ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #395 : ทาสสาวต่างโลก - รูทที่เล่นง่ายเกินไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.07K
      7
      23 พ.ค. 59

    บทความนี้ เป็นบทความที่เขียนขึ้นตามความคิดเห็นของผมครับ ซึ่งผมว่าไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับคนแต่งนิยายที่มีรูทนางเอกเป็นทาสแน่นอน  แต่ผมก็อยากให้ทุกท่านอ่านจนจนครับ ถือว่าเป็นความคิดเห็นของผู้ที่มองว่ารูททาสมันเป็นรูทที่ง่ายไป

     

    ปัจจุบัน นิยายเน็ตแนวเกิดใหม่ต่างโลก, หลงไปต่างโลก (ต่อไปขอเขียนสั้นๆ ว่า นิยายต่างโลก นะครับ) กำลังฮิต นอกเหนือจากนิยายเน็ตของญี่ปุ่นแล้ว นิยายแฟนตาซีเว็บเด็กดีเองก็เริ่มเอาพล็อตแนวต่างโลกเอามาเขียนด้วย

    แน่นอนว่า เมื่อนิยายต่างโลก มีเยอะ หลายเรื่องขึ้น ก็ไม่แปลกเลยที่มีพล็อตคล้ายๆ กัน จนกลายเป็นสูตรสำเร็จ เป็นต้นว่า ต่างโลกเป็นยุคกลางยุโรป พระเอกมีสกิลโกง พระเอกมีฮาเร็ม ดำเนินเรื่องค่อยๆ เก่งขึ้น ฯลฯ

    (พอมีพล็อตอะไรใหม่ๆ ก็มีเฮโลกันแต่งตาม อย่างพระเอกเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ตอนหลังก็มีคนแต่งแนวคล้ายๆ กันตามอีก)

    หนึ่งในมุกที่พบเห็นมากที่สุดในต่างโลก  คือจะต้องมีเรื่อง “ทาสสาว” เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ  กล่าวคือ เริ่มต้น พระเอกจะซื้อทาสสาวจากร้านขายทาส  ซึ่งต่อมาทาสสาวนั้นก็เป็นผู้หญิงของพระเอก และเป็นหนึ่งในกำลังหลักของพระเอกไปในที่สุด

    ความจริงแล้ว เรื่อง “ทาส” ในนิยายแฟนตาซีนั้นถ้าทำดีๆ จะถือว่าฟินมาก แต่อนิจจาส่วนมาก ด้วยความรู้สึกส่วนตัว ผมอ่านนิยายต่างโลกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นของญี่ปุ่น (ที่เอามาแปลลงเว็บ)  และของไทยนั้น ไม่ค่อยฟินสักเท่าไหร่นัก ส่วนมากจะเป็นสูตรเดิม ปักธงง่ายๆ และผมเชื่อว่าเรื่องทาสในนิยายต่างโลก ทำให้หลายคนดูถูกฮาเร็มด้วยว่า ผู้หญิงนั้นใจง่ายเหลือเกิน.....

     

     

    โศกนาฏกรรมต่างโลกเริ่มต้นจากเดธมาร์ช

    Death Marching To The Parallel World Rhapsody - Honobono tokidoki Serious soshile Harlem

    น่าจะเป็นนิยายไลท์โนเวลลิขสิทธิ์ไทย ที่มีฮาเร็มทาสสาว (และผู้กล้าโล่)

     

    ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องทาสในนิยาย ผมก็ขอพูดถึงเรื่องทาสในโลกแห่งความจริงเสียหน่อย หากพูดถึง “ทาส” หลายคนอาจรู้สึกเฉยๆ แต่สำหรับโลกของเรานั้นการขายทาส เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขาย หรือผู้ซื้อ (แม้ผู้ซื้อจะปฏิบัติต่อทาสดียังไงก็ตาม) เพราะมันบ่บอกถึง การเหยียดเชื้อชาติ การหาผลประโยชน์ การเปรียบเทียบชีวิตของคนด้วยเงินตรา

