ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #352 : 8 ส่องการ์ตูนแนวเอาตัวรอดที่น่าสนใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.63K
      2
      10 ส.ค. 58

    ปัจจุบันการ์ตูนเริ่มมีแนวเซอร์ไววัลสยองขวัญเอาตัวรอดมากขึ้น โดยคำว่า Survival. การอยู่รอด,การรอดตาย,การดำรงอยู่,การเหลืออยู่,สิ่งที่ ดำรงอยู่,บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่,สิ่งหรือบุคคลที่เหลืออยู่

    พล็อตเซอร์ไววัลส่วนใหญ่จะออกแนวๆ ที่ตัวเอกและเหล่าตัวรอง, ตัวประกอบ ที่ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนทุกวัน แต่จู่ๆ ชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไป เมื่อตัวเอกพบว่าพวกตนอยู่ในสถานที่ปิดตาย (เกาะร้าง, โลกต่างมิติ, โลกหายนะ) และมีบางสิ่งทำร้ายพวกเขาโดยไม่มีเหตุผล ไร้ที่มาที่ไป เช่น จำพวกสัตว์ประหลาด, ฆาตกรโรคจิต, ซอมบี้ และตัวเอกต้องเอาชีวิตด้วยการเค้นสมอง และความสามารถเฉพาะตัวเพื่อช่วยให้ตนเองและพรรคพวกหนีจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ให้ได้

    ปัจจุบันมีการ์ตูนแนวนี้มาก บางเรื่องก็สร้างสรรค์ สนุกน่าติดตาม บางเรื่องออกทะเลกลายเป็นการ์ตูนอะไรก็ไม่รู้ และบางเรื่องพล็อตซ้ำซาก สำหรับบทความนี้ผมก็แนะนำการ์ตูนแนวนี้มาพูดว่าเรื่องไหนน่าติดตามบ้างละกัน

     

    8. Abyss

    ประเดิมเรื่องแรกที่อยากแนะนำ Abyss (เหว) เขียนและแต่งโดย Nagata Ryuhaku ที่พึ่งเขียนเมื่อปี 2013 ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ แม้ราคาจะแพงไปนิด แต่รูปเล่มนั้นสวยงามน่าสะสม

    Abyss  เป็นเรื่องราวแสนลึกลับ  ชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมายังสถานที่ประหลาดที่เหมือนชั้นใต้ดินเขาวงกตร้างแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้ไม่มีความทรงจำอยู่เลยว่าเขาเป็นใคร และมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง สิ่งเดียวเขาจำได้คือชื่อ “ดัน ฮิบิกิ” และอุปกรณ์ประหลาดลึกลับเหมือนสวิตซ์ที่ต่อมาถูกเรียกว่า “ทริกเกอร์” อยู่ในมือ หากกดปุ่มก็จะพลังพิเศษออกมา

    ระหว่างตัวเอกสำรวจหาทางออกอยู่นั้น ทันใดนั้น  เขาก็พบสัตว์ประหลาดรูปร่างพิลึกเหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง และมันก็มุ่งตรงทำร้ายตัวเอก อย่างไรก็ตามระหว่างเขาจะเสียท่าอยู่นั้น เขาก็ถูกช่วยโดยกลุ่มมนุษย์คนอื่นๆ ที่มีชะตากรรมเหมือนพระเอก และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่พระเอกและพรรคพวกต้องหาทางรอดจากขุมนรกนี้ให้ได้

    Abyss เป็นการ์ตูนที่ผมการรันตีว่าเป็นแนวเอาตัวรอดที่สนุกมากๆ แม้ว่าตัวละครจะออกแบบน่าเบื่อ (พระเอกแสนธรรมดา นางเอกก็งั้นๆ  และหลักการพระเอกก็แนวพระเอกเซอร์ไววัลทั่วๆ ไป)

    การดำเนินเรื่องก็ยังคงวนเวียนอยู่กับ โลกปิดตาย, สัตว์ประหลาดจะฆ่าคน และการหาทางออกเพื่อหนีจากขุมนรก แต่กระนั้นเพราะสูตรสำเร็จนี้แหละที่กลายเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ ที่เพียงแค่เกริ่นอะไรนิดหน่อยตอนต้นจากนั้นก็สนุกยาวไปเลย

    ความสนุกของเรื่องนี้ อยู่ที่การดำเนินเรื่อง ปริศนาในเรื่อง แม้จะสูตรเดิมๆ แต่ก็น่าติดตามอยู่ดีว่า “มันเกิดอะไรขึ้น” ทำไมพวกพระเอกถึงติดอยู่ในโลกแห่งนี้ และทำไมเขาถึงมีพลังวิเศษ และระหว่างทางผจญภัยปริศนาเหล่านี้ก็เริ่มเผยทีละนิด รวมไปถึงภูมิหลังของแต่ละตัวละครด้วย

