ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #96 : Chaos;Head โลกแห่งจินตนาการของคนจิตวิปลาส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.2K
      5
      5 ก.พ. 54

            
               Chaos;Head ตอนแรกผมไม่มีความคิดที่จะดูการ์ตูนเรื่องนี้มากนัก สาเหตุก็คือตอนผมอ่านเนื้อเรื่องก็พบว่ามันเป็นการ์ตูนแนวฆาตกรรมที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจ หากแต่ภาพการ์ตูนกับเห็นตัวละครสาวทั้ง 6 ถืออาวุธแฟนตาซี ดูแล้วช่างเหมือนเป็นลางๆ ว่าหากผมดูการ์ตูนเรื่องนี้แล้วคงได้ความรู้สึกผิดหวังและขัดใจแน่นอน (ตอนแรกผมก็นึกว่าแนวเหล่าสาว ๆ สู้กันด้วยพลังพิเศษเพื่อชัยชนะอะไรสักอย่างแต่ปรากฏว่าไม่ใช่) ผมเลยดองอนิเมชั่นเรื่องนี้นานหลายเดือน(คงปีกว่ามั้งถ้าจำไม่ผิด) จนกระทั้งมาตัดสินใจดูการ์ตูนเรื่องนี้เนื่องจากว่าผมอ่าน Chaos;Head ภาคสองคู่วาย ของสำนักพิมพ์รักพิมพ์แล้วไม่รู้เรื่อง เลยมาดูอนิเมชั่นเพื่อให้เข้าใจในเนื้อหาของการ์ตูนนี้ให้จงได้ แม้ว่ามันอาจทำให้ผมผิดหวังบ้างก็ตาม........

     

     
    Chaos;Head

    จิตวิทยา, โรแมนติก, เหนือธรรมชาติ, ไซไฟ, ตื่นเต้น, สยองขวัญ,ไซเบอร์พังก์, ฮาเร็ม

    อนิเมชั่น http://video.mthai.com/player.php?id=18M1223894646M0

    มังงะสามารถโหลดได้ที่

    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kross&date=08-06-2009&group=2&gblog=7

     

    ก่อนที่เขียนถึง ผมขอบอกก่อนเลยว่าผมชอบการ์ตูนเรื่องนี้ แม้เนื้อหาต่อไปนี้ผมจะเน้นติเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ

    Chaos;Head เป็นเกมนิยายภาพแบบวิชวลโนเวลสำหรับ PC พัฒนาโดย 5pb และ Niteroplus เปิดตัวเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2008 และจะทำการพอร์ทลงเครื่อง XBOX360 ออกเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2009 หลังจากนั้นก็ถูกทำเป็นอนิเมชั่น มังงะตามระเบียบ  โดย ทีวีอนิเมชั่นออกเมื่อปี 2008 มี 12 ตอนจบ

    เนื้อเรื่องของ Chaos;Head ถูกสมมุติว่าเกิดขึ้นในปี 2008 โดยเป็นเรื่องราวประสบการณ์หลอนในมุมมองของนักเรียนชายชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนแห่งหนึ่งชื่อ นิชิโจ ทาคุมิ ที่มีนิสัยชอบเก็บตัว(แยกกับครอบครัว และอาศัยอยู่คนเดียวในตู้คอนเทนเนอร์) ไม่ชอบไปโรงเรียน(ไปบ้างไม่บ้างแล้วแต่อารมณ์) ไม่คบหาสมาคมกับใคร เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหมกมุ่นอยู่แต่ดูอนิเมชั่น สะสมฟิกเกอร์ เล่นเกมออนไลน์ เล่นเน็ต และดูเหมือนว่าจะอยู่กับโลกส่วนตัวมากเกินไป จนถึงขนาดมีความสามารถจิตนาการสาวสองมิติที่เขาชอบออกมาเป็นตัวเป็นตน พูดง่ายๆ ว่าเป็นคนโหล่ยโท่ยด้วยสมบูรณ์ หากแต่เขาพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่แบบนี้จึงไม่คิดที่จะปรับปรุงตัวแต่อย่างใด

    จนกระทั้งวันหนึ่งในขณะเขากำลังเล่นเน็ตในห้องสนทนาอยู่นั้น หัวข้อห้องสนทนาได้เปิดประเด็นเรื่อง คดีนิวเจน ที่เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสองรายที่โด่งดังที่สุดในชิบุยะในเวลานี้ ความจริงคดีดังกล่าวเขาไม่สนใจเท่าไหร่นักเพราะมันไม่เกี่ยวกับเขา จนกระทั้งมีคนเข้าห้องสนทนาคนใหม่ที่ใช้นามแฝงว่า โชกุนเข้ามาร่วมสนทนา โชกุนได้ส่งไฟล์ภาพโดยอ้างว่าเป็นรูปเกิดเหตุในคดีฆาตกรรมที่ 3 เมื่อคลิกดูก็พบว่าเป็นภาพชายคนหนึ่งที่ถูกฆาตกรรมโดยโดนลิ่มรูปไม้กางเขนตอกทั่วร่าง และเมื่อสังเกตดีๆ ก็พบว่ารูปถ่ายนั้นได้ลงวันที่ถ่ายเป็นวันที่ถัดไปจากวันที่เขาอยู่ อีกทั้งคดีที่สามมันยังไม่เกิด แล้วเขาถ่ายรูปนี้ได้อย่างไร?ด้วยความสยดสยองของรูป บวกกับการก่อกวนทางเน็ตของโชกุน ทำให้ทาคุมิสติแตก ต้องไปเล่นในร้านเน็ตในชิบุยะแทน เขาใช้เวลาในร้านเน็ตนั้นทั้งวันทั้งคืนไม่รู้วันไม่รู้เวลา จนกระทั้งเขาเลิกและกำลังกลับบ้าน ระหว่างทางเขาได้ผ่านตรอกที่เป็นสถานที่เดียวกับภาพที่โชกุนส่งมา และที่นั้นเขาก็ได้พบศพชายที่ถูกตอกด้วยลิ่มเหมือนในภาพดังกล่าวไม่มีผิด และยิ่งกว่านั้นเขาก็ได้พบเด็กสาวลึกลับคนหนึ่งผมสีชมพูร่างชุ่มไปด้วยเลือด มือถือลิ่ม เธอหันไปมองเขาพร้อมกับพูดวา

