ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #266 : (ดักแก่!!) ก็อตซิลล่าราชันย์แห่งสัตว์ประหลาดทั้งปวง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.37K
      5
      27 ม.ค. 57

                    ความจริงบทความนี้ผมจะรีวิวหนังสือที่ผมสั่งให้หนอนซื้อจากญี่ปุ่นน่ะครับ แต่พอดีมันมีธุระเลยไม่ได้ส่ง แถมมันก็ยังไม่กลับมาอีก (คงไม่ใช่ไปแล้วไปลับน่ะ) ผมต้องหาเรื่องใหม่มาเขียนแทน.....

                    วันนี้เราจะมาดูตำนานบันเทิงญี่ปุ่นอีกบทหนึ่งนั้นคือ “ก็อตซิลล่า” (Godzilla) เอาล่ะ ในที่นี้มีใครรู้จักก็อตซิลล่าบ้างเอ่ย?

                    ก็อตซิลล่านั้นถือได้ว่าเป็นคาแร็คเตอร์คลาสสิกของญี่ปุ่นไปแล้ว โดยก็อตซิล่าเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก  ที่มีชื่อเสียงยิ่งกว่าเจ้าสัตว์ประหลาดเต่ากาเมล่า (ถ้าว่างผมก็จะพูดถึงกาเมล่าด้วยน่ะครับ)

                    ก็อตซิลล่าของบริษัทโตโฮนั้นมีมากกว่า 30  เรื่อง (ดูจากวิกิพีเดีย นับฮอลลีวู้ดด้วย) ซึ่งมีหลายเรื่องติดอันดับภาพยนตร์คลาสสิกของญี่ปุ่นไปแล้ว โดยเฉพาะภาพยนตร์ก็อตซิล่าเวอร์ชั่นแรก ของปี 1954 ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว ชนิดที่ว่ามาดูสมัยนี้ไม่เชื่อเลยว่าเป็นภาพยนตร์สมัยเก่า (ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยดูสมัยยังเด็ก แต่จำไม่ได้ว่าดูในรูปแบบไหน ระหว่าง ช่อง 7 เอามาฉาย หรือว่าดูรูปแบบวีดีโอกันแน่)

     


    บางส่วนภาพยนตร์ก็อตซิลล่าเวอร์ชั่นแรก
    http://www.youtube.com/watch?v=eSk-i1UFJWA

     

                    ก็อตซิลล่านั้นมีแรงบันดาลจากตำนานท้องถิ่นของเกาะโอโดทางตะวันออกของญี่ปุ่น โดยเป็นตำนานของชาวประมง โดยเล่ากันว่า มีสัตว์ยักษ์ที่น่าสะพรึงนาม "โกจิร่า" อาศัยอยู่นอกชายฝั่ง และในปี 1954 เมื่อเรือลำหนึ่งเกิดหายสาบสูญไปอย่างลึกลับในกองไฟมหึมา ทำให้ชาวเกาะมั่นใจเลยว่านี้คือฝีมือของเจ้าโกจิร่า

                    เจ้าโกจิรานั้นเป็นชื่อของคำสองคำผสม  คือ คุจิระ แปลว่าปลาวาฬ กับ กอริลล่า รวมกันก็หมายถึง ลิงยักษ์ที่เหมือนปลาวาฬ

                    ดังนั้นตอนแรกเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้เรียกก็อตซิล่าอย่างที่เราเรียกติดปาก หากแต่เป็นโกจิร่า ภาพยนตร์และการออกเสียงญี่ปุ่นเป็นโกจิล่าด้วย จนกระทั่งถูกขายลิขสิทธิให้แก่บริษัท โจเซฟ อี. ลี วายน์ เอ็มบาสซี่ พิกเจอร์เพื่อไปฉายในอเมริกา โกจิร่าก็ได้เปลี่ยนมาเป็นโกจิราเป็น ก็อตซิล่า นับจากนั้น (คำแรกออกเสียงเหมือนคำว่าพระเจ้า ส่วนที่เหลือเหมือนกอริลลา)

                    เจ้าก็อตซิล่าถือกำเนิดขึ้น ณ โรงถ่ายของบริษัท โตโฮ แห่งญี่ปุ่น ในค.ศ.1954  ในเรื่อง Godzilla King of the Monsters แนวนิยายวิทยาศาสตร์ขาวดำ จากฝีมือกำกับโดย อิชิโร ฮอนด้าซึ่งเป็นสหายของยอดผู้กำกับหนัง อากิรา กุโรซาวาด้วย

                    ภาพยนตร์ก็อตซิล่า 1954 ได้กล่าวถึง เจ้าโกจิราโนเสาร์ประเภทกินเนื้อ (ก็อตซิล่าเซารัส) เนื่องจากผลระเบิดปรมาณู (ชาวญี่ปุ่นยังมีความฝังใจจากระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิในเวลานั้นอยู่) ระเบิดได้ทำลายแหล่งที่อยู่และแหล่งอาหารและทำให้มันกลายพันธุ์ เป็นสัตว์ที่มีความสูงถึง 30 เมตร และออกอาละวาดเพื่อหาที่อยู่อาศัยและอาหารการกิน