    ที่น่าสนใจการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้เน้นพระเอกโชว์เทพคนเดียว เพราะหลายสถานการณ์พระเอกต้องร่วมมือกับคนอื่นในการใช้พลังวิเศษร่วมกันเพื่อแก้ไขอุปสรรค์ด้วย ซึ่งแต่ละอุปสรรค์นั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้ว่าจะรอด (อุปสรรค์ส่วนใหญ่เป็นพวกสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะแตกต่างกัน บางตัวฆ่าไม่ตาย บางตัวแพร่พันธุ์เหมือนซอมบี้ บางตัวมีขนาดใหญ่ยักษ์ เป็นต้น)

    สิ่งที่ช่วยเสริมให้เรื่องนี้มีเสน่ห์มากขึ้น คือตัวละครในเรื่อง แม้จะออกแบบธรรมดา แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ จะพบว่าตัวละครเหล่านี้เท่มาก อย่างพระเอกที่กล้าหาญ เสียสละ คิดแต่จะช่วยเหลือคนอื่นรอดโดยไม่ห่วงตนเอง ส่วนอีกตัวละครโครตเท่อย่าง “อิคคุง” หน้าตาไม่น่าคบ แต่บทอย่างหล่อผิดหน้าตา นอกจากนี้ยังสอดแทรกประเด็นการพัฒนาจิตใจของตัวละคร อย่างเด็กชายที่ไม่ค่อยพูดกลายเป็นคนกล้าหาญกล้าตัดสินใจช่วยเหลือพวกพ้อง เป็นต้น

    ข้อคิดจากการ์ตูนเรื่องนี้ก็คงจะเป็นคำเกริ่นจากต้นเรื่องที่ว่า “มนุษย์ถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ หนึ่งพวกตกใจกลัวจนขยับไม่ได้ คือคนขี้ขลาด, สองพวกที่เลือดขึ้นหน้า คือคนคลั่ง และสุดท้ายพวกที่ไม่ว่าเผชิญหน้ากับอุปสรรค์แบบใดก็เต็มไปด้วยเป็นการอันชาญฉลาด คือพวกก้าวข้ามความกลัวในจิตใจ มนุษย์จำพวกนี้จะรอดตาย” ตามกฏแนวเอาตัวรอดอยู่แล้ว

    ส่วนในด้านความสยองนั้น เรื่องนี้จะไม่ค่อยสยองขวัญผิดจากปกมากนัก แม้จะมีสัตว์ประหลาดน่ากลัวน่าสยดสยองก็ตาม แต่ตัวละครหลักๆ ไม่ตายมากเท่าที่คิด (หรือจะตายตอนหลังๆ ก็ไม่รู้) ถึงตายแต่ก็ตายอย่างมีคุณค่า (ยกเว้นตัวประกอบที่นิสัยไม่ดี)  และมีแอ็คชั่นสู้กันบ้าง (เพราะคนรอดชีวิตบางคนมีสกิลพลังพิเศษสายต่อสู้) แต่กระนั้นความรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครยังคงเต็มเปลี่ยม และไม่ผิดหวังที่จะติดตาม

     

    7. Boku-tachi no Ikita Riyuu

    เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะปกติแนวสยองขวัญเอาตัวรอดสมัยนี้จะเป็นเหล่าตัวเอกจะเป็นพวกมัธยมปลาย ไม่ก็ผู้ใหญ่ แต่คราวนี้ มาเน้นเรื่องกลุ่มเด็กประถมบ้าง

    สำหรับเนื้อเรื่องกล่าวถึงพระเอกเด็กประถมชื่อ “อากิระ” ที่พยายามรวบรวมความกล้าที่จะสารภาพความรู้สึกต่อ “ฮิเมโนะ” ผู้หญิงที่ตนแอบชอบในวันปัจฉิมนิเทศ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่ในห้องเรียนก็คือฮิเมโนะที่กลายเป็นหุ่นกระบอกเชิด  กว่าจะรู้ตัวอีกที อากิระกับเพื่อนๆ อีก 10 คน ก็ถูกขังอยู่ในโรงเรียนและไม่สามารถหนีออกไปไหน พร้อมกันนั้นเขาและเพื่อนต้องหนีสัตว์ประหลาดรูปร่างประหลาด หากใครโดนมัรนจับได้จะถูกทำให้กลายเป็นหุ่นกระบอกเชิดเหมือนฮิเมโนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ และพวกเขาสามารถหนีอนาคตที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังได้หรือไม่