    ทาคุในที่สุดก็เจอตัว ฉันตามหาเธอมาโดยตลอด"

    ทาคุมิตกใจจนสติแตก เขารีบวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต เมื่อถึงบ้านเขาต้องปลอบตัวเองหลายหน พร้อมกับคิดในใจว่า มันเป็นแค่ภาพลวงตา มันเป็นแค่ภาพลวงตา

    แต่แล้วเช้าวันถัดมา ในขณะที่ทาคุไปโรงเรียนแห่งนั้นเขาก็ได้พบเด็กสาวที่โชกเลือดคนนั้นอีกครั้ง เธอแสดงตนเป็นนักเรียนแห่งนี้ แถมนั่งเก้าอี้ติดกับเขาอีก แถมไม่ใช้เพื่อนร่วมชั้นธรรมดา เพราะเธอบอกว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมตอนต้น แถมดูเหมือนจะสนิทกับเขามากทีเดียว มันเป็นไปได้ยังไง หากสนิทกันจริง ทำไมเขาถึงจำเธอไม่ได้ เธอกำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่

    และนี้คือจุดเริ่มต้นของทาคุมิที่เขาต้องผจญกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดมากมาย จนเขาไม่สามารถแยกแยะว่าอันไหนเป็นความจริง อันไหนเป็นอาการหลอนประสาท อีกทั้งดูเหมือนโชกุนจะรู้เรื่องของเขาเป็นอย่างดี  จุดประสงค์ของเขาคืออะไรกันแน่  เรื่องราวที่แท้จริงจะเป็นเช่นใด มันจะหักมุมขนาดไหน ก็ติดตามดูใน Chaos;Head ได้เลย


             ตัวละครหลักเรื่องนี้ประกอบตัวตัวละครหญิง 6 ตัว และตัวละครชาย 1 ตัว ตัวส่วนตัวแล้วผมว่าถ้าจะให้เรื่องนี้สุดยอดในหัวใจผมตัวละครหลักน่าจะประกอบไปด้วยตัวละครหญิง 3 คน(เรมิ, น้องสาว, สาวแว่น) และชาย 1 คนนี้แหละส่วนผสมทองคำชัดๆ(เพราะการ์ตูนฮาเร็มส่วนใหญ่นางเอกควรมี 3 คน)

         

    นิชิโจ ทาคุมิ(Nishijo Takumi) พระเอกของการ์ตูนเรื่องนี้(แม้พฤติกรรมในตอนแรกๆ ไม่เหมือนพระเอกก็เถอะ) เขาเป็นโรคเก็บตัว เขาเข้าเรียนเพียงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการขั้นต่ำสำหรับการศึกษาเท่านั้น คติประจำใจของเขาคือไม่สนใจสาวในโลกสามมิติ หลีกเลี่ยงการสนทนาคนอื่นโดยไม่จำเป็น เขามักหมดเวลาไปกับการดูการ์ตูน เล่มเกมวีดีโอ สะสมฟิคเกอร์ เล่มเน็ต เล่นเกมออลไลน์ นิสัยส่วนตัวเป็นคนขี้ขลาด คิดมาก มีโลกส่วนตัวสูง หลังจากเขาเห็นภาพเกิดคดีฆาตกรรมที่สามเขาก็เริ่มจิตหลุดจนถึงขั้นมีอาการทางจิต

    โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบพระเอกในรูปลักษณ์นี้เท่าไหร่นะครับ ตรงตามันละห้อยไม่เหมือนพระเอกเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนตัวละครประกอบขี้ขลาดเสียมากกว่า ขนาดตอนมันเก่งดูยังไงก็เหมือนพระเอกเลยสักนิด ในมังงะก็ออกจะน่ารัก นี้ถ้าตัวเตี้ยลงมาหน่อยนี้จะน่าดูมากๆ เชื่อผมสิ

         

    ซาคิฮาตะ ริมิ(Sakihata Rimi) สาวผมสีชมพูผู้ลึกลับที่ทาคุมิพบเธอในระหว่างกลับบ้านของเขา ในสภาพที่โชกเลือด และเขาหวาดกลัวเธอมากเพราะคิดว่าเธอเป็นฆาตกร และหลังจากนั้นเธอก็เข้ามาในชีวิตของทาคุมิและมักไปบ้านเขา(ตู้คอนเทนเนอร์)ตลอดเวลา โดยเธออ้างว่ารู้จักเขามานาน ภายนอกเป็นคนร่าเริง พูดมาก จนเหมือนยุยจาก Angel Beats! (คนพากษ์ยุยกับเรมินี้เป็นคนเดียวกันครับ) แต่ความจริงแล้วตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นเป็นคนเงียบๆ และแคร่ต่อความรู้สึกของทาคุมาก ตอนแรกทาคุหวาดกลัวเธอมากถึงขั้นเรียกว่าปีศาจน้อย(รู้แล้วที่นี้ว่าต้นแบบยุยมาจากไหน) แต่หลังๆ ก็เริ่มรู้ว่าเขาเริ่มตกหลุมรักเธอเสียแล้ว

      

    นิชิโจ นานามิ (Nishijo Nanami) น้องสาวแท้ๆ และเป็นนักเรียนปีหนึ่งโรงเรียนเดียวกับของทาคุมิ เธอมักร่าเริงแล้วเข้มแข็งอยู่เสมอ เธอมักมาหาพี่ชายที่บ้าน(ตู้คอนเทนเนอร์)อยู่บ่อยๆ และมักทะเลาะพี่ชายประจำเมื่อพบหน้ากัน แต่ความจริงแล้วเธอก็เป็นห่วงพี่ชายไม่แพ้คนอื่น และเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เมื่อความจริงเปิดเผยผมซึ้งมากๆ ในความเป็นคาแร็คเตอร์น้องสาว

      

    คิชิโมโตะ อายาเสะ (Kishimoto Ayase) นักเรียนปีสองในโรงเรียนเดียวกับทาคุมิ ตอนกลางวันเป็นนักเรียน ส่วนตอนกลางคืนเป็นนักร้อง เธอร้องเพลงแนวอินดี้ในวงร็อกชื่อ ปีศาจชื่อวงการคือ เฟส เนื้อเพลงของเธอมักปรากฏในเหตุการณ์คดีฆาตกรรมในชิบุยะจนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยเธอว่าเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหรือไม่ ภายนอกเป็นคนดูเงียบๆ และมักพูดเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาเรื่องยากๆ แก่เขาประจำที่พบหน้ากัน และอดีตเธอเคย.............

