ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #313 : คุณเคยเห็นไลท์โนเวลฮาเร็มสายมืดไหม? (ภาค 2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.98K
      1
      19 พ.ย. 57

    ครั้งหนึ่งผมเคยเขียนบทความ “คุณเคยเห็นไลท์โนเวลฮาเร็มสายมืดไหม?

    http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=125456&chapter=220

    ทำไมผมถึงเขียนบทความที่ว่า อาจเป็นเพราะช่วงเวลานั้นผมกำลังเซ็งๆ การ์ตูน (ไม่ก็นิยายไลท์โนเวล) เรื่องหนึ่งจบวิน จบแบบไม่ถูกใจผม ผมเลยเขียนบ่นๆ ว่าจะมีการ์ตูนฮาเร็มเรื่องไหนจบฮาเร็มบ้าง แนวฮาเร็มก็ต้องจบฮาเร็มสิ ผมไม่อยากเห็นผู้หญิงคนใดคนหนึ่งต้องเจ็บปวดซ้ำรัก  ไม่ชอบคู่รอง ไม่ชอบการ์ตูนหลอกว่าฮาเร็มแต่ตอนหลังพระเอกหักธงแหลกกลายเป็นวินชะงั้น ฯลฯ (โครตปวดใจเลย)

    ไม่รู้สิ ตรรกะผมแล้ว ในเมื่อเขียนแนวฮาเร็ม ก็น่าจบฮาเร็ม จบวินหรือสุดท้ายมีผู้ชนะนั้น ผมว่าเป็นตอนจบที่มันล่าสมัยไปแล้ว รสนิยมผมเป็นแบบนี้แหละ และมันก็จะอยู่กับผมไปจนตาย ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนไปได้

    ดังนั้น หวยจึงออกมาอยู่ที่สายมืด (เฮ็นไต) มังงะมืด โดจินมืด และไลท์โนเวลมืด (ความจริงควรเรียก โนเวล เฉยๆ เพราะหลายเว็บเรียกหนังสือเหล่านี้ว่า โนเวล ขณะที่ไลท์โนเวลนั้นเป็นเพียงแค่คำเรียกของแบรนด์เนมหนึ่งเท่านั้น) ซึ่งมีสิ่งที่สนองความต้องการของผม

    ในขณะที่เราสามารถหาอ่านโดจิน มังงะมืด ได้ง่ายๆ ในเน็ต (บางเรื่องก็มีแปลไทย) แต่ไลท์โนเวลมืดนั้นเราหมดหวังในการอ่านในเน็ต ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ไลท์โนเวลนั้นเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่ใช่ภาษาไทย ซึ่งผมเป็นคนไทยบ้านนอกคนหนึ่งที่อ่านไม่ออกเลย ดังนั้นจึงได้ทำแต่มองแค่ภาพ เพื่อนสมัยเด็กทอมบอยที่แสนน่ารักเท่านั้น โดยไม่รู้ว่าแปลยังไง

    แน่นอนผมว่าตอนนั้น ผมก็ได้แค่บ่น ตามที่เห็น แถมบ่นอีกว่าชาตินี้ผมจะอ่านไลท์โนเวลสายมืด (ถ้ามีใครสักคนเอาไลท์โนเวลมืดมาแปลก็ดีสิ) เพราะสายนี้ไม่มีทางเข้าประเทศไทยแน่นอน สมแล้วที่เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันดีงามสูงส่ง  

    จนกระทั่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมก็ได้ข่าวอันแสนตกใจว่าประเทศไทยได้มีไลท์โนเวลมืดเกิดขึ้นสองเรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นนิยายดังของญี่ปุ่นที่มีสำนักพิมพ์หนึ่งเอามาแปลอย่างถูกกฎหมาย และเรื่องที่สองผมช็อกยิ่งกว่าคนมีคนไทยคนหนึ่งแต่งไลท์โนเวลมืดชนิดว่าแตกฉานเลยทีเดียว ว่านี่คือไลท์โนเวลมืด  และนั้นเองทำให้ผมก็ได้อ่านไลท์โนเวลาสายมืดถึง 2 เรื่องเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

     

     

    อดัมแห่งสนธยา Shishunki na Adam

     

    ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต และเฟสบุ๊คมีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น โดยเฉพาะตลาดของหนังสือ ซึ่งไม่ว่าสำนักพิมพ์ หรือบุคคลธรรมดา ก็สามารถทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือของตนได้อย่างง่ายดาย

    และนั้นทำให้ผมรู้จักไลท์โนเวลสายมืดสองเรื่อง

    เรื่องแรก อดัมแห่งสนธยา Shishunki na Adam ของสำนักพิมพ์: First Page ที่พึ่งเปิดตัวใหม่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  ยอมรับเลยว่าไม่เพียงแค่ผมนั้นที่ตะลึง เพราะหลายคนก็ตะลึงเหมือนกัน ที่ไม่เชื่อว่าจะสำนักพิมพ์ลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลเรื่องนี้เข้ามาไทยได้ เพราะเป็นสายมืด  แถมถูกกฎหมายด้วย ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายมากนัก แต่ที่รู้คือกฎหมายบ้านเราก็ห้ามการเผยแพร่สิ่งลามกทางทุกสื่อ ( แต่สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยครอบคลุมนัก)  

    แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายเหล่านี้เมื่อนำไปใช้ก็ยาก เพราะว่ายังมีนิยายฮีโรติก-โรมานซ์ที่ไม่เข้าค่าย (เดาว่าสำนักพิมพ์ใช้จุดนี้ถึงสามารถลิขสิทธิ์ได้ ซึ่งอดัมเป็นนิยายของผู้ใหญ่ ไม่ใช่ของเด็กอ่าน ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้ว) ส่วนใหญ่สื่อลามกที่ถูกห้ามนั้นสาระจะอยู่ในพระราชบัญญัติว่าด้วย “การปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตราย” ที่สื่อต่างๆ ส่งเสริมให้เยาวชนมีพฤติกรรมด้านลบ เช่นสื่อนั้นมีการกระทำวิปริตทางเพศ (พ่อเอากับลูก, ลูกเอากับแม่, พี่เอากับน้อง, ข่มขืน, ลงแขก, ประเวณีหมู่), กระทำทางเพศแก่เด็ก, มีการฆ่าตัวตาย, ใช้ยาเสพติด, มีการกระทำต่อศีลธรรมอันดีงามของประเทศ  

