คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15 [100 PERCENT]
Chapter 15
ผมพลิกตัวไปมาเพราะปวดฉี่แต่ไม่อยากลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะกำลังนอนสบายๆ ถ้าผมลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วไม่มีโอกาสได้มาหลับสบายแบบนี้อีกละ คิดดูสิ ( ..)
“ตื่นแล้วหรอ”
เสียงทุ้มกระซิบใกล้หูผม นี่เขารู้ได้ไงว่าผมตื่นแล้วผมยังไม่ได้ลืมตาเลยนะ มือหนาๆวางลงบนหัวผมก่อนจะเสยผมที่ปรกหน้าลงมา ขึ้นไปคาดไว้ที่หูให้ อ่อนโยนจัง >.<
“ผมรู้นะ ว่ามี้ตื่นแล้ว แต่ไม่อยากลืมตาก็ไม่เป็นไร”
…โฮซอกสินะ เรียกผมแบบนี้มีคนเดียวในโลก
“มี้รู้จักผู้ชายคนเมื่อคืนด้วยหรอ”
… ผมยังคงหลับตาพริ้ม ผู้ชายคนไหนนะ...ช่างเถอะให้เขาสางผมแบบนี้ละเคลิ้มดี
“มี้รู้ไหม....”
…เขาขยับเอาหัวผมไปหนุนบนตักตัวเอง แล้วลูบหัวผมต่อ
“ผมหึงนะ หึงมากด้วย”
…เขาก้มลงมากระซิบด้วยน้ำเสียงจริงจัง >////////< ผมเขินจนจะตายคาตักเขาแล้วนะ
“ฟอดดดดดดดด” คนตัวสูงก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ๆ
“ไอบ้า” ผมอดไม่ได้ที่จะลืมตาโผลงขึ้นมาว่าเขา
“ผมรู้น้า ว่ามี้ตื่นแล้ว”
“แต่นายหอมแก้มฉัน โดยไม่ได้ขออนุญาต”
“ผมต้องขออนุญาตใคร”
“ฉันนี่ไง” ผมละไม่เข้าใจเขาจริงๆ หอมแก้มต้องไปขออนุญาตจีดราก้อนมั้ง
“ฮ่าๆ ทำไมผมต้องขอก็มี้เป็นเมียผมแล้ว”
“หยาบคาย”
“ภรรยาก็ได้ครับ”
“ฉันยังไม่ได้เซ็นใบหย่ากับเขาเลย” ผมพูดติดหน้าเศร้าๆ จริงด้วย เมื่อวานผมรู้ความจริงบางอย่างเข้า ผมก็ไปที่ผับ แล้ว....
“ไม่เอาดิ อย่าเศร้านะ มี้ยังมีผมอยู่ทั้งคน” คนตัวสูงพูดพร้อมเอาหัวผมไปซบกับอกเปลือยเปล่าของเขา
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น!” ผมถามอย่างตกใจ ผมจำได้ว่ามีผู้หญิงเข้ามาหาผม แล้ว แล้วไงต่อวะ
“ความรู้สึกช้าไปไหม” โฮซอกบ่นเบาๆ
“มันเกิดอะไรขึ้น” ผมผมถามย้ำอีกครั้ง
โฮซอกอธิบายให้ฟังว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเข้าไปเห็นตอนที่มีผู้ชายคนนึงกำลังจะพยายามจะจูบผม เขาก็ฟัดกัน จบด้วยโดนลากออกมาจากผับทั้งคู่ เขากลัวผมหายไปอีกเลยไม่สู้ต่ออุ้มผมกลับมานี่ ผมตั้งใจฟัง อ๊ะ นั่นเขามีแผลที่มุมปากด้วย
“โอ๊ย เจ็บนะมี้” สมน้ำหน้าทำซ่าดีนัก
“สม”
“นี่ ผมไปช่วยมี้นะ ไม่งั้นไปกันถึงไหนต่อไหนแล้ว”
…หน้าเขาดูทั้งเป็นห่วงผม ทั้งงอนผม ทั้งหึงผมในเวลาเดียว
“หรืออยากจะไปถึงไหนต่อไหนกับมัน”
“บ้า”
