ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระยะห่าง ...ชิดใกล้

    ลำดับตอนที่ #1 : บอกมาว่ามันคือเรื่องตลก ?

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 57


                  วันรายงานตัววันแรกของนักศึกษาใหม่อย่างฉันแสนวุ่นวาย ทั้งเสียงรุ่นพี่ที่ตะโกนเสียงดังเรียกรุ่นน้อง ไหนจะยังเสียงกลองของกลุ่มรุ่นพี่ที่ยืนเต้นกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั่นอีก แล้วทำไมวันนี้แดดประเทศไทยต้อนรับน้องใหม่อย่างฉันขนาดนี้นะ จะละลายอยู่แล้ว! ฉันหยิบเอาเอกสารที่พึ่งได้รับมาพัดเพื่อไล่ความร้อน พร้อมกับมองตามหาคณะที่ฉันต้องไป

                    พลั่ก

                    ฉันเดินชนเข้าไปผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเอกสารมากมายที่ถือมาร่วงลงมากองรวมกันทั้งของฉันและเขา ฉันรีบก้มเก็บเอกสารนั่นทันที กระดาษสีขาวที่บอกชื่อของนักศึกษาใหม่ นายธนาคาร เปี่ยมศักดิ์ศรีฉันอ่านชื่อนั่นทวนสามครั้งติดและค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองรูปที่แปะอยู่ข้างๆนั่น ...นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว

                    “ละมุนใช่มั้ย?” เสียงเข้มถามฉันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยแน่ใจนัก ฉันค่อยๆเงยหน้าไปมองบุคคลที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสามปีเต็ม ตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว คนที่ฉันพยายามหนีมาตลอดสามปี

                    “อะ อืม” ฉันยื่นเอกสารในมือคืนเขาและค่อยๆลุกขึ้นยืน นี่มันน่าอึดอัดชะมัดเลยให้ตายซิ ทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ด้วยนะ ฉันพยายามไม่สบตากับแบงค์พันในขณะที่หมอนั่นพยายามมองหน้าฉันเต็มที่ คือฉันสัมผัมได้น่ะนะ

    “เธอเรียนที่นี่เหรอ”

    “อืม แล้วนายละ”

    “อืม” แบงค์พันตอบกลับมาสั้นๆด้วยเสียงที่นิ่งสุดๆไปเลย ฉันอยากจะกรี๊ดตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย บรรยากาศนี่มันน่าอึดอัดชะมัด แต่ก็คงจะไม่แปลกอะไร ก็ช่วงที่เราแยกกันไปมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นี่เนอะ

     

    สามปีที่ผ่านมา

                    ละมุนตกลงแกแอบชอบใครอะแบงค์พันยื่นซองจดหมายสีชมพูมาตรงหน้าฉันพร้อมหรี่ตาลงอย่างจับผิด

                    เปล่า ไม่มี ไม่ได้ใครชอบทั้งนั้นแหละ

                    แล้วนี่คืออะไร

                    ไม่อะไร แกอย่ายุ่งเลย โหว!ฉันกระโดดไปขว้างซองจดหมายน้อยสีชมพูนั่นมา แต่แบงค์พันเอียงตัวหลบได้ทัน นี่มันบ้าชะมัดเลย

                    ถ้าแกไม่บอกฉันจะอ่าน

                    ไอหน้าด้าน ไม่ใช่ของแกแล้วจะอ่านทำไม!แบงค์พันแลบลิ้นอย่างล้อเลียนแล้วมันก็แกะซองจดหมายสีชมพูอ่านหน้าตาเฉย เฉยมาก จนฉันหน้าซีดเผือก ยิ่งกว่าเผือกต้มแฉะด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้สติฉันเลยรีบกระโจนเข้าไปขว้างจดหมายในมือนั่นมาพร้อมกับยัดเข้าปากไปตามแบบฉบับหนังไทยสุดๆ

                    เออแก..

                    ‘...’ ฉันไม่ตอบอะไรทำได้แค่ส่ายหัวเป็นพัลวันแล้วรีบวิ่งออกมาจากสถานที่เกิดเหตุทันที จะไม่ให้หนีออกมาได้ไงล่ะ ก็ในจดหมายมันเขียนว่า รักแบงค์พันตัวเท่าบ้าน ฉันไม่น่าเคลิ้มตามไอพวกช่างยุเลย ดูดิฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน และเหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ฉันส่งข้อความไปบอกแบงค์พันว่า แกไม่ต้องคิดมากนะ ฉันแค่หวั่นไหวตามสถานการณ์แค่นั้นแหละ ยังไงแกก็เพื่อนฉันนะแค่นั้น และเปลี่ยนเบอร์ทันที แล้วฉันก็ย้ายโรงเรียนไปเลย สวัสดี!

     

                    กลับมาที่ปัจจุบัน ...เราก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายมองหน้าส่วนฉันหลบตากันแบบนี้ มันบรรยากาศมันช่าง ...เงียบ นิ่ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาก่อน ทั้งๆที่มีผู้คนมากมายรอบตัวเราเต็มไปหมด แต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหมือนฉันอยู่กับหมอนี่แค่สองคนนะ ฉันกระแอมเบาๆเพื่อทำลายความเงียบระหว่างเราและค่อยๆสบตาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

                    “นายสบายดีนะ”

                    “อืม” แบงค์พันยักคิ้วตอบฉันสั้นๆ นี่มันอึดอัดเกินไปแล้ว ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง

                    “ฉันต้องไปตามหาตึกคณะก่อน  ไปนะ” ฉันโบกมือลาและรีบเบี่ยงตัวหลบแบงค์พันที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที หน้ามันโหดขึ้นเยอะเลยอะ แล้วยิ่งมาทำหน้านิ่งแบบนี้ ฉันไม่ร้องไห้ต่อหน้ามันก็ดีขนาดไหนแล้ว T_T!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×