    แต่ก็อีก เพราะสาระ พ.ร.บ. ดังกล่าวนั้น หากเอามาใช้ในงานประพันธ์แล้วก็เป็นเรื่องยากที่ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะนิยายแนวอีโรติก และโรมานซ์ นั้นสะท้อนถึงความต้องการทางเพศ ความรักของมนุษย์ ในอีกมุมมองหนึ่ง ถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้าย และไม่ได้เป็นสิ่งลามกอนาจาร

    ความจริงแล้วบ้านเรามีนิยายแนวอีโรติก และโรมานซ์มานานแล้ว แถมยังบรรยายการจูบอย่างดูดดื่ม การใช้ลิ้นเล้าโลมอวัยวะเพศอย่างถึงพริกถึงขิง รวมไปถึงการบรรยายฉากร่วมรักอย่างสุกสมร้องแรงบนเตียง รวมไปถึงการบรรยายอวัยวะเพศ หน้าอก บั้นท้าย ของผู้หญิง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดังๆ ที่สุดบ้านเราก็มี “จันดารา” ผลงานของ “อุษณา เพลิงธรรม” ที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์จนที่เป็นถกเถียงว่า “เหมาะสม” หรือ “ไม่เหมาะสม” มาแล้ว

    อีโรติก และโรมานซ์นั้นแตกต่างจากเรื่องเสียวๆ เพราะภาษาที่ใช้นั้นไม่ได้หยาบโลม อีโรติกหมายถึงการเร่งเร้า แรงปรารถนา ความหลงใหล ใคร่รัก ส่วนโรมานซ์คือแนวรักๆ หวานๆ ซึ่งๆ เกี่ยวกับความรัก อะไรมากกว่า

    ดังนั้นส่วนใหญ่แล้ว วงการหนังสือไทย  มักจะเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมาย จำกัดเรตของผู้ซื้อ มากกว่าที่จะห้ามสื่อลามกไปทุกเรื่อง  

    (ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=237755) 

    หลังจากประกาศลิขสิทธิ์ Shishunki na Adam ทำให้สำนักพิมพ์เฟิร์ส เพจ  First Page ดังเพียงชั่วข้ามคืน ถ้าข่าวกรองผมไม่ผิด บก. ของสำนักพิมพ์นี้ เคยทำงานให้รักพิมพ์มาก่อน ซึ่งรักพิมพ์ก็เป็นสำนักพิมพ์ที่ริเริ่มเปิดตัวไลท์โนเวล พร้อมกับเรื่องจิ้งจอก “คาโนค่อน” หื่นสุดๆ มาแล้ว

     

     

    นิยาย No Sex, No Life

     

    ส่วน No Sex, No Life  เป็นนิยายไลท์โนเวลมืด ซึ่งแต่งโดย Lilith และIllustration: gergoth) นั้น ความจริงผมก็นึกไม่ถึงว่ามีหนังสือเรื่องนี้อยู่ในประเทศไทย เพราะเป็นนิยายพิมพ์เองขายตามเน็ต ผมเองก็ก็พึ่งรู้อันเนื่องจากคนรู้จัก คุณ “บอลลิ่ง” (Dr.Boring) ได้พูดถึงนิยายเรื่องนี้ และส่งเพจที่ขายมาด้วย (ความจริงบอลลิ่งยังพูดถึงโดจินมืด OS ด้วย ซึ่งไว้โอกาสหน้าก็จะมาพูดถึง แลการ์ตูนไทยต่อไป)

     ยอมรับว่า ตอนแรกผมเองก็ไม่คิดจะซื้อ No Sex, No Life เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเหตุผลแรกคือผมอ่านเรื่องย่อพบว่าพวกสาวๆ ในเรื่องไม่บริสุทธิ์ คือผมไม่ชอบสาวที่ผ่านมือชายร้อยคนกว่าจะมาลงเอยพระเอก ผมชอบสายบริสุทธิ์พระเอกเป็นคนรักคนแรกและไม่รักใครอีก (ฮาเร็มเล่มแรกพระเอกได้สามสาว ตอนแรกนึกว่ายัยอเมริกาไม่บริสุทธิ์ ปรากฏว่าผมเข้าใจผิด กลายเป็นสาวรัสเซียคนเดียวเท่านั้นที่ไม่บริสุทธิ์ซะงั้น)

    เอ่อ.......ผมค่อนข้างเป็นสาย ทวินเทลซึนเดเระ, เพื่อนสมัยเด็กทอมบอย, คูลเดเระนะครับ

    และอย่างที่สอง ผมไม่ค่อยเชื่อมือฝีมือคนไทยแต่งไลท์โนเวลสักเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาผมก็อ่านนิยายที่หลายคนอ้างว่าแต่งแบบไลท์โนเวล แต่พอมาอ่านแล้วก็ไม่ใช่  ยิ่งเป็นพวกมืดๆ มีฉากเอากันนี้ ผมก็ไม่เคยเห็นนะ ปกติก็เห็นนิยาย NC อยู่หรอก แต่คนแต่งไม่ใช่มีฝีมือ (ทำเป็นเล่นไปแนวอีโรติคแต่งโครตยากเลยขอบอก)  ซึ่งผมองไม่ออกว่าจะเป็นยังไง กลัวเอาตรรกะไทยๆ ไปใส่ในฮาเร็ม กลัวบรรยายแบบแนวเรื่องเสียวๆ ชาวบ้าน  กลัวไม่ฮาเร็ม กลัวบรรยายไม่ถูกใจ กลัวพระเอกไม่กาก กลัวฝันร้าย ฯลฯ

