ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #248 : จากมืดสู่สว่างนั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด!???

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.56K
      0
      26 ส.ค. 56

                    ตอนนี้เหมือนเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนยังไงชอบกล??

                    มีหลายคนชอบพูดบ่อยๆ ว่าสายมืด (การ์ตูนโป๊) มักไม่ประสบความสำเร็จหากเปลี่ยนมืดมาวาดการ์ตูนสายสว่าง (ไม่ก็เทา)

                ซึ่งความจริงแล้วคำกล่าวแบบนี้ไม่ถูกเสมอไป ก็เหมือนหลายวงการ ก็มีทั้งประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ คละเคล้ากันไป อย่างล่าสุดอนิเมะเรื่อง Gargantia และมังงะ Shokugeki no Somaก็แสดงให้เห็นคนวาดมืดก็เอาดีด้านสว่างได้ เพียงแต่ว่าทำอย่างไรจะถูกใจคนอ่าน (ส่วนเรื่อง POP ไปตายซะร้อยรอบเถอะ)

                    และคุณรู้หรือไม่ว่านักเขียนการ์ตูนที่หลายคนรู้จักนั้น ล้วนเคยวาดมืดมาก่อน อย่างในบทความที่ยกมาข้างมีนักเขียนที่ผมกล่าวถึงผลงานมืดก่อนที่จะเขียนแนวสว่างอยู่หลายคน และหลายคนปัจจุบันก็เอาดีด้านสว่างด้วยซ้ำ

    ฝ่าดงนรกเดินดิน (High School of The Dead ) ซอมบี้มา จิตใจคนก็เผย

    มังกรหายนะ(Chaosic Rune)เมื่อคนบ้าฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา

    Nana to kaoru สอนเธอให้รู้จัก SM (มองสังคมญี่ปุ่นผ่านการ์ตูน R)

    Tokyo Red Hood หนูน้อยหมวกแดงโหด นี้สิกุโระของจริง!!

    Tasogare Otome X Amnesia ผีมีจริงหรือแค่คิดไปเอง?

    Cloth Road ชุดที่ดีไม่ได้อยู่ที่เนื้อผ้าแต่อยู่ที่จิตใจของคนสวม

    Kamichu! เมื่อคนธรรมดากลายเป็นเทพเจ้า!!

                    ฯลฯ

    เห็นไหมครับ ว่าเยอะครับ ที่เยอะไม่แปลกหรอก เพราะว่า นักเขียนหลายคนเริ่มต้นจากการเขียนโดจินมืดใต้ดินมาก่อน ที่จะมาเป็นนักเขียนมืออาชีพ (หรือว่าเอาดีเป็นมืดอาชีพโดจินมืดใต้ดินเสียเลย) นี่ก็คือข้อดีของสายมืดของญี่ปุ่น ที่ทำให้นักเขียนพัฒนา (วาดผู้หญิงสวยๆ)

    สาเหตุที่มักคำกล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่าหลายคนมักคิดว่าส่วนใหญ่นักเขียนมืดหากเอาดีด้านสว่างมักเขียนการ์ตูนแนวการ์ตูนเซอร์วิส ไม่ก็ฮาเร็ม (อยากขอบอกว่าคนเขียนมืดเอาดีด้านสว่างเขียนแนวฮาเร็มน้อยมากๆ น่ะครับ ส่วนมากจะเน้นตัวเอกที่เป็นผู้หญิงเดี่ยวๆ มากกว่า)  ตรงจุดนี้ก็ไม่ถูกครับ ก็มันเป็นแนวถนัดของคนเขียนแนวมืด จะให้เป็นแนวอื่นก็ไม่ไหว เเอ็คชั่น ปล่อยพลังตูมตามนี้มันไม่ใช่แนว อีกทั้งแนวคอเมดี้ รักๆ ฮาเร็ม คนเขียนรู้จุดดีว่าจะทำยังให้คนอ่านรู้สึกซาบซ่า รู้สึกอิจฉาพระเอกได้ กลับกันหากคนเขียนมืดมาวาดแนวสว่างที่ฉีกแนวจากที่เขาวาดมา ก็โดนด่าตามระเบียบ (ก็อย่างเรื่อง POP ตอนแรกฮาเร็มซาบซ่า มาดันหลักบ้าจี้หักหลังคนอ่านกลายเป็นดราม่าปวดใจ ก็ไม่แปลกที่โดนตัดจบ)

