เรื่องจริงทะลุโลก (Of The World)

ลำดับตอนที่ #47 : 8 ตัวนำโชคเจ้าปัญหา

           มาสคอท (Mascots) แปลว่าตัวนำโชค  ผู้นำโชคดี ชัยชนะ แก่ทีมกีฬานั้นๆ   ใช้แสดงตัวขณะเปิดสนาม   และเย้ายวนกับคนดูหรือล้อเลียนข่มขวัญคู่ต่อสู้ก็ได้  นอกจากมันยังบ่งบอกถึงขนบธรรมเนียมประเพณี  รูปแบบ คำจำกัดความ เมื่อใครเห็นตัวนั้นต้องร้องอ้อทันทีว่าทีมไหนลงแข่งบ้าง

                ต้นกำเนิดของมาสคอตตัวแรกนั้น จากการค้นหาข้อมูลของถามตอบรอบโลกไม่พบหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นต้นคิดหรือใครเป็นคนแรกที่นำมาใช้ มีเพียงการอ้างอิงว่าครั้งแรกที่มีการปรากฏตัวของเจ้าตัวมาสคอต คือในช่วงปลายค.ศ.1800 ในการแข่งขันกีฬาระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย จากนั้นไม่นานทีมกีฬาหลายๆชนิด จึงนำสัญลักษณ์นำโชคมาปักไว้บนชุดแข่งขันด้วย

ในปี 1972 ได้มีการเปิดตัวมาสคอต ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี จากนั้นมา เจ้าตัวตุ๊กตารูปสัตว์ มนุษย์ หรือสิ่งของ ก็ได้กลายเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์จนถึงปัจจุบัน

นิสัยของเจ้ามาสคอตนั้น ทุกตัวจะมีอารมณ์ขันและจิตใจดี พวกมันจะคอยต้อนรับขับสู้นักกีฬาและแขกทั่วโลกที่มาร่วมแข่งขันกีฬา เรียกเสียงหัวเราะจากเด็กๆรวมทั้งสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับกองเชียร์

ในส่วนของคำว่า "Mascot" เป็นที่รู้จักกันในปี ค.ศ.1880 เมื่อนักแต่งเพลงชาวฝรั่งเศส Edmond Audran ได้เขียนละครตลกมีชื่อว่า "La Mascotte" แต่ด้วยที่ชื่อค่อนข้างยาว ชาวฝรั่งเศสบางส่วนจึงเรียกให้สั้นและกระชับในศัพท์แสลงว่า “masco” ซึ่งมีความหมายว่า แม่มด นอกจากนี้บางส่วนเรียกว่า mascoto ที่แปลว่าคาถา

ละครตลก "La Mascotte" ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง แต่ในภาษาอังกฤษเรียกละครดังกล่าวว่า "The Mascot" ที่หมายถึงสัตว์ คนหรือสิ่งของนำโชค

                แต่ก็มีมาสคอทบางตัวเหมือนกัน ที่เข้าข่าย “เจ้าปัญหา”  และ ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวนัก   แบบว่าแทนที่จะ ข่มขวัญกับกลายเป็นให้ความรู้สึกน่าสมเพสแทน ตัวอย่างต่อไปนี้ ผมเห็นมันติ๊งต๊องดีเลยเอามาฝากให้อ่านกัน

8.ปราสาทนำโชค

               

                เป็นตัวนำโชคในการแข่งขันฟุตบอลคนพิการรอบแรก มันใช้ชื่อว่า เรียล วอลลัดโดลิด

                ใครๆ เห็นต่างบอกว่า “มันแปลกดีเนอะ” ท่อนล่างเหมือนอีกา ท่อนบนเป็นตัวการ์ตูนมีหัวเป็นเชิงเทียน ปราสาท ซึ่งเวลาเดินจะเดินแบบทื่อๆ เดินถอยหลังได้ตรงๆ จะเอียงตัวก็ไม่ได้ไม่งั้นหัวคะมำ ผู้ดูรู้สึกอึดอัดแทน

7.ซูเปอร์อีเกิล

               

                มาสคอทตัวนี้เป็นของฟุตบอล ทีมชาติไนจีเรีย ซึ่งไม่ค่อยปรากฏให้พบเห็นผลงานระดับชาติหรอกนะ เพราะคนเห็นแทนที่จะทึ่งกับฮามากกว่า แม้ชื่อของมันจะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานก็เถอะ

