ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO's fiction] the illusion of MASK ,, { krislay }

    ลำดับตอนที่ #12 : ▌MASK : chapter 11

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 56


    the illusion of

    MASK

    Chapter 11

     

     

    ทั้งๆ ที่เป็นคนลงมือทำอาหารทั้งหมดกับมือแท้ๆ แต่จางอี้ชิงกลับรู้สึกว่ามันไม่ถูกปากเลยสักนิดเดียว ยังรู้สึกจุกตั้งแต่ยังไม่ได้ทานอะไรเสียด้วยซ้ำ

     

    “มีแต่ของชอบของอี้ฟานนะคะเนี่ย” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่ดูปรุงแต่ง ก่อนจะชะงักเมื่อไล่ไปถึงอาหารจานใหญ่ที่วางอยู่ตรงกลาง

     

    “อ๊ะ แต่ดันมีหมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวานซะได้ พ่อครัวนี่แปลกนะคะ ทำทั้งที่ชอบมากๆ แล้วก็ไม่ชอบมากๆ มาพร้อมกันเนี่ย” ซงเฉียนหัวเราะเสียงสูงหลังจากประโยคนั้น นั่นทำให้ทั้งอี้ชิงและจุนมยอนสะดุดไป แต่ไม่ใช่กับแบคฮยอนที่ไม่ประสา..

     

    “วันนี้ไม่ใช่พ่อครัวหรอกครับ วันนี้พี่อี้ชิงเป็นคนทำต่างหาก” แบคฮยอนแค่อยากจะอวดว่าจางอี้ชิงมีฝีในการทำอาหารชั้นยอด เขาไม่ทันได้นึกว่ามันจะเป็นการหักหน้าอี้ชิงอยู่กลายๆ ..เหมือนกับว่าคนที่รู้ใจอู๋อี้ฟานที่สุดก็คือคู่หมั้นของเขา

     

    “อ้าวเหรอคะ เก่งนะคะเนี่ย ทำน่าทานทุกอย่างเลย” คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้กับเจ้าของผลงาน ก่อนจะหันไประลึกความหลังกับร่างสูง

     

    “ตอนเด็กๆ ฉันจำได้ว่าอย่างเดียวที่อี้ฟานไม่ยอมกินก็คือสัปะรด คะยั้นคะยอเท่าไหร่ก็ไม่กิน พอเอามาแปลงเป็นอาหารอย่างอื่นก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย” หัวเราะเสียงใสให้ได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็หยุดเพราะเสียงช้อนกระทบกันจานไม่เบานัก

     

    “ผมอิ่มแล้ว” อี้ชิงถอยเก้าอี้พร้อมกับรวบจานขึ้นไว้ในมือ คิมจุนมยอนตั้งใจจะตามไป แต่อี้ฟานห้ามไว้ และเป็นคนตามไปเอง

     

     

     

    “อี้ชิง” มือใหญ่คว้าท่อนแขนบอบบางเอาไว้ ออกแรงนิดหน่อยคนตัวเล็กกว่าก็ยอมหันหน้าเข้าหา แม้จะไม่สบตากันก็ตาม

     

    “อะไรอีกครับ? พี่อยากจะโกหกอะไรผมอีก กับแค่ของที่ชอบก็ยังหลอกผม เพื่ออะไรครับ?” อี้ชิงถามเสียงเรียบ เขาไม่เข้าใจคนตรงหน้าจริงๆ .. ก็อาหารจานแรกที่เขาทำให้พี่คริสกินก็คือเมนูเดียวกันกับที่ซงเฉียนบอกว่าเป็นสิ่งที่ร่างสูงเกลียด..

     

     

    .

    .