    แม้ทั่วโลกจะยกเลิกทาสแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันการค้าทาสก็ยังมีอยู่ ตราบใดที่มนุษย์มองเห็นชีวิตของคนอื่นเป็นเพียงสิ่งของ ที่สามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยนกันได้ รวมไปถึงการเอาเปรียบคนที่กำลังเดือดร้อน การค้าทาสก็ยังคงมีอยู่ตลอดไป

    ปัจจุบันคำว่าทาส ยังคงมีความหมายเหมือนทาสยุคอดีต (ต่างตรงที่ สมัยก่อน ทาสเป็นเหมือนทรัพย์สินของนาย) คือ หมายถึงคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ แบบไม่เป็นธรรม บังคับใช้แรงงาน มีพันธะทางหนี้ถูกค้าให้แก่นายจ้าง และมีความเกี่ยวพันกับการค้าบริการทางเพศ การปรนนิบัติรับใช้ นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบต่างจากอดีตอยู่อีก เช่น การ เอาตัวเด็กมาเป็นทหาร บังคับให้แต่งงาน แรงงานเด็กที่ใช้งานเกินตัว (อย่าง เหมืองแร่, ประมง, ก่อสร้าง, ทำไร่)

    ที่น่าตกใจคือ จากตัวเลขของทาสที่มีอยู่ทั่วโลกของ Walkfree (กลุ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้แรงงานทาส) ได้บอกว่าโลกของเรายังมีคนที่เป็นทาสกว่า 36 ล้านคน จาก 167 ประเทศทั่วโลก และประเทศที่มีมากที่สุดคืออินเดียมีทาสมากกว่า 14 ล้านคน รองลงมาคือประเทศจีน 3 ล้านคน และไทยอยู่ในประเทศที่มีแรงงานทาสติดอินดับ 1 ใน 10

    ส่วนมากผู้ที่ตกเป็นทาส ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ไม่มีความรู้ อ่อนแอ ไม่ค่อยมีสิทธิมีเสียงในสังคม ยากจน บุคคลเหล่านี้มักเป็นเหยื่อของคนฉลาด คนเข้มแข็ง ที่จะหลอกลวง บังคับ คนเหล่านั้นให้เป็นทาสอย่างช่วยได้

    ดังนั้น ทาสสมัยใหม่ จะออกไปในการถูกบังคับเสียมากกว่า

    แม้ว่าจะดูโหดร้าย แต่ปัจจุบันก็มีนิยายที่ดัดแปลงเรื่องทาสแบบ ลดความโหดร้าย ดูน่ารัก (?) ฟินๆ เกี่ยวกับเจ้านาย (นายท่าน) รักแก ทาส (บ่าว) แบบฟินๆ อย่างละครไทยก็เอาคำว่าทาส มาใช้เป็นชื่อเรื่องก็มี อย่าง ทาสรักอสูร, ทาสรัก บ่บอกว่าพระเอกต้องดิบเถื่อน บังคับนางเอกมาเป็นเมีย ประมาณนั้น (ยังไม่พูดถึง นางทาส ซึ่งเป็นทาสสมัยเก่ามากกว่า)

     

     

    ที่นี่ มาพูดถึง ทาสโบราณ ทาสยุคกลาง ที่อยู่ในโลกแฟนตาซีบ้าง

     

     

    ภาพจากวิกิพีเดีย

     

