ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Fic } Knock! Knock! 「 KaiHun♥ 」

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 :: knock the tears

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 57


    เคาะประตู ... ด้วยน้ำตา




     

    เป็นอีกวันแล้วที่เซฮุนต้องตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะสายเรียกเข้าจากชานยอลเป็นเหตุ ถึงจะเคยชินแค่ไหน เซฮุนก็ยังไม่ชอบให้ใครโทรมาปลุกตัวเองที่กำลังนอนฝันดีในวันที่อากาศน่านอนแบบนี้หรอก วันนี้เป็นเช้าวันศุกร์ที่ฝนตก และเซฮุนกับชานยอลก็ไม่มีเรียน ฉะนั้น ชานยอลก็มีแค่เซฮุนคนเดียวเท่านั้นแหละที่พอจะลากออกมากินข้าวเป็นเพื่อนได้ เซฮุนตัดสินใจไม่อาบน้ำ ไม่เซ็ทผม ไม่ทาอะไรสักอย่างบนหน้าเพราะยังไงทุกอย่างก็ต้องสลายไปเพราะละอองฝนอยู่ดีถึงแม้จะกางร่มแบบนี้

     

     

    “เซฮุน จะออกไปไหนน่ะ?” เสียงที่เซฮุนคุ้นเคยและไม่ได้ยินมาสองสามวันดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นจงอินที่อยู่ห้องถัดไปจากเขา ยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองในชุดนักศึกษา

     

     

    ทันที่ทีเห็นจงอิน เซฮุนก็รู้สึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาที่ยังเดินไปไหนไม่ไกล และขอบคุณที่เวลาของเขาและจงอินตรงกันสักที หลังจากที่เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าและน้ำเสียงของจงอินมาเป็นเวลาสองสามวัน หมู่นี้เขาไม่ค่อยเห็นจงอินพาเจ้ามงกู หมาตัวน้อยมาเดินเล่นเลย อาจเป็นเพราะจงอินง่วนอยู่กับงานกระมัง

     

     

    “เรากำลังจะออกไปกินข้าวกั” เซฮุนที่กำลังจะเอ่ยปากพูดคำว่า กับชานยอลรีบกลืนคำพูดของตัวเองลงคอไปอย่างช้าๆ เพราะฉุกคิดได้ว่า ถ้าจงอินกำลังหาเพื่อนกินข้าวอยู่ เขาก็พร้อมที่จะไปเป็นเพื่อนและยกเลิกนัดกับชานยอลทันทีโดยไม่สนว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะรอนานและโกรธแค่ไหน

     

     

    เซฮุนไม่สนอะไรอยู่แล้ว ถ้าเขาได้ใกล้ชิดกับจงอิน เขาก็จะไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว

     

     

    “จงอินล่ะ กินข้าวรึยัง ดูเหมือนจะไปไหนเลยนะ” เซฮุนเดินเข้ามาใกล้จงอินที่ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องตัวเองอีกนิด เอ่ยปากถามด้วยความคาดหวัง หวังว่าคำตอบจะเป็นแบบที่เขาคิดเอาไว้

     

     

    “ยังไม่ได้กินเลย แล้วก็หิวอยู่พอดีเลยด้วย” จงอินตอบยิ้มๆ คำตอบเป็นไปตามคาดอย่างที่คนร่างบางกว่าคิดเอาไว้ จงอินทำทีชะเง้อมองท้องฟ้าที่กำลังร้องไห้เบาๆ ฝนตกปรอยๆ แบบนี้ และคนตรงหน้ามองท้องฟ้าแบบนี้ พูดว่าหิวแต่ไม่ยอมเดินไปไหนแบบนี้ มีอยู่กรณีเดียวเท่านั้นแหละ

     

     

    “ไม่มีร่มเหรอ” เซฮุนเอ่ยปากถาม คนตัวเล็กยิ้มบางๆ

     

     

    “อื้ม”

     

     

    เซฮุนถือโอกาสนี้เดินเข้ามายืนประชิดตัวจงอินพร้อมกับเอื้อมมือชูร่มเหนือหัวของจงอิน ตอนนี้ร่างบางกับร่างสูงยืนห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด ถึงแม้ว่าเสียงและลมฝนที่พัดผ่านเข้ามาจะกลบเสียงลมหายใจของจงอินและเซฮุนที่ใกล้กันจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่เซฮุนก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจอ่อนๆ ที่ดูจะเศร้าสร้อย และไม่มีความเร่งรีบนั้นของจงอินอย่างชัดเจน

     

     

    “ไปกินด้วยกันสิ” เซฮุนพูดเบาๆ ควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเหมือนที่เคยเป็น และถือว่าเขาทำสำเร็จแล้ว

