ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #518 : ดาร์กแฟนตาซี (Dark fantasy) คืออะไร?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.42K
      53
      6 ก.พ. 62


    เป็นบทความที่ผมเขียนด้วยความสงสัยว่าแท้จริงแล้วนิยามของคำว่าดาร์กแฟนตาซีคืออะไร  อันเนื่องจากชอบบ่นบ่อยๆ เวลาไปอ่านนิยายต่างโลก เรามักเห็นพระเอกจิตตก โดนรังแก โดนทำร้าย โดนทำเรื่องโหดร้าย ตัวละครตาย ผู้หญิงโดนข่มขืน ฉากโหดมากมาย และมีคนบอกว่านี่คือดาร์กแฟนตาซี  ซึ่งมันเป็นนิยามที่ถูกต้องหรือไม่ และดาร์กแฟนตาซีที่นอกเหนือจากพล็อตแบบนี้มันมีแบบไหนกันบ้าง

     

                    ก่อนอื่นเรามาดูคำว่าแฟนตาซีทั่วไปก่อน จากวิกีพีเดีย ระบุว่า นวนิยายแฟนตาซี (  Fantasy Fiction) เป็นจินตนิยายประเภทหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแฟนตาซี โดยรูปแบบพื้นฐานขเริ่มจากงานของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นรากฐาน  ซึ่งความจริงนิยายแฟนตาซีมันมีมานานแล้ว ก็คือตำนานเทพเจ้าจากที่ต่างๆ มหากาพย์กิชกาเมช, ตำนานเทพเจ้าอินเดีย, ตำนานเทพกรีก, บาบิโลนโบราณ   ฯลฯ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นวัตถุชั้นดีเป็นแรงบันดาล ผสมผสานเป็นนิยายแฟนตาซีอื่นๆ ต่อไป

                    นิยายแฟนตาซีทั่วไป ประกอบไปด้วยดาบและเวทมนตร์ ความเจริญต่าง ๆ อยู่ในขั้นของยุคกลางหรือยุคโบราณ มีเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติ และ/หรือ เทพเจ้า   เนื้อหาอาจเกี่ยวกับสงคราม, การต่อสู้,ผจญภัย มีปีศาจและสัตว์ประหลาดต่าง ๆ, มีฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรม, มีมังกร เขาวงกต   ซึ่งจะเอาสิ่งเหล่านี้ยกมาจากตำนานที่มีอยู่แล้วมาเป็นเป็นแรงบันดาลใจ หรือยกเมืองที่มีอยู่จริง เช่นเมืองเชียงใหม่มาเป็นแรงบันดาลใจมาแต่งนิยาย หรือจะแต่งขึ้นมาใหม่ก็ได้   เช่นสร้างเมืองในจินตนาการที่เป็นเมืองของคนแคระ เหมือทองก็ได้ ตราบใดที่เนื้อเรื่องและตัวละครมีความสอดคล้องกับรูปแบบนิยายนั้น

                    อย่างไรก็ตามแฟนตาซีก็ไม่มีอะไรตายตัว ไม่จำเป็นต้องยุคกลางเสมอไป เพราะปัจจุบันแฟนตาซีถูกแตกแขนง ใส่อะไรใหม่ๆ เข้าไป เช่น แฟนตาซีที่ฉากหลังเป็นยุคไซไฟ, แฟนตาซีที่ฉากหลังเป็นยุคปัจจุบัน, แฟนตาซีรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับการสร้างสรรค์

                    แล้วดาร์กแฟนตาซี (Dark fantasy) คืออะไร  ถ้าตอบง่ายๆ คือแฟนตาซีมืด เพราะดาร์กแปลว่ามืด และหากจะคิดถึงมืดก็ต้องนึกถึงความน่ากลัว  มืนมน  บรรยากาศไม่ไว้วางใจ และเมื่อเอามารวมกลับแฟนตาซีก็แปลว่าแฟนตาซีที่มีธีมที่น่ากลัว มืดมน หรือรู้สึกสยองขวัญและน่ากลัว

