ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #357 : Overlord เกมจอมมารเขย่าโลก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.49K
      28
      20 ก.ย. 58

    สำหรับบทความนี้ ผมก็จะเขียนการ์ตูนที่ติดตามในช่วงนี้ละกัน นั่นคือ Overlord

    Overlord เป็นอนิเมะผลงานจากนิยายเน็ตของ Maruyama Kugane โดยเป็นเรื่องราวในปี 2138  ตัวเอกเป็นพนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ (รู้แต่ว่า ชีวิตไม่มีอะไรเลย ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรัก ไม่มีครอบครัวที่ห่วงใย) สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือตัวตนในเกมออนไลน์อิกดราซิล (Yggdrasil) ซึ่งเป็นเกม DMMO-RPG ชั้นแนวหน้าตั้งแต่  2126-2136  (เป็นเกมแนวแฟนตาซีในตำนานนอร์ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งต่างๆ มากมาย) และ หัวหน้าผู้ดูแลกิลด์ Ainz Ooal Gown กิลด์ที่มีศูนย์รวมเผ่าพันธ์อมนุษย์ มีสมาชิก 41 คน (ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้ง แต่เป็นผู้สืบทอดจากหัวหน้าคนเก่าอีกทะ) แม้จะน้อยกว่ากิลด์อื่น (แถมชื่อเสียงไม่ค่อยดีอีก) หากแต่ละคนมีความเก่งกาจ แถมมีชื่อเสียงในด้านการโจมตีและมีฐานทัพ (นาซาลิกซ์) ระดับแนวหน้า (ดันเจี้ยนกิลด์ไม่เคยมีผู้ใดสามารถเอาชนะได้)

     ในเกมตัวเอกใช้ชื่อในตัวละครว่า โมมอนกะ(กระรอกบิน) อาชีพเป็น  ดาร์กเนส นักรบมืด หรือผู้ใช้ความมืด  ซึ่งเป็นโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อและผิวหนัง แต่มีพลังเวทมนต์มหาศาล ซึ่งกว่าจะถึงจุดนี้โมมอนกะต้องผ่านอะไรหลายอย่างมากมาย ทั้งเก็บเลเวล เก็บไอเท็ม เล่นอีเวนส์  เติมเงินก็มากเป็นเวลาหลายปี ไม่แปลกเลยที่ทำให้โมมอนกะมีความรู้สึกผูกพันกับเกมนี้มาก สิ่งที่เขาทุ่มเทมากกว่าชีวิตจริงด้วยซ้ำ

    สำหรับบทความนี้ ผมก็จะเขียนการ์ตูนที่ติดตามในช่วงนี้ละกัน นั่นคือ Overlord

    Overlord เป็นอนิเมะผลงานจากนิยายเน็ตของ Maruyama Kugane โดยเป็นเรื่องราวในปี 2138  ตัวเอกเป็นพนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ (รู้แต่ว่า ชีวิตไม่มีอะไรเลย ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรัก ไม่มีครอบครัวที่ห่วงใย) สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือตัวตนในเกมออนไลน์อิกดราซิล (Yggdrasil) ซึ่งเป็นเกม DMMO-RPG ชั้นแนวหน้าตั้งแต่  2126-2136  (เป็นเกมแนวแฟนตาซีในตำนานนอร์ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งต่างๆ มากมาย)

    ในเกมตัวเอกใช้ชื่อในตัวละครว่า โมมอนกะ(กระรอกบิน) อาชีพเป็น เป็นอาร์คลิช (Archlich) เป็นเผ่าอมมนุษย์ ซึ่งเป็นโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อและผิวหนัง แต่มีพลังเวทมนต์มหาศาล มีชื่อเสียงเป็นหัวหน้าผู้ดูแลกิลด์ Ainz Ooal Gown กิลด์ที่มีศูนย์รวมเผ่าพันธุ์อมนุษย์ มีสมาชิก 41 คน (ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้ง แต่เป็นผู้สืบทอดจากหัวหน้าคนเก่าอีกที) แม้ว่าสมาชิกจะน้อยกว่ากิลด์อื่น (แถมชื่อเสียงไม่ค่อยดีอีก) หากแต่ละคนมีความเก่งกาจ มีความสามารถ แถมมีชื่อเสียงในด้านการโจมตีและมีฐานทัพ (นาซาลิกซ์) ติดระดับแนวหน้า ว่าเป้นดันเจี้ยนกิลด์ไม่เคยมีผู้ใดสามารถเอาชนะได้

