คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6: ก้าวแรกของการเป็นเด็กแลกเปลี่ยนหลังจากฝันมา 8 ปีเต็ม
“เครื่องจะออกแล้ว กรุณารัดเข็มขัด”
หลังจากโบกมือลาป๊าม๊า พี่ชาย น้องสาว แฟน เพื่อน (มีเรอะ? - -)
ก็ใจหายหวิวๆ เมื่อคิดว่าต้องไปอยู่เมืองนอกครั้งแรกแปดเดือนเต็ม
เหยย เค้าว่าแปดเดือนเร็วแป๊บเดียว ไม่ถึงปีเดี๋ยวก็กลับ >__<~
ใจนึงก็ตื่นเต้น อีกใจนึงก็แอบกังวลนะ
แต่หลังจากขึ้นเครื่องเตรียมทะยานบิน ก็พยายามตัดความกังวลนั้นออกไปซะ
มุ่งมั่นตั้งใจว่า เอาล่ะ แปดเดือนที่มาแลกเปลี่ยนนี้
“จะต้องตั้งใจ พัฒนาภาษาให้เก่งๆ
แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ !“
หลังจากตั้งใจแน่วแน่ถึงมิชชั่นสำคัญที่จะต้องทำในอนาคตอันใกล้นี้ จากนั้นก็
.
.
.
ทำไรล่ะคะ นอนสิ
“คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
(หลับไปหนึ่งตื่น ต่อเครื่องที่ไต้หวัน ขึ้นใหม่หลับอีกจนถึง แม่~~ ทำไมชั้นไม่จองไฟล์ทรวดเดียวนะ - - )
ถึงจะบ่นอย่างงั้น แต่ด้วยความเป็นคนนอนง่าย ก็นอนไปเรื่อยๆจ้า
ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเราป่าวนะ แต่เราไม่เล่นเกม ไม่ฟังเพลงไรเลย ขึ้นปุ๊บหลับเรย ยาวด้วย - -
บางทีข้าวบนเครื่องก็ไม่กิน แอร์มาติดป้ายตลอด “ตื่นแล้วมาเรียกให้เสริฟนะค้า”
แต่ก็ดีอย่าง ไม่เมาเครื่องเรย แฮ่ ~
(ใครอยากเอาวิธีนี้ไปใช้ไม่สงวนสิทธิ์นะจ้า)~
นอกเรื่องอีกละ มาต่อ
หลังจากหลับๆตื่นๆ มาร่วมยี่สิบชั่วโมง (รวมเปลี่ยนเครื่อง)
ในที่สุด ก็มาถึงแคนาดา ประเทศที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะมาใช้ชีวิตที่นี่
(แต่ก่อนก็เหมือนเด็กมัธยมทั่วไปที่ฝันว่าจะไปแลกเปลี่ยนที่เมกา)
ระหว่างที่นั่งแท็กซี่รวมกับเพื่อนอีกสองคน ก็ทอดสายตาไปยังวิวนอกหน้าต่าง
“อา~~~~ นี่มันที่ไหนนะ อิกลู ใบเมเปิ้ล อากาศหนาวเย็น มันอยู่ไหนนะ - -?”
เด็กนอกมือใหม่พยายามหาส่วนที่เรียกว่า “แคนาดา” ในมโนของนาง
“ทุ่งนาแดนนี้ไม่มีความหมาย เหลือเพียงกลิ่นโคนสาบควายยย~~~”
ณ จุดๆนั้น มองไปทางไหนก็มีแต่หญ้าแห้ง
นี่ถ้าเปลี่ยนแท็กซี่เป็นรถจิ๊บ มีสัตว์ป่ากระโจนออกมา ชั้นคงนึกว่าตัวเองเป็นนายพรานมาล่ากวางสินะ - -
ขยายความนิดนึง เมืองที่เลือกมาอยู่ชื่อ Victoria ค่ะ
ถ้านั่งเฟอร์รี่จากแวนคูเวอร์ก็ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว เป็นเมืองน่าอยู่
สถาปัตยกรรมเป็นแบบอังกฤษ แต่เดิมมีคนอังกฤษอพยพมาอยู่เยอะ
เลือกที่นี่เพราะได้ยินมาว่าเป็นเมืองปลอดภัย คนใจดี (แหงสิ มีแต่ฝรั่งเกษียณ) แล้วที่สำคัญ
อากาศอบอุ่น!
อันนี้สำคัญมาก มากกว่าวิชาการ555
อาจเป็นเพราะว่าเป็นเกาะเล็กๆอยู่ใต้สุดของแคนาดาก็ว่าได้
แต่ถึงจะหนาวน้อยกว่าส่วนอื่นในแคนาดา (เช่น Alberta ลบสามสิบองศาชนิดต้องต่อท่อระหว่างตึกเรียน)
พอถึงหน้าหนาว หิมะก็ถมซะท่วมขาจนแทบออกจากหอไม่ได้เรยล่ะค่ะ
หลังจากนายพรานนั่งแท็กซี่มาเรื่อยๆ เข้าเขตมหาลัยก็พอใจชื้นได้หน่อย
เพราะจากหญ้าแห้งทุ่งสะวันน่า
ก็กลายเป็น หญ้าเขียว
.
.
.
