ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    || Short Fiction TVXQ! -YUNHO- Seme & Uke ||

    ลำดับตอนที่ #1 : Seme & Uke ; Rainy Night -END-

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 55


     





    Rainyday_large




    SF : Rainy Night –END-

    Pairing ; Yunho X Jaejoong

    Genre ; Romance – Drama

    Rate ; PG – 13

    Note ; ฝนตก.. ผมควรจะเกลียดฝนไหมนะ?

    Song ;  Rainy Night  By Kim Junsu

    Theme ;  CRY .q


     

     


     

    ฝนตก....


              ชองยุนโฮเกลียดฝนเพราะนอกจากบรรยากาศจะดูเงียบเหงาด้วยแล้ว อากาศของมันก็ช่างหนาวเย็นจับใจยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวความเย็นของอากาศยิ่งบาดเนื้อให้หนาวเหน็บ

     

    ดวงตาเรียวคมปิดลงช้าๆศีรษะทุยเอนพิงพนักเตียงอย่างอ่อนแรง ร่างสูงซุกกายเข้าหาผ้าห่มผืนหนาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเอง

     

    หนาวชะมัด

     

    เวลาฝนตกก็อย่างมีใครสักคนอยู่ด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่เหลือใคร



    ชางมินต้องออกไปทำงานแต่เช้า ที่จริงวันนี้เค้าก็ต้องออกไปนั้นแหละแต่ว่าอาการป่วยที่ไม่ดีขึ้นตั้งแต่เมื่อวานทำให้ต้องมานั่งๆนอนอยู่ในห้องคนเดียว นัยน์ตาคมเปิดขึ้นก่อนทอดมองไปที่หน้าต่าง ท้องฟ้ามืดครึ้ม พร้อมกันสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาไม่ขาดสาย


    ฝ่ามือเย็นเยียบถูกยกขึ้นก่อนลมร้อนจากริมฝีปากจะเป่าลงไปเพื่อคลายความหนาวเหน็บ



    นานมากแล้วที่ไม่ได้เป่ามือตัวเองให้อุ่นแบบนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมีคิมแจจุงเป่าให้เสมอ

     

    แต่ไม่รู้ทำไม ต่อให้เป่ามากเท่าไหร่ดูเหมือนจะไม่ได้ลดความเย็นจากมือคู่นี้ได้แม้แต่น้อย ต่างกับลมร้อนของใครอีกคนที่แม้จะเป่าเบาๆเพียงครั้งเดียวก็ทำให้อบอุ่นได้







    ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มเศร้า เวลาที่ไม่มีใครแบบนี้มันทำให้เค้ารู้สึกอ่อนแอ อากาศหนาวข้างนอกดูเหมือนจะไม่ลดลงเลย แม้ภายในห้องจะเปิดฮีตเตอร์ไว้แต่คนที่ป่วยอยู่แล้วก็ดูอากาศจะหนักกว่าเดิม

     

    แค่กๆเสียงไอที่ดังลอดออกจากลำคอเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเริ่มไม่สบายมากกว่าเก่า



    มือเรียวกำที่ผ้าห่มข้างตัวแน่น พร้อมกับอาการไอจนตัวโยน

    ผ่านไปได้สักพักถึงจะได้ทุเลาลง ลำคอขาวแห้งผากแทบเป็นผง

    มือเรียวคว้าเอาแก้วน้ำที่ชางมินวางไว้ให้ยกขึ้นดื่ม น้ำสีใสไหลผ่านลำคอช้าๆจนเริ่มชุ่มชื้น

    แต่แล้ว




    ความสว่างจากแสงไฟในห้องก็มืดลง ฮีตเตอร์ที่ทำงานอยู่กลับดับกะทันหัน


    ไฟดับ
    !



    ในขณะที่นอกห้องฝนยังตกไม่หยุด ไฟฟ้าเกิดดับใช้การไม่ได้อีก จะมีอะไรที่แย่กว่านี้อีกไหม
    ?



