คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : In my sweet dreams
+
มหาอุปราชโจโฉ+ เขียน Fusuki_sung พิมพ์...ภายในห้องห้องหนึ่ง
เลียงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอทำให้ไม่สามารถพูดอะไรออกมา เขาเพียงแต่จ้องใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพยายามหาทางออก
"คือ...ฉัน"
สมองความคิดและจิตใจของเขาวุ่นวายอย่างหนัก
จนเกือบจะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้"นายว่ายังไงล่ะ" ถ่งซักต่อ "นายคิดยังไงกับฉัน"
ความจริงในใจของถ่งก็เกือบจะบอกได้ว่าควรทำใจได้แล้ว
เพราะว่ามันมีโอกาสสูงที่จะไม่สมหวัง เพราะหลายปีที่ผ่านมาแล้วไม่ใช่หรือว่ามีเพียงแต่เขาที่คิดไปเองน่ะ โดยที่..ถ่งหลับตาลงอย่างยากลำบาก
พยายามสลัดความคิดทางแง่ลบออกไป
ทั้งๆที่มันเป็นความจริงที่เขาจะต้องเจอไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ไม่ว่าจะพยายามตัดใจไม่สนใจแค่นี้
แต่มันก็ไม่สามารถที่จะลบภาพของใครบางคนที่คอยเฝ้าหลอกหลอนอยู่ภายในใจเขาเป็นเวลาถึง 16 ปีเต็ม ที่เขาเฝ้าแอบมองอยู่ห่างๆมาตั้งแต่ 4 ขวบก็ได้แต่เฝ้ามองอยู่เหมือนเราเป็นเพื่อน
..เหมือนวันคืนที่ฉันคิดไปเอง..แต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอมี..กับฉัน.."ฉันอาจบอกตัวเองว่าคิดกับนายแค่เพื่อนนะเลี่ยง"เขาเริ่มพูด
สายตาของเขายังไม่ละสายตาไปจากบุคคลตรงหน้า ที่กำลังมีความลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
"แต่พอฉันรู้สึกตัวอีกทีก็ไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากนายได้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"ได้โปรดเถอะ ฉันชอบนายจริงๆนะเลี่ยง"
"ฉันก็ชอบนายเหมือนกันนี่น่า" เลี่ยงพูดอย่างอารมณ์ดี เพราะว่าตอนนี้เขาค่อยคลายความเครียดลงแล้ว และเขาก็ยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวลจนดูราวกับนางฟ้า
"นายเป็นเพื่อนที่ดีมากนะ"
"ไม่ใช่แล้วเลี่ยง!" ถ่งร้องขึ้นมา "จะให้ฉันบอกนายซักเท่าไรว่าฉันไม่ได้คิดกับนายแค่เพื่อน แต่ฉันคิดมากกว่านั้น! "
"หา!" อีกฝ่ายร้องขึ้นมาบ้างอย่างตกใจ "หมายความว่าไงละ..ฉันไม่เข้าใจ นายพูดอะไรอยู่"
"นายไม่ต้องตกใจ"ถ่งพูดเรียบๆอย่างหงุดหงิด "นายไม่ต้องมาทำเป็นตกใจหรอก นายมันเย็นชาอยู่แล้วนี่ นายมันไร้หัวใจ! " ว่าพลางก็ตวัดสายตาเย็นชาคมกล้ามาที่เขา
"นายไม่มีหัวใจ! " เขาตวาด "นายไม่เคยใส่ใจท่าทางและความรู้สึกของฉันที่พยายามแสดงให้นายรู้มา 16 ปีเต็ม ว่ามันเปลื่ยนแปลงไปมากกว่าเพื่อน!"
