ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #498 : Saint Young Men กับดราม่าศาสนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.22K
      40
      23 ส.ค. 61

              แต่ไหนแต่ไร เรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่มักสร้างดราม่าแก่คนไม่เข้าใจกันและกัน ทุกยุคทุกสมัย บางครั้งก็รุนแรงจนก่อสงคราม ในขณะที่เล็กๆ หน่อยก็แค่ในอินเทอร์เน็ต

    ดราม่าศาสนาพุทธประเทศไทยเราก็มีหลากหลาย แต่ส่วนมากออกไปทางตัวบุคคลมากกว่าตัวศาสนา ที่เราเห็นกลุ่มคนทำพฤติกรรมไม่ดีต่อศาสนาพุทธ  เช่น ไม่สำรวม, การสร้างพระพุทธรูปไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา

    อย่างไรก็ตาม ก็มีดราม่าศาสนาอีกประเภทหนึ่ง ที่คนสร้างความเหนื่อยหน่ายที่สุด คือการดราม่าศาสนาชินโตของญี่ปุ่น


    มันคืออะไร? มันคือดราม่าที่พุทธนิกายเถรวาท ไปดราม่าศาสนาชินโตของญี่ปุ่น


                    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าศาสนาของญี่ปุ่นคือศาสนาชินโต มันเป็นพุทธคนละนิกายของประเทศไทย เพราะชินโตมีการนับถือบูชาเทพเจ้าหลายองค์ หรือ พหุเทวนิยม ศาสนาชินโตไม่มีศาสดา บูชาเทพเจ้า เชื่อถือเวทมนต์ คาถา บูชาธรรมชาติและบรรพบุรุษ  และต่อมาศาสนาพุทธได้เข้ามาเผยแพร่เกิดการเอามารวมกัน กลมกลืนระหว่างพระพุทธศาสนา และศาสนาชินโตนั้น ในญี่ปุ่นเป็นดังนี้ เทวดาในศาสนาชินโต ก็คือพระพุทธะและพระโพธิสัตว์มาเกิด (อวตาร) และ พระในพระพุทธศาสนาดูแลวัดชินโต

    นี่คือสิ่งที่คนไทยเราไม่เข้าใจ เมื่อคนญี่ปุ่นมักหยิบเรื่องพระพุทธเข้ามาดัดแปลงให้แตกต่างจากสิ่งที่เราชาวพุทธคิดมาโดยตลอด เช่น การกลับมาเปิดของพระพุทธเจ้าเป็นร่างสาวน้อย เป็นหนุ่มหล่อ, จับพระพุทธเจ้ามาต่อสู้ (เกมที่โดนแบน กับ Fate) , หรือการตีความพระพุทธเจ้าใหม่ (พระพุทธเจ้าของนักวาดโอซามุ)  ผลคือทำให้เกิดดราม่าบ่อยๆ คนไทยดราม่าว่ายำยีศาสนา เอาศาสนามาล้อเล่น ในขณะที่คนก็มาแขวะคนที่ดราม่าศาสนาว่า พวกศาสนาพุทธเฉพาะบัติรประชาชน ทีพระเป็นตุ๊ด โกงกินศาสนาทำไมไม่ไปดราม่า

    เรื่องแขวะคนดราม่าศาสนา ผมถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น.....

    ดราม่าส่วนมากเกินจากความไม่เข้าใจ หากเข้าใจกันและกัน  ก็คงไม่มีดราม่า แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะดราม่าก็ยังเกิดขึ้น

    เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีดราม่าเกี่ยวกับ คนไทยกลุ่มหนึ่งได้ด่าว่า  Saint Young Men ลบหลู่พระศาสดาอย่างรุนแรง หลังจากการ์ตูนเรื่องนี้วางแผนให้ซีรีย์คนแสดงมาฉายบ้านเรา ก็เกิดการดราม่า ถึงขั้นมีการทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทำการยับยั้งการเผยแพร่การ์ตูนเรื่องนี้ผ่านทางสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ และเฟซบุ๊ค รวมทั้งส่งเรื่องให้ทางกระทรวงต่างประเทศช่วยจัดการดำเนินเรื่องต่อด้วย  