        

    คุซูโนกิ ยูอะ (Kusunoki Yua)สาวแว่นปีสามในโรงเรียนเดียวกับทาคุมิ ที่ออกมาตอนแรกด้วยการเข้าหาทาคุชนิดเรียกว่าอยากเป็นแฟนให้ได้ จนทาคุมิจิตใจหวั่นไหว หากแต่เมื่อเขารู้ความจริงก็แทบจิตตก เพราะสาเหตุที่เธอเข้าถึงตัวเขาก็เพียงเพื่อสืบข้อมูลในคดีฆาตกรรมในชิบุยะเท่านั้น

      

    อาโอย เซนะ (Aoi Sena)สามมาดมั่นปีสามในโรงเรียนเดียวกับทาคุมิ ที่ทาคุมิมักพบเห็นเธอถือดาบยาวใหญ่ที่คนอื่นมองไม่เห็นเดินรอบในชิบุยะ เวลาเธอพบหน้าเขามักเอาศัพท์ชั้นสูงพูดกับเขาจนหัวแทบระเบิด และเธอชอบกินไอติมป๊อปสีฟ้าอ่อนเป็นสุด

      

    โอริฮาระ โคซึอิ หรือ โคซึปิ๊ (Orihara Kozue) นักเรียนปีสองในโรงเรียนเดียวกับทาคุมิที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่ ที่ไม่เคยพูดอะไรออกมาเลย แต่ดูเหมือนเธอมีความสามารถในโทรจิตติดต่อสื่อสาร และทาคุมิมักพบเธออยู่กับเซนะด้วยกันอยู่บ่อยๆ (พูดง่ายๆ นี้คือคู่วายของการ์ตูนเรื่องนี้)

     

    โชกุน(Shogun) ชายแก่ตัวเล็กที่นั่งบนรถเข็นที่เข้ามาในชีวิตของทาคุมิเพื่อบอกอะไรบางอย่าง เขามีความเกี่ยวข้องกับสมการ IR2, คดีฆาตกรรมชิบุย่า และวลีดวงตาของใครจ้องมองอยู่ จนทาคุมิมีอาการหวาดวิตกจนจับจิต ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว..................

      

    กริม(Grim) เพื่อนในโลกออนไลน์ของทาคุมิที่มักมาร่วมสนทนาและเล่นเกมออนไลน์กับเขาประจำ เขามักช่วยให้กำลังกับทาคุมิ รวมไปถึงการแนะนำซื้อขายฟิกเกอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่น่าสนใจให้แก่เขาด้วย และเขาเป็นคนส่งภาพคดีฆาตกรรม แวมไพร์ ที่มีข้อความกำแพงว่า ดวงตาของใครจ้องมองอยู่ไปโพสในอินเตอร์เน็ต และประโยคนี้ได้รบกวนจิตใจของทาคุมิในเวลาต่อมา และความลับของเขาก็คือ...

      

    เซล่า (Orgel Seira)นางเอกจากการ์ตูนอนิเมชั่นที่ทาคุมิชื่นชอบ จนถึงขั้นจิตนาการเธอเป็นตัวเป็นตนจนกลายเป็นอาการจิตหลอนที่เขาสร้างขึ้นเพื่อหลีกหนีความจริงและเป็นเพื่อนคู่คิดเขาเพื่อแก้ปัญหา เช่นเธอเป็นคนโยนความคิดว่าเรื่องทั้งหมดในคดีชิบุยะเกิดขึ้นเพราะโชกุนเป็นต้นเหตุและโชกุนพยายามทำให้เขาเป็นแพะ แต่กระนั้นเขาตกหลุมรักเรมิการปราฏกตัวของเซล่าก็เริ่มเบาบางลง

      

    นาโรเซะ เจนิชิ(Norose Genichi) ตัวละครที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้จืดอย่างสนิทใจ เป็นประธานของโนโซมิที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เขามีวัตถุประสงค์จะสร้างอะไรบางอย่างที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกเพื่อตอบสนองต่อกิเลสของตนเองเท่านั้นโดยไม่สนว่าเขาต้องสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากสักเพียงใดก็ตาม ความจริงเขาก็มีพลังพิเศษแต่ดูเหมือนพลังจะอ่อนกว่าตัวละครทั้งหมด แต่สิ่งที่มาทดแทนก็คือวิธีการจับจุดอ่อนของศัตรู โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้วถือว่าตัวละครนี้ไม่ควรมาอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้มากที่สุด ไม่มีซะยังจะดีกว่าเสียอีก

     

    การ์ตูนเรื่องนี้จะสนุกมากหากไม่อ่านสปอย(แม้เนื้อหาจะเดาได้ก็เถอะ) และต่อไปนี้จะเป็นความคิดเห็นบวกสปอยใครไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้แต่มีความคิดจะดูละก็ขอให้เลิกอ่านซะ ไปดูการ์ตูนก่อน ค่อยกลับอ่านล่ะกัน

     

              ผมคงไม่พูดถึงเกมเพราะผมไม่เคยเล่น มังงะอ่านแต่บทของคู่สาววายเซนะเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่จะพูดถึงคืออนิเมชั่นนั้นเอง