    Boku-tachi no Ikita Riyuu (แปลไทยง่าวๆ ว่า “เหตุผลสำหรับชีวิตของพวกเรา”)  เป็นการ์ตูนที่ไม่ได้ขายความโหดร้ายสยองขวัญ แต่ขายบรรยากาศลึกลับ ผสมกับเกมเอาตัวรอด ซึ่งเป็นผลงานของ Watanabe Kazuyuki  ไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย (เพราะกำลังรวมเล่ม 1 อยู่ แต่เชื่อว่าคงมีลิขสิทธิ์อีกไม่นานแน่)

    จะว่าไปเนื้อหาการ์ตูนนำองค์ประกอบให้ความรู้สึกแนวเอาตัวรอดเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเอาพวกเด็กประถมมาเป็นตัวเอก (ซึ่งสมัยก่อนแนวสยองขวัญตัวเอกมันเป็นเด็กประถม) และเวทีการดำเนินเนื้อเรื่องคือโรงเรียนประถมยามกลางค่ำกลางคืนไร้ผู้คน และหนีสัตว์ประหลาดที่ไล่ล่าเอาชีวิตพวกเขา

                แม้ว่าทั้งเรื่อง มีแต่ฉากพระเอกกับเพื่อน 11 คนหนีสัตว์ประหลาด แต่กระนั้นก็มีการสอดแทรกเรื่องต่างๆ เข้าไป ทั้ง มิตรภาพ กล้าหาญ ความเห็นแก่ตัว การเอาตัวรอด ยิ่งจำนวนเด็กที่รอดเหลือน้อยลง เนื้อเรื่องก็ยิ่งสนุก

                ส่วนปริศนาในเรื่อง นอกเหนือว่าทำไมพวกพระเอกถึงติดอยู่ในโรงเรียน แต่กระนั้นมันน่าติดตามอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงของสัตว์ประหลาด, เด็กชายที่เหมือนผีชอบผลุบๆ โผล่ๆ รวมไปถึงอดีตที่พระเอกลืม ถูกเผยทีละนิดเกี่ยวเรื่องบาปของพวกพระเอกที่ทำไว้เมื่อหลายปีก่อน ที่พวกเขา-พวกเธอทำลงไป  

    สำหรับคนที่ไม่ชอบความโหด ก็สามารถตามเรื่องนี้ได้อย่างสบายใจ เพราะไม่ค่อยมีเลือดสาดอะไรมากมาย แถมตัวละครหากเกมโอเวอร์ก็เป็นหุ่นกระบอก และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลับมาเป็นปกติ ส่วนสัตว์ประหลาดรูปร่างหุ่นเชิดก็ไม่ได้สยองอะไรมากมายแต่ในอารมณ์ตื่นเต้นน่าติดตามมากกว่า


    6. Tenkuu Shinpan

    Tenkuu Shinpan เป็นการ์ตูนแนวแอ็คชั่น-ระทึกขวัญ โดยเป็นเนื้อเรื่องของเด็กสาวคนหนึ่งชื่อยูริ นักเรียนมัธยมปลายที่ตื่นขึ้นมาบนห้องแห่งหนึ่ง โดยที่เธอจำไม่ได้เลยว่ามาได้ยังไง และทันใดนั้นเธอก็พบชายสวมหน้ากากประหลาดได้ฆ่าคนไปต่อหน้าของเธอ ชายคนนั้นถือขวานราวกับฆาตกรหลุดจากหนังสยองขวัญ ด้วยความกลัว ยูริจึงหนีชายคนนั้น ระหว่างทางที่หนีเธอก็พบว่าเธออยู่ตึกสูงที่ไม่สามารถลงไปข้างล่างได้ และเส้นทางบังคับให้เธอขึ้นด่านฟ้า

    เพราะไม่มีทางเลือก ยูริจึงจำเป็นต้องวิ่งจนถึงด่านฟ้า และนั่นทำให้เธอรู้ว่าโลกที่ตนอยู่นั้นไม่ใช่โลกปกติ แต่เป็นโลกที่แปลกประหลาดที่ล้อมรอบด้วยตึกระฟ้า  และนอกจากเธอแล้วก็มีหลายคนที่หลงเข้ามายังโลกใบนี้ ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับเหล่าชายสวมหน้ากากที่จ้องจะฆ่าคนอย่างไร้เหตุผล