    อีกทั้งส่วนตัวผมไม่รู้จักคนแต่งนิยาย No Sex, No Life ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร (แต่คนวาดประกอบผมรู้จัก เพราะเห็นผลงานอยู่บ่อยๆ)

    แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายผมก็ซื้อ ด้วยเหตุผลว่า บอลลิ่งบอกว่าเล่มที่สองจะมีฉาก 3P (ประกอบกับเห็นหน้าตัวอย่าง ดูแล้วน่าสนใจ) ผมก็เลยซื้อ

    ทั้งอดัม และโนเซ็กต์นั้นราคาเล่มค่อนข้างแพงนิดหน่อย  อดัมเล่มแรก 165 บาท (ขายในผ่านฟ้าราคา 149 บาท) เล่มสองถีบตัวเป็น 189 บาท (ขายในผ่านฟ้า 170) ส่วน ส่วนโนเซ็กต์ 298 บาท (เพราะเป็นหนังสือทำมือ) ทั้งหมดไม่รวมค่าขนส่งอีก 50 กว่าบาท

    นิยายไลท์โนเวลมืดแตกต่างจากไลท์โนเวลสว่าง (นิยายทั่วไป) และนิยายโรแมนติกไทยๆ ยังไง ? แม้ว่าตอนนี้จะมีตัวอย่างค่อนข้างน้อย แต่หลังจากที่ผมอ่านนิยายทั้งสองเรื่อง (อดัม กับโนเซ็กต์) และภาพประกอบนิยายเรื่องนิยายมืดเรื่องอื่นๆ (บางเรื่องก็เอามาทำเป็นมังงะด้วย ) ผมจึงสรุปความแตกต่างได้หลักใหญ่ๆ  คือ

    -นิยายไลท์โนเวล มีเรื่องของเทนตาเคิล หนวดลามก ลงแขก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในอีโรติคไทยๆ

    -นิยายไลท์โนเวลมืดนั้นไม่ได้ให้ความสนใจการดำเนินเรื่องสักเท่าไหร่ เพราะการดำเนินเรื่องไม่ใช่จุดสำคัญสำหรับนิยายเรื่องนี้ จุดสำคัญคือฉากต่อสู้ที่ร้อนแรง (เอากัน) มากกว่า  ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อหาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่จำเป็นต้องมีการดำเนินเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่ต้องไปผูกปมอะไรมากมาย ไม่จำเป็นต้องดราม่า ปวดตับ ไม่ต้องเก็บเลเวลทำอีเวนท์อะไรมากมาย   สามารถเดาทางได้ว่าจบยังไง (ส่วนมากสายมืดมักเล่มเดียวจบ)  

                    ส่วนมากการดำเนินเรื่องไลท์โนเวลมืดนั้นจะเป็นพล็อตการ์ตูนที่พบเห็นกันทั่วไป วนเวียนเรื่องชีวิตในรั้วโรงเรียน และแฟนตาซี อย่างเรื่องอดัมนั้นเป็นเรื่องของพระเอกชื่อฟุจิตะ มุตสึกิที่มีพลังที่แทบสามารถครองโลกได้ จนเป็นที่หมายตาของเหล่า ปีศาจ-เทพ-มนุษย์ และเขาถูกปกป้องโดยเทพธิดาไฟซึนเดเระ (คล้ายๆ ซานะนักรบอัคคี แต่ไม่หวงพระเอกนะ)   พล็อตพระเอกกากถูกปกป้องโดยผู้หญิง แบบนี้สายสว่างเล่นกันเกลื่อน การดำเนินเรื่องเองก็ไม่ได้ซับซ่อน แปลกใหม่อะไร

    ส่วน No Sex, No Life  ออกไปทางชีวิตทำงาน โดยกล่าวถึง หนุ่มวัยทำงานคนหนึ่งชื่อ สุภวิทย์ (ผมขี้เกียจจำ เลยอ่านว่า ชูวิทย์) ที่ได้กลายเป็นหนูทดลองยา โดยนักวิทยาศาสตร์สาวแสนสวย จากหนุ่มที่ไม่มีดวงผู้หญิงมาตลอด ก็ดวงขึ้นทันที แถมได้เป็นฮาเร็มอีกต่างหาก

    No Sex, No Life อาจมีกลิ่นอายของนิยายไทยนิดๆ หน่อยๆ  อย่างน้อยชื่อพระเอกก็ชื่อไทย และเกิดในเมืองไทย แต่การดำเนินเรื่องก็นั้นตามแบบการ์ตูนการ์ตูนญี่ปุ่นที่บรรยาย (รวมไปถึงภาพประกอบที่เป็นภาพการ์ตูน)  ถือว่ากลมกล่อมดีสำหรับคนเขียนนิยายเรื่องนี้

    ดังนั้นแล้ว ทั้งอดัม และโนเซ็กต์ ไม่ใช่ไลท์โนเวลสำหรับเด็ก หรือการ์ตูน แต่เป็นนิยายของผู้ใหญ่ที่ดำเนินเรื่องแบบการ์ตูร (แม้ว่าอดัมจะทำเป็นมังงะก็เถอะ)

    หลายคนอาจบ่นเรื่องอดัม ที่ดำเนินเรื่องตามสูตร จนออกไปทางน่าเบื่อ แต่ตามความเห็นแล้ว ผมแปลกใจมากกว่าว่านิยายแนวนี้มันมีดำเนินเรื่องเป็นเรื่องเป็นราวด้วยหรือนี้ (ฮ่า) นึกว่าจะมีฉากต่อสู้ดุเดือดบนเตียง (และนอกสถานที่แบบไม่อายฟ้าอายดินอีกต่างหาก) เสียอีก