     

     

     

    อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา จากเกมยิ่งใหญ่ก็กลายเป็นอดีต เมื่ออิกดราซิล มีอันต้องปิดตัวลง เพราะเลเวลตัน คนเล่นน้อย แน่นอนว่ากิลด์ของโมมอนกะก็รับผลกระทบด้วย เพราะสมาชิกเริ่มหายทีละคน สองคน แม้โมมอนกะจะพยายามรักษากิลด์มากขนาดไหนก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดก็เหลือเพียงโมมอนกะเท่านั้นที่เป็นผู้เล่นอยู่ในกิลด์ รวมไปถึงเหล่า NPC มากมาย (เหล่ามอนสเตอร์, เหล่าเมด, ผู้ดูแลชั้นต่างๆ) ที่ตอบสนองต่อคำสั่งของเขาเอยู่

    และในวันที่เกมปิดตัวลง โมมอนกะได้ตัดสินใจที่อยู่เฝ้าจนถึงวินาทีสุดท้ายของวันทำการ ทว่าเวลาได้เลยผ่านกำหนดการปิด โมมอนกะไม่สามารถทำการออกจากเกมได้ และเริ่มค้นพบว่า เขาได้กลายเป็นดาร์กเนส อีกทั้ง NPC ในกิลด์ต่างพูดได้ มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของจนเอง  และยังค้นพบกับความจริงว่าโลกที่เขาอยู่ไม่ใช่ เกม อิกดราซิล อีกต่อไป แต่เป็นโลกใบใหม่ทั้งใบ

    นอกเหนือจากนิยายแล้ว Overlord ยังมีเวอร์ชั่นมังงะวาดโดย Miyama Fugin และอนิเมะผลงานของสตูดิโอ Madhouse  ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก

    Overlord อาจไม่ใช่การ์ตูนเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือเป็นระดับตำนาน แต่มันก็มีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจ และเพียงพอให้หลายคนชื่นชอบเรื่องนี้โดยบริยาย


                    นี่คือนิยายเน็ต!!Overlord เริ่มต้นด้วยการเป็นนิยายเน็ต (นิยายเว็บบอร์ด) ปกติหากพูดถึงนิยายเน็ต เราก็ต้องนึกถึงนิยายที่เนื้อหาส่วนใหญ่ เป็นแนวต่างโลก เกิดใหม่ต่างโลก ฮาเร็ม มีเรื่องทาส พระเอกค่อนเก่งขึ้นที่ละนิด (และมีสกิลโกงๆ) ไม่แปลกสักเท่าไหร่ที่หลายคนมักดูถูกว่า นิยายสนองเนิร์ด

    ปกตินิยายเน็ตเกิดใหม่ในต่างโลกพล็อตจะซ้ำๆ กันจนน่าเบื่อ ประมาณว่าออนไลน์ต้องเกมยอดนิยม  คนเล่นนับล้าน แนวเกิดใหม่ ก็มาดูพระเอกเติบโต เรียนรู้เวทมนต์  ทำอีเวนส์ เก็บเลเวล ส่วนการดำเนินเรื่องหลักๆ หรือเรื่องของตัวละครนั้นแบนมาก

    แต่ Overlord มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากนิยายเน็ต

    แม้ว่า Overlord จะไม่ได้มีกลวิธีการแต่ที่แหวกแนว พล็อตที่เอามาใช้ก็ตามสูตร เพียงแต่สิ่งที่นิยายเรื่องนี้ทำก็คือการนำส่วนสนุกที่สุดของแนวเกิดใหม่ต่างโลก และการทำสิ่งที่ไม่นิยมนักในนิยายเน็ตมาใช้ ให้นิยายน่าสนใจมากขึ่น

    แม้เนื้อหา Overlord  จะเป็นเรื่องของชายที่ชีวิตจริงที่ไม่มีอะไรเลย ตามสูตรเกิดใหม่ในต่างโลก  แต่กระนั้นนิยายได้ตัดส่วนน่าเบื่อของแนวเกิดใหม่ต่างโลกออกไป (เป็นต้นว่า ไม่ต้องมีการตั้งค่าสกิล ค่าสถานะที่น่าเบื่อ) มีเนื้อหาในเรื่องค่อนข้างจริงจัง (มีจุดผ่อนคลาย ตลก เป็นระยะไม่ให้เครียดมากเกินไป)ไม่มีวนเวียนเก็บเลเวล