                แต่ชุดที่ใส่นี้สิ เป็นชุดเย็บจากขนสัตว์สีเขียวสด หน้าอกขาววงกลม มีข้อความว่า “พญาอินทรีที่ยิ่งใหญ่” แต่ไม่ใหญ่สมชื่อด้วยความที่หัวมันใหญ่ ดวงตาแดงฉานราวกับเป็นโรคตาแดง รวมถึงปากกลับเหมือนจงอยปากของไก่งวงเปี๊ยบ ทำให้ทางสมาคมฟุตบอลไนจีเรีย ไม่อยากให้โชว์ตัว สักเท่าไหร่

6.เจ้าตีนโต

               

                เป็นมาสคอท ประจำทีมเบสบอล ซีแอตเติล ซูเปอร์โซนิค โดยแต่งชุดให้เหมือนเด็กหมาป่าชาวเม็กซิกัน เดินถือดาบเปล่งแสงเดินไปหาผู้ชม กวัดแกว่งดาบทำให้ผู้ชมหนีจ้าละหวั่น

                ทีแรกผู้ชมคิดว่า เจ้าหน้าขนตัวนี้เป็น “วูกี้” จากหนังดังสตาร์ วอร์ ซะอีก เลยวี๊ดว้ายกันยกใหญ่ แต่เมื่อภายหลังรู้ว่ามันจำลองจากเจ้าตีนโต ผู้ชมเลยร้อง “ยี้”

                มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าตีนโตตัวนี้ เคยมาแสดงเพื่อสร้างความสนใจก่อนเวลาการแข่งขัน โดยการกระโดดข้ามบ่วงไฟ แต่ดันเกิดพลาดพุ่งไปตกกองไฟ ร้องโอดโอย ผู้คนนึกว่าเป็นมุขใหม่ เลยหัวเราะชอบใจ แต่ที่ไหนได้รถพยาบาลรีบเข้ามาในสนามพาส่งหมออย่างรีบด่วนทั้งคนและชุด

5.ราปิดแมน

               

                เป็นมาสคอทที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยได้พบเห็นมา รูปร่างเหมือนมนุษย์ไฟฟ้า ผู้มีความเร็วสูงปานซูเปอร์แมน เป็นตัวนำโชคของทีม ฟุตบอลโคโลราโด ราปิด ในฟุตบอลเมเจอร์ ลีก

        ปรากฏว่าพอมันปรากฏตัว ผู้ชมต้องร้อง “ยี้” เพราะหน้าตาราปิดแมนเหมือนคนปัญญาอ่อน ส่วนเด็กต่างหวีดร้อง นึกว่าปีศาจสีคราม

        แถมมันยังบรรยายคุณภาพตัวเองอีกว่ามัน มีความสูง 1 ฟาธาน(6 ฟุต) หนักเท่ากล้ามเนื้อ 1 กอลลอน มันบอกว่าหน้าตาเหมือนทอม ครุยส์ ด้วยล่ะ แต่ดูดีๆ เหมือนนักดนตรีคนตาบอดที่ชื่อ เรย์ ชาร์ลส์ มากกว่า

4.ไวลด์ วิว

              

                หรือเป็ดพาโชค เป็นมาสคอท ของทีมฮอกกี้น้ำแข็งระดับมหาวิทยาลัย ชื่อจริงมันชื่อ “อนาแฮม เป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์”

                แต่เป็ดผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ก็โดนดีเสียได้เมื่อ ปี 1995 เดือนตุลาคม เมื่อมันออกมาแสดงนอกเวลา โดยการกระโดดข้ามบ่วงไฟ โดยกระโจมจาก

อุปกรณ์แทรมโบลีน แล้วมันเกิดพลาดตกลงกองไฟแทน บรรดาเชียร์ลีดเดอร์จึงช่วยมันอย่างจ้าละหวั่น

 “จากเป็ดเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์กลายมาเป็นเป็ดย่างสุกกลางๆ ซะงั้น”

3.สุภาพบุรุษแห่งเบรดฟอร์ด

               