เลี่ยงกลืนน้ำลาย
แล้วเขาก็ก้มหน้านิ่ง ผมสีดำขลับสลวยเงางามยาวรุ่ยร่ายจนจรดพื้นยามเขาก้มหน้า ส่วนผมด้านหลังก็พับขึ้นแล้วเสียบด้วยปิ่นปักผมสีเงินอันเล็ก และที่คออันขาวสะอาดราวกับหงส์นั้นก็ทำให้คอเสื้อสีขาวชุดนอนที่เขาสวมนั้นก็ย้วยลงมา‘เลี่ยงอิริยาบถนี้ เซ็กซี่ชะมัด’ถ่งคิดในใจ ก่อนมองแทบไม่กระพริบตา
ผมยาวดำขลับ
..กับผิวที่ขาวราวไข่มุกนั้น..ถึงแม้ผมยาวดำขลับสลวยจะบดบังใบหน้าของเลี่ยงเกือบหมด
แต่ถึงกระนั้นถ่งก็สามารถมองเห็นหยาดน้ำตาใสๆไหลพรากลงมา..."ฉันขอโทษถ่ง"เขาพูดเบาๆ "ฉันเสียใจจริงๆที่ฉันเพิกเฉย อ่า...ความรู้สึกของนาย คือ นายยกโทษให้ฉันได้ไหม"
"นายไม่ใส่ใจเลยมากกว่า" ถ่งพูดด้วยเสียงเรียบเฉย ในท่าทางยืนกอดอก "นายไม่ได้ชอบฉันเลยแม้แต่น้อยล่ะสิ! นายถึงไม่สนและไม่รู้ใจฉันเลยแม้แต่น้อย"
"จะว่าไปนั้นก็เป็นเหตุผลด้วย..."เลี่ยงยอมรับเสียงอ่อน"แต่ว่า...เอ่อ..นายก็ดีกับฉันมาตลอดไม่ใช่หรือ"
"ฉันดีเพราะฉันหวังผล! เข้าใจยัง? " อีกฝ่ายตวาด "ฉันหวังว่าให้นายมาสนใจบ้างไง..ฉันอยากให้ชอบฉันบ้าง..แต่นายมันก็บ้า! " ว่าพลางชำเลืองมองเลี่ยงด้วยสายตาอาฆาต
"ฉันเสียใจจริงๆ ฉัน..."เลี่ยงพยายามทำให้อารมณ์เขาเย็นลงแต่ว่ามันไม่ใช่!
"ก็แล้วไงล่ะ นายชอบคนอื่นรึไง นายยังไม่มีใครไม่ใช่รึ! " อีกฝ่ายถามด้วยความหงุดหงิด
"ไม่ใช่! " จูเก่อเลี่ยงขึ้นเสียงขึ้นมานิดหน่อย "ช่วยฟังฉันพูดได้ไหม ขอร้องเถอะ อย่าทำตัวไร้เหตุผลได้ไหม! น่ารำคาญ นายมันเจ้าอารมณ์ ฉันถึงไม่ชอบนายไง! " คราวนี้ฝัง ถ่งเฟิ่งฉู่เป็นฝ่ายอึ้งเสียเอง
"เอ่อ...ขอโทษ เลี่ยง"เขาพูดอ้ำๆอึ้งๆ "แต่ถ้านายไม่ชอบฉันน่ะ นายชอบใครอยู่ล่ะ"
เลี่ยงลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนเขาเงยหน้าขึ้น
แต่แววตากลับดูไร้หัวใจอย่างสิ้นเชิง"เป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์กว่านายร้อยเท่า.."ข่งหมิงอ้อเหลงเอื้อมมือไปหยิบปิ่นปักผมสีเงินลงมาจากผมตนเอง
"นายเจอเขาแล้วล่ะ แต่ทำตัวเลวร้ายจนเขาไม่พอใจ" เขาพูดไป ด้วยอารามอารมณ์เสียเขาเขวี้ยงปิ่นปักผมอย่างแรงจนมันปักที่นกกางเขนตัวหนึ่งที่มาเกาะจนเลือดสีแดงเข้มพุ่งกระฉูดออกมา
"หุบปากซะ! "ถ่งตวาด "เออ! ฉันไม่ใช่คุณชายแซ่ซื่อหม่านี่หว่า! " เขาหยิบจานรองหมึกที่มีหมึกใส่อยู่เต็มออกมา
"ฉันขอโทษ"เลี่ยงกลับไปนั่งเหมือนเดิม และกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง โดยไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อกี้อยู่เลย กลับมาอ่อนแอและสั่นเทาเหมือนลูกแมวท่ามกลางหิมะอันเย็นเยียบ "เมื่อกี้ฉันโมโหไปเอง"
"ฉันไม่สน " ถ่งพูดอย่างเย็นชา "หุบปาก! ในเมื่อเกลียดฉันมากนักนะ ฉันก็จะไปให้พ้นหน้านาย! " ว่าแล้วเขาก็เขวี้ยงจานหมึกจนกระเบื้องแตกเพราะอัดกระแทกลงพื้นตรงหน้าเลี่ยงอย่างแรงนั้นเอง หมึกสีดำสนิทนั้นกระเด็นไปเปื้อนตามเสื้อผ้าของเลี่ยงจนเป็นดวงๆสีดำ ราวกับหิมะยามมีมลทิน และถ่งก็เดินออกไป โดยปิดประตูตามหลังดังโครม! ปล่อยให้เลี่ยงอยู่คนเดียว อย่างไม่มีใครมาเหลียวแล...