                    แม้ว่ารายละเอียดของก็อตซิล่าจะแตกต่างกันในหลายปีที่ผ่านมา แต่ลักษณะจุดเด่นของก็อตซิล่ายังคงเหมือนเดิม โดยการออกแบบก็อตซิล่านั้นมีแรงบันดาลใจจากสัตว์ประหลาด “รีโดซอร์รัส -Rhedosaurus” จากภาพยนตร์ The Beast from 20,000 Fathoms (1953) มาดัดแปลงจนได้ก็อตซิล่าฉบับของตนเอง (ซึ่งภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องเหมือนกันคือการปลุกกระแสให้ผู้คนตื่นตัวกับผลกระทบระเบิดนิวเคลียร์อีกด้วย)

     

     

    ก็อตซิลล่า 2014

     

                    ก็อตซิล่าต้นฉบับนั้น กำหนดว่าสูง 50 เมตร มีลักษณะคล้ายกิ่งก่า มีร่างกายปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ มีหนามแหลม 3 แถวที่หลัง สามารถพ่นไฟออกมาจากปากได้ โดยเวลาที่พ่นไฟนั้นหนามที่หลังจะเปล่งแสงสีเพลิงออกมา (ในยุคแรกเริ่มจะมี ลักษณะดูอ้วนๆและอุ้ยอ้าย แต่ต่อมาในปี 2000 ได้มีการออกแบบใหม่ให้ตัวก็อตซิลลาดูผอมลงและน่าเกรงขาม รวมไปถึงส่วนของหน้าที่ยาวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ก็อตซิลลาดูน่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขามเหมือนในปัจจุบัน)

    ต่อมาก็อตซิล่าได้บุกไปโตเกียว พังโตเกียวยับ โรงพยาบาลล้นเพราะเต็มไปด้วยผู้ประสบภัย และหลายคนเกิดพิษรังสีปนเปื้อน และนั้นเองทำให้หลายฝ่ายหาวิธีกำจัดก็อตซิลล่า ก่อนที่มันจะทำความเสียหายมากกว่านี้ ผลสุดท้ายก็อตซิล่าก็ถูกฆ่าตายโดยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า"เครื่องทำลายออกซิเจน"ที่ประดิษฐ์โดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อเซริซาวะ และภายหลังเขาก็ฆ่าตัวตายเพราะไม่อยากให้มีใครเอาความรู้ของเขามาสร้างเครื่องทำลายมนุษย์โลก และถึงแม้ว่าก็อตซิลล่าจะตายไปแล้วก็ตาม แต่ในอนาคตก็อตซิล่าตัวใหม่ก็ยังคงปรากฏตัวขึ้น หากมนุษย์เรายังมีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อยู่ (พูดง่ายๆ ต้องการสื่อว่าการฆ่าก็อตซิล่าเป็นเพียงแค่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น)

                    สมัยก่อนนั้นการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องยากลำบากมาก โดยเฉพาะภาพยนตร์สัตว์ประหลาดยักษ์อย่างก็อตซิลล่า ที่สมัยก่อนนั้นไม่มีการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์ตกแต่งกราฟฟิกเหมือนปัจจุบัน ทั้งหมดเป็นการจำลองเมืองขึ้นมาจริง โดยเฉพาะเมืองขนาดเล็ก ต้องใช้เทคนิคการประดิษฐ์บ้านเรือนย่อส่วนขนาดเท่าของจริง เครื่องบิน และรถถังต้องจำลอง เก็บรายละเอียดซึ่งใช้เวลานานมาก การใช้เทคนิคพิเศษก็พยายามงัดมาใช้เพื่อความสมจริงที่สุดในการสร้างสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทำลายล้างมนุษย์

                    ส่วนคนที่สวมบทบาทเป็นก็อตซิลล่า ได้แก่ ฮารุโอะ นาคาจิมา เขาเป็นสตั๊นแมน ผู้เอาแผ่นยางหนักตั้ง 200 ปอนด์มาคลุมร่างเป็นสัตว์ประหลาด และแสดงหลายตอนด้วยกัน และเกือบเป็นลมตายหลายครั้งเพราะหนังที่เขามาสวมนั้นทั้งร้อนและอับจนหายใจไม่ออก เรียกได้ว่าสมบทบาทจริง ๆ เพราะนับตั้งแต่นายคนนี้อำลาวงการ เจ้าก็อตซิลล่าที่คนอื่นสวมบทบาท ต่างเล่นไม่เป็นสับปะรดเสียเลย แม้จะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยก็ตาม

                    ในธีมภาพยนตร์ก็อตซิล่านั้น ตัวของก็อตซิล่าอุปมาว่ามันก็คืออาวุธนิวเคลียร์ ประหลาดร้ายที่ถือกำเนิดจากน้ำมือมนุษย์ แล้วได้กลับมาทำลายมนุษยชาติ ซึ่งมันมีความแข็งแกร่งและพลังทำลายล้างสูง ไม่ว่าที่ไหนที่มันเดินผ่านไปย่อมมีแต่พังพินาศ ผู้คนต่างหวาดกลัวเช่นเดียวกับเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูฮิโรชิมาและนางาซากิ  ในขณะเดียวกันเพราะมนุษย์ได้สร้างระเบิดนี้เองทำให้ธรรมชาติแก้แค้นมนุษย์ชาติด้วย