     

     

    “เซฮุนไม่ได้นัดใครไว้เหรอ” จงอินเอ่ยปากถามเบาๆ ก้มมองอีกคนตรงหน้าที่กางร่มให้เขาอย่างสงสัย

     

     

    “เปล่า เราไปกินคนเดียว” เซฮุนตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ นอกจากจะควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นได้แล้ว เขาก็พบว่าตัวเองโกหกเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    “งั้น เราขอไปกินด้วยแล้วกันนะ” จงอินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง มือหนาของเขาค่อยๆ คว้าร่มในมือเซฮุนมาเป็นคนถือเสียเอง

     

     

    “ตัวเตี้ยกว่าแล้วยังจะอยากกางร่มให้อีก” เจ้าของคำพูดกระทุ้งไหล่เซฮุนเบาๆ อย่างเอ็นดู จงอินไม่เคยเจอเพื่อนผู้ชายที่นิสัยอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน ถึงแม้จะเพิ่งเจอ เพิ่งรู้จักก็เถอะ คนเป็นผู้ชายไม่ควรจะแสนดีขนาดนี้สิ

     

     

    “ใครเตี้ยวะ” เซฮุนพูดเสียงแข็ง ถึงแม้ว่าใจจะอ่อนระทวยไปไกลแล้วก็ตาม

     

     

    “แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลย” จงอินหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะที่ถูกเสียงฝนปรอยๆ กลบจนเกือบมิด แต่ก็ทำให้เซฮุนมีความสุขมากจนต้องหัวเราะตามออกมาและไม่ได้เถียงอะไรต่อ

     

     

    เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่เขาและจงอินได้อยู่ใต้ร่มเดียวกัน

     

     

    “ว่าแต่วันนี้มีเรียนหรอ” เซฮุนถามจงอินหลังจากที่เขาทั้งสองเดินมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว

     

     

    “อื้ม มีเรียน แต่ไม่ได้ไปเรียนน่ะสิ ฮ่ะๆ” จงอินหัวเราะแห้งๆ ราวกับว่ามีอะไรอยู่ในใจ เซฮุนเห็นสีหน้าจงอินไม่ค่อยดีตั้งแต่ที่เขายืนอยู่หน้าห้องเหมือนรออะไรบางอย่างแล้ว จึงตัดสินใจถามออกไปด้วยความเป็นห่วงและกังวลนิดๆ

     

     

    “ทำไมล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าเพราะฝนตกเลยไปไม่ได้”

     

     

    “เปล่า ไม่ใช่เพราะฝนหรอก” จงอินพูด ยิ้มแหยๆ ออกมาหนึ่งที

     

     

    “เป็นเพราะคนมากกว่า”

     

     

    “คน?” เซฮุนหันขวับ เลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่หลังจากที่รอคำตอบอยู่สักพักเล็กๆ แล้วจงอินเอาแต่ยิ้ม ไม่มีคำตอบใดๆ ออกมา เซฮุนจึงเดาได้ทันทีเลยว่า คนที่จงอินว่าคือใคร

     

     

    คนที่เซฮุนไม่อยากเจอหน้าที่สุด

     

     

    “อยากระบายอะไรรึเปล่า” เซฮุนพูดออกไปหลังจากที่เขาทั้งสองจมอยู่กับความเงียบมาเนิ่นนาน เซฮุนดีใจที่เขาและจงอินได้เดินใกล้ชิดกันจนจะหายใจรดกันได้แบบนี้ แต่เขากลับไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่เห็นจงอินเป็นแบบนี้

     

     

    “ไม่มีอะไรหรอก” จงอินหันมายิ้มให้เจ้าของใบหน้ามน “ไม่มีอะไรจริงๆ”

     

     

    “ไม่มีก็ไม่มี เอ้า ! ถึงร้านแล้ว นั่งก่อน” เซฮุนลากเก้าอี้ให้จงอินนั่ง ลืมเรื่องนัดกับชานยอลไว้เสียสนิท

     

     

    “เห้ย!” พอนึกได้ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ ป่านนี้ชานยอลไม่รอแย่แล้วเหรอเนี่ย

     

     

    เซฮุนหยิบมือถือของตัวเองออกมาแล้วรีบกดส่งข้อความหาชานยอล เขาโกหกว่ามีเพื่อนยืมร่มไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ยังไม่เอามาคืน เขาเลยไปกินข้าวกับชานยอลไม่ได้ แล้วก็รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยด้วย อันที่จริงเหตุผลข้อหลังนี่มีไว้กันชานยอลมารับที่ห้อง เพราะชานยอลมีรถเก๋งคันหรูที่สามารถขับมารับเซฮุนไปไหนมาไหนได้ทุกเมื่อ

     

     

    โชคดีที่ชานยอลยังไม่ได้ออกมา ชานยอลเลยส่งข้อความมาว่าไม่เป็นไร แถมยังบอกอีกว่าเดี๋ยวฝากรูมเมทซื้อก็ได้

     

     

    “แฟนเหรอ?”

