ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #499 : 10 คนดังของญี่ปุ่นที่คนอ่านการ์ตูนต้องรู้จักบ้างแหละ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.11K
      12
      27 ธ.ค. 61

                   สำหรับบทความนี้ ความจริงอยากเขียนในเพจนะ แต่ผมว่ามันค่อนข้างยากพอสมควรในการเรียบเรียงเนื้อหา ลงในบทความมันแก้ไข ปรับเปลี่ยนง่ายกว่า

                    คือเรื่องของเรื่อง คือเราเป็นคนไทยใช่เปล่า และเรามักมีปัญหาทุกครั้งที่ดูการ์ตูน ที่มีจุดไม่เข้าใจ  ไม่เพียงแค่มุกเล่นคำญี่ปุ่น, ประวัติศาสตร์, เชิงอรรถมากมาย ที่เราต้อง งง กับมุกมากมาย และสิ่งที่หลายคน งง ที่สุดก็คือ คนดังของญี่ปุ่น

                    เวลาเราดูการ์ตูน เรามักเห็นหลายเรื่องมักมีตัวละครที่มีแรงบันดาลใจจากบุคคลสำคัญของญี่ปุ่น ก็มีทั้งมาแซว หรือมาเป็นตัวละครในเรื่องนั้นเลย ดังนั้นในบทความนี้ ผมจะพยายามรวบรวมบุคคลดังของญี่ปุ่นที่ปรากฏในการ์ตูน (ไม่เอาพวกที่รู้จักดีอยู่แล้ว อย่าง โนบุนากะ พวกซามูไรทั้งหลาย จะเน้น พวกคนดัง ยุค 19-20 มากกว่า)

     

    ไอโกะ กิโบะ (Aiko Gibo)

                  

                รู้หรือไม่ว่าญี่ปุ่นเองก็มีรายการคนอวดผีที่เรตติ้งดีพอใช้เลยทีเดียว  และหากจะพูดถึงคนดังในตำนานในวงการนี้ก็คือ ไอโกะ กิโบะ  ถ้าจะเอาง่ายๆ ก็คือเจน ญาณทิพย์ของญี่ปุ่นนั่นเอง

                    สำหรับคนอ่านการ์ตูนแล้ว หลายคนคงคุ้นเธออยู่บ้าง จาก - Magazine Mystery Reportage มีชื่อไทยว่า “MMR ปรากฏการณ์พลิกโลก (มาเป็นดารารับเชิญสัมภาษณ์เรื่องผีๆ ให้พวกพระเอกฟัง) กับ ซาว่าฮายกครัว เล่มแรกๆ โดยเธอคนนี้เป็นผู้ที่อ้างว่ามีญาณวิเศษเห็นภูตผี และอ้างว่ามีวิญญาณผู้พิทักษ์เป็นพี่ชายที่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก

                    ไอโกะ กิโบะมีชื่อเสียงในวงการคนเห็นผี เพราะเธอเดินทางไปที่ต่างๆ ที่ลื่อว่ามีผีดุไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น หรือต่างประเทศ ซึ่งเธอสามารถพูดคุยกับคนตายได้ ซึ่งหลายครั้งที่เธอทำให้หลายคนเชื่อว่าเธอมีญาณวิเศษจริง

                    ปี 1992  มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไอโกะไปเยือนMary King's Close ในเป็นอดีตบย่านเมืองใน เอดินบะระ, สกอตแลนด์ เคยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ กาฬโรค  และมีคนตายจนนานมาก   พื้นที่แห่งนี้จึงกลายเป็นเมืองผี และบ้านร้างและถูกปิดตายไอเกะได้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ตอนแรกๆ เหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเธอ  จนกระทั่งไอโกะได้เธอได้ปฏิเสธที่จะเข้าห้องหนึ่ง เธอเริ่มรู้สึกแย่มากๆ  เพราะมันเต็มไปด้วยความเจ็บป่วย ความหิว และหนาวเย็น หากแต่ต่อมาเธอก็เข้าไปข้างใน เมื่อถามว่าทำไมเธอเปลี่ยนใจ เธอบอกว่าได้รับเชิญโดยวิญญาณของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง  เด็กสาวบอกว่าเธอชื่อแอนนี่ และบอกว่าเธอเสียชีวิตไปเมื่อนานมาแล้วจากเหตุภัยพิบัติ แอนนี่รู้สึกเศร้าเพราะตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ครอบครัวทิ้งเธอ และเธอก็ทำตุ๊กตาของเธอหาย  