                    ความจริงนิยามของดาร์กแฟนตาซีค่อนข้างกว้าง คนแรกที่คิดค้นนิยามดาร์กแฟนตาซี ก็คือเกอร์ทรูด บาร์เน็ต เบนเน็ตต์ (Gertrude Barrows Bennett (  1884 –  1948) ซึ่งเธอถูกยกย่องว่าได้สร้างรูปแลลใหม่ของดาร์กแฟนตาซีเข้ามา  แต่ถึงอย่างนั้นเบนเน็ตต์น่าจะได้รับอิทธิพลจากเลิฟคราฟท์ และเอ เมอร์ริตต์ (A. Merritt)

     

                    อย่างที่บอกว่าดาร์กแฟนตาซีค่อนข้างมีความหมายกว้าง  แต่ก็มีความพยายามนิยามดาร์กแฟนตาซีว่า เป็นแฟนตาซีที่มีองค์ประกอบของสยองขวัญ น่ากลัว มีบรรยากาศมืดมน เช่น มนุษย์ขาติถูกคุกคามโดยกองกำลังที่มนุษย์ไม่สามารถต่อกรได้ตามลำพัง

                    บางครั้งดาร์กแฟนตาซีก็มีการเล่าเรื่องโดยเล่าจากมุมมองของสัตว์ประหลาด หรือการแสดงความเห็นอกเห็นใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ อย่างเช่น พวกแวมไพร์ไปจนถึงสัตว์ประหลาดแบบเลิฟคราฟท์ที่บางเรื่องก็ถูกจัดเป็นดาร์กแฟนตาซี แม้เนื้อหาจะเป็นโลกยุคปัจจุบันก็ตาม แต่ก็มีเรื่องเหนือธรรมชาติ จอมเวทย์มาเกี่ยวข้อง

                    ในขณะเดียวกันดาร์กแฟนตาซียังถูกยังถูกไปยังนิยามโลกดาบและเวทมนตร์ที่เนื้อหาเกี่ยวกับตัวเอกที่การการกระทำศีลธรรมออกไปทางเทาๆ บางการกระทำก็ถูกตั้งคำถามเรื่องศีลธรรม จริยธรรม ทำให้เนื้อหานิยายไม่ได้สดใส และค่อนข้างดราม่าสูง

                    แม้ว่าดาร์กแฟนตาซีหลายคน ที่มักนึกถึงคือ แฟนตาซีที่ตัวเอกมีชีวิตบัดซบ คนรักโดนข่มขืน โดนฆ่าตาย มีฉากเลือดสาด โหดร้าย สงคราม ความตาย เช่น ผ่าพิภพไททันเองก็เป็นดาร์กแฟนตาซี   อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง

                    แน่นอนมันก็เกิดปัญหาสำหรับคนที่ค่อนข้างไม่ถูกกับเรื่องพวกนี้ มันจึงเป็นโจทย์เหมือนกันว่าจะทำการ์ตูนยังไงให้คนอ่านทุกเพศสนุก คนที่ไม่ชอบแนวพวกนี้สามารถติดตามได้   อย่าง ผ่าพิภพไททันก็เป็นอีกดาร์กแฟนตาซีที่หลายคนชอบ จนโด่งดังมาแล้ว

                    เพื่อให้เห็นภาพ ก็ขอยกการ์ตูนดาร์กแฟนตาซี แน่นอนถ้าให้เอาตามนิยามมันก็ดาร์กหมดแหละ แค่มีฉากดราม่า ฆ่ากัน เลือดสาด ก็ดาร์กแล้ว ดังนั้นก็ขอยกแนวดาร์กแฟนตาซีที่มีเนื้อหาน่าสนใจ มีความสร้างสรรค์ และโลกถูกสร้างจากจิตนาการของผู้แต่ง ไม่เอาโลกปัจจุบันละกัน


     



    เริ่มต้นด้วยดาร์กแฟนตาซีที่เรารู้จักกันดี นั้นก็คือ Berserk แนวดาร์ค แฟนตาซี ผลงานของทาโร่ มิอุระ มีการดำเนินเรื่องเกิดขึ้นในยุคกลางของยุโรป ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

