ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #484 : รีวิวอนิเมะ Anime Spring 2018

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.95K
      21
      3 ส.ค. 61

    บทความนี้เป็นการรีวิวอนิเมะ Anime Spring 2018  แม้ญี่ปุ่นจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่บ้านเราเป็นฤดูร้อน ร้อนตับแตก และเทศกาลสงครามสาดน้ำ  ส่วนผมอยู่บ้านนอนอยู่เดียว สบายนี้น่า

    กลับมาดูรายชื่ออนิเมะญี่ปุ่นนี้ แม้จะมีแนวหลากหลาย แต่หนักไปทางภาคต่อ เอาของเก่ามาหากินมากกว่า และมีอนิเมะเฉพาะกลุ่ม (บอยเลิฟ, บอยล้วนๆ และหญิงล้วนๆ, เบสบอล) ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอนิเมะที่อยากดูกว่า 12 เรื่อง ที่ผมจะมาพูดถึงในบทความนี้

    อ้างอิง

    https://myanimelist.net/anime/season

    https://wiki.anime-os.com/chart/spring-2018/

    (ย้ำอีกครั้ง คนที่ว่าอนิเมะซ้ำซาก มีแต่นม กับเซอร์วิส ) ช่วยไปดูอนิเมะหน่อยนะครับ ว่ามันมีแนวอะไรบ้าง)

     

    ปล. ที่ป้ายสีเหลืองคืออนิเมะที่จะดูแน่นอน และที่ไม่ป้ายคือไม่ดูเลย

     

    Boku no Hero Academia 3rd Season ภาค 3 ของเรื่อง Boku no Hero Academia

    Tokyo Ghoul:re สองปีหลัง CCG บุกเข้าโจมตีร้าน อันเทย์คุ มีการก่อตั้งกลุ่มผู้ใช้ควิงซ์ เพื่อรับมือพวกอาโอกิริ

    Steins;Gate 0 เนื้อเรื่องอยู่ในโลกที่ โอคาเบะ ไม่สามารถช่วยเหลือ คุริสุ ได้

    Sword Art Online Alternative: Gun Gale Online  ภาพสปินออฟของ SAO:GGO

    Shokugeki no Souma: San no Sara - Toutsuki Ressha-hen ครึ่งหลังของภาค San no Sara

    High School DxD Hero (ที่ลายเส้นอนิเมะเปลี่ยนไป)

    Persona 5 the Animation หลังได้พลัง Persona จากเวลเวตรูม ได้พบมอร์กาน่า และ ชิโด พวกเขาจึงได้ตั้งกลุ่มโจร เพื่อขโมยหัวใจที่ชั่วร้ายจากพวกผู้ใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองนี้

    Wotaku ni Koi wa Muzukashii อดีตเพื่อนสมัยเรียน โมโมเสะ นารุมิ หนุ่มเกมโอตาคุ และ นิฟูจิ ฮิโรทากะ สาวฟุโจชิ ได้มาพบกันในวัยทำงาน

    Megalo Box นักชกมวย JD (Junk Dog) ที่ได้มาชกในสังเวียนมืดใต้ดิน และเดิมพันทุกสิ่งในการชก

    Devils Line หนุ่มลูกครึ่งแวมไพร์ที่ช่วยหญิงสาวมนุษย์ไว้ และเริ่มสนิทกันมากขึ้น

    Tada-kun wa Koi wo Shinai หนุ่มที่ไม่เคยมีความรู้สึกรักใครมาก่อน ได้มาช่วยเหลือนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาติสาวสวย

    3D Kanojo: Real Girl หนุ่มโอตาคุผู้มีความหลังฝังใจกับเด็กผู้หญิงที่ล้อตน ได้มารู้จักกับสาวสวยในโลกจริงที่เขาไม่ชอบ แต่หลังจากช่วยเธอไว้จากชายอื่น ทำให้เธอมาตีสนิทและขอคบเขา

    Mahou Shoujo Site อาซากิริ อายะ เด็กสาวอาภัพที่ถูกแกล้งทั้งที่โรงเรียนและถูกพี่ชายทุบตีที่บ้านจนได้พลังเวทมนตร์จากเว็บไซต์ (แนวสาวน้อยเวทมนต์ปวดตับ กลายเป็นแนวที่ไม่แปลกแล้วในปัจจุบัน แถมผปมยังไม่ชอบตอนจบสาวน้อยเวทมนต์ที่หนีตายนั้นอีก  เอาเป็นว่าไม่ดู)

    Hinamatsuri นิตตะ หนุ่มสมาชิกกลุ่มยากูซ่า ต้องมาอยู่กับ ฮินะ เด็กสาวปริศนาที่ใช้พลังจิตได้อย่างมหาศาล

    Golden Kamuy สึกิโมโต้ ไซจิ นายทหารยอดฝีมือ ต้องการเงินเพื่อช่วยภรรยาเพื่อน จึงออกตามหาทองคำของชาวไอนุที่ถูกชิงไป

    Mahou Shoujo Ore ซากิ นักร้องหญิง ที่ได้แปลงร่าง แต่แทนที่จะเป็นสาวน้อย กลับเป็นหนุ่มกล้ามโตแทน ?

    Caligula ไอดอลสาวสาวแห่งโลกเสมือน μ ได้สร้างโลกจำลองที่เรียกว่า Mobius เพื่อให้เหล่าวัยรุ่นมาพักอาศัย หนีปัญหาสังคม จนมีกลุ่มที่ต้องการกลับโลกความจริง

    Ginga Eiyuu Densetsu: Die Neue These - Kaikou เรื่องราวของสองผู้นำทัพในสงครามระหว่างฝ่าย Galactic Empire และ Free Planets Alliance

    Comic Girls นักเขียนมังงะสาวมัธยมปลาย คาโอรุโกะ ผลงานเริ่มตกอันดับ ต้องมาใช้ชีวิตกับนักเขียนหญิง 3 คน เพื่อพัฒนาผลงานตน

    Saredo Tsumibito wa Ryuu to Odoru สองหนุ่มที่สร้างบริษัทของตัวเอง รับออเดอร์จัดส่งสูตรยาเวทมนตร์พิเศษ นำยาไปสร้างเป็นอาวุธเวทมนตร์หรือสัตว์อสูร

    Full Metal Panic! Invisible Victory ภาคสี่ของ Full Metal Panic

    Piano no Mori (TV) ชูเฮ ลูกชายของนักเปียโนชื่อดัง ได้พบพรสวรรค์ของไคที่เติบโตในชายป่า ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนและคู่แข่งทางดนตรี

    Captain Tsubasa (2018)ภาครีเมคของกัปตันซึบาสะ

    Kakuriyo no Yadomeshi  อาโออิ นักศึกษาหญิงที่ถนัดทำอาหาร ถูกบังคับให้ใช้หนี้ที่ปู่สร้างด้วยการสมรสกับเทพแต่เธอต้องการทำงานที่โรงแรมเพื่อใช้หนี้

    Uma Musume: Pretty Derby (TV) เรื่องของเหล่าสายพันธุ์ม้าแข่งของญี่ปุ่น ในรูปแบบสาวน้อย

    Tachibanakan Triangle นัตสึโอะ กลับบ้านเกิดมาเรียนต่อมัธยมปลาย แต่กลับเกิดเรื่องวุ่นเมื่อในหอพักกลับมีสาวที่สารภาพรักกับเธ

    Akkun to Kanojo เรื่องของหนุ่มปากร้าย แต่เป็นสายซึน และแฟนสาวที่ชอบในบุคลิกที่ปากไม่ตรงกับใจของเขา

    Dorei-ku The Animation  SCM (Slave Control Method) อุปกรณ์สวมในปากที่ใช้ควบคุมคนอื่นให้เป็นทาสได้ มี 24 คนที่ต้องมาร่วมเล่นเกมนี้

    Shiyan Pin Jiating

    Alice or Alice: Siscon Niisan to Futago no Imouto เรื่องราวชีวิตประจำวันของพี่ชายผู้ติดน้องสาวฝาแฝด ริเสะ และ ไอริ (เป็นการ์ตูนสั้น 3 นาทีจบ ไม่ขอพูดถึงละกัน)

    Amanchu! Advance ภาคต่อของเรื่อง Amanchu!