    เฮ้อร่างสูงพรูลมหายใจเบาๆ


    เพราะอากาศที่เย็นอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ฮีตเตอร์ที่ช่วยให้ความอบอุ่นก็ดันมาใช้ไม่ได้เพราะไฟที่เกิดดับขึ้นมาอีก สองแขนยาวยกขึ้นกอดร่างตัวเองไว้แน่น ใบหน้าคมซุกลงกับเข่าหนา มือเรียวดึงผ้าห่มให้ขึ้นมาคลุมให้มากขึ้นแต่กระนั้นความรู้สึกหนาวก็ยังไม่จางหายไป


    อุณหภูมิร่างกายที่เริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สร้างความอึดอัดให้ไม่น้อย


    เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามไรผม จนชื้นไปหมดทั้งๆที่อากาศหนาวจับขั้วหัวใจ ลมหายใจร้อนถูกระบายออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาการไอยังมีขึ้นเป็นระยะๆ พร้อมกับศีรษะที่เริ่มปวดราวกับมีคนกำลังบีบอยู่ นัยน์ตาเรียวปิดลงหวังช่วยให้บรรเทาอากาศปวดหัวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย สองแขนพยายามโอบกอดตัวเองให้แน่นขึ้น

     

     

     

    ในขณะที่ดวงตาเริ่มร้อนผ่าวก่อนจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาไหลรินอาบแก้มซีด



     

     

    เหงา...ที่ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง

    เหนื่อย...ที่ต้องทำเป็นยิ้มแย้มทั้งที่หัวใจเจ็บชา

    ท้อ...ที่จะต้องก้าวเดินไปในแต่ล่ะวัน หนทางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

    เจ็บ...ที่จะต้องรับรู้ถึงความรู้สึกของใครอีกคน

    ทรมาน...ที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน

    กลัว...ที่จะถึงวันนั้น...วันที่ถูกทอดทิ้งวันไม่มีใครข้างกายอีกตลอดไป.

     

    น้ำตามากมายไหลรินไม่ขาดสาย แขนสองข้างโอบกอดตัวเองเอาไว้ให้แน่นที่สุด



    ในวันที่ไม่เหลือใคร เราก็ยังต้องปลอบใจตัวเอง





    ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นช้าๆ ก่อนจะค่อยๆบรรจงถ่ายทอดเสียงเพลงแสนเศร้า เพลงที่นานแล้วไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง เพลงที่น้องชายของเขาเป็นคนแต่ง น้องชายที่รักมากที่สุด

    คิมจุนซู





    Rainy night..

     のいない世界 えて
    คิมิ โนะ อินา อิ เสะคา อิ วะ ยา มิ นิ ฟุ รุ เอะ เตะ
    ผมตัวสั่นเทาในความมืดมิด...โลกที่ไร้ตัวคุณ

    ねぇ..すべてならいいのに
    เนะเอะ.. ทสึ เบะ เตะ ยูเมะ นาระ อิอิ โน นิ
    หากทุกอย่างเป็นแค่เพียงฝันก็คงดี

    いたくて Oh my girl えないわけは のさよならを きたくなかったから
    อา อิ ทะ คุ เตะ oh my girl อา เอะ นะ อิ วา เคะ วะ คิมิ โนะ สะ โย นา ระ โวะ คิ คิ ทะ คุ นา คัตตะ คา ระ
    ผมอยากพบคุณ โอ้ที่รัก ผมเจอคุณไม่ได้ เพราะผมไม่อยากได้ยินคุณเอ่ยคำลา

    Baby I Still love you
    ผมยังคงรักคุณ

    もうかないで いつも You're Crying baby
    โม นา คา นาอิ เดะ อิ ทสึ โมะ you’re Crying baby
    อย่าร้องไห้เลย คุณกำลังร้องไห้อยู่นะที่รัก

    そんな ところも So sweet
    โซะอึน นา โทะ โคะ โระ โมะ So sweet
    เธอที่แสนอ่อนหวานของผม

    じゃない かが Yeh ってるんだね  
    อิมะ วะ โบคุ จะ นาอิ ดา เระ คา กา Yeh นามิดะ โวะ นุ กุ อุตเตะ รุอึน ดา เนะ
    ตอนนี้ผมเองก็ไม่มีใครมาเช็ดน้ำตาให้เลย