    Berserk เป็นดาร์กแฟนตาซีที่หลายคนยอมรับ และเนื้อหามันดาร์กจริงๆ ทั้งชีวิตของตัวเอกเรียกว่าชีวิตบัดซบ เกิดจากครรภ์ของผู้หญิงที่แขวนคอจนตายจนร่างเน่า ถูกหญิงสติไม่ดีเลี้ยง ได้เข้าร่วมทหารรับจ้าง ต้องฆ่าคนตั้งแต่เด็ก โดนผู้ชายข่มขืน เผลอฆ่าพ่อเลี้ยงเพราะป้องกันต้อง ได้เจอกลุ่มเพื่อนกองทัพเหยื่ยว แต่สุดท้ายเพื่อนตายหมด แถมคนรักโดนข่มขื่น เพราะโดนกรีฟีสถวายให้กับเหล่าเทพทูตและปีศาจทั้งหลาย เพื่อแลกชีวิตที่ดีกว่า

    หลังจากนั้นกัซก็เต็มไปด้วยความแค้น บ้าคลั่งออกไปจัดการสาวก  ทำให้ภาพขอฮีโร่แฟนตาซีที่มีแต่ความสะอาดกลับดูมืดมน เปื้อนเลือด  ไม่สวยงาม ดูแล้วไม่น่าคบ ดูแล้วอึดอัด ออกไปทางตัวร้าย มากกว่าฮีโร่แฟนตาซีญี่ปุ่นที่เรารู้จัก

    นอกจากนี้การเล่าเรื่องน่าสนใจ โดยแบ่งเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงเต็มไปด้วยเนื้อเรื่องที่เลือดสาด รุนแรง  ความโหด เรื่องเพศ ความตาย บรรยากาศมืดมน ไม่ได้สดใส มันสนุกตรงเราได้เห็นสไตล์การต่อสู้ของนักรบบ้าคลั่งกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่เหนือจิตนาการมนุษย์ สยองขวัญ น่ากลัว ที่มนุษย์ยากจะต่อกร แต่ตัวเอกสามารถเอาชนะได้ด้วยลูกบ้า และความฉลาดในช่วงความเป็นความตาย

    นอกจากนยี้เนื้อหายังเต็มไปด้วย ประเด็นศาสนา, ข่มขืน การสังหารหมู่ เด็กผู้หญิงบริสุทธิ์ถูกข่มขื่น และฆ่า  โลกของตัวเอกอยู่เป็นโลกยุคกลางที่ถือเป็นยุที่ป่าเถื่อน แต่ก็ยังมีมิติของแฟนตาซี พวกตำนานต่างๆ ซ่อนอยู่

     แม้ว่าช่วงหลังๆ บรรยากาศจะลดความตึงเครียด  ลดความโหดร้ายลง แล้วเน้นแฟนตาซีมากขึ้น แต่คนอ่านกลับไม่ชอบซะอย่างงั้น



     

    Made in Abyss เป็นผลงานของ ของอาจารย์ Tsukushi Akihito   เป็นเรื่องราวของหลุมและถ้ำขนาดใหญ่ที่เรียกว่า นรก  (Abyss)   ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ยังไม่มีการสำรวจบนโลก ข้างใต้นั้นเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่แปลกและมหัศจรรย์ รวมถึงวัตถุโบราณต่างๆ ที่มนุษย์ไม่รู้จักมาก่อน ทำให้มนุษย์บางส่วนอยากที่จะลงไปสำรวจ และนักผจญภัยเหล่านี้จะเรียกกันว่า Cave Raiders  ซึ่งตัวเอกของเรื่องคือ เด็กสาวกำพร้าริโค่ (Rico) ผู้มีความฝันว่าอยากจะเป็น Cave Raider อย่างเช่นแม่ของเธอ และไขปริศนาของระบบถ้ำนี้ จนวันหนึ่ง เธอได้เริ่มสำรวจถ้ำและพบเจอกับหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนกับเด็กหนุ่มเข้า การผจญภัยของเธอและหุ่นยนตร์เด็กหนุ่มนั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