    Gegege no Kitarou (2018)  จำนวน: 50+ ตอนภาคที่ 6 ของ Gegege no Kitarou

    Juushinki Pandora

    Nil Admirari no Tenbin: Teito Genwaku Kitan หญิงสาวต้องแต่งงานกับชายที่ไม่รู้จักเพื่อครอบครัว แต่ก่อนแต่งงาน น้องชายเธอพัวพันกับตำราต้องคำสาป ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป

    Lostorage Conflated WIXOSS ภาคที่ 4 ในซีรีส์การ์ดเกม WIXOSS  คนไทยส่ายหัว แต่ญี่ปุ่นทำออกมาเป็นภาคที่ 4 อย่างน่าอัศจรรย์

    Butlers: Chitose Momotose Monogatari

    Hisone to Maso-tanอามาคาสึ ฮิโซเนะ นักบินหน้าใหม่ของ JASDF ได้มาเป็นคนขับมังกรในตำนาน

    Uchuu Senkan Tiramisù ในยุคสงครามโคโลนี่ มนุษย์โลกได้สร้างยานอวกาศ ทิรามิสึ ขึ้น ฝากความหวังของมนุษยชาติไว้กับนักบินอัจฉริยะหนุ่ม (แต่ไม่ค่อยเต็มบาท) คนหนึ่ง

    Fumikiri Jikan เรื่องราวการพูดคุยของสาวๆ ระหว่างรอข้ามทางรถไฟ

    Cutie Honey Universe โปรเจกต์ครบรอบ 50 ปีของผู้เขียน Nagai Go

    Inazuma Eleven: Ares no Tenbin

    Lupin III: Part 5 ภาค 5 ของลูแปงรุ่นที่สาม การเดินทางผจญภัยไปยังฝรั่งเศส เพื่อพบปู่ อาแซง ลูแปง หรือ ลูแปง ที่ 1

    Last Period: Owarinaki Rasen no Monogatari แนวแฟนตาซี ในโลกที่ Period ชื่อเรียกของผู้ที่สามารถโค่นมอนสเตอร์ Spiral ที่ถูกเรียกมาจากดินแดนที่ห่างไกล

    Hoozuki no Reitetsu 2nd Season: Sono Ni

    Major 2nd (TV) เบสบอล

    Gundam Build Divers ในยุคที่สามารถเข้าไปในโลกเสมือน (Diver) ริคุ และเพื่อนได้ชมการแข่งขันของอดีตแชมป์โลก เคียวยะ คูโจ ทำให้เขาต้องการแข่ง

    Amai Choubatsu: Watashi wa Kanshu Senyou Pet  ซาโอโตเมะ ฮินะ ถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดแม้จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้เขาได้พบผู้คุมเรือนจำ อากิ

    Rokuhoudou Yotsuiro Biyori ในร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น Rokuhoudou มีพนักงานหนุ่มหล่อสี่คนที่ให้การต้อนรับลูกค้าอย่างอบอุ่น พร้อมรับฟังและให้คำปรึกษาลูกค้าที่กำลังมีปัญหา

    Omae wa Mada Gunma wo Shiranai เรื่องของเด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายมากุนมะ และได้พบความแปลกของที่นี่

    Souten no Ken Re:Genesis

    Lost Song

    Gurazeni เบสบอล

    Binan Koukou Chikyuu Boueibu Happy Kiss!

    Nobunaga no Shinobi: Anegawa Ishiyama-hen

    Aikatsu Friends!

    Wakaokami wa Shougakusei!

    Ladyspo

    Kiratto Prichan

     

    อนิเมะเน้นกลุ่มเด็ก

    Koneko no Chii: Ponponra Dairyokou

    Beyblade Burst Chouzetsu

    Duel Masters!

    Usagi no Matthew

    Future Card Buddyfight Battsu: All-Star Fight

    Shounen Ashibe: Go! Go! Goma-chan 3

    Oretacha Youkai Ningen G

    Kekkeroke

     

    Steins;Gate 0

    Steins;Gate 0  เป็นอนิมะดัดแปลงจากเกมไลท์โนเวล โดยสตูดิโอที่จะรับผิดชอบงานนี้ยังคงเป็น White Fox สตูดิโอเดิมจากภาคที่แล้ว แต่มีการเปลี่ยนผู้กำกับ จากเดิมที่เคยกำกับโดย คุณทาคุยะ ซาโต้ กับ คุณฮิโรชิ ยามาซากิ ก็เปลี่ยนมาเป็นผู้กำกับที่เคยกำกับอนิเมเรื่อง Qualidea Code คุณคาวามูระ เคนอิจิ ส่วนคาแรคเตอร์ดีไซน์สำหรับภาคอนิเมก็เปลี่ยนจากคุณคิวตะ ซาคาอิ  มาเป็นคุณอินะโยชิ โทโมชิเกะ ที่เพิ่งทำคาแร็คเตอร์ให้กับ Mahoujin Guruguru ภาคปี 2017

    Steins;Gate 0 ถือเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการของภาคแรก เนื้อหา จะเป็นเหตุการณ์ในโลก β (Beta) เปลี่ยนแปลงเนื้อหาอนิเมะตอนที่ 23 ของภาคเดิม โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า โอคาเบะ ไม่สามารถช่วยเหลือ คุริสุ เอาไว้ได้ แถมยอมแพ้จะช่วยเหลือเธอ (เนื่องจากไม่อยากให้เธอตายแบบเพื่อนสมัยเด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว) โอคาเบะจึงใช้ชีวิตปกติ หากแต่ทุกช่วงเวลา เขาเกิด Flash Back ตอนที่คุริสึตาย ทำให้รู้สึกทรมานทุกครั้ง มายุริก็เลยเริ่มแนะนำให้ไปหาจิตแพทย์ เหล่าเพื่อนในแล็บต่างก็พากันเป็นห่วง และตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ที่ "โฮโออิน เคียวมะ" ถูกปิดผนึกไป

    ต่อมาโอคาเบะได้เจอฮิยะโจ มาโฮะ ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของคุริสึที่มหาวิทยาลัยวิคเตอร์คอนเดรีย  มาโฮะได้ศึกษาการใส่ความทรงจำของมนุษย์ลงไปในคอมพิวเตอร์ โดยใช้ชื่อระบบว่า Amadeus (อามาเดอุส) และในระบบนั้น เธอได้บรรจุความทรงจำของคุริสึเอาไว้

    ในขณะเดียวกันองค์กร SERN ก็ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง และได้เผชญหน้ากับโอคาเบะอีกครั้ง ทั้งๆ ที่โลกนี้ไม่มีเตาไม่โครเวฟมือถือ(ชื่อชั่วคราว) แล้วพวกมันต้องการอะไรจากเขากันแน่......