    ระหว่างยูริกำลังสับสนอยู่นั้นเอง เธอจะได้รับการติดต่อจากพี่ชายของเธอ ซึ่งพี่ชายก็หลงมายังโลกนี้เหมือนกับเธอเหมือนกัน โดยเขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับ 'โลก' คร่าวๆ และบอกให้เธอมารวมกลุ่มกับคนอื่น โดยเธอจำเป็นต้องข้ามสะพานแขวนที่เชื่อมไปอีกตึกหนึ่ง และแน่นอนเธอจำเป็นต้องเผชิญกับชายสวมหน้ากากด้วย  และนั่นทำให้ยูริจำเป็นต้องฆ่าคนเพื่อปกป้องตนเองและเพื่อนพ้อง เพื่อให้ตนกลับมายังโลกของตนเองให้ได้

    Tenkuu Shinpan เป็นมังงะที่เขียนโดย Miura Tsuina และภาพประกอบโดย Oba Takahiro ยังไม่มีลิขสิทธิในไทย (แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคงมีแน่) ซึ่งเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ผมติดตามอย่างใกล้ชิด

    แม้เรื่องนี้จะตามสูตรแนวเอาตัวรอด และมีแอ็คชั่นต่อสู้เพิ่มเข้ามา ไม่ได้มีแต่หนีเอาตัวรอดอย่างเดียว แต่กระนั้นมันก็น่าสนใจอยู่ดี นอกจากปริศนาในเรื่องแล้ว จุดเด่นสุดๆ คือคงเป็นคาแร็คเตอร์ตัวละครในเรื่องที่โดดเด่น โดยเฉพาะยูริ จากเด็กสาวที่เอาแต่หนีตายในตอนแรก ได้กลายเป็นเด็กสาวที่มีความมุ่งมั่น และ แต่กระนั้นหลายคนก็เห็นอกเห็นใจเธอ และเอาใจช่วยเธอ

    ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็น่าอวย เช่น เพื่อนของยูริ (ชื่ออะไรผมลืมไปแล้ว) และพี่ชายของยูริที่ห่วงน้องสาวและมีความเป็นผู้นำ

    แม้เรื่องนี้จะไม่ได้สยองขวัญมากมาย แต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความสิ้นหวัง เวลาที่พวกนางเอกเดินข้ามสะพานไปยังตึกแห่งใหม่ก็ไม่รู้ว่ามันมีอะไรรออยู่ ศัตรูใหม่ ความน่ากลัว ความโหดร้าย และน่ากลัวในรวมไปถึงคนรอดชีวิตที่จิตใจอัปรีย์ และนอกจากนี้ยังมีฉากโหดๆ เช่น ตัดหัว ตัวทะลุ เลือดสาดเหมือนกัน

    แต่กระนั้นยูริก็ยังสู้ต่อไปแม้ว่าโลกนี้จะสิ้นหวังก็ตาม

                อย่างไรก็ตาม การ์ตูนรื่องนี้มีข้อเสียอยู่อย่าง คือ แม้จะเป็นการ์ตูนรายสัปดาห์ แต่จำนวนหน้าออกมาน้อยมาก (เฉลี่ย 10 หน้า) ทำให้หลายคนลงแดงที่จะลุ้นตามต่อการ์ตูนเรื่องนี้ (แถมแต่ละตอนหยอดอะไรหลายอย่างให้ลุ้น ติดตามอีกต่างหาก)



    5. Kichikujima

    บ้านเราอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อ Masaya Hokazono สักเท่าไหร่ ความจริงคนเขียนคนนี้ออกผลงานหลายเรื่องที่ญี่ปุ่น ผลงานเด่นๆ ก็เรื่อง  Inugami (1996) ลิขสิทธิ์ในไทยโดยสยาม จำชื่อไทย “หมาเทพพันธุ์โหด” 14 เล่มจบ ลายเส้นสมัยก่อนแตกต่างจากสมัยนี้ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

    ความจริงผลงานของคนเขียนมีหลายแนว แต่แนวถนัดจริงๆ คือแนวสยองขวัญ โหดเลือดสาด จำพวกมนุษย์กลายเป็นพันธุ์ฆ่าคนนั้นแหละ และเรื่อง Kichikujima (2011) ก็เป็นหนึ่งในนั้น และเป็นการ์ตูนที่ผมติดตามแบบใกล้ชิด (ในเว็บจีนแดง)