    ดังนั้น อย่าคาดหวังกับการดำเนินเรื่อง หรือต้องการดราม่าจากนิยายเหล่านี้ (แม้จะมี แต่มันเป็นการปักธงที่ตามสูตรง่ายๆ) เพราะเขาไม่มีให้ อยากจะเห็นการดำเนินเรื่องราว ก็ไปอ่านสายสว่าง

     

     

    อดัมฉบับมังงะ

     

    ทำลายตรรกะวิน สายมืดของญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างหลากหลาย  แต่ถ้าจะถามประเภทที่เยอะที่สุด (เท่าที่เห็น) คงจะเป็นแนวฮาเร็ม ( ส่วนมากเป็น 3P, 4P) แม้จะมีแบบนางเอกคนเดียวบ้าง แต่ก็นั้นก็ไม่ได้มีมากสักเท่าไหร่ (เท่าที่เห็น)

    ปกตินิยายไลท์โนเวลมืดนั้น ไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนอีโรติก หรือชื่อบ่บอกว่าอีโรติก ในขณะที่นิยายอีโรติคที่เราเห็นในแผงหนังสือ ที่เป็นภาพชายกับหญิงกอดจูบหรือเร้าอารมณ์อย่างเร้าร้อน หรือภาพแค่พระเอกกับนางเอก พร้อมชื่อแบบไทยๆ ที่สื่อถึงราคะอะไรบางอย่าง แต่ไลท์โนเวลมืดนั้นเป็นภาพตัวการ์ตูนผู้หญิงที่สวยน่ารัก (อาจจะคนเดียว หรือแบบมาเป็นกลุ่มก็ว่ากันไป) ขึ้นหน้าปกเท่านั้น ซึ่งไม่แตกต่างอะไรจากไลท์โนเวลญี่ปุ่นสว่างเลย สิ่งที่บ่บอกมีอย่างเดียวว่าเป็นสายมืดคือสัญลักษณ์ ไม่ก็คำอธิบายว่ามันเป็นหนังสือของผู้ใหญ่ ไม่ใช่ของเด็ก

    (นอกเรื่อง เซเว่นผมยังเห็นนิยายแนวอีโรติกขายเลยครับ)

    หลายคนอาจบอกว่าเป็นนิยายขายโอตาคุขี้เงี่ยน  แต่คำตอบของผมอาจมีมากกว่านั้น  เพราะหลังจากผมดูนิยายทั้งอดัม หรือโนเซ็กต์มันเป็นนิยายอีโรติคประเภทหนึ่งมากกว่า เพียงแต่อีโรติกนั้นสำหรับลูกค้าผู้ชายโดยเฉพาะ แต่กระนั้นหัวสมองของผู้ชายนั้นรสนิยมค่อนข้างแตกต่างจากผู้หญิง

    ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจตรงกันก่อนว่าอีโรติคนั้นแตกต่างจากเรื่องเสียว หรือ NC (นิยายเรต) ทั่วๆ ไป เพราะอีโรติคจะเน้นความงามของภาษาในฉากเลิฟซีน และไม่ได้บรรยายตรงไปตรงมา แต่จะเป็นการเน้นพรรณนา เปรียบเทียบ ไม่หยาบคาย แต่ก็สื่อถึงการสนองราคะเหมือนกัน เพียงแต่ต้องมีการกลั่นกรอง ตีความมากสักหน่อยว่าคำพรรณนานี้หมายถึงอะไร

    สรุปคือ ผมคิดว่าคนที่อ่านนิยายเหล่านี้ต้องเป็นคนหัวศิลปะมากพอดูเลยนะครับ

    กลับมาต่อนิยายทั้งสองเรื่อง แม้จะเป็นนิยายอีโรติก แต่เนื้อหาก็ยังคงใช้การ์ตูนแนวฮาเร็ม ภายใต้ความฝันผู้ชายที่ว่า พระเอกธรรมดาที่ไม่จุดเด่นอะไร หน้าตางั้นๆ ไม่รวย ไม่เท่ ไม่เด่น ชีวิตที่ผ่านมาไร้ดวงผู้หญิง แต่จู่ๆ ดวงผู้หญิงขึ้นซะงั้น แถมไม่ได้ขึ้นแบบธรรมดาด้วย เพราะขึ้นแบบเกินหน้าเกินตาอีกต่างหาก เพราะพระเอกได้ผู้หญิงสุดสวยและน่ารักมากกว่าหนึ่งคน อาจจะสองคน หรือสามคน และสี่คน!!

    ปกติแนวฮาเร็มทั่วๆ ไปคือเป็นเรื่องของพระเอกที่ต้องทำอีเวนท์กับพวกสาวๆ ให้เกิดความรัก  และพวกเธอก็รักใครหลายคน และพวกสาวรักผู้ชายคนเดียวกัน

    ส่วนใหญ่แล้วแนวฮาเร็ม มักจบลงเอยด้วยการ “วิน” ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่หลายคนลุ้นที่สุดของเรื่อง ว่าสุดท้ายพระเอกจะลงเอยอย่างไร บทสรุปความรัก เกิดสงครามอวย (ซึ่งก็ไม่รู้จะอวยไปทำไม) อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าฮาเร็มทุกเรื่องจะจบ “วิน” เสมอไป ปัจจุบัน “วิน” ไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง คือฉากจบดีเสมอไป เมื่อคำตอบของความรักพระเอกลงเอยกับทุกคน สมหวังกับทุกคน หรือก็คือ “จบฮาเร็ม” กลายเป็นสุดยอดการจบแนวฮาเร็มที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

    หลายคนอาจชอบจบ “วิน” แต่ในขณะเดียวกันคนที่ชอบจบฮาเร็ม  และอาจมีจำนวนมากด้วยซ้ำ เห็นได้จากไลท์โนเวลสายมืดที่ส่วนใหญ่เป็นแนวฮาเร็ม

    อดัมก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นนิยายไลท์โนเวลสายมืดแนวฮาเร็ม ที่ดำเนินเรื่องแบบฮาเร็ม กล่าวคือพระเอกเรื่องนี้จัดหนักตัวละครหญิงเกือบทุกคนในเรื่อง (ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชาย) ซึ่งตั้งแต่เล่ม 2 พระเอกจัดหนักผู้หญิง (และชาย) ไป 5 คนแล้ว!!  ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นพระเอกยังเป็นสัตว์กินพืช ไม่มีดวงผู้หญิงอยู่เลยแท้ๆ  

    เพียงแค่นี้คงไม่มีใครตั้งมาลุ้นว่าพระเอกจะวินกับใครแล้วละ.....