    “พี่คริสจะชอบรึเปล่าก็ไม่รู้” อี้ชิงเกาแก้มแก้เก้อก่อนจะเปิดฝาออก ควันและกลิ่นหอมของอาหารหน้าตาน่ากินลอยขึ้นมาชวนให้หิว

     

    ร่างสูงโน้มตัวไปมองอาหารนั้นก็จะยกยิ้มเต็มแก้ “น่ากินมากเลยครับ พี่ขอกินเลยนะ” คริสตักเมนูเปรี้ยวหวานมาไว้ในจาน รวมกับข้าวสวยร้อนๆ ก่อนจะส่งเข้าปากไปเคี้ยวอย่างอารมณ์

     

    “อร่อยมากเลยล่ะครับคนเก่ง” มือใหญ่วางลงบนเลือนผมนุ่มก่อนจะกดจูบลงที่ข้างขมับ อี้ชิงยิ้มดีใจเหมือนเด็กๆ เช่นนั้นแล้วจึงโดนขโมยจูบไปจากริมฝีปากอิ่มเป็นของแถม

    .

    .

     

     

    “พี่ไม่ได้โกหก พี่ไม่ได้บอกว่าชอบมัน” คริสอธิบาย

     

    “อ๋อ ผมเข้าใจผิดไปเอง ขอโทษครับ”  อี้ชิงขืนข้อมือออกจากมือใหญ่ได้สำเร็จก็ก้าวหนีในทันที

     

    “พี่ไม่ได้โทษว่ามันเป็นความผิดใคร ช่วยฟังพี่ให้จบก่อนได้มั้ย” ไม่แล้ว..คริสไม่ใช้กำลังเพื่อบังคับให้อี้ชิงอยู่ฟัง ที่ทำก็แค่ขอร้อง..ถ้าอี้ชิงจะยอมฟัง

     

     

    จำสักทีสิจางอี้ชิง.. จำสักที

     

     

    “ผมเจ็บแล้วจำ” อี้ชิงตัดสินใจแล้วก็จะเดินจากไป แต่ไม่เป็นไร.. คริสก็พูดในสิ่งที่อยากพูด

     

    “พี่ไม่ได้ชอบมัน แต่ก็กินเพราะนายเป็นคนหยิบยื่นให้.. ต่อให้มันเป็นยาพิษ พี่ก็ยินดีจะกินมันโดยไม่ลังเล..”

     

    เกลียด.. อี้ชิงเกลียดตัวเองที่ก้าวเท้าไม่เร็วได้อย่างใจนึก ทั้งที่ประตูก็ห่างออกไปแค่ก้าวเดียว ทำไมเขาถึงหนีอู๋อี้ฟานไปไม่ทัน..

     

    “ผมคงมีใจจะเชื่อพี่บ้าง ถ้าก่อนหน้านี้พี่ไม่ได้บอกรักคู่หมั้นของตัวเองแบบนั้น” อี้ชิงประตุกยิ้มมุมปากก่อนจะสาวเท้าไวๆ กลับไปยังห้องอาหารที่ทุกคนยังนั่งพร้อมหน้าพร้อมตา และเกินมาอีกหนึ่งคน

     

    “จื่อเทา!” อี้ชิงร้องเรียกเสียงดังเพราะตกใจ ทว่าเจ้าของชื่อกลับทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองกลับมา

     

    “เมื่อกี้จื่อเทาบอกว่าอาหารอร่อยแหละพี่อี้ชิง”

     

    “พูดมาก” มือใหญ่ผลักหัวแบคฮยอนแรงๆ เป็นการลงโทษ ส่วนเจ้าตัวเล็กก็ตีหน้ายุ่งแค่เท่านั้น

     

    “เห็นว่ายังเจ็บอยู่หรอกนะ”

     

    “งั้นฉันกลับก่อนนะคะ พาคนสำคัญมาส่งให้แล้ว” หยิบทิชชู่ขึ้นซับมุมปากอย่างมีจริตก่อนจะถอยเก้าอี้แล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู

     

    “ไม่ไปส่งฉันเหรอคะ?”

     

    “มาเองแล้วกลับเองไม่ได้เหรอครับ” ก่อนที่ใครจะได้พูดอะไร แบคฮยอนก็เป็นคนชิงถามขึ้นมา

     

    “ได้ค่ะ แต่อยากให้อี้ฟานไปส่ง” ซงเฉียนตอบแล้วสะบัดหน้าหนีก่อนจะก้าวออกจากบ้านไป

     

    เช่นนั้นแล้วจุดรวมสายตาจึงกลายเป็นร่างสูงใหญ่ของตุ้ยจางที่ยืนมองประตูสลับกับร่างบางของจางอี้ชิงอย่างเป็นกังวล..