        จากนั้นไอโกะก็ไปซื้อตุ๊กตาบาร์บี้สำหรับแอนนี่และทิ้งไว้กลางห้อง นับตั้งแต่ตุ๊กตาบาร์บี้ตัวเดียวก็เพิ่มจำนวนขึ้นจนกลายเป็นกองของเล่น และนอกจากนี้ก็เงินที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ เพราะแอนนี่ชอบโยนเหรียญไปรอบห้อง ก่อนที่คนอื่นจะเดินทางออกจากห้อง    กลุ่มนักท่องเที่ยว ยังอ้างด้วยว่ามีหลายคนมีความรู้สึกเหมือนมีมือเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นสัมผัสกับพวกเขา  และบางคนกลับมาก็เกิดล้มป่วยหลังจากนั้น

    ไอโกะมีชื่อเสียง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ลัทธิโอมชินริเกียว ที่เป็นลัทธิที่ใช้เรื่องญาณวิเศษให้คนภายนอกงมงาย จนก่อเกิดโศกนาฏกรรมก่อการร้ายด้วยซาริน ผลคือทางการญี่ปุ่นเริ่มควบคุมพวกลัทธิงมงาย ไปจนถึงการจำกัดรายการเหนือธรรมชาติให้ลดลง แล้วเน้นรายการที่มีหลักเหตุผลมากขึ้น แถมช่วงหลังๆ พวกรายการเหนือธรรมชาติ ก็เริ่มมีเนื้อหาไม่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น รูปถ่ายผีที่ดูก็รู้ว่ามันตัดต่อ

                   เรื่องราวของไอโกะ กิโบะถูกสร้างเป็นการ์ตูนมังงะ ในขื่อ Gibo Aiko no Gakkou no Kowai Hanashi ,มีสามเล่มจบ

                ไอโกะ กิโะเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 71 ปี จากโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เมื่อปี 2003 แต่ชื่อของเธอยังคงเป็นที่สนใจ และมีหนังสือหลายเล่มที่เธอเขียน 

     

    อันโตนิโอ อิโนกิ (Antonio Inoki)

                   

                 หากพูดชื่ออันโตนิโอ อิโนกิหลายคนอาจไม่รู้จัก หากแต่ถ้าพูดว่าเขาคือส.ส.ขี้แตกจากโซาว่าายกครัวหลายคนคงรู้จัก

    อิโนกิ (ชื่อเกิด คันจิ อิโนกิ) เขาเกิดในครอบครัวร่ำรวยในโบโกฮามา เมื่อปี 1943 เป็นลูกคนสุดท้ายของพี่น้องหกคน พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจและนักการเมืองที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก อิโนกิมีความหลงใหลศิลปะต่อสู้ ได้เรียนคาราเต้ เคยเข้าทีมบาสเกตบอลเพราะเขาตัวสูงถึง 180 เมตรช่วงมัธยมปลาย และเคยเข้าชิงแชมป์โรงเรียนมัธยมด้วย

    อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของอิโนกิเริ่มประสบปัญหาทางการเมืองหลังสงคราม ทำให้ครอบครัวต้องอพยพไปบราซิล

    อิโนกิเริ่มมีชื่อเสียงจากมวยปล้ำอาชีพที่เป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ยอมรับมากที่สุดของคนญี่ปุ่น  แถมเคยขึ้นเวที WWE หรือ WWF และจบลงด้วยชัยชนะของอิโนะกิส่งผลให้เขาเป็นแชมป์โลกคนใหม่ของ WWF

