คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 :: knock the tears
เคาะประตู ... ด้วยน้ำตา
เป็นอีกวันแล้วที่เซฮุนต้องตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะสายเรียกเข้าจากชานยอลเป็นเหตุ ถึงจะเคยชินแค่ไหน เซฮุนก็ยังไม่ชอบให้ใครโทรมาปลุกตัวเองที่กำลังนอนฝันดีในวันที่อากาศน่านอนแบบนี้หรอก วันนี้เป็นเช้าวันศุกร์ที่ฝนตก และเซฮุนกับชานยอลก็ไม่มีเรียน ฉะนั้น ชานยอลก็มีแค่เซฮุนคนเดียวเท่านั้นแหละที่พอจะลากออกมากินข้าวเป็นเพื่อนได้ เซฮุนตัดสินใจไม่อาบน้ำ ไม่เซ็ทผม ไม่ทาอะไรสักอย่างบนหน้าเพราะยังไงทุกอย่างก็ต้องสลายไปเพราะละอองฝนอยู่ดีถึงแม้จะกางร่มแบบนี้
“เซฮุน จะออกไปไหนน่ะ?” เสียงที่เซฮุนคุ้นเคยและไม่ได้ยินมาสองสามวันดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นจงอินที่อยู่ห้องถัดไปจากเขา ยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองในชุดนักศึกษา
ทันที่ทีเห็นจงอิน เซฮุนก็รู้สึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาที่ยังเดินไปไหนไม่ไกล และขอบคุณที่เวลาของเขาและจงอินตรงกันสักที หลังจากที่เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าและน้ำเสียงของจงอินมาเป็นเวลาสองสามวัน หมู่นี้เขาไม่ค่อยเห็นจงอินพาเจ้ามงกู หมาตัวน้อยมาเดินเล่นเลย อาจเป็นเพราะจงอินง่วนอยู่กับงานกระมัง
“เรากำลังจะออกไปกินข้าวกั…” เซฮุนที่กำลังจะเอ่ยปากพูดคำว่า ‘กับชานยอล’ รีบกลืนคำพูดของตัวเองลงคอไปอย่างช้าๆ เพราะฉุกคิดได้ว่า ถ้าจงอินกำลังหาเพื่อนกินข้าวอยู่ เขาก็พร้อมที่จะไปเป็นเพื่อนและยกเลิกนัดกับชานยอลทันทีโดยไม่สนว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะรอนานและโกรธแค่ไหน
เซฮุนไม่สนอะไรอยู่แล้ว ถ้าเขาได้ใกล้ชิดกับจงอิน เขาก็จะไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว…
“จงอินล่ะ กินข้าวรึยัง ดูเหมือนจะไปไหนเลยนะ” เซฮุนเดินเข้ามาใกล้จงอินที่ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องตัวเองอีกนิด เอ่ยปากถามด้วยความคาดหวัง หวังว่าคำตอบจะเป็นแบบที่เขาคิดเอาไว้
“ยังไม่ได้กินเลย… แล้วก็หิวอยู่พอดีเลยด้วย” จงอินตอบยิ้มๆ คำตอบเป็นไปตามคาดอย่างที่คนร่างบางกว่าคิดเอาไว้ จงอินทำทีชะเง้อมองท้องฟ้าที่กำลังร้องไห้เบาๆ ฝนตกปรอยๆ แบบนี้ และคนตรงหน้ามองท้องฟ้าแบบนี้ พูดว่าหิวแต่ไม่ยอมเดินไปไหนแบบนี้ มีอยู่กรณีเดียวเท่านั้นแหละ
“ไม่มีร่มเหรอ” เซฮุนเอ่ยปากถาม คนตัวเล็กยิ้มบางๆ
“อื้ม”
เซฮุนถือโอกาสนี้เดินเข้ามายืนประชิดตัวจงอินพร้อมกับเอื้อมมือชูร่มเหนือหัวของจงอิน ตอนนี้ร่างบางกับร่างสูงยืนห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด ถึงแม้ว่าเสียงและลมฝนที่พัดผ่านเข้ามาจะกลบเสียงลมหายใจของจงอินและเซฮุนที่ใกล้กันจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่เซฮุนก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจอ่อนๆ ที่ดูจะเศร้าสร้อย และไม่มีความเร่งรีบนั้นของจงอินอย่างชัดเจน
“ไปกินด้วยกันสิ” เซฮุนพูดเบาๆ ควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเหมือนที่เคยเป็น และถือว่าเขาทำสำเร็จแล้ว
“เซฮุน… ไม่ได้นัดใครไว้เหรอ” จงอินเอ่ยปากถามเบาๆ ก้มมองอีกคนตรงหน้าที่กางร่มให้เขาอย่างสงสัย