                    หลังจากทำพวก Steins;Gate และ Chaos;Child ไม่ค่อยปังสักเท่าไหร่  (เห็นว่าเรื่องที่สองจะมีการวางแผนทำภาคหนังโรง เพื่อบทสรุปให้ดีขึ้นประมาณนั้น)  ในที่สุดก็กลับมาทำภาค Steins;Gate 0  จนได้ ซึ่งภาคนี้ผมดูมังงะมาหน่อยๆ แล้ว  ก็สนใจนิดหน่อย

                    ก่อนอื่น ผมขอบอกว่าผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกเลย  (คืดไม่ดูภาคหนังโรง) หลังจากรำคาญกองอวยบอกว่าผมแดงนางเอก (ทั้งๆที่ผมไม่ได้มองจบวินด้วยซ้ำ แต่เรื่องดำเนินเรื่องในการมิตรภาพอะไรมากกว่า) จนในที่สุดก็มาดูภาคนี้จนได้ เพราะว่าเป็นภาคที่ไร้ผมแดงนั้นเอง

    อนิเมะเรื่องนี้แปลกอย่าง ผมดูข้าม ไปดูตอนที่ 2 เลย พอดีดูตอนที่หนึ่ง ไม่ค่อยถูกกับดราม่า พระเอกจัด แบบว่าตอนที่ 1 เต็มไปด้วยความทุกข์ระทม พระเอกเลิกบ้าบอ กลายเป็นคนเศร้าๆ ต้องไปบำบัดทางจิต แค่คิดถึงผมแดงก็ร้องไห้ อ้วก จนกลายเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด  ยังดีที่คนรอบข้างยังช่วยเหลือ ไม่งั้นคงฆ่าตัวตายไปแล้ว (แต่สิ่งหนึ่งที่อยากชมพระเอกก็คือ ไม่ไปเกรียนคนรอบข้าง ไม่ทำให้คนรอบข้างทุกข์ใจ แม้เพื่อนสมัยเด็กจะรู้ก็เถอะ)  แต่ในขณะเดียวกันผมแอบสะใจคนอวยผมแดงนางเอกอิบหาย (แต่ผมก็อยากให้ทุกคนกลับมาอยู่กันครบอยู่ดีเน้อ)

                    ตัวละครเก่าๆ ยังอยู่ครบ ยังคงเหมือนเดิม แต่คราวนี้สาวแว่นมหาภัย ยังคงกลายเป็นตัวละครลึกลับเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าคราวนี้จะสร้างมหกรรมอะไรไว้ ก็ต้องติดตามอีก

                    ส่วนตัวละครใหม่ ไม่นับแฟนของดารุนะ ยัยเตี้ย รุ่นพี่ของผมแดง (ตอนแรกผมก็นึกว่าลูกศิษย์) เรียกได้ว่าสร้างแรงอวยแก่ผมมากๆ น่ารักดี จะตามอนิเมะก็เพราะเธอนั้นแหละ (แน่นอนว่ายังมีตัวละครใหม่ปรากฏอีก2-3 คน)

                    ต่อไปก็ส่วนการดำเนินเรื่อง ก็ยังคงสไตล์แบบภาคเก่านะ เพราะดำเนินเรื่องเนิบมาก ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลย ดูไปสองตอนแล้ว ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้านัก เพราะตอนแรกมุ่งเน้นเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังผมแดงตายทุกคนเป็นยังไงกันบ้าง กับตอนสองรู้จักปัญญาประดิษฐ์และได้เห็นผมแดงอีกครั้ง (แม้ว่าจะไปในรูปปัญญาประกิษฐ์ก็เถอะ แม้เจ้าพระเอกจะดีใจ แต่ตรูมองว่ามิ่งบ้าไปแล้ว....)  หวังว่าเนื้อเรื่องจะน่าตื่นเต้นตอนกลางเรื่องนะ

                    ดังนั้นอนิเมะเรื่องนี้ไม่ใช้อนิเมะพลังวิเศษ แอ็คชั่น แต่เน้นการเล่าเรื่องราว  การมีอีเวนส์เกี่ยวกับตัวละคร  ซึ่งจะเป็นยังไงนั้น ผมติดตามแน่ๆ ครับ  (แต่รอซับไทยตอน 5 ก่อนถึงจะเริ่มดู)


    Persona 5 the Animation\

                    

                      เชื่อว่าเป็นอนิเมะที่หลายคนรอคอยกัน เพราะว่าเป็นอนิเมะสร้างจากเกม JRPG ชื่อดังที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งระบบการเล่นสนุก เนื้อเรื่องน่าติดตาม หลายคนก็หวังว่าจะมีอนิเมะ หลังจากเภาค 4 ก็ถือว่าทำออกมาดีใช้ได้

                    อนิเมะจะสร้างโดยสตูดิโอ A-1 Picture ซึ่งเคยสร้าง Persona 4 the Animation และ Persona 4 Golden the Animation มาแล้วนั่นเอง ส่วนทีมพากย์จะได้ทีมพากย์เวอร์ชั่นเกมครบทุกคนอีกต่างหาก

    Persona 5 เป็นเรื่องราวของตัวเอก (ในเกมจะเป็นชื่อที่เราต้องตั้งเอง) เด็กหนุ่มผู้ถูกยัดข้อหาอาชญากรรมอย่างไม่เป็นธรรมจนต้องย้ายโรงเรียนมาที่โตเกียว และที่นี้เองเขาได้หลงเข้าไปในโลกลึกลับชื่อว่า Metaverse สถานที่ซึ่งมีเหล่าชาโดว์ที่เป็นจิตใจด้านมืดของมนุษย์ ตัวเอกจึงต้องรับบทเป็น จอมโจรที่เรียกว่า Phatom Thief ขโมยสิ่งสำคัญในใจของเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนจิตใจของคนชั่วเหล่านั้นให้สำนึกผิดลาป (โดยพวกบอสได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 7 บาปของศาสนาคริสต์)

    ....ก่อนอื่นต้องขอความเข้าใจว่า เป็นความคิดเห็นสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกม และไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องก่อนหน้า เอาง่ายๆ คือดูอนิเมะโดยที่ไม่รู้อะไรเลยมาก่อนเลย (แต่ผมชอบเพอร์โซน่า 4 มากๆ นะ)

    ส่วนตัวแล้ว ผมชอบกว่าภาค 4 นะ สาเหตุหนึ่งภาคนี้มีอะไรหลายอย่างน่าติดตาม ตั้งแต่ฉากเปิดตัว   ที่พระเอกโดนจับซะแล้ว (ตำรวจสอบสวนโหดอิบหาย ไม่มีทนาย พระเอกไม่ได้บรรลุนิติภาวะ สามารถฟ้องกลับได้ครับ) จากนั้นก็มีตำรวจหญิงคนหนึ่งมาคุยกับพระเอก ก่อนที่พระเอกจะเล่าที่มาที่ไป ที่น่าเหลื่อเชื่อให้ฟัง  (ทำอย่างกับ Call of Ops ไปได้)