    ถ้าถามว่าทาสสมัยก่อน กับทาสยุคปัจจุบัน อันไหนเลวร้ายกว่า คำตอบก็ทาสสมัยก่อน เพราะมีความหมายตรงตัวมากกว่า ตามวิกิพีเดียได้ให้ความหมายของทาสว่า ทาส หมายถึง บุคคลซึ่งถูกนับสิทธิเสมือนสิ่งของของผู้อื่น ไม่มีอิสระในการดำรงชีวิต และมีหน้าที่รับใช้ผู้อื่นโดยมิได้รับการตอบแทนจากเจ้าของ (นายทาส) เช่น การรับใช้ทางด้านแรงงาน และหากไม่เชื่อฟังคำสั่งอาจถูกลงโทษได้ตามแต่นายทาสจะกำหนด ยกเว้นเป็นการกระทำอันทำให้ถึงแก่ความตาย

    แม้ความจริงแล้วมันก็เลวร้ายพอๆ กัน ก็เถอะ

    ที่มาของทาสนั้นไม่ชัดเจน เพราะมันมีอยู่ทั่วโลก เกือบทุกประเทศ ทุกอารยธรรม ไม่ว่าจะเป็น สุเมเรียน, อียิปต์โบราณ, จีน, อินเดียโบราณ, โรมัน อย่างสมัยโบราณ มีสงครามเกิดขึ้นมากมาย ระหว่างเมือง ระหว่างประเทศ หากฝากไหนแพ้ ก็จะจับเป็นเชลยแก่ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า เอามาเป็นทาส ผู้ชายใช้แรงงาน ผู้หญิงปฏิบัติรับใช้ (นางบำเรอ) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมากในสมัยนั้น อีกทั้งยังสร้างรายได้งามแก่ผู้ชนะและพ่อค้าทาสที่ละโมบ

    อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่ ผู้แพ้มาเป็นทาสเท่านั้น ยังรวมไปถึง การถูกลักพาตัวมาเป็นทาส เป็นทาสเพื่อใช้หนี้  ไปจนถึงชนชั้นสูงที่ถูกลงโทษ เช่นกัน

    ยิ่งในช่วงล่าอาณานิคม (ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-19) การค้าทาสเฟื่องฟู ชนยุโรปที่บุกไปแอฟริกา ก็มักจับชาวพื้นเมืองที่นั้นมาเป็นทาส จนกลายเป็น ส่วนใหญ่จะนำไปเป็นแรงงานที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าจ้างมากนัก (เอามาปลูกพืชไร่ เครื่องเทศ เพื่อส่งไปขายในประเทศเจริญแล้ว) และที่เลวร้ายคือ ทาสเหล่านี้แทบไม่มีค่า ชีวิตพวกเขาเทียบเท่ากับเงินไม่กี่บาท จนบางครั้งพวกเขาถูกจับโยนลงทะเลระหว่างขนส่งทาสก็มี เพียงเพื่อลดน้ำหนักบนเรือ ทั้งๆ ที่มีสิ่งที่หนักกว่าสามารถทิ้งจากเรือได้

    ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด ทาส บ่บอกถึงบุคคลที่ไร้ค่า บ่บอกถึงการเหยียดเชื้อชาติพียงเพราะมีสีผิวแตกกันกัน การรุกรานของผู้จากโลกที่แข็งแกร่งกว่ากดขี่ผู้อ่อนแอกว่า แน่นอนว่าชีวิตของทาสนั้นเลวร้ายมาก เหมือนดั่งที่เราได้เห็นในภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวกับทาส และการรุกขึ้นมาต่อสู้ของเหล่าทาสด้วย (แต่ส่วนใหญ่ทาสมักเป็นฝ่ายแพ้มากกว่า)

    การค้าทาสเฟืองฟูอยู่นาน จนกระทั่งมาถึงจุดๆ หนึ่ง เมื่อผู้เจริญแล้ว มองว่า การค้าทาสมันละเมิดสิทธิมนุษย์ชน กลุ่มศาสนาเองก็มองว่ามันไม่ใช่การกระทำของผู้มีเมตตา ที่เคารพต่อชีวิตมนุษย์ ดังนั้นการเลิกทาสในประเทศต่างๆ ก็เกิดขึ้น แม้ช่วงแรกๆ พวกเสียผลประโยชน์จะออกมาต่อต้าน ทำให้การเลิกทาสเต็มไปด้วยความยากลำบากอยู่บ้าง หากแต่เพราะการแก้กฎหมายที่ทำให้การค้าทาสลำบากมากขึ้น เสียงคัดค้านก็เริ่มลดน้อยไป ทำให้ประเทศอื่นๆ ประกาศเลิกทาส จนกระทั่ง