     

     

    จงอินเอ่ยปากถามหลังจากที่ลอบมองร่างบางกดมือถือแล้วยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่นมาสักระยะแล้ว จงอินพลอยยิ้มตามไปด้วยเมื่อเห็นว่าเพื่อนใหม่ของตนมีมุมน่ารักๆ แบบนี้

     

     

    “เห้ย แฟนเฟินอะไรกัน” เซฮุนรีบปัด

     

     

    “หญิงเยอะ” จงอินยิ้มเจ้าเล่ห์กว่าเดิมอีก เซฮุนชักจะเกลียดรอยยิ้มแบบนี้แล้วสิ เพราะมันทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวและแรงอีกครั้ง และเขาเริ่มจะควบคุมความประหม่าของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

     

     

    นึกว่าจะเก่งขึ้นแล้วเชียว ที่ไหนได้ เจอยิ้มแบบนี้เข้าหน่อยก็ไปไม่เป็นเสียแล้ว

     

     

    “ก็แค่คุยๆ เฉยๆ นั่นแหละ” ครั้นจะตอบว่าไม่มีหญิง ไม่มีแฟนเลย มันก็จะดูเกินไปหน่อยสำหรับเซฮุนที่หน้าตาดีขนาดนี้ เซฮุนเลือกที่จะโกหกคำโตออกไปอีกครั้ง เขาแอบคิดว่าเขาเริ่มนิสัยเสียมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รู้จักกับคิม จงอินคนนี้ แต่เขาก็ยอมนิสัยเสียแบบนี้ถ้าจะทำให้จงอินจับผิดเขาไม่ได้

     

     

    อันที่จริงก็มีผู้หญิงเข้าหาเซฮุนเยอะแยะอย่างที่จงอินเดาไว้นั่นแหละ เพียงแต่เซฮุนไม่เคยเล่นด้วยเลยสักคนก็เท่านั้น

     

     

    “แบ่งมาสักคนสองคนสิ” จงอินพูด สีหน้าเจ้าเล่ห์น้อยลงกว่าเดิม แต่คำพูดกลับบั่นทอนจิตใจเซฮุนมากกว่าเดิม

     

     

    “หืม?” เซฮุนเลิกคิ้ว ถามอีกฝ่ายออกไปอย่างไม่คิด “แล้วแฟนจงอินล่ะ?”

     

     

    “ช่างเขาเถอะ” หลังจากที่ได้ยินคำถามไม่น่าภิรมย์เท่าไรนัก จงอินเลยเบือนหน้าหนีไปทางอื่น โชคดีที่ข้าวมาเสิร์ฟแล้วพอดี

     

     

    “กินข้าวเหอะ” เซฮุนรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าสีหน้าของจงอินไม่สู้ดีเท่าไรนัก เขาพอจะคลำทางออกแล้วว่าตอนนี้จงอินกำลังทะเลาะกับแฟนสาวอยู่ ถึงแม้จะไม่สามารถเดาได้ว่าเรื่องอะไร แต่ดูจากสภาพและคำพูดคำจาของจงอินแล้ว คงเป็นไม่ใช่แค่การงอนกันธรรมดาๆ เป็นแน่

     

     

    ไม่ว่าเซฮุนจะพยายามเลิกคิดเรื่องจงอินกับแฟนกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เซฮุนก็ไม่เคยทำมันได้เลย

     

     

    ภาพที่เจ็บปวดของจงอินกับแฟนสาววนเวียนอยู่ในหัว คอยหลอกหลอนเขาทุกคืนทุกวัน ภาพที่จงอินนอนกอดแฟนสาว ภาพที่จงอินอาบน้ำกับแฟน หรือทำอะไรๆ ร่วมกับแฟนในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่น ถ้าหากเป็นเขา มันก็คงจะดี

     

     

    ถ้าหากเป็นเขา มันคงจะดีกว่านี้ รึเปล่า

     

     

    “เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกล่ะเนี่ย” เซฮุนพูดขึ้นหลังจากที่เขาทั้งสองกินข้าวจนเกลี้ยงแล้ว ถึงแม้ว่าฝนจะเบาลงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย จงอินไม่ตอบอะไรแต่กลับเอื้อมแขนยาวๆ ของตัวเองโอบไหล่เซฮุนแทน