“เปล่า… เราไปกินคนเดียว” เซฮุนตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ นอกจากจะควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นได้แล้ว เขาก็พบว่าตัวเองโกหกเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“งั้น… เราขอไปกินด้วยแล้วกันนะ” จงอินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง มือหนาของเขาค่อยๆ คว้าร่มในมือเซฮุนมาเป็นคนถือเสียเอง
“ตัวเตี้ยกว่าแล้วยังจะอยากกางร่มให้อีก” เจ้าของคำพูดกระทุ้งไหล่เซฮุนเบาๆ อย่างเอ็นดู จงอินไม่เคยเจอเพื่อนผู้ชายที่นิสัยอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน ถึงแม้จะเพิ่งเจอ เพิ่งรู้จักก็เถอะ คนเป็นผู้ชายไม่ควรจะแสนดีขนาดนี้สิ
“ใครเตี้ยวะ” เซฮุนพูดเสียงแข็ง ถึงแม้ว่าใจจะอ่อนระทวยไปไกลแล้วก็ตาม
“แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลย” จงอินหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะที่ถูกเสียงฝนปรอยๆ กลบจนเกือบมิด แต่ก็ทำให้เซฮุนมีความสุขมากจนต้องหัวเราะตามออกมาและไม่ได้เถียงอะไรต่อ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้… วันที่เขาและจงอินได้อยู่ใต้ร่มเดียวกัน
“ว่าแต่วันนี้มีเรียนหรอ” เซฮุนถามจงอินหลังจากที่เขาทั้งสองเดินมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว
“อื้ม มีเรียน แต่ไม่ได้ไปเรียนน่ะสิ ฮ่ะๆ” จงอินหัวเราะแห้งๆ ราวกับว่ามีอะไรอยู่ในใจ เซฮุนเห็นสีหน้าจงอินไม่ค่อยดีตั้งแต่ที่เขายืนอยู่หน้าห้องเหมือนรออะไรบางอย่างแล้ว จึงตัดสินใจถามออกไปด้วยความเป็นห่วงและกังวลนิดๆ
“ทำไมล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าเพราะฝนตกเลยไปไม่ได้”
“เปล่า ไม่ใช่เพราะฝนหรอก” จงอินพูด ยิ้มแหยๆ ออกมาหนึ่งที
“เป็นเพราะคนมากกว่า”
“คน?” เซฮุนหันขวับ เลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่หลังจากที่รอคำตอบอยู่สักพักเล็กๆ แล้วจงอินเอาแต่ยิ้ม ไม่มีคำตอบใดๆ ออกมา เซฮุนจึงเดาได้ทันทีเลยว่า คนที่จงอินว่าคือใคร
… คนที่เซฮุนไม่อยากเจอหน้าที่สุด …
“อยากระบายอะไรรึเปล่า” เซฮุนพูดออกไปหลังจากที่เขาทั้งสองจมอยู่กับความเงียบมาเนิ่นนาน เซฮุนดีใจที่เขาและจงอินได้เดินใกล้ชิดกันจนจะหายใจรดกันได้แบบนี้ แต่เขากลับไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่เห็นจงอินเป็นแบบนี้
“ไม่มีอะไรหรอก” จงอินหันมายิ้มให้เจ้าของใบหน้ามน “ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ไม่มีก็ไม่มี… เอ้า ! ถึงร้านแล้ว นั่งก่อน” เซฮุนลากเก้าอี้ให้จงอินนั่ง ลืมเรื่องนัดกับชานยอลไว้เสียสนิท
“เห้ย!” พอนึกได้ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ ป่านนี้ชานยอลไม่รอแย่แล้วเหรอเนี่ย …
เซฮุนหยิบมือถือของตัวเองออกมาแล้วรีบกดส่งข้อความหาชานยอล เขาโกหกว่ามีเพื่อนยืมร่มไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ยังไม่เอามาคืน เขาเลยไปกินข้าวกับชานยอลไม่ได้ แล้วก็รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยด้วย อันที่จริงเหตุผลข้อหลังนี่มีไว้กันชานยอลมารับที่ห้อง เพราะชานยอลมีรถเก๋งคันหรูที่สามารถขับมารับเซฮุนไปไหนมาไหนได้ทุกเมื่อ
โชคดีที่ชานยอลยังไม่ได้ออกมา ชานยอลเลยส่งข้อความมาว่าไม่เป็นไร แถมยังบอกอีกว่าเดี๋ยวฝากรูมเมทซื้อก็ได้
“แฟนเหรอ?”
