คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บอกมาว่ามันคือเรื่องตลก ?
วันรายงานตัววันแรกของนักศึกษาใหม่อย่างฉันแสนวุ่นวาย ทั้งเสียงรุ่นพี่ที่ตะโกนเสียงดังเรียกรุ่นน้อง ไหนจะยังเสียงกลองของกลุ่มรุ่นพี่ที่ยืนเต้นกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั่นอีก แล้วทำไมวันนี้แดดประเทศไทยต้อนรับน้องใหม่อย่างฉันขนาดนี้นะ จะละลายอยู่แล้ว! ฉันหยิบเอาเอกสารที่พึ่งได้รับมาพัดเพื่อไล่ความร้อน พร้อมกับมองตามหาคณะที่ฉันต้องไป
พลั่ก
ฉันเดินชนเข้าไปผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเอกสารมากมายที่ถือมาร่วงลงมากองรวมกันทั้งของฉันและเขา ฉันรีบก้มเก็บเอกสารนั่นทันที กระดาษสีขาวที่บอกชื่อของนักศึกษาใหม่ ‘นายธนาคาร เปี่ยมศักดิ์ศรี’ ฉันอ่านชื่อนั่นทวนสามครั้งติดและค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองรูปที่แปะอยู่ข้างๆนั่น ...นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว
“ละมุนใช่มั้ย?” เสียงเข้มถามฉันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยแน่ใจนัก ฉันค่อยๆเงยหน้าไปมองบุคคลที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสามปีเต็ม ตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว คนที่ฉันพยายามหนีมาตลอดสามปี
“อะ อืม” ฉันยื่นเอกสารในมือคืนเขาและค่อยๆลุกขึ้นยืน นี่มันน่าอึดอัดชะมัดเลยให้ตายซิ ทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ด้วยนะ ฉันพยายามไม่สบตากับแบงค์พันในขณะที่หมอนั่นพยายามมองหน้าฉันเต็มที่ คือฉันสัมผัมได้น่ะนะ
“เธอเรียนที่นี่เหรอ”
“อืม แล้วนายละ”
“อืม” แบงค์พันตอบกลับมาสั้นๆด้วยเสียงที่นิ่งสุดๆไปเลย ฉันอยากจะกรี๊ดตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย บรรยากาศนี่มันน่าอึดอัดชะมัด แต่ก็คงจะไม่แปลกอะไร ก็ช่วงที่เราแยกกันไปมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นี่เนอะ
สามปีที่ผ่านมา
‘ละมุนตกลงแกแอบชอบใครอะ’ แบงค์พันยื่นซองจดหมายสีชมพูมาตรงหน้าฉันพร้อมหรี่ตาลงอย่างจับผิด
‘เปล่า ไม่มี ไม่ได้ใครชอบทั้งนั้นแหละ’
‘แล้วนี่คืออะไร’
‘ไม่อะไร แกอย่ายุ่งเลย โหว!’ ฉันกระโดดไปขว้างซองจดหมายน้อยสีชมพูนั่นมา แต่แบงค์พันเอียงตัวหลบได้ทัน นี่มันบ้าชะมัดเลย
‘ถ้าแกไม่บอกฉันจะอ่าน’
‘ไอหน้าด้าน ไม่ใช่ของแกแล้วจะอ่านทำไม!’ แบงค์พันแลบลิ้นอย่างล้อเลียนแล้วมันก็แกะซองจดหมายสีชมพูอ่านหน้าตาเฉย เฉยมาก จนฉันหน้าซีดเผือก ยิ่งกว่าเผือกต้มแฉะด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้สติฉันเลยรีบกระโจนเข้าไปขว้างจดหมายในมือนั่นมาพร้อมกับยัดเข้าปากไปตามแบบฉบับหนังไทยสุดๆ
‘เออแก..’
‘...’ ฉันไม่ตอบอะไรทำได้แค่ส่ายหัวเป็นพัลวันแล้วรีบวิ่งออกมาจากสถานที่เกิดเหตุทันที จะไม่ให้หนีออกมาได้ไงล่ะ ก็ในจดหมายมันเขียนว่า ‘รักแบงค์พัน’ ตัวเท่าบ้าน ฉันไม่น่าเคลิ้มตามไอพวกช่างยุเลย ดูดิฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน และเหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ฉันส่งข้อความไปบอกแบงค์พันว่า ‘แกไม่ต้องคิดมากนะ ฉันแค่หวั่นไหวตามสถานการณ์แค่นั้นแหละ ยังไงแกก็เพื่อนฉันนะ’ แค่นั้น และเปลี่ยนเบอร์ทันที แล้วฉันก็ย้ายโรงเรียนไปเลย สวัสดี!
กลับมาที่ปัจจุบัน ...เราก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายมองหน้าส่วนฉันหลบตากันแบบนี้ มันบรรยากาศมันช่าง ...เงียบ นิ่ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาก่อน ทั้งๆที่มีผู้คนมากมายรอบตัวเราเต็มไปหมด แต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหมือนฉันอยู่กับหมอนี่แค่สองคนนะ ฉันกระแอมเบาๆเพื่อทำลายความเงียบระหว่างเราและค่อยๆสบตาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“นายสบายดีนะ”
“อืม” แบงค์พันยักคิ้วตอบฉันสั้นๆ นี่มันอึดอัดเกินไปแล้ว ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง
“ฉันต้องไปตามหาตึกคณะก่อน ไปนะ” ฉันโบกมือลาและรีบเบี่ยงตัวหลบแบงค์พันที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที หน้ามันโหดขึ้นเยอะเลยอะ แล้วยิ่งมาทำหน้านิ่งแบบนี้ ฉันไม่ร้องไห้ต่อหน้ามันก็ดีขนาดไหนแล้ว T_T!!
ความคิดเห็น