     

     

    “ไปกันเถอะ รอฝนคงอีกนาน” จงอินพูดแล้วยิ้มอ่อนโยน เพราะรอยยิ้มแบบนี้ไง เซฮุนถึงได้แพ้ราบคาบไปเสียทุกที

     

     

    ร่างเล็กประหม่าและพูดอะไรไม่ถูกเมื่อตนอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย เป็นอ้อมกอดที่ธรรมดาถ้าเทียบกับเพื่อนที่อยู่ใต้ร่มเดียวกันแบบนี้ เพราะเขาก็เคยทำกับชานยอลแบบนี้เหมือนกัน เป็นแค่อ้อมกอดที่บ่งบอกว่าไม่อยากเปียกฝนก็เลยเข้ามาในร่มให้มากกว่าเดิมก็เท่านั้น เขารู้ เขารู้ว่าจงอินคิดแบบนั้น แต่เขาไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้คิดไปไกลได้

     

     

    ตอนนี้ เขาอยากจะหอมแก้มจงอินเหลือเกิน

     

     

    “เห้ยกบ!” จงอินสะดุ้งโหยง ทำให้ความคิดลามกๆ ของเซฮุนกระเจิดกระเจิงออกไปหมด จากอารมณ์ฝันหวาน กลายเป็นอารมณ์ขำขันแทน เซฮุนโพล่งหัวเราะออกมากับความน่ารักของจงอินที่ดูจะกลัวกบมากเหลือเกิน

     

     

    “ผู้ชายอะไรวะ กลัวกบ”

     

     

    “ถึงจะเป็นผู้ชายแต่มันก็ต้องมีสัตว์สักตัวที่กลัวบ้างแหละน่า นายไม่มีเลยรึไง” จงอินพูดหลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้แล้ว เขาเองก็ตลกตัวเองเหมือนกันที่โวยวายขนาดนั้นต่อหน้าเพื่อนที่เพิ่งจะรู้จักแบบนี้

     

     

    “ก็ไม่ค่อยมีนะ งูก็ไม่กลัว สัตว์เลื้อยคลานก็เฉยๆ จับได้สบาย” เซฮุนยืดอกอย่างภูมิใจ

     

     

    “แหม่ แมนจริงๆ ครับพ่อคุณ” จงอินพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ ลึกๆ แล้วจงอินอยากจะไม่กลัวอะไรเลยแบบเซฮุนบ้างจัง ถึงภายนอกเขาจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในจงอินกลับเป็นผู้ชายที่จิตใจบอบบางมากทีเดียว และนี่ก็เป็นความจริงอีกข้อที่เซฮุนยังไม่รู้

     

     

    “ไว้เจอกันนะ” และแล้ว เวลาที่เซฮุนไม่อยากให้ถึงก็มาถึงในที่สุด ถึงห้องของเขาทั้งสองคนจนได้ เซฮุนเป็นฝ่ายเอ่ยปากลาก่อนเพราะเขาไม่อยากได้ยินคำลาจากปากของจงอิน เขากลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

     

    ก็คงจะตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับจงอินคนนี้กระมัง

     

     

    “อื้ม” จงอินยิ้มบางอย่างที่เขาชอบทำเป็นประจำ แต่ยิ้มนั้นกลับเศร้าสร้อยจนเซฮุนรู้สึกได้ เขาคิดไปเองรึเปล่านะว่าจงอินยังไม่อยากแยกกับเขา หรือบางทีเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้

     

     

    “เซฮุน”

     

     

    ร่างบางที่ทำทีไขประตูอย่างเชื่องช้าหันขวับไปหาเจ้าของเสียงเรียกนั้น จงอินเดินอ้อมกำแพงเตี้ยๆ ที่กั้นระหว่างห้องของเขาและห้องของเซฮุนมาอย่างช้าๆ ทำให้ร่างของคนตัวสูงกว่านั้นเปียกชุ่ม และในชุดมหาลัยที่ทั้งขาวและบางแบบนี้ ทำให้จงอินเซ็กซี่มากกว่าเดิมในสายตาของเซฮุน แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอะไรแบบนี้สินะ

     

     

    “เห้ย เป็นอะไรรึเปล่า” เซฮุนถามเพราะสีหน้าของจงอินไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

     

     

    “เราขอ” จงอินพูดแล้วหยุดเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาก้มมองพื้นเพราะไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

     

     

    “ถ้าไม่รบกวน เราขออยู่ห้องเซฮุนสักพักได้ไหม”

