ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    || Short Fiction TVXQ! -YUNHO- Seme & Uke ||

    ลำดับตอนที่ #7 : Seme & Uke ; He is Mine , MY JAEJOONG -END-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 520
      0
      19 เม.ย. 55

     

    Tumblr_lukt88pjse1qjv0n0o1_500_large







    SF ; He is Mine , My Jaejoong -END-

    Pairing ; Yunho X Jaejoong

    Genre ; Romance

    Rate ; PG – 13

    Note ; แจจุง แจจุง แจจุง.. ฟิคเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากแจจุง :)

    Song ; Been so long By Soulmate :
    Theme ; :)  Shalunla
     

     

     

     

     

    เขาคือแจจุง..แจจุงของผม :)

     

    แจจุง

    ผู้ชายคนนี้    “คิมแจจุง


     

     

    คุณสมบัติประการแรก

     

    แจจุงเป็นคนน่ารัก



    น่ารักมากจนทำให้หัวใจชองยุนโฮอ่อนยวบลงทุกครั้งที่ได้เห็น   ใบหน้าขาวๆ ริมฝีปากบางสีแดงสด ดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนลูกกวางเด้ะ รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าหวานล้อมกรอบด้วยผมซอยสั้นสีดำสนิทยิ่งขับให้คนๆนี้ เหมือน
    ผู้หญิงมากขึ้นไปอีก นี่คือคุณสมบัติประการแรกที่ทำให้ชองยุนโฮตกหลุมรักคิมแจจุงตั้งแต่แรกเห็น

     



    คุณสมบัติประการที่สอง


    แจจุงเป็นคนขี้งอน



    ไม่ใช่ขี้งอนธรรมดาแต่คนขี้งอนขั้นร้ายแรง เรื่องเล็กๆน้อยๆก็งอนได้ด้วยเหตุผลเด็กๆว่า
    ก็ฉันไม่ชอบนี่!” ครั้งหนึ่งผมเคยซื้อกุหลาบขาวให้เขาในวันครบรอบสองปีที่เป็นแฟนกัน แต่พอเขาได้เห็นดอกไม้ในมือผมเท่านั้นแหละเขาก็เบ้ปากแล้วพูดว่า


    นายไม่รู้เหรอไง ว่าฉันไม่ชอบดอกกุหลาบขาว ลิลลี่ขาวสวยกว่าตั้งเยอะ แล้วแจจุงก็สะบัดหน้าหนีผม กิริยาแบบนี้บอกผมได้ดีเลยว่า แจจุงกำลัง งอน แค่ซื้อดอกไม้ที่เขาไม่ชอบก็งอนแล้วอ่ะ ร้ายใช่ไหมล่ะ? แต่มีหรือที่ผมจะไม่ง้อ พอรู้ว่าเขาไม่ชอบผมก็รีบวิ่งไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนที่มีร้านดอกไม้เล็กๆตั้งอยู่ กว้านซื้อลิลลี่ขาวทั้งร้านจัดใส่ช่อผูกริบบิ้นสีโปรดของเขาให้เรียบร้อยแล้วก็หอบมาทั้งหมด    ผมตะโกนเรียกเขาตั้งแต่ยังข้ามถนนมาไม่ถึงด้วยซ้ำ ตอนแรกแจจุงก็ไม่ยอมหันมาหรอก  แต่พอผมขยับปากพูดว่า           

     

     ฉันซื้อลิลลี่มาให้แล้วนะ เท่านั้นแหละ ตาโตๆคู่นั้นก็เบิกกว้างขึ้นอย่างดีใจราวกับเด็กได้ของเล่นถูกใจก็ มือเล็กๆหยิบช่อลิลลี่ในมือผมไปมองเล่นอย่างมีความสุข จมูกโด่งรั้นก้มลงสูดกลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้เข้าเต็มปอด คุณรู้ไหมว่าผมที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อเห็นว่าเขามีความสุขแค่ไหน