จงอินเอ่ยปากถามหลังจากที่ลอบมองร่างบางกดมือถือแล้วยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่นมาสักระยะแล้ว จงอินพลอยยิ้มตามไปด้วยเมื่อเห็นว่าเพื่อนใหม่ของตนมีมุมน่ารักๆ แบบนี้
“เห้ย แฟนเฟินอะไรกัน” เซฮุนรีบปัด
“หญิงเยอะ” จงอินยิ้มเจ้าเล่ห์กว่าเดิมอีก เซฮุนชักจะเกลียดรอยยิ้มแบบนี้แล้วสิ เพราะมันทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวและแรงอีกครั้ง และเขาเริ่มจะควบคุมความประหม่าของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
นึกว่าจะเก่งขึ้นแล้วเชียว… ที่ไหนได้ เจอยิ้มแบบนี้เข้าหน่อยก็ไปไม่เป็นเสียแล้ว
“ก็แค่… คุยๆ เฉยๆ นั่นแหละ” ครั้นจะตอบว่าไม่มีหญิง ไม่มีแฟนเลย มันก็จะดูเกินไปหน่อยสำหรับเซฮุนที่หน้าตาดีขนาดนี้ เซฮุนเลือกที่จะโกหกคำโตออกไปอีกครั้ง เขาแอบคิดว่าเขาเริ่มนิสัยเสียมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รู้จักกับคิม จงอินคนนี้ แต่เขาก็ยอมนิสัยเสียแบบนี้ถ้าจะทำให้จงอินจับผิดเขาไม่ได้
อันที่จริงก็มีผู้หญิงเข้าหาเซฮุนเยอะแยะอย่างที่จงอินเดาไว้นั่นแหละ … เพียงแต่เซฮุนไม่เคยเล่นด้วยเลยสักคนก็เท่านั้น
“แบ่งมาสักคนสองคนสิ” จงอินพูด สีหน้าเจ้าเล่ห์น้อยลงกว่าเดิม แต่คำพูดกลับบั่นทอนจิตใจเซฮุนมากกว่าเดิม
“หืม?” เซฮุนเลิกคิ้ว ถามอีกฝ่ายออกไปอย่างไม่คิด “แล้วแฟนจงอินล่ะ?”
“ช่างเขาเถอะ…” หลังจากที่ได้ยินคำถามไม่น่าภิรมย์เท่าไรนัก จงอินเลยเบือนหน้าหนีไปทางอื่น โชคดีที่ข้าวมาเสิร์ฟแล้วพอดี
“กินข้าวเหอะ” เซฮุนรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าสีหน้าของจงอินไม่สู้ดีเท่าไรนัก เขาพอจะคลำทางออกแล้วว่าตอนนี้จงอินกำลังทะเลาะกับแฟนสาวอยู่ ถึงแม้จะไม่สามารถเดาได้ว่าเรื่องอะไร แต่ดูจากสภาพและคำพูดคำจาของจงอินแล้ว คงเป็นไม่ใช่แค่การงอนกันธรรมดาๆ เป็นแน่
ไม่ว่าเซฮุนจะพยายามเลิกคิดเรื่องจงอินกับแฟนกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เซฮุนก็ไม่เคยทำมันได้เลย…
ภาพที่เจ็บปวดของจงอินกับแฟนสาววนเวียนอยู่ในหัว คอยหลอกหลอนเขาทุกคืนทุกวัน ภาพที่จงอินนอนกอดแฟนสาว ภาพที่จงอินอาบน้ำกับแฟน หรือทำอะไรๆ ร่วมกับแฟนในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่น … ถ้าหากเป็นเขา มันก็คงจะดี
ถ้าหากเป็นเขา… มันคงจะดีกว่านี้… รึเปล่า
“เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกล่ะเนี่ย” เซฮุนพูดขึ้นหลังจากที่เขาทั้งสองกินข้าวจนเกลี้ยงแล้ว ถึงแม้ว่าฝนจะเบาลงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย จงอินไม่ตอบอะไรแต่กลับเอื้อมแขนยาวๆ ของตัวเองโอบไหล่เซฮุนแทน
“ไปกันเถอะ รอฝนคงอีกนาน” จงอินพูดแล้วยิ้มอ่อนโยน เพราะรอยยิ้มแบบนี้ไง เซฮุนถึงได้แพ้ราบคาบไปเสียทุกที