    ถ้าจะพูดง่ายๆ นิยายอีโรจิคก็คือนิยายเฟ้อฝันในอีกรูปแบบหนึ่ง จุดสูงสุดของความรักผู้หญิงก็คือการที่มีคู่ครองเป็นชายหนุ่มหล่อ นิสัยดี รวย เก่งไปทุกอย่าง ส่วนจุดสูงสุดของผู้ชายหลายคนคือการได้ผู้หญิงที่สวยเก่งเลเวลสูงแถมไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่หลายคน!!

    ปกติแล้ว ผู้ชายที่ทำแบบนี้จะถูกเรียกว่า “เจ้าชู้” หรือถูกดราม่าว่าเป็นผู้ชายเฮงซวย ถ้าเป็นแนวสว่างพระเอกมีเพศสัมพันธ์สิ่งที่ตามคือดราม่า หรืออย่างที่หลายว่าปวดดับ

     อย่างไรก็ตาม สายมืดไม่ต้องการให้คนอื่นมองอย่างนั้น และไม่ต้องการดราม่า ดังนั้นเนื้อเรื่องไม่ได้เน้นย้ำเรื่องเหล่านี้มากนัก แต่กระนั้นก็ยังมีเรื่อง “ปัญหาที่ตามมา” ให้วุ่นวายอยู่ดี แต่เป็นระดับที่ไม่ได้ดราม่าตับแตกแต่อย่างใด  

    และเท่าที่ผมคิด พระเอกแนวนี้มันยังดีกว่าผู้ชายในปัจจุบันอีก ตรงที่พระเอกมัน “รับผิดชอบ” และ “ไม่หนีปัญหา”

    ส่วนโนเซ็กต์ ผมก็ชอบใจคนแต่งในเรื่องกำจัดตรรกะวินๆ นะ อะไรที่ความเป็นไทยตัดหมด เป็นต้นว่า พระเอกก็เป็นแบบคนไทยเราทำแล้วต้องรับผิดชอบ (แม้จะจนไม่มีแด๊กก็ตาม) ไม่หนีปัญหาแบบชายไทยหลายคน (ฮ่า) ส่วนตัวเอกเรื่องนี้เป็นคนทำงาน ซึ่งไม่ได้เอาเรื่องรักในวัยเรียนมาเล่นก็เลยเข้าท่า (จะได้ตัดปัญหาเรื่องถูกมองว่าเด็กเยาวชนขี้เอาด้วย) ส่วนศีลธรรมอันดีงามไม่มีการกล่าวถึง ประเด็นผู้หญิงขี้หึ่งไม่มี (มีแต่พองาม) โดยกำหนดให้พวกสาวๆ เหล่านี้เป็นชาวต่างชาติที่มีมุมมองวัฒนธรรมแตกต่างกัน และรับได้กับฮาเร็ม (ฮ่า) ทำให้ดูแล้วสมเหตุสมผลระดับหนึ่ง

    ธงที่หายไป  สิ่งที่ผมแอบแปลกใจทุกครั้ง หลังจากที่ดูอดัม หรือโนเซ็กต์ก็คือ ความสัมพันธ์แบบรักๆ ที่ตอนแรกไร้ซึ่งการปักธง

    การปักธง ตามความหมายของคอเมดี้รักๆ แล้ว หมายถึงพระเอกทำอะไรบางอย่างให้ตัวละครหญิงเกิดความรู้จักชอบพระเอกหมดใจ (ปักธงแน่น) ชนิดว่าจะไม่รักใครอีกแล้วนอกจากพระเอก

    ปกติแล้วผมชอบแนวฮาเร็มตรงฉากปักธงแหละครับ มันค่อนข้างฟินสำหรับผมทีเดียว ผมชอบคำพูดโดนใจของพระเอกที่กลั่นออกมาจิตใจ ทำลายปมของสาวคนนั้นจนราบคาบ ซึ่งหากไม่มีฉากเหล่านั้นแล้วละก็ ฮาเร็มก็จะไม่ใช่ฮาเร็ม และบทของตัวละครจะกลายเป็นความรักราคาถูกไป

    กว่าที่พระเอกจะปักธงได้ พระเอกต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับสาวคนนั้นก่อน แบบช้าๆ ทีล่ะขั้น ยิ่งสายสว่างกว่าจะมีฉากเลิฟซีนถึงพริงถึงขิงบนเตียงนั้นก็ปาไปใกล้จบ พระเอกต้องปักธงเธอบอกรักเธอให้หมดหัวใจก่อนถึงจะได้เสียกัน

    แต่ในฮาเร็มสายมืดไม่ได้เป็นอย่างนั้น ทั้งอดัม และโนเซ็กต์ พระเอกเอากับพวกสาวๆ โดยไร้ซึ่งปักธง หากเป็นแนวสว่างสิ่งที่ตามมาคงเป็นดราม่า ปวดตับแล้ว (แต่สายมืดอย่างมากก็แค่เรื่องวุ่นวายตามมา)