               ต่อมาอิโนกิก็เกษียณอายุ แล้วหันไปเล่นการเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน เคยเจรจาประสบความสำเร็จกับซัดดัมฮุสเซนเพื่อปล่อยตัวประกันญี่ปุ่นก่อนที่ สงครามอ่าว  ปัจจุบันอันโตนิโอ อิโนกิ ยังคงมีความสุขดี และยังคงจัดกิจกรรมเกี่ยวกับมวยปล้ำญี่ปุ่นและศิลปะการต่อสู้ผสมผสานอยู่

    โดยจุดเด่นของอิโนกิอยู่ที่คางยื่น จนเหมือนสมรักษ์คำสิงห์ ตัวใหญ่ หากลุคนักการเมืองจะใส่สูทและมีผ้าพันคอ (สีแดง ไม่ก็สีขาว) พาดบ่า

    นอกจาก ซาว่าายกครัวแล้ว อิโนกิยังปรากฏตัวการ์ตูนหลายเรื่อง  (ที่ส่วนใหญ่เป็นแนวศิลปะต่อสู้) เช่น บากิ, Kengan Asura  (ไม่เคยดู) , หน้ากากเสือ (เป็นคนไม่กี่คนที่เอาชนหน้ากากเสือได้ และทั้งสองก็เป็นเพื่อนสนิทกัน) , The Hulk Hogan Manga  และเคยมีการ์ตูนเรื่องราวของตัวเองแล้ว ในชื่อ Giant Baba x Antonio Inoki (นอกเหนือจากนี้ก็มีการ์ตูนบางเรื่อง ชอบ กินทามะ ที่ตัวละครคางุยะชอบแซวอิโนกิด้วยการทำคางยื่นนั้นแหละ)

    ปัจจุบันเราสามารถดูคลิปการปล้ำของอิโนกิได้ที่ยูทูป โดยแม็กซ์ที่ดีที่สุดคือ Muhammad Ali vs Antonio Inoki


    ไจแอนด์ บาบะ (Giant Baba)


    เมื่อพูดถึงอันโตนิโอ อิโนกิไปแล้ว ไม่พูดถึงไจแอนด์ บาบะ ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาคือตำนานนักมวยปล้ำญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล เคียงข้างอันโตนิโอ อิโนกิที่เป็นคู่หู

    ไจแอนด์ บาบะ หรือ  โชเฮย์ บาบะ เกิดใรรีงาตะ ปี  1938 เป็นลูกชายคนที่สองของพ่อค้าผักผลไม้  บาบะก็ช่วยทำงานบ้าน  (พร้อมกับหนีระเบิดจากเครื่องทิ้งระเบิดญี่ปุ่นไปด้วย) เพราะเป็นช่วงญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 )

    ก่อนที่จะเข้าวงการมวยปล้ำอาชีพเขาเคยเป็นนักเบสบอลอาชีพ แต่ไม่กี่ปีเขาก็เลิกเล่นเบสบอล เพื่อเข้าสู่วงการมวยปล้ำญี่ปุ่น เพราะเขาคดว่าน่าจะทำให้วงการนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น  

    ไจแอนด์บาบะกลายเป็นผู้ก่อตั้งสมาคม AJPW (All Japan Pro wrestling) ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1972 ผู้ปูทางให้สมาคมเดินไปตามแบบแผนสร้างมวยปล้ำอาชีพญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว ด้วยสไตล์การปล้ำที่จริงจัง เน้นคุณภาพบนเวทีล้วน ๆ และนั้นทำให้  ช่วงยุค 80/90 วงการมวยปล้ำของญี่ปุ่นบูมมาก พร้อมกับให้นักมวยปล้ำหลายคน สร้างชื่อไม่ว่าจะเป็น  Bruiser Brody, Stan Hansen, Jumbo Tsuruta, Mitsuharu Misawa, Kenta Kobashi, Genichiro Tenryu