"เรานี่เลวสุดๆ ไปเลยเนอะเลี่ยง" เลี่ยงนั่งก้มหน้านิ่ง ก่อนจะพูดกับตัวเอง เข้ายิ้มเหมือนคนเสียสติและแก้มทั้งสองข้างก็มีน้ำตาไหลอาบลงมา ผมยาวสีดำสลวยลู่ลงกับไหล่อันบอบบางสองข้าง เสื้อผ้าสีขาวที่มีรอยหมึกแต้มเป็นดวงๆและรอบกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดสดๆของนกและสีดำสนิทของหมึกกระจายอยู่รอบๆ
"เราทำมารยาททรามกับเพื่อนสนิทไปเสียได้.."เขายิ้มแล้วก็เปลื่ยนไปเป็นร้องไห้ "เรานี่มัน..แย่จริงๆ"
‘ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่จริงๆเลย..’
‘เรามันเอาแต่ใจทำร้ายคนที่ดีกับเรามาตลอด เรานี่มันเลวจริงๆ ตอนนั้นฉันยังไม่มีใคร ยังไม่มีแม้แต่เพื่อน คนแรกที่เขามาคุยกับฉัน ก็คือฝังถ่ง เขามักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ..ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน แม้ในเวลาที่เราเหงาไม่มีใคร หรือแม้แต่ตอนที่เราอ่อนแอที่สุด ตอนเราร้องไห้ เขาก็มักจะเขาก็จะคอยอยู่ใกล้ๆคอยปลอบเราอย่างอ่อนโยนเสมอหรือบางทีก็แข็งกร้าวแต่ทว่า..อบอุ่น และมักพูดให้กำลังใจเราเสมอ ไม่ว่าเราจะแย่แค่ไหน ไม่ว่าเราจะอ่อนแอซักเพียงใด..แต่เขาก็ยังอยู่เคียงข้างเราเสมอ..’ เลี่ยงรู้ตัวว่าตัวเองนั้นเสียน้ำตามากแค่ไหนและมันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสายเลือด...
"เราผิด..เราทำร้ายคนที่ดีกับเรา.."เขาครวญเบาๆ ก่อนใช้หลังมือปาดน้ำตาเบาๆ กว่าจะรู้ตัวตาของเขาก็เต็มไปด้วยม่านน้ำตา เสียใจเหลือเกิน..
"เสียใจไปมันได้อะไรมาล่ะ! " เสียงใครบางคนที่ค่อนข้างจะหยิ่งยโสและวางมาดคุณชายดังขึ้น "เสียใจมันไม่ได้อะไรหรอก" ไม่ต้องบอกว่าเขาคือ...
"ซ่งต๋า..ซือหม่าอี้!" เลี่ยงหันกลับไปมองทางต้นเสียงทันที เขานั้นเอง คุณชายแห่งตระกูลซื่อหม่า ชื่อว่าอี้ ชื่อรองซ่งต๋า ใบหน้าของอี้คมเข้ม หากแต่ยังคงเต็มไปด้วยประกายความเย็นชาทุกอณู ผมสีดำเข้มยาวถึงหลังปล่อยสยาย ดวงตาที่มีสีดำขลับดุจรัตติกาลยามค่ำคืนหรี่ลงราวกับตาเหยี่ยว ปากของอี้เม้มสนิท เขากอดอกแน่นอยู่ในอาภรณ์ขุนนางชั้นสูงที่เป็นผ้าไหมเนื้อเยี่ยมสีแดงฉานราวกับโลหิต...ลายมังกรสีดำสนิทดุจเงามืดในรัตติกาล...