    มองแค่ผิวๆ การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมือนดาร์กแฟนตาซีเลย เพราะบรรยากาศ ลายเส้นเหมือนการ์ตูนสำหรับเด็กสดใสมากกว่า หากแต่แท้จริงแล้ว มันคือแนวดาร์กแฟนตาซี ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ความน่าขยะแขยง ดราม่าปวดใขอีกเรื่อง มันคือแนวดำดิ่งความโหดร้าย ยิ่งหลุมลึกลึกมากเท่าไหร่ตัวเอกก็พบกับความลับที่น่ากลัวมากเท่านั้น

                    เป็นการ์ตูนที่หลอกคนดู มากกว่านำเสนอตรงๆ ว่านี่คือดาร์กแฟนตาซี มันหลอกล่อด้วยการสร้างดินแดนที่สวยงาม การผจญภัยของเด็ก ที่เต็มไปด้วยความฝันเหมือนการ์ตูนแฟนตาซีทั่วไป ก่อนที่การผจญภัยนั้นได้เปลี่ยนความสดใสกลายเป็นเปื้อนสิ่งดำมืด มันสยองขวัญ แต่มันไม่ถึงขึ้นแบบหนังผีโผล่มาตกใจ ตุ้งแช่ แต่มันเป็นความกดดัน ได้เจอความโหดร้ายเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะได้เจอ เจอด้านเลวๆ ของความโลภของมนุษย์ที่ทำกับเด็กน้อยบริสุทธิ์ และจำเป็นต้องผ่านพ้นไปให้ได้ นี่คือดาร์กแฟนตาซีที่เล่นกับจิตใจของคนในอีกรูปแบบหนึ่ง


     


    Drifters เป็นแนวต่างโลกที่เรียกเต็มปากว่าเป็นดาร์กแฟนตาซีอย่างแท้จริง และไม่ได้เน้นเรื่องชีวิตตัวเอกบัดซบแต่อย่างใด โดยเป็นผลงานของ Kouta Hirano เริ่มลงนิตยสาร Shonen Gahosha เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2009 (ปัจจุบันไม่จบ) ในประเทศไทยได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์สยามในชื่อ “Drifters  สงครามผ่ามิติ

    เนื้อหาของเรื่องเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ในแต่ละประเทศ ทุกยุคทุกสมัย (ส่วนใหญ่เป็นของญี่ปุ่น) ถูกเรียกตัวมายังโลกแฟนตาซีเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง ตัวเอกของเรื่องคือชิมาซึ โทโยฮิสะ (ตอนหลังบทไม่เด่นแล้วละ เมื่อเทียบกับบุคคลสำคัญคนอื่นๆ ที่โผล่มา)  ซึ่งเป็นขุนพลที่กำลังทำศึกในทุ่งเซกิงาฮาระหลังการต่อสู้กับอิอิ นาโอมาสะ แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะนาโอมาสะมาได้แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างที่เขากำลังเดินถ่อสังขารออกจากสนามรบในสภาพเลือดอาบอยู่นั้น จู่ๆ ชิมาซึก็ถูกชายสวมแว่นลึกลับส่งไปยังต่างโลก แฟนตาซียุคกลาง และได้พบกับโอดะ โนบุนากะและนาสึโนะ สึเคทาสะ โยอิจิบุคคลที่ควรตายนานแล้ว แต่กลับมีชีวิตอยู่ตรงหน้าและไม่ได้มีแต่พวกเขาสามคนเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆ อีกมากมายที่หลงเข้ามา ซึ่งเมื่อมายังดินแดนแห่งนี้พวกเขาจะถูกเรียกว่า ดริฟเตอร์” (ผู้พลัดหลง ผู้ที่ส่งมาจากโลกอื่น) และพวกเขาจะต้องสู้กับกลุ่มคนที่เรียกว่า เอนด์ (ผู้ลบล้าง ปีศาจที่ละทิ้งความเป็นมนุษย์ที่ถูกส่งมาจากโลกอื่น)