“งั้นผมมีสิทธิ์หึงใช่ไหม” โฮซอกทำหน้างอ
“อื้ม ^^”
“ผู้ชายคนนั้นอันตรายนะ”
ผมลุกขึ้นนั่งเพื่อให้คนตัวสูงกอดได้ถนัด เราทั้งคู่หันหน้าออกไปทางระเบียงห้องโดยมีคนตัวสูงกอดจากด้านหลัง
“อันตรายจนผมเองก็ไม่แน่ใจว่า...ตัวเองปกป้องพี่ให้ปลอดภัยจากเขาได้ไหม”
อันตรายจนเขาไม่สามารถปกป้องผมได้งั้นหรอ อย่างโฮซอกเคยกลัวใครด้วยหรอ ประโยคนั้นทำให้ผมสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครเกี่ยวข้องอะไรกับผมหรือโฮซอก หรือเขาจะเป็นคนของจองกุกนะ ผมควรที่จะช่วยโฮซอกหาหลักฐานให้ผมหลุดพ้นจากสัญญาบ้าบอนั่น มันเป็นเรื่องของผมแท้ๆ ผมจะให้เขามาทำเพื่อผมคนเดียวได้ไง ผมต้องช่วยเขาสิ หลังจากที่โฮซอกต้องไปทำงานเพราะวันนี้เขามีถ่ายแบบ ผมเลยอาศัยจังหวะที่เขาไปทำงานเนี่ยละ กลับมาที่ผับนี่อีกครั้งผับที่ผมมาเมื่อคืนก่อน
“ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองนะ ว่าคุณคิดถึงผม”
ร่างสูงผมสีดำประกายม่วงวันนี้เข้ามาให้เสื่อไหมพรมคอเต่าสีดำกับกางเกงยีนส์สกีนนิ่งสีดำ ทำให้นั่นทำให้เขาดูดีมากๆกับสีดำ สาวๆรอบตัวเขาตอนนี้กำลังมองตาเป็นมันมาที่ร่างสุงข้างๆผม ที่กำลังชูแก้วมาที่ผมเพื่อเป็นการทักทาย
“ผมเองก็ ไม่อยากให้คุณเข้าข้างตัวเองนะ เพราะผมไม่ได้มาหาคุณ” ผมโกหกแล้ว เอาแก้วตัวเองชนกับแก้วของร่างสูง
“จะว่าไป เรายังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการกันเลย ถ้าเมื่อวานไม่มีสามีคุณมาขัดสะก่อน” คนตัวสูงพูดยิ้มๆ
“นั่นสิ ถ้าเขาไม่เข้ามาขัด มันจะเป็นยังไงต่อนะ” ผมถามเสียงใส พยายามจับไต่เขาให้ได้
“อยากรู้ไหมละ” ร่างสูงขยับตัวเข้ามาใกล้ผม
“ถอยไปห่างๆเลย” ผมผลักแผงอกแกร่งๆนั่นออกไป
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นนะ ผมจินนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” คนตัวสูงทำให้ตาเบะแต่ทหาร แต่มันดูร่างเริง
“ผมยุนกิ มินยุนกิ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย
จินงั้นหรอ... ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นๆกับคำนี้แปลกๆ มันเหมือนติดอยู่ที่หัวผมแต่ผมคิดไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
“นี่เราเคยรู้จักกันรึป่าว” ผมถามออกไป
“ฮั่นแน่ จะจีบผมหรอ ไม่ต้องเล่นมุกเก่าๆผมก็ยอมไปด้วยแล้วนะ” จินยิ้มทะเล้นและดูกะล่อนสุดๆ
“ผมแค่ถามเฉยๆนะ” การจะล้วงอะไรออกจากปากคนแบบเขามันน่าจะยากเกินไปสำหรับผมรึป่าวนะ
แกรก...
