ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #52 : Koihime Musou เมื่อตัวละครสามก๊กกลายเป็นผู้หญิง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 35.86K
      26
      4 มี.ค. 53

     

    สามก๊ก(Romance of the Three Kingdoms)ถือได้ว่าเป็นวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์อมตะของจีน ไม่สิของโลกเลยด้วยซ้ำที่ถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นมากที่สุด สาเหตุเนื่องมาจากสามก๊กเป็นวรรณกรรมที่สามารถนำมาดัดแปลงได้หลากหลาย เป็นวรรณกรรมที่หลายคนรู้จักกันมากที่สุดและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก(ได้รับยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นสุดยอดวรรณกรรมชิ้นหนึ่งของโลก)  ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ตัวละครที่มีเสน่ห์ และสามก๊กยังมีอิทธิพลวัฒนธรรมจีนและคติสอนใจหลายอย่าง(เดียวจะเล่าในเนื้อหาต่อไป) และนอกจากนี้สาเหตุสำคัญคือสามก๊กไม่มีลิขสิทธิ เนื่องจากเป็นผลงานอดีต ดังนั้นใครๆ สามารถนำสามก๊กนำไปดัดแปลงเปลี่ยนเนื้อเรื่อง หรือเอามาเป็นเลโก้สินค้าใดๆ โดยไม่มีใครว่า ไม่มีใครฟ้อง ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่สามก๊กจึงถูกนำมาดัดแปลงเป็นการ์ตูนและเปลี่ยนเนื้อเรื่องแปลกๆ ที่ไม่มีวรรณกรรมจนหลายคนต้องอึ้งหลายยก

    มาถึงตอนนี้หลายคน เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักสามก๊ก แต่น้อยคนนักจะเข้าใจเนื้อหาในวรรณกรรมสามก๊กว่ามันคืออะไรกันแน่ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน ใกล้ตัวนี้แหละ กระทู้บอร์ดนักเขียน มีคนตั้งถามสามก๊กฉบับภาพยนต์ตอนโจโฉแตกทัพเรือภาคสอง เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าของกระทู้นั้นเข้าใจสามก๊กแบบผิดๆ อยู่มาก

    อย่างที่บอกสามก๊กนั้นถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นมากที่สุด พอๆ กับวรรณกรรมญี่ปุ่นแท้ๆ เนื้อเรื่องตรงวรรณกรรมบ้างไม่ตรงวรรณกรรมบ้าง ออกทะเล ออกอ่าวตั๋งเกียงบ้าง ก็แล้วแต่คนอ่านจะมาบ่นๆ ว่ามันดีหรือไม่ดี โดยการ์ตูนญี่ปุ่นที่เอาสามก๊กมาดีดแปลงที่เราพอรู้จักกันดี ก็มี

    Sangokushi สามก๊กฉบับอิงวรรณกรรมฉบับภาษาญี่ปุ่น ของเออิจิ โยชิคาวะ

    มังกรอหังการ หมาป่าคะนองศึก สามก๊กที่ออกทะเลที่สุด ผมไม่ได้ดูนะ แต่ว่าพิมพ์นานหลายปีแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่จบ

     Ikkitosen สามก๊กภาค มหาสงครามลูกแก้ว มากะ ที่กลายเป็นนักเรียนตีกัน คนอื่นชอบกันเยอะ แต่ผมไม่ชอบเลย(เพราะไม่ชอบนักเรียนตีกัน แถมผู้ชายต่อยผู้หญิงนี้เป็นภาพที่ไม่ดีเสียเลย แถมมีฉากร่วมเพศอีก)

    Dragon Sister ศึกสามก๊กสะท้านปฐพี  สามก๊กที่ขุนศึกถูกทำให้กลายเป็นสาวๆ (แต่ผู้นำเป็นผู้ชาย) โดยรวมๆ ดีครับ ชอบลิโป้ที่ภาพลักษณ์เป็นเด็กน้อยที่ไม่เข้าใจสงคราม(แถมไม่ตายด้วย) หากแต่ข้อเสียเยอะอ่ะ เช่น หมั่นไส้เล่าปี่(ชาย), เนื้อเรื่องรวบรัดไปหน่อย

    SEKIHEKI STRIVE ศึกสามก๊ก(ภาคพยัคฆ์ผาแดง เป็นสามก๊กแบบเล่มเดียวจบ ที่เล่าเฉพาะตัวละครของก๊กซุนกวนโดยเฉพาะครับ เนื้อหาอาจไม่เหมือนวรรณกรรม แต่ออกแบบตัวละครนั้นอิงมาจากการ์ดเกมส์ ทำให้ออกมาน่ารักดี 

    สามก๊กหกกิ๊ก(sangoku yuugi tao ten) เป็นสามก๊กดัดแปลงที่ผมชอบครับ เนื่องจากชอบคนเขียนเป็นทุนเดิมด้วย(คนเขียนอสูรสาวสวยแสบ) เรื่องราวของพระเอกแว่นคนหนึ่งที่จู่ๆ ต้องไปอยู่ศูนย์กลาง เกมส์เล่นซ่อนหา โดยมีตัวละครจากสามก๊กที่ถูกทำให้กลายเป็นผู้หญิงทั้งหมดมาเล่นเกมส์ต่อสู้กัน โดยใครที่ปราบเตียนอุยก่อนถือว่าชนะเกมส์นี้ และเตียนอุยคือนางเอกของการ์ตูนเรื่องนี้(น่าจะเป็นเตียวหุยนะ เพราะว่าเด่นดี เตียนอุยนั้นหลายๆ คนไม่ค่อยรู้จัก เพราะในวรรณกรรมออกมาไม่กี่บทก็ตายแล้ว)

    Qwan  กวงเทพมารผลาญฟ้า  ไม่ได้กล่าวถึงสามก๊กโดยตรงนะครับ แต่เล่าถึงเด็กชายคนหนึ่งชื่อ กวง ที่มีพลังวิเศษจนเหมือนเซียนที่กินพวกปีศาจต่างๆ เป็นอาหาร โดยเนื้อเรื่องจะเป็นช่วงสมัยราชวงค์ฮั่นปั่นป่วนจนไปถึงโจรโพกผ้าเหลือง และได้เจอโจโฉยังหนุ่มแน่นด้วย

    ฯลฯ

    แต่สามก๊กดัดแปลงที่โอตากุสายพันธุ์ไทยที่รู้จักกันดีนั้นคือ................

     

     

    Koihime Musou

    แนว ตลกสบายๆ, ดัดแปลงวรรณกรรม, แฟนตาซี

    ภาคแรก http://video.mthai.com/search.php?key_w=Koihime+Musou&sh_by=0

    ภาคสอง http://www.nung-dee.com/catalog.php?idp=2752

    ภาคพิเศษ http://www.youtube.com/watch?v=nK8wji7u9sk

    โหลดบิตเกมส์ได้ที่ http://www.hongfire.com/forum/showthread.php?t=96846

    หนังสือการ์ตูน(จบเล่ม 1 พอดี) http://mangahelpers.com/m/koihime-musou/chapters/

     

    Koihime  Musou มีชื่อเต็มๆ คือ Koihime Muso: Doki Otome Darake no Sangokushi Engi ไทยเรียกสามก๊กโมเอะ ครั้งแรกถูกทำเป็นเกมส์ H (เกมส์โป๊สำหรับผู้ใหญ่ +18) แนววางแผนแบบง่ายๆ ภาพการ์ตูนเป็นภาพนิ่ง โดยดัดแปลงวรรณกรรมคลาสสิคของจีน ในสามก๊ก พัฒนาโดย BaseSon และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2007 ของ PC และโด่งดังเป็นพลุแตก ด้วยตัวละครในเกมส์ที่น่ารักจับใจคนชม บวกกับเพลงที่แสนน่ารักและไพเราะ จนกระทั้งทำเป็นภาคสองในชื่อ Shin Koihime Musou โดยเพิ่มตัวละครที่หลายๆ คนอย่างเห็น อย่าง เล่าปี่, เบ็งเต็ก และ โจรโพกผ้าเหลืองสามพี่น้องแซ่เตียวเข้ามา นอกจากนั้นยังถูกทำเป็นเกมส์ของ PS2 และเผยแพร่ไปยังยุโรปในเวลาต่อมา

    เห็นไหมครับว่า H นั้นอยู่คู่กับวงการการ์ตูนญี่ปุ่นขนาดไหน ใครที่ชอบการ์ตูนญี่ปุ่นย่อมหลีกหนีกับคำนี้ไม่ได้ สักวันคุณจะต้องเจอ เพราะอมิเนชั่นจากเกมส์ H นั้นมีเยอะมาก

    และด้วยความดัง จึงไม่น่าแปลกแต่อย่างใด ที่สื่ออื่นๆ จะตามมา ถูกนำไปสร้างเป็นหนังสือการ์ตูนตีพิมพ์ในนิตยสาร Dengeki G's Festival! Comic ในปี 2008(ยังออกเล่มหนึ่งอยู่) และอมิเนชั่น 3 ภาค ภาคแรก Koihime Muso(12  ตอนจบ), ภาคสอง  Shin Koihime Muso(12 ตอนจบ) และภาคสาม  Shin Koihime Muso: Otome Tairan(กำลังสร้าง)

    เนื้อเรื่องในเกมและหนังสือการ์ตูนจะเหมือนๆ กันครับ (พล็อตก็เหมือนการ์ตูนทั่วไป) แม้ว่าจะมีคำเตือนว่า Koihime  Muso นั้นไม่เกี่ยวกับวรรณกรรมสามก๊กแต่อย่างใด แต่กระนั้นเราก็อดไม่ได้ที่มันจะเป็นสามก๊ก ในเมื่อสมัยเหมือน ตัวละครก็ชื่อมาจากตัวละครสามก๊ก(มีชื่อเล่นที่เป็นภาษาญี่ปุ่นอีกที) และการดำเนินเรื่องเนื้อหาส่วนใหญ่มีส่วนคล้ายสามก๊กพอสมควร

     

    (เนื้อเรื่องจริงๆ ของสามก๊กเป็นอย่างไร?) รายละเอียดสามก๊กนั้นมีหลากหลาย และมีหลายแบบ แบบอิงประวัติศาสตร์แท้ๆ ของจีนบ้าง มีแบบอิงวรรณกรรม เสริมอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์บ้าง เนื่องจากมีผู้แต่งสามก๊กหลายคน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสามก๊กที่ไทยรู้จักกันดีนั้น เป็นสามก๊กที่เขียนโดยหลอกว้านจง แปลโดย เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โดยมีเนื้อเรื่องว่า ในประเทศจีน ในปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออกหรือตงฮั่น ฮ่องเต้ทรงอ่อนแอ หลุ่มหลงสุราและนารี และมอบสิทธิขาดในการปกครองบ้านเมืองแก่สิบขันที ทำให้สิบขันทีมีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขุนศึกหัวเมืองต่าง ๆ พากันกระด้างกระเดื่องและตั้งกองกำลังส่วนตัวขึ้น กดขี่ชาวบ้านจนเดือดร้อนทั่วราชอาณาจักร ก่อเกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลืองต่อต้านราชสำนัก แต่กลับกลายเป็นว่าโจรโพกผ้าเหลืองก็สร้างความเดือดร้อนไปทั่วแก่ราษฏรไม่แพ้กัน ทางการจึงระดมพลปราบปรามโจรโพกผ้าเหลืองและสิบขันทีลงได้ ต่อมาเกิดทรราชย์โลกไม่ลืมคนใหม่ นามตั๋งโต๊ะผู้ฉวยโอกาสในความวุ่นวายยกกองกำลังเข้าประชิดเมืองหลวงและปลดฮ่องเต้ออก และสร้างความเดือดร้อนกดขี่ผู้คนหนักกว่าเดิมแต่สุดท้ายก็ตายด้วยฝีมือลิโป้บุตรบุญธรรมทรพี ต่อมาขุนศึกและกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ก็สะสมกองกำลังและรอจังหวะต่อสู้ขยายและยึดดินแดน ทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันโดยไม่สนใจรัฐบาลกลาง โดยผู้นำแต่ละก๊ก ไม่ว่าจะเป็น โจโฉ, อ้วนเสี้ยว, ซุนเซ็ก, เล่าปี่ ฯลฯ ต่างชิงเหลี่ยมชิงดำกันจนในที่ในที่สุดโจโฉก็ได้ครอบครองพื้นที่ภาคเหนือเอาไว้ทั้งหมดและใช้ฮ่องเต้เป็นเครื่องมือจนมีอำนาจล้นฟ้า ต่อมาก็มีการต่อสู้จนแผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊กอย่างชัดเจนภายหลังจากที่โจโฉพ่ายแพ้แก่เล่าปี่และซุนกวนในการศึกที่ผาแดง ก่อนยุคสามก๊กจะสิ้นสุดลงเมื่อตระกูลสุมา ก่อตั้งราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์จิ้น และรวบรวมก๊กทั้งหมดได้สำเร็จ ทำให้แผ่นดินจีนที่เคยแตกแยกออกเป็นก๊กเป็นเหล่ามายาวนาน กลับรวมกันเป็นอาณาจักรเดียวได้ดั่งเดิม(แต่แผ่นดินจีนยังไม่สงบสุขอย่างแท้จริง)

                   

    (ในหนังสือการ์ตูน Koihime  Musou)เนื้อหามีอยู่ว่ากาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ในสมัยจีนโบราณ เป็นยุคของราชวงค์ฮั่น ที่ตอนนั้นราชวงค์นี้กำลังเสื่อมสลาย การปกครองที่เหลวแหลกของราชสำนัก ทำให้เกิดความไม่สงบสุขทั่วทุกหัวทุกแห่ง โจรผู้ร้ายชุกชุมปล้นสะดมไปทั่วแผ่นดิน มีการปล้นและสงครามเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน จนเรียกได้ว่านี้เป็นกวียุคอย่างแท้จริง

                    กลับมายังโลกอีกมิติหนึ่ง ที่ญี่ปุ่นสมัยปัจจุบัน พระเอกตัวเอกม.ปลาย คนหนึ่งชื่อฮนโก คาสุโตะ ไปเจอวัตถุโบราณอันหนึ่งกับเพื่อนเข้า บังเอิญเขาทำมันแตกหัก จนเกิดมิติดูดมายังสมัยราชวงค์ฮั่นที่ว่าตอนต้นเรื่อง พระเอกยังไม่หายงง ว่าเกิดอะไรขึ้น ตูอยู่ไหนเนี้ย มันเป็นโลกและยุคสมัยที่เขาไม่รู้จักมาก่อน  ทันใดนั้นเองก็เจอโจรหน้าโหลสามสหาย(ใครที่ดูอมิเนชั่นจะรู้ว่าหมายถึงอะไร)มาดักปล้นพระเอกพอดี พระเอกมีแต่ซวยกับซวย และระหว่างที่พระเอกกำลังซวยอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีสองสาวที่มีวรยุทธ์เก่งกาจที่บังเอิญผ่านมาเห็นมาช่วยแบบทันท่วงที โจรสามสหายพ่ายแพ้อย่างราบคาบ หายวับไม่เหลือฝุ่น

                    พระเอกโล่งอกและรอดตายมาได้ ด้วยมารยาทเขาจึงถามชื่อสองสาวจอมยุทธ์นี้เพื่อแสดงความขอบคุณ สองสาวกล่าวแนะนำตัวว่า  เราชื่อกวนอู(ไอฉะ) และ เตียวหุย(ริน ริน) พระเอกได้ยินชื่อก็แปลกใจ อ๊ะจ๊าก เฮ้ย...!! นั้นมันชื่อตัวละครสามก๊กนี้หว่า เท่าที่รู้นี้กวนอูและเตียหุย เป็นผู้ชายนี้หว่า แต่ทำไม กวนอูเป็นพี่สาวผมยาว เตียวหุยเป็นเด็กตัวเล็กจิ๋ว แบบนี้เนี้ย (ไม่มีเล่าปี่ คาดว่าเนื้อเรื่องคงอิงมาจากภาคแรกของเกมส์)

                    พระเอกรู้เลยว่าตอนนี้ตนกำลังอยู่โลกคู่ขนาน ในยุคสามก๊ก ในราชวงค์ฮั่นแน่นอน เขาเลยติดตามสองสาวไปด้วย และได้ทราบว่า ตอนนี้สองสาวกำลังกำลังเข้าร่วมกองทัพหัวเมืองต่างๆ ที่รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับโจรตั๋งโต๊ะ(ยูเอะ)ที่กำลังยึดเมืองหลวงอยู่(ตั๋งโต๊ะโดนใครคนหนึ่งชักใยอยู่ ความจริงเป็นสาวน้อยจิตใจดีนะ) จากนั้นพระเอกก็ได้แปลกใจหลายตลบ เมื่อตัวละครสามก๊กที่เขารู้จักกลายเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ขงเบ้งที่กลายเป็นสาวน้อยขี้อาย(ชูวริ), กองซุนจ้านสาวไร้จุดเด่น(ไพเรน), โจโฉสาวเตี้ยกระดานซึน(คาริน),อ้วนเสี้ยวสาวไฮโซผู้เอาแต่ใจ(เรย์ฮะ), จูล่งสาวรั่วมุกฮ่ากระจาย(เซย์), ตั๋งโต๊ะสาวโลลิคอน(ยูเอะ), ลิโป้สาวเงียบผู้เกลียดการต่อสู้(เร็น), ซุนกวนสาวอกโต(เร็นฟา), ลกซุนสาวแว่นอกโต(นน)  ฯลฯ