                    โควตะเป็นนักเขียนที่มีเอกลักษณ์ (และผลงานค่อนข้างเยอะ) ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหรือลายเส้น คือลายเส้นจะมืดๆ เส้นหนาๆ บรรยากาศมืดมน เถื่อน ฉากเลือดสาดกระจาย ฉากการตายพิสดาร แต่อย่างไรก็แฝงด้วยมุกตลกพอหอมปากหอมคอ  ล้วนเป็นเครื่องหมายการค้าของนักเขียนคนนี้

                   และเมื่อแนวต่างโลกที่ขึ้นชื่อว่าพล็อตซ้ำซาก มาอยู่นักเขียนมืออาชีพ ผลคือมันกลายเป็นแนวต่างโลกดาร์กแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์  เอาบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาใส่ในนิยาย แต่เนื้อหาไม่ได้เบาและสวยหรูแบบนิยายบางเรื่อง เพราะมันเต็มไปด้วยบรรยากาศมืดๆ ทึมๆ ฉากเลือดสาดกระจาย บางครั้งก็สอดแทรกฉากหดหู่ (ความตาย การข่มขืน เสียงกริ๊ดร้องทรมาน)

    แต่ที่ชอบคือมีเรื่องการเมือง เรื่องศาสนาให้ตีความกันเล่นๆ และที่ชอบที่สุดคือ การเป็นผู้นำเผ่าเอลฟ์ทำลายอาณาจักรมนุษย์นี้แหละ ที่ฉากสงครามทำได้มัน สนุกมาก สอดแทรกบุคลิกและมุกตัวละครในประวัติศาสตร์เข้าไปด้วย ดังนั้นหากต้องการดูการ์ตูนเรื่องนี้สนุกเต็มร้อย ก็ต้องอ่านประวัติศาสตร์ของตัวละครในเรื่องแต่ละคนควบคู่ไปด้วย ยิ่งรู้มากยิ่งอ่านสนุก ประวัติศาสตร์ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด


     


    Übel Blatt หรือชื่อไทยดาบคลั่งทวงแค้น เป็นผลงานของ Etorouji Shiono ตีพิมพ์ในนิตยสาร เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2009  ความจริงผลงานของคนวาดคนนี้มีหลายแนวมาก ตั้งแต่ตลกเบาปัญญา ไปจนถึงดราม่าเลือดสาดเลยทีเดียว และเรื่อง

    โดยเนื้อหาภายในเรื่องเต็มไปด้วยเรื่องที่จริงจัง เลือดสาด รุนแรง มีฉากข่มขืน ฉากเปลือย (แต่ตัวละครน่าอวย) ออกไปทางแนวแก้แค้น การเมือง  การหักหลัง ดราม่า  

     เนื้อเรื่องในการ์ตูนค่อนข้างสนุกมาก (ตัวละครอาจเยอะไปหน่อย) โดย  Ubel Blatt เป็นเรื่องราวของพระเอกมากด้วยปริศนานาม เคนท์เซล โลกที่พระเอกอยู่นั้นเป็นโลกจินตนาการสมัยยุคกลาง ที่เต็มไปด้วยสงคราม คนแข็งแกร่งรังแกของคนอ่อนแอ คนดีไม่ก้าวหน้า คนชั่วเจริญหน้าที่การงาน การแบ่งเชื้อชาติ การสังหารหมู่เผ่าพันธุ์ การเมืองร้อนฉ่า บ้านเมืองไม่สงบสุข ฯลฯ

    ตอนแรกเคนท์เซลปรากฏตัวที่ชายแดน หากใครที่เห็นพระเอกเคนท์เซลเป็นหนุ่มน้อยธรรมดาและประมาทละก็ คนที่ดูถูกเหล่านั้นคงดับดิ้นลงอย่างง่ายดายโดยไม่ทันได้จับดาบ หากเมื่อใดที่เห็นเคนท์เซลความอยุติธรรม พวกโจร พวกทรราช คนแข็งแกร่งรังแกคนอ่อนแอกว่าอยู่ตรงหน้า เขาจะฆ่าคนเหล่านั้นด้วยฝีมือดาบที่เก่งเกินมนุษย์อย่างง่ายดาย เหมือนกับเทพสงครามมาจุติลงมาเกิดจริงๆ