    ที่น่าสนใจคือผู้แต่งเลือกการบรรยายเรื่องที่ใช้มุมมองแบบพระเจ้า (ปกตินิยายเน็ตจะเป็นแบบบุคคลที่หนึ่ง ตัวเอกเป็นคนเล่าเรื่อง) ทำให้เนื้อหานิยายมีมุมที่กว้าง ค่อนข้างละเอียด และทำให้คนอ่านเข้าใจอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลังเวทมนต์  ประวัติของเมือง เรื่องยิบๆ ย่อยๆ (สมาคม, ประเทศ, กลุ่ม) หรือแม้แต่ที่มาของตัวละคร (แม้แต่ตัวละครตัวประกอบอธิบายความเป็นมา มีปม อะไรหมด) ทำให้เรารู้สึกผูกพันตัวละครไม่มากก็ไม่น้อย แม้ว่าจะเป็นตัวประกอบก็ตาม และรายละเอียดเหล่านี้ไม่ได้มาแบบยัดเยียดหรือน่าเบื่อได้อย่างใด

    นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของเกมออนไลน์เข้าไป (ชื่อคาถา, ระบบ) แต่เนื้อหานั้นไม่ได้ใช้ตารางสถานะ บอกว่าตัวละครอัฟเลเวล มีพลังอะไรบ้าง (จะโชว์ในหน้าเสริมเท่านั้น แต่ไม่โชว์ในหน้าบรรยาย) ผมเชื่อว่าคนนิยายเรื่องนี้พยายามสร้างนิยายแตกต่างจากนิยายเน็ตทั่วๆ ไป ผลคือทำสำเร็จ นิยายเป็นที่สนใจ จนถึงทำเป็นอนิเมะในที่สุด

    ที่น่าสนใจคือการดำเนินเรื่อง ที่ค่อนข้างหลากหลายไม่จำเจ ปกติแนวเกิดใหม่ต่างโลก ไม่วนเวียนกับการเก็บเลเวลพัฒนาจนแข็งแกร่ง (การเติบโต) หรือบางเรื่องก็พัฒนา การบริหารบ้านเมือง, เก็บผจญภัยทำเควส, ทำสงคราม, ต่อสู้ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นสเกลเดียวกัน

    หากแต่ Overlord กลับดำเนินเรื่องแตกต่างจากแนวเกิดใหม่ต่างโลก (รวมไปถึงแนวเกมออนไลน์ต่างโลก) ที่หลายคนเคยเห็น อย่างเล่มหนึ่งของนิยายเน้นการทำความรู้สึกตัวละครและการต่อสู้ (เปิดตัว) มาเล่มสองเป็นการผจญภัยรับเควส, เล่มสามก็เน้นแอ็คชั่นต่อสู้ และเล่มสี่เน้นสงคราม เรียกได้ว่านิยายเรื่องนี้เน้นอะไรหลายอย่าง ไม่จำเจ มีอะไรให้เล่นเยอะ มีประเด็นให้พูดถึง

    พูดเต็มปากว่า Overlord น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับคนที่จะแต่งนิยาย เกิดใหม่ต่างโลก เอาองค์ประกอบจุดสนุกของแนวนี้มาผนวกให้เป็นเรื่องเป็นราว ไปจนถึงแนวออนไลน์ที่เนื้อหาให้อารมณ์แฟนตาซีดาร์กหน่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือด้วย

     

     

     

    โลกเพ้อฝันของกระรอก ความสนุกของนิยายเรื่องนี้นอกจากกลวิธีบรรยายเนื้อเรื่องแล้ว ประเด็นหลักๆ ที่น่าติดตามก็คือเรื่องราวของตัวเอกโมมอนกะ พระเอกมนุษย์ธรรมดาในร่างของจอมมาร ที่เราได้เห็นด้านที่เป็นมนุษย์ และด้านของจอมมารสลับกัน ด้านมนุษย์ก็ดี ส่วนด้านจอมมารก็เลวแบบน่าใจหาย ทำให้พระเอกเรื่องนี้เป็นสายมารก็ไม่ผิดนัก

    ในช่วงแรกของนิยายอาจจะน่าเบื่อนิดหน่อย สำหรับผู้ที่ชอบอะไรมันๆ ตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะเนื้อหาตอนแรกจะเป็นอธิบายตัวเอกโมมอนกะ ว่าเขาเป็นคนยังไง และอะไรทำให้เขาเป็นคนแบบนี้

