คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 Nothing Luv
Chapter 4
Nothing Luv…
[Yunki Part]
หลังจากที่ผมปล่อยพลังกายออกไปหมดเพื่อทุบประตูให้มันเปิด มันก็ไม่เป็นผล ผมเลยใช้พลังบาทาถีบกลอนประตูจนมันหลุดไม่เป็นชิ้นดี ผมเป็นห่วงเขามากห่วงมากจนผมกลัวไปหมด กลัวว่าเขาจะหายไปง่ายๆเหมือนที่เขาโผล่เขามาในชีวิตผม
“เฮ้ ไอมนุษย์ชีเปลือย”
“…”
“โฮซอก...”
ร่างสูงยืนจับแขนของตัวเอง สายตาของเขาเหม่อมองไปที่กระจก เหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างผมเลยเรียกเขาด้วยชื่อของเขา จนเขาหลุดออกจากภวังค์
“มี้...”
โฮซอกกอดผมแน่นทั้งยังทิ้งตัวลงมาที่ผมเหมือนตัวเองอ่อนล้าเต็มที หน้าของเขาซีดเผือก แถมมีเหงื่อออกเต็มไปหมดเหมือนกับกลัวอะไรสักอย่าง ตัวของเขาสั่นเทาน้ำใสๆคลออยู่ที่ตาคู่สวยคู่นั้น
“ไม่เป็นไร...ฉันอยู่ตรงนี้” ผมกอดปลอบเขา
“อื้อ...”
ตอนนี้ชีวิตผมปกติสุขดีมีเพื่อน มีงาน มีเงิน และมีลูก... หลังจากวันนั้นลูกชายผมก็มีพฤติกรรมที่ผิดปกติมาตลอด เหมือนจะเข้าหาผมแบบถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้นอะนะ -0- ถึงแม้ผมจะถามเขาว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น เขากลับตอบมาแค่ว่า ‘ผมกลัวความมืด’ แล้วอย่างนี้ผมจะไปสักอะไรเขาต่อได้นะ
“มี้ ทำไรอยู่” ร่างสูงยืนพิงกรอบประตูห้องครัว
“จับแช...กินป่ะ” ผมถาม
“กินสิ....แต่ว่า...” ร่างสูงเดินมาซ้อนข้างหลังผม ก่อนที่จะก้มลงมากระซิบข้างหู “กินมี้ด้วยได้ป่ะ”
โป๊ก!
ทัพพีด้ามสีชมพูให้มือผมลอยไปกระทบหัวคนข้างหลังเสียงมันดังมากจนผมเองก็เจ็บแทน 555+ ซึ่งนั่นเป็นฝีมือของผมเอง
“โอ๊ย...มี้รู้ป่าวว่า ตีหัวครั้งหนึ่งเท่ากลับเซลล์สมองตายไปร้อยล้านตัว”
โป๊ก! โป๊ก!
“โอ้ย! เจ็บนะมี้” เอามือกุมหัวอย่างทรมาน
“กี่ร้อยล้านแล้วละ ไหนคิดเลขให้ดูสิ” ผมถามอย่างกวนๆ
“มี้อ่า...”
“ไปเลยไปทำงานบ้านไป” ผมไล่
“ถึงมี้จะทำร้ายเซลล์สมองผม แต่ผมจะถนอมมี้เอาไว้ทุกส่วน”
ร่างสูงลูบหัวผมปอยๆเหมือนผมเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง แต่ทำไมผมถึงเคลิ้มไปละ ไม่นะๆ เขากำลังบอกว่าผมเป็นสัตว์เลี้ยงนะ
“ถึงมี้จะว่าด่าผมยังไง” ลูบหัวผมต่อ
…ทำไมผมไม่ขัดขืนละ
“ถึงมี้จะตีผมยังไง”
...ตีเลยตีมั๊ยห๊ะ (เคลิ้มอยู่...ยกทัพพีไม่ขึ้น)
“ผมก็ยังจะอยู่ตรงนี้ อยู่กับมี้...”