เสียงแก้วกระทบกับบาร์เบาๆของคนที่เพิ่งมาเยือน แทฮยอง.... เขามาทำอะไรที่นี่กันนะ เขายกแก้วนั่นกระดกขึ้นไปจนหมดอีกครั้ง ก่อนจะคว้าข้อมือผมแล้วลากออกมากจากตรงนั้น แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายแบบนั้นนะสิ เพราะจินก็ค้าวข้อมือผมดึงไว้แทบจะทันที
“เฮ้ แบบนี้ไม่แฟร์สิ ฉันคุยกับเขาอยู่นะ” จินพูดเรียบๆ มือข้างหนึ่งถือแก้วข้างนึงจับข้อมือผม จะชิลไปนะ -_-
“ไอโฮปมันไม่ได้บอกคุณหรอว่าอย่ายุ่งกับผู้ชายคนนี้” แทฮยองถามผม หน้าเขาแดงนิดๆด้วยละ น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอก์
“เฮ้ ฉันมันทำไม” จินตะโกนข้ามหัวผมถามแทฮยอง เขากระดกแก้วนั่นรวดเดียวหมดก่อนจะลุกจากเก้าอี้หน้าบาร์
“ก็ไม่ทำไม” แทฮยองตอบเสียงเรียบ ผมรู้สึกแปลกๆว่าสองคนนี้น่าจะรู้จักกันมาก่อนนะ
“ฮ่าๆ แบบนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนเราเด็กๆเลย” จินพูดกับแทฮยอง ผมไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
“ฮยองทำแบบนี้ทำไม” แทฮยองถามจิน มือของเขาทั้งคู่ยังจับมือผมอยู่เลย
“น้องชายที่น่ารักของฉันหายไปไหนแล้วนะ” จินพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย นี่ผมตกมาอยู่ในสถานการณ์อะไรกันเนี่ย สองคนนี้เป็นพี่น้องกันหรอ ใครก็ได้ตอบผมที
“ผมยังคงเป็นผม ผมแค่ทำตามหน้าที่” แทฮยองบอกพร้อมกับสบตาแน่วแน่
“ฉันก็ทำตามหน้าที่” จินตอบ ผมได้แต่มองสองคนนี้เถียงสลับกันไปมา
“ไม่ แบบพี่มันเรียกความแค้นต่างหาก” แทฮยองเถียงพี่ชายตัวเอง
“บอกผมที่ว่าเกิดอะไรขึ้น” อยู่ดีๆผมก็ยโพล่ออกมา
“เคยคุยกับพระเจ้ารึป่าว” จินถามผมแบบยิ้มๆ
…อะไรนะเขาบอกว่าพระเจ้า ตลกละ นี่ผมเมาหรือเขาเมา?
“พี่จะบ้าหรอ” แทฮยองพูดพร้อมกับเอาเดินมาแงะมือของจินออกจากข้อมือผม และจินก็ยอมปล่อยด้วยดี
“เขาควรจะได้รู้นะ ว่ากำลังเจอกับอะไร” จินตอบหน้าเขายังมีรอยยิ้มที่ติดสนุกอยู่เลย
“ใช่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” แทฮยองคว้าแขนผมไปไว้ได้สองข้าง
“…” จินไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มเหมือนผู้ชนะ
“ตายแล้ว นี่มันอะไรกันครับนางวันทองสองใจหรอคุณเลขา”
คำว่าคุณเลขาทำเอาผมและแทฮยองตัวซีดเผือกไป กลับการมาเยือนของผู้มาใหม่ ‘จองกุก’ ยิ้มก่อนจะหันไปบอกให้ชายที่ใส่หมวกปิดหน้า ปิดตายออกไปก่อน ให้ตายเถอะต่อให้ปิดยังไงผมก็จำได้อยู่ดีว่านั่นคือจีมิน เพื่อนสนิทผมไงละ
“จีมิน !!” ผมเรียกคนตัวเล็ก
“ฉันขอโทษ!” จีมินตะโกนดังพอที่ผมจะได้ยิน ก่อนจะเดินออกไป
นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย แล้วนี่มันวันอะไรวันรวมญาติหรอ มากันครบเลย แล้วไอบ้าจินนี่ยังมายิ้มกวนประสาทข้างๆผมเนี่ย และเหมือนแทฮยองจะช็อกกับการปรากฏตัวของจองกุก ทำให้ไม่ปล่อยมือผมสักที
“สวัสดีครับไมได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณภรรยา...ไม่สิอดีตภรรยา” นี่เขาคงจะเกลียดผมน่าดูเลยละ ถึงได้ทักทายด้วยคำพูดประชดประชันแบบนั้น
“สวัสดีครับคุณจองกุก” แทฮยองได้สติรีบปล่อยมือผมแล้วหันไปหาจองกุก เขาก้มหัวให้จองกุกด้วยละ
“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้หรอก ‘เพื่อน’ ตอนนี้นายไม่ใช่เลขาฉันแล้วละ” แทฮยองเดินเข้ามาตบไหล่จองกุก
“มันไม่ใช่....” ผมกำลังจะแก้ตัวให้ แต่แทฮยองเอื้อมมือมาจับข้อมือผมอีกครั้งก่อนที่จะ
แป๊ก !