                    พระเอกแทนที่จะสิ้นหวัง และหวาดกลัว(แบบว่าตูอยู่ที่ไหนว่ะเนี้ย และตูจะได้กลับบ้านไหม ทำไมสงครามมันโหดร้ายแบบนี้ แงๆ หนูกลัว) กลับกลายเป็นว่าเป็นเรื่องสนุกซะงั้น แถมเหล่าสาวๆ สามก๊ก(โดยเฉพาะจ๊กก๊ก)ต่างชอบเขาทั้งนั้นนี้ แถมตรูเองก็อ่านสามก๊กหลายรอบ อยู่โลกปัจจุบันตรูเป็นคนธรรมดา พอมาอยู่โลกนี้ตรูก็เทพสิก็ตรูรู้อนาคตนี้ว่ามันจะเป็นยังไง พระเอกจึงเลื่อนขั้นเป็นนักวางกลยุทธ์ร่วมมือพวกกวนอูเพื่อให้กวียุคนี้หมดสิ้นไป และเพื่อสร้างฮาเร็มของตัวเองเป็นของแถมด้วย ฮุๆ (ไม่รู้ทำไม ผมหมั่นไส้พระเอกเรื่องนี้เป็นพิเศษ พระเอกได้ใจมาก จีบกวนอู จีบคนอื่นไปทั่วเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตัวเองทำอะไรสักอย่าง)

                   

                    การ์ตูนไม่มีอะไรมากครับ ดำเนินเรื่องแบบสบายๆ มีฉากดราม่าเล็กน้อย มีฉากหมั่นไส้พระเอกเยอะมาก  และมีเหตุการณ์สามก๊กสอดแทรกเล็กน้อย เช่น เตียวหุยยืนขวางทัพโจโฉอยู่คนเดียว ที่สะพานเตียงปันเกี้ยว เป็นต้น(รินรินน่ารัก)

                   

                    (ในเกมส์ Koihime  Musou ภาค 2) คนดู(คนเล่น)ต้องสวมบทบาทเป็นพระเอกครับ ตอนแรกก็เลือกฝั่ง โดยสีเขียวคือก๊กของเล่าปี่ สีแดงเป็นก๊กของซุนกวน สีน้ำเงินคือก๊กของโจโฉ นอกจากนี้ยังมีก๊กลับอีก คือ ก๊กของสามพี่น้องเตียวโจรโพกผ้าเหลือง ก๊กของอ้วนสุด ก๊กของตั๋งโต๊ะ ก๊กของอ้วนเสี้ยว ก๊กของเบ๊งเต๊ก เลือกแล้วก็จะมีภาพนิ่งแบบตัวละครมาพูดตอบโต้กันดำเนินเนื้อเรื่อง(แน่นอนภาษาญี่ปุ่น เราคนไทยมองตาปริบๆ) จากนั้นก็ตัดมาในส่วนของเกมส์แนววางแผนแบบง่ายๆ และจบหนึ่งเกมส์(ไม่ขออธิบายระบบเกมส์นะ เพราะผมก็ไม่เคยเล่น) และก็จะมีฉากขึ้นมาให้เราหลีหญิง โดยทำการเลือกสาวๆ 1 คน ได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 เกมส์ และหากจะดูฉาก H หรือ ฉากจบ ก็ต้องเล่น 7 เกมส์/ 1 คน เป็นอย่างต่ำ (สรุปคือชนะแล้วก็เลือกฉากหลีตัวละคร ชนะมากๆ ก็จบ)

                   

                    (ในอมิเนชั่น Koihime  Musou) สำหรับอมิเนชั่นนี้ไม่มีการดำเนินเนื้อเรื่องมากนัก(ตรงนี้ผมชอบมาก) โดยไม่กล่าวถึงพระเอกจอมหลีหญิง(โครตดีใจเลยที่ไม่มีพระเอก) ดังนั้นตัวเอกจึงเป็นกวนอูพี่สาวผมยาวแทน ที่ออกเดินทางเพื่อเสาะหาวิธีที่ทำให้กวียุคหมดสิ้นไป ระหว่างทางกวนอูก็พบตัวละครสามก๊กที่เป็นผู้หญิงไปเรื่อยๆ เริ่มจาก เจอเตียวหุยและสาบานเป็นพี่น้องกัน เจอจูล่งก็เดินทางไปด้วยกัน เจอโจโฉก็เกือบเสียตัว(โจโฉคารินเป็นเลสเบียนจ๊ะ) เจอซุนเซ็กก็เกือบเอาตัวไม่รอด จนกระทั้งมาถึงตอน 12 ก็เจอเล่าปี่(ตัวปลอม) ก็เกือบหลงเชื่อว่าเป็นเชื้อสายราชวงค์ฮั่น แต่ก็รอดมาได้จนกระทั้งจบภาคแรก

                    มาภาคสองกวนอูก็ออกเดินทางอีกครั้ง เนื่องจากได้เจอเล่าปี่(ริวบิ)ตัวจริที่มาหมู่บ้านของกวนอู(ไอฉะ)ที่ตามหาดาบประจำตระกูล พวกกวนอู(ไฮฉะ)สงสารบวกกับดูท่าทางแล้วท่าจะไปไม่รอดเลยต้องเดินทางร่วมกัน จนตอนสุดท้ายก็สาบานเป็นสามพี่น้องสวนดอกท้อเรียบร้อย เนื้อเรื่องมีแต่คนบ่นๆ ว่าไม่ค่อยเดิน แต่ก็ปรากฏตัวละครใหม่มาเรื่อยๆ เรียบๆ มาเรียงๆ ก่อนที่จะมาถึงตอนจบตอนที่ 12 ที่อิงสามก๊กบ้าง เป็นตอนปราบกบฏพี่น้องเตียว และดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังบงการพี่น้องเตียวอยู่ และกำลังคนๆ นั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดกวียุคแห่งนี้ขึ้นมานั่นเอง และก็จบภาคสอง(อย่างไม่อิ่มใจ อยากดูเยอะๆ อ่ะ)

                    ก่อนจะพูดหัวข้อของบทความ ก็ขอเขียนหัวข้อนี้หน่อยนะครับ สามก๊กเป็นผลงานของสาธารณะชน ผมเห็นบ่อยนะครับพวกกระทู้ด่าว่า สามก๊กดัดแปลงที่ไม่ตรงเนื้อหาวรรณกรรมและไม่ตรงประวัติศาสตร์  เช่นหนังเรื่องโจโฉแตกทัพเรือที่ดัดแปลงจนผิดเพี้ยน หงส์สาจอมราชันย์สื่อว่าเตียวหุยฉลาดและละเอียดอ่อน หรือพวกบทความวิเคราะห์สามก๊กโดยใช้ความรู้สึกของคนเขียนถ่ายทอด เช่น เขียนสื่อให้เห็นว่าจ๊กก๊กเป็นฝ่ายไม่ดี ขงเบ้งไม่เก่งเหมือนในวรรณกรรม เท่านี้แหละครับ เม้นออกมาด่าชนิดเลยว่า ขงเบ้งข้าใครอย่าแตะ ยิ่งกว่าผู้พิทักษ์ดงบังเสียอีก ซึ่งผมคนหนึ่งก็เป็นคนชอบสามก๊ก ชอบขงเบ้งด้วย ผมว่านะ สามก๊กนั้นมันไม่มีลิขสิทธิ์ ดังนั้นมันจึงเป็นผลงานของทุกคน มันย่อมมีความคิดเห็นหลากหลาย ตัวละครสามก๊กไม่มีใครดีใครชั่ว  อีกทั้งมันเป็นประวัติหลายพันปีจริงเท็จยังไงก็ไม่มีใครทราบได้ ดังนั้นทุกคนอย่าโกรธเคียงเลยนะครับ หันมามองว่าสิ่งที่สื่อจากสามก๊กดัดแปลงดีกว่าว่าให้อะไรเรา อย่าได้ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์สามก๊กเลย มันยิ่งทำให้คนที่ชอบสามก๊กคนอื่น รู้สึกไม่สบายใจไปด้วย

                   

    เมื่อตัวละครสามก๊กถูกดัดแปลงให้โมเอะ โมเอะ(Moe) คำนี้หมายความว่าอะไร? คำนี้เป็นคำแสลงของภาษาญี่ปุ่นมีความหมายถึงความรักความชอบ(อาจมีอารมณ์ทางเพศ) ที่มีต่อตัวละครการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือเกมส์

    ที่มาของคำว่าโมโอะไม่แน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากชื่อตัวละครในการ์ตูนสมัยเก่า บ้างก็ว่ามาจากการแผลงคำ ถึงอย่างนั้นพวกที่ชอบการ์ตูนญี่ปุ่นมักพูดคำนี้กับตัวละครการ์ตูนที่ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง และทำให้น่ารัก โดยความน่ารักนี้อาจมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น สาวแว่น, ใส่ชุดว่ายน้ำโรงเรียน, หูแมว, สาวขี้อาย, สาวซึนฯ, พี่สาว, เพื่อนวัยเด็ก ฯลฯ

                    จุดเด่นของสามก๊กที่ทำให้คนอื่นๆ ชอบ สาเหตุต้นๆ คือ จุดเด่นของตัวละครนั้นเองครับ ทั้งลักษณะนิสัยของตัวละคร แบบว่ามองก็รู้เลยว่าเป็นตัวละครสามก๊ก

                    Koihime  Musou ก็นำตัวละครสามก๊กนำมาดัดแปลงเป็นสาวน้อย ใส่ความน่ารักลงไป แต่กระนั้นก็ยังคงลักษณะและนิสัยของตัวละครสามก๊กดั่งเดิมลงไป แม้บางตัวละครอาจผิดเพี้ยนไปบ้าง เช่น ตั๋งโต๊ะ ที่ในวรรณกรรมนั้นเป็นคนโหดร้ายหยาบช้า แต่พอนำมาเป็นสาวน้อยในเรื่อง Koihime  Musou กลับกลายเป็นสาวน้อยขี้อายและรักความสงบแทน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะวัตถุประสงค์ของการ์ตูน(อมิเนชั่น)เรื่องนี้ครับ อย่างที่คุณ Seberjung ว่าไว้ เราไม่เคยเห็นตัวละครสามก๊กอยู่รวมกัน ทำอะไรด้วยกัน โดยไม่สนใจผลประโยชน์และฐานะของตัวเองเลย คุณเคยเห็นอ้วนเสี้ยวกับโจโฉอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนร่วมกันหรือเปล่า  คุณเคยเห็นตัวละครของจ๊กก๊กกินข้าวร่วมกันหรือเปล่า(ในวรรณกรรม กวนอูดูถูกม้าเฉียวและฮองตง เล่าปี่มีความหวาดระแวงขงเบ้ง ม้าเฉียวเป็นตัวละครที่จ๊กก๊กไม่ใส่ใจ) หรือเคยเห็นโจรโพกผ้าเหลืองจอมจำนนโดยไม่เสียเลือดเนื้อไหม? และมีการ์ตูนสามก๊กเรื่องไหนที่ตัวละครทั้งหลายไม่ตายบ้าง? คำตอบคือไม่มี คุณเห็นแต่สามก๊กที่มีแต่เรื่องเครียดๆ สงคราม ฆ่าฟันกัน ตัวละคร(ทั้งตัวหลักตัวประกอบ)ตายเกือบทุกตอน ตัวละครซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ แม้ดัดแปลงเป็นการ์ตูนก็ไม่วายมีแต่ตีกันทั้งเรื่อง

                    การ์ตูนอมิเนชั่น Koihime  Musou จึงเป็นคำตอบที่แฟนสามก๊กที่อยากเห็นตัวละครสามก๊กสามัคคีกัน มารักกัน โดยปราศจากความขัดแย้ง ดูแล้วสบายๆ ไม่เครียดอิ่มอกอิ่มใจ ไม่ดราม่า  ไงละครับ แม้จะเป็นการ์ตูนเซอรวิส แต่มันก็ไม่ไร้สาระทีเดียว มันก็สอดแทรกสิ่งที่เรียกว่า มิตรภาพ” “ความรักและ ความโหดร้ายของสงคราม” “และการต่อสู้ด้วยปราศจากความรุนแรงลงไปด้วย (ดังนั้นในหนังสือการ์ตูนสิ่งที่สื่ออกมานั้น ไม่ใช้ Koihime  Musou แน่นอน เพราะเน้นสงครามและตัวละครในเรื่องตาย)

                    ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่เราเห็นตัวละครอมิเนชั่น Koihime  Musou ล้วนเป็นคนดีทั้งสิ้น(บางตัวก็ติ๊งต๊องซะไม่มี ผิดกับหน้าตาเหลือเกิน)

                    แน่นอนครับเมื่อเอาตัวละครจากวรรณกรรมจีนมาดัดแปลงเป็นผู้หญิง ก็มีหลายเสียงออกมาต่อต้านบ้าง เนื่องจากเอาบุคคลประวัติศาสตร์จีนมาลบหลู่ แต่อย่างที่ผมบอกตอนแรกๆ แหละครับว่า สามก๊กเป็นของสาธารณะอย่าไปคิดมาก มองในแง่ดีสิครับ หากทำเป็นการ์ตูนน่ารักก็จะช่วยให้เผยแพร่สามก๊กได้ดีขึ้น ผู้คนสนใจสามก๊กมากขึ้น อยากอ่านสามก๊กมากขึ้น แบบว่าเนื้อเรื่องที่แท้จริงมันเป็นยังไง

                    คราวนี้เรามาดูการเปรียบเทียบตัวละครสามก๊ก Koihime  Musou ดีไหมครับ ว่า ทั้งลักษณะและนิสัย มันแตกต่างจากตัวตนในวรรณกรรมหรือเปล่า(รูปภาพเปรียบเทียบขวามาจาก เกมส์สามก๊ก 11 และเอาตัวละครที่สำคัญครับ)

                    

                    กวนอู (Guan Yu) คังอู - อึนโชว/ ไอฉะ ฉายา"นักล่าโจรผมดำ" ในการ์ตูนอมิเนชั่น Koihime  Musou ได้เปลี่ยนกวนอูมาเป็น พี่สาวสวยผมยาว(กวนอูในวรรณกรรมเครายาว) ที่สูญเสียครอบครัวจากสงคราม จึงร่ำเรียนวิชา จนเป็นนักรบที่มีฝีมือเก่งกาจยากหาใครเทียบ เป็นคนมีคุณธรรม กล้าหาญ รักเพื่อน และฉลาดเฉลียว ออกเดินทางเพื่อหาวิธียุติกวียุค และระหว่างทางก็ได้พบเพื่อนๆ และคนร่วมอุดมการณ์มากมาย(แต่นิสัยหาสาระไม่ได้สักคน) แม้ภายนอกจะเป็นหญิงแกร่งน่าเคารพหากแต่ลึกๆ แล้วนิสัยของกวนอู(ไอฉะ)ก็มีนิสัยเหมือนหญิงสาวธรรมดา ที่ต้องการมีความรัก และอยากมีชีวิตเหมือนหญิงสาวทั่วไป ทำให้โดนหลอกง่าย(โดยเจ้าเล่าปี่ตัวปลอม)

    ส่วนกวนอูในวรรณกรรมนั้นมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือมีหน้าแดงฉาน เคายาวถึงเอว รูปร่างสูงใหญ่ มีคุณธรรม และมีอาวุธเป็นง้าวมังกรเขียวและขี่ม้าเซ็กเธาว์ออกรบด้วยลักษณะนี้ทำให้กวนอูจึงเป็นตัวละครที่จดจำมากที่สุดในสามก๊ก นอกจากนี้กวนอูยังเชี่ยวชาญเรื่องพิชัยสงคราม สมัยยังหนุ่มทั้งยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานเล่าปี่และเตียวหุยสร้างชื่อจากสงครามหลายสนาม จากคนธรรมดากลายมาเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของก๊กเล่าปี่  แต่เมื่อแก่ตัวลงกวนอูก็เริ่มเผยข้อเสียอย่างเห็นได้ชัด คือหย่อหยิ่งทระนงและเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป จนเป็นเหตุบาดหมางกับซุนกวนจนในที่สุดก็พลาดท่าแผนการของลิบองและลกซุนจนโดนจับและยอมตายไม่ยอมสยบด้วยการถูกซุนกวนสั่งประหารชีวิต

    กวนอูนั้นคนจีนหลายคนถูกมองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ หลายคนกราบไหว้ ซึ่งความจริงแล้วแต่เดิมเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์นั้นเป็นของงักฮุย(1103-1142)นักรบกู้ชาติในยุคราชวงค์ซ่งใต้ ที่คนจีนโบราณกราบไหว้นักรบท่านนั้นเป็นเวลาช้านาน หากแต่ในเวลาต่อมาแมนจูขึ้นมาเป็นใหญ่(ราชวงค์ซิง) และเปลี่ยนงักฮุยมาเป็นกวนอูแทน เนื่องจากงักฮุยเป็นวีรบุรุษต่อต้านเผ่าแมนจู  เพื่อให้กระแสต่อต้านราชวงค์ซิงเบาบางลง

     

