คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 [100 percent]
Chapter 11
“ฉันมีงานให้นายทำ”
เสียงเรียบเปรยออกมาจากริมฝีปากบางของจองกุก มาดผูบริหารของเขายิ่งคงความสง่าทุกกิริยาบท นัยน์ตาที่นิลสบลึกเข้าไปในแววตาร่างสูงที่นั่งตรงข้าม
“งานอะไรครับ” นัมจุนถามอย่างนอบน้อมต่อผู้เป็นเจ้านาย
“จับตาดู....” จองกุกเว้นช่วงให้นัมจุนลุ้นหยุดหายใจเล่น “เมียผม”
“ฮะๆ ฮะ ให้ผมทำอะไรนะ” นักจุนถามอีกครั้งเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง
“ทำไมทำไม่ได้หรอ นี่เป็นงานแรกด้วยนะเนี่ย” จองกุกถามด้วยน้ำเสียงท้าทาย
“ทำไมคุณไม่ไปจ้างพวกสายสืบละ” นัมจุนถามเสียงเรียบ
“เปลือง” นัยน์ตาสีนิลสบไร้ความรู้สึกนั่นทำเอานัมจุนเย็นสันหลังวาบเลยทีเดียว
“ครับ ผมจะทำ” นัมจุนได้แต่รับคำอย่างว่าง่าย
บทสนทนาของคนในห้องถูกคนที่กำลังจะบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไปนั้น ต้องหยุดชะงักฟัง แทฮยองพยายามทุกอย่างเพื่อที่จะช่วยให้เจโฮปกับยุนกิกลับมารักกัน ถ้าจองกุกจับได้ว่าสองคนนั้นเล่นชู้กันศพคงจะจบไม่สวย เพราะนั้นเท่ากับยุนกิจะโดนฟ้องหมดตัว
เสียงฝีเท้าเร่งรีบของแทฮยองวิ่งไปตามทางเดินของบริษัท การหาตัวนายแบบอย่างเจโฮปในบริษัทใหญ่แบบนี้เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ถึงเขาจะไม่ใช่มนุษย์แต่การที่เขาต้องใช่ร่างมนุษย์ ทำให้มนต์ต่างไม่สามารถใช้ได้เต็มที่
“โอ๊ย รับสิวะ”
แทฮยองบ่นตลอดทางขณะที่โทรหาปลายสาย เพื่อนรักของเขาไม่รับโทรศัพท์ทั้งๆที่เขาเป็น ห่วงและอยากจะเตือนมากแค่ไหน
ปัง!
“จะรีบไปไหนละไอน้องชาย”
เพียงพริบตาเดียวร่างของแทฮยองก็ถูกเหวี่ยงเข้าห้องหนึ่งของบริษัท พร้อมกับประตูที่ปิดลงเสียงดัง ร่างสูงในชุดดำปรากฎกายด้วยท่าทีที่สง่าเช่นเคย
“พี่จิน...” เสียงแผ่วของแทฮยองเรียกชายชุดดำด้วยความคุ้นเคย
“เป็นไง คิดถึงกันละสิ” จินยิ้มเย็นก่อนจะย่างกายเข้ามาหาเทวดาน้อย
“ไม่เลย....”แทฮยองปฏิเสธเสียงเรียบ
“พี่จะมาเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ เรื่องนี้นายไม่ควรมายุ่ง โลกนี้พ่อมอบให้พี่ไม่ใช่ให้นาย” ร่างสูงเชยคางคนตัวเล็กให้สบตา
“เผื่อพี่จะแวะไปหาพ่อบ้างนะ ว่าโลกที่เขาให้พี่ดูแลอะไม่ใช่บนนี้ แต่เป็นนรก” มือเล็กๆของแทฮยองกำข้อมือของจินที่เชยคางตนไว้แน่น
“หึ... คนเลวมันต้องได้รับโทษ”
วูบหนึ่งร่างสูงหายไปพร้อมกับอากาศอย่างเช่นเคย แทฮยองทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง เขาท้อแท้กับเรื่องพวกนี้ เขาไม่สามารถทำให้เจโฮปกลับมามีความทรงจำเหมือนเดิมได้ ถ้าเขาทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จเขาจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ร่างกาย และโลกทั้งใบจะเป็นของพี่ชายต่างสายเลือด...