"เลี่ยง.."อี้เรียกเบาๆ ก่อนปล่อยให้ผมบังใบหน้า "มาเถอะ มาหาฉัน.." ว่าพลางเขายื่นมือที่อยู่ภายใต้แขนเสื้อคลุมยาวสีแดงออกมา
ถึงแม้ว่าอี้จะพูดอ่อนโยนแต่กลับฟังดูเอาแต่ใจอย่างบอกไม่ถูก
"พี่..!...หว่า~!" โดยไม่รอให้เลี่ยงตอบรับหรือปฏิเสธ อี้ อุ้มร่างเลี่ยงขึ้นมาให้อยู่ภายในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งและอบอุ่นของเขา เลี่ยงถูกอี้ดึงลงไปจนซบอยู่ที่อกของเขา กลิ่นกายหอมสะอาดของอี้ ลอยเข้ามาในจมูกเลี่ยงและทำให้เลี่ยงรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้คนที่เขารัก
"เลี่ยง..กลับบ้านกับฉันเถอะ ถึงที่นั้นนายค่อยเล่าให้ฉันฟัง" ซ่งต๋าบอก ก่อนเอามืออีกข้างนั้นประคองเขาไว้ด้วยความทนุถนอม
"อื้อ..คืนนี้นอนด้วยนะไม่อยากกลับบ้าน"เลี่ยงเอี้ยมมือไปโอบรอบคอของอี้ทันทีและทำให้แขนยาวของตนเองรูดลงมาจนถึงไหล่
"ได้สิ คืนนี้จะโดดงานมานอนด้วยนะ" อิ้พูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์
"แล้วพี่ขออะไรแลกเปลื่ยนด้วยนะ เพราะคนตระกูลซือหม่าจะไม่ยอมขาดทุน" ก่อนจะจุมพิตปากเรียวบางของเลี่ยงเบาๆ
"ท่านซือหม่าอี้! " 1 ในคณะขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ตามเขาเป็นพลวนวิ่งเข้ามาทันที ที่อี้นั้นอุ้มเลี่ยงออกมา
"อะไรล่ะ อาฟง!" อี้ถามอย่างโมโห พลางมองขุนนางผู้น้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ‘มันเอางานมาให้กูทำอีกแน่’
"ท่านเฉาเฉ่า บอกให้ท่านจัดการเรื่องเศรษฐกิจในนครหลวงซือฉ่วงค่ำวันนี้ขอรับ" อาฟงตอบ
"เฮ้อ..." ซ่งต๋ากลอกตาไปมาอย่างรำคาญ "ท่านเฉาเฉ่าตามตัวข้าอีกแล้วหรือเนี่ย แถมตอนค่ำเสียด้วย"
"ท่านจะบอกว่าขอรับ ข้าน้อยจะไปรายงานท่านเฉาเฉ่า" อาฟงถาม
"งั้นไปบอกท่านเฉาเฉ่าด้วย ว่าซือหม่าอี้ขอปฏิเสธ" นักปราชญ์หนุ่มตอบอย่างไม่ใยดี "เพราะแฟนไม่สบาย"
"แล้วงานล่ะขอรับ" อาฟงถามอย่างเป็นกังวล
"ให้ท่านกวัวเจี่ย จัดการแทนสิ" อี้ตอบอย่างไม่สนใจ
"แล้วท่านจะไปไหนขอรับ"อาฟงถามต่อ "ท่านเฉาเฉ่าต้องโมโหท่านแน่ๆ"
"ก็กลับบ้านฉันสิวะ! " ซ่งต๋าชักอารมณ์ขึ้นด้วยความหงุดหงิด
"นี่ อาฟง! ถ้ายังซักไม่หยุด นายเป็นศพแน่! " อาฟงรีบวิ่งหายไปข้างนอกทันที โดยไม่รออยู่ดูเหตุร้าย
"เฮ้อ..."นักปราชญ์หนุ่มถอนหายใจก่อนหันไปหาเลี่ยง
"กลับกันเถอะเลี่ยง"เขาบอก "ลางานได้แล้ว" หนุ่มน้อยถอนหายใจ
"..." เขาไม่พูดอะไรออกมา ก่อนค่อยๆปิดเปลือกตาอ่อนบางลงช้าๆ พร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมากับคราบน้ำตา
รักนะ....อี้....