    เปรียบเทียบกวนอู(ไอฉะ)กับกวนอูในวรรณกรรมแล้วท่านเห็นอะไรหรือเปล่าครับ? กวนอู(ไอฉะ)คือตัวละครที่คนอื่นอยากเห็นมากที่สุด เพราะว่ากวนอู(ไอฉะ)ได้รวบรวมนิสัยดีๆ ของกวนอูมาไว้ทั้งหมด ตัดข้อเสียความหย่อหยิ่งทระนงออกไป ไม่ดูถูกผู้อื่น อย่างในการ์ตูนเราเห็นกวนอู(ไอฉะ)กราบไว้ทุกชนชั้นโดยไม่สนอายุและฐานะ เช่นให้ความเคารพและนับถือกับขงเบ้ง(ชูวริ)อย่างจริงใจ ซึ่งนิสัยแบบนั้นไม่มีในวรรณกรรม เพราะลึกๆ แล้วกวนอูนั้นไม่ค่อยนับถือขงเบ้งสักเท่าไหร่(อย่างที่หลายๆ คนวิเคราะห์ในหนังสือหลายเล่มนั่นแหละ) นอกจากนี้กวนอู(ไอฉะ)ยังยอมเสี่ยงตายยอมลดศักดิ์ศรีไปขอร้องโจโฉ(คาริน) เพื่อขออภัยโทษม้าเฉียว(ซุย) ทั้งๆ ที่ในวรรณกรรมแล้วกวนอูไม่ถูกม้าเฉียว(ทั้งๆ ที่แทบไม่เคยเห็นหน้า แต่พอกวนอูรู้ว่าม้าเฉียวคือหนึ่งในห้าทหารเสือ กวนอูเลยไม่พอใจ และดูถูกว่าม้าเฉียวคือใคร ทำไมต้องมีฐานะเท่าตน) นอกจากนี้กวนอูยังทะเลาะ(นิดๆ หน่อย)กับเตียวหุย(ริน ริน)บ่อยๆ เวลาเอาแต่ใจ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นคนให้ท้ายน้องร่วมสาบาน

    ดังนั้นกวนอู(ไอฉะ)เป็นตัวแทนจึงเป็นตัวแทนอันดีงามของกวนอู ที่ไม่ได้ถูกยกย่องว่าเป็นเทพเจ้า  อย่างที่การ์ตูนนำเสนอกวนอู(ไอฉะ)เป็นเพียงเด็กสาวที่มีอารมณ์เหมือนมนุษย์ผู้หญิงธรรมดา อยากมีความรัก ดังนั้นเป็นการง่ายที่จะโดนผู้ชายหลอก(เล่าปี่ พระเอก?)  จีบนิดเดียวก็ติด ทำให้เราได้เห็นกวนอูสาวน้อยที่ภายนอกเข้มแข็งแต่กลับมีจิตใจอ่อนไหว อ่อนต่อโลก โดยเฉพาะเรื่องความรักระหว่างเพศตรงข้าม ที่ยังดีตอนท้ายที่กวนอูยังมีเพื่อนช่วยเตือนสติและสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ 

    นอกจากนี้สังเกตไหมครับว่าทำไมในวรรณกรรมสามก๊กถึงไม่ค่อยมีผู้หญิงเป็นขุนพลเป็นแม่ทัพเลย ก็เนื่องจากสมัยก่อนนั้นผู้หญิงไม่มีบทบาทในสังคมการเมืองของจีน เพราะสายตาคนคนสมัยนั้นมองผู้หญิงแทบไม่ต่างจากทาสรับใช้ที่ต่ำต้อย(มีตัวละครขุนพลคนเดียวในสามก๊กที่เป็นผู้หญิง คือ นางจ๊กหยง แต่ดันไม่ใช้คนจีนเพราะเป็นคนม่าน) ดังนั้นสามก๊ก Koihime  Musou จึงเป็นอมิเนชั่นที่หลายๆ คนอยากเห็นตัวละครผู้หญิงมีบทบาทในวรรณกรรมอมตะของจีน ที่สู้รบและมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย เท่าให้เราได้เห็นว่าตัวละครที่เป็นผู้หญิงในการ์ตูนเรื่องนี้เป็นฝ่ายดี ส่วนฝ่ายชายเป็นฝ่ายชั่วร้ายไป

     

    เตียวหุย (Zhang Fei) โชฮิ - โยคุโทคุ / รินริน เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในภูเขา หลังพบกวนอู(ไอฉะ)ก็กลายเป็นน้องเล็กในสามพี่น้องร่วมสาบาน รูปร่างเล็กแต่มีพละกำลังมากมายมหาศาล รักคุณธรรม และเก่งวรยุทธ์ ดีไม่ดีอาจเก่งกว่ากวนอู(ไอฉะ)ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงมีความคิดอ่านเหมือนเด็กทั่วไป อ่านหนังสือไม่ออก กินจุ  พูดจาตรงไปตรงมา โผงผาง ใจร้อน และร่าเริงสุขไม่เป็นสุข รักกวนอู(ไอฉะ)มาก และมักโมโหทุกครั้งเวลากวนอูแสดงความรักแก่คนอื่นมากกว่าตน (แต่โกรธง่ายหายเร็ว) จุดเด่นคือเข็มกลัดที่หัวรูปเสือซึ่งเป็นการแซวว่าเตียวหุยวรรณกรรมมีลักษณะร่างกายหัวโตเหมือนเสือนั้นเอง และชอบขี่หมูตอนออกศึก(ก็เป็นการแซวเตียวหุยในวรรณกรรมอีกแหละ ว่าเตียวหุยมีอาชีพขายหมู)

    เตียวหุยในวรรณกรรมนั้น มีนิสัยไม่แตกต่างจากเตียวหุย(ริน ริน)มากนัก เนื่องจากลักษณะบุคลิกของเตียวหุยเป็นตัวฮ่าและสร้างสีสันที่สุดในเรื่องสามก๊กอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดัดแปลงหรือเปลี่ยนนิสัยอะไรมาก อีกทั้งเป็นตัวละครในสามก๊กอีกตัวที่มีนิสัยตรงไปตรงมามากที่สุดตัวหนึ่ง  ดังนั้นไม่ว่าจะอ่านการ์ตูนสามก๊กเรื่องไหนเราก็มักเห็นเตียวหุยลักษณะแบบนี้ทุกตัว เตียวหุยปรากฏตัวครั้งแรกในวรรณกรรม สามก๊กในฐานะคนฆ่า-ขายหมู และได้เจอเล่าปี่และพูดจาคุยถูกคอ ก่อนที่เจอกวนอูและสาบานที่สวนดอกท้อที่บ้านเตียวหุยเอง(บางวรรณกรรมฉบับอื่นบอกว่าเป็นบ้านแม่เล่าปี่) และด้วยพลังมหาศาลและการต่อสู้ที่ดุดันทำให้เตียวหุยสร้างชื่อจนโด่งดังในยุคสามก๊ก แต่เตียวหุยนั้นมีข้อเสียอย่างใหญ่หลวงคือเป็นคนชอบดื่มสุราจนเมามาย และเพราะดื่มสุรานี้เองทำให้ชีวิตเตียวหุยพังพินาศสองครั้ง ครั้งแรกคือดื่มสุราจนเมามายจนลิโป้ฉวยโอกาสยึดเมืองที่เตียวหุยปกครองอยู่ไป และครั้งที่สองคือในสงครามบุกง่อก๊กที่เตียวหุยจะแก้แค้นให้กวนอู เตียวหุยสั่งเร่งรัดให้คนสนิทจัดเตรียมสิ่งของไว้ทุกข์(และจัดเตรียมทัพ)พร้อมคาดโทษตายไว้หากทำไม่ทัน ลูกน้องกลัวโทษตายเลยลอบสังหารเตียวหุยที่กำลังนอนเมามายจนตายไม่รู้ตัว

     

    หากกวนอูเป็นเทพแห่งความซื่อสัตย์ของชาวจีน เตียวหุยก็เป็นเทพของจีนเหมือนกัน นั้นก็คือ เทพเจ้าแห่งโรงฆ่าสัตว์  เนื่องจากอาชีพเดิมของเตียวหุยคือคนฆ่าสัตว์ นอกจากนั้นในสายตาคนทั่วไป ผู้ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์จะต้องมีนิสัยโผงผาง ใจร้อน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเตียวหุย ทำให้คนฆ่าสัตว์ในประเทศจีนนับถือเตียวหุยเป็นปรมาจารย์ของพวกตน แต่เตียวหุยเป็นพี่น้องสาบานของเล่าปี่และกวนอู ทำให้ผู้ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์จึงต้องนับถือเล่าปี่และกวนอูด้วย อย่างที่เห็นในศาลเทพปรมาจาย์ของผู้ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์จึงมีรูปปั้นเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยด้วย(แต่ในสามก๊กวรรณกรรมฉบับญี่ปุ่นไม่ได้กล่าวถึงเตียวหุยเป็นคนฆ๋าสัตว์ หากแต่เป็นจอมยุทธที่รู้จักกวนอูมาก่อน และเป็นคนช่วยเล่าปี่จากโจรโพกผ้าเหลือง อีกทั้งเตียวหุยไม่ได้โง่ เหมือนหนังที่พยายามเสนอ เพราะจากการกระทำที่เห็นในวรรณกรรมเห็นได้ชัดว่าเตียวหุยช่ำชองเรื่องพิชัยสงคราม หากแต่เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาแบบไม่ไว้หน้าใคร เช่น ตั๋งโต๊ะ ลิโป้ ซึ่งส่วนมากเป็นคนเลวที่ใครๆ ก็รู้ว่านิสัยไม่ดีแน่ๆ แต่หลายคนกลับมองเตียวหุยกลายเป้นคนแบบนั้นไป)

    นอกจากนี้เตียวหุย ยังเป็นตัวเปรียบเปรยถึงคนที่มีลักษณะนิสัยไม่หยุดนิ่ง ไม่เป็นสุข อันเนื่องจากตอนหนึ่งของสามก๊กที่เป็นต้องเตียวหุยพลัดพลาดกับเล่าปี่และกวนอูตอนที่รบพ่ายกับโจโฉ เตียวหุยแทนที่จะหยุดนิ่งรอฟังข่าวที่อยู่ของพี่ทั้งสองที่พลัดพลาด แต่เตียวหุยไม่หยุดนิ่งเพราะระหว่างที่พลัดพลาดนั้นเตียวหุยไปซ่องสุมกำลังพล ตั้งเป็นกลุ่มกองโจรเล็กๆ ประมาณหลายพัน จนได้ข่าวเล่าปี่ จึงยกกำลังไปหา จนเป็นที่มาของการเปรียบเปรยคนที่มีนิสัยลักษณะแบบนี้ ในประวัติศาสตร์ มีบุคคลการเมืองจีนหลายคน เปรียบตัวเองว่านิสัยเหมือนเตียวหุย

     

    จูล่ง (Zhao Yun) โชวอุน -  ชิริว / เซย์ นักรบสาวผู้งดงาม(และชุดแสนจะน่ารักซะไม่มี) ฝีมือร้ายกาจ สุขุมเยือกเย็น(แค่ภายนอก) แต่บางครั้งก็เป็นสาวรั่วปล่อยมุกฮ่าๆ ได้เหมือนกัน ชอบล้อกวนอู(ไอฉะ) และชอบทานหน่อไม้มาก เธอเป็นเพื่อนออกเดินทางพร้อมกับกวนอู(ไอฉะ) แต่บางครั้งเธอจะแยกออกจากกลุ่ม แล้วปลอมตัวเป็น หน้ากากผีเสื้อ มาช่วยเหลือผู้คนอีกด้วย(แต่คนอื่นก็รู้แหละว่าเป็นเธอ ต๊องซะแบบนี้ แต่เจ้าตัวกลับนึกไปเองว่าไม่มีใครรู้) ซึ่งเป็นการแซวจูล่งในวรรณกรรมคือจูล่งมักมีหน้าที่อยู่เบื้องหลังมากกว่า เช่นเป็นองค์รักษ์ของเล่าปี่ เป็นทัพสนับสนุน ยิ่งช่วงสงครามสุดท้ายของจูล่งก็ยังเป็นทัพอิสระระวังหลังให้ทัพหลักของขงเบ้งตอนแพ้ศึกบุกวุยก๊กครั้งแรก

    ลักษณะจูล่งใน Koihime  Musou ตรงกับวรรณกรรมทุกประการ คือชอบสีขาว  เนื่องจากในวรรณกรรมได้บรรยายเกี่ยวกับจูล่งเขาชอบสีขาวเป็นพิเศษ ชอบสวมชุดขาวและขี่ม้าขาว ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของแม่ทัพจูล่งที่หลายๆ คนรู้จัก

     

    จูล่งในวรรณกรรมและในประวัติศาสตร์นั้น ผู้คนต่างยอมรับว่า เป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่ไม่มีจุดด่างพร้อยแม้แต่น้อย จูล่งไม่เคยมีประวัติที่เผยจิตใจด้านมืดเลยสักครั้ง ทำให้ถูกเรียกขานว่าสุภาพบุรุษนักรบ ด้วยความดังและนิสัยพระเอกแบบหนังไทยนี้เอง ทำให้จูลงเคยมีเกมส์ที่มีเขาเป็นตัวเอกคนเดียวมาแล้ว นอกจากนั้นยังมีหนังที่ได้ดัดแปลงเรื่องราวจูล่งเล็กน้อยในศึกสุดท้ายของเขาตอนบุกวุยก๊ก และจูล่งเป็นขุนพลที่ตายดีและสงบคนหนึ่งในเรื่องสามก๊ก

     

    ม้าเฉียว (Ma Chao) บะโจว - โมวคิ / ซุย เป็นตัวละครที่ผมชอบเป็นพิเศษ(ในอมิเนชั่นนะ ไม่ใช้ในวรรณกรรม ในวรรณกรรมผมชอบเบ้งเฮ็ก) เพราะว่าออกแบบน่ารักดี ผมชอบตัวละครผู้หญิงเก่ง มีบุคลิกแบบทอมบอยพี่สาวที่ไม่ห่วงเนื้อห่วงตัวนี้แหละ(เหอๆ) เป็นนักรบสาวมากฝีมือจากเสเหลียงเก่งเพลงทวนและชอบขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ มีประสบการณ์ และกินเก่ง อึดทนทายาด ตรงไปตรงมา ไม่วางแผนใดๆ ทั้งสิ้น นิสัยคล้ายๆ เตียวหุย(รินริน)ทำให้เป็นเพื่อนสนิทกับเตียวหุย(ริน ริน) โดยบริยาย

    ม้าเฉียวใน Koihime  Musou ตรงกับวรรณกรรม ตรงที่เป็นคนใจร้อนและหยุดนิ่งเหมือนเตียวหุย เพียงแต่ในวรรณกรรมนั้นม้าเฉียวไม่ใช้คนจีนแต่เป็นลูกครึ่งชาวเปอร์เซียทำให้ได้ความเข็งแกร่งและทนสภาพอากาศ และเก่งกาจตั้งแต่วัยเด็กขณะอายุ 17 ปีเท่านั้น ออกศึกตั้งแต่ในยังหนุ่มในตอนปราบลิฉุยและกุยกีจนแตกกระเจิง และบทบาทการก่อกบฏสู้กับทัพโจโฉจนทัพโจโฉแตกพ่ายหลายครั้ง หากตอนหลังโจโฉใช้อุบายง่ายๆ ให้ทัพม้าเฉียวขัดแย้งกันเอง จนกระทั้งหนีมาพึ่งใบบุญของเล่าปี่ และได้เป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของจ๊กก๊กในที่สุด หากแต่ประวัติของม้าเฉียวหลังจากนั้นก็หายไปดื้อๆ โดยในวรรณกรรมไม่กล่าวถึงอีกเลย

     

    อย่างที่รู้ว่าในวรรณกรรมนั้นม้าเฉียวได้ก่อกบฏเพราะโจโฉประหารพ่อของตน  หากแต่ในการ์ตูนเรื่อง Koihime  Musou ต้องการให้ทุกคนในเรื่องเป็นคนดี จึงได้นำเสนอว่าตอนแรกตั้งใจม้าเฉียว(ซุย)มาลอบฆ่าโจโฉเพราะเชื่อว่าโจโฉฆ่าพ่อของตน หากตอนหลังมารู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่โจโฉตั้งใจปกปิดเพื่อรักษาชื่อเสียงของพ่อของม้าเฉียว(ซุย)เอาไว้ ทำให้ม้าเฉียวเลิกแค้นโจโฉ(คาริน)ไป ซึ่งมันขัดแย้งในวรรณกรรมพอสมควร เหตุที่นำเสนอแบบนี้เพราะปัจจุบันมีมีการโต้เถียงหลายอย่างซึ่ง ในประวัติศาสตร์จะพบว่าม้าเฉียวนั้นก่อกบฏก่อนที่พ่อของม้าเฉียวจะโดนประหารเสียอีก ซึ่งความจริงเป็นยังไงนั้นไม่ทราบได้ และในเรื่อง Koihime  Musou ได้ใส่เรื่องราวที่อิงกับวรรณกรรมด้วยในภาคแรกตอนที่ 3 ที่ม้าเฉียว(ซุย)ปะทะเตียวหุย(รินริน) ตามวรรณกรรมแล้วม้าเฉียวเคยปะลองกับเตียวหุย 100 กว่าเพลงแล้วไม่มีผู้ชนะ จนทั้งสองต่างยอมรับฝีมือซึ่งกันและกันในที่สุด

     

    ขงเบ้ง(Zhuge Liang) โชวคัทสึเรียว - โควเมย์ / ชูวริ เด็กตัวน้อยตัวเล็ก เด็กกำพร้าที่สูญเสียครอบครัวจากสงคราม เลยต้องอาศัยอยู่กับอาจารย์ด้วยกันสองคน(อาจารย์ชื่อสุมาเต็กโซ เป็นอาจารย์ของขงเบ้ง และเป็นคนแนะนำขงเบ้งและบังทองให้แก่เล่าปี่) มีนิสัยขี้อาย แต่ฉลาดเฉลียว รอบรู้เรื่องกลยุทธ์และเรื่องต่างๆ มากมาย หลังได้พบพวกกวนอู(ไอฉะ) ก็เกิดความสนใจเรื่องโลกภายนอก จึงเดินทางติดตามกวนอู(ไอฉะ)ไปด้วยกัน จุดเด่นของเธอชอบถือพัดขนไก่เวลาบัญชาทัพซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของขงเบ้ง ส่วนสาเหตุที่ขงเบ้งกลายเป็นสาวน้อยโลลิคอนแบบนี้ก็เนื่องมาจากในวรรณกรรมขงเบ้งลงจากเขาเพื่อมารับใช้เล่าปี่นั้นมีอายุประมาณ 20 เศษๆ เท่านั้น ดังนั้นการ์ตูนเลยลดอายุขงเบ้งเพื่อจะได้พวกกวนอู(ไอฉะ) อย่างที่เห็น ตอนนี้กำลังสนใจหนังสือต้องห้ามจำพวก "ลีลารัก" และดูเหมือนเธอจะตั้งใจศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังซะด้วยสิ??