ร่างเล็กประหม่าและพูดอะไรไม่ถูกเมื่อตนอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย เป็นอ้อมกอดที่ธรรมดาถ้าเทียบกับเพื่อนที่อยู่ใต้ร่มเดียวกันแบบนี้ เพราะเขาก็เคยทำกับชานยอลแบบนี้เหมือนกัน เป็นแค่อ้อมกอดที่บ่งบอกว่าไม่อยากเปียกฝนก็เลยเข้ามาในร่มให้มากกว่าเดิมก็เท่านั้น เขารู้ เขารู้ว่าจงอินคิดแบบนั้น แต่เขาไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้คิดไปไกลได้
ตอนนี้… เขาอยากจะหอมแก้มจงอินเหลือเกิน
“เห้ยกบ!” จงอินสะดุ้งโหยง ทำให้ความคิดลามกๆ ของเซฮุนกระเจิดกระเจิงออกไปหมด จากอารมณ์ฝันหวาน กลายเป็นอารมณ์ขำขันแทน เซฮุนโพล่งหัวเราะออกมากับความน่ารักของจงอินที่ดูจะกลัวกบมากเหลือเกิน
“ผู้ชายอะไรวะ กลัวกบ”
“ถึงจะเป็นผู้ชายแต่มันก็ต้องมีสัตว์สักตัวที่กลัวบ้างแหละน่า นายไม่มีเลยรึไง” จงอินพูดหลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้แล้ว เขาเองก็ตลกตัวเองเหมือนกันที่โวยวายขนาดนั้นต่อหน้าเพื่อนที่เพิ่งจะรู้จักแบบนี้
“ก็ไม่ค่อยมีนะ งูก็ไม่กลัว สัตว์เลื้อยคลานก็เฉยๆ จับได้สบาย” เซฮุนยืดอกอย่างภูมิใจ
“แหม่ แมนจริงๆ ครับพ่อคุณ” จงอินพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ ลึกๆ แล้วจงอินอยากจะไม่กลัวอะไรเลยแบบเซฮุนบ้างจัง ถึงภายนอกเขาจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในจงอินกลับเป็นผู้ชายที่จิตใจบอบบางมากทีเดียว และนี่ก็เป็นความจริงอีกข้อที่เซฮุนยังไม่รู้
“ไว้เจอกันนะ” และแล้ว เวลาที่เซฮุนไม่อยากให้ถึงก็มาถึงในที่สุด ถึงห้องของเขาทั้งสองคนจนได้ เซฮุนเป็นฝ่ายเอ่ยปากลาก่อนเพราะเขาไม่อยากได้ยินคำลาจากปากของจงอิน เขากลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ก็คงจะตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับจงอินคนนี้กระมัง…
“อื้ม” จงอินยิ้มบางอย่างที่เขาชอบทำเป็นประจำ แต่ยิ้มนั้นกลับเศร้าสร้อยจนเซฮุนรู้สึกได้ เขาคิดไปเองรึเปล่านะว่าจงอินยังไม่อยากแยกกับเขา หรือบางทีเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
“เซฮุน”
ร่างบางที่ทำทีไขประตูอย่างเชื่องช้าหันขวับไปหาเจ้าของเสียงเรียกนั้น จงอินเดินอ้อมกำแพงเตี้ยๆ ที่กั้นระหว่างห้องของเขาและห้องของเซฮุนมาอย่างช้าๆ ทำให้ร่างของคนตัวสูงกว่านั้นเปียกชุ่ม และในชุดมหาลัยที่ทั้งขาวและบางแบบนี้ ทำให้จงอินเซ็กซี่มากกว่าเดิมในสายตาของเซฮุน แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอะไรแบบนี้สินะ
“เห้ย เป็นอะไรรึเปล่า” เซฮุนถามเพราะสีหน้าของจงอินไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“เราขอ…” จงอินพูดแล้วหยุดเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาก้มมองพื้นเพราะไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
“ถ้าไม่รบกวน… เราขออยู่ห้องเซฮุนสักพักได้ไหม”
.
.
.