    ไจแอนด์บาบะมีจุดเด่นคือตัวใหญ่ยักษ์สมกับชื่อ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะคู่หูของอิโนกิ สร้างชื่อเสียงจากการปล้ำหลายแมตท์ ก่อนที่จะเกษียณตนเอง (แต่ยังคงปล้ำบ้างบางโอกาส) และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 1999

    ในฐานะไจแอนด์ บาบะเป็นตำนานมวยปล้ำของญี่ปุ่น ทำให้เขาปรากฏการ์ตูนหลายเรื่องมาก หลักๆ ก็ หน้ากากเสือ, ซาว่าายกครัว, บากิ  นอกจากนี้ยังมีการ์ตูนที่เขาเป็นตัวเอกคือ po Apo World: Giant Baba 90-bun 1-hon Shoubu


    อินางาวะ จุนจิ (Junji Inagawa) 


    อินางาวะ จุนจิเกิดวันที่ 21 สิงหาคม 1947 ที่เมืองชิบูยะ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เขามีชื่อเสียงจากการเป็นนักแสดง และผู้อำนายการสร้าง

    จุนจิมีชื่อเสียงจากการเป็นนักเล่าเรื่องผีทางวิทยุตอนเด็ก (ง่ายๆ ก็คือพี่ป๋อง ของคนญี่ปุ่นนั้นแหละ) ด้วยจุดเด่นตรง “หนวด” เครื่องหมายการค้า กับเครื่องแต่งกายสีขาวเหมือนเครื่องแต่งกายศพญี่ปุ่น อีกทั้น้ำเสียง การแสดงท่าทาง   ทำให้เรื่องผีที่เขาเล่าน่ากลัวมาก ทำให้ได้รับความนิยม

    นอกจากนี้จุนจิยังทำทุกอย่างในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น ละครโทรทัศน์ (มากมายหลายเรื่อง มีเกือบทุกแนว), ละครวิทยุ, ภาพยนตร์ (ทั้งนักแสดง คนสร้าง), นักเขียนนิยายสยองขวัญ  เกม (ส่วนใหญ่เป็นแนวฟังจุนจิเขาเล่าเรื่องสยองขวัญนั้นแหละ) อนิเมะสปีนออฟจากเรื่องเล่าของจุนจิ

    ผลงานคร่าวๆ ก็มี Shinrei (1996), RinbuChairman(1988)  Kataribe (2014) ฯลฯ (ส่วนใหญ่บ้านเราไม่รู้จัก)

    ในการ์ตูนก็ปรากฏในซาว่าายกครัวและเป็นตัวละครในการ์ตูนของจุจิ อิโต้มาแล้ว Inagawa Junji no Sugo: Ku Kowai Hanashi


    มาซาโนริ ฮาตะ (Masanori Hata)

    มาซาโนริ ฮาตะ (เกิดวันที่ 17 เมษายน 1935) เป็นนักสัตววิทยาชาวญี่ปุ่น และยังเป็นนักเขียน (นามแฝง Mutsugoro)  และผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยม

                    เกิดในจังหวัดฟุกุโอกะ จบการศึกษาจากคณะชีววิทยาที่มหาวิทยาลัยโตเกียว และสำหรับการศึกษาประดับปริญญาโท และเป็นนักสัตววิทยา จากนั้นก็เริ่มเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่เน้นเรื่องธรรมชาติ จนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของชายที่นี้ไป ด้วยภาพลักษณ์ชายแก่ที่ชื่นชอบธรรมชาติ และรักสัตว์ (มีสัตว์เลี้ยงมากมายหลายตัว)  และบ้านอยู่ฮอกไกโด (ทำให้คนมองฮอกไกโดเป็นแหล่งธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ไปด้วย)

                    นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนมีผลงานกว่า 100 เล่ม (แน่นอนว่าเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ) และผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ  The Adventures of Milo and Otis (1986) การผจญภัยของไมโลกับโอติส ซึ่งเป็นเรื่องการผจญภัยของแมวเหมียวสีส้มกับหมาพันธุ์ปั๊ก ด้วยเนื้อหาเบาๆ น่ารักทำให้ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปีในประเทศญี่ปุ่น 36 ล้านเหรียญ จนกลายเป็นภาพยนตร์ในตำนานของญี่ปุ่น