     

    ..

    70%

    ..

    อี้ชิงไม่ได้อยู่รอการตัดสินใจของอู๋อี้ฟานว่าจะจบลงที่ไหน เขาเดินกลับมาที่ห้องพยาบาลพร้อมกับจื่อเทาและคุณหมอ

     

    “ตายยากจริงนะ” จุนมยอนบอกก่อนจะสั่งจื่อคนอายุน้อยกว่าถอดเสื้อตัวนอกออก คงไว้แต่เสื้อกล้ามที่เอื้ออำนวยต่อการสำรวจความเรียบร้อยของแผลที่หัวไหล่

     

    “หึ” จื่อเทาแค่หัวเราะในลำคอ มองคุณหมอตัวเล็กขมวดคิ้วสำรวจแผลอย่างจริงจัง

     

    “ผมไปโรงพยาบาลมาแล้ว หมอที่นั่นเก่งกว่าเจี่ยเจียเยอะแยะ”

     

    “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะจื่อเทา” จุนมยอนสวนกลับด้วยใบหน้างอง้ำ นั่นทำให้คนเจ็บหัวเราะออกมาเบาๆ เรียกรอยยิ้มจากอี้ชิงได้นิดหน่อย

     

    “ขอบคุณนะ” อี้ชิงบอก

     

    “มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว” แม้จะตอบแบบนั้นแต่จื่อเทาก็ยิ้มจางๆ ให้อีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

     

    “แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ็บแบบนี้”

     

    “มันก็เป็นหน้าที่ของผมอีกนั่นแหละ”

     

    “อือ”

     

    “แต่ว่าผมก็มีเรื่องที่ต้องขอโทษคุณเหมือนกัน ..ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดพลาดของผม คุณก็ไม่ต้องเสี่ยง” สิ้นประโยคนั้นอี้ชิงก็ได้แต่ตอบไปว่าไม่เป็นไร ก่อนจะขอตัวออกจากห้องนั้นเพราะคนเจ็บยังต้องได้รับการตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติอีก

     

    “พี่คริส..” อี้ชิงเรียกชื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความแปลกใจเล็กๆ ..เพราะเขาเชื่อเต็มร้อยเลยว่ายังไงคนตรงหน้าก็ต้องไปส่งคู่หมั้นคนสวยแน่ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้

     

    “พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

     

    .

    .

     

    คริสบังคับให้อี้ชิงขึ้นมาอยู่บนห้องด้วยกันได้แล้ว ถึงแม้จะผิดกับความตั้งใจที่คิดว่าจะไม่ใช้กำลังกับคนตัวเล็กก็ตาม

     

    “เมื่อบ่ายนายขึ้นมาตามพี่ไปกินข้าวใช่มั้ย?”

     

    “เปล่า” อี้ชิงโกหกหน้าตาเฉย ..มันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบทำ แต่ก็เลือกจะทำดีกว่าต้องตอบคำถามอื่นๆ อีกมากมาย

     

    “โกหก ..แบคฮยอนบอกพี่”

     

    “ถ้างั้นจะถามผมทำไม”

     

    “อี้ชิง พี่ไม่ได้จะชวนทะเลาะนะ”

     

    “แล้วพี่ถามทำไม ต้องการอะไร”

     

    “พี่แค่อยากรู้ว่าเราได้ยินที่พี่คุยกับซงเฉียนมั้ย”

     

    “แค่ผมขึ้นมาได้ยินเสียงพี่คุยกับเขาผมก็ลงไปแล้ว ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะ” อี้ชิงตอบ

     

    “แต่ก่อนหน้านี้นายบอกว่านายได้ยินพี่บอกรักคู่หมั้น” คริสไม่ใช่คนโง่ และเขาก็สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างมีเหตุผล

     

    จางอี้ชิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคริสอย่างจริงจัง เขาไม่ใช่คนที่โกหกเก่งนัก ดังนั้นก็จะพูดความจริง

     