หลังจากที่เข้ามานั่งในห้องเรียบร้อย ร่างบางที่เป็นเจ้าของห้องก็รีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดผมยื่นให้จงอินทันทีเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นหวัด ใจจริงเขาก็อยากให้จงอินอาบน้ำเสียเลยด้วยซ้ำ แต่เขายังไม่อยากบังคับจงอินที่สภาพจิตใจย่ำแย่ในตอนนี้
“เช็ดเข้าสิ”
“ขอบใจนะเซฮุน” จงอินพูด รับผ้าขนหนูผืนเล็กมาแล้วยิ้มอย่างขอบคุณ
“ไม่รู้ว่าทำไมเนอะ …” เซฮุนเดินไปเปิดตู้เย็นชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินจงอินเอ่ยเริ่มต้นประโยค
“ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่เราสบายใจมากเลยเวลาอยู่กับเซฮุนน่ะ”
“………………” คำพูดของจงอินทำให้เซฮุนนิ่งเงียบและชะงักไปพักหนึ่ง เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของจงอิน และคิดว่าคงไม่มีวันได้ยินด้วย
“นี่ปกติเป็นคนพูดจาน้ำเน่าแบบนี้เหรอ” เซฮุนหัวเราะพลางถือวิสาสะเดินไปดันหัวจงอินเบาๆ อย่างสนิทสนม ถึงในใจจะเขินและรู้สึกดีกับคำพูดของจงอินมากแค่ไหน ที่สิ่งที่แสดงออกไปต้องสวนทางเสมอ
“ก็ใช่อ่ะดิ น้ำเน่าแบบนี้สาวๆ ถึงได้ติดไง” จงอินยกยิ้มมุมปาก เขารู้ว่าเซฮุนคงจะหมั่นไส้เขา แต่เขาเองก็หมั่นไส้เซฮุนเหมือนกันที่มาขัดคำพูดซึ้งๆ ของเขาแบบนั้น
“จะอ้วก”
ทั้งสองหัวเราะออกมากับคำพูดของกันและกัน เซฮุนเดินเข้าห้องน้ำไปล้างเท้าครู่หนึ่งและออกมาพบกับภาพที่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย … ตอนนี้จงอินกำลังปลดกระดุมออกทีละเม็ดจนเหลือเม็ดสุดท้ายแล้ว จงอินถอดเสื้อเชิ้ตมหาลัยสีขาวออกแล้วถามหาไม้แขวนจากเซฮุนอย่างไม่คิดอะไร เพราะนี่เป็นสิ่งปกติที่ผู้ชายเขาทำกันอยู่แล้ว
“ไม้แขวนอยู่ไหนล่ะ ขอตากเสื้อหน่อยนะ”
“โน่นแน่ะ … เดินไปหยิบเอาสิ” เซฮุนพยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองที่ตอนนี้เขาคาดว่ามันคงแดงระเรื่อ ด้วยความที่เป็นคนขาวมาก เวลาจะเขินจะอายอะไรมันก็ออกมาทางสีหน้าแบบนี้นี่แหละ เขาไม่ชอบเลย เขากลัว กลัวว่าจงอินจะรู้เข้าสักวันว่าเขาเขินจงอินมากแค่ไหน
และถ้าจงอินรู้… เขาก็คงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับจงอินแบบนี้อีก
เซฮุนเปิดทีวีทำลายความเงียบ เขาไม่ได้พูดอะไรมานานกว่าห้านาทีแล้วเพราะเหตุผลสองอย่าง หนึ่งคือเขาไม่รู้จะหาอะไรมาชวนจงอินคุย และสองคือเขายังคงหันไปสบตากับจงอินที่ท่อนบนเปลือยเปล่าอยู่แบบนี้ไม่ได้ เพราะมันจะทำให้หัวใจดวงเล็กๆ ดวงนี้ของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ซึ่งแน่นอนว่าน้ำหนักของเหตุผลข้อหลังนั้นมีมากกว่าข้อแรกอยู่มาก