แทฮยองดีดนิ้วตัวเองหนึ่งที่ ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นทำไม หรือเค้ากำลังอินกับเพลงในผับ ไม่น่าใช่.... พอผมสังเกตรอบๆตัวเองแล้วทุกอย่างหยุดนิ่งสนิทไปหมด นาฬิกาดิจิตอลปนผนังนั้นก็หยุดอยู่ที่เลข 22.22 เสียงเพลงเงียบไปแล้ว เพราะดีเจนิ่งค้างด้วยท่าที่กำลังชูมือ ส่วนคนที่กับลังเต้นอยู่กลางฟอล์ก็นิ่งสนิท หรือแม้แต่จองกุกที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างก็ยังไม่ขยับ มีเพียงแค่ แทฮยอง ผม และ...จินที่ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือแทฮยอง เขาทำได้ไง !!
“นาย...” ผมหันไปจะพูดอะไรสักอย่างกับคนที่จับข้อมือผมอยู่ “ไหวรึป่าว” คำถามที่ผมตั้งใจจะถามแต่แรก ‘นายทำได้ยังไง’ ต้องเปลี่ยนไปเพราะตอนนี้ไหลกำลังไหลออกจากจมูกเขา แล้วหน้าเขาซีดมากๆ
“ไม่ต้องถามอะไรแล้ว ก็ห้ามปล่อยมือฉัน” เขาหันมาสั่งผมเรียบๆ ก่อนจะหันไปคุยกับจิน
“ฮ่าๆ ฉันไม่คิดว่านายจะทำเพื่อมนุษย์ขนาดนี้ หยุดเวลาทั้งโลกโดยที่นายอยู่ในร่างมนุษย์แบบนี้ฉันว่ามันจะไม่ไหวเอานะ” แวบแรกจินเหมือนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย แต่ทำไมผทรู้สึกว่ามันแฝงด้วยความเป็นห่วงเล็กๆ หรือผมคิดไปเอง
“ฮยองทำแบบนี้ทำไม เรียกเขามาทำไม” แทฮยองถามพร้อมกับชี้ไปที่จองกุก ตอนนี้มือที่จับข้อมือผมเหมือนไม่มีแรงแล้ว ผมเลยเปลี่ยนมาเป็นคนพยุงเขาเอง แวบนึงเหมือนผมจะเห็นจินจะวิ่งเข้ามาช่วยผมพยุงแทฮยอง แต่เขาก็ต้องก้าวถอยหลังไป ทำไมกันนะ?
“นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” จินพูดด้วยน้ำเสียงเดือดนิดๆ
“ฮ่าๆ เพราะโฮซอกมันเป็นเพื่อนผมละมั้ง” แทฮยองพูดเหมือนก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้หน้าเขาขาวซีดเหมือนกระดาษไปแล้วละ
“ถอนคำสาปสิวะ !!!” จินโวยวาย
“จริงๆผมตายก็ดีนะครับ ฮยองจะได้ควบคุมทุกอย่างคนเดียวไง” ผมไม่เข้าใจเลยว่าสองคนนี้พูดถึงอะไรกัน พวกเขาเป้นตัวเองอะไรกันแน่
“ฉันบอกให้ถอนคำสาป!!” จินโวยวายตอนนี้เขาดูรนรานไปหมด
แป๊ก!
แป๊ก!
แป๊ก!
แป๊ก!
จินดีดนิ้วรัวๆ เหมือนอยากให้เวลามันกับมาเดินต่อ แต่ต่อให้เขาพยายามเท่าไหร่มันก็ยังคงนิ่งสนิท นาฬิกายังคงบ่งบองตัวเอง 22.22 เหมือนเดิม
“มันไม่ได้ผลหรอกครับฮยอง มันเป็นคำสาปของผม ผมสาปให้เวลาหยุดนิ่งเอง” แทฮยองพูดแล้วยิ้มเล็กๆ ทำไมคนที่ใกล้จะตายอย่าแทฮยองถึงทำท่าเหมือนตัวเองถือไพ่เหนือกว่าด้วยนะ
“โอเคๆ นายอยากให้ฉันทำอะไร” จินพูดเสียงอ่อนลง
“แก้ไขทุกเรื่องที่พี่ก่อมา” แทฮยองบอกกับพี่ชายตัวเอง
“นายจะบ้าหรอ!!!”