    Kichikujima หรือ “เกาะประหลาด” เป็นเรื่องราวของนักศึกษามหาลัย 6 คนที่เป็นสมาชิกชมรม ได้เช่าเรือมาเที่ยวเกาะร้างแห่งหนึ่ง ระหว่างที่สนุกสนานอยู่นั้น  ก็มีคนเห็นอะไรบางอย่างบนเกาะร้าง บางอย่างที่ว่าเป็นชายคนหนึ่งที่เหมือนเดือดร้อน และนั่นทำให้หนึ่งในนักศึกษามหาลัยคนหนึ่ง (คนที่มีแววเป็นผู้นำมากที่สุด) ตัดสินใจที่จะโดดจากเรือ เพื่อว่ายน้ำไปที่เกาะร้างเพื่อช่วยเหลือ หากแต่กลายเป็นว่านักศึกษามหาลัยคนนั้นกลับโดนชายคนนั้นทำร้าย บาดเจ็บสาหัส และถูกพาตัวเข้าป่าไปโดยไม่ทราบเป็นหรือตาย (เอาค้อนทุบหัวหลายครั้ง ไม่ตายก็เลี้ยงโตแล้วมั้งครับ)

    นักศึกษาที่เหลือ 5 คนตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่เรื่องเลวร้ายยังไม่จบ เมื่อเรือที่พวกเขานั่งมาเกิด เกิดขัดข้องเกยตื้น (ให้มันอย่างนี้สิ) ทำให้ทั้งหมดต้องมาติดเกาะ โดยหารู้ไม่ว่าบนเกาะร้างนั้นเต็มไปด้วยมนุษย์ประหลาด (และหมูกินคน) นิสัยบ้าเลือดมากมายที่พร้อมจะฆ่าพวกเขา

    Kichikujima ให้อารมณ์แบบภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำมากๆ  นึกอะไรก็ใส่ คือชมนะ ไม่ใช่ประชด แบบว่ามันไม่จำเป็นต้องอธิบายมากความ มาถึงก็โหดสาด เลือดสาดผักเลย แต่ภาพพอรับได้นะ ให้อารมณ์แบบมันในอารมณ์มากกว่า ทั้งนี้อาจเป็นเพราะลายเส้นด้วยมาก แถมเพราะลายเส้นและฉากต่างๆ เรื่องราวต่างๆ ที่ใส่มา มันสูตรภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำชัดๆ แบบ  (เหตุผลต่างๆ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ตรูจะวาด จะเขียนตามใจฉัน ลูกบ้าเต็มที่ ไม่เหมือนการ์ตูนเอาตัวรอดบางเรื่อง เริ่มต้นเหมือนดี สมเหตุสมผล แต่ตอนหลังเละ กลายพันธุ์เป็นต่อสู้ด้วยพลังวิเศษซะงั้น)  

    ที่น่าสนใจคือ พระเอกเรื่องนี้แตกต่างจากพระเอกหลายเรื่อง ที่ไม่ได้กล้าหาญเสียเลย ทั้งขี้ขลาด (เอาตัวรอดกว่าใครเพื่อน) ขี้อิจฉา ขี้ริษยา (แอบชอบสาวมีแฟน แต่ไม่เคยดูตนเองว่าตนมีดีอะไร) และส่วนที่มันที่สุดของเรื่องคือพวกพระเอกได้ปืน ได้อาวุธ แล้วมาไล่ฆ่าพวกมนุษย์ประหลาดบนเกาะ เป็นอะไรที่สุดติ่งมากๆ

    ข้อเสียเรื่องนี้ แม้ในเรื่องมีสาวแว่น สาวใส่ชุดว่ายน้ำ แต่ไม่โมเอะเลยสักนิด.....


    4. Bangkok of the Dead

    จากแนวเอาตัวรอดของญี่ปุ่นไปแล้ว ลองมาดูแนวเอาตัวรอดแบบไทยๆ กันบ้าง ซึ่งจะว่าไปการ์ตูนไทยแนวพวกนี้ค่อนข้างน้อย (ส่วนใหญ่แนวที่ว่าจะ เป็น พวกจิกกัดสังคม, แอ็คชั่น, แฟนตาซี อะไรมากกว่า) แต่กระนั้นใช่ว่าจะไม่มีเลย

    พล็อตหนีซอมบี้ นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนการ์ตูนบ้านเรา อยากวาดการ์ตูนแนวๆ นี้ สักครั้งในชีวิต แต่ส่วนมากยังไม่มีเรื่องไหนเกิดขึ้นแบบจริงๆ จัง ซึ้งความจริงแล้ววิบูลย์กิจก็พอมีแนวแบบนี้อยู่บ้าง แต่ไม่น่าจดจำนัก

    ผิดกับสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ในรวมเรื่องสั้นในชุด Horror Hours:ชั่วโมงสยอง ซึ่งรวมเรื่องสั้นแนวสยองขวัญ โดยนักเขียนในเครือ แม้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น แต่กระนั้นบางเรื่องก็หยิบเรื่องของหนีตายซอมบี หรือสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์เอามาเขียนได้อย่างน่าสนใจภายใต้เรื่องสั้นไม่กี่หน้าจบ