    ปรากฏว่าวันนั้น แจจุงอารมณ์ดีทั้งวันเลยล่ะ แค่ได้ของที่ชอบเขาก็หายงอนแล้ว



    แจจุงขี้งอน แต่หายงอนง่ายมากจริงๆ

     





    คุณสมบัติประการที่สาม


    แจจุงรักการถักไหมพรม



    วันๆถ้าคิมแจจุงไม่วุ่นอยู่ในห้องครัว ในมือเล็กๆนั้นก็ต้องมีไม้นิตกับม้วนไหมพรมหลากสีวางอยู่บนตัก ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าไอ้การถักไหมพรมนี่มันสนุกตรงไหน แจจุงถึงได้ชอบนักชอบหนา เวลาออกไปซื้อของทีไรเป็นอันต้องลากผมไปเลือกซื้อไหมพรมสีใหม่ๆมาอีกหลายม้วน บางวันก็ซื้อไม้นิตมาพร้อมสรรพ แถมยังนั่งปุอยู่ในร้านให้พนักงานสอนถักลายใหม่ให้อีกต่างหาก ผมยังจำได้เลยว่าช่วงที่แจจุงเพิ่งหัดเป็นใหม่ๆ ผมแทบจะขโมยเอาไหมพรมทั้งหมดที่มีในบ้านไปเผาทิ้ง เพราะวันๆคนสวยของผมเอาแต่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ไม่ก็เสียบหูฟังฟังเพลงมือก็ถักยิกๆ ผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ถูกเนรเทศให้ไปนั่งอีกฝั่งของโซฟา ด้วยเหตุผลว่า
    เกะกะ คบกันมาตั้งนานแจจุงไม่เคยเอ่ยปากไล่ผมให้ไปนั่งไกลๆเล้ยยย    แต่พอได้ของเล่นชิ้นใหม่มาผมคนนี้ก็กลายเป็นหมาหัวเน่า คุณก็ลองคิดดูสิ แจจุงเห็นไหมพรมดีกว่าแฟนอย่างผม ให้ความสนใจ ให้เวลามันมากกว่าผมอีก มันน่าน้อยใจไหมล่ะ?    ตอนนั้นเราคุยกันน้อยมากจนแทบนับคำได้ แต่พอเขาถักได้ผ้าพันคอผืนยาวผืนหนึ่งเสร็จเขาก็รีบวิ่งเข้ามากอดผมแน่นพร้อมกับพูดว่า



    ฉันถักเสร็จแล้ว ผ้าพันคอผืนแรกเลยนะ ชอบไหม ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจ มันก็สวยดีอ่ะนะ แต่ทำไมแจจุงถึงถามว่าชอบไหมล่ะ? หรือว่าเขา....



    ผมสังเกตเห็นว่าใบหน้าขาวๆนั้นประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนเขาจะพูดว่า



    ผืนนี้ฉันให้นายไง หมีอ้วน!” แค่นั้นแหละ ผมก็ยิ้มกว้างตามเขา หัวใจพองโตด้วยความดีใจ ที่เห็นว่าแจจุงตั้งหน้าตั้งตาถักไหมพรมอยู่ก็เพราะตั้งใจจะให้ผมใช้ในหน้าหนาวนี้ ผมเลื่อนริมฝีปากจูบลงเบาๆที่แก้มเนียนพร้อมกับพูดเบาๆริมใบหูเขาว่า



    ขอบคุณนะ...ที่รักปรากฏว่าแจจุงหน้าแดงจัดเมื่อฟังจบประโยค เขารีบเอาผ้าพันคอยัดใส่ในมือผม ก่อนจะรีบวิ่งไปนั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิมแล้วยกหมอนขึ้นมากอดไว้แน่น



     

    คงจะเขินมากสินะ ฮ่ะๆ



     

    หลังจากวันนั้นผมก็กลายเป็นคนที่ชอบนั่งมอง คนรักถักไหมพรมแล้วแหละ ;)

     





     

     

     