                    ภาพยนตร์ก็อตซิลล่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่อง เทคนิคพิเศษ ต่อให้เป็นหนังสัตว์ประหลาดเนื้อหาเชยๆ แต่หากแบ่งสรรเนื้อหาระหว่างดราม่า ความสะพรึง และความเขย่าขวัญและก็เป็นอันลงตัว นอกจากนี้ยังทำให้เกิดแนวภาพยนตร์ไคจู (สัตว์ประหลาดยักษ์) กลายเป็นที่นิยมของญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

                    ปัจจุบันก็อตซิลล่ายังไม่หายไปไหน อยู่ในรูปวีซีดีที่ขายในเซเว่น แถมปัจจุบันฮอลลีวูดได้ซื้อลิขสิทธิก็อตซิล่ามาทำเป็นหนังของตนเองเรียบร้อย ในปี 1998 ในชื่อไทย “ก็อตซิล่า อสูรพันธุ์นิวเคลียร์ล้างโลก” แถมมีอนิเมชั่นอีกต่างหาก แต่พอดีหลายคนรับไม่ได้กับก็อตซิล่าที่ภาพลักษณ์ผอมโซอย่างกับอดอาหาร ไม่มีเหลือเค้าโครงกับต้นฉบับทำให้ไม่ได้รับความนิยมนัก (แต่ภาพยนตร์ถือว่าประสบสำเร็จ ทำเงินได้มากพอสมควร) จนกระทั่งปี 2014 ก็ทำก็อตซิลล่าออลีวูดที่มีลักษณะคล้ายกับของดั่งเดิมอีกครั้ง

     

     

    Godzilla vs. Biollante

     

                    ยอมรับเลยว่าผมคนหนึ่งที่ชอบก็อตซิล่ามากตั้งแต่สมัยเด็ก ผมจำได้แม่นเลยว่าภาพยนตร์ก็อตซิลล่าที่ผมดูคือเรื่อง Godzilla vs. Biollante ซึ่งปกติแล้วพวกเด็กเล็กชื่นชอบสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว บวกกับการต่อสู้ที่แสนเร้าใจ (ส่วนเนื้อเรื่องนั้นไม่ค่อยสนใจนัก) การต่อสู้ของสัตว์ประหลาดที่แสนดุเดือด เทคนิคพิเศษเสมือนจริง รวมไปถึงลักษณะที่น่าเกรงขามของก็อตซิลล่า เสียงร้องที่น่ากลัว การพ่นไฟทำลายล้าง สิ่งเหล่านี้ไม่แปลกที่จะทำให้เด็กอย่างผมชื่นชอบมากในเวลานั้น และเชื่อเลยว่ามีเด็กมากมายที่เป็นเหมือนผมที่ชื่นชอบสัตว์ประหลาดที่น่าเกรงขามตัวนี้ไม่มากก็ไม่น้อย

                    ผมหลงใหลสัตว์ประหลาด ผมชอบสัตว์ประหลาดในเรื่องอุลตร้าแมน มากกว่าตัวอุลตร้าแมนเสียอีกผมชอบออกแบบสัตว์ประหลาด ชอบวาดรูปสัตว์ประหลาด ชอบปั้นดินน้ำมันสัตว์ประหลาด หลงใหลสัตว์ประหลาดมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบสัตว์ประหลาดอยู่ ส่วนภาพยนตร์ก็อตซิลล่า ผมพยายามติดตามดูภาพยนตร์ก็อตซิลล่าให้ครบมากที่สุดที่จะทำได้ ทั้งๆ ที่ช่วงเวลานั้นการหาวิดีโอมาดูสักเรื่อง มันยากมากสำหรับเด็กอย่างผม

                    ด้วยความภาคภูมิใจ ผมดูภาพยนตร์ที่ดีของก็อตซิล่าจนเกือบครบหมด จากภาพยนตร์ก็อตซิล่ามากกว่า 30  เรื่อง ผมดูภาพยนตร์ Mothra Vs Godzilla (1962), Godzilla Vs King Ghidorah (1991), Godzilla vs. Biollante แต่ภาคที่ผมเจ็บใจที่สุดคือ Godzilla Vs Destoroyah หรือ ศึกอวสานก็อตซิลล่า ซึ่งถือว่าเป็นภาคก็อตซิล่าที่มีชื่อเสียงสำหรับคนไทยก็ว่าได้ เพราะว่าในตอนนั้นมีการโฆษณาว่าเป็นภาคสุดท้ายของก็อตซิลล่า และก็อตซิลล่าตาย (ความจริงเจ้าก็อตซิล่ามันมีหลายตัว และที่ผ่านมาก็อตซิลล่าก็ตายนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว) แต่นั้นก็ทำให้ลูกเล็กเด็กแดงมาดูกันมาก แต่อนิจจาผมดันดูไม่จบ เพราะผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้แบบกลางแปลง และเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ระหว่างที่ภาพยนตร์ฉายฝนดันตกทำให้เลิกล้มที่จะดูก็อตซิลล่าไปโดยสิ้นเชิว และนั้นถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมดูก็อตซิลล่า และหลังจากนั้นไม่ดูก็อตซิลล่าภาคอื่นๆ อีกเลย เพราะฝังใจ (แต่ก็อตซิลล่าภาค 2014 ผมว่าจะดูน่ะ)