“งื้อ ผมบอกพี่กี่รอบแล้วว่าอย่ากินเลอะเทอะ”
ว่าจบคนตัวสูงก็ก้มลงมาเลียปลายจมูกร่างบาง อากาศร้อนๆแบบนี้ก็เหมาะกับไอศกรีมอยู่หรอก เหมาะแก่การที่ผู้ชายสองคนมาแผ่ออราใส่สาวๆในสวนสนุกแบบนี้
ผัวะ!
“ทำอะไรน่ะ”
มือเล็กของยุนกิฟาดลงบนหัวของเด็กปีนเกลียวผู้บังอาจมาเลียจมูกเขา ก็ให้ทำยังไงก็คนมันเขินอะ
“พี่ยุนเขินหรือไง” ร่างสูงทำหน้าล้อเลียน
“เฮอะ” ยุนกิกระแทกเสียงก่อนจะสะบัดหน้าหนี
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะคร๊าบ”
“คนเยอะแยะ หัดอายสะบ้างเถอะ”
“อยู่สองคนมากกว่านี้ไม่เห็นบ่น”
“บ่นอะไรคนเดียวห๊า” ผู้อาวุโสตัวเล็กกระโดดเถียงเจโฮป เพราะตัวเล็กหรอกนะ อย่าให้สูงละกันเงยหน้าคุยด้วยแล้วอย่ามาร้องไห้นะ
“ผมอยากเล่นบ้านผีสิง ไปกันเถอะ”
รอยยิ้มสดใสส่งมาให้คนขี้บ่นอย่างยุนกิ ร่างบางชะงักกับรอยยิ้มนั้นก่อนที่ข้อมือเล็กๆของเขาจะถูกลากให้เดินไปที่บ้านผีสิงด้วยกัน
“ว๊ากกกก”
ร่างสูงตกใจ กรีดร้องอยู่คนเดียวมีเพียงยุนกิเท่านั้นที่เดินท้าบ้านผ๊สิงอย่างหน้าตาเฉย ประหนึ่งเดินในสวนดอกไม้
“พี่ยุนไม่กลัวเลยหรอ ว๊ากกกกกกก ออกไปนะ”
เจโฮปสะบัดตุ๊กแกปลอมที่ถูกโยนมาแปะที่ไหล่เขาอย่างบ้าคลั่ง อ้อมแขนโอบกอดยุนกิด้วยความเคยตัว
“นี่ไม่เนียนเลยนะ”
ยุนกิบ่นพรางหยิบมือหนาๆ ที่พักเกี่ยวเรี่ยวเลื้อยบนร่างกายเขาให้ออกห่างตัว
“โห่วววววววว ผมกลัวจริงๆนะ”
“เด็กโกหกกก : P ”
“วันนี้สนุกมั๊ยครับ -3-”
ร่างสูงถามพรางเทขวดน้ำกรอกปากด้วยความกระหาย ก่อนจะเทน้ำที่เหลือราดหัวดับความร้อน เสื้อกล้ามสีขาวบางของเขาซับน้ำจนมันนบเนื้อไปกับตัว
“นายนี่...” ยุนกิพึมพำเบาๆ
“อะไรครับ”
“ดูดีทุกท่วงท่าจริงๆแฮะ”
“อยากจะกินผมขึ้นมาแล้วละสิ -3-”
“หลงตัวเองจริงๆ” ยุนกิทำหน้าหมั้นไส้
“ไม่งั้น พี่จะหลงผมขนาดนี้หรอ”
ประโยคที่หวานปานน้ำตาลกระแทกเข้าหน้าก่อนที่ริมฝีปากบางของเจโฮปจะประทับลงบนแก้มใสๆของยุนกิ
“ก้มลงมาสิ”
ยุนกิบอกสั้นๆก่อนที่จะดึงขอเสื้อกล้ามของเจโฮปให้โน้มลงมาหาตัวแล้ว ประทับจูบเล็กๆไว้บนริมฝีปากบาง หน้าของยุนกิแดงเป็นตูดลิงแต่คนตัวเล็ก ก็ยิ้มกลบเกลื่อน และรอยยิ้มนั้นเหมือนหยุดโลกทั้งใบของเจโฮปไปในคร่าเดียวกัน
แชะ แชะ แชะ
ผมสีทองปลิวลู่ไปกับลม สายตาคมของช่างภาพมองผ่านเลนส์ชายสองคนกำลังกอดกันกลม ปลายนิ้วของเขารัวชัตเตอร์อย่างชำนาญ นัมจุนไม่อยากทำแบบนี้ ไม่อยากทำลายความรักหรือวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวคนอื่น เพราะฐานะทางบ้านเขาจึงจำเป็นต้องทำ....