    จุดมุ่งหมายของเคนท์เซลมีเพียงอย่างเดียวคือการสังหารกลุ่ม  ที่เรียกตัวเองว่า 7 ผู้กล้า ซึ่งอดีตกลุ่มคนเหล่านั้นเคยหักหลังเขาและเพื่อนอีก 3 คน  และเจ็ดคนเหล่านั้นต่างเป็นใหญ่เป็นโตกันทั่วหน้า

    เนื้อหาการ์ตูนมีจิกกัดสังคมอย่างมีนัยยะ เจ็ดผู้กล้าที่ภายนอกเป็นนักบุญ แต่ความจริงเต็มไปด้วยจิตใจสกปรก ใช้อิทธิพลเสวยความสุขแก่ตัวเอง ทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็น การสังหารหมู่, หื่นกามราคะ, ก่อสงคราม เพื่ออำนาจและความเป็นใหญ่ แม้เบื้องหลังมันจะโหดร้ายอย่างไร ผู้เกี่ยวข้องก็ไม่ต่อต้าน กลับตามน้ำให้พวกเจ็ดผู้กล้ากระทำชั่วต่อไปไม่สิ้นสุด เพราะว่าเจ็ดผู้กล้าคือศูนย์รวมเครื่องยึดเหนียวของประชาชนที่ต่างรักและศรัทธา หากเจ็ดผู้กล้าเป็นอะไรไป การล่มสลายของอาณาจักรนี้บังเกิดขึ้นแน่

    เคนท์เซลแทบรับไม่ได้กับความจริงที่อยู่ตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงปฏิญาณกับตัวเองว่าจะสังหารเจ็ดผู้กล้าจอมหลอกลวงนั้นให้สิ้น แม้เขาจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเขาก็จะทำ

    เนื้อหาของเรื่องอ่านมีการย้อนอดีต หรือมีเกร็ดเรื่องราวเล่าเรื่องโลกของตัวเอกนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นตระกูลขุนนางในเรื่อง, พิธีกรรม, เผ่าพันธุ์, สงครามในอดีต กลุ่มทหารรับจ้าง แต่มันก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวและมีน้ำหนักมากขึ้น ซับซ้อนขึ้น ดูยิ่งใหญ่ขึ้น  (แต่เรื่องที่ว่าภารกิจที่พระเอกไปทำนี้ ผมว่าควรเฉลยตั้งแต่แรกนะ มันโครตคาใจที่สุดจริงๆ)


     

    Overlord

     

    Overlord เป็นผลงานของ Maruyama Kugane โดยเป็นเรื่องราวในปี 2138  ตัวเอกเป็นพนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง เขาชื่นชอบเล่นเกมออนไลน์อิกดราซิล (Yggdrasil) ซึ่งเป็นเกม DMMO-RPG ชั้นแนวหน้าตั้งแต่  2126-2136  (เป็นเกมแนวแฟนตาซีในตำนานนอร์ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งต่างๆ มากมาย)

    ในเกมตัวเอกใช้ชื่อในตัวละครว่า โมมอนกะ(กระรอกบิน) อาชีพเป็น เป็นอาร์คลิช (Archlich) เป็นเผ่าอมมนุษย์ มีพลังเวทมนต์มหาศาล มีชื่อเสียงเป็นหัวหน้าผู้ดูแลกิลด์ Ainz Ooal Gown กิลด์ที่มีศูนย์รวมเผ่าพันธุ์อมนุษย์ มีสมาชิก 41 คน (ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้ง แต่เป็นผู้สืบทอดจากหัวหน้าคนเก่าอีกที) แม้ว่าสมาชิกจะน้อยกว่ากิลด์อื่น หากแต่ละคนมีความเก่งกาจ มีความสามารถ แถมมีชื่อเสียงในด้านการโจมตีและมีฐานทัพ (นาซาลิกซ์) ติดระดับแนวหน้า ว่าเป็นดันเจี้ยนกิลด์ไม่เคยมีผู้ใดสามารถเอาชนะได้

     อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา จากเกมยิ่งใหญ่ก็กลายเป็นอดีต เมื่ออิกดราซิล มีอันต้องปิดตัวลง ในวันที่เกมปิดตัวลง โมมอนกะได้ตัดสินใจที่อยู่เฝ้าจนถึงวินาทีสุดท้ายของวันทำการ ทว่าเวลาได้เลยผ่านกำหนดการปิด โมมอนกะไม่สามารถทำการออกจากเกมได้ และเริ่มค้นพบว่า เขาได้กลายเป็นดาร์กเนส อีกทั้ง NPC ในกิลด์ต่างพูดได้ มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง  และยังค้นพบกับความจริงว่าโลกที่เขาอยู่ไม่ใช่ เกม อิกดราซิล อีกต่อไป แต่เป็นโลกใบใหม่ทั้งใบ

    ความสนุกของเรื่องนี้ ไม่ใช่เน้นเรื่องความเก่งเทพของพระเอก แต่เป็นเรื่อง สิ่งที่พระเอกจะทำกับโลกใบนี้ และเหล่าตัวละคร (เหยื่อ?) ที่เข้ามาในชีวิตโมมอนกะ มากกว่า แน่นอนว่ามันจัดว่าเป็นดาร์กแฟนตาซีเพราะมีฉากดาร์กหลายฉาก ฉากฆาตกรรม ฉากรุนแรงเลือดสาด รวมไปถึงเรื่องราวชีวิตของตัวละคร การพบจุดจบของตัวละครบางคัวที่หลายคนอินมาก การกระทำของตัวเอกก็ออกไปทางเทาๆ และมีการจั้งคำถามความถูกต้องของตัวเอกเยอะเหมือนกัน 

     Overlord ได้แสดงให้เห็น นิยายมีความน่าสนใจ มีเสน่ห์ ในตัวของมัน ทั้งๆ ที่เป็นแนวจอมมาร แนวเกิดใหม่ต่างโลก ด้วยการสร้างตัวเอกให้มีลักษณะโดดเด่น รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ ที่มีสีสันและการออกแบบที่มีลักษณะโดดเด่นมีเสน่ห์ทำให้เราอดที่จะติดตามต่อว่าตัวละครนี้จะดำเนินเรื่องไปในทิศทางไหน และมีความเก่ง มีสกิลโกง จะเล่ายังไงให้น่าสนใจ  

    ที่น่าสนใจคือนิยายขยายเนื้อเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ปกตินิยายแนวนี้จะน่าเบื่อมาก เพราะจะต้องถูกยัดเยียดข้อมูลหลายหน้า แต่นิยาย Overlord ใช้วิธีค่อยขยาย ค่อยเรียนรู้ อธิบายในส่วนที่ทำให้กระจ่าง gเสมือนโมมอนกะรวบรวมข้อมูลในเรื่องแบบใจเย็นไม่รีบร้อนนั้นเอง

                    ยกตัวอย่างคราวๆ ก็มีประมาณนี้  ความจริงแนวดาร์กแฟนตาซีดังๆ ก็มีเยอะ แต่ผมก็ไม่อยากเอามาpกตัวอย่างมากนักเพราะไม่ได้ดู

                    จากที่ดูตัวอย่าง เราจะเห็นดาร์กแฟนตาซีออกไปทางดาร์ก รุนแรง เลือดสาด มีฉษกโป๊เปลือย ทางเพศ เกือบทุกเรื่อง แต่ผมมีความเห็นว่าดาร์กแฟนตาซีบางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องเลือดสาดเสมอไป มันอาจจะเล่นเรื่องการล่มสลายของมนุษย์ชาติ เล่นมุกมืดๆ ทึมๆ   อย่างนิยายเลิฟคราฟท์กก็ถูกยกว่าเป็นแนวดาร์ก  หากใครได้อาจจะรู้ดีว่านิยายของเลิฟคลาฟท์ไม่เน้นเรื่องซากศพมากนัก ความรุนแรงไม่มี แต่เน้นบรรยายกาศ สิ่งลึกลับ ตัวเอกเกิดสถาวะทางจิตรุนแรง ความหวาดกลัวของมนุษย์