“หรือพี่อยากเห็นผมตาย”
“ไม่ๆ นายต้องไม่ตาย โอเคๆ ฉันจะทำ” จินดูรนเดินไปมาไม่หยุด เหมือนคนใกล้จะสติแตกเต็มที
“สาบานกับพ่อสิ ว่าพี่จะไม่มาวุ่นวายกับชีวิตพวกเขาอีกแล้ว” แทฮยองยังคงเย็นชากับพี่ชายตัวเอง
“พ่อครับ มันเป็นความผิดของผมเอง ผมขอถอนคำสาปที่ผมทำกับโฮซอก เรื่องวุ่นวายพวกนี่ผมขอให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมตั้งแต่เริ่ม แล้วผมจะไม่วุ่นวายกับชีวิตพวกเขาอีกเป็นครั้งที่สอง ผมขอโทษ และสาบาน...”
จินคุกเข่าลงแล้วประสานมือไว้ข้างหน้าเหมือนเป็นการอ้อนวอนพ่อตัวเองอยู่ จากนั้นแทฮยองที่ผมประคองตัวเองก็หันมาจับไหล่ผม หน้าเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แล้วตัวเขามีประกายสว่างอะไรสักอย่างจนผมเองก็แสบตา
“ขอบใจนายมากนะยุนกิ ถ้ากลับไปเริ่มใหม่แล้วทำให้เขากลับมารักนายให้ได้นะ” แทฮยองบอกผม ตัวเขาค่อยๆสว่างมากขึ้น
“นายหมายความว่าไง” ในหัวผมมีแต่คำถามมากมายไปหมด จินเป็นคนทำให้โฮซอกมาเกิดใหม่หรอ เขานี่หมายถึงโฮซอกรึป่าว
“ทุกอย่างจะกลับไปเริ่มใหม่ เดี๋ยวนายจะรู้เอง^^”
แทฮยองบอกทิ้งท้ายเป็นปริศนาให้ผมไว้แค่นั้นก่อนที่เขาจะเดินไปหา จินที่ยังคงคุกเข่าอยู่ทีเดิม ตัวของแทฮยองมีแสงสว่างมากจนต้องเอามือมาบังตาตัวเอง ส่วนตัวจินนั้นกลับมีเงาที่มืดมิดจนน่ากลัว แทฮยองนั่งลงข้างๆจินก่อนจะฝั่งรอยจูบลงไปที่หน้าผากของจินที่ยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกผิด
“ถึงเวลาที่กลับไปที่ๆเรามาแล้วละครับ ฮยอง”
แสงสว่างวาบของแทฮยองทำให้ผมต้องหลับตาลง ภาพของพวกเขายังติดตาอยู่ พวกเขาเป็นพระเจ้างั้นหรอ ทำไมมีสองคน แล้วทุกอย่างจะกลับไปที่จุดเริ่มต้นคืออะไรกัน......
ผมตื่นมาเพราะแดดที่แยงตาผมในยามเช้าสายๆ มันจะเช้าหรือจะสายกันแน่นะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ใครกันมันนอนทับผมเนี่ย
โฮซอก...
ชื่อนี้สะดุดขึ้นในใจผม ผมรีบลุกขึ้นนั่งทันทีแล้วดึงร่างที่นอนทับผม ขึ้นมาให้พ้นจากผ้าห่ม
“ว่างไงคะที่รัก เมื่อคืนฉันเด็ดใช่ไหมคะ ยุนกิ 0.<” ร่างบางอันเปลือยเปล่าที่คร่อมร่างผมอยู่ทำเอาผมผิดหวังสุดๆ
“ฮะ?”