                    พระเอกเรื่องนี้มีชื่อว่าเร็น  อามามิยะ (หรือเร็นๆ) ยังคงเป็นพระเอกหน้านิ่ง พูดน้อย (แต่ต่อยหนัก) เหมือนพระเอกภาคที่ 4 แต่สิ่งที่ผมชอบคือสิ่งที่พระเอกภาค 4 ไม่มี คือคราวนี้เป็นพระเอกที่มีปมดราม่า ถูกคนรอบข้างมองโลกในแง่ร้าย ทั้งๆ ที่จริงๆ เขาเขาเป็นคนโครตดีเลย  ทำให้พระเอกภาคนี้ดูมีความเป็นมนุษย์ธรรมดามาก ภาค 4 มันมีอะไรเวอร์ๆ มากหน่อย กับบทเรื่องเพื่อนมิตรภาพ (เพราะย้ายบ้านบ่อย)  อย่างเดียว

                    เรื่องลึกลับภาคนี้ อาจไม่ได้หลอนเหมือนภาค 4  แต่ก็สื่อถึงสังคมบ้าคลั่ง ที่จู่ๆ คนเกิดบ้าขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่เรื่องราวโฟกัสเรื่องของมนุษย์ที่มีด้านมืดในจิตใจ ที่มีสองด้าน ด้านหน้าเป็นคนดี แต่ด้านหลังชั่วร้าย และคนเหล่านี้ก็ไปเกี่ยวข้องกับเพื่อนๆ พระเอก (และคนรอบข้างพระเอก) แค่คุณครูบอสแรกนี้ เรียกได้เลยว่าเวรตะไลมากๆ

                    ส่วรเรื่องการผจญภัยโลกชาโดว์ ได้รับพลังวิเศษต่างๆ น่าๆ ยอมรับว่าเร่งเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าเป็นอนิเมะจากเกม แต่ส่วนตัวผมพอเข้าใจเรื่องราวก็น่าพอใจแล้ว จะให้เนื้อเรื่องบอสแรกยาวสิบตอนก็ไม่ไหว

    ส่วนเรื่องงานเผาที่เป็นดราม่ากัน โดยเฉพาะบางฉาก และฉากที่สามัคคีคอมโบที่ทำออกมาเผา กว่าตัวเกม อันนี้ผมก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ เพราะมันออกไม่กี่นาที และทีมงานอาจทำไม่ทันก็ได้ โดยรวมๆ งานภาพก็พอๆ กับเพอร์โซน่า 4

    (เห็นว่าอีกอร์เสียงเปลี่ยนไป เพราะคนพากย์คนก่อนเสียชีวิต อันนี้ไม่แน่ใจ เห็นข่าวในตรุกีมา)


    Devil’s Line

    \Devil’s Line เป็นนอนิเมะแนวโรแมนติก (ดาร์กหน่อยๆ) ผลงานของ Hanada Ryou ตีพิมพ์ลงนิตยสาร Morning Two ลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ Kodansha ตั้งแต่ปี 2013 วางจำหน่ายถึงเล่ม 10 ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2017 ยังไม่จบ ส่วนทีวีอนิเมะ Devil’s Line ผลิตโดยบริษัท Platinum Vision มี 12 ตอนจบ

    เนื้อหาเกี่ยวกับปัจจุบันมีฆาตกรแวมไพร์เกิดขึ้น และก่อคดีสะเทือนขวัญหลายคดี  ตำรวจเองได้แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นโดยตั้งหน่วยรับผิดชอบโดยเฉพาะ โดยมีพระเอกที่ชื่ออันไซ  ซึ่งเป็นลูกครึ่งแวมไพร์เป็นแนวหน้า  ส่วนนางเอกคือคาสะ นักศึกษามหาวิทยาลัยหญิงชีวิตของเธอปกติธรรมดา จนกระทั่งเขาถูกเพื่อนสนิท (ที่แอบชอบเธอ)  เป็นแวมไพร์และพยายามโจมตีเธอ ห่กแต่ได้อันไซมาปกป้องสึกาสะและพัฒนาความสัมพันธ์สนิทกันมากขึ้น

                    ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนระดับกลางๆ เน้นคนดูที่เป็นผู้หญิงมากกว่า เพราะตัวละคร ดูลายเส้นเหมือนการ์ตูนผู้หญิง (แต่ตัวมังงะลายเส้นออกไปทางโชโจแบบดาร์กๆ มากกว่า)  เหมือนจริงๆ นะ เพราะตัวเอกหญิงนี้สรีระเหมือนผู้ชายมากกว่า มันคือตัวละครในการ์ตูนผู้หญิงชัดๆ  เพราะเนื้อหาโดยรวมเน้นไปทางรักโรแมนติกกระหว่างนางเอกคนธรรมดา กับนางแวมไพร์ที่หน้าตาเหมือนคนอดนอนมากกว่าเท่  (หรือผู้หญิงหลายคนชอบสไตล์แบบนี้หว่า) ใครที่หวังแอ็คชั่นการ์ตูนเรื่องนี้ เสียใจด้วย เพราะไม่มี

                    ส่วนเนื้อเรื่องก็ธรรมดา แนวปราบแวมไพร์ ผู้หญิงถูกปกป้องโดยพระเอกเท่ๆ  แถมมาตอนแรก สงสัยเพื่อนสนิทนางเอกเป็นบ้า แบบตนเองเป็นแวมไพร์กลัวทำร้ายนางเอก เลยออกไปฆ่าคนอื่นแทน  แถมนกโดยนางเอกหลายรอบอีกต่างหาก


    Uma Musume Pretty Derby

    Uma Musume: Pretty Derby   เป็นอนิเมะจากเกมออริจินัลของทางผู้พัฒนาเกม Cygames ร่วมกับ TOHO, Lantis โปรเจคใหญ่ที่มีทั้งเกม, อนิเมะ, เพลง และสื่ออื่น

    สำหรับตัวเกมจะเป็นเรื่องราวของเหล่าสาวม้า  เกิดมาเพื่อวิ่งโดยเฉพาะ สืบทอดเชื้อสายม้าจากต่างโลก ที่ปัจจุบันนอกจากวิ่งแล้วเป้าหมายของพวกเธอคือการเป็นไอดอลชั้นนำ (วิ่งชนะได้เป็นไอดอล)

    ส่วนตัวเอกมีชื่อสเปเชี่ยลวีค (Special Week)  เดินทางจากฮอกไกโด (บ้านนอก) มาโตเกียว  เข้าโรงเรียนสำหรับสาวม้า ทำความรู้จักคนรอบข้าง โชว์พรสวรรค์ในการแข่ง และถูกลักพาตัวเข้าทีม Spica ดูแลโดย เทรนเนอร์ (ผู้ชาย)  ที่สนใจฝีมือเธอและ ตัวเอกอีกคนสึซึกะเพิ่งย้ายมาโรงเรียนนี้เพราะมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมในโรงเรียนเก่า และร่วมเช่นกัน

                    เอาตรงๆ คือมุกเดิมๆ  แนวโมเอะแข่งขันอะไรสักอย่าง มาคราวนี้เป็นแนวสาวม้าวิ่งแข่งกัน แม้เนื้อเรื่องเหมือนจะแปลก แต่เอาเข้าจริงพล็อตเรื่องก็ยังคงสูตรเดิมๆ ตัวเอกหญิงเป็นสาวบ้านนอก อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี   มาเรียนโรงเรียนสำหรับม้าแข่ง ระหว่างนั้นก็รู้จักคนอื่นไปทั่ว (ที่สำคัญมีตัวละครผู้ชายทำหอย)  ปรับตัวเก่ง มีพรสวรรค์ วิ่งเร็วชนะหลายคน