    เพลงที่เศร้าอยู่แล้ว ยิ่งร้องโดยเสียงทุ้มที่สะอึกสะอื้นยิ่งทำให้บรรยากาศดูเศร้าสร้อย และอ้างว้าง


    ชองยุนโฮไม่เคยคิดว่าเพลงนี้ จะทำให้ร้องไห้ได้มากเท่านี้ แม้เนื้อเพลงจะเศร้าโศกเพียงใดแต่การที่ได้ร้องด้วยความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ยิ่งกรีดบาดแผลในหัวใจให้ลึกลงไปมากกว่าเดิม

    เสียงร้องเพลงยังคงดำเนินต่อไป ก่อนจะถึงท่อนนี้


    だけど きだよ れられない
    ดา เคะ โดะ คิมิ กา สึกิ ดา โย วาสุ เระ ระเระ นา อิ
    ผมขอแค่เพียงได้รักคุณ ผมลืมคุณไม่ลง


    だけ きてる
    โอโม อิ เดะ โนะ นากา ดา เคะ อิ คิ เตะ รุ
    มันยังคงอยู่ในความทรงจำ

    この Forever
    โคะ โนะ โอโม อิ Forever
    ในหัวใจนี้..ตลอดไป...



    เสียงทุ้มแหบหยุดลง ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะสะอื้นไห้จนตัวโยน มือหนายกขึ้นปิดใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเอาไว้ เสียงสะอื้นดังลั่นห้องกว้าง

     

     

    ห้องที่ไม่มีใครนอกจากยุนโฮเพียงคนเดียว

    ห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเค้าและแจจุง

    ห้องที่ยังมีกลิ่นอายของแจจุง

    ห้องที่ยังคงมีทุกๆอย่างเกี่ยวกับแจจุง

     

     

    หยาดน้ำใสยังคงไหลรินไม่หยุด และไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลงเลยแม้แต่น้อย

    ร่างสูงสั่นเทาท่ามกลางความมืดมิด สายฝนภายนอกกระหน่ำตกไม่ขาดสาย

    ความอบอุ่นจากผ้าห่มไม่ได้ช่วยอะไร แต่สิ่งที่ต้องการคือไออุ่นจากคนบางคน

    เค้าคงหวังมากเกินไปใช่ไหม?

    ดวงตาเรียวหลับลงช้าๆ ปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลริน สะอื้นอยู่เงียบๆ

     

     

    ร้องไห้อยู่คนเดียว

    ไม่มีคนปลอบ

    ไม่มีคนเช็ดน้ำตา

    มีเพียงสายลมอยู่เป็นเพื่อน

     

    แจจุง...ชั้นเหนื่อย..จัง.ริมฝีปากแห้งผากพยายามเปล่งเสียงออกมา

    ห้องที่เคยคิดว่าแคบตอนที่อยู่สองคนกับแจจุง

    แต่..ตอนนี้กลับดูกว้างเกินไปสำหรับคนๆเดียว

     

    กลับมาได้ไหม? ที่รักของชั้น...

     

    ชั้นยังคงรอนายเสมอ ไม่ว่านานเพียงใด

    ยังคงเชื่อมั่นในความรักของเราสองคน

     

     

     

                  ร่างบางผู้มีนามว่า คิมแจจุงกำลังขับรถคันสปอร์ตคันหรูเพื่อที่จะมุ่งตรงไปหาคนรัก  ตอนที่ได้รู้ว่ายูชอนจะกลับกุง ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดของยุนโฮ หัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวก็กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง แค่เพียงคิดว่าเค้าจะได้เจอกับยุนโฮหัวใจดวงน้อยก็พองโตอย่างดีใจ

     

    ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มละมุน แค่เลี้ยวตรงซอยข้างหน้าแล้วขับไปอีกไม่ถึงสองนาทีก็จะถึงแล้ว

    ยิ่งใกล้ถึง รอยยิ้มบนใบหน้าก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ ดีใจเหลือเกิน