                    (แม้ว่าภาพยนตร์จะน่ารัก แต่ถูกวิจารณ์ว่าเบื้องหลัง คือความทารุณสัตว์ เพราะหลายฉากในภาพยนตร์บ่บอกชัดเจนว่าตัวละครสัตว์ในเรื่องน่าจะได้รับบาดเจ็บแน่นอน  ไม่ว่าจะเป็นฉากลูกแมวตกลงจากหนาผา หรือฉากหมาสู้กับหมี ฉากเสี่ยงอันตรายต่างๆ มีข่าวลือว่าลูกแมวกว่า 20 ตัวต้องเสียชีวิตระหว่างถ่ายทำ แม้ว่าจะมีความพยายามสืบสวน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาข้อเท็จจริงว่าข่าวลือนั้นเป็นจริงหรือไม่

                    ในการ์ตูนญี่ปุ่น มาซาโนริ ฮาตะปรากฏออกมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น โอซาว่า ฮายกครัว, - Katte ni Kaizo ตามใจนายไคไซ, ส่วนใหญ่จะยืมคาแร็คเตอร์ ไม่ก็แซวกัน


    มาซึทัทสึ โอยาม่า (Masutatsu Oyama)

                   

    มาซึทัทสึ โอยาม่า(1923-1994) เป็นนักสู้ชาวญี่ปุ่นและผู้ก่อตั้งสำนักคาราเต้ เคียวคุชิน คาราเต้สายดังเดิมที่มีความเก่งกาจ และเขาอาจเป็นต้นแบบมุกการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องที่ตัวเอกอยากเก่งต้องไปฝึกวิชาที่ภูเขา เพราะเขาชอบฝึกฝนตนเองบนภูเขานั้นเอง โดยจากประวัติเขาเริ่มเรียนศิลปะป้องกันตัวเมื่ออายุแค่ 9 ขวบ และกลายเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวโดยเฉพาะยูโดและคาราเต้ อายุแค่ 20 ปีเขาก็ได้สายดำยูโด ต่อไปเขาก็ไปเก็บตัวฝึกตัวคนเดียวบนภูเขาเพื่อความแข็งแกรงทางจิตใจและร่างกาย

    เมื่อออกจากภูเขาก็กลายเป็นสุดยอดแห่งนักสู้ เขาสามารถเอาชนะกระทิงด้วยมือเปล่า พร้อมทั้งหักเขากระทิงถึงสี่สิบเก้าตัวและฆ่ามันตายคามือถึงสามตัว ต่อมาก็ออกจากประเทศไปโชว์ตัวที่อเมริกาและสู้กับพวกมวยปล้ำและนักสู้อื่นๆอีกมาก(เดาว่าไม่มีมวยไทย) เขาชนะหมด จนคนอเมริกันตกใจว่า หมอนี้มันเทพจุติหรือเปล่าเนี้ย?

    โดยภาพลักษณ์ของเขาที่น่าจดจำคือเขาเป็นมิสเตอร์คาราเต้ที่เก่ง แข็งแกร่งมาก โดยมักมีคลิปสามารถทำลายอิฐบล็อกหลายก้อนด้วยมือเปล่ามือเดียว ต่อมาเขาก็ตั้งสำนักคาราเต้และมีลูกศิษย์มากมายและแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดแล้ว และเขาเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 70 ปีด้วยโรคมะเร็งปอด

    มาซึทัทสึ โอยาม่าเป็นคนดังที่เป็นแรงบันดาลใจสร้างตัวละครริว (สตรีทไฟเตอร์) และเคยมีมังงะเป็นของตัวเองในชื่อ Karate Baka Ichidai หรือ Karate Master (19711977) จำนวน 29 เล่มจบ และทำเป็นอนิเมะ เคยฉายทางช่อง 9 (ไม่รู้ฉายจบหรือปล่า เพราะมีตั้ง 47 ตอน)  แบะมุกแซวจำพวกตัวละครชายที่ทำท่าเข้ม กล้าม ชุดคาราเต้ นั้นแหละแซวมิสเตอร์คาราเต้


