั้นยังคงเป็นซุยฟงเหมือนธรรมดา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเป็นพิเศษ หากซึซึเมะบาจิที่มีรูปร่างคล้ายเข็มเล็กๆ ติดกับปลายนิ้วกลางมือขวา บัดนี้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาบติดแขนเล่มโตยาวเฟื้อย เทียบกับส่วนสูงของซุยฟงแล้วยังสูงกว่ากันเกือบเท่าตัว ตัวดาบดูกลมไม่แบนเหมือนดาบทั่วไป ดูไปดูมาคล้ายเข็มเล่มโตมากกว่าจะเป็นดาบดาบ ส่วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะสำหรับบังหน้า (ปืนใหญ่)
ป.ล.ยังไมทราบว่าบังไคใช้ได้ครั้งเดยีวหรือมั้ยเนื่องยิงมิสไซล์ออกไปจนทำให้เหลือแค่ส่วนเป้าเล็ง อาจจะรวบรวมอณูวิญญาณขนาดใหญ่ใหม่อีกครั้ง
ป.ล.2.bleachมันกลายเป็นยุคยิงปืนและลเร้อะๆๆ!!
เพิ่มเติม ซุยฟงเป็นหนึ่งในกรรมการยมทูตสตรี
หัวหน้าหน่วย 2 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นรุ่นน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ซุยฟง
ซุยฟง หัวหน้าหน่วยพิทักที่ 2 ,หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ และ เป็นบอร์ดดี้กราดของโยรุอิจิ ชิโฮอิน
ซุยฟง เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ โดยขึ้นมาแทนตำแหน่งที่ขาดไป ของโยรุอิจิ ชิโฮอิน ,เธอฝึกฝนตนเองอย่าหนัก เพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ และได้พบกับ โยรุอิจิ ซึ่งตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กมาก เธอมีโอกาสได้ติดตามโยรุอิจิไปไหนต่อไหนและสนิทสนมกันมาก มีอยู่วันหนึ่งโยรุอิจิบอกกับซูยฟงว่า ให้เรียกว่า พี่ โยรุอิจิ และหลังจากวันนั้นพวกเธอทั้งสองคนก็สนิทสนมกันเหมือนกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ ซุยฟงให้ปฎิญาณกันตัวเองว่า ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะคอยปกป้อง พี่โยรุอิจิ และเธอก็ฝึกฝนเรื่อยมา จนวันนึงเธอมาหา พี่โยรุอิจิ อันเป็นที่รัก แต่แล้วโยรุอิจิ ก็ไม่อยู่ และหายออกไม่จากโซโซไซตี้ (หนีตามอุราฮาระไป) ซุยฟงเสียใจมาก และคิดว่าโยรุอิจิ ทอดทิ้งเธอ หลังจากนั้นเธอก็ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษแทนโยรุอิจิ และร้อยปีต่อมา (ก็คือ ตอนแรกของ Bleach กำเนิดขึ้น ตอนไอโกะบุกโซโซไซตี้อ่ะ บอกไม่ถูกวุ๊ย) เธอก็ได้พบกับโยรุอิจิที่มาช่วยพวกอิจิโกะ ในการช่วยเหลือ คุจิกิ ลูเคีย
ซุยฟง หรือ ซุยฟอน เกิดที่ ฟอน เซ่าลิน ในบ้าน ฟอน (งงไหมละ เอาเป็นว่าเกิดในตระกูล ฟอนแล้วกัน) เธอเกิดในตระกูลที่มีฐานะต่ำกว่า ตระกูลชิโฮอิน ซึ่งส่วนมากคนในตระกูล ฟอน และ ตระกูลชิโฮอิน ส่วนมากจะอยู่ในหน่วยรบพิเศษ โดยคนเหล่านี้ จะต้องไปสอบในหน่วยรบพิเศษ ซึ่งถ้าใครสอบไม่ผ่านก็จะถูกตัดออกจากตระกูลทันที ซุยฟงประสบความสำเร็จตั้งแต่เล็ก เธอสอบเข้าได้ และได้ทำงานในหน่วยรบพิเศษ นอกจากนี้ พี่ชายของเธอทั้ง 5 คน ก็ผ่านเข้ามาด้วย , พี่ชาย2คนแรกของเธอตาย หลังจากออกทำภารกิจแรก และ เธอก็เสียพี่ชายอีก 2 คนไปกับภารกิจที่สอง และพี่ชายคนสุดท้ายก็จากไปกับภารกิจที่สาม ดังนั้นเธอจึงอยู่คนเดียว ทั้งเหงาและโดดเดี่ยว หลังจากนั้นเธอจึงฝึกฝนตนเอง เพื่อให้เธอเก่งขึ้น และเธอก็ได้บรรจุอยู่ในหน่วยรบพิเศษเต็มตัว และได้ ชื่อในการทำภารกิจว่า ซุยฟง ซึ่งชื่อ ซุงฟงนี้เป็นชื่อของยายของเธอ โดยทางครอบครัวได้มอบชื่อนี้ให้เพื่อเป็นเกียรติของตระกูล
................................................................................................................
................................................................................................................
ลงข้อมูลโดย แม่หญิงเดะ
เครดิต
http://th.wikipedia.org/wiki
http://bleach.wikia.com/wiki/Soifon
http://sasarai.exteen.com/20080414/bleach-13-zenshu-magazine-1
(เพิ่มเติมจากBOOMเล่ม13ฉบับวันที่7มีนา52)
ความคิดเห็น