     


    Saint Young Men เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวคอเมดี้    ของ  ฮิการุ นากามูระ (Hikaru Nakamura )   โดยเนื้อหาได้กล่าวถึงศาสดาของโลก อย่างพระเยซูคริสต์ และพระพุทธเจ้า  ที่ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน และอยากมาพักผ่อนในโลกมนุษย์ แล้วทั้งสองเลือกที่ญี่ปุ่น จากนั้นก็ไปเช่าห้องในอพาร์ทเมนท์แถวชานเมืองโตเกียว แม้ว่าทั้งสองจะพยายามซ่อนอัตลักษณ์ของตนเอง แต่ก็มีหลายช่วงที่ทำให้ทั้งสองหลุดออกมา ให้คนภายนอกต้องประหลาดใจ (รวมไปถึงความขำของคนดู)

    ในประเทศญี่ปุ่นการ์ตูน Saint Young Men มียอดขายกว่า 10 ล้านชุด ติดอันดับขายดีรายสัปดาห์ และรายปีในญี่ปุ่น ได้รับรางวัล Tezuka Osamu Cultural Prize และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และมีการดัดแปลงเป็นอนิเมะ, คนแสดง จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนชาวญี่ปุ่น


     

    ไม่ต้องมานั่งเดา วันนี้ ผมอาจทำในสิ่งที่ไม่ค่อยได้เขียนสักเท่าไหร่ คือการมานั่งเขียนเรื่องของศาสนา


    ก่อนที่จะเขียน เราต้องเข้าใจเรื่อง คือธรรมชาติของคน ศาสนา และความเข้าใจ การด่าว่า ไดโนเสาร์ อะไรนั้น ขอให้โยนทิ้งไป เพราะมันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น

    ผมเห็นหลายที่ เขียนดราม่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมพบว่าหลายคนไม่เข้าใจเรื่องศาสนาเยอะ (ผมก็ไม่เข้าใจ) แต่สิ่งสำคัญที่เราควรรู้คือใจเขาใจเรา แม้เราจะไม่รู้เรื่องศาสนาอื่น แต่เราควรทราบสิ่งสำคัญของศาสนานั้น ทุกวันนี้หลายคนชอบแซะศาสนาอิสลามมาก ขนาดผมไม่ได้เป็นคนอิสลาม ผมก็ว่าเกินไป

    ไดโนเสาร์ไม่มีอยู่จริงหรอก มันอยู่ที่คนรู้หรือไม่รู้  สติหรือไม่มีสติ เข้าใจหรือไม่เข้าใจ ยอมรับหรือไม่ยอมรับ และเชื่อแบบผิดๆ แล้วตีความมองด้านเดียว หรือรู้แต่อยากดราม่า เท่านั้น 

    (คุณคิดเหรอว่ามีแต่ผู้ใหญ่ที่ดราม่าเรื่องนี้)

    เอาง่ายๆ ทุกวันนี้ยังมีหลายคนสงสัย Saint Young Men  ว่าทำไมไม่มีท่านนบี  เหตุผลเพราะศาสนาอิสลามถือว่าเป็นผู้ส่งสารขององค์อัลเลาะห์  ไม่มีกายหรือรูปลักษณ์   ท่านนบีเองก็ไม่ควรภาพ รูปเคารพ  ก็อย่างที่รู้ขนาดชาติตะวันตกเคยวาดท่านบีจนมีดราม่า อย่างหนักถึงขั้นข่มขู่มาแล้ว สิ่งเหล่านี้มันมีหลักคำสอนชัดเจน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้จึงไม่เอาเรื่องอิสลามเข้าไปใส่