    โมมอนกะสมัยที่เป็นคนนั้น เขาเป็นมนุษย์ธรรมดา วัยทำงาน ที่ชีวิตไม่ได้มีอะไรดีสักเท่าไหร่ จนกระทั่งรู้จักเกมออนไลน์อิกดราซิล  และมีตัวตนอีกตัวตนอยู่ในนั้น แม้ตอนแรก ๆ ที่เล่นเขายังเป็นเพียงไก่ ที่ให้คนอื่นเชือดเล่น (เพราะเผ่าอมมนุษย์มีข้อจำกัดมากมาย) หากแต่โมมอนกะไม่ท้อถ้อย พยายามเก็บเลเวล เก็บไอเท็ม หาเพื่อน เล่นอีเวนส์  เติมเงิน ใช้เวลานานหลายปี จนสามารถแกร่งขึ้นมาได้

    ไม่แปลกเลย ในวันที่เกมปิดตัวลง โมมอนกะจะทำใจรับไม่ได้ ที่เกมที่เขาผูกพัน ทุ่มเทต้องอันต้องจากลาตลอดกาลหากใครเป็นเกมเมอร์แบบโมมอนกะจะเข้าใจเป็นอย่างดี ถึงความผูกพันเกมออนไลน์ ที่เราเล่นตั้งแต่วันเปิดตัว มีทั้งทุกข์ ทั้งสุข เจอเพื่อน ทำอีเวนส์ด้วยกัน ก่อตั้งกิลด์ แม้เลเวลเต็มก็ยังเล่น ยิ่งเป็นหัวหน้ากิลด์ก็ต้องรับผิดชอบ แม้เกมจะเริ่มหมดความนิยมก็เล่นต่อไป แต่ด้วยฐานะเราจะเป็นต้องอยู่ และต้องเจ็บปวดที่เห็นคนเลิกเล่นไปทีละคนสองคน  จนวันหนึ่งเกมปิดตัวลงมันก็รู้สึกฝันสลาย ใจหายอย่างช่วยไม่ได้

    มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราต้องจากลาเกมที่เรารักตลอดกาล

    โมมอนกะนั้นไม่ได้เป็นเด็กมัธยมปลายที่สดใสซาบซ่า หรือพวกนีทโดนรถชนตายแล้วไปเกิดใหม่ในต่างโลก แต่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ได้มีดีอะไรเลยในชีวิต มีมิติแตกต่างจากพระเอกที่เราพบเห็นกัน

    หากแต่เมื่อโมมอนกะได้เกิดใหม่และไปอยู่ในโลกใหม่ โมมอนกะกลับรู้สึกยินดีที่อยู่ในสภาพดาร์สเนส และยินดีที่จะอยู่ในโลกใบใหม่นี้มากกว่าจะกลับไปโลกเดิม เพราะโลกเดิมมันไม่มีอะไรให้กับเขาอีกแล้ว

    ทำนองเดียวกับแนวเกิดใหม่ต่างโลก ที่ตัวเอกยินดีที่จะเริ่มชีวิตใหม่ต่างโลก มากกว่าที่จะกลับโลกเดิมอีก เพราะตัวตนในโลกใหม่นั้นดีกว่าในโลกเดิมมากโมมอนกะรู้สึกสนุก และได้เล่นเกมที่เขาชอบอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เกมที่เขาเล่นมันยิ่งใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า

     

     

     

    จอมมารที่ไม่ใช่จอมมาร หลายคนให้คำนิยามOverlord ว่าเป็นแนวจอมมารครองโลก ซึ่งหากพูดถึงแนวนี้ เราก็ต้องนึกถึง พระเอกที่เป็นจอมมารชั่วร้ายและได้ส่งลูกสมุนเข้าไปยึดเมืองต่างๆ ทำเรื่องไม่ดี เข็นฆ่ามนุษย์ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก คนแก่ จอมมารที่มีนิสัยเลวร้าย ขี้โกง เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลายคนติดตาม Overlord จะพบว่าโมมอนกะนั้นไม่มีความเป็นจอมมารเสียเลย แม้พระเอกนั้นเป็นดาร์กเนส พลังเวทย์ร้ายกาจ พวกลูกน้องก็มีมากมาย แต่กลับไม่เปิดศึกแบบเต็มรูปแบบกับมนุษย์  แต่กลับเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งกองทัพ (ที่ความจริงก็แกร่งอยู่แล้ว) มากกว่า จนคนดูแอบเซ็งว่า เอ็งกลัวอะไรว่ะ?