                แบรดฟอร์ด ซิตี้ เป็นชื่อทีม เบสบอล แห่งเมืองแบรดฟอร์ด ใช้ผู้แสดงเป็นมาสคอท เป็นชายผิวขาวพุงพลุ้ย สวมชุดประจำทีม มือขวาถือร่ม มือซ้ายถือกระเป๋าเอกสาร สวมหมวกทรงสูง ชอบเดินไปหาผู้ชม แสดงท่ายียวน กวนโอ๊ย และชอบโยนทอฟฟี่ ขนมหวานแก่ผู้ชม

                ผู้ชมมองแล้ว ไม่มีใครทึ่งในความเท่ แม้แต่น้อย มีแต่คันปากอยากด่า คันเท้าอยากถีบ จนเกิดฉายาต่างๆ นาๆ ที่ตัวนี้ออกไปแสดงที่ไหนว่า “เจ้าไขมันขี้เชา” หรือมีใช้คำหยาบที่เกี่ยวกับความอ้วน

2.โอซามะ บินลาเดน

               

                ก็รูปร่างคล้ายหน้าตาของหัวหน้าขบวนการก่อการร้ายอัลกออิดะห์นั้นแหละ สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 1995 เจ้าของบริษัทผลิตลูกปืนวอชิงตัน บูลเล็ท เว็บ โพลลิน ได้ตั้งทีมเบสบอลขึ้นมา อยากได้มาสคอทที่มีความหมายแฝงว่า เป็นทีมก้าวราว รุนแรง ไม่ประนีประนอม และเริ่มใช้สัญลักษณ์ มังกรพ่นไฟ แต่ไม่โดนใจประธาน เลยเปลี่ยนเป็นม้าคะนองศึก และก็เป็นซี ดอก(หมาทะเล) เป็นแม่มด เป็นขบวนการเหยียดสีผิว คลู แคลน ก็ไม่โดนใจอีก

                จนกระทั่งมีการแข่งขันคาริบเบียน ซีรีย์ เบสบอลนานาชาติที่เม็กซิโก วันที่ทีมวอชิงตัน บูลเล็ทลงแข่งกับเปอร์โตริโก เมื่อกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 ผู้ชมทั้งสนามถึงกับอึ้ง อ้าปากค้าง เพราะตัวนำโชคที่ออกมาปรากฏว่าเป็น โอซามะ บินลาเดน แบกหัวกวาง หน้าตากวนเป็นอย่างยิ่ง

1.ฟิลลี่ ฟานาติก

                

                ฟิลลี่ จอมซ่า ออกแบบเป็นรูปตัวกินมดน่ารัก(หรือเปล่า?) สูง 6 ฟุต มีขนสีเขียว สวมหมวกแดง ดวงตาโตแทบหลุดจากเบ้า เป็นตัวนำโชคของทีม เบสบอล “เดอะฟิลลาเดลเฟีย ฟิลลี่”

                แทนที่จะเป็นตัวนำโชคกลับกลายเป็นตัวซวยมากกว่า ใครที่นึกไม่ออก ก็ต้องย้อนไปปี 1998 ช่อง 7 กีฬา มัน มัน ได้จับภาพมันที่เดินแอ้นหน้า แอ้นหลังไปยังอดีตผู้จัดการทีม แอล เอ ดอดเจอร์ ซึ่งเป็นทีมคู่แข่งแล้วแลบลิ้นให้ และมันก็โดนชกหน้าอย่างจัง

                ทอมมี่ ลาเซอร์ดา ผู้จัดการทีม ผู้โชคร้ายถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เป็นคดีความอยู่ในศาลถึง 3 ปี ศาลพิพากษาให้เจ้าตัวแสบจ่ายค่าเสียหาย เป็นเงินถึง 128000 ดอลลาร์ หรือ 4.6 ล้านบาท

                แค่นี้ยังไม่พอ ต่อมามันก็เดินอีท่าไหนก็ไม่รู้เหยียบผู้ชมที่เป็นท้องแก่อีก เลยถูกเรียกค่าเสียหายซะ 25000 ดอลลาร์

                หนักสุด ไปกอดรัด ชาร์ลส์ โดนอกชิว เจ้าของผลิตภัณฑ์สีทาบ้าน ตอนวันเปิดตัวสินค้า เลยถูกเรียกค่าเสียหาย 2.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 90 ล้าน บาท แต่ทีมฟิลลาเดลเฟีย รวยซะอย่าง จึงทำอะไรไม่น่าเกลียด

(ที่มา นิตยสารแปลก+ +)