ร่างสูงกระเถิบตัวเข้ามาเพื่อให้เราได้ใกล้กัน ก่อนที่จะโน้มหน้าใสๆนั่นเขามาหาผม ริมฝีปากบางกระซิบที่ข้างหูผมว่า
“มี้...มื้อเช้าเรา...ไหม้แล้วนะ”
...ห๊ะ!
ผมรีบหันไปปิดแก๊สที่มีเส้นจับแชสีดำไหม้เกรียม และติดแหงกอยู่ที่กระทะ ทำไมเมื่อกี้ผมไม่ได้กลิ่นนะสติผมเลอะเลือนขนาดนั่นเลยหรอ ต้องโทษไอเด็กนี่ที่ทำผมเคลิ้มตามอะ
ยังไม่หมดแค่นี้นะข้างบนนี่เป็นแค่เบสิก ไอเด็กนี่ยังก่อกวนชีวิตผมทุกวัน ตามผมไปทุกที่เหมือนวิญญาณ(?)แบบหนังเรื่องชัตเตอร์กดติดวิญญาณอ่ะ
ติ๊งต๊อง...
เสียงออดหน้าบ้านทำให้ผมที่กำลังนอนพักผ่อนกายต้องลุกไปเปิด จริงๆวันนี้เป็นวันหยุดของผม ผมเลยสามารถนอนเล่นกล้องตัวใหม่ได้อย่างสบายใจ จีมินก็ไปทำงาน ส่วนลูกชายผมนะหรอนั่งเล่นคอมตั้งแต่กินมื้อเช้าอิ่มละ
“สวัสดีครับ...อ่าว คุณจองกุก” ผมเปิดประตูทักแขก
“สวัสดีครับ” จองกุกทักผมอย่างเป็นมิตร
“เข้ามาข้างในก่อนมั๊ยครับ”
“ครับ^^”
จองกุกถอดรองเท้าคัชชูแสนเงานั่นก่อนจะใส่รองเท้าลำลอง เขาดูดีทุกกระบวนท่า แบบมองมุมไหนก็หล่อมุมไหนก็สมาร์ท
“เอ่อ...มีอะไรติดหน้าผมรึป่าวครับ” จองกุกถามเมื่อเห็นผมจ้องหน้า
“อ้อ ป่าวครับไม่มีอะไร” ผมปฏิเสธเป็นพัลวัน
จองกุกส่งยิ้มให้ผมนัยน์ตาสีนิลนั่นดูเด่นมากเวลาที่มันยิ้มไปพร้อมกับตา ยิ่งผมสีดำนั่นยังทำให้ผิวขาวๆของเขาดูสว่างขึ้นอีก อา...นี่ผมเป็นอะไรอะไรไปเนี่ย ผู้ชายคนนี้ทำให้ผมละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ
“ที่ผมมาวันนี้...ผมมาขอโทษที่ห้างของผมไม่ได้เรื่อง ไฟดับวันนั้น...”
“ผมทำประตูพังนะ” นี่เขาไปเคาะประตูขอโทษลูกค้าของเขาทุกคนเลยป่ะเนี่ย
“มันเป็นความบกพร่องของเราเองครับ”
...คนดีจัง
“เอ่อ...ผมจะมาชวนคุณไปทาน...ข้าว”
ซวบ....
ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมทำให้จองกุกที่กำลังพูดต้องชะงัก คนที่มาเยือนไม่ใช่ใครแต่เป็นลูกชายผมเอง
“วันนี้พี่ยุนกิไม่ว่างหรอกฮ้ะ” คนตัวสูงพิงโซฟาด้วยท่าสบาย
...เขาเรียกผมว่าอะไรนะ พี่ยุนกิหรอ
“ผมหมายถึงวันหลังก็ได้ครับ^^ สำหรับยุนกิผมว่างเสมอ” จองกุกส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ผม
“แต่สำหรับคุณ...พี่ยุนกิไม่มีเวลาว่างให้หรอกครับ :)” โฮซอกพูดพร้อมยิ้มเหยียดๆ
“โฮซอก...” ผมพูดปรามเขา
“โอเคครับๆ ฮ่าๆ” จองกุกพูดพรางหัวเราะไปด้วย “น้องชายคุณนี่ท่าจะหวงคุณมากนะครับ”
….อ๊า ตาที่ยิ้มไปด้วยนั่นน่ารักจัง
“งั้นวันนี้ผมขอตัวลาก่อนนะครับ” จองกุกพูดพร้อมยืนขึ้นโค้งตัว ทำให้ผมที่เป็นเจ้าบ้านต้องลุกขึ้นเช่นกัน
“โฮซอก...” ผมเรียกคนตัวสูงที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เบือนหน้าไปทางอื่น เสียมารยาท-*-
“ไม่เป็นไรครับ^^” จองกุกยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเขาเข้าใจ
“เอาอีกแล้วนะมี้ มี้ไม่เห็นสายตามันหรอ” ลูกชายขี้หวงผมพูดขึ้นหลังจากที่ผมส่งแขกเสร็จ
“ที่นายทำแบบนั้นมันเสียมารยาทนะรู้มั๊ยะ” ผมดุ
“เฮอะ!”
โฮซอกทำท่างอนผมก่อนจะวิ่งหนีขึ้นห้องไป แล้วเขางอนแบบนี้ผมต้องตามไปง้อมั๊ยเนี่ย
“ทำไมมี้ไม่ตามมาง้อละ” คนตัวสูงวิ่งลงมาอีกครั้ง
...อ่าว นี่ผมต้องง้อหรอ
“มี้ไม่วิ่งตามมาง้อ ทั้งๆที่ผมยังงอนอยู่”
…ผมมองเขาอย่าง เหวอๆ ผมเปลี่ยนโหมดไม่ทัน
“ถ้ามี้ไม่ง้อ....”
...เดินเข้ามาใกล้ผม
“มี้ยังไม่ง้ออีก” โฮซอกเอามือโอบรอบคอผม
...แล้วผมต้องง้อยังไงวะ
“ถ้ามี้ยังไม่ง้อ...”
…อารมณ์แปรปรวนป่าวเนี่ย ผมเปลี่ยนตามไม่ทัน เมื่อกี้ยังงอนนี่เดินมาโอบ -0-
“ถ้าไม่ง้อ...ผมจะกินมี้ละนะ”
ร่างสูงเลือนมือลงมาที่เอวผมก่อนที่จะโน้มหน้านั่นเข้ามาใกล้ๆ แต่ฝันไปเลยนะไอเด็กบ้า ผมเอามือขึ้นมาปิดปากเด็กดื้อซะก่อน
“โอ่ว...อี้อ่า(โถ่ว...มี้อ่า)” คนถูกปิดปากโวยวาย
“ไม่ต้องเลยนะ เป็นเด็กเป็นเล็กทำอะไรเนี่ย ใครที่ไหนเขาสอนมา-*-” ผมดุก่อนเอามือออก
“โห่ว...แม่ที่ไหนเขาก็จุ๊บๆลูกทั้งนั้นละ” คนตัวสูงงอแง
“มันไม่ใช่แบบนี้ ใครมาเห็นเขาจะเข้าใจผิด”
“มีแค่เราสองคน ไม่มีใครเห็นหรอก จะทำอย่างอื่นมากกว่านี้ก็ยังไม่เป็นเลย”
“-0- เด็กบ้าใครเขาสอนมาห๊ะ แล้วพักหลังๆนี้เป็นอะไรทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะ...อุ๊บ”
เสียงผมถูกกลืนกายลงคอไปเมื่อคนตรงหน้าประกบริมฝีปากนั่นลงมาประกบที่ปากผม สติผมหายไปพร้อมประโยคที่จะพูดเมื่อกี้ ร่างสูงกระชับอ้อมแขนให้แน่ขึ้นเมื่อขาของผมเริ่มไร้เรี่ยวแรง
“นายจะ...อื้อ..”