    แม้ปัจจุบันการค้าทาสยังอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งปกติเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว เมื่อโ,กมองว่าการค้าทาสเป็นสิ่งที่เลวร้าย เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรกระทำ

    สื่อบันเทิงเองก็นำเสนอภาพยนตร์เกี่ยวกับกับการค้าทาสว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย ซึ่งทำให้คนทั่วไปมองด้านลบเกี่ยวกับการค้าทาสด้วย อีกทั้งยังมองว่าทาสที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม จะถูกยกเป็นวีรบุรุษด้วย

     

                    ปกติแล้วเรื่องทาสเป็นสิ่งที่ล่อแหลม กระทบจิตใจสำหรับหลายคน ดังนั้นก็มีสื่อบันเทิงบางเรื่องเหมือนกันที่ไม่ได้เน้นประเด็นเรื่องทาสมากนัก อย่าง Assassin's Creed IV Black Flag เองก็มีเรื่องทาส แต่ก็ไม่ได้นำเสนออะไรที่โหดร้าย แถมเนื้อหาก็มีเรื่องเกี่ยวกับนักฆ่าที่กำจัดพวกค้าทาสเพื่อปลกปล่อยอิสระภาพของทาส

                    ผมจึงแปลกใจ ที่แฟนตาซีต่างโลก นิยายเน็ตนี้แหละที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก (ไม่นับสายมืด ซึ่งเอาเรื่องทาสกาม มาสนองความชอบรสนิยมของผู้อ่าน)

                    ปกติแล้วแฟนตาซีต่างโลกไม่ค่อยนำเสนอความโหดร้ายของทาส หรือการต่อต้านทาสมากนัก โอเคอยู่ ที่นิยายเหล่านั้นเป็นแนวสบายๆ ใช้ชีวิตบนต่างโลก ที่ไม่ดราม่า แต่เราน่าจะนำเสนอเรื่องการต่อต้านทาส หรือการไม่สนับสนุนการค้าทาสด้วย เพราะที่ผ่านมาเราได้เห็นพระเอกที่ซื้อทาสแบบง่ายเกินไป โดยไม่มีอะไรนำเสนอเพิ่มเติม

                    คือ....แปลกใจเหมือนกันที่พระเอกเป็นคนญี่ปุ่น อยู่ในประเทศที่มีความเป็นเสรี และให้ความสิทธิมนุษย์ชน แต่ไม่ค่อยมองความละเอียดการซื้อทาสมากนัก

    โอเค แม้ว่าพระเอกส่วนใหญ่จะปฏิบัติต่อทาสสาวแบบเป็นมนุษย์  แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะผมมองว่าการซื้อทาส เท่ากับการสนับสนุนการค้าทาส อีกทั้งทาสสาวที่พระเอกซื้อก็ต้องตกเป็นผู้หญิงของพระเอก นั้นก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ ที่บางคนซื้อทาสสาว จ่ายเงินแพงๆ เพื่อเอามาทำเรื่องอย่างว่า (แม้พระเอกจะรักจริงก็เถอะ)

    ยิ่งเราให้เงินแก่พ่อค้าทาสมากเหล่านั้น ธุรกิจก็ยิ่งดีขึ้น มีคนตกเป็นเหยื่อมากขึ้น การเหยียดเชื้อชาติก็ยังคงเดิม ถามว่าพระเอกช่วยคนพวกนี้หรือเปล่า คำตอบก็คือไม่