    ขงเบ้ง แน่นอนทุกคนที่อ่านสามก๊กต้องรู้จัก ในฐานะนักวางแผนและผู้ปกครองในฝันที่หลายคนอยากจะได้ เรื่องราวของขงเบ้งมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดชนิดหยั่งรู้ฟ้าดินเชี่ยวชาญศาสตร์ทุกแขนง ที่ทำให้เล่าปี่ซึ่งเป็นคนธรรมดาสถาปนาตนเองจนเป็นฮ่องเต้ นอกจากนี้ขงเบ้งยังมีอำนาจอิทธิฤทธิ์มากมาย เรียกลม เรียกฝน ขอพรทำพิธีต่อดวงซะตาได้(ภาพขงเบ้งเรียกลมเผาทัพโจโฉยังถูกทำเป้นสแตมป์จีนเลยคิดดู) และแม้ตายไปแล้ว ขงเบ้งยังแสดงปาฏิหาริย์หลอกจงโฮยแม่ทัพใหญ่ของวุยก๊กให้ไว้ชีวิตอาณาประชาราษฎรเสฉวนที่ไม่มีความผิด ดั่งที่ปรากฏในพงศาวดารสามก๊ก

    แต่กระนั้นขงเบ้งก็เป็นอีกตัวละครในสามก๊ก ที่หลายๆ คนวิเคราะห์และถกเถียงมากมาย ในเรื่องที่ว่า ขงเบ้งเก่งจริง หรือเป็นเพียง จอมสร้างภาพที่ผู้แต่งเขียนเกินจริงว่าอัจฉริยะ หลายคนมองว่าขงเบ้งเป็นจอมเผด็จการที่วางแผนทำให้ชาวจีน(และชาวม่าน)ต้องจบชีวิตอย่างนองเลือดที่สุดในยุคสามก๊ก หลายศึกที่หลายคนคาดว่าขงเบ้งมีส่วนนั้นหากวิเคราะห์ตามจริงแล้วพบว่าขงเบ้งไม่มีส่วนแต่อย่างใด และสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าขงเบ้งนั้นก็เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีผิดมีพลาดได้คือในสงครามระหว่างเผ่าม่าน(ที่ขงเบ้งเคยโดนชาวบ้านธรรมดาหลอกมาแล้วในศึกลุดตัดกุด)และสงครามบุกวุยก๊ก

     

    แต่กระนั้นขงเบ้งนั้นมีอิทธิพลจีนอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลในแง่วรรณกรรมที่มีคำคมคำสอนของขงเบ้งที่หลายคนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การบริหารจัดการทัพของขงเบ้งที่เป็นระบบจนสามารถนำมาดัดแปลงในหน้าที่การงานของบริษัทในยุคปัจจุบันได้ นอกจากนี้ยังคนต้นคิดอุปกรณ์สงครามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าไม้ที่ปล่อยธนูที่เดียวได้หลายดอก, วัวเสบียงสำหรับขนส่งอาหาร, หรือจะเป็นรถถัง(โดนศึกปราบเบ้งเฮ็ก) นอกจากนั้นยังเป็นผู้กำเนิดอาหาร อย่าง ม่านโถว(หมั่นโถว ตอนศึกปราบเบ้งเฮ็ก) และผักกาดดองที่ใช้ความรู้สมัยเป็นชาวนาทำการถนอมอาหารเพื่อใช้เป็นเสบียงในยามสงคราม

    ปัจจุบันสุสานของขงเบ้งยังอยู่ และมีหลายแห่ง แสดงให้เห็นว่าชาวจีนนับถือขงเบ้งดั่งเทพคนหนึ่ง และนอกจากนี้ยังตำราพิชัยสงครามของขงเบ้งก็ยังมีให้เห็น(มีค่ายแปดทิศด้วย แต่เท่าที่ผมรู้ค่ายกลนี้มันเป็นของซุนปิงหลานซุนวูนี้หว่า??)

    ดังนั้นภาพขงเบ้ง(ชูวริ) คือภาพขงเบ้งที่ตัดอิทธิปาฏิหาริย์ออกขงเบ้งในเรื่อง Koihime  Musou จึงกลายเป็นสาวน้อยที่เฉลียวฉลาด แต่ขี้อาย และยังอ่อนต่อโลก จนใครๆ เกลียดไม่ลงอย่างที่เห็น

          

    ฮองตง (Huang Zhong) โควชูว - คังโชว / ชิออน นักรบคุณแม่(ม่าย)ยังสาว มีลูกสาวชื่อรีรี เก่งเรื่องการยิงธนูมากๆ  และเป็นหนึ่งคนที่เข้าร่วมทัพกวนอู(ไอฉะ) ตอนนี้กำลังแค้นเล่าปี่ตัวปลอมที่หลอกใช้เธออยู่

    เนื่องจากบุคลิกลักษณะของฮ่องตงคือเก่งธนูและชราภาพ ทำให้คนออกแบบคิดหนักว่าจะออกแบบฮองตงในเรื่อง Koihime  Musou จะเป็นคุณยายแบบโอบาคอนคงไม่โมเอะแน่นอน ดังนั้นเลยต้องตัวละครแบบคุณแม่ยังสาวหน้าอกตูมๆ อายุไม่เกิน 30 แบบที่เห็นแหละ

    ในเรื่อง Koihime  Musou เราจะเห็นฮองเต(ชิออน) สู้กับกวนอู(ไอฉะ) รู้ชนะแค่เพลงเดียว โดยฮองตง(ชิออน)เป็นฝ่ายแพ้ เพราะไม่ได้ใช้ธนูเป็นอาวุธสู้ ในวรรณกรรมได้กล่าวถึงกวนอูสู้กับฮองตงในตอนกวนอูบุกเมืองเจ้าเมืองเตียงสานายเก่าของฮองตง ครั้งแรกฮองตงออกไปรบกับกวนอูตัวต่อตัว เมื่อออกรบฮองตงก็พลาดท่าในสนามรบอย่างรวดเร็ว และกวนอูไว้ชีวิต ในการต่อสู้ครั้งต่อมา จึงจงใจยิงเกาทัณฑ์พลาด เป็นการทดแทนบุญคุณกลับคืน

    ชีวิตวัยหนุ่มของฮองเตยังดูลึกลับไร้ที่มา ส่วนลูกของฮองเตนั้นไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ มีหลายที่บอกว่าฮองเตมีลูกชายอยู่หนึ่งคน หากแต่ลูกชายคนนั้นตายก่อนวัยอันควร ทำให้ฮองเตไม่มีทายาทสืบสกุล

     

    บังทอง(Pang Tong) โฮวโตว - ชิเง็น / ฮินาริ สาวน้อยเด็กกำพร้า ที่ถูกเลี้ยงโดยอาจารย์ของขงเบ้ง(ชูวริ) มีสติปัญญาหาปราดเปรื่องไม่แพ้กัน แต่มีนิสัยขี้อายมาก ๆ ชอบเอาหมวกปิดหน้าบ่อยๆ

    บังทองในเรื่อง Koihime  Musou ถูกออกแบบในร่างสาวน้อยในชุดเหมือนแม่มด และสาเหตุที่เอาหมวกมาปิดหน้าบ่อยๆ เนื่องมาจากในวรรณกรรมบังทองมีหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ทำให้ในเกมส์ต่างๆ มักจะเห็นบังทองเอาผ้าปิดหน้าตนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นหน้าที่แท้จริง บังทองเป็นกุนซื่ออาภัพประจำก๊กเล่าปี่ ที่ไม่ทันได้สร้างผลงานใหญ่ก็ด่วนมาตายก่อน จากสงครามยึดเมืองเสฉวนในขณะบังทองมีอายุเพียง 35 ย่าง 36 ปี เท่านั้น

          

    เล่าปี่ (Liu Bei) ริวบิ - เกนโตคุ / โทวกะ เล่าปี่ตัวจริง พึ่งปรากฏตัวมาภาค 2   ถูกเล่าปี่ตัวปลอมหลอกเอาดาบประจำตระกูลและขโมยชื่อไป เธอออกตามหาดาบจนมาพบพวกกวนอู(ไอฉะ) จึงช่วยออกเดินทางตามหาด้วยกันและตอนท้ายเรื่องก็สาบานเป็นสามพี่น้องร่วมสาบานกัน ในฐานะนำเล่าปี่(โทวกะ)ถือว่าเป็นผู้นำอ่อนแอมากๆ แต่เรื่องจิตใจแล้วระดับแม่พระก็ไม่ปาน เธอคิดคำนึงถึงรู้สึกของคนอื่นเสมอ มีความมุ่งมั่นมากกว่าใคร ปรารถนาที่อยากให้คนอื่นมีความสุข  และรักเด็ก(นางงามเรอะ)

    เล่าปี่ หลายคนรู้จักตัวละครนี้ในฐานะคนอ่อนแอ ขนาดตลกจีน ยังมีมุกแซวเล่าปี่ในเรื่องนี้ เล่าปี่อดีตเป็นคนสานเสื่อขาย ที่อ้างว่าเป็นพระเจ้าอาของฮ่องเต้ ชีวิตของเล่าปี่เปลี่ยนไปเมื่อเจอกวนอูและเตียวหุยสาบานและร่วมมือสมัครพรรคพวกปราบโจรโพกผ้าเหลืองและเร่งสร้างตัวขึ้นมา แม้เล่าปี่จะอ่อนแอแต่ทดแทนเรื่องจิตใจ โดยยึดหลักโอบอ้อนอารีซื้อใจประชาชนและเป็นที่รักของลูกน้องได้มากมาย แม้บางครั้งจะดูเหมือนเสแสร้งลวงโลกเหมือนนาธาน โอมานก็ตาม

                    ชีวิตเล่าปี่ลำบากทั้งชีวิตแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าไปพึ่งใบบุญของใคร คนนั้นก็ตายทั้งสิ้น จนเล่าปี่ได้ฉายาอีกชื่อคือ “นักฆ่าลูกพี่” (แต่พึ่งใบบุญโจโฉ ทำไมโจโฉไม่ตายหว่า) จนกระทั้งเล่าปี่ได้ตัวขงเบ้งก็เหมือนเสือติดปีกก้าวหน้าจนได้ครอบครองดินแดนของเสฉวนอันกว้างใหญ่และตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ได้สำเร็จ หากแต่ปั่นปลายสุดท้ายเล่าปี่คิดจะแก้แค้นกวนอูและเตียวหุยจึงคิดบุกก๊กของซุนกวน จนถูกลกซุนใช้ไฟเผากองทัพเล่าปี่จนหนีกลับไปตรองใจตายในที่สุด

                   

    ในเรื่อง Koihime  Musou เราจะเห็นสายสัมพันธ์ระหว่างเล่าปี่(โทวกะ)และกวนอู(ไอฉะ)แบบชนิดเรียกว่าถอดจากวรรณกรรมเลยทีเดียว แม้เล่าปี่(โทวกะ)จะเป็นคนที่ไม่เอาไหน แต่ดูเหมือนกวนอู(ไอฉะ)จะให้ความเคารพเล่าปี่(โทวกะ)มากๆ รักและห่วงใยกัน จนเตียวหุย(รินริน)แอบอิจฉา(เหอๆ) ซึ่งตามวรรณกรรมแล้วเล่าปี่นั้นรักน้องๆร่วมสาบานมาก ถึงขนาดนอนบนเตียงนอนเดียวกันใกล้ชิดมากกว่าเมียเสียอีก มิน่าละไม่ว่าโจโฉจะเอาใจกวนอูขนาดไหน กวนอูก็เอาแต่คิดถึงเล่าปี่

    ตอนฉากจบภาคสอง เราจะเห็นสามพี่น้องสาบานที่สวนดอกท้อที่บ้านแม่เล่าปี่ ซึ่งเราจะเห็นแม่เล่าปี่ในเรื่อง Koihime  Musou ดุมากๆ ซึ่งเป็นการถอดมาจากวรรณกรรมสามก๊กฉบับญี่ปุ่น ที่แม่เล่าปี่มักดุเล่าปี่อยู่บ่อยๆ เพราะอย่างให้เล่าปี่มีจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อสมกับเป็นเชื้อชาติตระกูลฮั่น ขนาดเล่าปี่จะไปรบแม่ยังไม่ออกไปส่งเลย ส่วนการสาบานที่สวนดอกท้อที่บ้านเล่าปี่นั้นถอดมาจากวรรณกรรมสามก๊กฉบับญี่ปุ่น ซึ่งหากเราอ่านสามก๊กฉบับภาษาไทยละก็จะพบว่าพวกเล่าปี่นั้นสาบานที่สวนดอกท้อที่บ้านเตียวหุย ส่วนประวัติศาสตร์จริงๆ แล้วคำสาบานสวนดอกท้อนั้นไม่มีจริง หากมีการแต่งเติมเพิ่มภายหลัง

      

    ม้าต้าย(Ma Dai) บะไต / ทัมโปโปะ น้องสาวของม้าเฉียว(ซุย)อยู่ในช่วงพัฒนา ชอบแกล้งพี่สาวเล่น มีนิสัยเหมือนเด็ก(ก็เด็กนี้น่า)

    ม้าต้ายในวรรณกรรมเป็นลูกพี่ลูกน้องม้าเฉียว เป็นอีกหนึ่งขุนพลที่ขงเบ้งมักใช้งานต่างๆ ในช่วงหลัง มีชื่อเสียงจากศึกเบ้งเฮ็กและเป็นคนฆ่าอุยเอี๋ยน หากแต่ประวัติศาสตร์หลายๆ ที่จะพบว่าอุยเอี๋ยนโดนเอียวหวีขุนนางฝ่ายเดียวกันใส่ร้ายและถูกรุมฆ่า


             โจโฉ (
    Cao Cao) โซโซ - โมวโตคุ / คาริน ผู้นำของวุยก๊ก ที่ตอนแรกเป็นตัวแทนราชสำนักดูแลความไม่สงบในพื้นที่ รูปร่างเด่นชัดคือตัวเตี้ย ทรงผมเกรียว แต่นิสัยเยือกเย็น และเลสเบียน อยากได้กวนอู(ไอฉะ)เป็นแม่ทัพคู่ใจ(และคู่นอน??)  ด้วยความที่มีความสามารถสูงหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การศึก วรยุทธ์ ทำอาหาร และการปกครอง ทำให้เป็นที่เกลียดชังของใครบางคน จนมีการแอบส่งนักฆ่ามาลอบฆ่าเธออยู่บ่อยๆ จุดเด่นคือเครื่องประดับรูปกระโหลกที่หัวสื่อให้เห็นว่ายัยหนูนี้น่ากลัว และโหดเหี้ยม(ความจริงจิตใจดีนะ)

    โจโฉ เจ้าของวลี ยอมทรยศโลกแต่ไม่ยอมให้โลกทรยศเขาโจโฉในวรรณกรรมนั้นเป็นยอมคนเหนือคน มีความสามารถทั้งการปกครองและการรบสงคราม ออกศึกตั้งแต่ยังหนุ่ม มีความเป็นผู้นำ แม้ชั่วชีวิตโจโฉต้องเป็นศัตรูกับคนทั่วแผ่นดิน แต่ด้วยความสามารถและเหล่าขุนนางทำให้เขาสามารถยึดภาคเหนือและภาคกลางของจีนได้ทั้งหมด โจโฉมีด้านดีและไม่ดีตามธรรมดาของมนุษย์ แต่ก็ปกครองทั่วหล้าได้เด็ดขาดจนกลายเป็นมหาอุปราช ก่อนตายก็วางรากฐานไว้ให้พวกลูกๆ หลานๆ ส่งผลให้โจผีผู้ลูกสามารถยึดบังลังค์จนเป็นฮ่องเต้และสถาปนาราชวงค์วุยจนสำเร็จ

    เรื่องราวของโจโฉนี้มีหลากหลาย และมีข้อถกเถียงมากมาย ในวรรณกรรมส่วนมากมักบรรยายโจโฉว่าเป็นโจรของแผ่นดินที่โหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ และทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด จนกลายเป็นฝ่ายร้ายไป แต่หากมองตามประวัติศาสตร์หรือวรรณกรรมบางเรื่องแล้ว โจโฉเป็นผู้ปกป้องราชวงค์ฮั่นตลอดช่วงชีวิตของเขา  เป็นผู้ปกครองที่มีความสามารถ และนักการทหารที่ชาญฉลาดและเป็นบทกวีด้วย ชอบใช้คนที่มีความสามารถ รู้จักใช้คน(อาจมีบ้างใช้คนผิดพลาด) บริหารจัดการเก่ง และความเป็นผู้นำสูง พอแก่ตัวมาโจโฉก็เผยจุดอ่อนให้เห็นคือเป็นคนขี้หวาดระแวง จนโดนกลอุบายขงเบ้งจนพลาดท่าหลายครั้ง