    คุณสมบัติประการที่สี่


    แจจุงรักการทำอาหาร



    แจจุงไม่ใช่ผู้หญิง ผมรับประกันได้ว่าเขาไม่ใช่ ตุ๊ด หรือ เกย์ แต่เป็นผู้ชายที่รักผู้ชายหน้าตาดีๆอย่างผม
    (?)  คุณรู้อะไรไหมว่าเขาน่ะทำอาหารอร่อยระดับเชฟ โดยเฉพาะแกงกิมจิ อร่อยแบบสุดยอดด! ถ้าคุณได้ลองกินแล้วละก็ คุณจะบอกว่าไม่มีใครทำอาหารจานนี้ได้อร่อยเท่าเขาอีกเลยแหล่ะ       แจจุงเรียนรู้การทำอาหารมาจากคุณแม่ ทั้งอาหารเกาหลี ญี่ปุ่น หรืออาหารฝรั่งพวก สปาเกตตี้ พิซซ่า เขาก็ทำได้ทั้งนั้นแถมรสชาติก็อร่อยซะด้วยสิ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าผมจะอุดมสมบูรณ์ด้วยเนื้อหนังผิดปกติเพราะเขาทำอาหารให้ผมกินทุกวัน ^^ ฟังดูดีว่าไหม?   อย่างที่ผมเคยบอกถ้าแจจุงไม่ถักนิตติ้งเขาก็วุ่นอยู่แต่ในครัวดังนั้นพื้นที่ที่เขาหวงที่สุดในบ้างแทบจะไม่ให้ผมเข้าใกล้เลยก็คือ ห้องครัว โดยที่แจจุงให้เหตุผลแบบน่ารักๆว่า

    นายมีหน้าที่กิน ส่วนฉันมีหน้าที่ทำ แบ่งหน้าที่กัน โอเค๊?” ผมก็เลยไม่มีสิทธิจะได้เข้าไปดูเลยว่าเวลาอยู่ในครัวเขาเป็นแบบไหน   แต่วันหนึ่งเหมือนโชคจะเข้าข้างทำให้ผมได้เข้าไปในพื้นที่เล็กๆที่คิมแจจุงเคยครอบครองอยู่ผู้เดียว    

    ตอนนั้นผมไม่สบายเดือดร้อนให้เขาต้องลงมาทำข้าวต้มขึ้นไปให้ผมที่นอนซมอยู่บนห้อง แต่มีหรือที่ผมจะยอมอยู่คนเดียว ผมก็เลยแอบลงมาข้างล่างทั้งๆที่เดินแทบจะไม่ตรงทางด้วยซ้ำ เดินลงมาเรื่อยๆแล้วยืนพิงกับเสาต้นใหญ่แอบมองเขาอยู่อีกมุมหนึ่งที่คิดว่าแจจุงจะมองไม่เห็นผมแต่ทว่าผมกลับมองเห็นเขาจากตรงนี้ชัดเจน วันนั้นแจจุงใส่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนชิ้นโปรดที่จุนซูซื้อให้เป็นของขวัญ ปากแดงๆยู่เข้ากันเมื่อทำได้ไม่ถูกใจ ผมที่ยืนมองอยู่เป็นต้องอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางน่ารักของเขา แจจุงดูลนลานเหมือนจะรีบทำขึ้นไปให้ผม โดยที่ไม่ทันระวังมีดเล่มเล็กนั่นเลยบาดเข้าที่นิ้วมือขาวๆจนเลือดซึม ริมฝีปากผมหุบยิ้มทันทีก่อนจะรีบเดินไปค้นเอากล่องยาแล้วเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาเขา แจจุงตาโตขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผม ผมยิ้มให้เขาน้อยๆแล้วแย่งมีดในมือเล็กๆนั้นวางลง จูงมือมาที่อ่างน้ำแล้วเปิดก๊อกล้างแผลให้อย่างเบามือ ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดบนแผลเบาๆ แต่แจจุงก็ยังโวยวายเหมือนเด็กทั้งๆที่ผมพยายามทำอย่างเบามือที่สุดแล้วก็ตาม



     