    มาจิโกะ โซกะ (Machiko Soga)

                   

                   สำหรับแฟนเซ็นไตอาจจะรู้จักกันดีในฐานะนางพญาวายร้ายคลาสสิกที่เป็นจดจำของเหล่าเซนไต (จะทำให้ผมชอบเซนไตหลายเรื่องในเวลานั้น เอาง่ายๆ ชอบมากกว่าพวกตัวเอกอีก )

    มาจิโกะ โซกะเป็นนักแสดงหญิงญี่ปุ่น เกิดในเมืองฮาจิโอจิ โตเกียว  วันที่ 18 มีนาคม 1938 มีพรสวรรค์ในการเป็นนักร้อง แต่เธอพบว่าเธอเหมาะในการเป็นนักแสดงมากกว่า  โดยบทบาทแรกๆ คือเป็นนักแสดงละครวิทยุ และเริ่มไต่เต้าเป็นนักแสดงเซนไต และเริ่มจดจำในฐานหัวหน้าวายร้าย โดยมักแสดงเป็นนางพญาที่มีเสียงหัวเราะเอกลักษณ์  และถึงแม้จะเป็นตัวร้าย แต่ก็เป็นตัวร้ายที่มากไปด้วยเสียงหัวเราะ ปล่อยมุกตลก ที่ทำให้หลายคนเกลียดไม่ลง

                     หลายคนอาจจดจำมาจิโกะ โซกะจากบทแม่มดบันโดร่า จากเรื่องจูเรนเจอร์ แต่ความจริงแล้วเธอเป็นนักแสดงมากฝีมือของวงการที่ผูกขาดบทหัวหน้าตัวร้ายของเซนไตและฮีโร่ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น

                    แบทเทิลฟีเวอร์ เจBattle Fever J / Death Mask Monster (เสียง))

                    ขบวนการไฟฟ้า เด็นจิแมน / นางพญาเฮเดรียน

    Hikari Sentai Maskman/ลาราบ้า  (Laraba)

    Kyoryu Sentai Zyuranger /แม่มดบันโดร่า

    และพวกซีรีย์ตำรวจเกราะเหล็ก อย่าง ควีนเพนโดร่า ใน Jikuu Senshi Spielban

    และเชื่อหรือไม่ว่าเธอเป็นผู้พากย์เสียง Cyborg 007  จาก Cyborg 009 (ทั้งซีรีย์และภาพยนตร์ 1966-1968) และเป็นผู้พากย์เสียง ผีน้อยคิวทาโร่ (Obake no Q-taro)

    โซกะ จากเราไปในปี 2006 โดยบทสุดท้ายที่ได้แสดงก็คือ มาจิเอล นางฟ้าจอมเวทย์ในขบวนการมาจิเรนเจอร์


                    ฟุคุซาวะ ยูคิจิ  (Fukuzawa Yukichi)


    คำถาม เวลาที่เราอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เรามักเห็นคนดังคนไหนมากที่สุด คำตอบก็คือ ฟุคุซาวะ ยูคิจิ (หลายคนอาจ งง เขาเป็นใคร แต่ถ้าตอบว่าเขาก็คือคนที่ปรากฏในธนบัตรญี่ปุ่นหมื่นเยนไงละ คงร้อง เอ๋อ.... แน่นอน

                    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น บุคคลที่อยู่บนธนบัตรญี่ปุ่นไม่ใช่เขา แถมแต่ละกันก็ไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องอะไรกับเงินตราแม้แต่น้อย โดยเท่าที่ค้นก็มี

    มุราซากิ ชิคิบุ (เริ่มใช้เมื่อปีค.ศ. 2000) นางกำนัลของพระมเหสีโซชิ ผู้มีชีวิตอยู่ในสมัยเฮอัน  ผู้แต่งวรรณกรรมเก่าแก่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือเรื่อง เก็นจิ โมโนกาตาริ”