                    ไม่มีความแปลกใหม่ๆ แถมชุดวิ่งยังไม่บลูเมอร์หรือเว้นสูตรอีก สรุปว่าแนวโมเอะเซอร์วิสสูญพันธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    แม้ว่าพูดถึงม้าแข่งจะนึกถึงการพนัน แต่ตัวการ์ตูนปรับไม่ให้มีเรื่องของการพนันมาเกี่ยวข้อง เปลี่ยนจากแข่งม้าชนะก็ได้เป็นเซนเตอร์ในงานคอนเสิร์ตฉลองชัยชนะเอานั้น (รู้สึกแปลกๆ ไงชอบกล)

    อย่างไรก็ตาม แม้ผมจะมองอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นัก ก็สาววิ่งแข่งกันเป็นไอดอล ชวิตตัวละครแปลกๆ (เพราะใช้ชื่อม้ามาตั้งชื่อ) แอย่างไรก็ตามคะแนนรีวิวยังเป็นบวกอยู่ อาจเป็นเพราะลายเส้น งานที่ยังดี และตัวละครออกแบบได้น่ารัก (แต่สำหรับผมยังสูตรสำเร็จอยู่ดี) ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีการพูดถึงพอสมควร


    Gegege no Kitarou (2018) 

    อสูรน้อยคิทาโร่ ในเวอร์ชั่นปี 018 ดัดแปลงจากมังงะระดับคลาสิคผลงานของอาจารย์ Mizuki Shigeru แต่เรื่องราวจะกล่าวถึง คิทาโร่ พร้อมด้วยด้วยเพื่อนเหล่าภูตผี (น้ากระดาษ, ลุงกำแพง, เฒ่าทารก, ยายสาดทราย, หนูผี, น้องแมว) ที่ได้พยายามปกป้องความสงบสุขให้อยู่ร่วมกันระหว่างคนเป็นและเหล่าวิญญาณ และมีข่าว (ไม่กรอง) ว่ามีจำนวนตอนมากกว่า 50 ตอน

    เนื่องด้วยคิวทาโร่มีอะไรหลายอย่างให้พูดถึง ดังนั้นผมจะเขียนบทความยาวๆ ในบทความหน้า ดังนั้นพูดถึงอนิเมะปีนี้ก่อน Gegege no Kitarou ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1959 ในชื่อว่า Hakaba Kitarou และเป็นอนิเมะมาแล้วถึง 7 ภาค, ภาพยนตร์อนิเมะหลายภาค และมีเวอร์ชั่นคนแสดงอีกสองภาค แต่เชื่อไหมว่าน้อยมากจะมีคนไทยตามเก็บอนิเมะคิวทาโร่ครบ เพราะคิทาโร่นั้นแต่ละภาคสร้างคนละยุคเลย หลักๆ แบ่งเป็นสามยุค คือ ยุค 1980 -1988,  2007-2008  และ 2018/ -ปัจจุบัน  แต่ละภาคมีจำนวนตอนเยอะมาก แถมคาแร็คเตอร์คิวทาโร่เปลี่ยนแปลงหลายครั้ง แต่ละครั้ง ก็มีตัวเอกที่เป็นมนุษย์ผู้หญิงด้วย

    สำหรับคิวทาโร่ที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคือ Gegege no Kitaro 1985 เชื่อเถอะใครที่ดูการ์ตูนช่องสามบ่อยๆ มาดูเพลงเปิด กับเพลงปิด นี้โครตคลาสสิก ขนาดภาคใหม่ทำออกมา ยังสู้ภาคนี้ไม่ได้ แม้เนื้อเรื่องเหมือนกัน แต่อารมณ์ การเล่นมุมกล้องภาพ ภาคก่อนเหนือกว่ามาก

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า เนื้อแท้ของคิวทาโร่ไม่ได้เป็นการ์ตูนสยองขวัญจ๋า ช่วงแรกๆ ของมังงะออกไปทางแฟนตาซีด้วยซ้ำ (เด่นๆ ก็เหล่าภูตผีญี่ปุ่นปะทะปีศาจตะวันตก)  คิวทาโร่กลายเป็นก็อตซิล่าก็มี (แต่ชาติกำเนิดคิวทาโร่โหดร้ายมาก) พวกภูตผีออกไปทางตลก พิศวงหน่อย  ก็มีต่อสู้ แอ็คชั่นตามฉบับการ์ตูนสมัยนั้น (แต่ก็มีหลายช่วงที่คิทาโร่แก้ปัญหาด้วยมันสมอง) ที่ไม่โหดร้ายอาจเป็นเพราะมันเป็นสูตรอนิเมะสมัยก่อน ที่เน้นกลุ่มเด็กดู ทำให้ภาพจึงไม่โหดร้าย เน้นแอ็คชั่น มีคติสอนใจมากกว่า

    อีกอย่างคิทาโร่ในช่วงเริ่มต้นไม่ได้น่ารักเหมือนปัจจุบัน เพราะประวัติถือกำเนิดมาจากศพ ทำให้ช่วงแรกๆ คิวทาโร่หน้าตาอัปลักษณ์มาก แถมฟันเหยินอีก แต่ช่วงหลังๆ มีการปรับคิวทาโร่ให้ดูน่ารักขึ้น ส่วนเพื่อนๆ คิวทาโร่แทบไม่มีเปลี่ยนแปลง ยกเว้นน้องแมว ยิ่งนานวันยิ่งน่ารัก แถมภาคล่าสุด กลายเป็นพี่สาวห่วงคิวทาโร่ไปซะแล้ว (ภาคที่ผ่านมายังเป็นเพื่อนลูบหัวกันและกันอยู่เลย)

    เนื่องด้วยคิวทาโร่ไม่มีวันโต (แต่เปลี่ยนนิสัย บุคลิกหลากหลายมากในแต่ละภาค) ทำให้คิวทาโร่เป็นอมตะ แม้ว่าตัวคนแต่งจะแต่งคิวทาโร่จบแล้วก็ตาม แต่ตัวอนิเมะไม่ยอมให้จบ และภาคนี้คาแร็คเตอร์คิวทาโร่หวนกลับมาใช้แบบกลับอีกครั้ง ถือเวอร์ชั่นไม่แสดงสีหน้ามากนัก ภาคก่อนๆ นี้คิวทาโร่มีอารมณ์เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง มีอารมณ์โกรธ วู่วาม อะไรด้วย

    คิทาโร่ ยังคงใช้สูตรเดิมของอนิเมะในช่วงเฮเซ (อนิเมะภาคก่อนหน้า) คือ เน้นพบปัญหา ภูตผีทำร้ายมนุษย์ ทราบปัญหา หาต้นตอ รู้วิธีแก้ไข ต่อสู้ (แอ็คชั่นมันๆ) ภูตผีตาย จบ ตัวรูปแบบไม่มีอะไรซับซ้อน สอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับการอนุรักษ์ท้องถิ่น ห่วงแหวัฒนธรรมญี่ปุ่น (ประมาณว่า  ไม่ลบหลู่ประเพณี อนุรักษ์ธรรมชาติ)

    ถ้าถามว่าเป็นภาคระลึกได้หมด อืม...ตอบยากเหมือนกัน คือแบบผมอยากเห็นคิวทาโร่ยุคหนึ่ง ที่เป้นยุคเน้นสยอง บรรยากาศเก่าๆ (คือมืดๆ ทึมๆ ) แต่ก็เข้าใจว่า