    แน่นอนว่าโมมอนกะมีเหตุผลแน่นอน โมมอนกะนั้นมีนิสัยขี้ระแวง อีกทั้งเคยมีประสบการณ์สมัยที่เล่นเกมออนไลน์ ที่ตนเคยอ่อนแอมาก่อน แต่เพราะรู้จักระมัดระวัง เจียมตัว  เน้นการป้องกันฐานทัพ การร่วมมือกัน จึงสามารถรอดและเก่งขึ้นมาได้ ไม่แปลกเลยที่คำสั่งๆ แรกๆ ของโมมอนกะหลังมาโลกต่างมิติคือ ให้เพิ่มระดับการป้องกันฐานทัพ แจกแจงหน้าที่ และสั่งให้ลูกน้องระมัดระวังตลอดเวลา

    และสาเหตุหนึ่งที่โมมอนกะไม่กล้าเปิดศึกกับมนุษย์แบบทันทีทันใด คือโมมอนกะกลัวว่าโลกแห่งนี้อาจมีคนที่เก่งกว่าตน (ยิ่งเป็นจอมมารมักแพ้ผู้กล้าแล้ว ยิ่งกลัวใหญ่) ดังนั้นข่าวสารจึงจำเป็นมากสำหรับโมมอนกะ ที่ต้องรู้ว่าโลกนี้คืออะไร ประกอบด้วยประเทศอะไร ใครเก่งที่สุด ใครอ่อนที่สุด สถานการณ์บ้านเมือง ทุกสิ่งทุกอย่าง โมมอนกะไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ค่อยๆ เรียนรู้ ก่อนที่ตัดสินใจอะไร

    มีคนดูหลายคนชื่นชมโมมอนกะว่าเป็นจอมมารที่ฉลาดกว่าจอมมารทั้งหมด (จอมมารสายบุ๋น) หากเป็นจอมมารเรื่องอื่นคงบ้าพลัง ป่าเถื่อน  ใช้กำลังรุกราน แล้วใช้ความกลัวปกครองมนุษย์ แต่จอมมารเหล่านั้นมักพบจุบจบอันน่าอเนจอนาถในตอนจบทุกครั้ง เพราะจอมมารพูถูกมนุษย์มากเกิน ชั่วมากเกินไป การปกครองด้วยกลัว (เผด็จการ) มันไม่ยั่งยืน

      ดูเหมือนว่าโมมอนกะจะไม่ได้จริงจังในการครอบครองโลกมากนัก เพราะสิ่งที่โมมอนกะต้องการตอนนี้คือเขาอยากจะเจอเพื่อนในกิลด์สักครั้ง (ซึ้งเขาเชื่อว่า เพื่อนในกิลด์อยู่บนโลกนี้ด้วย) รวมไปถึงการปกป้องชื่อของกิลด์ Ainz Ooal Gown ที่เขาทั้งรักทั้งห่วง

     

     


     

    อาจเป็นเพราะโมมอนกะเคยเป็นมนุษย์ ไม่ได้เป็นจอมมารแบบเต็มร้อย ทำให้มีหลายอย่างที่โมมอนกะแตกต่างจากจอมมารทั่วๆ ไป โดยเฉพาะเขาเป็นคนที่มีนิสัยที่ “ขี้เกรงใจ” อยู่ไม่น้อย ดี เห็นได้ปฏิบัติต่อพวก NPC ยังออกลูกเกรงใจ  ขนาดเปลี่ยนนิสัยอัลเบโด้ โมมอนกะก็ยังคงรู้สึกผิด (ต่อผู้สร้างอัลเบโด้) มาโดยตลอด ทั้งๆ ที่ ผู้สร้างอัลเบโด้เลิกเล่นเกมนี้แล้วก็ตาม

    ตอนที่โมมอนกะเป็นมนุษย์นั้น ตัวตนเกมออนไลน์ แม้จะชื่อเสียง แต่โมมอนกะไม่ได้หยิ่ง (แต่จะแสดงอำนาจเวลามีคนมาเกรียนใส่)  อีกทั้งยังเป็นคนที่รู้จักบุญคุณ รับผิดชอบ ไม่ผิดสัญญา แต่กระนั้นเขาก็ยังมีนิสัยตะหนี่ ขี้เหนียว เห็นได้จากการเก็บสะสมไอเท็มจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ไม่มีประโยชน์ต่อตน (อย่าง โฟชั่น) และเวลาตัดสินใจที่ค่อนข้างนึกถึงผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลที่ตามมา มากกว่าเรื่องส่วนตัว เป็นต้นว่า ไม่ใช่ยาคืนชีพให้กับคนในหมู่บ้าน หรือเพื่อนร่วมเดินทาง (กลุ่มดาบแห่งความมืด) ทั้งนี้เพราะโมมอนกะในร่างอมนุษย์นั้นค่อนข้างเย็นชา ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกนั่นเอง