    เป็นการ์ตูนที่ตอบรับดีพอสมควร เนื่องจากตอนเป็นเกมนั้นได้รับความนิยมมาก เพราะว่าเนื้อหานี้แทงใจดำพวกโอตากุและฮิคิโคโมริไม่แพ้การ์ตูนเรื่อง Welcome to NHK! เลยทีเดียว เสียดายดันมาเปลี่ยนแนวตอนกลางเรื่องที่ใส่ความเป็นแอ็คชั่นลงไป ทางเรื่องนี้ดำเนินโดยใช้หลักจิตวิทยาในตอนแรกตอนต้นจนจบนี้สุดยอดมาก ถึงมากที่สุด เพราะมีการวางปม การใช้จิตวิทยาถ่ายทอดด้านมืดของฮิคิโคโมริอย่างถึงแก่น จนผมขำไม่ออกทีเดียว จนทำให้ผมติดตามต่อ 6 ตอนรวดอย่างจนไม่ติดเก้าอี้เลย

    การ์ตูนเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาและศัพท์เฉพาะเยอะไปนิด หลักการต่างๆ ผมไม่ค่อยจดจำสักเท่าไหร่ ส่วนคำศัพท์เฉพาะในการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไปดูเอาเองล่ะกัน สิ่งที่ผมจำได้มีเพียงแต่หลักการพลังวิเศษของแต่ละคนคือ พลังที่เป็นจิตนาการกลายเป็นความจริง ซึ่งพลังนี้สามารถแยกนำมาใช้ได้หลายทาง ซึ่งผมก็อธิบายไม่ถูกว่ามีอะไรบ้าง คงต้องให้ไปดูเองถึงจะเข้าใจ

              การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องส่วนใหญ่อยู่เขตในชิบุยะ โดยจุดที่ปรากฏมากที่สุดคือตรงทางแยกสัญญาไฟจราจร โดยมีตึกรูปทรงกระบอกตรงกลางเป็นจุดเด่น อันเป็นสัญลักษณ์ของชิบุยะ นอกจากนี้การ์ตูนเรื่องยังใส่ความสมจริงอะไรหลายอย่าง เช่น ฉากการเล่นอินเตอร์เน็ตที่ปรากฏเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง อย่าง Wikipedia, 2channel, YouTube, Google, และ Yahoo! นอกจากนี้ยังปรากฏรายชื่อเกมดังที่ถูกเปลี่ยนชื่อให้คล้ายๆ กัน อย่าง We-Key Pedophiria, @-channel, MewTube, Deluoode  and Taboo! ซึ่งเพิ่มความสมจริงให้การ์ตูนเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก

             แต่สิ่งที่ใส่มากที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้คือเรื่องจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับจิตใจและนึกคิด โดยสิ่งที่เอามาเล่นมากที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ก็คืออาการจิตหลอน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบวิทยาศาสตร์ฟิสิกซ์อื่นๆ เข้ามาเสริมอีกไม่ว่าจะเป็น antimatter หรือ the Dirac sea

     

    ผมลองเข้าเว็บต่างประเทศ(เพราะไม่มีคนวิจารณ์การ์ตูนเรื่องนี้แบบละเอียดในเว็บไทย) พบว่ามีคนวิจารณ์การ์ตูนอนิเมชั่น Chaos;Head ได้คะแนนสูงพอสมควร หากแต่หัวข้อการให้คะแนนไม่มีหัวข้อไหนได้คะแนนเต็ม(ส่วนใหญ่ใหญ่ 8 คะแนน) นอกจากนี้ยังได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับปลายซีซั่น 2008 และเพลงได้รองชนะเลิศยอดเยี่ยมประจำฤดูใบไม้ร่วง 2008 ส่วนคนที่ผ่านมาก็วิจารณ์ว่าไม่ค่อยชอบพระเอกและการเปิดเผยเนื้อเรื่องไม่ดีนัก  ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป

    Chaos;Head ช่วงแรกตอน 1-6 นั้นถูกคอและถูกใจผมซึ่งเป็นคอสยองขวัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันทำให้ผมได้สนุกกับการสื่อของตัวละครที่จิตใจเริ่มที่จะบ้า เหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง 1908(เป็นชื่อภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชื่อห้อง 1908 ที่พระเอกเข้าไปพักเพื่ออยากลองดีกับผี) หรือ 23(หนังของจิม เคซซี่ที่เกี่ยวกับตัวตนที่หายไป และเลข 23) หรือภาพยนตร์ไทยที่สุดแสน งง อย่าง บอดี้ศพที่ 19 ก็นำหลักการของพระเอกในการ์ตูนเรื่องนี้ไปใช้ แล้วมันก็ทำให้ผมชอบมาก

    Chaos;Head เปิดฉากด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องด้วยความพยายามที่จะรวมการ์ตูนแนวลึกลับ, สยองขวัญ, ฮาเร็ม และจิตวิทยาหลอมหลวมกัน โดยใช้พระเอกซึ่งเป็นโรคเก็บตัวที่แยกโลกสมมุติและโลกแห่งความจริงไม่ออกเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งมันก็ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ เพราะการ์ตูนวางปมได้อย่างแยบยล หลากหลายปริศนาและคำถามซ้อนคำถามต่างกระหน่ำเข้ามาในโสตประสาทของพระเอกอย่างไม่ย้ำ ผสมกับความกลัวตายและความโดดเดี่ยวยิ่งทำให้ผู้ชมอึดอัดอย่างมีพลัง ทั้งๆ ที่พระเอกอยู่ในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือตำรวจ พระเอกไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากบุคคลเหล่านั้นได้ สถานการณ์นั้นเปรียบเสมือนอยู่บนเกาะที่ปิดตายเลยทีเดียว นอกจากนี้ สิ่งที่ผมชอบนั้นมีอะไรหลายๆ อย่างเช่นการให้พระเอกเป็นคนเล่าเหตุการณ์นั้นทำให้ผู้ดูเกิดความไม่เชื่อถือเพราะเราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พระเอกเล่านั้นเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องที่เกิดขึ้น เช่นพระเอกเล่าถึงความหลังว่าเขาเป็นต้นเหตุในการฆ่าเพื่อนทั้งหมดในชั้นประถมเนื่องจากเขามีพลังจิตที่สามารถทำให้มันกลายเป็นจริงได้เพียงเขาคิด และผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัวในที่สุด ซึ่งข้อมูลความหลังพระเอกนี้ได้ถูกเฉลยขึ้นในตอนท้ายว่าเป็นเรื่องกุขึ้นมันเป็นความทรงจำที่ถูกใส่ในภายหลัง เพื่อไม่ให้เขามีความคิดในการใช้พลังวิเศษ หรือเป็นความบ้าของพระเอกที่ชอบคิดฉากเซอร์วิสและฮาเร็มจินตนาการหื่นทั้งๆ ที่สถานการณ์ไม่เอื้อให้คิดลามกเลย(อันนี้ผมชม เพราะผมชอบดีกับการนำเสนอแบบนี้)