    ที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ ก็เป็นเหตุผลเหมือนนักเขียนอื่นๆ เช่น พล็อตไม่ครองใจคนอ่าน หมดมุก, เหตุผลส่วนตัว ฯลฯ ก็เป็นเหตุผลที่ได้ยินกันมาทั้งนั้นครับ อาชีพนักเขียนการ์ตูนมันไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนหลายคนเข้าใจหรอก

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักเขียนมืดหลายคนวาดแนวสว่างยอะครับ สาเหตุเพราะคนเขียนแนวมืดส่วนใหญ่วาดสวยมาก โดยเฉพาะคาแร็คเตอร์ “ผู้หญิง” มีเอกลักษณ์ และน่ารัก (จนไม่แปลกที่นักเขียนมืดบางคนมีคนมาขอร้องว่าไปวาดสว่างเถอะก็มี)

                    ต่อไปนี้ จะเป็น 10 รายการการ์ตูนที่มีลิขลิทธิ์ในไทย ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าคนเขียนการ์ตูนเคยวาดมืดมาก่อน แล้วคุณจะรู้ว่ามืดนั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดเอาไว้

     

     

    หนึ่งในผลงานของ อิตาบะ ฮิโรชิ

     

    Itaba Hiroshi

    Kanojo wa Ningu Musume หรือชื่อไทยว่า น้องหนูคู่หูนินจา เป็นการ์ตูนลิขสิทธิ์ของวิบูลย์กิจ ซึ่งเนื้อหา เป็นเรื่องของ ฮารุโทมิ คาสึเกะ นักเรียนมัธยมต้นธรรมดา ที่วันหนึ่งไปเจอดาบเก่าๆ ที่ห้องเก็บของเข้า และเมื่อเปิดออกดู จู่ๆ ดาบก็กลายเป็นนินจาสาวน่ารัก คุโนอิจิ  (นินจาหญิง มีหน้าที่หลัก คือ หาข่าวสารและลอบสังหาร) โดยสาวน้อยคนนี้เรียกพระเอกว่า นายท่าน เนื่องจากคาสึเกะเป็นทายาทของเทพนินจาที่สุดในประวัติศาสตร์ และเธอมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้เขา

    Kanojo wa Ningu Musume! หลายคนด่ายับ เนื้อหาสูตรสำเร็จ แทบไม่มีอะไรใหม่ๆ เลย นมก็วาดไม่สวย หยานเหมือนคนแก่ (แต่ผมชอบน่ะ มันฮาเร็มดี เก็บเอาไว้บูชาข้างที่นอนด้วย)  แต่จะมีใครสักกี่คนจะรู้ว่าคนเขียนมังงะเรื่องนี้เป็นเทพแห่งความมืด ที่มีชื่อเสียงมากๆและรู้หรือไม่ว่าเรื่อง "นม" ที่คุณว่าไม่สวยนั้น คือเครื่องหมายการค้าของนักเขียนคนนี้ อิตาบะ ฮิโรชิ

    แม้ว่าไม่คุ้นชื่อ แต่ผมเชื่อว่าหลายคนที่เคยเสพมืดคงคุ้นลายเส้นของคนเขียนอิตาบะ ฮิโรชิ (Itaba Hiroshi) ไม่มากก็ไม่น้อย ถือว่าเป็นคนเขียนที่มีชื่อในวงการสายมืด เริ่มต้นเขียนผลงานแรกๆ (ที่เป็นที่รู้จัก) ประมาณปี 1997 ถือว่าคว่ำหวอดในวงการมานานพอสมควร อีกทั้งมีผลงานมากมาย ทั้งเรื่องสั้นจบในตอน รวมซีรีย์  ซึ่งทุกเรื่องล้วนเป็นออริจินอลไม่มีวาดฟิคการ์ตูนแต่อย่างใด

    ในช่วงแรกๆ แนวสายมืดส่วนมากจะเป็นแนวผู้หญิงอายุมากกว่า (สาวออฟฟิค, แม่บ้าน, แม่ม่าย, พี่สาว, ผู้ใหญ่โตแล้ว) แต่มาช่วงหลังๆ คนเขียนเริ่มวาดพวกเด็กมัธยมปลายมากขึ้น (น้องสาว, แฟนสาว) แม้จะมีผลงานมากมายหลายเรื่องแต่คนเขียนนี้ไม่วาดฮาเร็ม พวก 3-4P เลยแม้แต่น้อย  ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ NTR ควบสอง (แย่งแฟนคนอื่น) หรืออยากมากมาแบบสองคนต่างวาระ ต่างโอกาส (คือเดี๋ยวมีความสัมพันธ์นางเอกตัวเอก ต่อมาก็ตัวรอง ตอนท้ายก็มาอยู่ด้วยกันประมาณนี้) นอกจากนี้ยังชอบแนวข่มขืน,  ผู้หญิงคนเดียวกับผู้ชายหลายคน ซาดิสซ์ (ทั้งเชือก, ทั้งปลอกคอ) และ NTR (โดนแย่งแฟน, เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าคนเขียนจะถนัดพิเศษในเรื่องนี้)

      เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนเขียนคือ ปกติสายมืดเมื่อถึงฉากสำคัญมักทำออกมาสวยงาม น่ามอง  แต่สำหรับคนเขียนกลับทำดูให้ขยะแขยงและสวยงามในเวลาเดียวกัน ขยะแขยงยังไงเหรอ ก็ไม่ขอพูดละกัน เพราะหลุมดำแน่ (เช่น ขนรุงรัง .....) นอกจากนี้มุมมองแปลกๆ เดี๋ยวซูม เดี๋ยวเปลี่ยนไปมา ซึ่งมุมมองมักซูมจนดูน่ากลัวมาก (ความจริงก็มีมังงะบางเรื่องเหมือนกันที่ฉีกจากเอกลักษณ์ของคนเขียน)

    แม้ว่าจะมีชื่อด้านมืด แต่ด้านสว่างนั้น คนเขียนไม่ค่อยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เท่าที่เห็นมีที่พอจะดังก็มีเรื่อง Mouse (2000) มังงะ 14 เล่มจบ (ไม่นับภาคพิเศษอีกหนึ่งเล่ม) ซึ่งทำเป็นอนิเมะ  และยังมีการ์ตูนสั้นๆ และ Kanojo wa Ningu Musume! (2008) มี 4 เล่มจบ และผลงานการ์ตูนสั้น (??) เรื่อง Kitajima-san no Nangi na Nichijou  (2012) ถือว่าเป็นแนวสว่างล่าสุดของผู้เขียนก่อนที่จะเอาแต่ด้านมืดจนถึงปัจจุบัน

     

     

    โดโรธีปราบอธรรม Dorothea - Majo no Tetsutsui

     

     Cuvie

    มีหลายคนพูดว่า การ์ตูนเรื่องไหนนางเอกนมใหญ่ๆ เซอร์วิส เยอะๆ นั่นแหละ น่าจะเขียนการ์ตูนโป๊มาก่อน หรือไม่ก็คนวาดสายมืดเวลาจะวาดสว่างมักวาด รักคอเมดี้ ฮาเร็ม เซฮร์วิสตลอดผมก็ตอบว่ามีนักเขียนสายมืดจำนวนมากที่ไม่ได้เน้นสายสว่างเซอร์วิส และไม่ได้เน้นเรื่องคอเมดี้ แม้แต่มืดเองก็ไม่ได้เน้นเรื่องนมใหญ่ๆ เลย กลับเน้นเนื้อหา ดราม่า

    Cuvie คือนักเขียนที่ผมกำลังพูดถึง และเชื่อหรือไม่ว่านักเขียนคนนี้เป็นผู้หญิง (เกิด 20 กรกฎาคม 1976) และถือว่าเป็นนักเขียนมืดอีกคนที่หลายคนรู้จักกันดี ที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ ชนิดว่าเห็นลายเส้นก็รู้ทันทีว่าเป็นเธอ

    แม้คนเขียนคนนี้จะเขียนแนวมืด แต่กระนั้นคนเขียนก็ไม่ได้เน้นเรื่องหน้าอกใหญ่เวอร์ ซาดิสต์รุนแรง อะไรมากมาย หรือ ตัวละครหญิงก็สวย น่ารัก ส่วนตัวละครชายจะออกไปทางดูธรรมดา มากกว่าเสียมากกว่า  (ปกติของสายมืดครับ ต้องวาดหน้าตาพระเอกให้ดูธรรมดาเข้าไว้ มากกว่าที่จะวาดหล่อ เพราะมันจะเข้าถึงคนอ่านมากกว่า)

                    นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นคือ คนเขียนมักเน้นเรื่องดราม่าเข้าไปในเรื่องด้วย ทำให้เนื้อหาดูมีความสมจริง ซึ่งดราม่าจำพวกลูกเลี้ยง, รักในวัยเรียน (ไม่ถึงขั้นปวดตับ แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน) บางครั้งก็สร้างเป็นเรื่องราว (3-4 ตอนจบ) ให้ดูโรแมนติกลงไปด้วย