    เบาๆหน่อยสิ มันแสบนะ อ้ะ โอ้ยย



    อย่าโวยวายนักสิ อ่ะ! เสร็จแล้วผมดุเขา ก่อนจะจูบลงบนแผลเล็กๆที่แปะพลาสเตอร์เรียบร้อยแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขา แล้วหยิกแก้มขาวๆนั้นอย่าหมั่นเขี้ยว



    ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ฉันได้กินข้าวต้มช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวก็ได้แผลอีกแจจุงทำหน้ายู่แล้วรีบดึงมือออกจากมือผม



    แล้วนายล่ะ ลงมาทำไมถ้าเกิดเป็นลมขึ้นมาใครจะช่วย ห๊ะ?” เขาแกล้งทำเป็นเสียงแข็ง ทั้งที่ใบหน้าหวานนั้นเริ่มแดงน้อยๆอย่างเขินอาย



    ก็นายไง ... ที่รัก  มากกว่านั้นก็เคยทำมาแล้วนี่ ผมยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะกลางห้อง ทิ้งให้อีกคนหน้าแดงแปร๊ดอยู่คนเดียว



    ผลสรุปคือวันนั้นผมได้กินข้าวต้มฝีมือแจจุงพร้อมกับมองหน้าหวานๆที่แดงระเรื่ออย่างสุขใจ :D

     






    คุณสมบัติประการที่ห้า


    แจจุงเป็นคนที่แมนมากจริงๆ

     


    แจจุงชอบคิตตี้ แจจุงมีหลุยส์วิตตองเป็นแบรนด์โปรด แจจุงชอบดอกลิลลี่ขาวมาก แจจุงชอบรองเท้าบู้ต แจจุงชอบเสื้อคอกว้างๆ แจจุงชอบเสื้อไหมพรมสีอ่อนๆ แจจุงรักการทำอาหาร ชอบชอบ..เยอะแยะ แล้วแจจุงก็ชอบบอกว่าตัวเอง
    แมนนั้นแหละ แฟนผมแมนป้ะล่ะ? คุณลองคิดดูนะ



    หนึ่ง ; เวลาทำอะไรได้ไม่ถูกใจปากแดงๆนั่นก็จะยู่เข้าหากันเป็นก้อนกลมๆ มือเล็กๆนั่นก็จะยกขึ้นลูบผมหน้าม้าที่ตัดมาให้เข้าทรงอย่างเซ็งๆ แล้วก็เดินสะบัดก้นกระทืบเท้าปึงปังไปนั่งจุ๊มปุ๊กอยู่บนโซฟา รอให้ผมมาง้อด้วยการซื้อหลุยส์ล็อตใหม่ให้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดแต่ตังค์ในกระเป๋าผมกลับต้องถูกดูดไปเพราะกระเป๋าแบรนด์เนม



    สอง ; แจจุงชอบถ่ายรูปมากๆถึงมากที่สุด เป็นคนบ้ากล้องคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เมื่อหยิบไอโฟนสีเอสเครื่องบางที่ผมเป็นคนซื้อให้ขึ้นมา ก็เป็นต้องถ่ายรูปตัวเองทุกครั้ง แถมดีไม่ดียังลากผมเข้ากล้องไปด้วยอีกคน แต่..เขาเป็นคนถ่ายรูปขึ้นนะ ไม่ว่าจะทำท่าไหนก็ดูดีทั้งนั้นแหละ แต่ท่าที่ชอบทำบ่อยที่สุดก็คงจะเป็นแบบนี้ล่ะมั้ง >> owo หน้านิ่งๆตาโตแล้วก็ทำปากบู้วววว. น่ารักซะไม่มีล่ะ.