    เอาล่ะพูดเรื่องภาพยนตร์เรื่องก็อตซิลล่าไปพอสมควรแล้ว (แต่ยังไม่จบ) แต่เนื่องด้วยบทความนี้ไม่ใช่บทความรำลึกภาพยนตร์ แต่เป็นดูการ์ตูนอย่างแมวๆ ดังนั้นต่อไปนี้จะพูดถึงมังงะของก็อตซิลล่ากันบ้าง

                    ไม่ทราบว่าในที่นี้ ใครได้ดูก็อตซิล่าฉบับมังงะกันบ้าง ขอบอกว่ายากมากที่เด็กสมัยนี้จะได้เห็นมังงะก็อตซิลล่า เพราะว่าสมัยก่อนการ์ตูนก็อตซิลล่านั้นไม่ได้อยู่ในรูปแบบลิขสิทธิ์ หากแต่รูปของไพเรท ไม่มีลิขสิทธิ์ บางเล่นก็หนามาก

                    ส่วนตัวผมแล้ว ผมได้ดูก็อตซิล่าแบบมังงะเพียง 3 เรื่องเท่านั้น เรื่องแรกคือ Godzilla vs. Biollante, Mothra Vs Godzilla ส่วนอีกเรื่องผมไม่ทราบว่าก็อตซิลล่าภาคอะไร เพราะเป็นก็อตซิลล่าเจาะกลุ่มสำหรับเด็กประถมอ่าน (ซึ่งจะพูดถึงบรรทัดถัดไป)

     

    Mothra VS. Godzilla ที่ออกไปทางแฟนตาซีขึ้น

     

                    ขอย้อนกลับไปเรื่องภาพยนตร์ หลังจากก็อตซิล่าเรื่องแรกฉายไป ได้รับการตอบรับดีอย่างล้นหลาม ในความสมจริง เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (ก็อตซิลล่าได้รับรางวัลพิเศษยอดเยี่ยมหลายครั้ง) การสร้างสัตว์ประหลาดสูงหลายเมตรทำลายโตเกียวมันเป็นอะไรตื่นตาตื่นใจมาก ราวกับสัตว์ประหลาดนี้มีตัวตนอยู่จริง จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ทำให้มีภาพยนตร์ก็อตซิลล่าหลายภาคตามมา และนั้นเองทำให้ก็อตซิลล่ากลายเป็นเฟรนไซต์ที่ดังแห่งยุคที่สุด

                    ในช่วงแรกพล็อตก็อตซิลล่ายังเน้นพล็อตพวกอสูรกายล้างโลก ตามแบบฉบับภาพยนตร์ไคจูอยู่ หลังจากก็อตซิลล่า 1954 ออกฉาย (ซึ่งเป็นยุคโชวะ) ก็มีก็อตซิลล่าภาคใหม่ไม่ว่าจะเป็น Godzilla Raids Again (1955), King Kong VS. Godzilla (1964), Mothra VS. Godzilla (1964) ก็จะพบว่าก็อตซิล่าอสูรกายกลายพันธุ์เริ่มมีคู่ต่อสู้ต่อกรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคิงคอง, ม็อธร่า ซึ่งเนื้อหาเริ่มลดความเป็นผู้ใหญ่ลง  ลดความโหดร้ายลง ลดเรื่องยากๆ ลง  เริ่มเจาะกลุ่มเด็กมากขึ้น  และเริ่มเน้นตลกฮ่ามากขึ้น (บางภาคเน้นความเป็นผู้ใหญ่ บางภาคก็เน้นแบบเด็กๆ) เพราะว่าเด็กชอบก็อตซิล่ากันมาก

                    จุดเปลี่ยนสำคัญของก็อตซิล่าน่าจะเป็น  Ghidorah The Three-Headed Monster (1964) ซึ่งเป็นซีรีย์ที่ 5 ของก็อตซิลล่า ภาคนี้ก็อตซิล่าต้องต่อสู้กับกิโดร่ามังกรสามหัว ที่ต่อมาก็กลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลของก็อตซิล่าในที่สุด นอกจากนี้ภาคนี้แปลกตรงที่เป็นครั้งแรกที่ก็อตซิลล่าเป็นวีรุบุรุษ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นผู้ร้าย ทำลายล้างมาตลอด และเนื้อหาขายกลุ่มผู้ดูที่เป็นเด็กมากขึ้น จนในที่สุดก็อตซิลล่าก็ได้กลายเป็นฮีโร่ของเด็กชายในยุคนั้นในที่สุด

                    หลังจากนั้นภาพยนตร์ก็อตซิลล่าก็เริ่มมีการดัดแปลงเนื้อหา เรื่อยๆ บางเรื่องก็ดี บางเรื่องก็แย่ บางเรื่องขายกลุ่มผู้ดูที่เป็นผู้ใหญ่ บางเรื่องขายกลุ่มเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเริ่มเยอะกว่า กล่าวคือเริ่มมีตัวเอกเป็นเด็กประถมมากขึ้น เนื้อหาเน้นการต่อสู้มากขึ้น (บางเรื่องอย่างกับสงครามสัตว์ประหลาด ปรากฏตัวเพียบ) และเริ่มมีการหลุดโลกมากขึ้นด้วย จนแทบไม่เหลือเค้าโครงของสัตว์ประหลาดไคจูภาคแรกๆ