ผมถามยังไม่ทันจบประโยคร่างสูงที่อุ้มผมมาทีโซฟาก็ดูดกลืนคำพูดผมไปอีกครั้ง เหมือนไม่อยากให้ผมพูดอะไร เขาขึ้นคร่อมมาบนตัวผมที่นอนอยู่บนโซฟา ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องเองถึงไม่ขัดขืน ผมไม่อยากยอมรับความรู้สึกดีนี้จริงๆ
“อื้อ...”
ผมร้องครางเมื่อเขี้ยวของคนข้างบนขบลงบนคอของผม เสียงลมหายใจแรงๆของเขาอยู่ข้างหูผมทำให้ เรี่ยวแรงของผมจะหมดเอาดื้อๆ ร่างสูงไม่หยุดแค่เท่านี้มือของเขาไล้ไปทั่วร่างกายผมเหมือน
“ยุนกิ...ทำเพื่อฉันได้มั๊ย”
ริมฝีปากเขากระซิบที่ข้างหูผมผมไม่เข้าใจว่าคำถามนั้นมันหมายถึงอะไร เขาไม่หันมาสบตาผม เพียงแต่พ่นลมหายใจอยู่ข้างๆหูผม
“แค่ทำเพื่อนฉัน...แล้วฉันจะไม่ขออะไรอีกแล้ว”
ร่างสูงพูดอีกครั้งก่อนจะจูบผมอีกครั้ง จูบครั้งนี้มันอ่อนโยนมากจนผมรู้สึกได้ จูบที่หอมหวานจนผมไม่อยากเสียมันไป ลิ้นอุ่นๆเลียรอบริมฝีปากผมเหมือนเป็นการยั่ว ผมเหมือนจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งความหอมหวานนั่น
“ยุนกิ นายตกลงแล้วใช่มั๊ย”
“อื้อ...”
ผมตอบรับร่างสูงที่อยู่ข้างบนด้วยเสียงที่แผ่วเบามาก ผมจูบตอบเขาแต่ผมก็ไม่สามารถรุกกลับได้ เขาทำให้ตัวผมร้อนไปหมดท้องผมวูบวาบเหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เสื้อของผมถูกถอดออกไปก่อนที่เขาจะถอดเสื้อของตัวเอง
ร่างสูงแนบให้ตัวเราติดกันเพื่อแลกไออุ่นซึ่งกัน ปากของเขาไล้และขบเขี้ยวไปทั่วเรือนร่างของผม นิ้วเรียวยาวนั่นกำลังก่ายเกี่ยวกางเกงผมออกจากร่างกาย
“เดี๋ยว...”
เหมือนสติผมกลับมาการกระทำแบบนี้มันไม่ถูก ผมจึงร้องทักร่างสูงที่กำลังลิ้มรสร่างกายผมอยู่
“ฉันบอกว่าเดี๋ยว” ผมพูดย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขาไม่หยุด
“…” ร่างสูงมองผมด้วยสายตาว่างเปล่าผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร
“เราทำแบบนี้มันไม่ถูก”
“อื้อ...”
ร่างสูงตอบอย่างนั้นก่อนที่จะลุกออกจากตัวผมไปเดินไปหยิบเสื้อคลุมแล้ว เดินออกจากบ้านไป เขาโกรธหรอ นี่ผมทำถูกแล้วรึป่าว....
ที่ผมต้องหยุดเขาไว้เพราะผมเองต้องการจะหยุดตัวเองด้วยเช่นกัน หยุดความคิดบ้าๆพวกนี้เอาไว้ ผมไม่อยากรู้สึกดีกับเขาไปมากกว่านี้ ผมกลัว... กลัวว่าถ้าผมผูกพันกับเขามากไป มากจนเมื่อถึงเวลาเขาไปผมจะทนกับความรู้สึกนี้ไม่ได้.....
สตรีม #ฟิคลูกเก็บ
ความคิดเห็น