หลังจากที่เอาแต่ดูทีวีอยู่พักใหญ่ เซฮุนค่อยๆ หันมาหาจงอินที่เงียบไปนานมากแล้วและตอนนี้เริ่มมีเสียงหายใจที่พ่นออกมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอกัน … จงอินคล้อยหลับไปเสียแล้ว
ภาพจงอินที่กำลังหลับใหลอยู่นั้นทำให้เซฮุนลืมสนใจทีวีไปเสียสนิท ราวกับเจ้าชายนิทราที่กำลังเข้าสู่ห้วงของความฝัน ผมนิ่มสวยที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝนปรกหน้าของจงอินจนเกือบจะมองไม่เห็นลูกตา เซฮุนค่อยๆ ยกมือเขี่ยผมที่เกะกะนั่นอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าคนที่กำลังหลับอยู่จะตื่น แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ … โอกาสแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหนกัน
กว่าสิบนาทีที่ดวงตาทั้งคู่ของร่างบางเอาแต่จับจ้องกับผู้ชายรูปงามราวกับเจ้าชายในนิยายอย่างไม่วางตา วินาทีนี้เซฮุนเริ่มเข้าใจแล้วว่าความรักมันเป็นยังไง … ความรักคือการจ้องมองคนๆ หนึ่งได้โดยไม่เบื่อไม่หน่าย ความรักคือการอยากดูแลอีกฝ่ายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ความรักคือการอยากอยู่ด้วยทุกเวลา ไม่อยากห่างจากกันไปไหน
ความรักของเซฮุน … คือ คิม จงอิน
“จงอิน… ไม่เป็นของคนอื่นไม่ได้เหรอ” พูดออกมาด้วยเสียงเบาที่สุดเท่าที่เคย ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกินในเวลาแบบนี้ ยิ่งมองใบหน้าของจงอินถึงแม้จะหลับใหล เขายิ่งรู้สึกอ่อนแอมากกว่าเดิม
อ่อนแอ… เสียจนอยากจะร้องไห้ออกมา
RRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrr ~~
และแล้วเสียงโทรศัพท์ของจงอินที่ดังขึ้นก็ทำลายบรรยากาศและความเงียบเสียกระเจิง เซฮุนสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบหยิบโทรศัพท์จงอินขึ้นมา ตอนนี้จงอินยังไม่ตื่นแต่ขยับตัวเล็กน้อย จะทำยังไงให้จงอินไม่ต้องตื่นมารับสายนี้ดี… เซฮุนได้แต่คิดในใจ พลางจ้องมองรูปและชื่อของคนที่กำลังโทรเข้ามาอย่างพินิจพิจารณา
“ขอโทษนะ”
ในที่สุดเซฮุนก็เลือกที่จะทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง ถึงมันจะไม่ดีเลยแม้แต่นิด แต่เซฮุนก็กดตัดสายแฟนสาวของจงอินทิ้งอย่างไม่ลังเลใจ เซฮุนทำมันลงไปแล้ว เขาทำเรื่องแบบนี้ลงไปแล้วจริงๆ
แต่เขาจะไม่ยอมให้จงอินรีบไปจากเขาเด็ดขาด… เขาจะตักตวงเวลานี้เอาไว้ให้นานเท่านาน
เขาไม่หวังให้ฝ่ายแฟนจงอินเข้าใจ เขาไม่อยากให้แฟนของจงอินรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็อดที่จะเก็บจงอินไว้แบบนี้คนเดียวไม่ได้ … ตอนนี้เซฮุนมีทั้งความรู้สึกผิด ลำบากใจ และสบายใจไปพร้อมๆ กัน
คงไม่ผิดเท่าไหร่กระมัง… หากคนเราจะอยากทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองรักแบบนี้…
.
.
.