    นอกจากนี้มีการเพิ่มแฟนตาซี เวทมนตร์ ไปจนถึงสิ่งที่ไม่เข้ากัน เพื่อขายคนดูที่เป็นเด็กมากขึ้นนั้นเอง อย่างเช่นภาค และ Invasion of Astro-Monster (1956) ก็อตซิล่าต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวที่มีความคิดล้างโลก, พวกศัตรูก็เริ่มออกแนวเวอร์แปลกๆ มากขึ้น เช่น มีหุ่นเมก้าก็อตซิล่า เป็นต้น, บางเรื่องก็เน้นฮ่าแบบแปลกๆ เช่นก็อตซิลล่าฟังภาษาคนรู้เรื่อง หรือก็อตซิล่าพูดภาษาคน ผมจำได้แม่นเลยภาพยนตร์ Godzilla VS. Mothra (1993) ที่ผมเช่ามามีการใส่เสียงก็อตซิลล่าลงไปด้วย (ซึ่งไม่รู้ต้นฉบับมีเสียงพากย์ก็อตซิล่าหรือเปล่า)

                    จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ก็อตซิลล่าที่เป็นมังงะ ส่วนมากเนื้อหาเน้นกลุ่มเด็กประถมมากกว่าออกแนวผู้ใหญ่

                    เรียงลำดับภาพยนตร์ก็อตซิลล่าแบบคร่าวๆ http://sirinapapoonsri.blogspot.com/2013/03/movie-godzilla.html

     

     

    Manga: Godzilla vs. Mechagodzilla

     

     

    ก็อตซิล่านั้นไม่ได้เจาะจงแค่ตัวเดียว เพราะในซีรีย์ได้กล่าวไว้แล้วก็อตซิล่านั้นมีหลายตัว ซึ่งที่ผ่านมาภาพลักษณ์ก็อตซิล่าเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา บางตัวดูหน้าตลก บางตัวก็ดูดุดัน บางตัวก็น่ากลัว มีทั้งตัวผู้และตัวเมีย แต่ละตัวก็มาแบบเป็นมิตรกับมนุษย์ ในขณะที่บางตัวเป็นภัยคุกคามกับมนุษย์

                    มังงะก็อตซิลล่านั้นมียาวนาน เพราะว่ามันเริ่มตั้งแต่ปี 1954 หลังก็อตซิลล่าเรื่องแรกออกฉายนั้นเอง การ์ตูนในช่วงแรกจะเป็นมังงะแบบการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีลายเส้นขาวดำ ซึ่งส่วนใหญ่เนื้อหามังงะดัดแปลงจากภาพยนตร์ เนื้อหาไม่ได้ตรงกับภาพยนตร์ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นการดัดแปลงให้เหมาะสมกับมังงะมากกว่า ขณะที่บางเรื่องแตกต่างไปจากภาพยนตร์โดยสิ้นเชิง (มีแต่ชื่อเรื่องที่เหมือนเท่านั้น) ตั้งแต่ก็อตซิลล่า ไปจนถึง ก็อตซิลล่า 2000 (ยกเว้น ภาพยนตร์ก็อตซิลล่าปะทะคิงคอง, Godzilla vs. Megaguirus, Godzilla: Final Wars ไม่มีมังงะออกมา)  ซึ่งปกติแล้วนิตยสารเหล่านี้เป็นหน้าเหลือง ทั้งรายเดือนและสัปดาห์ และบางเรื่องก็ไปจำหน่ายหน้าโรงภาพยนตร์ในขณะที่ฉายภาพยนตร์ก็อตซิลล่าเวลานั้น

                    ส่วนใหญ่ก็อตซิล่ามังงะที่ผ่านมา ไม่ได้แสดงถึงความโหดร้ายของก็อตซิล่า ภาพลักษณ์ความดุดันของก็อตซิล่าในภาพยนตร์ถูกบั่นทอนเรื่อยมา ความสมจริงสมจัง ความมีเหตุผลลดน้อยลง ไม่เว้นแม้แต่ในมังงะ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่มักเจาะกลุ่มเด็กประถมผู้ชายมากกว่า  โดยมังงะมักตีพิมพ์ในนิตยสารเด็ก เช่น Bokura , Bouken Oh และ Shonen

                    ยกตัวอย่างมังงะก็อตซิล่า Godzilla vs. Space Godzilla (ซึ่งสามารถหาได้จากแปลไทยตามเว็บ) ก็จะเห็นว่าลายเส้นก็อตซิลล่าไม่ได้ออกในโทนมืดมนหรือสมจริงสมจังมากนัก  (ก็อตซิลล่ายุคแรกออกไปโทนน่ากลัว หวาดผวา หายนะ) แต่เป็นภาพที่ใหญ่ๆ (ช่องตัวละครหน้าเต็ม ไม่ต่อเนื่อง) เน้นภาพการต่อสู้ ภาพของเครื่องบินรบ หุ่นยนตร์ยักษ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ขายกลุ่มเด็กเป็นหลัก