      

    การ์ตูนเรื่องนี้เน้นหนักอยู่ที่พระเอกทาคุมิเป็นหลัก Chaos;Head มีการดำเนินเรื่องที่คล้ายภาพยนตร์จิตวิทยาที่ดูยากอย่างเรื่อง Shutter Island(เกาะนรกซ่อนทมิฬ) ซึ่งพระเอกทั้งสองเรื่องมีทางทางจิตเหมือนกันคือแยกโลกแห่งความจริงและโลกแห่งความฝันไม่ออก เสมือนกับเป็น โรค Depersonalization เป็นความผิดปกติทางกลไกของจิตใจ มันเหมือนกับเราเกิดสถานการณ์ในการเฝ้าดูการกระทำตนเองเหมือนไม่ได้ควบคุม เช่น รู้สึกคุณอยู่ในภาพยนตร์ความรู้สึกเหมือนกับว่าคุณจะอยู่ในความฝัน, ความรู้สึกขาดการเชื่อมต่อจากร่างกายของคุณ สาเหตุเกิดจากความวิตกกังวล ความเครียด

    ทาคุช่างเป็นพระเอกที่มืดมนและน่าสมเพสไม่แพ้พระเอกที่ผมเห็นในการ์ตูนเรื่องอื่นๆ หลายเรื่องที่ผ่านมา สาเหตุที่หลายคนนั้นไม่ชอบพระเอกคนนี้มากนักเนื่องจากว่าบทที่ใส่ออกมานั้น ตัวเอกดันอยู่ในภาวะฮิคิโคโมริอันเป็นภาวะที่พระเอกมีบุคลิกภาพที่เป็นผู้แพ้ตลอดกาลซึ่งไม่เหมือนพระเอกเสียเลย

    แต่สิ่งที่ผมชอบคือมันแทงใจดำสำหรับคนเป็นสภาวะฮิคิโมริและโอตากุมากเลยครับ ชนิดว่าใครที่เป็นสภาวะสองอย่างนี้มาเห็นคงไม่อยากจะเป็นแน่นอน แบบว่าการ์ตูนเอาสภาวะเหล่านี้มาใช้จนเกือบสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพของผู้ที่เป็นภาวะฮิโคโมริ ทาพระเอกค่อนข้างเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่เป็นผู้แพ้ตลอดกาล แม้เขาตัวจะสูง หากแต่ท่าทางการแสดงออกนั้นไม่ดีเสียเลย เช่นตาละห้อยเหมือนคนอดนอน ทรงผมยุ่งเหยิงเหมือนคนไม่เคยตัดผมหรือแต่งผม ชอบนั่งตัวงอในห้องเรียนเสมือนว่าเป็นคนมีอาการทางจิตอ่อนๆ ชอบพูดพึงพำกับตัวเองเวลาสนทนากับคนอื่น การพูดตะกุกตะกัก เวลามีคนมาคุยด้วยก็หลบหน้า พูดกับตนเอง พูดไม่มองหน้าคนอื่น แถมยังคิดหลีกหนีความจริงอีก สิ่งเหล่านี้คือบุคลิกภาพทางลบที่ไม่ควรนำมาใช้ในการแสดงออกทางสังคมทั้งสิ้น

    ยิ่งไปกว่านั้น การ์ตูนยังสอดแทรกการใช้ชีวิตของคนในภาวะฮิคิโคโมริอีก คือแยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวในห้องส่วนตัวที่สภาพห้องมืดอย่างน่ากลัวและรกเต็มไปด้วยเศษอาหารและขยะ แถมอยู่ทั้งวันทั้งคืน ใช้ชีวิตแต่หน้าคอม เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง จนขาดโอกาสในการติดต่อกับสังคม พอออกไปข้างนอกก็ไปร้านเล่นเน็ตทั้งวันทั้งคืนแบบไม่ลืมเวลาอีก เท่านั้นยังไม่พอจินตนาการตัวละครที่ชอบออกมาเป็นตัวเป็นตนอีก จนพระเอกเด็กมีปัญหาและโหล่ยโท่ยอย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คนดูไม่เกิดความรักหรือสงสารพระเอกเลย(คอบโบด้วยโอตากุอีก)

     

    และเมื่อเรื่องดำเนินแบบแทงใจดำคนเป็นฮิคิโคโมริ เมื่อพระเอกทาคุมิเกิดไปเห็นฉากฆาตกรรมสดๆ ตรงหน้า พร้อมกับเด็กสาวโชกเลือดที่ดูเหมือนเธอรู้จักเขาดี พระเอกสติแตกโดยสมบูรณ์เพราะคิดว่าเหยื่อต่อไปจะเป็นเขา โดยตอนแรกพยายามหนีความจริง พยายามปลอบใจตนเองว่าเป็นภาพลวงตา หากแต่พบว่ามันเป็นของจริง เขาพยายามหาวิธีแก้ปัญหาก็ทำไม่ได้ ไม่มีใครปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว

    สิ่งที่ผมชอบคือการแก้ปัญหาพระเอกที่ในเมื่อหาใครมาปรึกษาไม่ได้ สิ่งที่พึ่งได้ในตอนนี้คือเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ตนั่นเอง เขาเปิดเว็บเกือบทุกเว็บที่เขาคิดว่าจะมีทางออก หาความหมายของคำที่คิดว่าจะช่วยได้ หากแต่สุดท้ายเขาก็โดนหลอกซื้อดาบของปลอมในราคาเกินเหตุ  แถมเขายังโดนโชกุนก่อกวนทางเน็ตอีก และยิ่งกว่านั้นเขาก็ไม่รู้เรื่องที่ว่าผู้ที่มาร่วมสนทนาในอินเตอร์เน็ตนั้นมีคนหนึ่งที่เป็นฆาตกรตัวจริงในคดีนี้!! เหมือนตอกกลับว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสังคมที่มีสิ่งไม่ดีสิ่งที่เป็นภัยแอบแฝงอยู่มากมาย