                    คนเขียนคนนี้ไม่นิยมฮาเร็ม ประเภท 3-4P แต่อย่างใด อย่างมากจะเน้นพวกรักสามเศร้า ที่ตอนท้ายจะวิน (หากพูดตามความจริง ผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับคนเขียนคนนี้มากนัก เนื่องจากโมโหการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่พระเอกทิ้งแฟนตนเองเพื่อไปเอากับพี่สาว แทนที่จะโรแมนติก ผมกลับมองว่าพระเอกเฮงซวยสิ้นดี หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่อยากจะแตะผลงานของ Cuvie นอกจากจะเนื้อหาดีจริงๆ )  แม้ในตอนแรกจะเป็นพวกแม่บ้าน ตอนหลังก็เน้นพวกรักในวัยเรียนเป็นคู่ๆ และช่วงหลังเริ่มมีข่มขืนลงแขกลงไปด้วย ส่วนฉากสำคัญก็ถือว่าสร้างได้อารมณ์พอสมควร มี (ไม่มีพวกซูมไปถึงข้างในร่างกาย แต่อย่างใด)

                    ด้านสว่างนั้นคนเขียน หากไม่นับเรื่องสั้น ผลงานที่พอขึ้นชื่อของเรื่อง Dorothea - Majo no Tetsutsui (2006) ซึ่งมีลิขสิทธ์ในไทยในชื่อ โดโรธี ยอดสาวปราบอธรรม (6 เล่มจบ) ซึ่งเนื้อหาค่อนข้างทำลายตรรกะบางคนว่าคนสายมืดวาดเป็นแต่รักคอเมดี้เท่านั้น แต่คนเขียนคนนี้วาดแนวดราม่า ยุคกลาง แอ็คชั่น ซึ่งเนื้อหาไม่ได้เน้นเรื่องความรักและเพศแต่ใช้ดราม่ามาดำเนินเนื้อเรื่อง ถือว่าได้อารมณ์ของคนเขียนคนนี้ดี

                    อย่างไร หากคุณต้องการอ่านเข้าถึงอารมณ์ของคนเขียนเรื่องนี้ แนะนำเรื่องเรื่อง Nightmare Maker ที่แปลกคือการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้จัดอยู่ในการ์ตูนสายมืด (แต่เนื้อหา +18 อยู่ดี) ซึ่งเนื้อหาเป็นเรื่องของนักเรียนคนหนึ่งที่สร้างอุปกรณ์ความฝันที่ทำให้ผู้สวมใส่มันหลับฝันดีมากขึ้น ตอนแรกๆ เขาสร้างขึ้นเพื่อตนเอง แต่หลังๆ คนในห้องได้ลองแล้วติดใจ ทำให้ได้เป็นที่นิยม แต่นั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในเวลาต่อมา (ปัจจุบันมีแปลบางส่วนในเว็บอังกฤษ) ซึ่งหากมีโอกาสก็จะเอามาพูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ในโอกาสต่อไป

    ปัจจุบัน คนเขียนกำลังจะเขียนสว่างอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรนั้นก็ติดตามต่อไป

     


    โดจินของ
    Hiyohiyo

     

    Hiyohiyo

    ยังมีนักเขียนสายมืดอีกมากที่หลายคนไม่รู้จัก แต่ก็พอคุ้นหน้าคุ้นตาลายเส้น เนื่องจากวาดโดจินการ์ตูนดัง ยกตัวอย่าง  คนเขียน เป็นต้น

    ฮิโยะฮิโยะ (เกิดวันที่ 1976)  ความจริงแล้วคนเขียนคนนี้มีอีกหลายนามปากกา เช่น Kashiwa-ya, Kashiwaya| Kansai Kemono Rengou บ้านเราอาจรู้จักกันน้อย

    เท่าที่คุ้นประวัติคนเขียนเกิดและอาศัยอยู่ในโอซาก้า มีผลงานเดบิวลงในนิตยสารเซเน็นคอมมิก เคยผ่านงานผลิตเกมและเป็นนักวาดต้นฉบับการ์ตูน นอกเหนือจากนั้นก็วาดปกภาพและออกแบบตัวละครบ้างเป็นครั้งคราว