    แม้จะเป็นอมนุษย์ แต่โมมอนกะไม่ดูถูกมนุษย์เลย แม้เหล่าลูกน้องของโมมอนกะจะมองมนุษย์เป็นสิ่งด้อยค่า แต่โมมอนกะกลับมองมนุษย์ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตน่าสนใจ มีความตั้งใจ รู้จักพัฒนาอยู่ตลอดเวลา มีความฝัน, เรียนรู้ประสบการณ์ที่ผิดพลาดในอดีต, ความเข้มแข็ง ซึ่งโมมอนกะพร้อมที่จะส่งเสริม และนอกจากนี้โมมอนกะนั้นยังร่วมมือ เป็นพันธมิตรกับมนุษย์ สร้างชื่อเสียงให้พวกมนุษย์นับถือ แตกต่างจากจอมมารที่มักฆ่ามนุษย์ รังแกมนุษย์มากกว่า

    อย่างไรก็ตาม  โมมอนกะมีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือนพระเอกแนวต่างโลกหลายเรื่อง คือ หากเขามาดี ก็จะดีตอบ หากเขามาร้ายก็จะร้ายตอบหากใครที่กระรอกเห็นว่าเป็นประโยชน์ในอนาคตจะช่วยเหลือทุกอย่าง หากใครเห็นว่าเป็นอันตราย เป็นศัตรู เสนอหน้า ต่อให้เป็นผู้หญิงโมมอนกะก็จะฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

    และนั่นเองทำให้โมมอนกะกลายเป็นพระเอกที่มากกว่าพระเอกสายมารที่ทำอะไรเลวร้ายไปหมด    และคนดูไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรในตัวพระเอกนี้เลย เพราะเขาก็เปรียบเสมือนกับตัวเรา ที่มีความคิดอ่านไม่แตกต่างอะไรกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป

     

    ตบเกรียนต่างโลก นิยายในเว็บเด็กดีหลายเรื่องมักประสบปัญหาตัวละครพระเอกเป็นแมรี่ซู ที่พระเอกเก่งเกินเหตุ เก่งไม่เหตุผล ฉากต่อสู้ก็ไม่ได้ลุ้นอะไร ซึ่งหลายคนไม่ปลื้มพระเอกเก่งเกินเหตุนัก แต่น่าแปลกใจคือโอเวอร์ลอร์ดพระเอกเองก็เก่งเทพเหมือนกัน แต่ทำไมกลับมีหลายคนชื่นชม และน่าติดตามมากกว่า

    เชื่อหรือไม่ว่าจนบัดนี้ โอเวอร์ลอร์ด หากไม่นับศึกแวมไพร์ไร้นม โมมอนกะแทบไม่เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเลย แม้ในโลกใบนี้จะมีวีรชนผู้กล้าแต่พวกเขาไม่สามารถสะกิดอะไรกับจอมมารนี้ได้เลย (ถ้าเป็นนิยายเรื่องอื่นๆ ผู้กล้ารวมหัวกันฆ่าจอมมารไปแล้ว แต่พอดีจอมมารเรื่องนี้ไม่ได้โง่ ไม่ได้ดูถูกมนุษย์ เลยไม่ได้เคี้ยวง่ายๆ)   แต่นิยายกลับมีอะไรให้น่าติดตามอย่างน่าประหลาด

    ทำไมหลายคนติดตามเรื่องนี้ ก็เพราะ ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ ไม่ใช่เน้นเรื่องความเก่งเทพของพระเอก แต่เป็นเรื่อง สิ่งที่พระเอกจะทำกับโลกใบนี้ และเหล่าตัวละคร (เหยื่อ?) ที่เข้ามาในชีวิตโมมอนกะ มากกว่า