    สาม ; แจจุงชอบนั่งปุ๊อยู่ในกองผ้าห่มหนาๆตอนที่เป็นหวัด แล้วตาโตดำขลับนั่นก็จะเยิ้มนิดๆเพราะพิษไข้ แก้มขาวแดงระเรื่อเพราะอุณหภูมิของร่างกายที่ร้อนผิดปกติ ที่สำคัญตอนป่วย แจจุงจะขี้อ้อนเป็นที่สุด! อ้อนให้กอด อ้อนให้อุ้มไปนอนบนเตียง อ้อนให้ป้อนยานู่นนี่ ซึ่งผมก็ต้องใจอ่อนเพราะเขาทุกครั้งนั้นแหละ แต่ผมก็เต็มใจนะ แล้วก็แน่ใจด้วยว่าถ้าคุณเป็นผมคุณก็ใจแข็งกับ
    คิมแจจุงไม่ได้หรอก ฮี่ฮี่



    สี่ ; แจจุงเป็นคนเซนซิทีฟ แจจุงชอบดูละครซีรีย์มากถึงมากถึงสุดโดยเฉพาะแนวโรแมนติคดราม่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเคยซื้อแผ่นซีดีเรื่อง I’m sorry I love you มาดูแถมยังบังคับให้ผมนั่งดูเป็นเพื่อน วันนั้นแจจุงกับผมนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน พร้อมกับทิชชู่กล่องใหญ่ที่ว่างเปล่าเนื่องจากแจจุงนร้องไห้เกือบจะตลอดทั้งเรื่อง หูตานี่แดงไปหมด แถมสูดน้ำมูกดังฟืดฟาดแล้วก็หยิบทิชชู่ในกล่องมาเช็ดเปื้อนไปหมดทั้งหน้าอีกต่างหาก ยิ่งตอนจบพระเอกตายแล้วนางเอกตายตามไปด้วยแจจุงยิ่งร้องหนัก แบบว่าร้องโฮเลยเดือดร้อนผมต้องดึงเข้าไปกอดปลอบตั้งนานถึงจะเงียบไป ปรากฏว่าวันนั้นแจจุงร้องไห้จนหลับไปเลยล่ะ น่าเอ็นดูจริงๆ 




    เห็นมั้ย? ว่าแจจุงเป็นคนที่แมนมากจริงๆ แมนอย่างไม่มีข้อกังขาเลยล่ะ X )

     





    คุณสมบัติประการสุดท้าย


    แจจุงคือแจจุง.. แจจุงของผม



    ผมกับแจจุง..เรารักกันข้อนี้ผมมั่นใจ ผมรักแจจุงในขณะที่แจจุงก็รักผม ในฐานะคนรักเราย่อมดูแลซึ่งกันและกัน แต่ความคิดของเราบางครั้งอาจแตกต่างและไม่ลงรอยบ้าง ข้อนี้ผมก็รู้ดีเช่นกัน มันก็ต้องมีบ้างแหละนะ
    :)



    มันอาจจะมีบ้างที่ผมกับแจจุงทะเลาะกัน

    มันอาจจะมีบ้างที่ผมกับแจจุงผิดใจกัน

    มันอาจจะมีบ้างที่ผมกับแจจุงเข้ากันไม่ได้ในบางเรื่อง

    มันอาจจะมีบ้างที่แจจุงทำตัวน่ารำคาญ งี่เง่าจนบางครั้งผมรู้สึกหงุดหงิด

    มันอาจจะมีบ้างที่แจจุงชอบหึงผมในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

    มันอาจจะมีบ้างที่แจจุงชอบบ่น คอยเป็นห่วงผมจนโอเวอร์



    มันอาจจะมีบ้าง...


    แต่..



    ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แจจุงก็ยังคงเป็นแจจุง เขายังคงเป็นแจจุง แจจุงของผม
    ของผมเพียงผู้เดียว ...
    :3


    แจจุงผู้เป็นส่วนหนึ่งของผม โลกใบนี้ถ้าขาดเขาผมอาจจะไม่ตาย.. แต่ผมคงอยู่อย่างไร้ความหมายไปวันๆ



    ขอบคุณที่สวรรค์ส่งนายลงมาเกิด ให้เป็นส่วนหนึ่งของฉัน ส่วนหนึ่งของกันและกัน คิมแจจุง
    : )

    แฮปปี้เบิร์ดเดย์แจจุงของผม.

     

     

    ชองยุนโฮ

    ผู้ชายที่เป็นอีกครึ่งหนึ่งของคิมแจจุง.


    -THE END-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×