    สุดท้ายพระเอกยอมกลายเป็นผู้แพ้โดยสมบูรณ์แบบ และการแก้ปัญหาด้วยวิธีสุดท้ายของเขาคือจมอยู่แต่ในโลกส่วนตัว สร้างตัวละครในจินตนาการเพื่อปลอบใจตนเอง โยนความคิดไปให้คนอื่น หรือเล่มเน็ตแบบบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายมันก็ไม่ไหว เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหนีจากสภาพความจริงได้ และเมื่อเรมิเข้ามาในจิตใจของพระเอกทาคุเขาก็รู้ว่าสิ่งที่ยึดเหนียวจิตใจของเขาในเวลานี้ก็คือหาใครสักคนมาปรึกษา ใครสักคนที่ไม่ใช้ตัวตนจิตนาการที่สร้างขึ้นมาเอง หากแต่เป็นคนจริงๆ ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจ พระเอกชอบพูดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่ไม่มีใครปรึกษา ความจริงเขาไม่รู้ตัวเลยว่ารอบตัวเขาต่างมีหลายคนที่เป็นห่วงเขา ไม่ว่าน้องสาวที่พยายามแวะหาพี่ชาย เพื่อนที่เอาใจใสดูแลเป็นพิเศษ เรมิที่พยายามปกป้องเขาอยู่เบื้องหลัง ซึ่งกว่าจะพระเอกทาคุจะรู้ตัวก็เกือบที่จะสายไปเสียแล้ว

    และสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือตอนจบของเรื่องที่สมมุติพระเอกเลิกเป็นฮิคิโคโมริ หันมาตั้งใจเรียนนี้ อะไรก็สวยงามไปหมด สภาพห้องก็น่ารัก หน้าคอมเปิดหน้าทำรายงาน ไปเรียนกับเพื่อนๆ คุยเรื่องสัพเพเหระที่เป็นเรื่องปกติ คนที่ดูฉากนี้แล้วร้อยทั้งร้อยต้องมีความคิดว่าพระเอกน่าอิจฉาจริงๆ  พระเอกได้รู้แล้วว่าปัญหาไม่ได้มีไว้แก้คนเดียว หากต้องร่วมมือกับหลายฝ่ายในแก้ปัญหา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องอาศัยความร่วมมือและแบ่งงานกันทำกับคนอื่น ๆ ในสังคม ซึ่งการช่วยเหลือและพึ่งพาอาศัยกันนี้เป็นวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างหนึ่ง


             ที่น่าสนคือการ์ตูนเรื่องนี้มีแนวคำศัพท์ที่ผมไม่รู้อีก “ไซเบอร์พังก์” เพิ่มเข้ามา ผมไปหาคำนี้ในกูเกิลก็พบคำ
    Cyberpunk นี้ที่แปลว่า เป็นแนวนิยายวิทยาศาสตร์ชนิดหนึ่ง ที่เน้นในเรื่อง “ความไฮเทคและชีวิตคุณภาพต่ำ”ที่หมายถึง วิทยาเกี่ยวกับการติดต่อและควบคุมของสัตว์และเครื่องจักร ที่มุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งกันของเหล่าบรรดาปัญญาประดิษฐ์ที่แนวโน้มว่าเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ของโลกมนุษย์ มากกว่าอนาคตอันไกลโพ้น ส่วนมากการดำเนินเรื่องมักมีบรรยากาศมืดมนและเน้นสืบสวนสอบสวนมากกว่าแอ็คชั่น

    สิ่งที่ Chaos;Head นำ “ไซเบอร์พังก์” การใช้เทคโนโลยีที่เป็นไปได้ให้เป็นไปได้ แต่สิ่งที่ได้มากลับเต็มไปด้วยเส้นทางเลือด การใช้ผู้บริสุทธิ์มารับกรรมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เช่น การทดลองในมนุษย์, การสร้างความวุ่นวายในสังคม, การใช้อิทธิพล, การใช้ความรุนแรง ฯลฯ และเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ได้มีไว้เพื่อช่วยเหลือส่วนรวม หากแต่เป็นเพียงการตอบสนองต่อกิเลส และสังคมกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่การ์ตูนญี่ปุ่นมักเอาแนวๆ นี้มาใช้จนเปื่อยยุ้ยหมดแล้ว

    โดยความคิดเห็นส่วนตัว การ์ตูนเรื่องนี้มีสนุกก็จริงอยู่ หากแต่ผมรู้สึกมาเสียดายในช่วงกลางเรื่องหลังจากพระเอกได้รู้ความลับเรื่องพลังเปลี่ยนจินตนาการเป็นความจริง จากเรื่องสืบสวนลึกลับอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นแอ็คชั่นแฟนตาซีเต็มตัวซะงั้น(โหยมีทั้งแมลงยักษ์ องค์กรชั่ว) ผมเสียดายมากเมื่อประเด็นฆาตกรและเรื่องพระเอกโดนใส่ร้ายได้หายไปอย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องราวสยองขวัญและโรคจิตถูกลบไปอย่างถวาร ยิ่งช่วงเฉลยฆาตกรตัวจริงผมยังอุทานว่า เหรอแบบไม่มีอารมณ์ร่วมเลย น่าเสียดายตรงประเด็นนี้ เพราะเรื่องได้ปูแล้วว่าฆาตกรตัวจริงนั้นอยู่ใกล้ตัวพระเอกนั่นเอง แต่กลายเป็นว่าเนื้อหาของการ์ตูนกลับเอาตัวการใหญ่เป็นที่ตั้ง ซึ่งตัวการใหญ่นั้นผมอยากร้องตระโกนให้ก้องโลกว่า โหลสุดๆ!!!ประเภทอยากครองโลกเจอมาเยอะ(แล้วเพ่) มันเลยกร่อยลงอย่างน่าเสียดาย ความกวนทีนของตัวการใหญ่โอเคแต่ไม่มีแปลกใหม่ ผมว่าตัวละครฆาตกรตัวจริงมันยังมีมิติและอะไรหลายอย่างนำมาใช้เยอะกว่าหัวหน้าใหญ่ในเรื่องเสียอีก