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    หลังจากที่เข้ามานั่งในห้องเรียบร้อย ร่างบางที่เป็นเจ้าของห้องก็รีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดผมยื่นให้จงอินทันทีเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นหวัด ใจจริงเขาก็อยากให้จงอินอาบน้ำเสียเลยด้วยซ้ำ แต่เขายังไม่อยากบังคับจงอินที่สภาพจิตใจย่ำแย่ในตอนนี้

     

     

    “เช็ดเข้าสิ”

     

     

    “ขอบใจนะเซฮุน” จงอินพูด รับผ้าขนหนูผืนเล็กมาแล้วยิ้มอย่างขอบคุณ

     

     

    “ไม่รู้ว่าทำไมเนอะ ” เซฮุนเดินไปเปิดตู้เย็นชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินจงอินเอ่ยเริ่มต้นประโยค

     

     

    “ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่เราสบายใจมากเลยเวลาอยู่กับเซฮุนน่ะ”

     

     

    ………………” คำพูดของจงอินทำให้เซฮุนนิ่งเงียบและชะงักไปพักหนึ่ง เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของจงอิน และคิดว่าคงไม่มีวันได้ยินด้วย

     

     

    “นี่ปกติเป็นคนพูดจาน้ำเน่าแบบนี้เหรอ” เซฮุนหัวเราะพลางถือวิสาสะเดินไปดันหัวจงอินเบาๆ อย่างสนิทสนม ถึงในใจจะเขินและรู้สึกดีกับคำพูดของจงอินมากแค่ไหน ที่สิ่งที่แสดงออกไปต้องสวนทางเสมอ

     

     

    “ก็ใช่อ่ะดิ น้ำเน่าแบบนี้สาวๆ ถึงได้ติดไง” จงอินยกยิ้มมุมปาก เขารู้ว่าเซฮุนคงจะหมั่นไส้เขา แต่เขาเองก็หมั่นไส้เซฮุนเหมือนกันที่มาขัดคำพูดซึ้งๆ ของเขาแบบนั้น

     

     

    “จะอ้วก”

     

     

    ทั้งสองหัวเราะออกมากับคำพูดของกันและกัน เซฮุนเดินเข้าห้องน้ำไปล้างเท้าครู่หนึ่งและออกมาพบกับภาพที่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย ตอนนี้จงอินกำลังปลดกระดุมออกทีละเม็ดจนเหลือเม็ดสุดท้ายแล้ว จงอินถอดเสื้อเชิ้ตมหาลัยสีขาวออกแล้วถามหาไม้แขวนจากเซฮุนอย่างไม่คิดอะไร เพราะนี่เป็นสิ่งปกติที่ผู้ชายเขาทำกันอยู่แล้ว

     

     

    “ไม้แขวนอยู่ไหนล่ะ ขอตากเสื้อหน่อยนะ”

     

     

    “โน่นแน่ะ เดินไปหยิบเอาสิ” เซฮุนพยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองที่ตอนนี้เขาคาดว่ามันคงแดงระเรื่อ ด้วยความที่เป็นคนขาวมาก เวลาจะเขินจะอายอะไรมันก็ออกมาทางสีหน้าแบบนี้นี่แหละ เขาไม่ชอบเลย เขากลัว กลัวว่าจงอินจะรู้เข้าสักวันว่าเขาเขินจงอินมากแค่ไหน

     

     

    และถ้าจงอินรู้เขาก็คงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับจงอินแบบนี้อีก

     

     

    เซฮุนเปิดทีวีทำลายความเงียบ เขาไม่ได้พูดอะไรมานานกว่าห้านาทีแล้วเพราะเหตุผลสองอย่าง หนึ่งคือเขาไม่รู้จะหาอะไรมาชวนจงอินคุย และสองคือเขายังคงหันไปสบตากับจงอินที่ท่อนบนเปลือยเปล่าอยู่แบบนี้ไม่ได้ เพราะมันจะทำให้หัวใจดวงเล็กๆ ดวงนี้ของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ซึ่งแน่นอนว่าน้ำหนักของเหตุผลข้อหลังนั้นมีมากกว่าข้อแรกอยู่มาก

     

     

    หลังจากที่เอาแต่ดูทีวีอยู่พักใหญ่ เซฮุนค่อยๆ หันมาหาจงอินที่เงียบไปนานมากแล้วและตอนนี้เริ่มมีเสียงหายใจที่พ่นออกมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอกัน จงอินคล้อยหลับไปเสียแล้ว

     

     

    ภาพจงอินที่กำลังหลับใหลอยู่นั้นทำให้เซฮุนลืมสนใจทีวีไปเสียสนิท ราวกับเจ้าชายนิทราที่กำลังเข้าสู่ห้วงของความฝัน ผมนิ่มสวยที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝนปรกหน้าของจงอินจนเกือบจะมองไม่เห็นลูกตา เซฮุนค่อยๆ ยกมือเขี่ยผมที่เกะกะนั่นอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าคนที่กำลังหลับอยู่จะตื่น แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ โอกาสแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหนกัน

     

     

    กว่าสิบนาทีที่ดวงตาทั้งคู่ของร่างบางเอาแต่จับจ้องกับผู้ชายรูปงามราวกับเจ้าชายในนิยายอย่างไม่วางตา วินาทีนี้เซฮุนเริ่มเข้าใจแล้วว่าความรักมันเป็นยังไง ความรักคือการจ้องมองคนๆ หนึ่งได้โดยไม่เบื่อไม่หน่าย ความรักคือการอยากดูแลอีกฝ่ายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ความรักคือการอยากอยู่ด้วยทุกเวลา ไม่อยากห่างจากกันไปไหน

     

     

    ความรักของเซฮุน คือ คิม จงอิน

     

     

    “จงอินไม่เป็นของคนอื่นไม่ได้เหรอ” พูดออกมาด้วยเสียงเบาที่สุดเท่าที่เคย ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกินในเวลาแบบนี้ ยิ่งมองใบหน้าของจงอินถึงแม้จะหลับใหล เขายิ่งรู้สึกอ่อนแอมากกว่าเดิม

     

     

    อ่อนแอ เสียจนอยากจะร้องไห้ออกมา

     

     

    RRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrr ~~

     

     

    และแล้วเสียงโทรศัพท์ของจงอินที่ดังขึ้นก็ทำลายบรรยากาศและความเงียบเสียกระเจิง เซฮุนสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบหยิบโทรศัพท์จงอินขึ้นมา ตอนนี้จงอินยังไม่ตื่นแต่ขยับตัวเล็กน้อย จะทำยังไงให้จงอินไม่ต้องตื่นมารับสายนี้ดี เซฮุนได้แต่คิดในใจ พลางจ้องมองรูปและชื่อของคนที่กำลังโทรเข้ามาอย่างพินิจพิจารณา

     

     

    “ขอโทษนะ”

     

     

    ในที่สุดเซฮุนก็เลือกที่จะทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง ถึงมันจะไม่ดีเลยแม้แต่นิด แต่เซฮุนก็กดตัดสายแฟนสาวของจงอินทิ้งอย่างไม่ลังเลใจ เซฮุนทำมันลงไปแล้ว เขาทำเรื่องแบบนี้ลงไปแล้วจริงๆ

     

     

    แต่เขาจะไม่ยอมให้จงอินรีบไปจากเขาเด็ดขาด เขาจะตักตวงเวลานี้เอาไว้ให้นานเท่านาน

     

     

    เขาไม่หวังให้ฝ่ายแฟนจงอินเข้าใจ เขาไม่อยากให้แฟนของจงอินรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็อดที่จะเก็บจงอินไว้แบบนี้คนเดียวไม่ได้ ตอนนี้เซฮุนมีทั้งความรู้สึกผิด ลำบากใจ และสบายใจไปพร้อมๆ กัน

     

     

    คงไม่ผิดเท่าไหร่กระมัง หากคนเราจะอยากทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองรักแบบนี้

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    หลังจากที่ผลอยหลับไปเกือบสองชั่วโมง จงอินก็ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงียราวกับหลับไปนาน ร่างสูงพบกับเซฮุนที่กำลังนั่งเล่นคอมอยู่อย่างสบายอกสบายใจเลยเรียกชื่อเจ้าของห้องด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย

     

     

    “เซฮุน”

     

     

    “หลับไปซะนาน” เซฮุนยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่จงอินเรียกชื่อตนด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียและมันฟังดูเซ็กซี่ในความคิดของเขา แต่เขาตกใจเกินกว่าจะมานั่งเขิน เพราะตอนนี้เซฮุนกำลังนั่งส่องเฟสบุ๊คของแฟนจงอินอยู่น่ะสิ

     

     

    “อื้ม หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เนี่ย” จงอินบิดขี้เกียจขับไล่ความง่วง มือหนาคว้ามือถือของตัวเองมาดูนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว พลันนึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

     

     

    “ไม่มีสักสายเลยเหรอ” จงอินพึมพำกับตัวเอง แต่เซฮุนกลับได้ยินมันชัดเจน เขารู้ดีว่าจงอินพูดถึงอะไร และเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของจงอิน

     

     