    ผมว่าตัวการ์ตูนเรื่องนี้เข้าใจเรื่องเล็กๆ น้อยของศาสนาค่อนข้างมากเลยทีเดียว

    ส่วนคนบอกว่าไม่มีศาสนา ก็อยากตอบว่า ชีวิตของเรานั้นจำเป็นเกี่ยวข้องกับศาสนาอยู่ดี วันหยุดก็วันสำคัญของศาสนา แค่มีความเชื่อก็ถือว่าศาสนาแล้ว พิธีการต่างๆ การแต่งงาน งานศพ  ทั้งหมดก็มีเรื่องศาสนาเกี่ยวข้อง คุณไม่มีทางไม่มีศาสนาได้หรอก ดังนั้นเราควรแค่ว่าผมนับถือศาสนา แต่ก็ไม่ได้ยึดติดอะไรมากก็ได้

    นอกเรื่องเสียนาน ประเด็นคือ การจะเขียนเรื่องนี้ ผมไม่อยากได้สิ่งที่ด่าว่า  หรืออวยญี่ปุ่นเปิดกว้างศาสนา (ไทยเราเปิดกว้างกว่าญี่ปุ่นเสียอีกมั้ง) แต่เราจะมาดูว่าการ์ตูนเรื่องนี้ว่าเนื้อหาควรดราม่าหรือเปล่า

    (ปล. ผมเคยเอาการ์ตูนเรื่องนี้ไปถามพระชื่อดังเมื่อนานมาแล้ว ไม่รู้ว่าได้คำตอบหรือเปล่า หรือได้คำตอบว่า ไม่ดราม่ามั้ง)


     


     Saint Young Men เป็นการ์ตูนตลก ที่ไม่เครียด ซึ่งไม่ใช่การ์ตูนเชิงล้อเลียนศาสนาแรงๆ แต่การ์ตูนเล่นกับสิ่งที่ต่างจากที่เราคิดเอาไว้ ภายใต้คอนเซ็ป คือ ศาสดาเดินดิน

    คือ... ปกติเรารู้จักสองศาสดาจากตำราเรียน สิ่งที่เราวาดฝัน จิตนาการ หลักๆ มาจากสื่อต่างๆ ทำให้เราทราบว่าพระเยซูกับพระพุทธเจ้าจะเป็นสองบุคคลที่คนทั่วโลกนับถือ  มีบุคลิกน่าเคารพ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์  มีความเป็นอยู่เรียบง่าย และทั้งสองรักความสงบ ไม่หลงใหลในกิเลส นี่คือภาพลักษณ์ที่คนทั่วโลกจดจำ

    แต่....ตัวการ์ตูน ได้เปลี่ยนทั้งสองศาสดา ให้ต่างจากที่เราคิด คือ ไม่ได้เชิงล้อเลียนตลกหยาบมากเกินไป คือยังตรงกับสิ่งที่เราคิดในกรอบอยู่ แต่คนแต่งได้แอบเจาะกรอบเล็กน้อย คือพยายามปรับให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน กลายเป็นว่า พระเยซูในการ์ตูนเรืองนี้เป็นคนไฮเปอร์ พระเยซูค่อนข้างไฮเปอร์ รักทุกคน   ชื่นชอบช็อปปิ้ง ในขณะที่พระพุทธเจ้าค่อนข้างเป็นคนที่ตรงกันข้ามกับพระเยซู เป็นคนที่จิตใจสงบ ประหยัด และชอบมังงะ แถมชอบปล่อยมุกตลก (แถมมุกตลกบางอย่างก็แอบล้อทางกายภาพของพระองค์)

    ทั้งสองศาสดามีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เช่าห้องในห้องเช่าที่เก่าๆ โทรมๆ  ไม่ได้ฟุ่งเฟ้อ  (ใช้เงินจากสาวกในสวรรค์) และต้องการที่จะใช้ชีวิตเหมือนคนญี่ปุ่น และท่องเที่ยว ศึกษาวัฒนธรรมต่างๆ


    ตัวการ์ตูนแสดงให้เห็นว่าสองศาสดาโลก คือมนุษย์เดินดินคนหนึ่ง


    แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจเป็นประเด็นดราม่าได้ เพราะพระเยซู และพระพุทธเจ้าในการ์ตูน มีภาพลักษณ์ที่ไม่น่าเคารพ ดูแล้วขัดจากภาพที่วาดฝันเอาไว้

