ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คำสาปของเคน
ณ ราชวัง
"เจ้าว่าเรามีสิทธิ์จะชนะความชั่วร้ายไหม" กษัตริย์ถาม
"ครั้งหนึ่งท่านก็เคยพูดเช่นนี้แต่ในที่สุดเราก็ชนะ" กริมพูดให้กษัตริย์มั่นใจ
"แย่แล้วครับ" ชายผู้หนึ่งรีบร้อนมาเข้าเฝ้า
"กองทัพมาลาวีบุกแล้วครับ" ชายผู้นั้นพูดอย่างเสียใจ
"ว่าไงนะมันมากันเท่าไหร่แล้วใครเป็นแม่ทัพ" กษัตริย์ถาม
"มากันนับหมื่นกษัตริย์เมืองมาลาวีเป็นแม่ทัพ" ชายผู้นั้นรีบร้อนที่จะตอบ
"ครีนัส ธีฟ ไปใส่ชุดเกราะและนำทัพไปประจำสนาม ส่วนข้าจะไปจำคาถาและขอความช่วยเหลือจาก
เมืองบลูดอลฟิน" กษัตริย์มอบหมายหน้าที่
"แล้วข้าละ" กริมงง
"เจ้าพาเด็กกับผู้หญิงไปซ่อนในถ้ำเร็ว" กษัตริย์พูดอย่างรีบร้อน
"แต่ข้าอยากออกรบ" กริมพูดอย่างมั่นใจ
"เจ้าอย่าเพิ่งลืมคำสาปของเคนไปได้" กษัตริย์พูดมีเหตุผลจนกริมไม่สามารถโต้เถียง
ครีนัสและธีฟรีบสวมชุดเกราะและนำทัพไปยังสนามรบ แต่ข่าวร้ายในที่สุดก็มาถึงเมื่อกษัตริย์ออกมายังสนาม
ณ สนามรบ
"บลูดอลฟินพึ่งถูกตีแตกก่อนหน้าเราไปไม่นานจากกองทัพมาลาวีกองนี้เละ" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
"ท่านรู้ได้เช่นไร" ครีนัสถาม
"กองทัพบลูดอลฟินลี้ภัยมายังเมืองเราเพราะพ่ายแพ้สงคราม" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
"ข้าได้เชิญคนลี้ภัยให้ร่วมรบแล้ว" กษัตริย์ได้หาทางแก้ไว้แล้ว
"ท่านจะกล่าวปราศัยหน้าสนามรบไหม" ธีฟมาขัดจังหวะ
"ก็ดีเผื่อศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย" กษัตริย์พูดอย่างเบาๆ
กริมขัดคำสั่งของกษัตริย์แอบปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารรบ
"ฆ่ามันโดยไม่ต้องปราณี เพื่อเมืองคาร์ฟของเรา(เฮ้)ยมทูตรอเราอยู่แล้วปล่อยให้เขารอช้าหน่อยจะเป็นไรไป(เฮ้)"
พูดปราศัยไม่ทันจบกษัตริย์มาลาวีสั่งบุกทันที
"บุก...." กษัตริย์สั่งบุก
"ย๊าก"
กริมได้วิ่งเข้ามาหาครีนัสและธีฟ
"แข่งกันนับมั้ย" กริมพูดจนครีนัสและธีฟตกใจ
"เจ้ามาได้ไงเนี่ยกษัตริย์สั่งว่าห้ามมาไง" ครีนัสพูดอย่างตกใจ
"เจ้าไม่กลัวคำสาปของเคนมั้งเหรอ" ธีฟพูด
"ข้าไม่กลัว" กริมพูด
"เตรียมประจัญบาญได้แล้ว" กริมเตือน
เป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 เมืองที่ยิ่งใหญ่
"ป้อง แป้ง ป้อง แป้ง" เสียงดาบกระทบกันจนลั่นเมือง
ในที่สุดกษัตริย์มาลาวีได้ลงจากรถม้าอย่างเชื่องช้าเขาใส่เสื้อคลุมสีดำ หมวกเหล็กเป็นรูปงูเห่า5หัว เขาใส่หน้ากาก
ปิดหน้าปิดตา และถือคาทาขนาดยาวเท่าไม้เท้า
กษัตริย์มาลาวีได้เสกคาถาโดยใช่มือสองข้าจับลูกแก้วที่หัวไม้คาทา กริมและทุกคนจับตามองคาถาโดยไม่ทิ้งสายตา
"ฟิ้ว ฟิ้ว......." คาถาที่กษัตริย์มาลาวีเรียกเป็นคาถาธนูไฟลงมาจากฟ้านับร้อยดอก
