ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Final in Draem

    ลำดับตอนที่ #2 : คำสาปของเคน

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 49


    ณ ราชวัง
     "เจ้าว่าเรามีสิทธิ์จะชนะความชั่วร้ายไหม" กษัตริย์ถาม
     "ครั้งหนึ่งท่านก็เคยพูดเช่นนี้แต่ในที่สุดเราก็ชนะ" กริมพูดให้กษัตริย์มั่นใจ
     "แย่แล้วครับ" ชายผู้หนึ่งรีบร้อนมาเข้าเฝ้า
     "กองทัพมาลาวีบุกแล้วครับ" ชายผู้นั้นพูดอย่างเสียใจ
     "ว่าไงนะมันมากันเท่าไหร่แล้วใครเป็นแม่ทัพ" กษัตริย์ถาม
     "มากันนับหมื่นกษัตริย์เมืองมาลาวีเป็นแม่ทัพ" ชายผู้นั้นรีบร้อนที่จะตอบ
     "ครีนัส ธีฟ ไปใส่ชุดเกราะและนำทัพไปประจำสนาม ส่วนข้าจะไปจำคาถาและขอความช่วยเหลือจาก
    เมืองบลูดอลฟิน" กษัตริย์มอบหมายหน้าที่
     "แล้วข้าละ" กริมงง
     "เจ้าพาเด็กกับผู้หญิงไปซ่อนในถ้ำเร็ว" กษัตริย์พูดอย่างรีบร้อน
     "แต่ข้าอยากออกรบ" กริมพูดอย่างมั่นใจ
     "เจ้าอย่าเพิ่งลืมคำสาปของเคนไปได้" กษัตริย์พูดมีเหตุผลจนกริมไม่สามารถโต้เถียง
     ครีนัสและธีฟรีบสวมชุดเกราะและนำทัพไปยังสนามรบ แต่ข่าวร้ายในที่สุดก็มาถึงเมื่อกษัตริย์ออกมายังสนาม
     ณ สนามรบ
    "บลูดอลฟินพึ่งถูกตีแตกก่อนหน้าเราไปไม่นานจากกองทัพมาลาวีกองนี้เละ" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
     "ท่านรู้ได้เช่นไร" ครีนัสถาม
     "กองทัพบลูดอลฟินลี้ภัยมายังเมืองเราเพราะพ่ายแพ้สงคราม" กษัตริย์พูดอย่างเศร้า
     "ข้าได้เชิญคนลี้ภัยให้ร่วมรบแล้ว" กษัตริย์ได้หาทางแก้ไว้แล้ว
     "ท่านจะกล่าวปราศัยหน้าสนามรบไหม" ธีฟมาขัดจังหวะ
     "ก็ดีเผื่อศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย" กษัตริย์พูดอย่างเบาๆ
     กริมขัดคำสั่งของกษัตริย์แอบปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารรบ
     "ฆ่ามันโดยไม่ต้องปราณี เพื่อเมืองคาร์ฟของเรา(เฮ้)ยมทูตรอเราอยู่แล้วปล่อยให้เขารอช้าหน่อยจะเป็นไรไป(เฮ้)"
    พูดปราศัยไม่ทันจบกษัตริย์มาลาวีสั่งบุกทันที
     "บุก...." กษัตริย์สั่งบุก
     "ย๊าก"
     กริมได้วิ่งเข้ามาหาครีนัสและธีฟ
     "แข่งกันนับมั้ย" กริมพูดจนครีนัสและธีฟตกใจ
     "เจ้ามาได้ไงเนี่ยกษัตริย์สั่งว่าห้ามมาไง" ครีนัสพูดอย่างตกใจ
     "เจ้าไม่กลัวคำสาปของเคนมั้งเหรอ" ธีฟพูด
     "ข้าไม่กลัว" กริมพูด
     "เตรียมประจัญบาญได้แล้ว" กริมเตือน
     เป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 เมืองที่ยิ่งใหญ่
     "ป้อง แป้ง ป้อง แป้ง" เสียงดาบกระทบกันจนลั่นเมือง
     ในที่สุดกษัตริย์มาลาวีได้ลงจากรถม้าอย่างเชื่องช้าเขาใส่เสื้อคลุมสีดำ หมวกเหล็กเป็นรูปงูเห่า5หัว เขาใส่หน้ากาก
    ปิดหน้าปิดตา และถือคาทาขนาดยาวเท่าไม้เท้า
     กษัตริย์มาลาวีได้เสกคาถาโดยใช่มือสองข้าจับลูกแก้วที่หัวไม้คาทา กริมและทุกคนจับตามองคาถาโดยไม่ทิ้งสายตา
     "ฟิ้ว ฟิ้ว......." คาถาที่กษัตริย์มาลาวีเรียกเป็นคาถาธนูไฟลงมาจากฟ้านับร้อยดอก