    ในอมิเนชั่น Koihime  Musou โจโฉ(คาริน)นั้นถือได้ว่าเป็นลักษณะและนิสัยของโจโฉทุกประการ เพราะสามก๊กดัดแปลงการ์ตูนส่วนใหญ่ มักทำให้โฉโฉเป็นชายที่ดูใหญ่โต มีพลังอำนาจมาก หากแต่ความจริงแล้วโจโฉมีรูปร่างเล็ก ส่วนในการ์ตูนสื่อให้เห็นว่าโจโฉ(คาริน)เป็นเลสเบี้ยน แต่โจโฉวรรณกรรมนี้ไม่ปรากฏว่าเป็นชายรักชาย คงจะเป็นการแซวโจโฉในเรื่องโจโฉและกวนอู ที่โจโฉเอาใจกวนอูทุกอย่างเพื่อให้มาอยู่กับตน ทั้งมอบม้าเซ็กเธาว์ มอบของใช้ แก้วแหวนเงินทองต่างๆ นาๆ แต่สุดท้ายกวนอูก็ยังหนีไปจากตนอยู่ดี.....ทำไมทำกับชั้นได้...(โจโฉเป็นคนเจ้าชู้ชอบผู้หญิงหลายคนจนเสียท่าเพราะผู้หญิงจนเป็นเหตุให้องค์รักษ์เตียนอุยตายมาแล้ว)

    ตอนที่ผมฮ่าที่สุดเกี่ยวกับโจโฉ(คาริน) ภาค 2 ตอนที่ 5 เป็นตอนที่โจโฉพบหมอเทวดาฮัวโต๋(Hua Tuo)คาดะ เคงกะ ที่ในวรรณกรรมแล้วโจโฉป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวอยู่บ่อย(ก็ยังไม่แน่ชัดว่าโรคอะไร) เมื่อหมอฮัวโต๋บอกว่าให้ผ่าศีรษะโจโฉคิว่าเป็นนักฆ่ามาลอบฆ่าตน เลยสั่งให้ทหารนำฮัวโต๋ไปขังคุก และฮั่วโต๋ก็ตายคาคุกในที่สุด หากแต่การ์ตูนอมิเนชั่นได้เปลี่ยนเหตุการณ์เศร้าๆ นี้มาเป็นว่าโจโฉท้องผูก...หมอฮัวโต๋(คาดะ)เลยบอกวิธีรักษาว่าให้เอาเข็มสกัดจุดที่ XXX และ XXX จากนั้นก็ XXX จนโจโฉ(คาริน)อายจัด เลยสั่งทหารไล่กระทืบฮั่วโต๋(คาดะ)ไป

     

    ส่วนตัวละครอีกตัวที่ฮ่าไม่แพ้กันคือ วายตัวแม่ ซุนฮก(Xun Yu) จุนอิคุ - บุนจาคุ / เคย์ฟา กุนซือ ผู้ติดตามของโจโฉ(คาริน) ที่เกลียดผู้ชาย แต่ชอบใกล้ชิด โจโฉ(คาริน) เอามากๆ แถมชอบมาโซอีก ซึ่งตามวรรณกรรมแล้ว  ปั่นปลายสุดท้ายของซุนฮกจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะว่าเขาคัดค้านโจโฉไม่ให้ตั้งตนเป็นวุยก๋งเพราะเขามีความภักดีต่อราชวงค์ฮั่น และไม่เห็นด้วยที่โจโฉบุกใต้  ครั้งเมื่อโจโฉตั้งตนเป็นวุยก๋ง ซุนฮกแกล้งป่วยไม่มาประชุม โจโฉจึงได้ส่งกล่องเปล่าไปให้ซุนฮก ซุนฮกเข้าใจความหมาย จึงดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย

    ปัจจุบันเรื่องราวของโจโฉก็เริ่มโด่งดังและเรียกความสนใจจากแฟนๆ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2009 ทางการจีนในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ทางการจีนประกาศว่าได้ขุดค้นพบสุสานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของ โจโฉ ที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ตอนกลางของประเทศจีน โดยสุสานมีอาณาบริเวณ 740 ตารางเมตร มีโครงกระดูกของชายที่น่าจะเสียชีวิตในอายุราว 60 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโจโฉ และโครงกระดูกของผู้หญิงอีก 2 ซึ่งน่าจะเป็นมเหสี และป้ายศิลาจารึกพระนามของโจโฉ ส่วนสาเหตุทำไมถึงพึ่งมีการค้นพบ ก็เนื่องมาจากสมัยก่อนนั้นผู้ที่มียศสูงๆ มักฝังศพแบบที่ลับไม่ให้ใครรู้ เนื่องมาจากปล้นกันโจรบุกปล้นสุสาน(เพราะว่ามักเอาเครื่องใช้ของมีค่าฝังกับศพด้วย) นอกจากนี้ ผู้โด่งดังผู้นั้นอาจเป็นคนเกลียดชังอยากแก้แค้นอาจกระทำย่ำยีต่อศพด้วย บุคคลดังๆ ที่ถูกฝังในที่ลับก็มี จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นต้น

     

    แฮหัวตุ้น (Xiahou Dun) คะโควตง - เกนโจว / ชุนรัน ขุนพลตาเดียวมีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เป็นแม่ทัพคู่ใจของ โจโฉ(คาริน) ไปไหนมาไหนมาด้วยกัน ดูเหมือนจะดุ แต่ความจริงก็แอบฮ่าไม่ใช้น้อย

    จุดเด่นของแฮหัวตุ้นคือตาเดียว สาเหตุคือในวรรณกรรมแฮหัวตุ้นโดนโจเสงนายทหารของลิโป้ยิงโดนตาซ้าย แฮหัวตุ้นจึงชักลูกเกาทัณฑ์ออก ลูกตานั้นได้ติดปลายเกาทัณฑ์มาด้วย แล้วก็กลืนลูกตาลงท้องไปแล้วควบม้าเอาทวนแทงโจเสงตกม้าตาย ซึ่งในอมิเนชั่น Koihime  Musou ยังไม่กล่าวถึง ส่วนในหนังสือแฮหัวตุ้น(ชุนรัน)โดนทหารยิงขณะบุกยึดวังหลวงของตั๋งโต๊ะ(ยูเอะ)

     

    แฮหัวเอี๋ยน(Xiahou Yuan ) คะโควเอน - เมียวไซ / ชูวรัน แม่ทัพคู่ใจของโจโฉ(คาริน) เป็นพี่สาวของแฮหัวตุ้น(ชุนรัน) แต่นิสัยสุขุมเยือกเย็นกว่า

    ในวรรณกรรม แฮหัวเอี๋ยนมักร่วมรบกับแฮหัวตุ้นในสงครามเสมอ และสร้างผลงานได้มากมาย หากปั่นปลายสุดท้ายแฮหัวเอี๋ยนได้รบกับฮองตงแม่ทัพของเล่าปี่ และถูกสังหารในพริบตา

     

    เคาทู(Xu Zhu) เคียวโช - เคียวโค / คิอิ สาวน้อยตัวเล็ก กินเก่ง เชี่ยวชาญเรื่องอาหาร และแรงเยอะมากๆ และจะโกรธมากหากใครด่าว่า เจ้าจิ๋ว”, ตัวเล็กมีอาวุธคือลูกตุ้มขนาดยักษ์

    เคาทูในเรื่อง  เรื่อง Koihime  Musou แตกต่างในจากเคาทูในวรรณกรรมอย่างเห็นได้ชัด เคาทูเป็นขุนพลของโจโฉที่มีรูปร่างใหญ่โต ชำนาญการใช้ทวนมากกว่าลุกตุ้ม และเป็นองค์รักษ์ของโจโฉ ในอมิเนชั่นเคาทู(คิอิ) ยังไม่ได้เข้าร่วมโจโฉ(คาริน) แต่เราก็ได้เห็นฉากสู้กับม้าเฉียว(ซุย) ในฉากแข่งกินจุ ซึ่งในวรรณกรรมแล้วเคาทูเคยสู้กับม้าเฉียวบนหลังม้ารบไปหลายเพลงก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะ

     

    เตียนอุย(Dian Wei) เทนอิ / ลูลู  เพื่อนสนิทของ เคาทู(คิอิ) ที่กินเก่งและทำอาหารเก่งมากพอๆกัน และมีพลังกายมากผิดกับร่างกาย

    เตียนอุยในเรื่อง  เรื่อง Koihime  Musou แตกต่างจากเตียนอุยในวรรณกรรม เป็นคนรูปร่างใหญ่ ใช้ทวนคู่เป็นอาวุธ มีพลังแข็งแกร่ง เข้ามารับราชการกับโจโฉโดยการแนะนำของแฮหัวตุ้น และเตียนอุยเป็นแนะนำเคาทูแก่โจโฉ ทำให้เคาทูและเตียนอุยเป็นเพื่อนกัน และเป็นองค์รักษ์ของโจโฉทั้งสองคนอีก ทำให้สองคนนี้เหมือนกันโดยประหลาด

                   

    งักจิ้น(Yue Jin) กาคุชิน - บุนเงน / นางิ ขุนพลนักรบของ คาริน ที่มีฝีมือต่อสู้ด้วยหมัดเท้ามาก และมีความซื่อสัตย์ภักดีอย่างยิ่งจุดเด่นคือรูปแผลเป็นตามร่างกาย ทำให้ดูโหดๆ แต่ความจริงเธอก็แอบน่ารักนะ

    ตรงกับวรรณกรรมอีกแหละ ตรงที่งักจิ้นเป็นคนที่รูปร่างเตี้ยและตัวเล็ก แต่จิตใจห้าวหาญ เก่งกาจในเชิงยุทธ์หมัดแตะ เป็นขุนพลคนสำคัญของโจโฉตลอดช่วงชีวิต และเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของวุยก๊กด้วย

     

    ลิเตียน(Li Dian) ริเทน - มันเซย์ / มาโอว สาวนักประดิษฐ์หน้าอกโต ร่าเริง และชอบประดิษฐ์อะไรแปลกๆ เสมอ

    ในวรรณกรรมลิเตียนเป็นขุนพลกลุ่มแรกที่เป็นข้ารับใช้โจโฉ เป็นคนสุภาพอ่อนโยน และมีความรู้ด้านการทหารและการปกครอง แต่อายุสิ้นเพราะตายเมื่ออายุเพียง 36 ปี เท่านั้น ส่วนเรื่องนักประดิษฐ์หรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ แต่ในเกมส์ขุนพลคนนี้จะถนัดมากหากใช้เขานำทัพเครื่องจักรสงคราม(ประเภทเครื่องตีประตูเมือง, เครื่องยิงหิน)

    ในเรื่อง Koihime  Musou ลิเตียน(มาโอว)จะอยู่กับงักจิ้น(นางิ)ตั้งแต่ตน เพื่อรักษาเมืองปกป้องชาวบ้านจากโจร(ในอมิเนชั่นภาค 2 ตอนที่ 9) ซึ่งตามวรรณกรรมแล้วโจโฉมักใช้ ลิเตียน งักจิ้น และอิกิ๋มทั้งสามคนร่วมกันปกป้องเมืองอยู่บ่อยๆ ตอนโจโฉออกไปทำศึกต่างเมือง

     

    อิกิ๋ม (Yu Jin) อุคิน - บุนโซคุ / ซาวะ แม่ทัพแว่น ฝีมือวรยุทธ์ยังต้องฝึกฝนอีกมาก ชอบเป็นเพื่อนเล่นเหย่กับ

    อิกิ๋มเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของก๊กของโจโฉ เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจติดตามโจโฉทำศึกตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม หากแต่มีข้อเสียคือเป็นคนขี้อิจฉาริษยาไม่อยากให้คนอื่นเกินหน้าเกินตา และเป็นโรคกลัวน้ำ เพราะโดนกวนอูทดน้ำทำลายทัพของอิกิ๋มจนสิ้น ปั่นปลายชีวิต อิกิ๋มไม่เป็นที่โปรดปลานของพระเจ้าโจผี โจผีเลยเขียนรูปอิกิ๋มอ้อนวอนขอชีวิตจากกวนอูและให้ติดที่กำแพงหลุมศพของโจโฉพร้อมกับให้อิกิ๋มไปเฝ้าหลุมศพ อิกิ๋มละอายใจ จึงตรอมใจตายในที่สุด ทำให้ในเรื่อง Koihime  Musou อิกิ๋ม(ซาวะ)ต้องผจญการทดน้ำของฝ่ายเล่าปี่อีกครั้ง

     

    กุยแก (Guo Jia) คะคุกะ - โฮวโคว / ริน กุนซือสาวแว่นที่เดินทางมาพร้อมกับเทียนหยก(ฟู) เพื่อมาเป็นกุนซือโจโฉ(คาริน) ชอบอ่านนิยายวาย และชอบโจโฉ(คาริน)มากๆ(มากจนอยากวาย) เวลาคิดลึกเลือดกำเดาจะพุ่งแล้วนอนจมกองเลือดของตัวเองอยู่บ่อยๆ

    กุยแกในวรรณกรรมเป็นคนหนุ่มแน่น เพราะตอนมารับใช้โจโฉกุยแกมีอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น และเป็นนักวางแผนที่ได้ฝากข้อคิดดีๆ ถึงคนรุ่นหลังเรื่อง ข้อดี 10 ประการของโจโฉ และสรุปข้อด้อย 10 ประการของอ้วนเสี้ยวเปรียบเทียบให้โจโฉฟัง ซึ่งเป็นแรงดลใจให้โจโฉทำสงครามแตกหักกับอ้วนเสี้ยว แม้จะมีกำลังคนน้อยกว่าอ้วนเสี้ยวถึง 10:1 แต่โจโฉเอาชนะอ้วนเสี้ยวได้ กุยแกเป็นกุนซือที่ฉลาดมากหากแต่ตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ทำให้โจโฉเสียดายมากจนพรรณนาถึงเขาหลายครั้งและอีกครั้งหลังพ่ายแพ้ยับในศึกผาแดง(ทำให้มีการ์ตูนบางเรื่องมีกุยแกมักจับคู่วายกับโจโฉ)

     

    เทียหยก(Cheng Yu) เทย์อิคุ -ชูว์โตคุ / ฟู สาวน้อยที่เดินทางร่วมกับกุยแก(ริน) เพื่อมาเป็นกุนซือโจโฉ(คาริน) ขี้เซาสุดๆ ชอบอมยิ้ม และชอบเล่นตุ๊กตาบนหัว

    เทียนหยกใน Koihime  Musou ต่างจากเทียนหยกในวรรณกรรมพอสมควร เพราะเทียหยกเป็นคนหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่ มีเครางามมาก(ฟูได้ผมยาวมาแทน) แต่นิสัยตรงหมดคือเป็นคนมีปัญญาดี แต่ตัวเขาไม่ค่อยไม่ค่อยลึกซึ้งมากนัก และชอบพูดขัดคอคนอื่นอยู่บ่อยๆ(ฟูเลยมีนิสัยแบบนี้นั้นแหละ) แต่โจโฉยกย่องเทียนหยกอย่างมาก ในฐานะกุนซื่อที่แนะนำอุบายดีๆ ให้ เทียนหยกเป็นตัวละครสามก๊กอีกตัวที่ตายสงบครบอายุไข แถมได้ยศสูงมากในปั่นปลายชีวิตเป็นรองแค่พระเจ้าโจผีเท่านั้น(ขนาดเกษียนแล้วยังถูกขอร้องให้ไปช่วยงานเลย)

     

    เตียวเลี้ยว(Zhang Liao) เชียวเรียว - บุงเอน / ชิอะ นักรบพเนจรรับจ้างอิสระ ที่มีฝีมือเก่งกาจมากๆ แต่ก็มีคุณธรรมสูงนะ

              ในวรรณกรรมครั้งที่แม้เตียวเลี้ยวจะอยู่คนละฝ่ายกับเล่าปี่ แต่ก็เคยเป็นเพื่อนกับกวนอูมาก่อน(แต่ในอมิเนชั่น Koihime  Musou เตียวเลี้ยวไม่ได้เจอกวนอู) อดีตเคยเป็นทหารเอกของลิโป้และเมื่อลิโป้ถูกจับได้ก็มารับใช้โจโฉสร้างผลงานมากมายในศึกตีก๊กของซุนกวน จนได้ตำแหน่งเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของวุยก๊ก ( เตียวเลี้ยว ,เตียวคับ ,งักจิ้น,ซิหลง และอิกิ๋ม )

    ในวรรณกรรมครั้งที่แม้เตียวเลี้ยวจะอยู่คนละฝ่ายกับเล่าปี่ แต่ก็เคยเป็นเพื่อนกับกวนอูมาก่อน(แต่ในอมิเนชั่น Koihime  Musou เตียวเลี้ยวไม่ได้เจอกวนอู) อดีตเคยเป็นทหารเอกของลิโป้และเมื่อลิโป้ถูกจับได้ก็มารับใช้โจโฉสร้างผลงานมากมายในศึกตีก๊กของซุนกวน จนได้ตำแหน่งเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของวุยก๊ก ( เตียวเลี้ยว ,เตียวคับ ,งักจิ้น,ซิหลง และอิกิ๋ม)

             

    ซุนกวน (Sun Clan) ซนเค็น - ชูวโบว / เร็นฟา บุตรคนรองของ ตระกูลซุน(ตระกูลนี้ผิวแทนและชอบแต่งตัวโชว์สะดือทุกคน) ที่ (ซุนเซ็ก) ซนซาคุ - ฮาคุฟุ / เชย์เรนเจ้าแกคองดินแดนกังตั๋งหวังจะให้มาแทนที่ตนเอง และตัวซุนกวน(เร็นฟา) ก็เป็นคนรักและห่วงพี่สาวมากๆ แต่ไม่ชอบให้ใครมาเปรียบเทียบตนกับพี่สาวเท่าไหร่ เป็นคนไม่ชอบสงครามรักสงบ(สะท้อนถึงซุนกวนตามวรรณกรรม)  และใจร้อนพอสมควร ซุนกวน(เร็นฟา)มีน้องสาวคนเล็กอีกคนคือ ซุนฮูหยิน(Sun Shangxiang)ซนโชโคว - ฮาจะโอ / เชาเรน น้องสาวจอมก่อกวนที่ชอบแอบหนีไปเที่ยวนอกเมืองอยู่บ่อยๆ

