ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    100 อันดับ โลกต้องจารึก

    ลำดับตอนที่ #170 : (เรื่องจริง โหด มัน ฮ่า) กินเนื้อสุนัข

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.05K
      1
      5 ก.ค. 50



    กินเนื้อสุนัข

               สุนัขถือเป็นเพื่อนมนุษย์มาช้านาน และในขณะเดียวกันมันก็เป็น "อาหาร"ของมนุษย์มาช้านานอีกด้วย

               หลายคนอาจเคยเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และรายการทีวี ไม่มากก็น้อยที่มีการนำข่าวลักษณะทำนองนี้เสนอกันครึกโครมอยู่ช่วงหนึ่ง เกี่ยวกับการฆ่าและชำแหละสุนัขและแมว เพื่อการค้า เป็นที่สะเทือนใจกับผู้ที่รักสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก ในพื้นที่ตำบลท่าแร่ ถนนสานท่าแร่-ศรีสงคราม จังหวัดสกลนคร ถึงแม้จะมีการตีแผ่จากสื่อทั้งในและนอกประเทศ 


                สำหรับการชำแหละเนื้อสุนัขกระทำมานานกว่า 15 ปีส่วนในต่างประเทศอย่างฟิลิปปินจะนิยมชำแหละเนื้อแมวซึ่งในประเทศไทยก็มีคนคิดเลียนแบบ ในปี 2539 แต่ก็ไม่นิยมเท่ากับเนื้อสุนัข
                 ส่วนแนวความคิดที่ทำให้คนแถบจังหวัดสกลนครเริ่มบริโภคเนื้อสุนัข มันเริ่มต้นตั้งแต่ชาวไทยณวน ซึ่งอพยพมาตั้งรกรากในสกนครเมื่อปี 2447 หรือ 100 กว่าปีก่อนต่อมาจึงเริ่มมีผู้คิดอาชีพใหม่โดยนำเอาเนื้อสุนัขมาขายทดแทน เนื้อโค และ กระบือ ราคาเนื้อสุนัขกิโลละ 30-40 บาท หากเป็นเนื้อพิเศษเช่นน่องสุนัข ราคาจะประมาณที่ 50-70 บาทต่อชิ้น
                 อิทธิพลของการค้าเนื้อสุนัขเคยแพร่กระจายมาถึงตลาดแถวกรุงเทพมหานครประมาณ ปี 2528 ถึง 2532 หน่อยงานราชการเริ่มต้นกวนขัน ทำให้ขบวนการค้าเนื้อหมาได้เบาบางลงแต่พวกขบวนการนี้ก็ยังไม่หยุดนิ่งได้ย้ายฐานการค้าไปสู่ภาคอีสานถิ่นเดิมต่อ ขยายตัวไปยังจังหวัดอุดรธานี หนองคาย และมุกดาหาร 
               พอถึงต้นปี 2541 อาชีพนี้เริ่มทำเป็นล่ำเป็นสันมากขึ้นโดยมีรถออกตระเวน โดยการเอาถัง กาละมังพลาสติก มาแลกเปลี่ยนสุนัข เพื่อหาวัตถุดิบมาชำแหละเนื้อขาย ตามชนบทในที่ต่างๆและอาการแบบนี้ก็ระบาดไปทั่วประเทศเพราะรายได้ล่อใจ ตั้งแต่จังหวัดเชียงรายจนไปถึงสุราษฎร์ธานีในทางใต้ และศูนย์ปฎิบัติการแหล่งใหญ่ที่สุดอยู่ที่บ้านท่าแร่ จ.สกลนคร โดยทำเป็นลักษณะกึ่งอุตสากรรมในหมู่บ้าน
              ทุกๆต้นสัปดาห์จะมีพ่อค้า แม่ค้า ประมาณ 40 รามต่อวันจะนำรถกระบะซึ่งดัดแปลงอย่างเต็มสูฐเพื่อออกตระเวนโดยนำถัง กาละมังพลาสติก มาเป็นตัวล่อใจผู้คนในชนบทนำสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้มาแลก เพื่อได้ถัง กาละมัง พลาสติกเป็นข้อแลกเปลี่ยน รถคันหนึ่งอาจจะได้สุนัขประมาณ 50 ตัวต่อวันและจะกลับไปที่ท่าแร่ เพื่อจะนำสุนัขไปขังรวมกันประมาณ 4-5 วัน สุนัขจะอยู่ในคอกไม้เก่าๆที่ปิดทึบเพื่อไม่ให้สะดุดตาอยู่คน จากนั้นจึงนำไปฆ่าและชำแหละในโรงงานซึ่งก่อสร้างแบบง่ายๆและห่างไกลเป็นที่ลับตาคน 
               วิธีการฆ่าจะใช้ไม้ดุ้นหรือแป๊บน้ำประปาฟาดไปที่หัวให้มึนงง แล้วจึงเชือดคอด้วยมีด แล้วแยกเนื้อและกระดูกออกจากกัน หนังจะนำไปคลุกกับแกลือกันเน่าเพื่อส่งออกไปยังลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวันและเวียดนามซึ่งเขาเอาไปผลิตสินค้าเครื่องหนัง เช่น กลอง ถุงมือ กระเป๋า สายนาฬิกา และส่วนประกอบของเสื้อผ้า เป็นต้น ราคาของหนังสุนัขราคาผืนละ 40-120 บาทขึ้นอยู่กับขนาด