    อดัมนั้นตอนแรกพระเอกลิฟซีน (เอากัน) กับสองตัวละครหลัก คือพี่สาวเทวดาสีช็อคโกแลต และน้องแอปเปิ้ลคูลเดเระ หากแต่ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความรักแม้แต่น้อย เพราะทั้งสองเข้าหาพระเอกเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่าง

    ส่วนโนเซ็กต์นั้น พระเอกเองก็ไม่ได้แสดงอะไรที่ปักธงแม้แต่น้อย ความรักของพระเอกกับสาวๆ ในเรื่อง ตอนนี้เป็นเพียงแค่เซ็กต์เฟรนด์ ที่พระเอกจำเป็นต้องรับผิดชอบ (ส่วนสาวๆ คิดเพียงชอบสนุก เท่านั้น)

    ปกติแล้วสายมืดจะพยายามใช้การปักธงง่ายๆ นั้นคือการใช้ความสัมพันธ์ที่มีมาก่อนแล้ว เช่น เพื่อนสมัยเด็ก, เป็นญาติกัน, สัญญาณเมื่อสิบปีก่อน หรือว่าทั้งคู่แอบชอบซึ่งกันและกันมานานแล้ว ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นการปักธงง่ายๆ ที่ดูแล้วสมเหตุสมผล ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนซ่อนเงื่อนแต่อย่างใด มาถึงก็จัดหนักเลย

    อย่างไรก็ตาม แม้ความสัมพันธ์ช่วงแรกจะไร้ซึ่งความรักจากใจจริง หากแต่ อดัมก็เริ่มแสดงให้เห็นว่า แม้ช่วงแรกพวกผู้หญิงจะได้เสียกับพระเอก แต่ของโนเซ็กต์นั้นผมก็ไม่รู้ว่าคนแต่งจะมีฉากปักธงหรือไม่ หรือจะทำความสัมพันธ์แบบเซ็กต์เฟรนด์ต่อไป

     

    เล่ม 3 อดัม

     

    ต่อไปคำถามที่ว่าอดัมและโนเซ็กซ์มีฉากอีโรติคแบบเยอะไหม และเป็นอย่างไร คำตอบผมคือหากกะด้วยความรู้สึก นิยายทั้งสองเรื่องมีอีโรติกถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์คือเนื้อเรื่อง (แล้วเนื้อเรื่องที่ว่า ส่วนมากจะเป็นการอวยตัวละครสาวๆ ก่อนที่พระเอกจะจัดหนักตอนท้ายๆ)  ดังนั้นไม่ต้องมองไปหาการดำเนินเรื่องเลย (ขนาดฉากปักธงยังไม่ค่อยมีเลย)

    ต่อมาอีโรติคนั้นเป็นแบบไหน ก็ตอบว่า อีโรติคของนิยายสายมืด ก็คล้ายๆ โดจินมืด ใครที่เคยอ่านโดจินมืดๆ แนวประเภทโดจินฮาเร็ม ที่ตอนจบพระเอกได้สาวๆ เข้าฮาเร็มหมด คงนึกภาพออก  มันก็เหมือนอีโรติคไทยๆ ที่อ่านแล้วเหมือนละครไทยนั้นแหละ (ซึ่งแบบละครไทย จะเน้น การดำเนินเรื่องประเภท ชู้, จับกด, แก้แค้น, รักซ่อนเงื่อน เนื้อหาผู้ใหญ่อะไรมากกว่า)  แน่นอนว่าอีโรติคนิยายสายมืดญี่ปุ่น แตกต่างจากอีโรติคนิยายไทยๆ ค่อนข้างมาก

    นอกจากนี้ของอดัมจะเป็นอีโรติคแปลกๆ เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น 3P, เอากันห้องพยาบาล หรือนอกสถานที่ (รูทนี้มีแต่สายมืดญี่ปุ่นๆ เท่านั้น), กันในชุดว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดสูงสุดของคนอ่าน และเป็นที่นิยมในการ์ตูนโดจินมืดทั้งสิ้น และยังมีความเป็นแฟนตาซีแปลกๆ เพิ่มมาก็เช่น เอาสาวดุ้น และเทคตาเคิล (หนวดลามก) ด้วย ดังนั้นหากใครอยากศึกษาอีโรติคในนิยายทั้งอดัมและโนเซ็กต์ขอบอกว่ามันแตกต่างจากอีโรติคแบบไทยๆ ที่ไม่คุ้นเคยมากนัก

    ส่วนที่เหลือ การบรรยายอีโรติคเป็นยังไงนั้น ก็ตอบว่าคล้ายอีโรติคไทยๆ คือการใช้ภาษาสละสลวย ไม่ได้บรรยายฉากรักตรงไปตรงมา แต่ไม่ได้ร้อนแรงอ่านแล้วเหมือนเพลิงเผาผลาญ หรือเน้นมุมมองของผู้หญิงมากนัก (แต่เซ็กต์มีการบรรยายในมุมมองของผู้หญิง) แต่อารมณ์คือให้คนอ่านอิจฉาพระเอกชนิดตาร้อนเป็นไฟทีเดียว เพราะตลอดฉากอีโรคติกบรรยายเรือนร่างผู้หญิงได้อย่างงดงาม สวยหยาดเยิ้ม พระเอกที่แสนไม่ได้เรื่องได้เอาสาวงามเหมือนดั่งความฝัน จนไม่เชื่อว่าเขาจะได้สาวงามนี้มาครอบครอง อย่าง อดัม พระเอกบรรยายเกี่ยวกับมากินะ (น้องแอปเปิ้ล) ขณะร่วมรักกันว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาแอบชอบ และตอนนี้เธอเป็นของเขา เป็นของเขาคนเดียว ชนิดไม่ให้คนอื่น

     เชื่อว่าชายใดที่ไร้ซึ่งอีเวนท์รักในชีวิตจริงมาอ่านนิยายเรื่องนี้ถึงขั้นลืมโลก พร้อมรำพึงว่า ทำไมเราไม่โชคดีแบบพระเอกในเรื่องบ้าง