     

    คนหนึ่งกำลังดีใจอย่างที่สุดที่จะได้เจอกับคนรัก

    แต่อีกคนหนึ่งกำลังทรมานกับความอ้างว้างในห้องกว้างเพียงคนเดียว

     

    ภายในเวลาไม่นานนักร่างบางก็ขับรถมาถึงคอนโดหรูของคนรัก

    ช่วงขาเรียวก้าวลงจากรถหลังจากสำรวจดูเรียบร้อยแล้วว่าคงไม่มีใครจำเค้าได้

    เท้าสองข้างย่ำเดินไปบนทางเดิน ไม่มีความผิดปกติใดๆให้เห็น

     

    ขอโทษนะครับเสียงแหบๆของผู้ชายคนหนึ่งทำให้คิมแจจุงต้องหยุดชะงัก แต่ก็ยังแสร้งวางท่าเป็นปกติ

     

    แจจุงคลี่ยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดในชีวิตให้ ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างนุ่มนวลแถมยังก้มตัวลงต่ำเพื่อที่จะให้เห็นร่องอกขาวที่เจ้าตัวพยายามจะยั่ว ดีนะที่วันนี้ใส่เสื้อคอค่อนข้างกว้าง

     

     

    มีอะไรหรือครับเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมกับแววตาเป็นประกาย

     

    ถ้าปีนี้มีสาขาเสแสร้งเก่งให้ชาติ คิมแจจุงคงได้รับรางวัลชนะเลิศอย่าไม่ต้องสงสัย

     

    เอ่อ..ขอโทษครับ ผมคงจำคนผิดชายคนนั้นกล่าวพร้อมก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ

     

    ตอนแรกคิดว่าคงเป็นยองอุงแจจุง แต่รอยยิ้มที่ดูเสแสร้งแกล้งทำแถมยังทำท่าจะยั่วแบบนั้น ดูเหมือนไม่ใช่เลยสักนิด ต่างกันราวฟ้ากับเหว

     

    มุมปากสวยกระตุกยิ้มน้อยๆ คงคิดผิดล่ะสิ คนอย่างเค้าน่ะถึงจะดูเย็นชา นิ่งๆแต่ถ้าตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างแล้ว ต่อให้ต้องกลายเป็นนางมารร้ายเค้าก็ยอม

     

     

    ขาเรียวก้าวเดินตรงไปลิฟต์ พร้อมกับกดลงไปบนแป้นหมายเลข 12 ชั้นที่ยุนโฮอยู่

    ใช่เวลาเพียงไม่นานร่างบางก็มาถึงจุดหมาย ห้องหมายเลข1205

    มือบางยื่นไปเคาะที่ประตูห้องสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ คิ้วเรียวขมวดเป็นปม

    อย่างสงสัย เท่าที่เค้ารู้มาวันนี้ยุนโฮไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหนไม่ใช่เหรอ มีแต่ชางมินที่ออกไป แล้วทำไมถึง..ร่างบางเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ รู้สึกกังวลยังไงไม่รู้

     

    มือบางเคาะประตูอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบอยู่เช่นเคย

     

     

    ลองหมุดลูกบิดประตูดูหน่อยก็ได้ ยุนโฮอาจจะไม่ล็อกห้อง

     

    และก็เป็นอย่างที่คิด ยุนโฮไม่ได้ล็อกห้องจริงๆ ไอ้ดีใจก็ดีอยู่ที่เข้าห้องมาได้ แต่ถ้าสมมุตว่าเกิดมีคนร้ายบุกขึ้นมาแล้วร่างสูงไม่ล็อกประตูแบบนี้ล่ะก็..ไม่อยากจะคิดจริงๆ

     

    ว่าแล้วก็รีบผลักบานประตูเข้าไป แต่ทว่าห้องทั้งห้องกลับมืดสนิท

     

    ทำไมถึงไม่เปิดไฟนะ?