    ผมมาเสียดายในช่วงกลางเรื่องอย่างสุดซึ้ง ที่เน้นแอ็คชั่นมากไป(เพราะคู่สาววายนั้นแท้ๆ) เพราะว่าเนื้อหาของแอ็คชั่นนั้นมันก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรกับการ์ตูนหลายเรื่องในการ์ตูนที่ผมดูมาก่อนหน้า หากการ์ตูนเรื่องนี้ยึดหลักแนวฆาตกรรม หลอนประสาทเอาไว้จนหยดสุดท้าย การ์ตูนเรื่องนี้จะน่าดู น่าติดตาม วางปมไม่แพ้ภาพยนตร์หักมุมสยองขวัญชั้นดีทีเดียว

    แม้ว่าการเปลี่ยนแนวดื้อๆ จะทำให้อารมณ์ของผมหงุดหงิดไปบ้าง(หงุดหงิดที่เปลี่ยนแนวดื้อๆ นี้แหละ) แต่บทสรุปของเรื่อง เนื้อเรื่องเฉลย และฉากจบแบบแฮปปี้ก็ช่วยให้จิตใจผมชื้นบาน(พระเอกรอดตาย แถมได้ฮาเร็มเป็นของแถมอีก แบบนี้มันสุขโครตแล้วพ่อมหาจำเจริญ) แต่อารมณ์แอปปี้นั้นจะช่วยกลบสิ่งที่ผมผิดหวังได้หรือเปล่านั่นก็อีกเรื่อง

    สิ่งที่ผมกังวลถัดมาคือตัวละครหญิงที่มีจำนานมาก แต่จำนวนตอนที่ 12 ตอน ผมเลยกังวลว่ามันจะทำวางบทได้ดีหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าเรื่องนี้วางบทได้ดีเกินกว่าที่คิด(อย่างน้อยก็ดีกว่าอนิเมชั่นนักเรียนน้องใหม่สายพันธุ์จอมมารเยอะ) แต่ไม่ดีที่สุดเพราะบทบาทของพวกเธอบางตัวกลับหายไปดื้อๆ  จึงไม่แปลกอะไรที่มีการ์ตูนมังงะที่มีมุมมองของตัวละครหญิงในเรื่องเพิ่มขึ้นมา(ตอนนี้มีเฉพาะคู่สาววายไปก่อน) แบบว่าเป็นเรื่องราวของเธอคนนั้นเต็มๆ ชนิดบอกว่าเธอไปทำอะไรบ้างในช่วงที่เธอหายไป(เมื่อไม่ได้อยู่กับทาคุมิ)  แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นคือนิเมชั่นเสียมากกว่า ที่นำเสนอบทของแต่ละคนเพื่อเติมเต็มเนื้อเรื่อง ซึ่งผมว่าบทของน้องแว่น และบทของน้องสาว น่าจะเป็นบทที่ผมสนใจมากทีเดียว(บทของแต่ละคนคงปรากฏในเกมล่ะมั้ง)

        

    ตัวขโมยซีนการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่พระเอกหรือตัวละครสาวๆ ในเรื่อง หากแต่เป็นชายชราร่างเล็กในรถเข็นนาม โชกุน ที่เมื่อทุกอย่างเผยแล้วผมโครตประทับใจตัวละครนี้มากเลย เมื่อทาคุมิคือตัวตนจิตนาการที่โชกุนสร้างขึ้นเพื่อเป็นเสมือนตัวแทนของเขา(แต่ทำไมตัวแทนตัวนี้มืดมนสุดๆ เลยว่ะเนี้ย) แม้ความคิดของโชกุนอาจเห็นแก่ตัวไปบ้าง เช่น การก่อกวนทาคุ การจ้องมองทาคุตลอดเวลา(จนเกิดวลี ดวงตาของใครจ้องมองอยู่ ) การเปลี่ยนความทรงจำของน้องสาวแท้ๆ เพื่อไปดูแลร่างหนึ่งของเขาแทนที่จะดูแลตัวเขาเอง แต่การกระทั้งหมดนี้เขาทำไปเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุขมากกว่าที่ให้คนอื่นมาห่วงชีวิตใกล้ฝังของเขา อีกทั้งเขายังเป็นผู้เสียสละ ผู้ให้อะไรหลายๆ อย่าง จึงไม่แปลกใจอะไรเลยว่าทำไมเรมิถึงหลงรักโชกุนนัก นอกจากนี้สิ่งที่เป็นข้อคิดอีกอย่างก็คือ แม้ว่าเขาจะมีพลังมากมายมหาศาลชนิดเรียกว่าเปลี่ยนโลกได้ หากแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ต่อวัฏจักรธรรมชาติ พลังนั้นไม่ใช้ทุกสิ่ง หากแต่เป็นคนใกล้ชิดรอบข้างมากกว่าที่สำคัญ

      

    อีกหนึ่งตัวละครที่ผมผมชอบพอๆ กับโชกุน ก็คือเรมิที่ตอนแรก รูปลักษณ์ของเธอออกมาแบบนางเอกธรรมดามากๆ จนเกือบว่าตัวละครผู้หญิงในเรื่องแย่งซีนเธออย่างอุตลุด หากแต่ในช่วงกลางๆ บทบาทของเธอกลับตีตัวละครอื่นกระจุย ด้วยคำสัญญาที่มีไว้ให้พระเอกว่าเธอจะอยู่เคียงข้างเขา และการเปิดเผยความรักของเธอ ที่ความรักของเธอนั้นไม่เกี่ยงว่าชายคนนั้นจะอัปลักษณ์หรือแย่จนดูด้อยค่า หากแต่สิ่งที่เธอต้องการคือคนที่เข้าใจในจิตใจของเธอเสียมากกว่า