                    พูดง่ายๆ ภาพของสัตว์ประหลาดทำลายล้างได้เปลี่ยนไป เด็กมองก็อตซิล่าเหมือนอุลตร้าแมน ก็อตซิลล่าเองก็เป็นเพื่อนกับเด็กมากขึ้น อย่างการ์ตูนก็อตซิลล่าเรื่องหนึ่ง ของไพเรทเรื่องหนึ่ง ที่ตัวเอกเป็นเด็กชายและเด็กหญิง (ไม่รู้ทั้งสองเป็นเพื่อน หรือพี่น้องกัน) ที่มักไปเข้าอยู่ในเหตุการณ์สัตว์ประหลาดบุกเมืองทุกครั้ง แล้วเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์บ่งการโดยนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่คิดจะทำลายโลก (พวกสัตว์ประหลาดก็มาจากซีรีย์ก็อตซิลล่า เช่น กุ้งยักษ์, มังกรสามหัว, เมก้าก็อตซิล่า เป็นต้น ) และขณะที่สถานการณ์คับขันนี้เองก็อตซิลล่าก็ปรากฏตัวออกมา และกำจัดสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างง่ายดาย เป็นอันว่าก็อตซิลล่าสามารถพิทักษ์โลกได้อีกครั้งหนึ่ง

                    ก็อตซิลล่าช่วงหลังเน้นเรื่อง CG มากขึ้น พร้อมกับทุนต่ำ  ประกอบกับเนื้อหาออกไปทาง “หมดมุก” ทำให้การต่อสู้ของก็อตซิลล่าไม่สมจริงเหมือนในอดีต และนั้นเองทำให้ภาพยนตร์ก็อตซิลล่าไม่มีภาคต่อยาวนานหลายปี

     

     

    การ์ตูนสั้น Bambi Me'ets Godzilla ที่มีความยาวไม่ถึงสองนาที ของมาร์ก นิวแลนด์ ที่ได้ถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในห้าสิบการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ (1994) โดยเนื้อหามีมีเพียงแค่เจ้ากวางน้อยแบมมี่ (จากเรื่อง bambi 1942 ) กำลังกินหญ้าอย่างสบายอารมณ์ และทันใดนั้นเองก็มีเท่าอันใหญ่ยักษ์ของก็อตซิลล่าโผล่มาเหยียบจนเจ้ากวางน้อยจนแบนตายคาทีและก็จบลงด้วยเพลง The Beatles ' "A Day in the Life" เป็นอันปิดท้าย

     

                    แม้ว่าภาพยนตร์ก็อตซิลล่าของญี่ปุ่นจะเสื่อมความนิยมไป ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อน แต่ตัวตนของก็อตซิล่าก็เป็นที่นิยมไปทั่วโลกไม่น้อย อีกทั้งหลายสื่อ ไม่ว่าจะเป็นมังงะ อนิเมะ วีดีโอเกม ก็มีก็อตซิล่าปรากฏตัวในฐานะตัวประกอบแม้เรื่องที่มันปรากฏไม่เกี่ยวข้องกับตัวมันก็ตาม (ในภาพลักษณ์ที่ดัดแปลงแล้ว)

    ไม่เพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่ก็อตซิลล่าโด่งดัง ที่ต่างประเทศอย่างฮอลลีวู้ด อเมริกาเอง ก็อตซิล่าก็ได้รับความนิยม ถึงขั้นมีชื่อก็อตซิล่าใน Hollywood Walk of Fame  เสมือนหนึ่งว่าก็อตซิล่าเป็นดารามิปาน และก็อตซิลล่าก็ปรากฏตัวในฐานะรับเชิญในสื่อบันเทิงอเมริกามากมาย โดยเฉพาะการ์ตูนคอมมิค ที่มองก็อตซิลล่าเป็นตัวแทนของหายนะของมนุษย์ ที่มันไปไหนก็มีแต่ความพินาศย่อยยับ ก็อตซิลล่าเคยต่อสู้กับฮีโร่ดังอย่างไอรอนแมนหรือพวกฮีโร่ของมาร์เวล  หรือแม้แต่ในยูธูปเองก็มียังมีการทำคลิปก็อตซิลล่าต่อสู้กับฮีโร่อย่าง มาริโอ้ (เกมนินเทนโด) แม้แต่ไทยเรายังเอาก็อตซิลล่ามาดัดแปลงเป็นตัวโฆษณาปั๊มน้ำมันจนโดนฟ้องร้องจากญี่ปุ่นมาแล้ว

     

     

    คอมมิคก็อตซิลล่า ของ IDM (สามารถหาดูได้ที่จีนแดง ภาพสวยมากๆ)

     

                    ในขณะที่มังงะก็อตซิลล่าญี่ปุ่นจะเน้นกลุ่มเด็กประถมที่ดูเป็นวีรบุรุษ และปัจจุบันเน้นจบในตอน  แต่ก็อตซิลล่าในคอมมิคอเมริกา (ที่ก็อตซิล่าเป็นตัวเอก) กลับกลายเป็นว่าก็อตซิลล่าดูเป็นต้นตำรับมากกว่าของญี่ปุ่นด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะการวาดที่มีรายละเอียดสูง และเป็นภาพสี ทำให้ก็อตซิลล่ามีความทรงพลัง มีความน่าเกรงขาม ดูแล้วเป็นภัยคุกคามมากกว่าจะสื่อเป็นวีรบุรุษแบบของญี่ปุ่น