     "กริมทำอะไรสักอย่างดิ" ครีนัสเรียกร้อง
     กริมใช้ดาบของตนชูขึ้นบนฟ้าแล้วท่องคาถา
     "ฟูม ฟูม...." คาถาที่กริมใช้เป็นเหมือนสายฝนรวมเป็นเส้นเดียวกวาดธนูของกษัตริย์มาลาวีไม่เหลือสักดอก
     กษัตริย์มาลาวีไม่พอใจได้ยืนมองกริม กษัตริย์คาร์ฟได้รู้ว่ากริมอยู่ที่นี่เพราะคาถาที่กริมใช้ เป็นคาถาประจำตระกูล
    ของกริมที่สามารถหยิบของอันทรงพลังออกมาได้ กษัตริย์คาร์ฟรู้ว่ากษัตริย์มาลาวีไม่พอใจ จึงตัดสินใจกระโดดลง
    จากรถม้าและพุ่งตรงไปหากษัตริย์มาลาวีเพื่อคุ้มกันกริมไม่ให้กษัตริย์มาลาวีลงไปสู้กับกริม
     การต่อสู้ของกษัตริย์กับกษัตริย์ได้เริ่มขึ้น
     "เปล เปล....." กษัตริย์ของคาร์ฟได้เริ่มใช้คาถาก่อนโดนเป็นพลังแสงโจมตีไปยังกษัตริย์มาลาวี
     "หวืด แพร้ง...." กษัตริย์มาลาวีสร้างเกราะป้องกันโดยคาถาอย่ารวดเร็ว
     กษัตริย์คาร์ฟ และกษัตริย์มาลาวีมีฝีมือเทียบเท่ากันมาก จึงไม่มีทีท่าว่าใครจะแพ้
    การต่อสู้ในสมรภูมิแห่งการแย่งชิงดินแดนได้ยืดเยื้อยาวนานจนในที่สุด มีทหารม้าคนหนึ่งออกมาจากด้านมาลาวี
    กริมรู้สึกแปลกใจว่ามีทหารม้ามาทำไมทั้งๆที่สงครามได้เริ่มนานแล้ว ทหารม้าคนนั้นใส่ชุดเกราะสีแดง หมวกเหล็ก
    สีแดง หมวกมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์ มีอาวุธเป็นธนู และดาบ ชายคนนั้นได้ลงจากม้าและเล็งธนูจะยิงไปหา
    กษัตริย์คาร์ฟ
     กริมเห็นเช่นนั้นไม่รีรอใจใช้ดาบชี้ไปทางชายคนนั้นใช่คาถาดาบร้อยเล่ม ชายผู้นั้นหลบทันและหันมามองกริม
    พร้อมกับชักดาบออกมา และวิ่งไปหากริม กริมได้ปะทะดาบกับเขา แต่ในใจเขากำลังคิดว่าชายคนนี้ผู้ถือธนู
    จะเป็นคนที่เคนได้สาปแช่ง กริมจึงหาทางแก้ด้วยการฉวยโอกาสหักคันธนู เมื่อหักคันธนูกริมได้โล่งใจและสู้กับ
    ชายคนนั้น พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าชายคนนั้นเป็นถึงขุนนางของกษัตริย์มาลาวี เพราะดูจากชุดเกราะที่ใช้ และฝีมือ
    ปรากฎว่ากริมได้ใช้ดาบของตนฟันที่คออย่างเฉียดๆ ขุนนางคนนั้นได้ล้มไป กริมหันหลังกลับไปสู้กับคนอื่น
    แต่ขุนนางนั้นฉวยโอกาสใช้ลูกธนูปักที่ต้นขา ทันใดนั้นตัวกริมได้มีเลือดออกทั่วร่างกาย กริมรู้ทันทีว่านี่เป็น
    ธนูเล็บอินทรีย์ที่เป่าคาถาของกษัตริย์มาลาวี
     กษัตริย์คาร์ฟเห็นกริมถูกธนูของกษัตริย์มาลาวีจึงตัดสินใจใช้ระเบิดควันทำให้กษัตริย์มาลาวีกลายเป็นกระดูก
    กษัตริย์คาร์ฟได้ชัยชนะจากการสู้กับกษัตริย์มาลาวี และทำให้ทัพมาลาวีถอยกลับ กษัตริย์คาร์ฟวิ่งเข้าไปหากริม
    และใช้หินเป่าคาถาให้กริมอมไว้เพื่อหยุดการไหลของเลือด
     "กริมเจ้าเป็นอะไรไหม" กษัตริย์ตรัสด้วยความเป็นห่วง
     "ข้าอยากเจอหน้าลูกข้า" กริมอยากพูดก่อนตาย
     กษัตริย์ได้สั่งย้ายร่างของกริมไปอยู่ในห้องของหมอ
     "ข้าอยากเจอหน้าลูกชาย" กริมพูดกับหมอ
     "ได้เดี๋ยวข้าตามมาให้" หมอได้พูดกับกริม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×