    ฮิงุจิ อิจิโย  หรือฮิงุจิ นัตสึเริ่มใช้เมื่อปีค.ศ. 2004 นักเขียนคนสำคัญของสมัยเมจิ

    โนะงุจิ ฮิเดโยะ เริ่มใช้เมื่อปีค.ศ. 2004 นักแบคทีเรียวิทยาคนสำคัญของญี่ปุ่น ผู้ค้นพบแบคทีซิฟิลิส (Syphilis)

    ทางด้านฟุคุซาวะ ยูคิจิ  ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเงินตราเหมือนกัน ฟุคุซาวะเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1835-1901ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนแรกที่นำวิทยาการสมัยใหม่ของตะวันตกมาสอนให้กับคนญี่ปุ่น  จนทำให้ประเทศญี่ปุ่นเจริญทัดเทียมกับชาติตะวันตก

    นอกจากนี้อาจารย์ฟุคุซาวะ ยังตั้งโรงเรียนชื่อ Keio Gijukuซึ่งในภายหลังได้พัฒนามาเป็นมหาวิทยาลัยเคโอKeio Universityมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

    ด้วยความดีเหล่านี้ ทำให้รูปของฟุคุซาวะ ยูคิจิ  อยู่บนแบ๊งค์หมื่นเยน (10,000 เยน) ซึ่งเป็นธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดของธนบัตรญี่ปุ่น


                       โคบายาชิ อะคิจิ ( Kobayashi Akiji )

                    โคบายาชิ อะคิจิ เป็นบุคคลในตำนานของหนังแนวแปลงร่างของญี่ปุ่น หลายคนอาจรู้จักเขาในชื่อ ทาจิบานะ โทเบ  เจ้าของร้านแสน็กและกาแฟ ที่ควบตำแหน่งหัวหน้าทีมมอเตอร์ไซค์ Tachibana Racing Team และยังเป็นป๋าของเหล่าไอ้มดแดงตั้งแต่ภาคแรกในปี 1971 จนถึงรุ่นไรเดอร์สตรองเกอร์ในปี 1976

                    โคบายาชิ อะคิจิ เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน 1930 เป็นชาวเมืองโตเกียว ย่านโยโดบาชิ ไตอนแรกไม่ได้ร่ำเรียนวิชาการแสดงมากนัก แต่ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์เรื่อง ผู้ต้องสงสัย  ปี 1952 กับค่ายหนัง Shintoho  ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นยุคของหนังขาว/ดำ หลังจากนั้นก็เริ่มมีงานแสดง และงานพากย์เสียงภาพยนตร์ต่างประเทศมากขึ้นตามลำดับ

    อย่างไรก็ตามชื่อของ โคบายาชิ อะคิจิ ก็มาเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนหนังฮีโร่แปลงร่างจากทีวีซีรีส์ Ultraman กัปตันมุรามัตสึ หัวหน้าหน่วยวิทยะ SSS (Science Special Search Party) แสดงเป็นที่น่าจดจำจนถึงบัดนี้ และเขายังเป็นดารารับเชิญในซีรีส์อุลตร้าเซเว่นในตอนที่ 47, อุลตร้าแมนแจ็คในตอนที่ 13 - 14.. และอุลตร้าแมนเอซในตอนที่ 6 อีกด้วย

    และบทบาทที่น่าจดจำมาก ก็คือรับบทเป็น ทาจิบานะ โทเบ  เจ้าของสโมสรรถจักรยานยนต์แข่งขัน ผู้ดูแลของตั้งแต่ภาคแรกในปี 1971 จนถึงรุ่นไรเดอร์สตรองเกอร์ในปี 1976