                    ไม่ว่าก็อตซิลล่าจะมีเนื้อหาออกทะเล (ก็มันเป็นสัตว์ประหลาดสะเทือนน้ำสะเทือนบกนี้น่า) หรือทำลายความรู้สึกเดิมๆ ไปแล้วก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ยังคงมีคติสอนใจให้คนดูได้คิด เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่สามารถช่วยเหลือมนุษย์และทำลายมนุษย์ได้เช่นกัน หากเราใช้วิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือจ้องจะทำลายมนุษย์กันเอง สักวันหนึ่งวิทยาศาสตร์ก็ทำลายตัวคนใช้เอง

                    นอกจากนี้เรื่องก็อตซิลล่ายังสอดแทรกเรื่องของธรรมชาติ ที่มนุษย์มักไปทำลายธรรมชาติ หพยายามเอาชนะธรรมชาติ และควบคุมธรรมชาติ  มนุษย์คิดว่าตนสามารถชนะธรรมชาติได้ แต่กลายเป็นว่าธรรมชาติได้โต้กลับมนุษย์ด้วยความเพิ่มความร้ายแรงและความร้ายกาจมากขึ้น ก็อตซิลล่าก็คือตัวแทนของธรรมชาติที่กำลังโกรธแค้นของมนุษย์ ต่อให้ฆ่าก็อตซิลล่าได้ แต่นั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สักวันหนึ่งก็อตซิลล่าก็กลับมาพร้อมกับมีความพละกำลังเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าตอนนั้นมนุษย์จะมีความล้ำสมัยไปแล้วก็ตาม

                    ก็อตซิลล่าเป็นได้ทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมะ เป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรูของมนุษย์ ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์ทำอะไรเพื่อโลกบ้าง ถ้ามนุษย์ที่มีจิตใจดีงามทำเพื่อส่วนรวมอยากให้โลกเป็นอยู่ดีขึ้นก็อตซิลล่าก็พร้อมที่จะช่วยเหลือมนุษย์ (หรือก็คือธรรมชาติที่งดงามและอ่อนโยน) หากแต่หากมนุษย์จิตใจตกต่ำ ต้องการทำสงคราม ทำลายธรรมชาติ ก็อตซิลล่าก็จะปรากฏตัวเพื่อทำสงครามกับมนุษย์ เนกัน

                    แม้มนุษย์จะรู้ตัวเรื่องพวกนี้ดี แต่ก็ยังรังแกโลกอยู่ดี...

     

    Jirass

    http://www.youtube.com/watch?v=Sc_kqPcRVIo

     

    ก่อนจบบทความ มีหลายคนสงสัยว่าในเมื่อก็อตซิลล่าโผล่ไปแจมเป็นดารารับเชิญสื่อหลายเรื่อง แล้วเรื่องยอดมนุษย์อุลตร้าแมน ก็อตซิล่าเคยปรากฏตัวหรือเปล่า

    แม้ว่าก็อตซิลล่าจะไม่ปรากฏในเรื่องอุลตร้าแมน (ทุกภาค ทุกซีรีย์) ชนิดจะๆ ตา แต่อุลตร้าแมนก็เคยพูดถึงก็อตซิลล่าเอาไว้ เช่นเรื่อง Ultra Q ชื่อของก็อตซิล่าเคยกล่าวถึงในตอนที่ 15 ในตอน "Kanegon's Cocoon" หรือเรื่อง Ultraman Tiga ชื่อของก็อตซิล่าเคยกล่าวถึง ในตอนที่ 49

    แม้ว่าอุลตร้าแมนจะไม่เคยสู้กับก็อตซิลล่า แต่ก็สัตว์ประหลาดที่คล้ายๆ กัน หรือก็คือก็อตซิลล่าอีกเวอร์ชั่น เรื่องของเรื่องคือใน Ultraman ตอนที่ 10 "The Enigma at the Dinosaur Base." มีไคจูรูปร่างเหมือนจิ้งจกขนาดยักษ์ตัวหนึ่งที่เกิดจากการสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ในตำนานนาม “Jirass” ซึ่งรูปร่างเหมือนก็อตซิล่ามากๆ แถมเสียงร้องยังเหมือนกัน การโจมตีก็คล้ายคลึงกันอีกต่างหารกอีกต่างหาก ต่างตรงแผงหลังมีสีสัน และมีแผงคอขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วมันก็คือก็อตซิลล่าตัวจริงนั้นเอง สาเหตุเนื่องจากอุลตร้าแมนเวลานั้นมีงบน้อย ไม่สามารถทำชุดสัตว์ประหลาดสำหรับตอนใหม่ได้ ทางผู้ผลิตอุลต้าแมนเลยได้เจรจาต่อรองให้โตโฮยืมชุดก็อตซิล่ามาใช้ ใส่แผงคอลงไป ใส่สีแตกต่างหน่อยก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหม่ในที่สุด

    อย่างไรก็ตามเจ้าสัตว์ประหลาดที่ว่านั้น สู้ไม่สมศักดิ์ศรีก็อตซิลล่าเลยแม้แต่น้อย อุลตร้าแมนเองก็ไม่ได้สู้จริงจังมากนัก สู้ไปเล่นไป แถมมียังแอบฉีกแผงคอของสัตว์ประหลาดตัวนี้มาเล่นอีกต่างหาก นอกจากนั้นก็อตซิลล่ายังไปสร้างและออกแบบสัตว์ประหลาดสองตัวคือ Gomess และ Earthtron ปรากฏในอุลตร้าแมนซีรีย์อื่นๆ อีกตามมา