    สำหรับภาคนี้ ตัวอนิเมะจะเน้นคนดูที่วัยมัธยมมากกว่า ภาคที่ฉายช่อง 3 (ซึ่งจะเน้นคนดูที่เป็นประถม) เห็นได้จากตัวละครเอกฝั่งมนุษย์ที่เป็นผู้หญิงมัธยมปลายที่มีความกล้า (ออกทอมบอยหน่อย) พยายามจะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของคิทาโร่ ซึ่งแตกต่างตัวเอกมนุษย์ของคิทาโร่ภาคก่อนๆ ที่เน้นความเป็นนางเอก เรียบร้อย  ต้องให้คิทาโร่ปกป้องทุกที ถือว่าเป็นการฉีกขนบก็ว่าได้

    อีกหนึ่งจุดเด่นของภาคนี้ คือการเน้นสภาพสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันมากขึ้น อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป จะมัวแต่นำเสนอบ้านนอก ทุ่งหญ้า ป่าเขา คงเป็นไปไม่ได้  ดังนั้นจึงนำเสนอภาพสังคมวุ่นวายของญีปุ่น   การจิกกัดสังคมโซเซียล ไอดอล โดยรวมแล้วผมชอบคิวทาโร่ภาคนี้นะ มันมีอะไรบางอย่างที่ดัดแปลงบ้าง แปลกๆ บ้าง แต่ผมชอบคิวทาโร่นะน่ารักดี  ได้เห็นอะไรเปลี่ยนไปบ้าง  (โดยเฉพาะน้องแมว) แต่ก็ยังนุ่มลึกอยู่ 


    Last Period: Owarinaki Rasen no Monogatari

    Last Period: Owarinaki Rasen no Monogatari เป็นอนิเมะเกมมือถือแนวแฟนตาซี Last Period พัฒนาโดย Happy Elements ให้บริการบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เปิดให้บริการตั้งแต่พฤษภาคม 2016 และมีมังงะบนเว็บที่เขียนโดย Gas (ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นตัวเกมนะ แต่ดูจากภาพแล้ว คงคล้ายๆ แกรนบลู)

                    เนื้อเรื่องได้กล่าวถึงPeriod ชื่อเรียกของผู้ที่สามารถโค่นมอนสเตอร์ Spiral ที่ถูกเรียกมาจากดินแดนที่ห่างไกล  และเรื่องราวโฟกัสที่ Period ฝึกหัด ฮารุ หนุ่มวัย 14 ปี แต่เกิดเหตุที่ทำให้หน่วยเขาล้มละลาย จนเขาและพรรคพวกต้องทำภารกิจมาช่วยฟื้นฟูสาขาของตน

    ตัวอนิเมะผลิตโดยบริษัท J.C.Staff เริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่น 11 เมษายน 2561 (Spring 2018) ทุกวันพุธเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย มี 12 ตอนจบ

    เอ่อ....ไม่รู้จะรีวิวอะไรดี เอาเป็นว่าเป็นอนิเมะสำหรับคนเล่นเกมมือถือเกมนี้มากกว่า เพราะหลายมุกมีการจิกกัดเกมของตัวเองด้วย  มันฮ่าตรงด่ากาซ่าตัวเองว่ามันโครตเกลือมาก เกมนี้

    ภาพค่อนข้างสวย ตัวละครน่ารัก เนื้อหาอารมณ์ดูแล้วสบายใจ ตลกเสียมากกว่า เสียอย่างเดียวคือคุณภาพอนิเมะเกมมือถือไคือไม่ค่อยปูพื้นหลังตัวละครสักเท่าไหร่ มาถึงก็จับกลุ่มปล่อยมุกเลย แทบไม่แนะนำตัวสักเท่าไหร่  

    โดยรวมแล้วเป็นอนิเมะระดับกลางๆ นะ แม้หลายอย่างจะสไตล์เกมมือถือ (ที่ไม่ค่อยเล่าเรื่องราวเท่าไหร่) แต่ชอบตรงการออกแบบคาแร็คเตอร์มากกว่า ที่แสดงความเป็นจุดเด่นตัวละครมาก เสียดายที่ไม่ค่อยปูตัวละครสักไหร่นี้สิ


    Hisone to Masotan


    Hisone to Masotan ฉันจะโบยบินไปพร้อมกับคุณ  เป็นอนิเมะออริจินอล ของสตูดิโอ BONES ผู้สร้าง Cowboy Bebop, Fullmetal Alchemist, Eureka Seven, Bungou Stray Dogs ต่อมาก็มีมังงะวาดโดย Toshinao Aoki    และ Netflix ก็ซื้อลิขสิทธิ์

    อนิเมะจะบอกเล่าเรื่องราวของสาวน้อยอามาคาสึ ฮิโซเนะที่เคยมีความฝันเล่นๆ ว่าอยากเป็นนักบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงวัยทำงาน (ขึ้นคาน) ก็เป็นเพียง พนักงานของกองทัพอากาศญี่ปุ่นธรรมทดา จนวันหนึ่งกองทัพได้บอกให้เธอไปประจำตำแหน่งเป็นนักบินกองทัพอากาศ จนเธอ งง ไก่ตาแตก ก่อนที่จะรู้ที่หลังว่าเธอกลายเป็นถูกเลือก เป็นคนขับ (ไม่ใช่ขี่ด้วย) มังกรที่เรียกว่า   “OTF” (Organic Transformed Flyer) มังกรที่กองทัพญี่ปุ่นซ่อนอยู่ภายในฐาน มังกรตัวนี้ได้ใส่อุปกรณ์แปลงโฉมหลอกให้เป็นเครื่องบินขับไล่  แต่ปัญหาคือการที่จะขับมันได้นั้น เธอจะโดนถูกมังกรกลืน แล้วเขามันภายในท้องมังกร (อินดี้อิบหาย)  

    แน่นอนว่าครั้งแรกที่โดนมังกรกลืนทั้งตัว เธอรู้สึกโครตแย่เลย ทำให้เธอปฏิเสธที่จะขับ หากแต่หลังจากลังเลไปพักหนึ่ง เธอก็ลองอีกครั้งไปพบมังกรตามลำพัง แล้วถูกกลืนอีกรอบ พร้อมถูกพาขึ้นบินไปท้องฟ้าทางศูนย์ติดต่อให้ใช้หมวก ซึ่งมีฟังก์ชันควบคุมและเปลี่ยนร่างเป็นเครื่องบินเจ็ทได้ เธอร่วมงานกับทางกองทัพในภายหลัง

     .....ก็เป็นอนิเมะแปลกๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีนัยยะอะไรบางอย่าง แปลกคือมันแปลกดีที่ให้คนไปอยู่ท้องมังกรแล้วบังคบจากข้างใน (แน่นอนว่ามีภาพท้องมังกรด้วย แต่ก็โชคดีที่มีเทคโนโลยีเปลี่ยนภาพท้องมังกรให้เป็นห้องควบคุมเครื่องบินได้....)