"กริมทำอะไรสักอย่างดิ" ครีนัสเรียกร้อง
กริมใช้ดาบของตนชูขึ้นบนฟ้าแล้วท่องคาถา
"ฟูม ฟูม...." คาถาที่กริมใช้เป็นเหมือนสายฝนรวมเป็นเส้นเดียวกวาดธนูของกษัตริย์มาลาวีไม่เหลือสักดอก
กษัตริย์มาลาวีไม่พอใจได้ยืนมองกริม กษัตริย์คาร์ฟได้รู้ว่ากริมอยู่ที่นี่เพราะคาถาที่กริมใช้ เป็นคาถาประจำตระกูล
ของกริมที่สามารถหยิบของอันทรงพลังออกมาได้ กษัตริย์คาร์ฟรู้ว่ากษัตริย์มาลาวีไม่พอใจ จึงตัดสินใจกระโดดลง
จากรถม้าและพุ่งตรงไปหากษัตริย์มาลาวีเพื่อคุ้มกันกริมไม่ให้กษัตริย์มาลาวีลงไปสู้กับกริม
การต่อสู้ของกษัตริย์กับกษัตริย์ได้เริ่มขึ้น
"เปล เปล....." กษัตริย์ของคาร์ฟได้เริ่มใช้คาถาก่อนโดนเป็นพลังแสงโจมตีไปยังกษัตริย์มาลาวี
"หวืด แพร้ง...." กษัตริย์มาลาวีสร้างเกราะป้องกันโดยคาถาอย่ารวดเร็ว
กษัตริย์คาร์ฟ และกษัตริย์มาลาวีมีฝีมือเทียบเท่ากันมาก จึงไม่มีทีท่าว่าใครจะแพ้
การต่อสู้ในสมรภูมิแห่งการแย่งชิงดินแดนได้ยืดเยื้อยาวนานจนในที่สุด มีทหารม้าคนหนึ่งออกมาจากด้านมาลาวี
กริมรู้สึกแปลกใจว่ามีทหารม้ามาทำไมทั้งๆที่สงครามได้เริ่มนานแล้ว ทหารม้าคนนั้นใส่ชุดเกราะสีแดง หมวกเหล็ก
สีแดง หมวกมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์ มีอาวุธเป็นธนู และดาบ ชายคนนั้นได้ลงจากม้าและเล็งธนูจะยิงไปหา
กษัตริย์คาร์ฟ
กริมเห็นเช่นนั้นไม่รีรอใจใช้ดาบชี้ไปทางชายคนนั้นใช่คาถาดาบร้อยเล่ม ชายผู้นั้นหลบทันและหันมามองกริม
พร้อมกับชักดาบออกมา และวิ่งไปหากริม กริมได้ปะทะดาบกับเขา แต่ในใจเขากำลังคิดว่าชายคนนี้ผู้ถือธนู
จะเป็นคนที่เคนได้สาปแช่ง กริมจึงหาทางแก้ด้วยการฉวยโอกาสหักคันธนู เมื่อหักคันธนูกริมได้โล่งใจและสู้กับ
ชายคนนั้น พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าชายคนนั้นเป็นถึงขุนนางของกษัตริย์มาลาวี เพราะดูจากชุดเกราะที่ใช้ และฝีมือ
ปรากฎว่ากริมได้ใช้ดาบของตนฟันที่คออย่างเฉียดๆ ขุนนางคนนั้นได้ล้มไป กริมหันหลังกลับไปสู้กับคนอื่น
แต่ขุนนางนั้นฉวยโอกาสใช้ลูกธนูปักที่ต้นขา ทันใดนั้นตัวกริมได้มีเลือดออกทั่วร่างกาย กริมรู้ทันทีว่านี่เป็น
ธนูเล็บอินทรีย์ที่เป่าคาถาของกษัตริย์มาลาวี
กษัตริย์คาร์ฟเห็นกริมถูกธนูของกษัตริย์มาลาวีจึงตัดสินใจใช้ระเบิดควันทำให้กษัตริย์มาลาวีกลายเป็นกระดูก
กษัตริย์คาร์ฟได้ชัยชนะจากการสู้กับกษัตริย์มาลาวี และทำให้ทัพมาลาวีถอยกลับ กษัตริย์คาร์ฟวิ่งเข้าไปหากริม
และใช้หินเป่าคาถาให้กริมอมไว้เพื่อหยุดการไหลของเลือด
"กริมเจ้าเป็นอะไรไหม" กษัตริย์ตรัสด้วยความเป็นห่วง
"ข้าอยากเจอหน้าลูกข้า" กริมอยากพูดก่อนตาย
กษัตริย์ได้สั่งย้ายร่างของกริมไปอยู่ในห้องของหมอ
"ข้าอยากเจอหน้าลูกชาย" กริมพูดกับหมอ
"ได้เดี๋ยวข้าตามมาให้" หมอได้พูดกับกริม