“ไม่เอาน่า เมื่อคืนเราสนุกด้วยกันสุดๆไปเลย” ร่างบางพูดพร้อมกลับเอานิ้วเรียวยาวที่ เพ้นเล็บซะสวย นิ้วเรียวสวยนั่นกำลังลูบไล้ที่หน้าท้องผม
“เมื่อคืน?” ผมทวนคำ ผมจำชื่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ
“โถ่ว นี่คุณจำฉันไม่ได้งั้นหรอ ต้องให้ฉันช่วยฟื้นความจำใช่ไหม” มือของเธอยังคงลูบไล้หน้าท้องผมที่มันกล้ามนิดๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันน่าแขยงแปลกๆ
“โฮซอก...” อยู่ดีๆผมก็โพล่งชื่อเขาออกมา
“โฮซอก ๆๆๆ นี่คุณพูดชื่อนั้นมันทั้งคืนเลยนะยุนกิ”
“ลูกผมหน่ะ” ผมพึมพำเหมือนบอกกับตัวเองมากกว่า
“ลูก!!!!!!!! นี่คุณมีครอบครัวแล้วทำไมไม่บอกฉัน” เธอโวยวายก็จะผละจากร่างผม แล้วลุกไปแต่งตัว
“…”
ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอ สมองผมกำลังรวบรวมเรื่องราวทั้งหมด ‘ทุกอย่างจะกลับไปที่จุดเริ่มต้น’ ประโยคนึงดังขึ้นในหัวผม
“เธอ เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น” ผมถามร่างบางที่กำลังใส่ยกทรงตัวเองอย่าทุลักทุเล
“เมื่อคืนเราเจอกันที่ผับ”
“แล้วไงต่อ”
“ก็จบที่เตียง!” ร่างบางที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาหาผมที่เตียง “แล้วเช้ามาคุณก็บอกว่าคุณมีลูกแล้ว” ร่างบางฉุนกับเรื่องที่ตัวเองเพิ่งรับรู้อยู่ไม่น้อย
“ลาก่อนละ คุณช่างภาพพ่อลูกอ่อน ก่อนที่เมียคุณจะมาตามตบฉัน” ผมบอกลาก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนผม
ใช่ นี่ผมเพิ่งจะตื่นมาแล้วนั่งสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ความฝันหรืออะไรกันแน่ ผมอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ไม่ใช่ห้องนอนของโฮซอก ไม่ใช่คอนโดของเข้ากับแทฮยอง แต่เป็นของบ้านของผมกับจีมิน
“เด็ดป่าววะเมื่อคืน ><” จีมินยินพิงกรอบประตูในมือมีกระทะกับตะหลิวแล้วเขาก็ส่วมผ้ากันเปื้อนลายหมู ถามผมเรื่องสาวที่เพิ่งเดินออกไป
“ไม่รู้เมา” ผมตอบส่งๆ
“โหย เด็ดแล้วเก็บเงียบอะดิ” จีมินยังคงแซวผมไม่เลิก เล่นปะดูหน้าด้วย
“นายรู้จักคนชื่อโฮซอกรึป่าว” ผมถามเพื่อนซี้ จีมินทำท่านึก
“รู้จักนะ ฉันเคยเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมกับหมอนั่นอยู่ แต่นิสัยไม่โอเคเลยวะ แกถามทำไมวะ”
“ไม่มีอะไรหรอก...”
ผมเขาใจทุกอย่างที่แทฮยองบอกผมแล้วละ ทุกๆมันกลับมาที่จุดเริ่มต้นแบบนี้สินะ กลับมาเริ่มต้นในเช้าวันที่ผมพบเขา เมื่อคืนผมคงเมาเพราะเสียใจเลยหิวสาวกลับมา และจินไม่ได้สาปเขาผมเลยไม่ได้เจอทารกข้างทาง ไม่ได้เจอเขา ตอนนี้โลกของผมและเขาคงเหมือนโลกคู่ขนานกันไปแล้วละ...
#ฟิคลูกเก็บ
เรื่องยังไม่จบแค่นี้นะคะ ยังไม่จบ 555 ชอบรึป่าวไม่ชอบเม้น ชอบก็เม้น ไรท์จะมาอัพบ่อยๆนะคะ ช่วงสงกรานต์อาจจะไม่ได้อัพ เพราะกลับตจว. แต่จะกลับมาชดเชยให้เท่าที่หายไปนะ อย่าลืมเข้าไปสตรีมในแท็ก #ฟิคลูกเก็บ กันน้า ><
ความคิดเห็น