      และอย่าลืมว่านี่คืออีโรติกสำหรับผู้ชายอ่าน ไม่ใช่ผู้หญิงอ่าน

                    เล่าถึงความรายละเอียดไลท์โนเวลสายมืดมามากแล้ว ว่าเป็นยังไง (ส่วนสำนวนอะไรนั้นผมไม่สามารถคัดลอกมาได้ คงต้องหาหน้าตัวอย่างตามเว็บมาอ่านเอง) คราวนี้มาพูดถึงความรู้สึกในการสรุปหลังอ่านนิยายทั้งสองเรื่องว่าสนุกหรือไม่

                    สำหรับเรื่อง อดัมแห่งสนธยา Shishunki na Adam ตามความรู้สึกแล้วอดัมอาจไม่ใช้นิยายสายมืดที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่แล้วไลท์โนเวลาสายมืดนิยมแบบเล่มเดียวจบ, สองเล่มจบ, สามเล่มจบ มากกว่า

                    ตามความรู้สึกแล้วฉากอย่างว่าผมไม่เข้าถึงสักเท่าไหร่ บางทีประสบการณ์ผมยังน้อยมั้ง หรือผมไม่ค่อยอ่านอีโรติก ภาษายากๆ เทคนิคการเล้าโลม ฯลฯ สักเท่าไหร่  ผมเชื่อว่าหลายคนอ่านฉากเอากันในเรื่องคงหงุดหงิดพิลึก เพราะพวกผู้ชายเขาไม่อ่านอีโรติค ภาษายากหรอกๆ  แบบนี้ไปเปิดโดจินมืดมาดูจะง่ายกว่าไหม อันนี้ก็แล้วแต่คนนะครับ ประกอบกับการดำเนินเรื่องออกไปทางสูตรสำเร็จ (มากๆ) อาจทำให้หลายคนเบื่อเสียก่อน (แถมเล่มหนึ่งการดำเนินเรื่องเหมือนไม่เดินเลย เล่มสองออกมานิดๆ หน่อย) ซึ่งก็ขอบอกว่าไลท์โนเวลสายมืดเขาไม่สนการดำเนินเรื่องเหมือนอดัมหรอก

                    อย่างไรก็ตาม ก็ถือยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อย่างคือ ตัวละครในเรื่องน่ารัก น่าเอา ถ้าไม่มีมากิเนะนี้ผมคงเลิกอ่านไปแล้ว พระเอกบรรยายถึงมากิเนะว่าเป็นผู้หญิงที่ชอบมานาน ในที่สุดเขาก็ได้เธอมาครอบครอง ได้จูบหญิงที่ทุกคนหลงใหล เขาได้กับเธอ เขารักเธอ พูดตามตรงๆ ว่าฉากนี้ผมชอบเป็นพิเศษนะครับ (พูดง่ายๆ ผมอ่านฉากเอามากินะหลายรอบนะ ยิ่งเล่มสองเอาในชุดว่ายน้ำนี้สุดยอดเลยพับผ่า) ส่วนใครที่แหยงสายดุ้น สายเทนตาเคิลก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งด้วย

                    อีกอย่างนิยายนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การอ่านนิยายแนวนี้ต้องเลเวลสูงๆ คุ้นเคยกับโลกมืดพอสมควร หากคุณไม่คุ้นก็ไม่เข้าถึงนิยายเรื่องนี้หรอก

                    ก็ขอชมสำนักพิมพ์นี้ที่กล้าได้กล้าเสีย กล้าเดิมพัน ในสิ่งที่แตกต่างครับ แม้อดัมอาจไม่ใช่ที่สุดของไลท์โนเวลสายมืดในสายตาของผม แต่ทำให้หลายคนหันมาสนใจ และทำให้สำนักพิมพ์นี้กลายเป็นที่รู้จักใครหลายคนในที่สุด

                    แน่นอนว่าอนาคตผมก็อยากให้สำนักพิมพ์เอาแนวไลท์โนเวลสายมืดเข้าไทยอีก ไม่ต้องเอาแนวแรงๆ มาก (พวกเทนตาเคิล, ข่มขืน, ลงแขก) ก็ได้ครับ เอาแค่เบาๆ ฮาเร็มโครตๆ อิจฉาพระเอกก็ได้

     

     

     

     

    ปกใน No Sex, No Life

     

    ทางด้าน No Sex, No Life ถ้าตอบตามความรู้สึกของผมคือ เรื่องนี้ดีกว่าอดัมครับ  ในขณะที่อดัม แบ่งเนื้อหาในมีส่วนแอ็คชั่นต่อสู้แฟนตาซีทำให้ขาดในหลายๆ ส่วน แต่โนเซ็กต์ดำเนินเรื่องตามสูตรของสายมืดแบบไม่แฟนตาซีมากกว่า จนไม่น่าเชื่อว่านี้คือนิยายคนไทยแต่ง

    คือว่าไงดีละ..... เพราะหากพูดถึงมุมมองฮาเร็มของคนไทยมีแต่คนเกลียด แล้วพอมาเขียนนิยายแนวฮาเร็มมักทำได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไม่เข้าใจว่าฮาเร็มมันสนุกตรงไหน เอาแต่บ้าพลัง การยัดเรื่องวินๆ เรื่องไทยๆ หรือเรื่องไม่สมเหตุสมผล กลายเป็นเรื่องเสียวเกรดต่ำไปซะงั้น

    แต่ปรากฏว่าหลังได้อ่านผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ โอเคแม้จะมีอะไรบางอย่างบกพร่องบ้าง (ผมฮ่าคำผิด อิตาลี่ นะเอ่อ) แต่โดยภาพรวมแล้ว มันคิดว่านี้คือไลท์โนเวลสายมืดญี่ปุ่นแท้จริง 