สิ้นเสียงชัตเตอร์ หนุ่มร่างสูงผมทองสาวเท้าเข้าไปหา ชายสองคนที่อยู่ในเป้าสายตาของเขา
“ทำอะไรน่ะ” เจโฮปชักสีหน้าไม่พอใจใส่ร่างสูงที่ดึงข้อมือเขาไว้
“ป่าว ผมแค่...” นัมจุนเผยหน้าจอกล้องดิจิตอลให้เจโฮปดู มันเป็นภาพที่เขาถ่ายได้เมื่อครู่
“ใครส่งคุณมา” คนตัวเล็กที่เงียบอยู่นาน ถามขึ้นทันทีที่เป็นรูป
“ผมว่าพวกคุณคงเดาออก และผมจะช่วยครั้งนี้เป็นครั้งเดียว ถือว่าเราเคยรู้จักกัน นายเป็นหนี้ฉันสองรอบแล้วนะ โฮซอก...” นัมจุนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินจากไป
“พี่ยุนเป็นอะไรไปอะ” เจโฮปถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กนิ่งค้างไป
“….”
“พี่กลัวมันจับได้หรอ”
“….”
“มันทำแบบนี้เท่ากับว่ามันไม่ไว้ใจพี่แล้วนะ”
“….”
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไมอะ”
คนตัวสูงโถมตัวเข้าไปกอดยุนกิทันทีที่น้ำใสๆร่วงผล็อยออกจากตา มือเล็กๆโอบกอดร่างแกร่งไว้แน่นไม่ให้ร่างนั้นลอยไปกับอากาศอีกครั้ง
“โฮซอก” เสียงอู้อี้ที่ซบอยู่ที่อกของเจโฮป ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์แต่ร่างสูงก็ยังกอดตอบไว้แน่น
“โฮซอก...”
“หือ?” ร่างสูงแปลกใจกับชื่อนั้นแต่ก็ยังไม่ละ ร่างบางออกจากอ้อมกอด
“โฮซอก...”
“….”
“อย่าไปไหนอีกเลยนะ อยู่กับมี้นะ”
ผลัก!
“อ้ากกกกกกกกกกกกก!!”
ร่างเล็กของยุนกิถูกคนตัวสูงผลักออกจากตัวอย่างกะทันหันจนเซล้มลงกับพื้น ก่อนที่ร่างสูงจะกุมขมับแน่นด้วยความเจ็บปวด เส้นเลือดเส้นหนาขึงตึงอยู่ตรงหน้าผากเขา
“โฮซอก นายเป็นอะไรไป”
“ผม...ผมปวดเหมือนหัวจะระเบิดเลยครับมี้”
อยากให้สกรีมกันเยอะๆ
#ฟิคลูกเก็บ
ความคิดเห็น