    พูดถึงด้านสว่างก่อน หลายคนอาจไม่รู้ว่าบ้านเราเคยมีการ์ตูนเรื่อง Kururikuru!  (2002) หรือ “คุรุริค่ะ” (ลิขสิทธิ์โดยสยามมี 4 เล่มจบ) ที่วางแผงบ้านเรามาแล้ว โดยเป็นเรื่องของพระเอกชื่อ “โคได” ที่สูญเสียน้องสาวของเขาในเหตุการณ์ “น้ำท่วมใหญ่โนอาห์” ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่ทำให้โตเกียวเกือบทั้งหมดจมอนยู่ใต้น้ำที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องปิดกั้นตนเอง อาศัยอยู่บ้าน (ตึกหลายชั้น) ที่จมบางส่วน โดยไม่ยอมออกไป จนกระทั่งวันหนึ่งมีสาวน้อยลึกลับที่ชื่อ “คุรุริ” ซึ่งเป็นเงือก (??) มาขออยู่อาศัยบ้านพระเอก และนั้นเองทำให้จิตใจของพระเอกเปลี่ยนไปเล็กน้อย (การ์ตูนสามารถหาซื้อได้ในเว็บขายมือสอง)

    อย่างไรก็ตามนักเขียนคนนี้ก็เป็นอีกรายที่ไม่สามารถเอาดีด้านสว่างได้ อาจเป็นเพราะลายเส้นที่ไม่ถูกใจคนอ่าน อีกทั้งเนื้อหาของการ์ตูนค่อนข้างคอเมดี้ที่ค่อนไปทางครึ่งๆ กลางๆ คือจะเอายังไงกันแน่ ระหว่างจะเอาฮาเร็ม หรือจะคู่โดดๆ หรือจะสามเศร้า เนื้อหาเอาแน่เอานอนไม่ได้ เนื้อหาค่อนไปทางสูตรสำเร็จ หมดมุกทำให้มันจบไม่กี่เล่ม และนอกจากคุรุริแล้วก็ยังมีสายสว่างเรื่อง  Trigram 8 และ Tama Hiyori (2007 มีแปลไทยในเว็บ ลองไปค้นดูละกัน) ซึ่งดำเนินเนื้อเรื่องไปในทิศทางเดียวกันก่อนที่จะจบไม่กี่เล่ม

    ส่วนด้านมืดนั้น หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาลายเส้นของคนนี้เรื่องนี้ไม่มากไม่น้อย ออริจินอลไม่เท่าไหร่ แต่โดจินฟิคการ์ตูนดังนี้หลายคนคงคุ้นเคย โดจิน High School of the Dead, Mahou Shoujo Madoka Magica, Neon Genesis Evangelion} นารูโตะ, สุซึมิยะ ฮารุฮิ (และอื่นๆ อีกมากมาย) โดยเฉพาะ High School of the Dead ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ (ชื่อว่าคนเขียนจะชอบการ์ตูนเรื่องนี้มาก) และเนื้อหาหลากหลาย แต่ส่วนมากเน้นข่มขืนมากกว่า........ และลายเส้นจุดเด่นคือปากของตัวละครหญิงที่ทำมุมอย่างมีเอกลักษณ์

    การดูผลงานของนักเขียนด้านมิดก็ได้เห็นอะไรบางอย่าง ที่บางครั้งคนเขียนวาดการ์ตูนโดยใจรัก รู้สึกชอบอะไร อยากเห็นอะไรก็วาดออกมาเป็นโดจินให้คนอื่นได้อ่าน

    ปัจจุบันคนเขียนยังคงวาดโดจินที่ตนเองชอบต่อไป ยังไม่ได้หายหน้าไปไหน

     


    The Wild Kingdom

     

    Johji Manabe

    โจจิ มานาบะ ถือว่าเป็นนักเขียนทั้งสายสว่างและสายมืดที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน (เกิด 1964 ซึ่งปัจจุบันอายุปาไป 49 ปีแล้ว) ผลงานมากมายไม่ว่าจะเป็นมืดและสว่าง  หากใครไม่รู้ นักเขียนคนนี้เป็นเพื่อนกับนักเขียน Ozanari Dungeon ( ผลงาน Motoo Koyama หรือชื่อไทย “สามซ่าทะตะลุย ของสยาม)