     

     

    ร่างบางปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะควานหาสวิตซ์ไฟจนเจอ นิ้วเรียวกดลงเบาๆแต่ห้องทั้งห้องก็ยังมืดเหมือนเดิม พยายามกดซ้ำๆแต่ก็ผลที่ออกมาเหมือนกันทุกครั้ง

     

     

     

    ไฟดับเหรอ?

     

     

    มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าใบโตที่สะพายมาด้วย และแล้วก็พบสิ่งที่ต้องการพวงกุญแจไฟฉายอันเล็กๆที่ยูชอนให้มาในที่สุดก็ได้ใช่ ร่างบางใช้แสงไฟจากไฟฉายอันเล็กนำทางและแล้ว...

     

     

    ก็มาถึงห้องนอนห้องนี้ ห้องที่เค้ากับยุนโฮเคยอยู่ด้วยกัน

     

    แจจุงสูดหายใจลึกๆก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป ไฟฉายอันเล็กส่องไปบนเตียงกว้าง แสงไฟทำให้เห็นร่างสูงที่นั่งชันเข่าอยู่บนที่นอน ศีรษะทุยชิดอยู่กับเข่า

     

    ง่วงขนาดสัปหงกท่านั้นเลย?

     

     

    ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มน้อยๆก่อนเดินเข้าไปใกล้ขอบเตียง ทรุดนั่งลงช้าๆ มือบางเอื้อมไปเขย่าคนที่คิดว่าหลับอยู่ ดวงตาคมพยายามลืมขึ้นอย่างยากลำบาก เสียงทุ้มแหบเอ่ยเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน

     

     

    จ...แจ.จุ...งสิ้นสุดเสียงที่เค้นออกมาอย่างยากลำบาก สติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดก็ดับวูบลง ในขณะที่ไฟทั่วทั้งห้องสว่างวาบอีกครั้ง

     

    โลกของชองยุนโฮดับวูบลง ในขณะที่โลกแห่งความจริงกลับมาสว่างขึ้นอีกครั้ง

     

    ดวงตากลมเบิกขึ้นอย่างตกใจ เสียงหวานเอ่ยดังลั่นห้องกว้าง

     

     

    ยุนโฮ!!!” มือบางรีบประคองร่างของคนรักให้นอนบนตัก เพราะไฟที่เพิ่งจะใช้การได้ทำให้ร่างบางเห็นคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มขาวไปทั่ว

     

    ยุนโฮร้องไห้!?

     

    ปลายนิ้วเรียวตั้งใจจะเกลี่ยหยาดน้ำให้อย่างแผ่วเบา แต่แค่สัมผัสเพียงชั่วครู่ก็ต้องรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เพราะความร้อนจากผิวเนียนที่พุ่งสูงขึ้นผิดปกติ ร้อนจัดราวกับไฟ แต่มือเรียวกลับเย็นเฉียบ

     

    แจจุงจัดให้คนรักนอนลงบนเตียงเหมือนเดิม จัดแจงห่มผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องน้ำภายในห้องนอน

    คว้าเอากะละมังใบเล็กไปใส่น้ำจนเกือบเต็ม พร้อมกับผ้าขนหนูเนื้อนิ่มออกมาด้วย

     

     

     

    มือบางหยิบผ้าขนหนูไปซับน้ำให้หมาดๆก่อนจะค่อยๆบรรจงเช็ดตัวเพื่อคลายความร้อนให้คนรักอย่างอ่อนโยน ไล่มาตั้งแต่ลำคอระหงส์ แผ่นอกเนียน หน้าท้องแกร่ง สายตาหวานฉายแววเศร้าหมองเมื่อเห็นว่ายุนโฮผอมลงไปเยอะแค่ไหน เอวหนากลับเล็กลงไป ร่างบางเช็ดเรื่อยลงมาจนถึงปลีน่อง ความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจเมื่อเห็นรอยแผลลึกจากการเล่นเสก็ตของยุนโฮ

     

    ถ้าเค้าอยู่ด้วย ร่างสูงคงจะไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ คงมีคนดูแล ...แต่ทว่า

    เค้ากลับไม่สามรถทำหน้าที่นั้นได้ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเศร้าสร้อย

     

    ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเช็ดตัวให้คนที่ยังไม่ได้สติต่อไป

     

     

     

    จ..แจจุ...ง แจ... ฮึก..เสียงทุ้มละเมอออกมาอย่างไม่ได้สติเพราะพิษไข้ ใบหน้าเรียวคมส่ายไปมาจนกลุ่มผมสีเข้มกระจายไปทั่วหมอนราวกับคนฝันร้าย


    คนที่ร่างสูงละเมอถึงรีบเดินเข้าไปประชิดขอบเตียง นั่งลงข้างคนรักก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเรียวอย่างปลอบโยน นิ้วทั้งห้าสอดประสานกันเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

     

    ราวกับยุนโฮรู้สึกได้ เสียงละเมอเงียบหาย ปรากฏเป็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหล่อเหลาแทน

     

    ปลายนิ้วสวยเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปรกหน้า ลูบไล้ใบหน้าคมอย่างแช่มช้า เกลี่ยปลายนิ้วบนแก้มเนียนอย่างอ่อนโยน สัมผัสอบอุ่นค่อยซึมๆสู่หัวใจที่บอบช้ำของร่างสูงช้าๆ มือบางกระชับแน่นกับมือเรียวของร่างสูง ทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวาน

     

    เรียวปากบางประทับลงบนหน้าผากเนียน ไล่ลงมาถึงเปลือกตาสีมุกทั้งสองข้าง ผิวแก้มที่เริ่มมีเลือดฝาด ก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหยัก

     

    จูบเพื่อแทนความห่วงใย

    จูบเพื่อแทนความคิดถึง

    จูบเพื่อแทนความรู้สึก

    จูบเพื่อแทนความรักที่มั่นคงตลอดกาล...

    จูบเพื่อแทนความรักระหว่างเราสองคน

    ชั้นรักนายนะ...ยุนโฮของชั้น

     

     

     

     

    ขอบคุณนะที่ยังห่วงกัน

    ขอบคุณนะที่ยังคิดถึงชั้น

    ของคุณนะที่ยังมีความรู้สึกดีๆต่อกัน

    ขอบคุณนะที่ยังไม่เปลี่ยนใจไปรักใคร

    ขอบคุณนะที่ยังคงรักชั้นเหมือนเดิม

    ชั้นก็รักนายนะ ...แจจุงของชั้น.

     

    ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน ไม่ว่าเราจะห่างไกลกันสุดขอบฟ้า

    ขอเพียงแค่เชื่อใจกัน และมั่งคงต่อกันแม้จะเป็นวันที่เลวร้ายแต่ก็อาจเกิดสิ่งดีๆได้เสมอ

    เพียงแค่คุณเชื่อและศรัทธาในความรักของคุณ.

     

     

     

    ในวันที่ฝนตก ผมรู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบมีเพียงผมคนเดียว

    บนโลกที่กว้างใหญ่ โหดร้ายและอ้างว้าง มีเพียงหยาดน้ำตาและความหนาวเหน็บอยู่เป็นเพื่อน

    แต่เมื่อผมศรัทธาในความรัก สิ่งที่ผมเคยคิดก็เปลี่ยนแปลงไป

              

                 "ผมอ่อนแอเมื่อไม่มีแจจุงอยู่ข้างกาย ผมทรมานเจียนตายแต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้รู้คือ แม้ในวันที่ไม่มีใครหากยังคงเชื่อและศรัทธาในความรัก อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ แม้ต้องเจ็บเพียงใดหากว่าเรายังคงมีความรักในหัวใจ สิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ก็กลับเป็นจริง ผมเฝ้าอธิษฐานว่าจะได้เจอแจจุงอีก และในที่สุดก็เป็นจริง แม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น อาจเป็นเพียงข้ามคืนแต่มันก็มีความสุขหากได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักหมดใจ"

     

    ผมชองยุนโฮ เชื่อในความรักว่ามันชนะได้ทุกอย่าง

    ถ้าอย่างนั้น แล้วคุณล่ะ เชื่อเหรอเปล่า?

    ลองถามใจคุณดูสิ.. (:

     

    -THE END-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×