หลังจากที่ผลอยหลับไปเกือบสองชั่วโมง จงอินก็ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงียราวกับหลับไปนาน ร่างสูงพบกับเซฮุนที่กำลังนั่งเล่นคอมอยู่อย่างสบายอกสบายใจเลยเรียกชื่อเจ้าของห้องด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
“เซฮุน”
“หลับไปซะนาน” เซฮุนยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่จงอินเรียกชื่อตนด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียและมันฟังดูเซ็กซี่ในความคิดของเขา แต่เขาตกใจเกินกว่าจะมานั่งเขิน เพราะตอนนี้เซฮุนกำลังนั่งส่องเฟสบุ๊คของแฟนจงอินอยู่น่ะสิ
“อื้ม หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เนี่ย” จงอินบิดขี้เกียจขับไล่ความง่วง มือหนาคว้ามือถือของตัวเองมาดูนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว พลันนึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“ไม่มีสักสายเลยเหรอ” จงอินพึมพำกับตัวเอง แต่เซฮุนกลับได้ยินมันชัดเจน เขารู้ดีว่าจงอินพูดถึงอะไร และเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของจงอิน
เซฮุนรู้ว่าเขากำลังทำให้คนรักผิดใจกันด้วยการตัดสายของเขาเมื่อตอนบ่าย และที่มั่นใจขนาดนี้เพราะเมื่อครู่แฟนสาวของจงอินอัพสถานะในเฟสบุ๊คระบายอารมณ์ตัวเองอย่างหงุดหงิด เนื้อความของสถานะนั้นพูดประมาณว่า เวลาที่ตนสนใจ จงอินก็ไม่สนใจ แล้วอย่างนี้จะมาเรียกร้องอะไรอีกไม่ได้นะ
“จะกลับเลยเหรอ” เซฮุนพูดเมื่อเห็นว่าจงอินหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาที่แขวนไว้ทำท่าจะสวม
“เปล่า…” คนฟังรู้สึกใจชื้นขึ้นทันทีที่จงอินยังไม่ได้จะกลับห้องตอนนี้ “แค่หนาวน่ะ”
“แล้วเสื้อมันยังไม่แห้งแบบนั้น จะใส่ให้หนาวกว่าเดิมทำไม” เซฮุนพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คแล้วเดินไปหยิบเสื้อของเขา เสื้อตัวโปรดที่เขาชอบใส่มากที่สุด ยื่นให้จงอินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ่ะ ใส่ของเราไปก่อน”
“สีสวยจัง” จงอินชมเปราะ ฝ่ายเซฮุนก็แอบดีใจที่จงอินชอบเสื้อของเขา และไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าจงอินใส่มันจะดูดีขนาดไหน
“เหมาะกับนายดีนะจงอิน” ทันทีที่จงอินสวมใส่มัน เซฮุนก็ฉีกยิ้มออกมาทันทีเพราะมันดูดีและเข้ากับจงอินมากๆ
“แน่นอนสิ คนหล่อ ใส่อะไรก็หล่อ ไม่ใส่ยิ่งหล่อ” จงอินพูดจาอย่างคนหลงตัวเองอีกครั้ง อารมณ์เขินของเซฮุนจะหายไปหมดก็เพราะคำพูดพวกนี้นั่นแหละนะ
“อยากเตะให้คว่ำจริงๆ” เซฮุนผลักหัวจงอิน พลันจงอินนึกขึ้นได้จึงพูดอะไรบางอย่างออกมา
“นี่ … รู้อะไรไหม เราไม่ชอบให้ใครเล่นหัวนะ” จงอินพูด ยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“อ้าว… เห้ย เราขอโทษ” เซฮุนเบิกตาเล็กน้อย รู้สึผิดขึ้นมาตะหงิด
“แต่เรากำลังจะบอกว่า เซฮุนเป็นคนที่สองที่เล่นได้โดยที่เราไม่รู้สึกโกรธเลย” จงอินยิ้มอ่อนโยน มือผลักแขนเซฮุนเบาๆ เมื่อเห็นท่าทีรู้สึกผิดของเซฮุน
“เห้ย ไม่เอาแล้วดีกว่า ไม่เล่นหัวแล้วก็ได้”
“ก็บอกว่าเล่นได้ไง” จงอินพูดน้ำเสียงดุ เซฮุนยังคงส่ายหน้า ร่างเล็กไม่อยากสร้างความรำคาญให้จงอิน อะไรที่จงอินไม่ชอบ เขาก็จะไม่ทำ
“ก็บอกว่าเล่นได้…” จงอินคว้ามือนิ่มของเซฮุนมาตบหัวตัวเองเบาๆ หลายๆ ที สร้างความตกใจและเขินอายให้กับเซฮุนในคราวเดียวกันเป็นอย่างมาก
“เห้ยๆๆ พอเลย” เซฮุนรีบดึงมือตัวเองกลับ จงอินหัวเราะอย่างชอบใจ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้คุยกันสนุกสนานไปกว่านี้ เสียงข้อความจากมือถือจงอินก็ดังขึ้น ทำให้ร่างสูงกว่าหันไปสนใจกับหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ แทน