                    การผจญภัยของคิโนะเองบางตอนก็ออกไปทางดาร์กแฟนตาซี แม้เนื้อหาจะรุนแรง แต่สิ่งที่ดาร์กกลับเป็นการเล่าเรื่อง เน้นประเด็นความโหดร้ายของมนุษย์ สัญลักษณ์ทางการเมือง การจิกกัดสังคมอยู่ไม่น้อย ผมยังรู้สึกแย่ตอนที่คิโนะฆ่าชายสามคนและมาพบว่าชายสองคนนั้นฆ่าแม่ลูกเพื่อกินอาหารเพื่อรอดชีวิตหิมะหนาวเย็นอยู่เลย

                   

    ที่เขียนบทความนี้ ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้แนวต่างโลกดาร์กแฟนตาซีจะค่อนข้างน่าเบื่อไงไม่รู้ (เท่าที่เห็น) คือ พล็อตมันคล้ายๆ กัน คือพระเอกมีชีวิตบัดซบ โดนรังแก ถึงขั้นเอาให้ตาย ตอนหลังพระเอกก็กลับมาแก้แค้นคนที่ทำกับเขาสาสม ก็มีคนตาย ก็มีฮาเร็ม ตามประสา แต่มสำหรับผมแล้วมันเป็นพล็อตที่ไร้รสนิยม มันดาร์กก็จริง แต่เราไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้เลย

    ดาร์กแฟนตาซีสำหรับผมแล้ว ไม่ได้อยู่ที่เลือดสาดสะใจ เอามันเข้าว่า มันสนุกตรงการเล่นประเด็นจิตกัดสังคม  การเมือง ศาสนา สิ่งยากๆ รวมถึงการเล่นบรรยากาศความมืดมากกว่า อย่างเกม ดาณืกโซล หรือบลัดบอร์นเองเราก็เห็นการสอดแทรกสัญญลักษณ การเล่าเรื่องที่ละเอียด สร้างโลกนิยายแฟนตาซีแบบนีร้ได้

                    จะว่าไป ผมเห็นความคิดเห็นหนึ่งที่น่าสนใจ มีคนหนึ่งให้ความคิดเห็นว่าดาร์กแฟนตาซีพระเอกมาแก้แค้นหรือเอาคืนสะใจ เกิดมาจากสามอย่าง คือ

    -หนึ่งคนอ่านชอบพระเอกที่เก่ง ไม่อยากเห็นใครเก่งกว่าพระเอก และไม่ชอบแบบฝึกวิชา สะสมประสบการณ์กว่าจะเก่ง

                    -สอง ชอบพระเอกใช้พลังเหนือกว่า ทำทุกอย่างถูกไปหมด และทำร้ายศีตรูแบบสะใจพระเอกเดชพระคุณ แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะผิดก็ตาม

                    -สาม แต่ลึกๆ แล้วหลายคนคงไม่ชอบพระเอกเกรียน ชอบฆ่าฟัน  ดังนั้นเพื่อให้เกิดเหตุผลรองรับ ก็คือทำให้พระเอกมีชีวิตบัดซบ โดนกดขี่ โดนหักหลัง เพื่อให้มีเหตุผลอันชอบธรรมที่ทำให้ตอบโต้ด้วยความรุนแรงได้

                    นิยายแนวประเภทนี้ผมเห็นมีเยอะพอควร และต้องทำใจว่าอาจเห็นแนวแบบนี้มากในอนาคต  แต่ถึงมากจะมาก แต่ขอบอกว่าดาร์กแฟนตาซีมันมีอะไรน่าสนใจมากกว่าการแก้แค้นและเลือดสาด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×