     

     

     

     

    Godzilla vs. Biollante

     

                    ยอมรับเลยว่าผมคนหนึ่งที่ชอบก็อตซิล่ามากตั้งแต่สมัยเด็ก ผมจำได้แม่นเลยว่าภาพยนตร์ก็อตซิลล่าที่ผมดูคือเรื่อง Godzilla vs. Biollante ซึ่งปกติแล้วพวกเด็กเล็กชื่นชอบสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว บวกกับการต่อสู้ที่แสนเร้าใจ (ส่วนเนื้อเรื่องนั้นไม่ค่อยสนใจนัก) การต่อสู้ของสัตว์ประหลาดที่แสนดุเดือด เทคนิคพิเศษเสมือนจริง รวมไปถึงลักษณะที่น่าเกรงขามของก็อตซิลล่า เสียงร้องที่น่ากลัว การพ่นไฟทำลายล้าง สิ่งเหล่านี้ไม่แปลกที่จะทำให้เด็กอย่างผมชื่นชอบมากในเวลานั้น และเชื่อเลยว่ามีเด็กมากมายที่เป็นเหมือนผมที่ชื่นชอบสัตว์ประหลาดที่น่าเกรงขามตัวนี้ไม่มากก็ไม่น้อย

                    ผมหลงใหลสัตว์ประหลาด ผมชอบสัตว์ประหลาดในเรื่องอุลตร้าแมน มากกว่าตัวอุลตร้าแมนเสียอีกผมชอบออกแบบสัตว์ประหลาด ชอบวาดรูปสัตว์ประหลาด ชอบปั้นดินน้ำมันสัตว์ประหลาด หลงใหลสัตว์ประหลาดมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบสัตว์ประหลาดอยู่ ส่วนภาพยนตร์ก็อตซิลล่า ผมพยายามติดตามดูภาพยนตร์ก็อตซิลล่าให้ครบมากที่สุดที่จะทำได้ ทั้งๆ ที่ช่วงเวลานั้นการหาวิดีโอมาดูสักเรื่อง มันยากมากสำหรับเด็กอย่างผม

                    ด้วยความภาคภูมิใจ ผมดูภาพยนตร์ที่ดีของก็อตซิล่าจนเกือบครบหมด จากภาพยนตร์ก็อตซิล่า 35 เรื่อง ผมดูภาพยนตร์ Mothra Vs Godzilla (1962), Godzilla Vs King Ghidorah (1991), Godzilla vs. Biollante แต่ภาคที่ผมเจ็บใจที่สุดคือ Godzilla Vs Destoroyah หรือ ศึกอวสานก็อตซิลล่า ซึ่งถือว่าเป็นภาคก็อตซิล่าที่มีชื่อเสียงสำหรับคนไทยก็ว่าได้ เพราะว่าในตอนนั้นมีการโฆษณาว่าเป็นภาคสุดท้ายของก็อตซิลล่า และก็อตซิลล่าตาย (ความจริงเจ้าก็อตซิล่ามันมีหลายตัว และที่ผ่านมาก็อตซิลล่าก็ตายนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว) แต่นั้นก็ทำให้ลูกเล็กเด็กแดงมาดูกันมาก แต่อนิจจาผมดันดูไม่จบ เพราะผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้แบบกลางแปลง และเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ระหว่างที่ภาพยนตร์ฉายฝนดันตกทำให้เลิกล้มที่จะดูก็อตซิลล่าไปโดยสิ้นเชิว และนั้นถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมดูก็อตซิลล่า และหลังจากนั้นไม่ดูก็อตซิลล่าภาคอื่นๆ อีกเลย เพราะฝังใจ (แต่ก็อตซิลล่าภาค 2014 ผมว่าจะดูน่ะ)

    เอาล่ะพูดเรื่องภาพยนตร์เรื่องก็อตซิลล่าไปพอสมควรแล้ว (แต่ยังไม่จบ) แต่เนื่องด้วยบทความนี้ไม่ใช่บทความรำลึกภาพยนตร์ แต่เป็นดูการ์ตูนอย่างแมวๆ ดังนั้นต่อไปนี้จะพูดถึงมังงะของก็อตซิลล่ากันบ้าง

                    ไม่ทราบว่าในที่นี้ ใครได้ดูก็อตซิล่าฉบับมังงะกันบ้าง ขอบอกว่ายากมากที่เด็กสมัยนี้จะได้เห็นมังงะก็อตซิลล่า เพราะว่าสมัยก่อนการ์ตูนก็อตซิลล่านั้นไม่ได้อยู่ในรูปแบบลิขสิทธิ์ หากแต่รูปของไพเรท ไม่มีลิขสิทธิ์ บางเล่นก็หนามาก

                    ส่วนตัวผมแล้ว ผมได้ดูก็อตซิล่าแบบมังงะเพียง 3 เรื่องเท่านั้น เรื่องแรกคือ Godzilla vs. Biollante, Mothra Vs Godzilla ส่วนอีกเรื่องผมไม่ทราบว่าก็อตซิลล่าภาคอะไร เพราะเป็นก็อตซิลล่าเจาะกลุ่มสำหรับเด็กประถมอ่าน (ซึ่งจะพูดถึงบรรทัดไป)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×