(คนอ่าน: มันใช่ประเด็นเรอะ!)
credit: onedublin
เดี๋ยวสิ~ คือด้วยความที่มหาลัยอยู่ใกล้ป่าไง
จากแผนที่จะเห็นว่าส่วนในวงกลมคือพื้นที่มหาลัยใช่ป่ะ รอบๆมหาลัยมันก็จะมีป่าล้อมๆ
เป็นเขตเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้นานาๆพรรณ
และสัตว์ป่า
.
.
.
.
(คนอ่าน: หลอกชั้นอีกละ - -*)
จริงจริ้ง!!
ถ้าทุกคนเสริช University of Victoria ก็จะเจอว่า
นอกจากบรรดารูปตึกต่างๆในมหาลัยแล้ว
รูปที่มีจำนวนพอๆกัน (หรืออาจจะมากกว่า)
ก็คือ
“น้องกระต่าย”
credit: 3littlebirds
กระต่ายที่uvic มีเยอะมากกกก นอนตามสวนในมหาลัยเสมือนเป็นอาณาจักรของมัน ส่วนเราเป็นแค่แขก - -
ยิ่งหน้าหนาว หนีเข้าไปมุดในรูใต้ดิน ออกลูกออกหลาน เป็นกระต่ายน้อยน่ารัก >_<
นอนกันเกลื่อนกลาดถึงขนาดวัยรุ่นบางคนหมั่นไส้ รอทีเผลอแล้ววิ่งเข้าไปกลางฝูงกระต่าย
ให้มันตกใจตาลีตาเหลือกกระโดดหนีเล่น (เอ๊ะ พฤติกรรมคุ้นๆ)
จนมหาลัยต้องรณรงค์ กระต่ายเป็นสัตว์ป่าสงวน ห้ามไปวิ่งไล่มันนะจ้ะ
บ้างก็รณรงค์หาตังค์สมทบทุนทำนุบำรุงเผ่าพันธุ์กระต่าย ว่ากันไป
บางทีเจอปัญหาร้ายๆ กลับมาหน้าหอ เห็นนางกระต่ายยืนสองขาอยู่รอรับ ก็หายเหนื่อยนะ
(กระต่าย: จริงๆต่ายยืนขออาหารต่างหากฮ่ะ - -)
เอาเป็นว่า ถ้าปศุสัตว์มาล้างเผ่าพันธุ์น้องต่ายไปซักวัน uvic คงเงียบเหงาแย่
credit: wikipedia
อะ ลืมไปอีกละว่านิยายเราเป็นไดอารี่เรียนต่อนอกไมใช่ National geography
หลังจากพี่แท็กปล่อยเราลงหน้าหอตามที่เอาที่อยู่ให้ดูแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาจริงล่ะ
“ฟิ้วววว~~~~~~~~~”
ใบไม้แห้งพัดผ่านเด็กไทยสามคนที่มองไปยังตึกใหญ่มหึมาที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย
“อ่า
เราต้องไปติดต่อหอตรงไหนนะ -o-?” บีหนึ่งหันไปถามบีสองและบีสาม
สิ่งที่หลายๆคนอาจจะไม่ได้คิดก็คือ ออฟฟิสหอที่ต้องรายงานตัวอยู่ตรงไหน หลายคนๆว่า
“มันต้องอยู่ในหอสิ! มโนเสร็จสรรพ
เช่นเดียวกัน กองทัพกล้วยหอมจอมซนเลยส่งแนวร่วมหนึ่งคนเข้าไป โดยที่อีกสองคนเฝ้ากระเป๋าใบมหึมา ที่มีมากกว่าจำนวนคนอยู่ข้างนอก
ไม่นาน บีหนึ่งออกมาเรียกสหาย
"แม่บ้านเค้าบอกว่าออฟฟิสอยู่ตึกนู้นนนนนนนน"
กองทัพกล้วยหอมจอมซนก็เลยเคลื่อนตัวพร้อมกระเป๋ายักษ์ไปทิศทางที่ว่าอย่างทุลักทุเล
พร้อมสาบแช่งคนคิดที่แยกออฟฟิสกับหอคนละที่กัน
หลังจากรับกุญแจ ผ้าปู บัตรโรงอาหารของหอ (รูดปรื๊ดๆหักค่าอาหารจากบัตร)
ก็ได้เข้าห้องตัวเองซะที
โชคดีที่ได้หอที่เพิ่งสร้างใหม่ ห้องเลยสะอาดเอี่ยม
ห้องที่เลือกเป็นห้องเดี่ยว เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องรูมเมท ก็เลยเลือกอยู่คนเดียว
มองออกนอกหน้าต่างไปก็เป็นวิวสวน สนามอาบแดดของบรรดากระต่ายพอดี
หลังจากชื่นชมห้องแล้ว ก็จัดการลงข้าวของตัวเอง
แล้วก็ล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางยาวนานที่สุดในชีวิต..
(To be continued)
************************************************
พอนึกถึงหอที่แคนาดาแล้วก็อดเปรียบเทียบกับหอที่เกาหลีตอนนี้ไม่ได้เน้อ ㅜ.ㅜ
แต่อย่างว่าอยู่กับรูมเมท ต่างชาติต่างวัฒนธรรม ก็ต้องปรับตัวเข้าหากันเนอะ~
ช่วงนี้เมืองไทยฝนตกกันมั้ยน้อ~? ที่เกาหลีกำลังตกจั๊กๆเลย
สาวๆเลยใส่เรนบู้ทกันเกรียวกราว
ไว้มาอัพใหม่นะ^^!
ความคิดเห็น