"เจ้าว่าเรามีสิทธิ์จะชนะความชั่วร้ายไหม" กษัตริย์ถาม
"ครั้งหนึ่งท่านก็เคยพูดเช่นนี้แต่ในที่สุดเราก็ชนะ" กริมพูดให้กษัตริย์มั่นใจ
"แย่แล้วครับ" ชายผู้หนึ่งรีบร้อนมาเข้าเฝ้า
"กองทัพมาลาวีบุกแล้วครับ" ชายผู้นั้นพูดอย่างเสียใจ
"ว่าไงนะมันมากันเท่าไหร่แล้วใครเป็นแม่ทัพ" กษัตริย์ถาม
"มากันนับหมื่นกษัตริย์เมืองมาลาวีเป็นแม่ทัพ" ชายผู้นั้นรีบร้อนที่จะตอบ
"ครีนัส ธีฟ ไปใส่ชุดเกราะและนำทัพไปประจำสนาม ส่วนข้าจะไปจำคาถาและขอความช่วยเหลือจาก
เมืองบลูดอลฟิน" กษัตริย์มอบหมายหน้าที่
"แล้วข้าละ" กริมงง
"เจ้าพาเด็กกับผู้หญิงไปซ่อนในถ้ำเร็ว" กษัตริย์พูดอย่างรีบร้อน
"แต่ข้าอยากออกรบ" กริมพูดอย่างมั่นใจ
"เจ้าอย่าเพิ่งลืมคำสาปของเคนไปได้" กษัตริย์พูดมีเหตุผลจนกริมไม่สามารถโต้เถียง
ครีนัสและธีฟรีบสวมชุดเกราะและนำทัพไปยังสนามรบ แต่ข่าวร้ายในที่สุดก็มาถึงเมื่อกษัตริย์ออกมายังสนาม
ณ สนามรบ
"บลูดอลฟินพึ่งถูกตีแตกก่อนหน้าเราไปไม่นานจากกองทัพมาลาวีกองนี้เละ" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
"ท่านรู้ได้เช่นไร" ครีนัสถาม
"กองทัพบลูดอลฟินลี้ภัยมายังเมืองเราเพราะพ่ายแพ้สงคราม" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
"ข้าได้เชิญคนลี้ภัยให้ร่วมรบแล้ว" กษัตริย์ได้หาทางแก้ไว้แล้ว
"ท่านจะกล่าวปราศัยหน้าสนามรบไหม" ธีฟมาขัดจังหวะ
"ก็ดีเผื่อศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย" กษัตริย์พูดอย่างเบาๆ
กริมขัดคำสั่งของกษัตริย์แอบปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารรบ
"ฆ่ามันโดยไม่ต้องปราณี เพื่อเมืองคาร์ฟของเรา(เฮ้)ยมทูตรอเราอยู่แล้วปล่อยให้เขารอช้าหน่อยจะเป็นไรไป(เฮ้)"
พูดปราศัยไม่ทันจบกษัตริย์มาลาวีสั่งบุกทันที
"บุก...." กษัตริย์สั่งบุก
"ย๊าก"
กริมได้วิ่งเข้ามาหาครีนัสและธีฟ
"แข่งกันนับมั้ย" กริมพูดจนครีนัสและธีฟตกใจ
"เจ้ามาได้ไงเนี่ยกษัตริย์สั่งว่าห้ามมาไง" ครีนัสพูดอย่างตกใจ
"เจ้าไม่กลัวคำสาปของเคนมั้งเหรอ" ธีฟพูด
"ข้าไม่กลัว" กริมพูด
"เตรียมประจัญบาญได้แล้ว" กริมเตือน
เป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 เมืองที่ยิ่งใหญ่
"ป้อง แป้ง ป้อง แป้ง" เสียงดาบกระทบกันจนลั่นเมือง
ในที่สุดกษัตริย์มาลาวีได้ลงจากรถม้าอย่างเชื่องช้าเขาใส่เสื้อคลุมสีดำ หมวกเหล็กเป็นรูปงูเห่า5หัว เขาใส่หน้ากาก
ปิดหน้าปิดตา และถือคาทาขนาดยาวเท่าไม้เท้า
กษัตริย์มาลาวีได้เสกคาถาโดยใช่มือสองข้าจับลูกแก้วที่หัวไม้คาทา กริมและทุกคนจับตามองคาถาโดยไม่ทิ้งสายตา
"ฟิ้ว ฟิ้ว......." คาถาที่กษัตริย์มาลาวีเรียกเป็นคาถาธนูไฟลงมาจากฟ้านับร้อยดอก
"กริมทำอะไรสักอย่างดิ" ครีนัสเรียกร้อง
กริมใช้ดาบของตนชูขึ้นบนฟ้าแล้วท่องคาถา