    ในอมิเนชั่นออกมาแค่ตอนเดียว(แถมใน OVA ก็ออกมาไม่กี่ฉาก แฟนก๊กซุนกวนคงเสียใจแย่) แต่สิ่งที่สื่อออกก็ยังคงเป็นแบบซุนกวนในวรรณกรรมเอาไว้ คือสีประจำตัวก๊กซุนกวนคือสีแดงเนื่องมาจากหนวดเคราของซุนกวนสีแดง(ผมของเร็นฟาสีชมพู)  อีกทั้งพ่อและพี่ของเขายังใส่ชุดสีแดงด้วย(ในเกมส์) ขึ้นปกครองกังตั๋งต่อจากพี่ที่เสียชีวิตตั้งแต่ตัวเองอายุ 17-18 ปี เป็นผู้มีบุญ เกิดมาเพื่อเป็นเจ้าคนนายคน มีความสามารถคือการมองคนเก่ง และไว้ใจอย่างเต็มที่ และให้อำนาจให้ลูกน้องในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ ภายใต้การปกครองของซุนกวนทำให้กังตั๋งสามารถยืดหยัดอย่างแข็งแกร่งตลอดตลอดชั่วชีวิตของเขา

     

    สำหรับก๊กของซุนกวนแล้ว มีนโยบายคือแล้วแก่สถานการณ์  คือก๊กของซุนกวนจะไม่ประกาศเป็นศัตรูกับก๊กใหญ่อีก 2 ก๊ก แต่จะผูกไมตรีกับทุกก๊กเพื่อผลประโยชน์กับตัวเอง ทำให้หลายคนมองว่าก๊กของซุนกวนเป็นก๊กประกอบของเรื่องสามก๊กไป(ส่งผลทำให้อมิเนชั่นบทเลยน้อยไปด้วย)

    ซุนกวนเป็นตัวละครที่มีด้านดีและไม่ดีอยู่ในตัว ตามประสาผู้นำในยุคสงคราม  ยิ่งช่วงปั่นปลายชีวิตของซุนกวน ดูเหมือนซุนกวนหมดพลังในการเป็นผู้นำ เพราะซุนกวนเอาแต่เสวยสุขอยู่กับการครองราชย์โดยไม่สนใจราชกิจ ทำให้หลังซุนกวนตายก๊กของซุนกวนก็อ่อนแอลง เพราะบรรดาลูกๆ ญาติๆและบรรดาขุนนางของซุนกวนต่างคนต่างแย่งชิงอำนาจกันเอง จนเป็นเหตุให้ก๊กซุนกวนที่อุตส่าห์รักษามายาวนานต้องล่มสลายในที่สุด

             

    จิวยี่ (Zhou Yu) ชูวยู - โควคิน / เมย์ริน พี่น้องร่วมสาบานของซุนเซ็ก(เชย์เรน) แต่เท่าที่ดูน่าจะเป็นคู่ยูริมากกว่า เป็นหญิงสาว(ป้า)ที่สง่างาม และเป็นกุนซือผู้มีสติปัญญาปราดเปรื่องมาก เคร่งครัดในคำสั่ง มองซุนกวน(เร็นฟา)เหมือนเด็กไม่ยอมโต จึงชอบเปรียบเทียบซุนกวน(เร็นฟา)กับซุนเซ็ก(เชย์เรน)ทำให้ต้องเข้มงวดอยู่บ่อยๆ แต่ความจริงแล้วก็เคารพในตัวซุนกวน(เร็นฟา)น่ะ มีผิวสีแทน คงเป็นการแซวของคนเขียน คือประมาณว่าก๊กซุนกวนอยู่ทางตัวออกติดทะเล ทำให้คนที่นั้นโดนแดนจนผิวคล้ำ ต่างจากก๊กของโจโฉที่มีแต่สาวๆ ผิวขาวซึ่งทางเหนืออากาศจะเย็น

                    จิวยี่ เจ้าของวลี “ฟ้าให้จิวยี่เกิดมาแล้วไยต้องให้ขงเบ้งเกิดมาด้วยเล่า” ซึ่งประโยคนี้คือประโยคที่บ่บอกถึงลักษณะนิสัยของจิ๋วยี่ในวรรณกรรม ว่าภาพพจน์ของจิวยี่ว่าเป็นคนใจแคบ ขี้อิจฉาขงเบ้ง ทั้งๆ ที่จิวยี่เป็นขุนพลที่หน้าตาหล่อเหลาสำอางแห่งยุคอีกทั้งสติปัญญาเฉียบแหลม ตระกูลก็สูงส่ง เพื่อนๆ ก็รัก และมีเมียสวย ซึ่งตรงข้ามกับขงเบ้งโดยสิ้นเชิง เพราะขงเบ้งเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา เมียก็ไม่สวย ใครๆ ต่างก็เกลียด ทำไมจิ๋วยี่ถึงอิจฉาขงเบ้ง ซึ่งประเด็นนี้เองทำให้หลายฝ่ายที่ชอบสามก๊ก(ฉบับวิเคราะห์)ต่างถกเถียงเอาเป็นเอาตาย โดยวิเคราะห์ว่าจิ๋วยี่ไม่ใช้คนขี้อิจฉา เขาเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวางและเปี่ยมด้วยความสามารถอย่างยิ่ง หลักฐานคือเขาสามารถเอาชนะใจของเหล่าทหารและแม่ทัพที่ล้วนแต่อายุมากกว่าเขาได้ ส่วนกรณีของขงเบ้งจิ๋วยีมองขงเบ้งว่าจะเป็นภัยต่อก๊กซุนกวนและคิดหาทางกำจัดตัดไฟจากต้นลมเท่านั้น หากแต่กลอุบายของเขาในช่วงหลังๆ นั้นทำให้อีกฝ่ายมองง่ายเกินเป็นไป ทำให้จิ่วยี่พลาดแล้วพลาดเล่า สุดท้ายก็ด่วนจากไปเพราะพิษของธนูในที่สุด

                    
                   
    ดังนั้นในเรื่อง
    Koihime  Musou จิ๋วยี่(เมย์ริน)ได้ถูกตัดข้อเสียนี้ออกไปและมองขงเบ้ง(ชูวริ) แบบให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ได้อิจฉาริษยากันอย่างไร ในเรื่องจิวยี่เป็นคู่วายกับซุนเซ็ก ซึ่งเป็นมุกที่หลายๆ สื่อมักนำมาล้ออยู่อยู่บ่อยๆ บางสื่อก็เป็นชายกับชาย(ตัวละครในเกมส์สามก๊กตะลุยด่าน) ในการ์ตูนบางเรื่องก็เปลี่ยนให้ซุนเซ็กเป็นหญิงและรักกับจิ่วยี่ที่เป็นชาย(ในเรื่องสามก๊กหกกิ๊ก)

                   

    ลกซุน (Lu Xun ) ริคุซน - ฮาคุเก็น / โนน สาวแว่นอกโต ขี้เกรงใจ เป็นกุนซือคนสำคัญของซุนกวน(เร็นฟา) สติปัญญาสูงส่ง ชอบศึกษาค้นคว้า แต่เอ๋อและเชื่องช้า

    สาเหตุที่ลกซุน(โนน) ในเรื่อง Koihime  Musou เหมือนสาวเอ๋ออินโนเซ็นต์และเชื่อมช้า เนื่องจากเป็นการล้อลกซุนในวรรณกรรมที่กว่าจะมีคนเห็นความสามารถต้องให้ก๊กของซุนกวนผจญวิบากกรรมเสียก่อน และบทบาทของลกซุนจะเป็นแบบไต่เต้าตำแหน่งแบบช้าๆ ในช่วงระยะเริ่มต้น ลกซุนมีบทบาทในการเผาทัพของเล่าปี่ในขณะอายุเพียง 29 ปี จนกลายเป็นแม่ทัพใหญ่คุมทหารทั้งหมดของก๊กซุนกวน แต่ปั่นปลายชีวิตของลกซุนนั้นขัดแย้งกับซุนกวน จนทำให้ซุนกวนปลดเขาจากตำแหน่ง และถูกตำหนิอย่างรุนแรง จนลกซุนตรองใจตายในที่สุด ดังนั้นในเรื่อง Koihime  Musou เราจะเห็นลกซุนเกรงใจและมาไม่ถูกจังหวะทุกครั้งเวลาตัวละครในเรื่องเถียงกัน เพราะกลัวจะถูกด่านั้นเอง

     

    ซุนฮูหยิน (Sun Shangxiang) ซนโชโคว - ฮาจะโอ / เชาเรน เป็นบุตรคนเล็กแห่งตระกูลซุน ยังเป็นเด็กเล็กที่ไม่สนใจการเมืองและชอบหนีจากบ้านไปเที่ยวเล่นไกลๆ บ่อย ๆ เก่งเรื่องยิงธนู และชอบทะเลาะกับเตียวหุย(ริน ริน)อยู่บ่อยๆ

    ซุนฮูหยินในเรื่อง Koihime  Musou ถูกออกแบบโดยเป็นคนตัวเล็ก นิสัยแก่นแก้ว และเก่งธนู ซุนฮูหยินในเรื่องสามก๊กนั้นก็เป็นเด็กสาวที่ชื่นชอบการขี่ม้าและการฝึกฝนอาวุธ และมีทหารส่วนตัวที่เป็นผู้หญิงที่เก่งอาวุธทุกคน ซุนฮูหยินเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในสามก๊กที่ต้องแต่งงานกับเล่าปี่ซึ่งมีอายุคราวพ่อลูกเพราะเรื่องการเมือง และซุนฮูหยินที่เป็นหญิงที่รักเดียวใจเดียว หลังเธอทราบข่าวเล่าปี่ตาย เธอก็ฆ่าตัวตายตามเล่าปี่ไป

    เรื่องราวของซุนฮูหยินในวรรณกรรมไม่ค่อบมีบทบาทเท่าไหร่นัก หากแต่เรื่องของนางถูกใส่ในภาพยนต์เรื่องโจโฉแตกทัพเรือที่ใส่เรื่องราวสีสันของนางที่ไม่มีอยู่ในวรรณกรรมไปด้วย บางฉากก็อมยิ้มนิดๆ ในฉากที่เธอแกล้งเล่าปี่จนตกหลังม้า

     

    ไต้เกี้ยว (Da Qiao) พี่สาวของเสี่ยวเกียวที่ทำหน้าที่คล้ายๆ มาสคอตของกังตั๋ง ชอบร้องเพลงคู่กับเสี่ยวเกี้ยว

     

    เสี่ยวเกี้ยว (Xiao Qiao) น้องสาวของไต้เกียวที่ทำหน้าที่คล้ายๆ มาสคอตของกังตั๋ง ชอบร้องเพลงคู่กับไต้เกี้ยว

    ในวรรณกรรมไต้เกี้ยวและเสียวเกี้ยวได้ กล่าวขวัญในเรื่องความงามในดินแดนกังตั๋ง ต่อมาไต้เกี้ยวได้แต่งงานกับซุนเซ็ก ส่วนเสียวเกี้ยวได้แต่งงานกับจิวยี่ ในภาพยนตร์เรื่อง โจโฉแตกทัพเรือ เสียวเกี้ยวมีบทบาทอย่างมาก จนเป็นเหตุทำให้คนที่ไม่รู้สาวก๊กเข้าใจผิดว่าขงเบ้งเป็นกิ๊กเสียวเกี๊ยว และโจโฉแพ้พับเพราะเสียวเกี้ยวถ่วงเวลาให้ ซึ่งความิจริงแล้วในวรรณกรรมไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เลย

            

    กำเหลง (Gan Ning) คันเนย์ - โควฮะ / ชิชุน สามขรึมแม่ทัพและนักรบเงาของซุนกวน(เร็นฟา) กล้าหาญ

    ค่อนข้างแตกต่างจากกำเหลงในวรรณกรรมพอสมควร เพราะกำเหลงในวรรณกรรมมีนิสัยบ้าระห่ำไม่กลัวตาย สมัยยังหนุ่มค่อนข้างโหดเหี้ยม เป็นโจรสลัดปล้นฆ่าผู้คนตั้งแต่ยังเด็ก ชาวบ้านที่กำเหลงอาศัยอยู่ต่างหวาดกลัวเขาทั้งสิ้น จนกระทั้งอายุประมาณ 20 ปี เขาก็เลิกประพฤติตัวเป็นโจร เริ่มศึกษาตำรา และสมัครเป็นนายทหาร ครั้งแรกไปอยู่เล่าเปียว ในภาพยนตร์เรื่องโจโฉแตกทัพเรือจะเห็นกำเหลงตายตอนบุกยึดค่ายโจโฉ หากแต่วรรณกรรมกำเหลงไม่ได้ตายในเหตุการณ์นั้น เพราะกำลังยังมีชีวิตอยู่และสร้างผลงานมากมาย จนกระทั้งมาตายตอนศึกเล่าปี่ล้างแค้นบุกก๊กซุนกวน

             

    ตั๋งโต๊ะ(Dong Zhou)โทวคาคุ - ชูวเอย์ / ยูเอะ สาวน้อยที่มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมือง ผู้มีความเป็นกุลสตรีเต็มร้อย อุปนิสัยอ่อนโยน อ่อนแอ แต่ก็มีจิตใจที่เข้มแข็ง ดูแลทุกข์สุขประชาชนเป็นอย่างดี มีลิยู(Li Ru) คาคุ - บุงวะ / เอย์ สาวแว่น(น่ารัก)เป็นที่ปรึกษาและพี่เลี้ยงที่ต้องเอาใจใส่ แต่ก็มักจะต้องตามใจ ตั๋งโต๊ะ(ยูเอะ)อย่างขัดไม่ได้ เพราะโดนลำแสงโลลิคอนจนใจอ่อนอยู่บ่อยๆ

    ตั๋งโต๊ะในเรื่อง Koihime  Musou ถือได้ว่าฉีกแนวตั๋งโต๊ะทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนดัดแปลงหรือวรรณกรรมสามก๊กเรื่องอื่นๆ เพราะภาพลักษณ์ตั๋งโต๊ะที่เรารู้จักกันดีคือเป็นตัวละครที่ชั่วร้ายในสามก๊กที่ดีรับขนานนามว่าผู้ถูกสาปแช่งทั่วทุกสารทิศ นอกจากชั่วร้ายแล้วตั๋งโต๊ะยังมีรูปร่างน่ากลัว คือเป็นคนอ้วนใหญ่ ใจคอละโมบโลภมาก ถือยศถือศักดิ์ และมีบทบาทอย่างใหญ่หลวงในสามก๊กในตอนที่ราชสำนักวุ่นวาย โดยฉวยโอกาสนั้นยึดเมืองหลวง ถอดฮ่องเต้องค์ก่อนออกและฆ่าพร้อมไทเฮา และประหารขุนนางภักดีจำนวนมากมาย และเหตุการณ์ผู้คนสาปแช่งที่สุดคือการย้ายเมืองหลวงที่เป็นเหตุให้ประชาชนล้มตายจำนวนมากทำให้ประชาชนโกรธแค้นมาก ถึงขนาดตายเป็นศพแล้วศพของตั๋งโต๊ะก็ถูกย่ำยีต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะถูกทิ้งกลางทาง แยกให้อีแร้งมาจิกกิน ผู้คนแตะต่อยและถ่มน้ำลายใส่ แม้จะนำศพไปประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาฟ้ายังผ่าลงมาจนเถ้ากระดูกกระจัดกระจาย ว่ากันว่าฟ้าดินไม่ต้องการให้ศพตั๋งโต๊ะฝังลงดินให้แผ่นดินเปื้อนมลทิน

    เรื่องราวของตั๋งโต๊ะไม่ว่าเรื่องไหนๆ ก็บอกว่าชั่วร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตั๋งโต๊ะก็มีคุณความดีอยู่บ้าง ตรงที่รักพวกพ้องมากและไม่ได้เจ้ายศเหมือนอย่างที่คนอื่นคิด เห็นได้จากตอนตั๋งโต๊ะยกลูกสาวของตนให้ลูกน้องคนสนิทไม่ว่าจะเป็นลิยูและงิวฮูแสดงถึงไว้เนื้อเชื่อใจ อีกเหตุการณ์มีขุนนางคนหนึ่งร่ำไห้ต่อศพตั๋งโต๊ะโดยไม่อายต่อหน้าท่ามกลางคนที่เกลียดชัง  โดยขุนนางคนนั้นบอกว่าตั๋งโต๊ะเคยให้โอกาสตน จากคนที่ไม่มีอะไรเลยจนสามารถเป็นขุนนางชั้นสูงสุด(ผมจำชื่อขุนนางคนนั้นไม่ได้นะ อ่านมาจากสามก๊กฉบับคนกันเอง) และอีกเหตุการณ์คือลิฉุยกับกุยกี หลังเจ้านายตายและสามารถเข้าวังหลวงมาได้ ทั้งสองก็เอาศพตั๋งโต๊ะประกอบพิธีกรรมถูกต้องตามหลักศาสนาแสดงให้เห็นว่าตั๋งโต๊ะคงเอาใจใส่ลูกน้องสองคนมาก จนรู้คุณคน ส่วนรักครอบครัวนี้ผมไม่แน่ใจ เพราะบางเรื่องบอกว่าตั๋งโต๊ะมีเมียคนหนึ่ง วันหนึ่งเมียมาบอกว่าจะเลือกตนหรือเลือกม้าเซ็กต์เธาว์ ตั๋งโต๊ะได้ยินเลยเอาดาบมาฆ่าภรรยาเสีย แต่กระนั้นตั๋งโต๊ะก็รักแม่มาก เวลาไปรับราชการที่ไหน ตั๋งโต๊ะจะนำแม่ไปพูดคุยด้วยกันเสมอ

     