                    ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยฟินสักเท่าไหร่ ที่แนวต่างโลก มีการซื้อทาสมาเป็นผู้หญิงของพระเอก แถมผมเองก็ไม่ได้มีรสนิยมสายทาส (แต่ถ้าทาสแบบน่ารัก แบบพระเอกเป็นขี้ข้าเพื่อนสมัยเด็ก แบบนี้สนุกกว่า)

                    นอกจากนี้ สิ่งที่ผมแทบจะเซ็งๆ เรื่องทาส คือมันเป็นรูทที่ง่ายเกินไป

     

     

     

    หากเราอ่านนิยายแฟนตาซี ที่พระเอกซื้อทาสมาเป็นคนรัก เราจะเห็นมุกเดิมๆ เกือบทุกครั้ง เป็นต้นว่า

                    -ทาสสาว อดีตเคยเป็นลูกขุนนาง ไม่ก็เจ้าหญิงตกอับ

                    -ทาสสาว อดีตเคยเป็นชาวบ้าน ถูกลักพาตัว ไม่ก็ถูกขายใช้หนี้

                    -ทาสสาว เป็นเอลฟ์, หูแมว, หูหมา, ไม่ก็เป็นลูกครึ่งอสูรกาย (ดูราฮาน, ราเมีย ฯลฯ)

                    -ทาสสาวได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้าย ถูกซ้อม (แต่ไม่มีข่มขืน ลงแขก)

                    -พ่อค้าทาสเป็นคนอ้วน เหมือนลุงใจดี (พ่อค้าทาสต้องสุภาพกับลูกค้าครับ มีนิยายแฟนตาซีไทยบางเรื่องแต่งพ่อค้าทาสเถื่อนๆ พูดจาหยาบต่อลูกค้า คงมีคนอุดหนุนหรอก)

                    -พระเอกไปเจอบังเอิญ หรือไม่ก็ระบุความต้องการให้

                    -ทาสสาวน่ารัก นิสัยอิ๋มๆ หน่อย ไม่ค่อยงอแง ไม่สร้างปัญหาให้พระเอก

                   -ต้องมีปลอกคอทาส (บางเรื่องมีอัฟเสริมร่ายเวทย์กำกับ หากทาสฆ่าเจ้านาย ทาสก็ตายตามด้วย)

                   นี่คือคร่าวๆ สำหรับสูตรสำเร็จของทาสสาวต่างโลก ซึ่งมันก็สูตรเดิมๆ ซ้ำหลายเรื่อง ยากที่จะหาความแปลกใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่หลายคนเอียนนิยายแนวนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม มันก็มีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับทาสสาวมนต่างโลก ตรงที่ ปกติ หากเป็นโลกแห่งความจริง ทาส เรามักถึง ทาสผิวสี ที่อยู่โลกที่สาม ที่มักถูกจับเป็นทาส ถูกเหยียดเชื้อชาติ ถูกมองว่าเป็นชนป่าเถื่อน   สติปัญญาต่ำ และอัปลักษณ์ (ทั้งๆ ที่จริงแล้วตรงกันข้ามเลย) ซึ่งผมเชื่อว่าบางคนแทบไม่รู้สึกอะไรมากนัก ในสื่อที่เราเห็นทาสเหล่านี้ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายก็ตาม หากแต่ทาสต่างโลกกลับเป็น เอลฟ์ เผ่าหูสัตว์ (หูแมว หูกระต่าง) เผ่าที่ควรทะนุถนอมสำหรับโอตาคุไปเสียได้ บ่บอกได้เป็นอย่างดีถึงอารมณ์ของคนแต่งที่แต่งตามรสนิยม หรือสนองความต้องการอย่างหนึ่ง

                  



                    ปกติแล้ว ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบเรื่องทาสสาวต่างโลกสักเท่าไหร่ หากพบนิยายเรื่องใดที่มีเรื่องเกี่ยวกับทาสสาวละก็ ผมก็ไม่ตามอีกเลย