     ส่วนนัยยะ เหมือนอนิเมะเรื่องนี้จะเป็นการโฆษณาหาคนมาสมัครเป็นทหาร กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศ เห็นว่าช่วงนี้มีการทำอนิเมะแนวโฆษณาหาคนเข้ากองกำลังหลายเรื่องเลย ก็ไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นชอบแนวนี้หรือเปล่า  (เห็นว่าคนญี่ปุ่นเกลียดคนกองกำลังป้องกันตนเองมาก เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน)

    นัยยะต่อมา เราได้เห็นอะไรบางอย่างที่แปลกๆ คือการบีบให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำหน้าที่ที่แสนยิ่งใหญ่ และมันก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบเลย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเธอจำเป็นต้องอยู่กับมัน ยอมรับหน้าที่ (ที่ผู้มีอำนาจบีบให้เธอรับหน้าที่)  ต้องปรับตัว และคิดว่าเป็นสิ่งที่สนุก.... (ซึ่งผมเชื่อเถอะ คงไม่มีมนุษย์คนไหนเข้าท้องมังกรแล้วมันสนุกหรอก หรือนางเอกเรื่องนี้ติดใจ เพราะโดนมังกรแด๊กหลายรอบ)

    อารมณ์เหมือนกับว่า เป็นนักบินกองกำลังป้องกันไม่ได้เลวร้ายสักนิด ถ้าปรับตัวได้มันก็จะพบว่ามันเป็นงานที่สนุก ตื่นเต้น มากๆ และใครๆ ก็ขับได้ .....

    ตัวอนิเมะเน้นไปทางความประทับใจ  ตลก โรแมนติกอะไรแบบนี้ การออกแบบตัวละคร ฉากหลังเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ไม่รู้ว่าจะมีฉากต่อสู้กลางอากาศมันๆ มีศัตรูมารุกรานหรือเปล่า ถ้าไม่มีนี้กลัวน่าเบื่อชอบกล


    Jikken-hin Kazoku Creatures Family Days   


    Jikken-hin Kazoku Creatures Family Days   เป็นอนิเมะ ผลิตโดยบริษัท Huoniao Donghua เริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่นเดือน เมษายน 2561 (Spring 2018) ความยาว 15.30 นาทีต่อตอน

      เนื้อหาของอนิเมะเป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อแม่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ได้ทำการดัดแปลงพันธ์กรรมลูกชายลูกสาวตัวเอง ให้กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์  ซึ่งประกอบด้วยสโนว์ (สุโน) พี่ชายคนโต แปลงเป็นสุนัขได้ชิน , อาชิสึ พี่สาวคนโต สังเคราะห์แสงได้ , ไอสึริ  พี่สาวคนรอง มีแขนของแมงมุม 4 แขนกลางหลัง  และ ซุยชิ น้องสาวคนเล็ก อ่านใจคนอื่นได้ ทุกคนดัดแปลงหมด ยกเว้นทานิสที่น้องคนสุดท้องที่เหมือนคนปกติทุกอย่าง ไม่ได้ถูกฝึกหรือมีส่วนร่วมในการทดลองด้วย

     ต่อมาพ่อแม่ของครอบครัวก็ถูกจับ ทำให้คนที่เป็นที่พึ่งได้ก็คือทานิสที่ มีความรู้เรื่องโลกภายนอกมากกว่าพี่ทั้งสี่คน ทานิสตั้งใจให้พี่อีกสี่คนใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะพี่น้องเขามีโลกส่วนตัวที่สูงมาก อย่างตอนแรกทานิสชวนพี่ๆ ไปทานอาหารด้วยกัน (เพราะส่วนใหญ่ทั้งหมดอยู่แต่ในบ้านไม่ค่อยออกไปไหน) แต่ก็มีปัญหา เพราะ สโนว์   พี่ชายคนโต แปลงเป็นสุนัขระหว่างทานตามความเคยชิน ไอสึริ  พี่สาวคนรอง กินแบบแมงมุม อาชิสึ พี่สาวคนโต สังเคราะห์แสงได้ จึงไม่ทาน และ ซุยชิ พี่สาวคนที่สาม ไม่ทาน ทำให้ดูแปลกำหรับคนรอบข้าง จนทานิสหมดความอดทน พร้อมบอกว่าอยากให้พวกๆ พยายามทำตัวแบบมนุษย์  ทำให้เหล่าพี่ๆ จึงเริ่มกลับมาปกติ

    เชื่อว่าหลายคนรู้สึกแปลกๆ กับสถานที่ในเรื่อง ที่ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่ เพราะดุเมหือนไม่ใช่ญี่ปุ่นเลย ความจริงแล้วตัวต้นฉบับเป็นการ์ตูนไต้หวัน ผลงานของ Yanai ชาวไต้หวัน เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสารออนไลน์ Sun Comics ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2015 ถึงปัจจุบัน ฉบับรวมเล่มแรกจะวางจำหน่าย 25 มกราคม 2017 ยังไม่จบ พอเป็นอนิเมะ เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทสามประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฉายในหลายประเทศ

     ตัวอนิเมะออกไปทางชีวิตประจำวัน แฝงไปด้วยดราม่า (ที่ไม่ได้แรงมาก) เน้นไปทางเรื่องของความอบอุ่นของครอบครัว การปรับตัวของเหล่าพี่ๆ ของทานิสให้เป็นคนธรรมดา  ซึ่งก็มีบ้างที่ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ความแตกต่าง หรือนิสัยเข้าถึงยาก  ส่วนงานภาพก็ถือว่าสวย แบบเรียบๆ อารมณ์ของตัวเมืองที่ดูสงบสุข แต่ประเด็นที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องของที่มาที่ไปของเรื่อง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทานิส ทำไมเขาต้องหนีออกจากเกาะ (ที่น่าจะเป็นสถาบันทดลอง) ร่วมกับพี่ๆ และทานิสเป็นคนธรรมดาจริงหรือเปล่า?



    Mahou Shoujo Ore


    Mahou Shoujo Ore (Magical Girl Ore) เป็นอนิเมะจากแนวมังงะแนว BL คอเมอดี้ ผลงานของ Moukon Icchokusen ลงในเว็บไซต์ออนไลน์ Pixiv ช่วงปี 2014 และมีฉบับรวมเล่ม 2 เล่มจบ เรื่องนี้เคยประกาศภาคอนิเมะในปี 2014 โดยขึ้นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น แต่ไม่มีความคืบหน้ามากว่า 3 ปี จนกระทั่งมีข่าวในปี 2017  ผลิตโดยบริษัท Pierrot Plus เริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่นเดือน  

    เนื้อหาเกี่ยวกับซากิ นักร้องหญิงในวงไอดอลหน้าใหม่ Magical Twin (ที่ขายไม่ออก) ชอบนักร้องชายที่มีชื่อเสียง มิคาเกะ โมฮิโร่ จากวง STARRICE วันหนึ่งเธอได้ช่วยเหลือเขา โดยแปลงกายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ตามพันธะสัญญาที่ทำไว้ แต่แทนที่จะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ที่แสนน่ารัก กลับอยู่ในร่างชายล่ำบึ้กในชุดผู้หญิงแทน !?