             
    เนื้อสุนัข......คนเขียนไม่เคยกินทั้งๆ ที่บ้านผมอยู่ภาคเหนือ แถมยังอยู่ติดร้านขายเนื้อสุนัขอีก!

              ตามคำให้การของผู้ที่มีประสบการณ์นั้น ความอร่อยของเนื้อหมาย่างน่าจะอยู่ที่ความหอมหวนจากเครื่องปรุง ความนุ่มของเนื้อ ไม่มีกลิ่นสาปเหมือนเนื้อหมู และมีมันน้อยกว่าเนื้อหมู.. แต่หลายคนเชื่อว่าเนื้อสุนัขเป็นยาโป๊ว.. เอกบุรุษที่บริโภคเข้าไปแล้ว จะคึกคักเหมือนสุนัขหนุ่มเดือน 12 ที่พร้อมจะลงมือได้ในทุกเวที

              วัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัข ในยุโรปหรืออเมริกาถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม น่ารังเกียจ ส่วนศาสนายิ่งแล้วใหญ่ขนาดศาสนาพุทธยังออกกฎข้อห้ามว่าเนื้อสุนัขเป็นเนื้อต้องห้ามใน 10 เนื้อที่ไม่ควรกินทีเดียว แต่ในเอเชียบางประเทศถือว่าเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่มีมานาน อีกทั้งความยากจนยังเป็นตัวช่วยให้วัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขเฟื่องฟูอีกด้วย

               ลองมาดูว่าประเทศไหนกินเนื้อสุนัขบ้าง และเขานำมาปรุงโดยวิธีใด

               ไทย กินมากในภาคเหนือกับภาคอีสาน เพราะเชื่อว่ากินเนื้อหมาแล้วคลายหนาวได้

                ในภาคเหนือเรียกว่า กว๋างดำ ดำปอด เนื้อฮ่องเต้ โดยนำเนื้อสุนัขมาประกอบอาหารหลายชนิด ทั้ง แกง ทอด ปิ้ง ย่าง และผัด แต่เมนูที่นิยมรับประทานมากที่สุด คือ เนื้อสุนัขผัดเผ็ด และ เนื้อสุนัขแดดเดียว โดยลุกค้าจะรับประทานไปพร้อมกับการดื่มเหล้าตอง เหล้าพื้นบ้าน หรือรัปทานเป็นกับข้าว

                 ส่วนวิธีทำให้นำเนื้อสุนัขหันออกมาเป็นชิ้น และนำไปผัดกับเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะแล้วแต่พื้นที่ และพริกแกง เพื่อให้เนื้อสุนัขมีความอ่อนนุ่ม และนำมาพักไว้ เมื่ออยากกินก็จะนำเนื้อสุนัขที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ไปผัดบนกระทะร้อนๆ กับผักใบกระเพราะ ใบต้นโกศล และใบกระวาน หรือใบจัน พร้อมกับปรุงรสตามความต้องการและนำมาเสริฟ