                    แน่นอนมันมีหลายสาเหตุ นอกเหนือจากเรื่องที่ไม่ค่อยนำเสนอเรื่องการต่อต้านทาสมากนัก แล้ว รูททาสสาวถือว่าเป็นรูทที่ปักธงง่ายเกินไป ในบรรดารูทฮาเร็มที่ผมติดตามมา

                    หากพูดถึงรูทปักธงง่าย ก็ต้องนึกถึงฮาเร็ม ที่ผู้หญิงมักเข้าหาพระเอกตั้งแต่พบเจอ และหลงรักทันที หรือไม่ก็พระเอกทำอะไรบางอย่างที่ปักธง (เช่น ปกป้อง ช่วยเหลืออันธพาล) ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่แปลกแต่อย่างใด เพราะมันเป็นความรักที่อุดมคติสำหรับผู้ชาย (แม้แต่ผู้หญิงเองก็มีความรักที่อุดมคติ อยากให้เจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย เหมือนกัน)

                    อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการปักธงง่ายๆ ผู้หญิงรักพระเอกเมื่อแรกเจอ หรือพระเอกทำดีเข้าหน่อยก็หลงรัก หากแต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป ก็จะเริ่มมีการเสริมว่าสาเหตุใดที่เธอรักพระเอก และต้องเป็นพระเอกเท่านั้น หรือไม่ก็มีเหตุการณ์อะไรใหญ่ๆ ที่ทำให้พระเอกโชว์หล่อต่อหน้าสาวๆ ให้ธงนั้นปักแน่น มีเหตุผลมากขึ้น

                    แล้วทาสสาวละ

                    เท่าที่ผมเห็นหลายๆ เรื่อง ทาสสาวเป็นรูทปักธงที่ค่อนข้างไม่ค่อยฟินมากนัก สำหรับผม เอาละมาคิดดูดีๆ

    เกี่ยวกับรูททาสสาวเกือบเหมือนกันทุกเรื่อง คือ พระเอกได้ไปเห็นทาสสาว (หรือกำลังจะไปซื้อทาสสาว) เจอทาสสาวมอมแมน จากนั้นพระเอกก็ซื้อทาสสาวมา และดูแลเป็นอย่างดี ทำดีเข้าหน่อย ก็ปักธงทาสสาวได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเนื้อเรื่องก็ดำเนินไหลไปเรื่อยๆ ทาสสาวเรียนรู้เวทย์ กลายเป็นผู้ชายพระเอก รักพระเอกมากๆ

                    ไม่แปลกเลย ที่ส่วนใหญ่หลายคนมองรูททาสสาวว่าเป็นรูทที่มักง่าย

    โดยปกติแล้วฮาเร็มทั่วๆ ไป กว่าจะปักธงได้ พระเอกต้องผ่านอุปสรรค์มามากมาย  เช่น การต่อสู้ การทำให้คนอ่านเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงพระเอกเท่านั้น เพื่อแสดงให้ถึงรัก พระเอกยอมตายได้เพื่อเธอ แต่กรณีของปักธงทาสสาว ผมมองว่า พระเอกแค่ดึงเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังอ่อนแอ และกำลังอยู่ในช่วงเลวร้าย เข้ามาสู่โลกสว่างอีกครั้ง ซึ่งมันก็แค่นี้ ไม่มีอุปสรรค์อะไรเลยแม้แต่น้อย และไม่มีประเด็นอะไรให้เล่นอีก ทำให้บทของทาสสาวเป็นบทจืดๆ ที่ไม่ได้ยาวมากนัก

    เคยมีคำกล่าวที่ว่า ฮาเร็มมันจะสนุก หากพระเอกปักธงผู้หญิงช้าๆ จากผู้หญิงไม่ชอบพระเอก ก็เริ่มหันมาสนใจ หันมาชอบ หันมารัก อุปสรรค์เป็นสิ่งที่หอมหวาน เป็นสิ่งที่ท้าทายในการพิชิตใจเธอ (แม้พระเอกจะไม่ได้คิดว่ามันคือความรักก็ตาม)