    โดยเฉพาะผลงานของ อเนก ร้อยแก้ว ที่หลายเรื่องเป็นแนวซอมบี้ระบาด ภาพค่อนข้างแหวะ สยอง และฉากโหดๆ มากมาย รวมไปถึงฉากเรตบ้างไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งภายหลังมีการนำเรื่องสั้นเหล่านี้มาตีพิมพ์รวมเล่ม (เล่มเดียวจบ) ในชื่อ Bangkok of the Dead เหมือนแซวภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังเรื่องหนึ่งไม่มีผิด

    Bangkok of the Dead เป็นการ์ตูนเล่มเดียวจบ ที่รวมเล่มสั้น  5 เรื่อง เกี่ยวกับซอมบี้ ทั้งหนีเอาตัวรอด หรือคนที่กำลังกลายเป็นซอมบี้ ที่เต็มไปด้วยเรื่องแหวะๆ โหด และตลกร้าย เป็นต้นว่า เรื่องแรก Present Dayว่าด้วยเรื่องราวของนักเรียนชายคนหนึ่งในวันที่ไวรัสซอมบี้ระบาด ซึ่งเนื้อหาดึงเรื่องสันดานดิบของมนุษย์ ที่เรามักคิดบ่อยๆ เวลาดูหนังซอมบี้ว่า “หากซอมบี้ระบาด สิ่งแรกๆ ที่เราจะทำคืออะไร และอยากทำอะไรมากที่สุด” และสิ่งที่หลายคิดคือ เมื่อมันไร้กฎหมาย “เราก็จะทำอะไรก็ได้” อยากฆ่าซอมบี้ อยากฆ่าคนไม่ชอบขี้หน้า  บุกไปบ้านสาวสวยเพื่อหวังแอ้ม สิ่งเหล่านี้คนเขียนตอบโจทย์ได้ในไม่กี่หน้ากระดาษได้อย่างน่าชื่นชม

    หวังว่า อนาคตเราอาจเห็นแนวเอาตัวรอดแบบเป็นเรื่องเป็นราว และไม่ใช่เรื่องของซอมบี้เดียว เพราะอยากเห็นการสร้างอสูรกายฝีมือนักเขียนไทยบ้าง ว่าจะดีเท่าของญี่ปุ่นหรือเปล่า

     

    3. Distant Sky


    จากการ์ตูนไทย ก็มาถึงการ์ตูนเว็บเกาหลีบ้าง สังเกตว่าเดี๋ยวนี้การ์ตูนเว็บเกาหลีก็มีแนวเอาตัวรอดหลายเรื่อง ทั้งหนีแมลงยักษ์ หนีซอมบี้ แต่เรื่องที่ผมชอบ กับเป็นเรื่อง Distant Sky หรือ “เวหา มรณะ”  เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งตื่นขึ้น ก็พบว่าตนเองติดอยู่ในซากปรักหักพังที่และซากศพรอบตัว แต่ที่แปลกคือรอบตัวของเขามีแต่ความมืด  ไม่มีแสงไฟ หรือดาว และเมื่อเขาสำรวจก็พบว่าเมืองที่เขาอยู่เหมือนเกิดภัยพิบัติอะไรสักอย่าง หากแต่ไม่มีคนอยู่เลย แล้วคนอยู่ที่ไหนหมด และท่ามกลางความมืดนั้นยังมีสิ่งน่ากลัวที่ซุกซ่อนรอเขาอยู่

    Distant Sky เป็นการ์ตูนแนวลึกลับสยองขวัญ เอาตัวรอดในวันหายนะโลก ผลงานของ Author(s) Inwan Youn และ Artist (s) Sunhee Kim ซึ่งถือว่าเป็นแนวถนัดของการ์ตูนเว็บเกาหลี (นอกเหนือจากแนวดาร์กๆ) ซึ่งผมดูแล้วรู้สึกชอบดี

    จุดที่ชอบของ Distant Sky มีหลายอย่าง เป็นต้นว่าเป็น การ์ตูนใช้รูปแบบความเป็นการ์ตูนเว็บเกาหลีมาใช้ได้ดี โดยส่วนใหญ่การ์ตูนเว็บเกาหลีจะเป็นแบบยาวต่อกันเหมือนหางว่าว ไม่ได้แบ่งช่องเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกันอารมณ์ในการอ่านการ์ตูนก็เหมือนการดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แบบดูภาพในฟิล์ม ภาพต่อภาพ  แม้อารมณ์แรกๆ ที่ได้จากการ์ตูนเรื่องนี้คือ มันเนิ่บ ช้าๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ให้อารมณ์น่ากลัวมากขึ้น มากขึ้น ลึกลับขึ้น สยองขึ้นด้วย

    การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดเด่นตรงที่บรรยากาศที่มืดมากๆ หรือก็คือภาพหนึ่งดำเกือบทั้งหน้า จนเหมือนเผา แต่ความจริงแล้วมันสื่อได้ดีถึงคงบรรยากาศว่าจู่ๆ เสมือนว่าเราเป็นตัวเอกอย่างไงอย่างงั้น คือเรารู้พอๆ กับตัวเอก ตัวเอกตื่นขึ้นมาในซากปรักหักพัง โดยไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ โลกก็มืดลง (มืดมาก) ผู้คนหายไปหมด ยิ่งเดินสำรวจยิ่งพบแต่เรื่องที่ไม่สามารถอธิบายเต็มไปหมด มันเกิดอะไรขึ้น ข้างหน้าจะมีอะไรต่อ และไม่อยากให้เป็นเช่นนี้กับเราเลย

    แม้ในเรื่องจะไม่มีผีคลั่งบ้าพลังโผล่มาตุ้งแช่ แต่ก็ได้อารมณ์ความนน่ากลัวที่ว่า “มันมีอะไรอยู่ในความมืด” และเรื่องนี้ตัวเอกหัวเห็ดก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเดินดิน ที่มีความพยายามดิ้นรนการเอาชีวิตรอดไม่ว่าจะเพื่อตนเองและคนอื่นก็ตาม ซึ่งช่วยทำให้เรื่องสนุกขึ้น




    2.BM อสูรพันธุ์เขมือบโลก

    การ์ตูนแนวเอาตัวรอดเรื่องนี้เก่าสักหน่อย โดย BM: Nectar   แต่งโดย Yuki Fujisawa มีลิขสิทธิ์ไทยโดยวิบูลย์กิจ ในชื่อ   BM อสูรพันธุ์เขมือบโลก จำนวน 12 เล่มจบ

    เป็นเรื่องราวของ “มาอายะ” เด็กจากคันไซเลือดร้อน เอาแค่ใจเข้าสู้ ไม่สนกฎเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งเขาต้องย้ายบ้านใหม่กับแม่ที่พึ่งแยกทางสามีมา หากแต่หลังจากย้ายมาเรียนโรงเรียนวันแรกเขาก็ไปมีเรื่องกับบันบะ เด็กเจ้าถิ่นเข้า และระหว่างที่ทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนเต่าจำนวนมาก บุกฆ่ากินคนทั้งเมือง

    ระหว่างทางพวกตัวเอกก็ได้รู้ตัวจริงของสัตว์ประหลาด มันคือ BM เป็นชื่อย่อของ Bio Meat สิ่งมีชีวิตสำหรับกำจัดขยะและเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ (เนื่องจากโลกที่ตัวเอกอยู่นั้นพวกเนื้อสัตว์หายากมาก ดังนั้นจึงมีการคิดค้นหาเนื้อสัตว์ชนิดใหม่มาแทน) เกิดจาการตัดต่อพันธุกรรมจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว  ไม่ฆ่าให้ถูกวิธีจะตายยากมาก และที่สำคัญคือมันกินเกือบทุกอย่าง แม้กระทั่งมนุษย์

    และเพราะความน่ากลัวของ BM ทำให้ มาอายะและนันบะ รวมไปถึงเด็กรุ่นเดียวกันคือ คาโนะจัง และชินโก ต้องหนีตายออกจากเมืองเพื่อไปให้ตกเป็นเหยื่อของมัน

    การ์ตูนเรื่องนี้เป็นแบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ ตอนพระเอกเป็นเด็กประถม, ตอนเป็นวัยรุ่น และโตเป็นหนุ่ม ซึ่งช่วงตอนเป็นวัยรุ่นจะสนุกที่สุด

                BM อาจเป็นผลงานแรกๆ ของคนเขียน (ซึ่งภายหลังผลงานของคนเขียนคนนี้ส่วนใหญ่ เป็นแนวเอาตัวรอด ไม่กี่เล่มจบ เล่มยาวไม่ค่อยมี)  แค่กระนั้นมันเป็นการ์ตูนแนวเอาชีวิตรอดของแท้ที่แตกต่างจากแนวโลกแตก หรือซอมบี้ทั่วไป เพราะคนแต่งสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาเอง แถมสัตว์ประหลาดที่ว่ามีที่มาที่ไป ไม่ได้มาจากต่างดาว ไม่ได้มาจากบนดิน แต่เป็นฝีมือของมนุษย์ ที่แก้ปัญหาเรื่องเนื้อสัตว์ขลาดแคลน โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนสร้างนั้นมันอันตรายมากขนาดไหน (ถึงจะรู้ แต่ก็สร้างอยู่ดี)

    ความสนุกของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเอาตัวรอดอย่างเดียว (ในด้านแนวเอาตัวรอด ก็มีทั้งตื่นเต้น และตลกร้ายๆ เวลาตัวประกอบตายอนาถ แถมพวกตัวประกอบบางรายคนอ่านสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ) แต่มันสอดแทรกอะไรหลายอย่าง แต่เป็นการจิกกัดความเลวร้ายของมนุษย์ ความโลภ ความไม่รู้จักพอ ไม่เคยเรียนรู้ข้อผิดพลาดในอดีต การใช้อำนาจในทางที่ผิด

    อย่างไรก็ตาม ในด้านเลวร้ายเหล่านั้น รวมไปถึงด้านดีๆ ของแต่ละภาคสนุกอย่างลงตัวเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร โดยเฉพาะพวกตัวเองที่ค่อยๆเติบโตขึ้นจนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การพัฒนาด้านจิตใจ มิตรภาพ และความเชื่อใจด้วย


    1.Drifting Classroom


    Drifting Classroom (1972-1974) หรือ ห้องเรียนต่างมิติ หากให้คนญี่ปุ่นจัดการ์ตูนมังงะสยองขวัญเซอร์ไววัลเอาตัวรอดล่ะก็ การ์ตูนเรื่องนี้จะติดอันดับต้นๆ ทุกครั้ง เพราะพล็อตการเอาตัวรอดลงตัว ความน่ากลัว ความพยายามมีชีวิตอยู่ และฉากจบที่หวานอมขมกลืน ยังคงคลาสสิกตลอดกาล ไม่ว่าจะอยู่ยุคสมัยไหน

    Drifting Classroom เป็นผลงานปรมาจารย์สยองขวัญ อุเมซึ คาซึโอะ ที่ชอบวาดสีหน้าตัวละครตกใจแปลกๆ (จนกลายเป็นมุกล้อเลียนการ์ตูนญี่ปุ่นทั้งหลายแหลเอาไปใช้กันจนกึงปัจจุบัน) ผลงานของเขาล้วนมีอิทธิพลต่อมังงะในปัจจุบัน โดยการ์ตูนดังกล่าวถือว่าเป็นการ์ตูนสร้างชื่อของเขาก็ว่าได้ มีทั้งหมด 11 เล่มจบ และได้รับการจารึกว่าเป็นการ์ตูนสยองขวัญเซอร์ไววัลที่ดีตลอดกาล

    โดยเนื้อเรื่อง เป็นเรื่องของ เด็กประถมคนหนึ่งชื่อโช ที่แสนธรรมดาที่ตอนเช้าเขาพึ่งทะเลาะกับแม่และมาโรงเรียนตามปกติเช่นทุกวัน หากแต่แล้วในขณะเข้าเรียน จู่ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อโรงเรียนทั้งหลังถูกพัดไปอยู่มิติแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่โลกมนุษย์ มันเป็นมิติที่เหมือนดาวอังคาร มีแต่โคลนตม ไม่มีอาหารหรือน้ำใดๆ เลยที่ข้างนอก และเมื่อทำให้เขาและพวกเด็กและบรรดาครูอาจารย์รวม 862 ชีวิต สำรวจสถานที่ดังกล่าวก็พบว่าพวกตนต้องติดเหง็กอยู่ในมิติดังกล่าว และทั้งหมดพยายามเอาตัวรอด อาหารกลางวันของโรงเรียนถือว่าเป็นสิ่งมีค่า หากแต่เหล่าผู้ใหญ่กลับคิดจะฮุบเป็นของตนเอง และแล้วทุกคนก็เริ่มมีอาการคลุ้มคลั่ง และเริ่มฆ่าฟันกันเองเพื่อมีชีวิตรอด สถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้น โดยหารู้ไม่ว่ายังมีภัยที่ร้ายกาจอยู่ข้างนอกที่พร้อมจะเขมือบทุกคน และโซกับเพื่อนจะรอดหรือไม่



    ความจริงตั้งใจเขียน 10 อันดับ แต่พอเขียนไป นึกอีก 32 เรื่องไม่ออก เพราะส่วนใหญ่แนวเอาตัวรอดที่ผ่านมา ไม่ออกทะเล ก็จบไม่ถูกใจ (ส่วนเรื่องที่ชอบอย่าง I am Hero พูดถึงไปแล้ว) ดังนั้นก็ขอแนะนำแค่ 8เรื่องละกัน หากอนาคตมีแนวเอาตัวรอดดีๆ ก็จะมาเสริมอีกให้ครบนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×