    ดังนั้นภาพลักษณ์ตั๋งโต๊ะในเรื่อง Koihime  Musou จึงเป็นเหตุทำให้ผมเปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ ว่าตั๋งโต๊ะเลวจริงหรือ? เพราะภาพลักษณ์ตั๋งโต๊ะ(ยูเอะ)คือผู้นำที่เข้มแข็ง และปกครองบ้านเมืองเก่ง ซึ่งในหากมองตั๋งโต๊ะในวรรณกรรมแล้วก็พบว่าตั๋งโต๊ะเป็นคนคุมเหตุวุ่นวายในราชสำนักทั้งหมด ซึ่งตอนแรกมีแต่เหตุนองเลือดและแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เมื่อตั๋งโต๊ะขึ้นมาเป็นก็ถอดฮ่องเต้ไร้ความสามารถออกและล้างขุนนางที่หลายคนบอกว่าต่อต้านหากแต่ความจริงแล้วขุนนางเหล่านี้อาจหัวโบราณและไร้ประสิทธิภาพ เพราะว่าหากเก่งจริงก็ไม่น่าให้ขันทีเป็นใหญ่หรือปล่อยตั๋งโต๊ะเข้ามาราชสำนักนี้ได้  ซึ่งวิธีการตั๋งโต๊ะทำในครั้งนี้คือการ ล้างไพ่ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการที่ง่ายและเด็ดขาด นั้นเป็นเพราะพื้นที่ปกครองของตั๋งโต๊ะอยู่ในเขตชายแดนซึ่งต้องผจญกับเหตุการณ์รุนแรงและไร้ศิลธรรมมากมาย ซึ่งเป็นวิธีไม่ไว้หน้าขุนนางทั้งหลาย จนเป็นเหตุรวมหัวกันวางแผนฆ่าในที่สุด(แต่ในประวัติศาสตร์บอกว่าตั๋งโต๊ะทะเลาะกับลิโป้เพราะผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อไม่กล่าวถึง จนเป็นเหตุให้ลิโป้โมโหและฆ่าตั๋งโต๊ะตาย)

    ในหนังสือการ์ตูนก็เหมือนกัน ที่แสดงให้เห็นว่าตั๋งโต๊ะ(ยูเอะ)เป็นคนดี ซึ่งสาเหตุที่ยึดเมืองหลวงนั้นคือโดนคนในราชสำนักชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตั๋งโต๊ะไม่ได้ชั่วร้าย หากแต่เป็นความเหลวแหลกของราชสำนักจีนที่ขุนนางเอาแต่หาผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า

     

    ลิโป้ (Lu Bu) เรียวฟุ - โฮวเซน / เร็น สาวเงียบ เอ๋อเล็กน้อย แต่มีวรยุทธ์เก่งกาจมากกว่าตัวละครทั้งหมดในเรื่อง  ผู้มีฝีมือในการต่อสู้สูงที่สุดในบรรดานักรบทุกคน แต่เป็นคนซื่อๆ ตรงๆ เวลาจะทำก็ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งสิ้น ความจริงแล้วเกลียดสงคราม รักสงบ และชอบสุนัขมาก หากเห็นใครรังแกหมาจะโกรธมาก จุดเด่นคือผมยาวสองเส้นกระดิกได้ จนทำให้แฟนๆ หลายคนแอบแซวว่า เจ๊แมลงสาป”(เป็นการล้อลิโป้ในวรรณกรรม คือจุดเด่นของลิโป้คือเวลาชุดเกราะที่หัวจะมีพู่ยาวสองเส้น) และชอบทำสายตาออดอ้อนคนเก่งมาก จนหลายคนใจอ่อนทุกครั้ง

    ลิโป้ใน Koihime  Musou แตกต่างจากในวรรณกรรมและสามก๊กดัดแปลงพอสมควร แต่สิ่งเดียวที่ ในวรรณกรรมและในการ์ตูนต่างน้อมรับเสียงเดียวเลยว่าลิโป้เป็นยอดนักรบผู้ที่ได้ชื่อว่า แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคสามก๊กหรือเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนต่างให้ลิโป้เก่งหมด แต่น่าเสียดายที่เขาเก่งแต่เชิงยุทธ์อย่างเดียว แต่จุดอ่อนของเขาคือขาดคุณธรรมและโง่เขลา ทำให้ไม่สามารถเป้นใหญ่ในแผ่นดินได้ จนโดนคนฉลาดกลืนกินในที่สุด


             สิ่งที่หลายคนรู้จักลิโป้นอกเหนือจากเก่งวรยุทธ์แล้วก็คือเป็นคนหยาบช้าและขาดคุณธรรม จนเตียวหุยด่าว่าทรพีลูกสามพ่อ เพราะแต่เดิมลิโป้เป็นบุตรบุญธรรมของเต็งหงวน แต่ได้ฆ่าพ่อบุญธรรมเพื่อมาอยู่กับตั๋งโต๊ะ แต่ต่อมาก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกแยกกัน และลิโป้ก็เป็นคนสังหารตั๋งโต๊ะด้วยมือตัวเอง อีกทั้งปั่นปลายสุดท้ายของลิโป้ก็ไม่ได้ทำตัวสมเป็นขุนพลที่เก่งกาจสักนิด คือปิดเมือง จนทหารเสียขวัญ จนถูกลูกน้องจับตัวสู่กองทัพโจโฉ และลิโป้กลัวตายอย่างแรง จนร้องขอชีวิต หากแต่เล่าปี่ยืนยันให้โจโฉประหารโดยยกตัวอย่างเรื่องเต็งหงวนและตั๋งโต๊ะ จนลิโป้โดนตัดหัวในที่สุด

    ดังนั้นภาพลิโป้ใน Koihime  Musou เมื่อโดนตัดข้อเสียลิโป้ออก เลยกลายเป็นสาวเงียบ ซื่อบริสุทธิ์ไร้พิษภัยอย่างที่เห็น และใส่การเกลียดการต่อสู้ลงไปด้วย แสดงให้เห็นว่านี้คือขุนพลในฝันที่หลายๆ คนอยากจะได้มาครอบครองเพราะท่าทางน่ารักทะนุถนอนเหลือเกิน

     

    ฮัวหยง (Hua Xiong) คายูว / - แม่ทัพสาวทอมบอยที่ฝีมือร้ายกาจแต่ไม่มีโชคเท่าไหร่ ออกมาไม่กี่ฉากแถมในหนังสือออกมาสามสี่ช่องแล้วเจอกวนอู(ไอฉะ)ก็โดนฆ่าซะแล้ว เศร้าจริงๆ

     ฮัวหยงเป็นขุนพลคนสำคัญของตั๋งโต๊ะ ไหล่เรียวคล้ายลิง หน้าคล้ายเสือดาว สูง 6 ศอกเศษ เป็นผู้ต้านทัพพันธมิตร 18 หัวเมือง และ สามารถสังหารขุนพลได้หลายคน แต่ฮัวหยงกลับถูกสังหารโดยกวนอูในชั่วเวลาที่สุรายังไม่หายอุ่น แต่ในประวัติศาสตร์ฮัวหยงไม่ได้ถูกกวนอูฆ่าตาย แต่ตายระหว่างทำศึกกับซุนเกี๋ยน

              

    ต้นก๋ง (Chen Gong) ชิงคิว - โควได / เนเนเนะ เป็นเด็กน้อยกำพร้าผู้น่าสงสารที่ร่วมเดินทางไปกับลิโป้(เร็น) มีสมองที่ฉลาดหลักแหลม และชอบใช้ความรุนแรง ชอบพูดกับคนอื่นว่าเป็นกุนซือส่วนตัวของลิโป้(เร็น) หากแต่ดูภายนอกเหมือนพี่เลี้ยงมากกว่า

    ลิโป้เป็นกุนซือที่อาภัพที่สุดคนหนึ่งในสามก๊ก แต่ก็เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีมิตรแท้ในยามสงคราม ครั้งแรกเคยเป็นเพื่อนตายกับโจโฉ แต่เห็นโจโฉฆ่าผู้มีพระคุณ ต้นก๋งเลยคิดตีจาก จนกระทั้งเป็นกุนซื่อของลิโป้ ซึ่งแผนของต้นก๋งจะสำเร็จทุกครั้งหากลิโป้ทำตาม หากส่วนมากลิโป้ไม่เชื่อแผนต้นก๋งจนพบจุดจบในเวลาต่อมา ส่วนในเรื่อง Koihime  Musou จะเห็นว่าต้นเก๋ง(เนเนเนะ)ไม่ถูกกับเตียวหุย(ริน ริน)และชอบใช้ความรุนแรงก็อันมาจากเหตุการณ์ในวรรณกรรมที่เล่าปี่ไปตีอ้วนสุด แล้วให้เตียวหุยรักษาเมือง เตียวหุยเมาสุราโบยตีโจป้าพ่อตาของลิโป้ ตันก๋งจึงแนะนำให้ลิโป้ให้ถือเหตุนี้ เข้ายึดชีจิ๋วจน ลิโป้สามารถยึดชีจิ๋วมาได้

    ส่วนจุดเด่นของต้นก๋งคือรักลิโป้มาก ยอมตายพร้อมลิโป้ แม้กระทั้งต้นก๋งถูกจับพร้อมลิโป้ ต้นก๋งยังยินยอมให้โจโฉประหารตน โจโฉถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับตันก๋ง เมื่อตันก๋งถูกประหาร จึงให้พาครอบครัวของตันก๋งไปเลี้ยงดูที่ฮูโต๋เป็นอย่างดี

     

    เตียวเสี้ยน(Diao chan)โชวเซน / โจเซ็น หญิงสาว(??)จอมพลัง รู้จักกับลิโป้(เร็น) ตอนช่วยสุนัขของลิโป(เร็น) เอาไว้ ภูมิใจในรูปร่างและกล้ามมากๆ ภายหลังได้เดินทางไปกับฮูโต๋(เคงกะ)เพื่อช่วยเหลือผู้คน(??)ด้วยกัน  ในอมิเนชั่นออกมาในภาค OVA เรียกเสียงฮ่าได้ไม่น้อย

    เตียวเสี้ยนในเรื่อง Koihime  Musou ถือได้ว่าฉีกแนวเตี้ยวเสี้ยนในการ์ตูนสามก๊กเรื่องอื่นๆ โดยสิ้นเชิง เพราะกล่าวถึงเตียวเสี้ยนแล้วก็ต้องนึกถึงหญิงงามล้ำที่ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง ที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้ผิดใจกัน และหลังจากลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะตายก็ไม่ปรากฏชื่อเตียวเสี้ยนในวรรณกรรมอีกเลย บ้างก็ว่าเธอฆ่าตัวตาย บ้างก็ว่าไปบวชเป็นชี หรือโดนกวนอูฆ่า

     

    สาเหตุที่เตียวเสี้ยนใน Koihime  Musou รูปร่างแบบนี้ สันนิษฐานว่า เนื่องจากเตียวเสี้ยนไม่มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ทำให้ตัวตนของเตียวเสี้ยนจริงเป็นแบบไหนก็ได้ อีกทั้งตัวละครสามก๊กมีผู้หญิงสวยๆ น่ารักอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้คนเขียนนึกสนุกเปลี่ยนหญิงงามที่ใครๆ ให้ต่างชอบมาเป็นหญิง(??)บึกกล้ามโตที่ใครๆ เห็นต่างส่ายหน้าหนีแทน

                   

    อ้วนเสี้ยว(Yuan Shao) เอนโชว - ฮนโชว เรย์ฮะ เจ้าเมืองใหญ่ทางทางเหนือ ไฮโซแบบคุณหนู แต่ชอบละลายเงินเป็นว่าเล่น เอาแต่ใจแต่ต๊องสุดขั้ว(ขำตรงมุกซูโม่หงส์นี้แหละอนาถจริงๆ) แต่ลึกๆ เธอก็มีจิตใจที่ดีนะ มีลูกน้องคนสนิทสองสาวสองคนชนิดไปไหนมาด้วยกันคือ บุนทิว(Wen Chou) บุนชูว / อีจิ  และ งันเหลียง (Wen Chou) งันเรียว / โทชิ ที่ต้องเหนื่อยกับอ้วนเสี้ยว(เรย์ฮะ)ทุกวี่วันแต่ทั้งสองก็รักเจ้านาย ขนาดเรื่องส่วนตัวเจ้านายคุณพี่ทั้งสองยังรู้ยิ่งกว่าตัวเจ้านายเสียอีก

    อ้วนเสี้ยวในเรื่อง Koihime Musou ถอดแบบจากวรรณกรรมแบบไม่ผิดเพี้ยนเพราะนี้คือจุดเด่นของอ้วนเสี้ยวที่หลายคนมักรู้จักกันดี ตรงที่เป็นคนมาจากตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนมีหน้ามีตา มีอาณาเขตพื้นที่มากมายไพศาล ขนาดโจโฉยังยกอ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำ 18 หัวเมืองเพื่อต่อต้านตั๋งโต๊ะ

    อ้วนเสี้ยวมีกองกำลังทหารที่เข้มแข็ง และร้ายกาจที่สุด หากแต่จุดอ่อนอย่างใหญ่หลวงคือตัวอ้วนเสี้ยวเอง ที่เป็นเจ้านายไม่เอาไหน หลงตัวเองและเอาแต่ใจสุดๆ (แต่เรื่อง Koihime Musou นี้ฮ่ากว่า) ตัดสินใจพลาดหลายครั้ง เพราะเป็นคนใจโลเล และใช้คนไม่เป็น ทำให้ภายหลังก็พ่ายแพ้โจโฉ ทั้งๆ ที่ทัพโจโฉมีทหารน้อยกว่ามาก จนอ้วนเสี้ยวกระอักเลือดตาย ทั้งๆ ที่สงครามแพ้ศึกนี้เป็นศึกที่อ้วนเสี้ยวครั้งเดียวแท้ๆ  อ้วนเสี้ยวยังมีอาณาเขตและทหารอีกมากมายที่มีโอกาสพลิกสงครามหากแต่ศึกนี้ศึกเดียวทำให้อ้วนเสี้ยวหมดกำลังใจสู้รบ จนกระทั้งล้มป่วยและแม้ตายแล้วยังวางแผนผิดพลาดอีก ตรงที่ให้ลูกชายคนเล็กขึ้นเป็นผู้นำ จนเกิดสงครามระหว่างพี่น้อง จนเป็นเหตุให้โจโฉฉวยโอกาสตีจนฮุบอาณาเขตของอ้วนเสี้ยวทั้งหมด จนตระกูลอ้วนล่มสลาย ทำให้เรื่องราวของอ้วนเสี้ยวกลายเป็นอุทธรณ์บทเรียนที่มีค่าของผู้นำ


             อ้วนเสี้ยวเป็นตัวละครอีกคนในวรรณคดีสามก๊กที่หลายคนไม่สงสัยเลยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่? เขาเป็นเจ้านายที่ไม่เอาไหนจริงหรือ? ดูเหมือนหลายคนต่างยอมรับเลยว่าอ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำไม่เอาไหนจริงๆ โดยไม่ต้องฝอยหาตะเข็บแต่อย่างใด หากแต่มีการตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องของอ้วนเสี้ยวในเว็บสามก๊กว่า สาเหตุที่อ้วนเสี้ยวแพ้เพราะความขัดแย้งของเหล่าขุนนาง อีกทั้งเขาตัดสินใจผิดพลาดเนื่องจากว่าไม่ว่าองค์กรไหนก็ต้องมีบุคคลากรมีความคิดเห็นแตกแยกหลายฝ่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกอย่างไรที่ขุนนางจะมีแผนให้อ้วนเสี้ยวตัดสินใจหลายแผน ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้นำว่าจะเลือกแผนไหน โอกาสคือ 50-50 หากเสียงแตกเป็นสามฝ่ายก็แผนโอกาสเลือกย่อมเสี่ยงสูงด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่อ้วนเสี้ยวอาจจะพลาดสักครั้ง แต่การตัดสินใจผิดพลาดครั้งเดียวกับให้อ้วนเสี้ยวหมดกำลังและล้มป่วยตาย แสดงให้เห็นว่าอ้วนเสี้ยว จิตใจอ่อนแอและรับไม่ได้กับความพ่ายแพ้ เสมือนเด็กเรียนดีที่สอบได้เกรด B แค่วิชาเดียวแต่โดดตึกตาย.......ผิดกับโจโฉกับเล่าปี่ที่แพ้หลายครั้ง ล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะยิ่งใหญ่

     

    อ้วนสุด (Yuan Shn) เอ็นจูวสึ / มิอุ  น้องสาวของอ้วนเสี้ยว(เรย์ฮะ) คุณหนูเอาแต่ใจ และหลงตัวเองสุดๆ ชอบกินน้ำผึ้ง ร้องเพลงเก่ง(ขนาดมีอัมบั้มเพลงร่วมกับเตียนหุน(นานาโนะ)ออกมาวางจำหน่ายมาแล้ว) และชอบอำพี่สาว แต่โดยรวมๆ แล้วไม่มีพิษมีภัยนะ

     

    เตียวหุน (Zhang Xun) โชวคุน / นานาโนะ พี่เลี้ยง ผู้ติดตาม ผู้ดูแล ที่ปรึกษา ฯลฯ เป็นผู้ที่คอยดูแล อ้วนสุด(มิอุ) ตลอดเวลา ดูเหมือนจะตามใจอ้วนสุด(มิอุ)มากเกินไป และเวลาว่างจะเป็นคู่ร้องเพลงให้อ้วนสุด(มิอุ)อยู่บ่อยๆ