    สิ่งที่น่าคิดเกี่ยวกับตัวเรมิก็คือคำถามเกี่ยวกับความรักของเธอ จริงอยู่ที่เธอหลงรักโชกุนนั้นคือรักที่แท้จริงเพราะเขาคือคนมอบความหวังที่มีชีวิตอยู่ให้กลับเธอ หากแต่ความรักที่เธอมีต่อตัวทาคุมินั้นคือความรักแบบไหนกันแน่ เพราะกำกึ่งอยู่ว่า เธอหลงรักเขาว่าเป็นส่วนหนึ่งของโชกุนที่สร้างไว้ หรือเป็นตัวตนของทาคุกันแน่

    สิ่งที่ผมชอบใจเรมิคือบทเฉลยว่าเธอตามหาทาคุและเข้ามาในชีวิตของทาคุเพื่ออะไร สาเหตุเพราะเธอได้รู้ว่าโชกุนได้สร้างตัวตนของเขาเองไว้ และตัวตนนั้นสามารถใช้พลังวิเศษของโชกุนได้ หากแต่สิ่งที่ตัวตน(ทาคุ)ทำหากจะบั่นทอนชีวิตของโชกุนลง ดังนั้นเธอเลยต้องออกตามหาทาคุด้วยตนเอง เพราะโชกุนไม่ยอมบอกว่าเขาอยู่ไหน เธอเลยสืบจากคนที่โชกุนติดต่อไป จนกระทั้งพบทาคุ ซึ่งตอนนั้นความทรงจำที่สร้างขึ้นของทาคุไม่ได้บรรจุเรื่องเรมิเอาไว้(นอกจากนี้ความทรงจำที่สร้างขึ้นยังมีความทรงจำปลอมที่เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่กล้าจินตนาการพลังวิเศษ) เขาเลยหวาดกลัวเธอ แต่สำหรับเธอแล้วเขาเป็นคนสำคัญ เธอเลยจำต้องเข้ามาในชีวิตของทาคุเพื่อจับตาดูเขาไม่ให้ใช้พลังพิเศษที่จะส่งผลต่อชีวิตโชกุน......... โหย สุดยอดเลย กับการเฉลยปริศนาอันนี้ แบบว่าเล่นเอาผมต้องอุทานว่า เม่งคิดไปได้ ไอเดียนี้สุดยอดมากๆ แบบว่าทุกอย่างมันลงล็อคอะไรไปหมด กลายเป็นว่าผมหลงรักโชกุนกับเรมิมากกว่าตัวพระเอกทาคุเสียอีก

    น่าเสียดายที่ตัวละครสาวหลายตัวบทบาทน้อยอย่างน่าเสียดาย ผมชอบตัวน้องสาวทาคุประเด็นของเธอนี้สามารถเอามาเล่น เอามาใช้อย่างน่าติดตาม ความรักพี่ชาย การอยากให้พี่ชายหายจากโรค แต่สิ่งเหล่านี้กลับเอามาเล่นแบบง่ายๆ เกินไป แต่ผมประทับใจฉากโชกุนที่เปลี่ยนความทรงจำน้องสาวเพื่อไปดูแลตัวแทนของตนเองนั้นจัง มันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ส่วนตัวละครสาวบางคนผมดูแล้วยังไม่เต็มอิ่มเท่าที่ควร อย่างสาวแว่นยูเอะที่ออกมาเด่นในช่วงแรกอาจแต่ช่วงกลางหายไปอย่างสิ้นเชิง ก่อนมาปรากฏตัวในช่วงท้ายทำให้ผมไม่มีอารมณ์ร่วมเลย หรืออีกคนสาวคลั่งสงครามศาสนาอายาเสะประเด็นฆ่าตัวตายหรือประเด็นชีวิตมืดมนก็น่าจะนำมาใช้เยอะ แต่ก็ถูกตัดลงอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากตอนมันจำกัด แต่ก็ยังดีกว่าการ์ตูนหลายเรื่องที่ผมดูก่อนหน้าล่ะกัน

                    

    ในด้านภาพสวยงามเหมาะสมกว่าอนิเมชั่นปี 2008 ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกการเคลื่อนไหว ฉากฆาตกรรมทำได้น่ากลัว ฉากชิบุยะล่มสลาย ) โรแมนติกผมก็ชอบ และการปรากฏตัวของดาบดีซอร์ดทำออกมาน่ากลัวสุดๆ โดยเฉพาะของอายาเสะผมดูแล้วมันช่างอลังการเสียจริง ตัวละครที่มีเสน่ห์ แต่ปัญหาว่าคุณจะรับอะไรหลายเรื่องในการ์ตูนเรื่องนี้หรือได้หรือไม่ เพราะมันไม่ได้สยองขวัญจิตวิทยาแบบจ๋าเหมือนการ์ตูนมังงะเรื่องมอนสเตอร์หรือแว่วเสียงเรไร หากแต่เป็นเรื่องจิตวิทยาที่ไม่ได้เน้นสืบสวนสอบสวน มันเหมือนชีวิตของชายคนหนึ่งที่มีปัญหาทางจิตเสียมากกว่า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกมต้นฉบับนั้นเป็นยังไง มันจะครบสมบูรณ์เหมือนการ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอหรือไม่ แต่ผมขอบอกว่า 12 ตอนนั้นน้อยเกินไป กับการ์ตูนเรื่องนี้ และบางที 24 ตอนอาจเหมาะสมที่สุด สิ่งที่ผมเกลียดมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือการเปลี่ยนแนวโดยสิ้นเชิงในช่วงหลัง แม้ว่าเนื้อเรื่องจะน่าติดตามก็ตาม ผมเชื่อหลายคนไม่ชอบแอ็คชั่นในการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะมันไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไรเลย โชคยังดีที่สุดท้ายการ์ตูนเรื่องนี้จบลงอย่างชื่นมืน

      

    สรุปคือ Chaos;Head เป็นการ์ตูนที่ดี ได้รับคะแนนสูงจากหลายเว็บๆ ใครไม่เคยดูก็ลองดูก่อนนะครับ แต่อย่าคาดหวังมากมายล่ะ

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×