                ทำลาบ ลู่ ก้อย ต้มเครื่องใน ฯลฯ ได้รสชาติอร่อยไม่ แพ้เนื้อวัว
     
               ไนจีเรีย
    โดยเฉพาะเมืองหลวงอาบูจาที่ปัจจุบันสุนัขไม่ค่อยมีให้เห็น เพราะถูกจับเป็นอาหารเสียเรียบ เชื่อว่าเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บและยังช่วยให้ฟิตเรื่องเซ็กส์ด้วย โดยต้มเปื่อยเนื้อสุนัขใส่พริกไทยถือเป็นเมนูยอดฮิตรวมทั้งในหมู่ตำรวจและทหารที่นิยมกินกันแทบทุกกรมกอง อีกทั้งยังนิยมเปิบสุนัขกันหลายประเภท เช่น ลูกตาสุนัขที่เชื่อว่าเป็นอวัยวะสุดยอดของการชูกำลัง ขณะที่ตับ หัวใจ และปอด ถือว่าว่าเป็นเมนูหรู มีราคาแพงกว่าเนื้อทั่วไป และขาที่เชื่อว่ากินแล้วจะทำให้วิ่งเร็วเหมือนสุนัข............อร่อย

                   จีน บางที่เป็นถิ่นทุรกันดารเลยไม่แปลกที่มีการกินหมาอยู่เนื่องๆ หลายท้องถิ่นทางตะวันตกเฉียงใต้ ในมณฑลหยุนหนัน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง... โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีหมา 2549ที่ มี"หัวหมาย่าง" ในตู้โชว์หน้าร้านอาหาร มีให้เห็นในท้องที่ นอกจากนี้ยังนิยมจิ้มจุ่มอีกด้วย

                   เกาหลีใต้ กินสุนัขเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น โดยเฉพาะหมาดำ นิยมเอาไปทำชาบูชาบูกิน เชื่อว่ากินแล้วผิวจะสวย


                   เวียดนาม ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า การรับประทานอาหารที่ทำจากเนื้อสุนัขถูกจำกัดอยู่ในแวดวงของชาวเวียดนามจำนวนหนึ่ง..จำนวนหนึ่งเท่านั้น..
    ใครอยากจะกินเนื้อหมา สุนัข ต้องขึ้นเหนือ.. บางท้องถิ่นยังมีเมนูจากแมวเสิร์ฟอีกด้วย!!
                   อย่างที่ทราบกันทั่วไป ชาวเวียดนามบริโภคขนมจีนกันเหลือเกิน จำนวนไม่น้อยที่กินเป็นอาหารหลักแทนข้าว เมื่อก่อนจึงมีแม่ค้าหาบเร่หรือร้านอาหารริมฟุตปาธหลายแห่งในกรุงฮานอย จัดเมนู "ขนมจีนน้ำหมา" ให้เลือกสลับกับขนมจีนแกงปลาหรือแกงไก่ด้วย

                  ส่วน"หมาย่าง" หรือ สุนัขที่ย่างไฟจนเนื้อออกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในบางท้องถิ่น ในภาคเหนือของเวียดนาม เท่านั้น
    แม้คนเวียดนามจะกินเนื้อสุนัขน้อยรายแต่ปัจจุบันเวียดนามจึงได้กลายเป็นแหล่งจัดหาสุนัขรายใหญ่ เพื่อส่งผ่านข้ามพรมแดนเข้าไปจำหน่ายในจีน ซึ่งเป็นตลาดเนื้อสุนัขที่ใหญ่กว่า การค้าสุนัขทำกันเป็นล่ำเป็นสัน มีการ "ส่งออก" เดือนละนับหมื่นๆ ตัว ทำรายได้จนคนขายรวยไปตามๆ กัน

                   อินโดนีเซีย จัดได้ว่าเป็นประเทศที่กินสุนัขได้มัน เด็ด ที่สุด โดยนิยมนำไปทำสตู

                    ลาว ประเทศเพื่อนบ้านเราอีก นิยมนำมาปิ้งกันทั้งตัว แบบหมาหัน พร้อมเครื่องใน กินกับเครื่องเคียงจำพวก แกง ส้มดำ ข้าวเหนียว มีมากบริเวณเมืองหลวงย่างกุ้ง กลิ่นหอมไปแต่ไกล
    +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×