    แม้ผมไม่รู้จักคนแต่งมากนัก แต่ดูเนื้อหาแล้วพบว่าคนเขียนทำการบ้านมาดี และคงใช้เวลากลั่นกรองเขียนมาอย่างยาวนานพอสมควร จนสามารถเขียนออกมาได้ขนาดนี้  (หรือทำเสร็จในไม่กี่เดือนนี้ผมยกย่องเป็นเทพ) 

    นอกจากนี้คาดว่าคนแต่งตอบโจทย์ฮาเร็มได้ดีมาก  หากใจไม่รักจริง คงสามารถแต่งแน่ รู้ว่าจุดสุดยอดของฮาเร็ม ก็คือสร้างให้พระเอกน่าอิจฉา  การสร้างคาแร็คเตอร์พวกสาวๆ สวยสุดยอด น่าอิจฉายังไงนั้น อย่างตัวละครอเลสเซียนอกจากสวยแล้วเธอยังฉลาดสุดๆ ชนิดว่าเป็นความฝันของผู้ชายก็ว่าได้ หรือตัวละครอย่างเมอริกก็เป็นคนอเมริกา หุ่นดี ฉลาด รวย ซึ่งสาวแบบนี้หนุ่มไหนมาเห็นก็จ้องตาเป็นมันครับ  พูดง่ายๆ คนไทยชอบสาวนอกครับ  (ขอบคุณภาพประกอบที่น่าอวย)  รวมไปถึงทำลายตรรกะ  เรื่องผู้หญิงขี้หึง, รักเดียวใจเดียว ได้อย่างแยบยลด้วย

    ที่อยากชมคือพระเอกเรื่องนี้ เข้าถึงพระเอกฮาเร็มจริงๆ คือไม่ได้หล่อ หรือเก่ง และไม่ได้เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เลวร้าย ที่ทำแล้วไม่รับผิดชอบ เมื่อทำสิ่งใดก็นอมรับการกระทำของตนเอง  แบบนี้ไม่ใช่ชู้หรอกครับ  

    ส่วนฉากอย่างว่ามีการดัดแปลงอีโรติคแบบไทยๆ มีเล็กน้อย (หมายถึงสำนวนเหมือนนิยายไทยๆ)  อารมณ์รักๆ ยังดุเดือด ร้อนแรง ถึงพริกถึงขิง แต่ไม่ถึงขั้นขัดตา เพราะการดำเนินเรื่อง ไปจนถึงภาพประกอบก็ช่วยให้หลายคนไม่ได้คิดเช่นนั้น มองว่ายังอยู่พื้นฐานของการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่บ้าง

    อย่างไรก็ตาม ในเล่มยังมีฉากเอากันนอกสถานที่ Out door  หลายคนอาจไม่คุ้นเคย  บางอย่างผมแอบตะลึงทำกันบนรถไฟฟ้าต่อหน้าธารกำนัล อันนี้โหดเกินไปหรือเปล่าหว่า  

    (นอกเรื่องหน่อย การเอากันนอกสถานที่ Out door เป็นการสร้างความตื่นเต้นของคู่รักมากขึ้นครับ มันมีผลวิจัยกันมาแล้ว ขอให้ไม่อุจาดต่อสังคม ต่อหน้าประชาชีก็ทำๆ ไปแถอะ)

    และ ในหนังสือยังมีตอนพิเศษซึ่งเป็นแนวสายเทนตาเคิลด้วย แต่เป็นระดับที่รับได้ เพราะไม่มีการข่มขืน หรือยำยีผู้หญิง ซึ่งหากปรับอารมณ์ได้ (จากเมืองไทย มาแฟนตาซีซะงั้น) เนื้อเรื่องนี้ฟินกว่าเรื่องหลักอีก (ฮ่า) แม้พระเอกไม่หล่อ หน้าตาน่าเกลียด แถมเป็นเทนตาเคิลอีก แต่เขารักผู้หญิงจริงๆ เอาใจผู้หญิงจริง แบบนี้แหละเขาเรียกปักธง

                    สิ่งที่น่าเสียดายคือ ตอนนี้ยังไม่มีฉากปักธง (เอาเถอะไลท์โนเวลหลายเรื่องก็ไม่ได้เน้น) แม้จะมีฉากที่อย่างว่ามากมายเพียงใด แต่ความรู้สึกของผู้อ่านยังไม่ฟิน เพราะความสัมพันธ์พระเอกกับสาวๆ ในเรื่องยังเป็นเพียงแค่เซ็กต์เฟรนต์มากกว่าจะเป็นรักแท้  แม้พระเอกบอกแล้วว่าจะรับผิดชอบ แต่พวกสาวๆ จะว่ายังไงนั้นก็ไม่รู้ ซึ่งหวังว่าอนาคตข้างหน้าจะมีฉากปักธงฟิน ๆ นะครับ ซึ่งผมว่าคนแต่งเขาคงเตรียมไว้แล้วแน่นอน  

                    นอกจากนี้เล่มหนึ่งนอกจากบทร่วมรักแล้ว บทของตัวละครมันนิดเดียวครับ อยากให้มีเยอะๆ กว่านี้ ฉากที่ไปเดทกับสองสาวผมชอบนะ

                    แน่นอนเล่มว่าผมซื้อต่อเล่ม 2 แน่นอน แม้ราคาจะเท่าไหร่ก็ตาม

     

                    สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมเขียนมีวัตถุประสงค์ให้หลายคนเข้าใจนิยายสายมืดมากขึ้น มันไม่ใช่หนังสือสำหรับเด็ก หรือนิยายคิโม่ยโอตาคุอวยตัวละครว่าใครนางเอก เพราะนิยายอีโรติค (แม้ภาพมันจะไม่ค่อยอีโรติคก็เถอะ) สำหรับผู้ชายอย่างเราๆ ซึ่งปัจจุบันแนวฮาเร็มเริ่มเป็นที่นิยมเท่านั้นเอง

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×