"ฟูม ฟูม...." คาถาที่กริมใช้เป็นเหมือนสายฝนรวมเป็นเส้นเดียวกวาดธนูของกษัตริย์มาลาวีไม่เหลือสักดอก
กษัตริย์มาลาวีไม่พอใจได้ยืนมองกริม กษัตริย์คาร์ฟได้รู้ว่ากริมอยู่ที่นี่เพราะคาถาที่กริมใช้ เป็นคาถาประจำตระกูล
ของกริมที่สามารถหยิบของอันทรงพลังออกมาได้ กษัตริย์คาร์ฟรู้ว่ากษัตริย์มาลาวีไม่พอใจ จึงตัดสินใจกระโดดลง
จากรถม้าและพุ่งตรงไปหากษัตริย์มาลาวีเพื่อคุ้มกันกริมไม่ให้กษัตริย์มาลาวีลงไปสู้กับกริม
การต่อสู้ของกษัตริย์กับกษัตริย์ได้เริ่มขึ้น
"เปล เปล....." กษัตริย์ของคาร์ฟได้เริ่มใช้คาถาก่อนโดนเป็นพลังแสงโจมตีไปยังกษัตริย์มาลาวี
"หวืด แพร้ง...." กษัตริย์มาลาวีสร้างเกราะป้องกันโดยคาถาอย่ารวดเร็ว
กษัตริย์คาร์ฟ และกษัตริย์มาลาวีมีฝีมือเทียบเท่ากันมาก จึงไม่มีทีท่าว่าใครจะแพ้
การต่อสู้ในสมรภูมิแห่งการแย่งชิงดินแดนได้ยืดเยื้อยาวนานจนในที่สุด มีทหารม้าคนหนึ่งออกมาจากด้านมาลาวี
กริมรู้สึกแปลกใจว่ามีทหารม้ามาทำไมทั้งๆที่สงครามได้เริ่มนานแล้ว ทหารม้าคนนั้นใส่ชุดเกราะสีแดง หมวกเหล็ก
สีแดง หมวกมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์ มีอาวุธเป็นธนู และดาบ ชายคนนั้นได้ลงจากม้าและเล็งธนูจะยิงไปหา
กษัตริย์คาร์ฟ
กริมเห็นเช่นนั้นไม่รีรอใจใช้ดาบชี้ไปทางชายคนนั้นใช่คาถาดาบร้อยเล่ม ชายผู้นั้นหลบทันและหันมามองกริม
พร้อมกับชักดาบออกมา และวิ่งไปหากริม กริมได้ปะทะดาบกับเขา แต่ในใจเขากำลังคิดว่าชายคนนี้ผู้ถือธนู
จะเป็นคนที่เคนได้สาปแช่ง กริมจึงหาทางแก้ด้วยการฉวยโอกาสหักคันธนู เมื่อหักคันธนูกริมได้โล่งใจและสู้กับ
ชายคนนั้น พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าชายคนนั้นเป็นถึงขุนนางของกษัตริย์มาลาวี เพราะดูจากชุดเกราะที่ใช้ และฝีมือ
ปรากฎว่ากริมได้ใช้ดาบของตนฟันที่คออย่างเฉียดๆ ขุนนางคนนั้นได้ล้มไป กริมหันหลังกลับไปสู้กับคนอื่น
แต่ขุนนางนั้นฉวยโอกาสใช้ลูกธนูปักที่ต้นขา ทันใดนั้นตัวกริมได้มีเลือดออกทั่วร่างกาย กริมรู้ทันทีว่านี่เป็น
ธนูเล็บอินทรีย์ที่เป่าคาถาของกษัตริย์มาลาวี
กษัตริย์คาร์ฟเห็นกริมถูกธนูของกษัตริย์มาลาวีจึงตัดสินใจใช้ระเบิดควันทำให้กษัตริย์มาลาวีกลายเป็นกระดูก
กษัตริย์คาร์ฟได้ชัยชนะจากการสู้กับกษัตริย์มาลาวี และทำให้ทัพมาลาวีถอยกลับ กษัตริย์คาร์ฟวิ่งเข้าไปหากริม
และใช้หินเป่าคาถาให้กริมอมไว้เพื่อหยุดการไหลของเลือด
"กริมเจ้าเป็นอะไรไหม" กษัตริย์ตรัสด้วยความเป็นห่วง
"ข้าอยากเจอหน้าลูกข้า" กริมอยากพูดก่อนตาย
กษัตริย์ได้สั่งย้ายร่างของกริมไปอยู่ในห้องของหมอ
"ข้าอยากเจอหน้าลูกชาย" กริมพูดกับหมอ
"ได้เดี๋ยวข้าตามมาให้" หมอได้พูดกับกริม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น