    แม้โลกต่างมิติที่โมมอนกะอยู่ ภายนอกจะเหมือนสงบสุขดี ไม่มีทาส แต่กระนั้นมันเป็นเพียงฉากภายนอก ภายในกลับเต็มไปด้วย การเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งวุ่นวาย จนจะเกิดสงครามระหว่างประเทศได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงมอนสเตอร์มากมาย เหล่าโจรชุกชุม คนชั่วก่อเรื่องเลวร้าย ฆ่าคนเป็นผักปลา ฯลฯ ชาวบ้านก็รับกรรมไป

    และโมมอนกะต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้นอย่างช่วยไม่ได้ (มีทั้งจู่ๆ งานก็เข้า, เข้าไปยุ่ง  ไปจนถึงโดนหาเรื่อง)

                    ในเล่มหนึ่งศัตรูของโมมอนกะจะเป็นทหารจากพวกประเทศข้างเคือง เล่มสองเป็นคนชั่วที่สร้างความวุ่นวาย เล่มสามก็มีตัวละครน่าฆ่าเยอะ ไม่ว่ามีที่มาจากไหน ล้วนแต่เป็นพวกเกรียน คิดว่าตนเองเก่งกว่าใคร จะทำอะไรก็ได้ ไม่สนความเดือดร้อนคนอื่น

                    ไม่แตกต่างอะไรจากปีศาจในร่างของมนุษย์

                    และมันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปีศาจในร่างมนุษย์เจอปีศาจจริงๆ!!

    ในฉากต่อสู้นั้น แม้คนอ่านจะรู้ๆ อยู่แล้วว่าพระเอกต้องชนะแน่นอน เพราะพระเอกมันเทพ (เลยโครตเทพ) ไปแล้ว แต่สิ่งที่สนุกคือสไตล์การต่อสู้ของพระเอกที่มาแบบสิงโตเล่นกับเหยื่อ ที่พระเอกปล่อยให้พวกศัตรูงัดลูกเล่นท่าไม้ตายให้เต็มที่ และพระเอกสามารถรับมือได้หมด ให้ศัตรูหน้าซีด เข่าอ่อน สิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ

    อย่างตอนหนึ่ง โมมอนกะต่อสู้กับคลีเมนไทน์ โมมอนกะทำลายศักดิ์ศรี ทำลายความมั่นใจ และฆ่าในขณะที่คลีเมนไทน์กำลังสิ้นหวัง มันเป็นอะไรที่สะใจพระเดชพระคุณคนอ่านเป็นอย่างยิ่ง นี่ยังไม่นับ พวกตัวประกอบโดนฆ่าเลือดสาด หัวหลุด ตัวขาด หากศัตรูบางคนเลิกคิดจะสู้ ก่อนที่โมมอนกะจะเตรียมบทเรียนทรมานยิ่งกว่าตายอีกต่างหาก

    Overlord จึงเป็นนิยายที่เหมาะสำหรับ คนแต่งนิยายยังไงให้พระเอกเทพๆ แล้วน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

     

     

     

    Overlord  กับ Log Horizon  มีหลายคนพูดถึงเปรียบเทียบกับนิยายดาร์ก (นิดๆ) แฟนตาซีอย่าง Overlord  กับรวมพลคนติดในโลกแฟนตาซี  Log Horizon ว่าใครเก่งกว่ากัน

    แน่นอนว่าทั้งสองเรื่องเหมือนกัน คือตัวเอกติดอยู่ในโลก มีร่างในเกม เลเวลเต็ม สกิลเทพ พระเอกเก่ง และทำอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนโลกเหมือนกัน

    แต่อย่างไรก็ตาม Overlord  กับ Log Horizon  มีอะไรแตกต่างกันค่อนข้างมาก ที่เด่นชัดคือตอนที่โมมอนกะเล่น Overlord  นั้นเกมใกล้ปิดตัวเพราะคนเล่นเริ่มลดความนิยม ส่วน Log Horizon  นั้นตอนพวกตัวเอกติดในเกมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

    ในขณะที่  Log Horizon   ระบบเกมนั้นเน้นปาร์ตี้ เวลาทำอีเวนส์ก็ต้องรวมกลุ่ม แม้ตัวละครจะเลเวล 100 หากแต่ก็ต้องการตัวช่วยเหลืออยู่ดีเพื่อกลบจุดด้อย จุดอ่อนซึ้งและกัน ส่วน Overlord ไม่จำเป้นต้องใช้ระบบปาร์ตี้มากนัก ขอมีไอเท็ม ชุดเกราะเทพๆ (เทพทรู) ผู้เล่นคนเดียวก็สามารถสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีจำนวนมากกว่าได้สบาย