    เซฮุนรู้ว่าเขากำลังทำให้คนรักผิดใจกันด้วยการตัดสายของเขาเมื่อตอนบ่าย และที่มั่นใจขนาดนี้เพราะเมื่อครู่แฟนสาวของจงอินอัพสถานะในเฟสบุ๊คระบายอารมณ์ตัวเองอย่างหงุดหงิด เนื้อความของสถานะนั้นพูดประมาณว่า เวลาที่ตนสนใจ จงอินก็ไม่สนใจ แล้วอย่างนี้จะมาเรียกร้องอะไรอีกไม่ได้นะ

     

     

    “จะกลับเลยเหรอ” เซฮุนพูดเมื่อเห็นว่าจงอินหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาที่แขวนไว้ทำท่าจะสวม

     

     

    “เปล่า” คนฟังรู้สึกใจชื้นขึ้นทันทีที่จงอินยังไม่ได้จะกลับห้องตอนนี้ “แค่หนาวน่ะ”

     

     

    “แล้วเสื้อมันยังไม่แห้งแบบนั้น จะใส่ให้หนาวกว่าเดิมทำไม” เซฮุนพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คแล้วเดินไปหยิบเสื้อของเขา เสื้อตัวโปรดที่เขาชอบใส่มากที่สุด ยื่นให้จงอินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

     

    “อ่ะ ใส่ของเราไปก่อน”

     

     

    “สีสวยจัง” จงอินชมเปราะ ฝ่ายเซฮุนก็แอบดีใจที่จงอินชอบเสื้อของเขา และไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าจงอินใส่มันจะดูดีขนาดไหน

     

     

    “เหมาะกับนายดีนะจงอิน” ทันทีที่จงอินสวมใส่มัน เซฮุนก็ฉีกยิ้มออกมาทันทีเพราะมันดูดีและเข้ากับจงอินมากๆ

     

     

    “แน่นอนสิ คนหล่อ ใส่อะไรก็หล่อ ไม่ใส่ยิ่งหล่อ” จงอินพูดจาอย่างคนหลงตัวเองอีกครั้ง อารมณ์เขินของเซฮุนจะหายไปหมดก็เพราะคำพูดพวกนี้นั่นแหละนะ

     

     

    “อยากเตะให้คว่ำจริงๆ” เซฮุนผลักหัวจงอิน พลันจงอินนึกขึ้นได้จึงพูดอะไรบางอย่างออกมา

     

     

    “นี่ รู้อะไรไหม เราไม่ชอบให้ใครเล่นหัวนะ” จงอินพูด ยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่

     

     

    “อ้าว เห้ย เราขอโทษ” เซฮุนเบิกตาเล็กน้อย รู้สึผิดขึ้นมาตะหงิด

     

     

    “แต่เรากำลังจะบอกว่า เซฮุนเป็นคนที่สองที่เล่นได้โดยที่เราไม่รู้สึกโกรธเลย” จงอินยิ้มอ่อนโยน มือผลักแขนเซฮุนเบาๆ เมื่อเห็นท่าทีรู้สึกผิดของเซฮุน

     

     

    “เห้ย ไม่เอาแล้วดีกว่า ไม่เล่นหัวแล้วก็ได้”

     

     

    “ก็บอกว่าเล่นได้ไง” จงอินพูดน้ำเสียงดุ เซฮุนยังคงส่ายหน้า ร่างเล็กไม่อยากสร้างความรำคาญให้จงอิน อะไรที่จงอินไม่ชอบ เขาก็จะไม่ทำ

     

     

    “ก็บอกว่าเล่นได้” จงอินคว้ามือนิ่มของเซฮุนมาตบหัวตัวเองเบาๆ หลายๆ ที สร้างความตกใจและเขินอายให้กับเซฮุนในคราวเดียวกันเป็นอย่างมาก

     

     

    “เห้ยๆๆ พอเลย” เซฮุนรีบดึงมือตัวเองกลับ จงอินหัวเราะอย่างชอบใจ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้คุยกันสนุกสนานไปกว่านี้ เสียงข้อความจากมือถือจงอินก็ดังขึ้น ทำให้ร่างสูงกว่าหันไปสนใจกับหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ แทน

     

     

     

    “เราว่าเราต้องไปแล้วล่ะเซฮุน” สีหน้าที่ดูตระหนกของจงอินหลังจากที่เห็นข้อความสร้างความลำบากใจให้เซฮุนเป็นอย่างมาก แต่เขากลับไม่ได้ถามไถ่อะไรออกไป

     

     

    “อื้ม เจอกัน” เขาทำได้เพียงยินยอมให้จงอินจากไป เพื่อพบกับใครบางคนที่จงอินรัก ก็เท่านั้น

     

     