    อันนี้ต้องเข้าใจว่า มนุษย์เราบางครั้งก็มีแรงศรัทธา และใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์มากๆ เอาง่ายๆ ภาพลักษณ์ของสาวไอดอล ที่เราวาดฝันเอาไว้มันต้องเป็นแบบนี้ ไอดอลจะต้องทำตามเพื่อขายฝันแก่โอตะ

    แต่นี่แค่วงการบันเทิง แล้ววงการศาสนาละ มันแรงกว่าหลายเท่า แค่พระมีพฤติกรรมไม่สำรวมก็ยิ่งแย่แล้ว (ความจริงมันก็เถียงกันไม่รู้จักจบ) แล้วถ้าเป็นศาสดาละ มีภาพลักษณ์แบบนี้ละ  ดราม่าไม่เกิดไม่แปลกหรอกครับ

    Saint Young Men นั้นมีมุกตลกมากมาย ไม่ว่าจะการสอดแทรกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของคริสต์และพุทธเข้าไป  การดำเนินชีวิตประจำวันที่สอดแทรกปรัชญาเอาไว้ ฯลฯ

    และเพื่อให้เห็นภาพก็ขอยกตัวอย่างบางมุกมา

    -พระเยซูกับพระพุทธเจ้าได้รับของรางวัลจากการจับรางวัล ปรากฏ ว่าเป็น พระพุทธรูปขนาดเท่าคนจริง   พระพุทธเจ้าทำหน้าเซ็งๆ แล้วก็พูดว่า ตถาคตน่าจะบอกเหล่าสาวว่าห้ามสร้างรูปเคารพนะ

    -พระพุทธเจ้าบอกว่าความจริงไม่ได้ชอบข้าวมธุปายาส (ข้าวสุกหุงใส่นมโคจืดและน้ำผึ้ง) สักเท่าไหร่หรอก  แต่ตอนนั้นหิวมากหลังบำเพ็ญทุกรกิริยากินอะไรก็อร่อยหมดแหละ.....

    -พระพุทธเจ้าให้หินและน้ำเป็นอาหารให้พระเยซู แล้วบอกว่าพลังพระเยซูเปลี่ยนหิวเป็นนม เปลี่ยนน้ำกลายเป็นไวน์ได้ไม่ใช่เหรอ ทำไปสิ....

    --พระเยซูสารภาพว่าพิธีล้างบาปนั้น แท้จริงแล้ว เกิดจากพระเยซูอยากว่ายน้ำ แต่กลัวดำน้ำ ยอห์นเลยริมน้ำเล็กน้อยใส่ศีรษะพระเยซู

    -พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ชอบรูปปั้นเคารพสักเท่าไหร่ เพราะชอบเลือกตอนช่วงที่ตถาคตอ้วนที่สุดมาปั้นเป็นพระพุทธรูป

    -พระเยซูบอกว่าอยากมีรูปเคารพที่มีชีวิตชีวายิ่งกว่านี้ (เพราะรูปเคารถพระเยซูมีเลือดไหลออกมา แล้วมีสีหน้าเป็นทุกข์)


    ฯลฯ


    คำถามคือ คุณขำ หรือรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับมุกของการ์ตูนเรื่องนี้


    ถามอีกครั้งว่าตัวการ์ตูนสมควรดราม่า ไม่เหมาะสมหรือไม่ ?


    มันไม่ใช่เรื่อง คำสอนต่างๆ เป็นเรื่องของคนอื่นบัญญัติเอาเอง พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติโดยตรง  หรือเสรีการแสดงออกทางศาสนา หรือไปแซะว่าศาสนาบ้านเราแย่อยู่แล้ว อันนี้ขอให้โยนขยะไปซะ ศาสนาคือคำสอน ไม่ได้อยู่ที่คน  

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนทำสื่อบันเทิงเกี่ยวกับศาสนานั้น ไม่ได้ต้องการให้ศาสนาเสื่อมเสีย แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือประเด็นที่พวกเขาต้องการที่จะสื่อต่างหาก