    เดี๋ยวนี้สาวน้อยเวทมนต์มีสองประเภทคือไม่ปวดตับก็แนวล้อเลียนเสื่อมไปเลย ซึ่งทั้งซีซั่นนี้สาวน้อยเวทย์มีทั้งสองแบบ และอนิเมะเรื่องนี้เป็นแบบที่สอง

    ปกติไม่ได้ดูแนวการ์ตูนลายเส้นผู้หญิงสักเท่าไหร่ นอกเสียจากเนื้อหาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ผู้อ่านที่เป็นผู้หญิง เรื่องนี้เช่นกัน ตอนแรกที่อ่านมังงะนี้โครตฮ่ามาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นการ์ตูนของผู้หญิง เพราะเนื้อหาโครตเสื่อม อนาถ ทำผู้หญิงน่ารักกลายมาเป็นชายบึก (จนเกือบเป็นตุ๊ดควาย) ได้โหดมาก

    เนื้อหามุ่งเน้นตลก โรแมนติกนิดๆ จุดเด่นคือมุกตลกหลายอย่างมุ่งเน้นไปกับการ์ตูนผู้หญิง ซึ่งขอบอกว่าการ์ตูนผู้หญิงหลายเรื่องถ้าไม่เอาเรื่องรักๆ หนุ่มหล่อตามสูตรแล้ว เล่นมุกตลกสนุกมาก เพราะเน้นสร้างคาแร็คเตอร์ที่แม้จะเป็นไปตามสูตร แต่เข้าขากว่าการ์ตูนตลกผู้ชายเสียอีก โดยเฉพาะเอาผู้หญิงน่ารักเป็นคนเล่นมุก ทำตัวเสื่อมๆ  หรือเป็นคนตัดมุกนี้ เป็นเข้ากันกว่า

    สำหรับตัวอนิเมะตรงต้นฉบับ เพิ่มเติมคือ โคตรฮ่า เสื่อม เสียดายที่ตัวอนิเมะสปอยเนื้อหาแล้ว น น่าจะเก็บเรื่องหักมุมให้กับคนที่ไม่ได้อ่านมังงะดีกว่า  มันจะโครตดี นอกจากนี้ยังมีประเด็นโรแมนติกเกี่ยวกับความรักของตัวละครตามแบบฉบับการ์ตูนผู้หญิวด้วสย

    อย่างไรก็ตาม สูตรแบบนี้ไม่ได้แปลกใหม่แล้วปัจจุบัน เพราะก่อนหน้านี้อนิเมะหลายเรื่องก็จับผู้ชายมาจับใส่ชุด-กระโปรงสาวน้อยเวทมนต์มาแล้ว (มุมผู้หญิงเป็นหนุ่มเวทย์มนต์ ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายกลายเป็นสาวน้อยเวทมนต์หรอก)  แถมมีหลายเรื่องเสื่อมโหดมาก มันจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ดูอนิเมะสาวน้อยเวทย์เสื่อมๆ อะไรมากมายมากกว่า

    ปล. น้องสาวพระเอกน่ารัก


                 Golden Kamuy

    ปิดท้ายการ์ตูนที่ดีกว่าที่คิด  (มังงะ) อย่าง Golden Kamuy มังงะแนวแอ็คชั่น  ผลงานของ Noda Satoru (Kokkoku) ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young Jump ของทางชูเอย์ฉะ ตั้งแต่ปี 2014 วางจำหน่ายถึงเล่ม 12 เดือนธันวาคม 2017 ยังไม่จบ  อนิเมะผลิตโดยบริษัท Geno Studio เริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่น 9 เมษายน 2561 (Spring 2018) ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 21.00 น. มี 12 ตอนจบ

    เนื้อเรื่องกล่าวถึงสึกิโมโต้ ไซจิ นายทหารยอดฝีมือที่เคยรอดชีวิตจากสงครามญี่ปุ่น-รัสเซียในปี 1904 ที่ต้องการหาเงินจำนวนมากมาช่วยเหลือเมียเพื่อนสนิทที่เป็นทหารที่ตายในสงคราม  (สาเหตุที่ช่วยเมียเพื่อนมีเล่าไว้แล้ว)  แต่ต้องมาพัวพันกับการค้นหาทองคำที่ถูกปล้นไปของชาวไอนุในฮอคไกแถมยังต้องพวกพันกับกลุ่มกองทัพญี่ปุ่นและกลุ่มกองโจรปริศนา  และเขาได้พบ อาซิร์ปา เด็กสาวชาวไอนุ ที่ช่วยชีวิตเขเอาาไว้ จึงได้ออกเดินทางไปด้วยกัน

                    ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่ก็พบว่าเป็นการ์ตูนที่น่าสนใจ แม้พล้อตตอนแรกๆ จะเหมือนอะไรแปลกๆ อย่างตามล่าหานักโทษที่มีรอยสักหาขุมทรัพย์ แต่เอาเข้าจริงมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นให้พระเอกเจออภิมหาซวยที่เดิมพันเรื่องของประเทศเลยทีเดียว

                    ตัวการ์ตูนเองก็นำเสนอช่วงเวลาสงครามญี่ปุ่นกับรัสเซียซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครทำกัน เนื้อาหของเรื่องจะมีสองช่วงหลังๆ คือ ช่วงเปิดโลกวิถีชีวิตของไอนุ (ที่ไม่ค่อยมีการ์ตูนเรื่องไหนทำกันหรอก) ได้เห็นความเป็นอยู่ของชาวไอนิ เความเชื่อธรรมชาติ การเอาตัวรอดในป่า (เช่น เจอหมีต้องทำยังไง, ความน่ากลัวของหมี เป็นต้น) แต่โหดสุดคือการเปิบพิสดารอาหารป่าของไอนุ ที่เปิบได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หมี กระรอก ไปจนถึงนาก อะไรที่เป็นสัตว์อินุกินหมด ขนาดพระเอกเป็นทหารกินได้ทุกอย่างต้องทำใจก่อนกิน

    ส่วนอีกช่วง คือช่วงมันของการ์ตูนเรื่อง นี้ การต่อสู้ของพระเอก ที่สไตล์การต่อสู้จะเป็นแบบทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด เขาจ้องจะฆ่าก็จะสู้สุดชีวิต ผสมกับยุทธวิธีภูมิศาสตร์มาเป็นประโยชน์ช่วยด้วย ทำห้ฉากต่อสู้ถือว่ารุนแรงพอสมควร เลือดสาด ฉากโหดเพียบเหมือนกัน

                    ส่วนอนิเมะ ตัวผมอยากชื่นชมสตูดิโอ Geno Studio  ที่เลือกมังงะการ์ตูนที่เนื้อหาดี แต่ไม่มีใครสนใจมาทำเป็นอนิเมะ แถมยังเก็บรายละเอียด เก็บยอารมณ์ที่ค่อนข้างดีใช้ได้ แม้จะมีสิ่งที่จุดติไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์อย่างมใด ส่วนตัวผมชอบฉากเปิดสงครามตอนแรกนะ    และที่สำคัญนางเอกน่ารักมาก

     

                    มาถึงตรงนี้ก็ขอจบการรีวิวอนิเมะคร่าวๆ เพียงแค่นี้ เสียดายที่มีอนิเมะหลายเรื่องอยากจะดู แต่ไม่มีซับไทย ประกอบกับช่วงเวลานี้ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า หาซับในเว็บต่างชาติยากขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นผลของการกวดขันลิขสิทธ์หรือเปล่า

                    สรุปว่า ซีซั่นนี้ผมตามเพอร์โซน่า 5 แม้จะมีอะไรหลายอย่างขัดๆ ก็ตาม ผีน้อยคิวทาโณ่ก็ขึ้นอยู่กับซับไทย เช่นเดียวกับ Golden Kamuy ถ้ามีซับไทยก็จะดู

    ส่วนอนิเมะแนวฮาเร็ม เซอร์วิส แทบไม่มีเลยในซีซั่นนี้ แม้จะมีเรื่อง  High School DxD Hero แต่ก็ไม่ได้เป็นอนิเมะที่ผมติดตามแต่อย่างใด (แถมกระแสอวยมันมอดไปนานแล้วมั้ง สำหรับใครหลายคน)

                   

                    ส่วนอนิมะที่มีหน่วยก้านจะเป็นตำนานหรือไม่นั้น ไม่มี





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×