    อ้วนสุดในวรรณกรรมนั้นนิสัยเหมือนอ้วนเสี้ยวผู้พี่ไม่มีผิดไม่ว่าจะเป็นหลงตัวเองสุดๆ ขี้อิจฉาริษฉา เชื่อคนง่าย โลเลเหลาะแหละ ชอบแต่คนประจบสอพลอ ซ้ำยังมีความละโมบโลภมากกว่ามักใหญ่ใฝ่สูงถึงขั้นสถาปนาเป็นฮ่องเต้ จนกลายเป็นตัวละครที่ซวยที่สุดในสามก๊ก ไม่ว่าจะโดนรุนกินโต๊ะจากหัวเมืองต่างๆ  แถมภายในยังมีปัญหาอีกเมื่อขุนนางออกห่างและบางเมืองไม่ส่งเสบียงให้ แถมเคราะห์ร้ายยังไม่หมดเมื่อภัยธรรมชาติตามมาอีก จนค่าใช้จ่ายราชสำนักของอ้วนสุดหร่อยหรอ แต่อ้วนสุดยังไม่ววายใช้จ่ายฟุ้มเฟือยอีกทให้เงินอ้วนสุดหมดลง ปั่นปลายสุดท้ายอ้วนสุดนำทัพที่เหลือไปหาอ้วนเสี้ยวแต่โดนทัพเล่าปี่ตีระหว่างทาง ทำให้อ้วนสุดล้มป่วยและกระอักเลือดตายในที่สุด

     

    ในอมิเนชั่น Koihime  Musou เราจะเห็นเมืองที่ปกครองโดยอ้วนสุด(มิอุ) ในภาค 2 ตอนที่ 8  เป็นเมืองที่เงียบเหงา สาเหตุไม่ใช้เพราะอ้วนสุด(มิอุ)ปกครองไม่ดี แต่เป็นเพราะเมืองนั้นในวรรณกรรมคือเมืองลำหยง ซึ่งเป็นเมืองที่สภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีนัก พืชผลปลูกไม่ค่อยได้ ในวรรณกรรมอ้วนสุดโดนพวกเล่าปี่ตลบหลังหลายครั้งแถมในอมิเนชั่นนี้ก็ไม่เว้นทั้งกลางกับท้ายตอนยังโดนพวกกวนอู(ไอฉะ)หลอกอีก และมีบทบาทในการปราบโจรโพกผ้าเหลือในตอนท้ายเรื่อง

    ส่วนเตียวหุนเป็นแม่ทัพของอ้วนสุด ส่วนเก่งหรือไม่นั้น ก็ขอตอบว่าในเกมส์ไม่เก่งเลย มีค่าพลังพอๆ กับทหารเกรด C แถมในวรรณกรรมแพ้ลิโป้อีก

     

     กองซุนจ้าน โควซนซาน - ฮาคุเคย์ / ไพเรน เพื่อนสนิทของ เล่าปี่(โทวกะ) ตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกัน(แต่โทวกะลืมซะงั้น) เป็นคนมากด้วยน้ำใจ  แต่เป็นตัวประกอบอดทน ที่ตัวตนจืดจางเหลือเกิน ตั้งฉายาตนเองว่าเจ้าพลม้าขาว หากทั้งเรื่อง(อมิเนชั่น)ไม่เห็นเธอขี่ม้าสักครั้ง ส่วนภาค 2 ในตอนที่ 3 ก็เจอฉากเซอร์วิตเต็มๆ เมื่อกองซุนจ้าน(ไพเรน) ชนะซูโม่ผ้าเตียว กับอ้วนเสี้ยว(เรย์ฮะ)จะเห็นว่ากองซุนจ้านดีใจมากๆ เพราะในวรรณกรรมแล้วกองซุนจ้านไม่เคยชนะศึกอ้วนเสี้ยวเลย...... ยินดีด้วยนะกองซุนจ้าน

    กองซุนจ้านในเรื่อง Koihime Musou ถอดแบบจากวรรณกรรมแบบไม่ผิดเพี้ยนอีกตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเล่าปี่สมัยเรียนหนังสือด้วยกัน และใจกว้างครั้งเล่าปี่ตกอับก็อาศัยใบบุญกองซุนจ้านพักใหญ่ แต่เป็นคนดีที่โลกลืมจริงๆ หลายๆ คนมักจดจำเขาในฐานะ ผู้แพ้ตลอดกาลที่พ่ายแพ้ทัพอ้วนเสี้ยวหลายครั้ง จนสุดท้ายก็จนตรอกต้องฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว

     

     เตียวก๊ก (Zhang Jiao) โชวคาคุ / เทนโฮ พี่ใหญ่ของสามพี่น้องเตียว อดีตเป็นไอดอลตกอับข้างถนน แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้เพราะอยากให้คนอื่นฟังเพลงของเธอแล้วมีความสุข แต่ทำยังไงก็ไม่มีใครสนใจสักที หากแต่วันหนึ่งมีชายลึกลับคนหนึ่งได้มอบหนังสือศาสตร์แห่งสันติภาพให้เตียวก๊ก(เทนโฮ)ซึ่งมีพลังสามารถจูงใจประชาชนได้ และด้วยพลังนี้สามารถทำให้เธอเป็นซูปเปอร์สตาร์แห่งยุค เพลงดังมากจนออกเป็นซีดีพี่น้องเตียววางแผงในโลกแห่งความจริงของเรามาแล้ว(คัมภีร์แห่งสันติภาพช่างน่ากลัวเสียจริง)  ส่วนนิสัยของเธอเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ออกไปทางเอ๋อนิดๆ เหมือนเล่าปี่(โทวกะ) ไม่มีผิด

     

    เตียวโป้ (Zhang Bao) โชวโฮว / จีโฮ พี่รองในสามพี่น้องเตียว หนึ่งในคณะไอดอลเช่นเดียวกับพี่สาว เป็นคนเอาจริงเอาจัง เจ้าจี้เจ้าการ หวงพี่สาว และใจร้อน เป็นคนที่ทำให้เกิดกบฏโจรผ้าเหลือง เพราะเจ้าหน้าที่ลวนลาวพี่สาวของตน เธอเลยบงการชาวบ้าน(โฮตากุ) อัดเจ้าหน้าที่ซะเลย แต่เหตุการณ์ปานปลายจนกลายเป็นกลุ่มโจรผ้าเหลืองในที่สุด

     

    เตียวเหลียง (Zhang Liang)โชวเรียว / เรนโฮ น้องเล็กสุดในสามพี่น้องไอดอล มีความเป็นผู้ใหญ่สูงที่สุดในสามพี่น้อง เป็นคนใจเย็น และมักห้ามปรามพี่รองอยู่บ่อยๆ

    กบฏโจรโพกผ้าเหลืองถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสามก๊กเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าหนังสือที่ไหนสามพี่น้องเตียวมักมีสิ่งเหมือนกันคือมีอำนาจที่ทำให้ประชาชนศรัทธาและชุดเหลื่อง โดยเจียวก๊กผู้นำโจรโพกผ้าเหลืองนั้นสมัยก่อนเป็นเพียงบัณฑิตสอบตก ครั้งวันหนึ่งเขาได้เจอเซียนและมอบคัมภีร์ชื่อ ไท้ผิงซึ่งเป็นศาสตร์วิเศษ โดยเตียวก๊กศึกษาตำรานี้จนแตกฉาน สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ ทำให้เป็นที่ศรัทธาและเคารพของชาวบ้านจนมีสาวกเข้าลัทธิของเตียวก๊กหลายหมื่นคน จนเตียวก๊กตั้งตัวเป็นแม่ทัพเจ้าสวรรค์ เตียวโป้เป็นแม่ทัพเจ้าธรณี เตียวเหลียงเป็นแม่ทัพเจ้ามนุษย์ บัญชาการสาวกและทหารผ้าเหลืองนับแสนคนเป้าหมายคือล้มล้างราชวงค์ฮั่น หากแต่กองทัพของเตียวก๊กมีจำนวนมากเกินไปทำให้ขาดระเบียบวินัย ทำให้พวกทหารนี้บุกปล้นชาวบ้านจนเดือดร้อนไปทั่ว ทำให้ชาวบ้านทั่วไปเกลียด สุดท้ายทางการเลยเรียกหัวเมืองมาปราบ และสงครามโจรโพกผ้าเหลืองนี้ถือได้ว่าเป็นศึกเปิดตัวของแม่ทัพหลายๆ คนในเรื่องสามก๊ก ไม่ว่าจะเป็น เล่าปี่, โจโฉ, ลิโป้ และเมื่อสามพี่น้องเตียวก๊กตายไป โจรโพกผ้าเหลืองก็หมดที่พึ่งพิงจนล่มสลายในที่สุด(ในวรรณกรรม เตียวโป้จะตายในสนามรบในศึกกับทัพเล่าปี่)

     

    สิ่งที่เตียวก๊กฝากเอาไว้ถึงคนรุ่นหลัง คือ แซ่เตียวที่ปัจจุบันมีประชาชนชาวจีนมีคนใช่แซ่นี้กันมาก เนื่องมาจากประชาชนที่เข้าร่วมกับเตียวก๊กหลายแสนคนจะ

    เปลี่ยนแซ่เป็นเตียวกันหมด หลังสงครามทำให้คนแซ่เตียวกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินจีน สืบลูกสืบหลานมาเรื่อยๆ ซึ่งนี่เองที่ภายหลังมีคนแซ่นี้จึงมีมากที่สุดในซื่อหนึ่งของจีน

    ในอมิเนชั่น Koihime  Musou ภาค 2 ตอนที่ 12 ตอนจบ ไม่รู้ใครจะพูดอย่างไร ผมชอบตอนนี้ที่สุด เพราะส่วนใหญ่เราได้เห็นสงครามโจรโพกผ้าเหลืองในสามก๊กที่นองเลือด หากแต่ในการ์ตูนเรื่องนี้ได้เปลี่ยนสงครามมาเป็นการแข่งร้องเพลงไป ผมชอบมากๆ เลยที่เห็นตัวละครสามก๊กหลายตัวร้องเพลงพร้อมกัน และจบอย่างมีสุขทั้งสองฝ่าย

     

    โฮจิ๋น(He Jin) สาวอกโต ผู้บัญชาการสูงสุดของราชสำนัก เป็นเจ้านายโจโฉ(คาริน) ชอบใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ชอบสุราและงานเลี้ยง

    โฮจิ๋นในวรรณกรรมเป็นอาชีพเป็นเพียงคนขายเนื้อที่ตลาด แต่แล้วจู่ๆ บุญหล่นทับ เพราะน้องสาวกลายเป็นพระเหสีของฮ่องเต้ โฮจิ๋นเลยกระโดดเป็นผู้บัญชาทัพสูงสุดของราชวัง เป็นผู้นำปราบโจรโพกผ้าเหลืองและอดีตเจ้านายของโจโฉและอ้วนเสี้ยว แต่ปั่นปลายชีวิตโฮจิ๋นดันทำพลาดอย่างไม่น่าอภัยเมื่อเปิดโอกาสให้ตั๋งโต๊ะเข้ามาในวัง ส่วนตนเองถูกสิบขันทีฆ่าตายอนาถ

     

    ซุนเจ้ง(Sun Jing) น้าของซุนเซ็ก ไม่พอใจซุนเซ็กที่ชอบทำสงคราม เลยวางแผนฆ่าซุนเซ็กเรื่อยมา

    ซุนเจ้งใน Koihime  Musou แตกต่างจากวรรณกรรมอย่างมาก ซุนเจ้งเป็นน้าของซุนเซ็ก มีส่วนในการยึดดินแดนกังตั๋ง เขาเป็นคนไม่หวังลาภยศ ขนาดซุนเซ็กพยายามมอบตำแหน่งสำคัญให้เขา แต่เขาไม่รับ และพอใจในการเป็นคนเฝ้าสุสานตระกูลซุน

     

    เตียวเจียว (Zhang Zhao) กุนชือของซุนเซ็ก เก่งกาจเรื่องบริหาร ซื่อสัตย์

    ต่างจากวรรรกรรมนิดหน่อยตรงที่ เตียวเจียวในเรื่อง Koihime  Musou เป็นคนแก่ หากแต่ในวรรณกรรมเตียวเจียวพบกับซุนเซ็กในขณะอายุ 39 ปีเท่านั้น(ซุนเซ็กอายุ 20 ปี) และรักกันเหมือนเพื่อนสนิท ภายหลังซุนเซ็กตายเตียวเจียวก็ทำการแต่งตั่งซุนกวนทันควันทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น และเป็นอีกคนที่คอยห้ามปรามซุนกวนเวลาทำอะไรผิด  ซึ่งสมแล้วที่ซุนเซ็กสั่งซุนกวนก่อนตายว่า เรื่องภายในให้ปรึกษาเตียวเจียว เรื่องภายนอกให้ปรึกษาจิวยี่

     

    สุมาเต็กโซ (Sima Hui) นักปราชญ์ อาจารย์ของขงเบ้ง(ชูวริ)และบังทอง(ฮินาริ) ใจดีและรอบรู้ทุกเรื่อง

    ในวรรณกรรมสุมาเต็กโซแนะนำขงเบ้งและบังทองให้แก่เล่าปี่สมัยหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ และได้รับยกย่องว่าเป็นคนที่คาดการณ์แม่นที่สุดในเรื่องสามก๊ก ส่วนในการ์ตูนสามก๊กเรื่องอื่นๆ ปรากฏในฐานะที่ปรึกษาพิเศษแก่เล่าปี่  

     

    อิเกียด ผู้วิเศษที่มอบคัมภีร์ศาสตร์แห่งสันติภาพให้พี่น้องเตียว ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีแผนชั่วในใจ เป็นตัวโกงของเรื่อง

    อิเกียดเป็นตัวละครที่ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ ในวรรณกรรมอิเกียดเป็นนักพรตผู้วิเศษเรียกลม เรียกฝนได้ จนชาวบ้านศรัทธาและนับถือ พอมาที่กังตั๋งซุนเซ็กไม่พอใจอย่างมากหาว่าหลอกลวง จึงส่งทหารมาจับตัวแล้วไปฆ่าเสีย แล้วเอาศพประจานไว้ ณ ทางสามแพ่ง และนับแต่นั้นมาซุนเซ็กก็เห็นอิเกียดที่ฟื้นคืนชีพ และหลอกซุนเซ็ก จนล้มสลบและล้มเจ็บไม่ช้าก็ตายตามอิเกียดไป

    ในการ์ตูน อิเกียดปรากฏในฐานเซียนผู้วิเศษ ที่ร้ายกาจมากๆ และซุนเซ็กก็กลัวตัวละครนี้มากเช่นกัน จนการ์ตูนเรื่องสามก๊กหกกิ๊กจับเอามาล้อ และดูเหมือนว่าการ์ตูนเรื่อง Koihime  Musou จะวางตัวพวกเซียนเป็นศัตรูตัวร้าย (อีกตัวก็โจจู๋ แต่ในอมิเนชั่นยังไม่ได้กล่าวถึงแต่ในหนังสือการ์ตูนกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว)

     

    หลังจากที่ดูจบ ผมไปอ่านกระทู้ที่พูดเกี่ยวกับ Koihime  Musou ผมรู้สึกไม่เห็นด้วยเวลาเขาวิจารณ์การ์ตูนเรื่องนี้ว่าเซอร์วิสไร้สาระ และเนื้อเรื่องไม่เดิน เป็นการวิจารณ์ที่ไม่เข้าใจจุดประสงค์การ์ตูนเลย จริงอยู่ผมเสียดายภาค 2 นิดๆ ที่ตัวละครบางตัวไม่ออกโรง(อยากเห็นอุยเอี๋ยนกับเบ้งเฮ็กอ่ะ) แต่จุดประสงค์การ์ตูนนี้ยังคงเดิมคือการได้เห็นตัวละครในสามก๊กเป็นผู้หญิงที่เอาลักษณะนิสัยดีๆ ของตัวละครนั้นมาใช้ และเมื่อเราดูแล้ว เราก็น่าจะศึกษาตัวละครนั้นว่ามันมีที่มาจากไหน มีนิสัยเบื้องลึกเรื่องจริงอย่างไร ทำไมการออกแบบจึงเป็นแบบนี้ เพื่อที่เป็นสาระประโยชน์ควบคู่กับความบันเทิงที่ได้รับ นี้แหละคือความสนุกของการ์ตูนที่ดัดแปลงจากวรรณกรรม อย่างเรื่องกินทะมะจะมีใครรู้บ้างว่าเหล่าตัวละครเหล่านั้นในเรื่องดัดแปลงมาจากตัวละครในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นใดบ้าง คางูยะมาจากชื่อนิทานเจ้าหญิงจากดวงจันทร์ ชินปาจิเป็นน้องเขยของเคนโด้และเป็นหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นรุ่นสุดท้าย ซึ่งหากเราได้อ่านประวัติบุคคลเหล่านั้นก็พบว่าชีวิตพวกเขาช่างโลดแล่นยิ่งกว่านิยายเสียอีก หากแต่ปั่นปลายสุดท้ายชีวิตของพวกเขาจบไม่สวยเท่าไหร่นัก

    แม้ชีวิตตัวละครสามก๊กในวรรณกรรมปั่นปลายจะจบไม่สวย แต่เรื่อง Koihime  Musou ได้เปลี่ยนให้สามก๊กที่มีแต่เรื่องเศร้า ๆ กลายเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ไม่เสแสร้ง สงครามที่จบลงโดยไม่เสียเลือดเนื้อ ผู้คนในเรื่องอยู่กันอย่างเป็นสุข และตอนท้ายเราก็ได้เห็นกิจกรรมสบายๆ ของตัวละครในเรื่องในกิริยาบทต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีให้เห็นในวรรณกรรมที่ชื่อว่า “สามก๊ก” เลย

    เออ.....ในที่สุดก็จบสักที ใช้เวลาไป 2 สัปดาห์ ตอนหน้าเอาเรื่องอะไรดีหว่า การ์ตูนที่คนอื่น ๆ แนะนำมาไม่โดนใจผมสักเรื่อง ดังนั้นตอนหน้าก็เอาการ์ตูนตามใจผมมาเขียนดีกว่า

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×