      ส่วนพระเอก Log Horizon  เป็นพระเอกฉลาด จิตใจดี ที่ยอมให้เป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ตรงกันข้ามกับโมมอนกะนั้นเป็นพระเอกธรรมดา ที่ค่อนข้างจะเทาๆ ค่อนไปทางสีดำ มีทั้งด้านดีและไม่ดีปะปนกัน และทำทุกอย่างเพื่อตนเองและพวกพ้องมากกว่า และหากใครเป็นศัตรูต่อให้ใหญ่มาจากไหนก็ไม่เว้นทั้งสิ้น

    นอกจากนี้พระเอก Log Horizon  มีเพื่อนพ้องมากมายคอยช่วยเหลือซึ้งกันและกัน และทุกคนต่างเชืท่อใจพระเอก ตรงกันข้ามกับโมมอนกะที่ไม่มีเพื่อนเลย  เพราะเขาเป็นผู้เล่นในกิลด์คนเดียวที่หลงมายังโลกต่างมิติตั้งแต่เริ่มต้น (ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีคนอื่นหรือเปล่าที่หลงเข้ามาในโลกต่างมิติด้วย) มีเพียง NPC เท่านั้น ที่ถวายตัวรับใช้โมมอนกะ ซึ่งโมมอนกะจำเป็นต้องทำตัวเป็นผู้นำแม้จิตใจลึกๆ จะไม่มั่นใจก็ตาม

    แม้ว่าความสัมพันธ์โมมอนกะ กับเหล่า NPC จะเป็นเพียงเจ้านายและคนใช้ แต่หากมองลึกๆ แล้วผมว่าความสัมพันธ์ของ NPC ทั้งหมดล้วนรักโมมอนกะมาก แม้ว่า NPC จะถูกสร้างโดยคนในกิลด์คนอื่นๆ หากแต่ผู้สร้างเหล่านั้นต่างทิ้งเหล่า NPC แล้วต่างหนีหายไม่กลับมาอีก มีเพียงแต่โมมอนกะเท่านั้นที่อยู่จนวินาทีสุดท้าย

    Overlord อาจไม่ใช่นิยายเกรด A+ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าทำยังไงให้นิยายมีความน่าสนใจ มีเสน่ห์ ในตัวของมัน ทั้งๆ ที่เป็นแนวจอมมาร แนวเกิดใหม่ต่างโลก ด้วยการสร้างตัวเอกให้มีลักษณะโดดเด่น รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ ที่มีสีสันและการออกแบบที่มีลักษณะโดดเด่นมีเสน่ห์ทำให้เราอดที่จะติดตามต่อว่าตัวละครนี้จะดำเนินเรื่องไปในทิศทางไหน และมีความเก่ง มีสกิลโกงอย่างไง

    ที่น่าสนใจคือนิยายขยายเนื้อเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ปกตินิยายแนวนี้จะน่าเบื่อมาก เพราะจะต้องถูกยัดเยียดข้อมูลหลายหน้า แต่นิยาย Overlord ใช้วิธีค่อยขยาย ค่อยเรียนรู้ อธิบายในส่วนที่ทำให้กระจ่าง gเสมือนโมมอนกะรวบรวมข้อมูลในเรื่องแบบใจเย็นไม่รีบร้อนนั้นเอง

    ส่วนประเด็นเรื่องโลกต่างมิติของโมมอนกะนั้น แม้จะเป็นประเด็นที่ไม่มีใครสนใจมากนัก ว่าโลกที่ว่าเป็นของจริงหรือเป็นการเฟ้อฝันของโมมอนกะเอง เหมือนนิยายแนวเกิดใหม่ต่างมิติหลายเรื่อง แค่พระเอกฝันก็มโนสร้างโลกเป็นตุเป็นต๊ะ ใส่เรื่องราวสนองเนิร์ดเข้าไป แต่อย่างไรก็ตามประเด็นนี้หลายคนไม่อยากคิดถึงมัน และไม่อยากให้มันเป็นความฝัน (เหมือนตอนจบนิยายเรื่องหนึ่ง หลายคนรับไม่ได้ กับตอนจบมันเป็นความฝัน)

    แม้จะเป็นโลกเฟ้อฝันก็ตาม แต่โมมอนกะก็คงยินดีจะอยู่โลกแห่งนี้กับอาณาจักรของเขา

    สุดท้ายใครชอบ แนวแฟนตาซี พระเอกเทพ ชั่วหน่อยๆ คงถูกใจไม่น้อย






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×