“เราว่าเราต้องไปแล้วล่ะเซฮุน” สีหน้าที่ดูตระหนกของจงอินหลังจากที่เห็นข้อความสร้างความลำบากใจให้เซฮุนเป็นอย่างมาก แต่เขากลับไม่ได้ถามไถ่อะไรออกไป
“อื้ม เจอกัน” เขาทำได้เพียงยินยอมให้จงอินจากไป… เพื่อพบกับใครบางคนที่จงอินรัก… ก็เท่านั้น
“ไว้จะมากวนใหม่นะ” จงอินส่งยิ้มให้เซฮุนแบบลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน ทิ้งให้เซฮุนได้แต่ยิ้มกับตัวเองลำพังเมื่อนึกถึงสัมผัสจากมือหนาที่แสนจะอบอุ่นนั่นของจงอินเมื่อครู่
คนตัวบางเอาแต่นอนนึกถึงเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่ถึงครึ่งวัน แต่มันก็ทำให้เขามีความสุขได้ไม่น้อย และเขาคิดว่าความสุขนี้คงจะต่อชีวิตที่เหี่ยวเฉาของเขาไปได้อีกนานหลายวัน
‘kim jogin says : เซฮุน’
ดื่มด่ำกับห้วงความคิดแสนหวานของตัวเองอยู่นาน เสียงแจ้งเตือนจากมือถือก็ดังขึ้น ริมฝีปากเล็กยิ้มออกมาอัตโนมัติเมื่อพบว่าใครเป็นคนทักแชทเขามา … จะเป็นเรื่องอะไรเขาก็ขอดีใจไว้ก่อนเลยแล้วกัน
‘sehun says : ว่าไง’
‘kim jongin says : ทำไมไม่บอกเรา’
เซฮุนขมวดคิ้ว ความรู้สึกวิตกกังวลเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้เห็นข้อความแบบนั้นของจงอิน เขานึกไม่ออกว่าเขาทำอะไรผิด แต่พอทบทวนดีๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เขาตัดสายแฟนสาวของจงอิน หัวใจเซฮุนเต้นแรงอย่างคนมีความผิดติดตัว จงอินกำลังโกรธเขาอยู่หรือเปล่า เขากังวลเหลือเกิน
‘kim jongin says : แฟนเราโทรมาตั้งสองสาย ทำไมตัดสายไป’
‘sehun says : เราแค่เห็นว่าจงอินหลับ เลยไม่กล้าปลุก เลยตัดสายดีกว่า ขอโทษๆ’
‘kim jongin says : ช่างมันเถอะ ขอโทษไปแฟนเราก็ไม่หายโกรธ ตอนนี้แฟนเราออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้’
‘sehun says : เราขอโทษจริงๆ ก็ไม่รู้นี่ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้คงไม่ทำ’
ความรู้สึกผิดและกังวลของเซฮุนมีมากขึ้นทุกวินาที ใจเขาอยากจะออกไปขอโทษจงอินถึงห้องเสียเดี๋ยวนี้ แต่เขากลับไม่อยากสู้หน้าจงอินเพราะเขาไม่ได้ไม่รู้ แต่เขารู้อยู่เต็มอกว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ทำมันลงไป
ทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้ลงไป เพียงเพราะเหตุผลข้อเดียว…
จงอินอ่านข้อความสุดท้ายของเซฮุนนานแล้วแต่กลับไม่ตอบอะไรมาเลยแม้แต่ประโยคเดียว ยิ่งทำให้เซฮุนรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันคงไม่ได้ผิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดแบบนั้นแล้ว
เพราะการกระทำแย่ๆ เพียงครั้งเดียวของเขา อาจจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับจงอินตลอดไปเลยก็เป็นได้…
แล้วเซฮุนต้องทำยังไง เพื่อที่จะให้จงอินหายโกรธ… เซฮุนคนนี้ คนที่รักและอยากอยู่กับจงอินไปนานๆ จะต้องทำตัวยังไง เพื่อไม่ให้จงอินรู้สึกรำคาญใจเวลาเห็นหน้าเขาอีก
เขาไม่รู้เลย…
ทุกอย่างมันว่างเปล่าไปหมด ดวงตาของเขาเริ่มมองไม่เห็นอะไร เพราะน้ำใสๆ ที่รื้นขึ้นเต็มดวงตาคู่เล็กดวงนั้น ก่อนเจ้าตัวจะปล่อยให้มันไหลอาบแก้มลงมาโดยไม่ยกมือปาดมันแต่อย่างใด
ทำไมถึงทำอะไรไม่คิด… ทำไมถึงเห็นแก่ตัวแบบนี้นะ โอ เซฮุน …
เขาต้องทำยังไง ตอนนี้เขาต้องทำยังไง ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด สมองหยุดทำงาน เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว พอจะมีหนทางไหนไหมที่ทำให้จงอินไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขา และกลับมาคุยกับเขาเหมือนเดิม… เขาต้องทำยังไง … เขาต้องทำยังไง …
… เขาไม่รู้เลย …
- TO BE CONTINUED -
ความคิดเห็น