    นอกจากนี้ ปกติแล้วฮาเร็มส่วนใหญ่ ผู้หญิงมักจะมีสถานะเหนือกว่าพระเอกไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สถานะทางสังคม สติปัญญา เช่น ประธานนักเรียน, เจ้าหญิง, นักเรียนดีเด่น แตกต่างจากทาสสาวที่สถานะสังคมด้อยกว่า ซึ่งหากสังเกตดีๆ หากเนื้อเรื่องดำเนินต่อไป ส่วนใหญ่ฮาเร็มพระเอกจะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัศวินหญิง, ทาสสาว ซึ่งมีสถานะเหนือกว่าพระเอก และเหนือกว่าทาสสาว แถมมีอารมณ์ นิสัยที่หลากหลายกว่า (ซึนเดเระ, เสน่ห์) ในขณะที่ทาสสาวส่วนมากออกไปทางจืดๆ ง่ายๆ (ปักธงง่าย) ทำให้บทจืดจางไปด้วย (หากคุณรู้สึกเหมือนผม)



    ความจริงแล้ว การปักธงทาสสาวนั้น หากทำดีๆ  ก็ถือว่าเป็นรูทการปักธงที่ฟินก็ว่าได้ เพียงแค่เล่นเรื่องการปกป้อง การต่อต้านทาส ใส่เนื้อเรื่องความเป็นมาของเธอสักให้ยาวกว่านี้สักนิด การ ไม่ใช่แค่ซื้อทาสมาทำดีเข้าหน่อยจากนั้นก็เอากันก็จบ แบบนี้พระเอกก็ไม่แตกต่างอะไรกับพวกซื้อทาสสาวเพื่อเรื่องอย่างว่า เลยแม้แต่น้อย


    โดยส่วนตัวแล้วนิยายต่างโลก (ฮาเร็ม) ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องทาสสาวมาเกี่ยวข้องก็ได้ เพราะหากเราสังเกตดีๆ นิยายเน็ตที่ดังๆ ที่เอามาทำเป็นอนิเมะ อย่าง ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง เองก็ไม่ใส่ทาสสาวเลยแม้แต่น้อย  ก็ทำให้สนุกได้ เพราะสิ่งที่หลายคนสนใจไม่ได้อยู่ที่พระเอกมีจำนวนฮาเร็มกี่คน หรือการปักธงรั่วๆ  แต่มันอยู่ที่เนื้อหาที่แตกต่าง สร้างความน่าสนใจ น่าติดตาม ไม่ใช่ว่าดำเนินเรื่องตามสูตร จนคนอ่านคาดเดาเนื้อเรื่องได้


     


    สรุปคือ ใส่ใจกับตัวละครสักนิด  ยิ่งทาสสาวต่างโลกมีฐานะต่ำกว่าเรา นิสัยหัวอ่อน จืด ก็ยิ่งต้องใส่ใจมากหลายเท่า


     


    ก็จบเพียงเท่านี้สำหรับคำแนะนำเรื่องทาสสาวต่างโลก ความจริงผมน่าจะเอาตัวอย่างการ์ตูนสักเรื่องมาพูดถึงสักหน่อย แต่ผมว่าไม่ดีกว่า (ส่วนหนึ่งก็เป็นแนวการ์ตูนเรต) เอาเป็นว่าหากอยากจะใส่ทาสสาวจริงๆ ก็ลองคิดให้มากๆ ว่าจะทำยังไงให้สนุก ให้ตัวละครมีคุณค่า ไม่ใช่บทจืด บทหาย ปักธงง่าย  เป็นต้นว่า ลองแต่ง ทาสสาวความจริงเป็นเจ้าหญิงที่กำลังถูกตามล่า พระเอกไปช่วย และกอบกู้อาณาจักร แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×