    “ใช่ ผมขึ้นมาตามพี่อย่างที่คุณหมอบอก และผมก็ได้ยิน ได้ยินพี่บอกว่ารักเธอยังไง ผมเห็นว่าเธอดีใจแค่ไหนกับความรักมั่นคงของพี่ ถ้าเธอกลับไปที่บ้านวันนี้ก็คงจะบอกเรื่องนี้กับพ่อของเธอ พี่กับเธอก็คงจะกลายเป็นคู่แต่งงานในเร็วๆ นี้ ..ใช่มั้ยครับ” ดวงตาคู่สวยวาวฉ่ำไปด้วยน้ำใสๆ ฉายประกายความเศร้าอย่างปิดไม่มิด อี้ชิงที่หยิ่งผยองสงบลง ..เหลือแต่จางอี้ชิงที่คริสรู้จักเป็นอย่างดี

     

    “ปล่อย ..อย่ากอด” มือขาวพยายามผลักอกแกร่งให้ห่างจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างกายใหญ่โตไม่ได้ไหวติงกับสิ่งที่คนตัวเล็กทำ

     

    “มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด”

     

    “....”

     

    “ทำไมถึงไม่ฟังพี่บ้าง”

     

    “....”

     

    “อี้ชิงรู้มั้ยว่าพี่พาอี้ชิงไปที่จีนทำไม”

     

    “ไม่รู้.. พี่แค่ทิ้งผมไว้ แล้วไปกับเธอ” อี้ชิงตอบด้วยเสียงอู้อี้

     

    “พี่ต้องการจะถอนหมั้น..” คำพูดประโยคนั้นเรียกให้อี้ชิงถอยออกมาจากอ้อมกอดที่คลายลง ดวงหน้าหวานช้อนขึ้นมองคู่สนทนาก่อนจะเค่นยิ้มให้ตัวเอง

     

    “พี่จะหลอกอะไรผมอีกก็ได้ เพราะถึงแม้ว่าผมจะไม่เชื่อ ผมก็ไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรอยู่ดี..”

     

    “พี่ไม่ได้หลอกเรานะอี้ชิง พี่กำลังพยายาม”

     

    “แล้วที่พูดว่ารักเธอ..”

     

    “พี่บอกว่าพี่รักนาย พี่บอกว่าพี่รักอี้ชิงให้ซงเฉียนฟัง”

     

    “อ๋อครับ” อี้ชิงพูดเหมือนจะเชื่อ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แล้วผู้หญิงคนนั้นจะยิ้มดีใจไปทำไม 

     

    “พี่จะรักใครก็ช่างเถอะครับ ..เพราะผม.. ไม่ได้รักพี่แล้ว” บอกแล้ว..อี้ชิงบอกเป็นพันๆ ครั้งแล้วว่าเกลียดผู้ชายตรงหน้ามากแค่ไหน เรื่องโกหกที่หักหาญน้ำใจกันมันก่อตัวเป็นกำแพงขึ้นมา กั้นไม่ให้จางอี้ชิงเผลอใจกับคริสซ้ำอีก

     

    “อี้ชิง!?

     

    “พี่จะแต่งงานกับเธอก็ได้ จะเอาผมไว้ที่ไหนก็ได้ ตามใจพี่เถอะครับ” จางอี้ชิงยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหลังหนี

     

    “อี้ชิง! พี่พูดความจริงนะ ฟังสิ!” ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นอย่างสับสน ในหนึ่งก็ร้อนเป็นไฟจนแทบบ้า อีกใจก็ด้านชาเพราะคำพูดตัดพ้อนั้น

     

    “พูดอะไรก็พูดได้ ต่อให้ไม่จริงพี่ก็พูดว่ามันจริงได้ คำพูดมันก็แค่ลมปาก แค่นั้นเองครับ”

     

    “งั้นพี่จะพิสูจน์ให้นายเห็นเอง”

     

    “...”

     

     

    “เราจะไปจีนกัน”

     

     

    # talk corner *

    วันนี้ว่าง ไม่มีเรียน อุอิ #การบ้านไม่ทำด้วย 55555555 ว่างอีกเดี๋ยวมาอีก รออยู่ใช่แมะ XD

     

    ครบร้อยเปอร์แล้ว :) แต่ว่าคนอ่านหายไป ..เห็นแล้วก็ห่อเหี่ยว แต่ว่า..ก็ชินแล้วแหละ หุ

     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×