    หลัฃจากนั้น  โคบายาชิ อะคิจิ กลับมาแสดงในหนังฮีโร่อีกครั้ง..คราวนี้เขามารับบทเป็นสารวัตรตำรวจโทมิตะ(ในทีวีซีรีส์ความยาว 34 ตอนจบของค่ายหนังโตเอะ เรื่อง The Kage-Star  และปรากฏในภาพยนตร์ Godzill (1991 - 1992) และ Gamera (1996)..ส่วนบทบาทสุดท้ายในหนังฮีโร่ที่เขาร่วมแสดงเป็นดารารับเชิญในบท คนตกปลา ในหนังเรื่อง Ultraman Zearth (1996) และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1996ในขณะที่มีอายุ 65 ปี


                 ชินโซ อาเบะ (Shinzo  Abe)

    แน่นอนว่าบุคคลดังที่มักปรากฏในการ์ตูนญี่ปุ่นมากเป็นอันดับต้นๆ ก็คือนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะนั่นเอง แม้ว่าการ์ตูนหลายเรื่องมักจะใช้รัฐมนตรีสมมุติมากกว่า แต่หลายเรื่องก็เลือกจะใช้ชินโซ อาเบะมาเป็นตัวละครในเรื่อง

    ชินโซ อาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 57 ของประเทศญี่ปุ่นและเป็นคนญี่ปุ่นที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที 2 คนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    อาเบะเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ทรงอิทธิพลของญี่ปุ่น ทั้งปู่และพ่อของเขาเป็นนักการเมืองแนวหน้า ยิ่งกว่านั้นตาของเขาก็คือ นายโนบูเซกิ คิชิ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรค LDP พรรครัฐบาลที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นสมัยใหม่

    สำหรับอาเบะได้ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยเซเก และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา ภายหลังจบการศึกษา ได้ทำงานกับบริษัท โกเบสตีล และได้ลาออกใน เพื่อเข้ามาเล่นการเมือง

    นายอาเบะได้รับเลือกตั้งเป็นสส.ตั้งแต่ปี 1993 และมีบทบาททั้งในพรรค LDP และในรัฐสภาอย่างโดดเด่น ในปี 2006 นายอาเบะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของเส้นทางการเมือง โดยรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาอยู่ในตำแหน่งได้ไม่ถึงหนึ่งปีก็ประกาศลาออก โดยอ้างเหตุผลเรื่องสุขภาพ แ

    ต่อมา นายอาเบะได้ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเขาและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้ลาออกพร้อมกัน  อย่างไรก็ตามนายอาเบะก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง  และได้ประกาศยุบสภา  ก่อนครบวาระตำแหน่ง เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่

    แม้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศที่พัฒนา แต่อาเบะยังต้องรับมือกับปัญหามากมาย ทั้ง   การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนและเกาหลีใต้ รวมถึงรักษาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซานานนับสิบปี และรับมือกับปัญหาประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น

    แม้ว่าอาเบะจะผ่านปัญหาเหล่านี้มาได้ แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้นำญี่ปุ่นที่มีทั้งคนรักและคนชังจำนวนมาก  เห็นได้จากการ์ตูนที่มักสร้างภาพลักษณ์ชินโซ อาเบะแตกต่างกันออกไป บางเรื่องดูน่านับถือ ขณะที่บางเรื่องล้อเลียนจนไม่ใว้หน้าผู้นำประเทศเลย

                    สำหรับวงการการ์ตูนแนวอาเบะจัดว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่สนับสนุนตัวการ์ตูนไปสู่ทั่วโลก เด่นๆ คือการนำโดราเอมอน, มาริโอ้, ฮัลโหล คิตตี้, กัปตันสึบาสะ และแพ็คแมน ในงานรับไม้ต่อของ โตเกียว โอลิมปิค 2020  และเพิ่งก่อตั้งหน่วยงาน Japan Anime Tourism Associtation (สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านอนิเมชะ) เป้าหมายของสมาคมนี้คือการเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาในญี่ปุ่น 40 ล้านคนในปี 2020 ด้วยการรวบรวมสถานที่ แสวงบุญให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมที่ปรากฏในอนิแมะที่พวกเขาชอบด้วย

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×