คฤหาสน์รูปทรงโบราณของตระกูลซือหม่าหลังมหึมา ซ่อนเงาดำทมึนอยู่ภายใต้เงาหมู่ไม้สีดำสนิท พระจันทร์เต็มดวงสีเหลืองนวลดวงมหึมาซ่อนอยู่ภายหลังคฤหาสน์ ไม่มีใครอยู่ในบ้าน
"อ้าว เงียบจัง" เลี่ยงถาม "หายไปไหนกันหมดหรือ"
อี้มองไปที่สระน้ำเลี้ยงปลามังกรทองตัวละห้าแสนที่กลายเป็นผืนโลหะสีดำสนิทจากความมืดที่โรยตัวลงมา
ถัดไปเป็นศาลเจ้าม้าขาวประจำตระกูลซือหม่าหลังใหญ่กับหมู่สุสานสกุลซือหม่าที่ตั้งทมึนเรียงรายอยู่ ต้นหลิวมากมายที่ปลูกอยู่นั้นสั่นไหวราวกับมีใครเขย่ามัน"ทำงานให้ท่าเฉาเฉ่ากันหมด"เขาตอบ "เออ! อย่างนี้แหละดีแล้ว ไม่งั้นถ้าอาเฮียลั้งรู้มีหวังพี่ตายแน่"
"เข้าไปกันเหอะพี่อี้"เลียงพูดเบาๆ
"ได้สิ ข้างนอกมันหนาวนะ" อี้ยิ้มอย่างเจ้าเหล่ "ห้องนอนพี่แหละ อุ่นที่สุด" ว่าพลางก็อุ้มเข้าไปในบ้านที่มืดสนิท
"เลี่ยง นายกลัวความมืดสินะ" อี้กระซิบข้างหูเลี่ยงเบาๆ
"อื้ม..."อีกฝ่ายตอบเบาๆ "ทำไมเหรอ"
"ไม่ต้องกลัว" ซ่งต๋าบอก ก่อนจูบหน้าผากอันผุดผ่องราวผิมะเบาๆอย่างอ่อนโยน "พี่จะอยู่กับนาย"
"ผมขอโทษนะพี่" เลี่ยงพูดเบาๆ "ผมอ่อนแอ"
"ไม่ใช่หรอก"นักปราชญ์หนุ่มยิ้ม
ก่อนจับหน้าอันบอบบางและงดงามราวกับสาวงามของเลี่ยงขึ้นมาประจันหน้า
"ชอบต่างหากล่ะ อย่างนี้น่ะพี่ชอบ" พอพูดเสร็จเขาก็จูบอีกฝ่ายไปทันที "นายน่ะน่ารัก จิตใจโลเลแต่กลับซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง" สายตาอันคมกล้าและเย็นชาราวกับน้ำแข็งประสานกับสายตาใสซื่อและไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อยจนเป็นหนึ่งเดียว
"อื๊อ~!"เลียงส่งเสียงครางออกมาเบาๆ พร้อมหน้าแดงจัด เมื่อปลายลิ้นของอี้นั้นฉกเฉี่ยวยวนเย้าอยู่ภายในริมฝีปากอันอ่อนบางของเลี่ยงที่ค่อยๆ อ้าเผยอออกน้อยๆราวกับปีกผีเสื้อกระฟือปีกขึ้นราวกับรอให้อี้ทำอย่างนั้น ลิ้นของเลี่ยงค่อยๆมาสัมผัสปลายลิ้นของอี้ จนมันได้ดูดวับความหวานของเขาที่อี้กำลังรุกเข้ามา
"เฮ้อ~" อี้ถอนหายใจอย่างหอบๆ ก่อนถอนริมฝีปากที่ครอบครองริมฝีปากอันนุ่มนวลของเลี่ยงออก
"นายนี่มันไวไฟจริงๆนะ" เขายิ้มออกมาอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า
"แค่จูบ..นายก็ลุกเป็นไฟขึ้นมาเลยรึ?" เลี่ยงหน้าแดงจัด
ความคิดเห็น