    สิ่งที่คนวาดการ์ตูนต้องการสื่อ คือต้องการสื่อให้คนอ่านเข้าใจว่า ศาสดาทั้งสอง ที่เราเคารพกัน อยู่สูงจนไม่สามารถต้องจับได้ แท้จริง  ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับเรา เป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มีความต้องการ มีจุดบกพร่องเหมือนกับมนุษย์ธรรมดา เช่นกัน ไม่แปลกที่เราจะได้เห็นหลายครั้งที่พระเยซู และพระพุทธเจ้ามีพฤติกรรมที่ค่อนข้างขัดแย้งไปจากภาพลักษณ์ที่เราวาดฝันเอาไว้  เช่น พระพุทธเจ้าดื่มเบียร์ ซึ่งผิดหลักคำสอนของพุทธว่าห้ามดื่มสิ่งมึนเมา

    อืม..... ความจริง หากพูดเรื่องเรื่องตลกแล้ว คริสต์ประวัติ และพุทธประวัติเองก็แอบซ่อนอารมณ์ขันไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ใครมาอ่านประวัติพระพุทธเจ้าหลายอย่างก็แอบรู้สึกแปลกๆ เช่น ดินได้หลายก้าวตั้งแต่ประสูติ ความเร็วที่เหลือเชื่อจากเหตุการณ์เผชิญหน้าอิทธิปาฏิหาริย์ ไปจนถึงพระเยซูเดินบนน้ำได้  แต่ตัวการ์ตูนได้เปลี่ยนอิทธิปาฏิหาริย์เหล่านี้เป็นเรื่องตลก ชวนหัว คนวาดต้องการสื่อว่าอิทธิปาฏิหาริย์ไม่ใช่สิ่งสำคัญของศาสนา ในขณะที่คนทั่วไปต่างหลงใหลสิ่งที่เรียกว่าอิทธิปาฏิหาริย์บูชาวัตถุมากเกินไป เอาแต่ได้มากเกินไป (เช่นทำบุญเยอะๆ จะได้ดี) จนเราลืมคำสอนที่หัวใจหลักของศาสนาไปแล้ว

    และก็มีมุกประเภทวิจารณ์ศาสนา เรื่องความบ้าวัตถุ หรือการบริจาคเงิน ที่พระพุทธเจ้าบ่นว่าเขาบริจาควัดมากมาย แต่มันก็ไม่ได้เข้ากระเป๋าพระพุทธเจ้าโดยตรงหรอก ประมาณนี้

    นอกจากนี้ก็มีตัวละครต่างๆ ที่ปรากฏตัวในเรื่อง นอกจากสาวกพระพุทธเจ้ากับพระเยซูแล้ว ก็ยังมีเทวดาต่างๆ ไปจนถึงมาร (ที่ขัดขวางการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า) แต่ทั้งหมดก็เป็นเพื่อนกับสองศาสนาดา อยู่ร่วมกันได้

    เรื่องมารนั้น เราต้องเข้าใจว่า แท้จริงมันก็คือกิเลสของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนย่อมมีกิเลสทุกคน ไม่มีทางที่มนุษย์จะปราศจากกิเลสไปเสียหมด อีกทั้งการมีกิเลส ความต้องการไม่ที่สุด มนุษย์ก็คงไม่สะดวกสบายจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ยานพาหนะ, แอร์, พัดลม, ตู้เย็น, มือถือ  ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดความต้องการของมนุษย์ทั้งสิ้น


     


    นอกจากนี้ยังมีสิ่งสำคัญของมุกตลกในการ์ตูนเรื่องนี้มักเอามาเล่น[บ่อยๆ คือเรื่องสังคมยุคปัจจุบันกับศาสนา

    ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีคนนับถือหลายศาสนา แต่แปลกคือ คนญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งมักจะระบุว่าตนเองนั้นเป็น "ผู้ที่ไม่มีศาสนา" แต่ในทางปฏิบัติก็พบว่าในส่วนมากของกลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติกรรมแบบ "นับถือแบบไม่เจาะจง" (เสมือน พหุเทวนิยม) คือไม่ได้เจาะจงว่าตนเองนั้นศรัทธาต่อพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใด ฉะนั้น เราจะพบว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้ยังมีการขอพรจากเทพ กราบพระ เข้าศาลเจ้าชินโต เข้าวัดพุทธ เมื่อมีโอกาสหรือในเทศกาลสำคัญๆ แม้ว่าจะระบุว่าตนเองเป็นผู้ไม่มีศาสนา