    “ไว้จะมากวนใหม่นะ” จงอินส่งยิ้มให้เซฮุนแบบลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน ทิ้งให้เซฮุนได้แต่ยิ้มกับตัวเองลำพังเมื่อนึกถึงสัมผัสจากมือหนาที่แสนจะอบอุ่นนั่นของจงอินเมื่อครู่

     

     

     

    คนตัวบางเอาแต่นอนนึกถึงเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่ถึงครึ่งวัน แต่มันก็ทำให้เขามีความสุขได้ไม่น้อย และเขาคิดว่าความสุขนี้คงจะต่อชีวิตที่เหี่ยวเฉาของเขาไปได้อีกนานหลายวัน

     

     

    ‘kim jogin says : เซฮุน

     

     

     

    ดื่มด่ำกับห้วงความคิดแสนหวานของตัวเองอยู่นาน เสียงแจ้งเตือนจากมือถือก็ดังขึ้น ริมฝีปากเล็กยิ้มออกมาอัตโนมัติเมื่อพบว่าใครเป็นคนทักแชทเขามา จะเป็นเรื่องอะไรเขาก็ขอดีใจไว้ก่อนเลยแล้วกัน

     

     

    ‘sehun says : ว่าไง

     

    ‘kim jongin says : ทำไมไม่บอกเรา

     

     

    เซฮุนขมวดคิ้ว ความรู้สึกวิตกกังวลเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้เห็นข้อความแบบนั้นของจงอิน เขานึกไม่ออกว่าเขาทำอะไรผิด แต่พอทบทวนดีๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เขาตัดสายแฟนสาวของจงอิน หัวใจเซฮุนเต้นแรงอย่างคนมีความผิดติดตัว จงอินกำลังโกรธเขาอยู่หรือเปล่า เขากังวลเหลือเกิน

     

     

    ‘kim jongin says : แฟนเราโทรมาตั้งสองสาย ทำไมตัดสายไป

     

    ‘sehun says : เราแค่เห็นว่าจงอินหลับ เลยไม่กล้าปลุก เลยตัดสายดีกว่า ขอโทษๆ

     

    ‘kim jongin says : ช่างมันเถอะ ขอโทษไปแฟนเราก็ไม่หายโกรธ ตอนนี้แฟนเราออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้

     

    ‘sehun says : เราขอโทษจริงๆ ก็ไม่รู้นี่ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้คงไม่ทำ

     

     

    ความรู้สึกผิดและกังวลของเซฮุนมีมากขึ้นทุกวินาที ใจเขาอยากจะออกไปขอโทษจงอินถึงห้องเสียเดี๋ยวนี้ แต่เขากลับไม่อยากสู้หน้าจงอินเพราะเขาไม่ได้ไม่รู้ แต่เขารู้อยู่เต็มอกว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ทำมันลงไป

     

     

    ทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้ลงไป เพียงเพราะเหตุผลข้อเดียว

     

     

    จงอินอ่านข้อความสุดท้ายของเซฮุนนานแล้วแต่กลับไม่ตอบอะไรมาเลยแม้แต่ประโยคเดียว ยิ่งทำให้เซฮุนรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันคงไม่ได้ผิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดแบบนั้นแล้ว

     

     

    เพราะการกระทำแย่ๆ เพียงครั้งเดียวของเขา อาจจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับจงอินตลอดไปเลยก็เป็นได้

     

     

    แล้วเซฮุนต้องทำยังไง เพื่อที่จะให้จงอินหายโกรธ เซฮุนคนนี้ คนที่รักและอยากอยู่กับจงอินไปนานๆ จะต้องทำตัวยังไง เพื่อไม่ให้จงอินรู้สึกรำคาญใจเวลาเห็นหน้าเขาอีก

     

     

    เขาไม่รู้เลย

     

     

    ทุกอย่างมันว่างเปล่าไปหมด ดวงตาของเขาเริ่มมองไม่เห็นอะไร เพราะน้ำใสๆ ที่รื้นขึ้นเต็มดวงตาคู่เล็กดวงนั้น ก่อนเจ้าตัวจะปล่อยให้มันไหลอาบแก้มลงมาโดยไม่ยกมือปาดมันแต่อย่างใด

     

     

    ทำไมถึงทำอะไรไม่คิดทำไมถึงเห็นแก่ตัวแบบนี้นะ โอ เซฮุน

     

     

    เขาต้องทำยังไง ตอนนี้เขาต้องทำยังไง ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด สมองหยุดทำงาน เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว พอจะมีหนทางไหนไหมที่ทำให้จงอินไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขา และกลับมาคุยกับเขาเหมือนเดิมเขาต้องทำยังไง เขาต้องทำยังไง

     

     

    เขาไม่รู้เลย



     

    - TO BE CONTINUED -

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×