    เอาเป็นว่านับถือ แต่จะให้ปฏิบัติตามกฎของศาสนาไปเสียหมด ไม่เอาหรอก ประมาณนี้

    ไม่ต่างจากบ้านเราสักเท่าไหร่ หลายคนชอบว่าญี่ปุ่นแตกต่างจากไทย ผมว่าเหมือนกันเลยนะ

    โดยส่วนตัวแล้ว บ้านเรา ทุกวันนี้ มุมมองศาสนาออกไปทาง  เอาแต่ได้ จนลืมจุดประสงค์ที่แท้จริง คือ แทนที่เรากราบไว้เพราะระลึกถึงพระพุทธเจ้า แต่เราออกไปทาง ขอให้รวย อยากได้ อยากมี ทำบุญให้ทาน   ทำแล้วได้บุญ”, “ทำแล้วได้ไปสวรรค์”, “ทำแล้วโชคดีแต่เราไม่เคยสอดแทรกประวัติสาระ จุดประสงค์ที่แท้จริงของประเพณีเหล่านี้เลย


                   แค่เรื่องข้าวมธุปายาส เราทำเพื่ออะไร กินเพื่ออะไร คนเขาบอกแค่ว่าทำแล้วได้บุญแค่นี้แหละ


     


    Saint Young Men อาจทำให้หลายคนสนใจศาสนา สนใจประวัติพระพุทธเจ้า และพระเยซูไม่มากก็ไม่น้อย เพราะเราได้เห็นปาฏิหาริย์ต่างๆ ในเรื่อง เราก็แอบสงสัยว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง

    ความจริงในด้านของการเผยแพร่ศาสนาแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากเผยแพร่ในรูปแบบเก่าๆ แบบการ์ตูนมิติเดียวเหมือนการ์ตูนพระพุทธเจ้าที่ไทยทำแล้วเจ๊ง เพราะคนไม่สนใจ หากแต่ถ้าทำให้ดูแปลกใหม่ ให้ดูย่อยง่าย ดูไม่ได้น่าเบื่อ สอดแทรกสาระลงไป ให้คนสนใจ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี 

    ศาสนานั้นเหมือนยาขม ดังนั้นหากเพิ่มความหวานเข้าไป มันก็จะกินง่ายขึ้น

    โดยส่วนตัว Saint Young Men จะมีดราม่าก็ไม่แปลก เพราะบางอย่างผมดูแล้วก็ไม่เหมาะสม แต่จุดประสงค์ที่สำคัญที่ผมว่าควรมอง คือสิ่งที่คนวาดต้องการจะสื่ออะไรมากกว่า ซึ่งโดยสรุปผมแล้วคนวาดก็ไม่ได้ต้องการจะล้อเลียนศาสนา เอาพระเยซู เอาพระพุทธเจ้ามาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ดูแล้วตลกหกฮ่าจนน่าเกียจเกินไป (เพราะเป็นแบบนี้จริงฝรั่งก็คงออกมาโวยบ้างแหละ)หากแต่สิ่งที่ต้องการนำเสนอก็คือมุมมองศาสนาในอีกมุมหนึ่ง  ในประเทศที่ผู้คนไม่ได้เคร่งเรื่องศาสนามากนัก.....

    ที่น่าสนใจคือศาสนาของญี่ปุ่นก็เหมือนกับไทย มีการผสมปนเปเพื่อให้กลมกลืน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งของเก่าและของใหม่  แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดที่ลงตัว สามารถ อยู่ด้วยกัน มันอยู่ที่คำสอน ไม่ใช่อยู่ที่ตัวคน



                    เหมือนเช่นพระเยซูกับพระพุทธเจ้าเป็นเพื่อนกัน แม้จะต่างศาสนาก็ตาม





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×