    หากจะพูดเรื่องราวของคนเขียนนี้ เขียนเป็น 6 หน้ากระดาษเอสี่ก็ไม่จบ (ไว้เขียนยาวทีหลัง) อันเนื่องมาจากผมเติบโตมากับคนเขียนเรื่องนี้อย่างแท้จริง  สมัยที่ยังเป็นไพเรท (ไม่มีลิขสิทธิ์) ผลงานที่ผมดูก็เช่น Caravan Kidd (1968),  และลิขสิทธิ์ของสยาม The Wild Kingdom (2000) (ความจริงมากกว่านั้น แต่ผมก็จำชื่ออังกฤษไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่)  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในผลงานมากมายของคนเขียนคนนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลงานสว่างดังๆ ของคนเขียนก็เช่น Outlanders (1985), Capricorn (1988), Ginga Sengoku Yuuden Rai (1994 บ้านเรารู้จักในชื่อไรซามูไรอวกาศที่ช่อง 3 เคยเอาอนิเมะมาออก) และอีกมากมาย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของสายสว่างนั้นจะว่าไปก็เป็นจุดเด่นของมังงะแนวโชเน็นสมัยนั้น ที่เนื้อหาเน้นเรื่องการผจญภัย แฟนตาซี ไซไฟ ซึ่งตัวเอกและนางเอกก็ออกแนวเดียวๆ กัน คือตัวเอกเป็นผู้ชายอ่อนแอ ส่วนผู้หญิงจะเข้มแข็งกว่าผู้ชาย (บางเรื่องก็กลับกันคือผู้ชายเก่ง ผู้หญิงอ่อนแอ แต่ค่อนข้างน้อย)

    จุดเด่นของคนเขียนก็คือชอบวาดตัวละครหูสัตว์ พวกสาวหูหมา หูแมว (มีหางด้วย) บางครั้งก็วาดสาวมีเขา สาวต่างดาว แต่ที่แปลกคือหากเป็นตัวละครชาย บางครั้งจะวาดพวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ (เช่นหน้าเสือแต่ตัวเป็นคน เป็นต้น) หากคุณอยากเห็นอารมณ์ของคนเขียนลองไปดู The Wild Kingdom (2000) คนเขียนวาดแม่เสือสาวน่ารักมากๆ (เรียกพระเอกว่า “ลูกพี่ ลูกพี่” โมเอะมากๆ)

    สิ่งที่ชอบผลงงาสนของนักเขียนคนนี้ ก็คือ ตัวละครหญิงที่คนเขียนวาดนั้น จะมีลักษณะเป็นสาวผมสั้น ร่าเริง เข้มแข็ง เก่งกว่าผู้ชาย ซึ่งโดยส่วนตัวผมค่อนข้างชอบคาแร็คเตอร์แบบนี้มาก

     อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2002 คนเขียนเริ่มเข้าสู่สายมืด ซึ่งสาเหตุที่เข้าสู่ด้านมืดอาจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่แนวของคนเขียนอาจค่อนข้างล้าหลัง บวกกับลายเส้นที่คนอ่านรู้สึกว่าเก่า (ผมเดาเอาน่ะ ไม่ได้ค้นรายละเอียดเท่าไหร่) ซึ่งการเข้าสู่สายมืดนั้นก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกสำหรับคนเขียน เพราะปัจจุบันคนเขียนยังมีผลงานให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

    การเข้าสายมืดของคนเขียน ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรเลย เพราะปกติแล้วคนเขียนก็วาดการ์ตูนที่ออกไปทางเอจจิอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มอะไรนิดหน่อยเท่านั้น

    โดยช่วงแรก ผลงานของคนเขียนออกไปทางโดจิน Dirtu Pair (เป็นการ์ตูนดังยุคเก่า), ToHeart,  Monster Princess, Strike Witches, ฮารุฮิ, เอวาเกเลี่ยน ฯลฯ (สังเกตว่าการ์ตูนโดจินที่คนเขียนมาวาดนั้นตัวเอกหญิงล้วนเป็นผู้หญิงแกร่งทั้งสิ้น) บางเรื่องก็เอาการ์ตูนของตัวเองมาเป็นตัวเอก (เช่นเรื่อง Outlanders)

    แม้จะเปลี่ยนเข้าสู่สายมืด แต่คนเขียนก็ยังเหมือนคงเอกลักษณ์เหมือนเดิม ด้วยลายเส้นที่คุ้นเคย กับตัวละครหญิงที่เข็งแกร่ง (มีกล้ามนิดๆ จนถึงมีกล้ามพลัง K ไม่ก็หน้าอกตูมๆ ) ส่วนตัวละครชายจะดูธรรมดา (ช่วงแรกจะวาดตัวละครชายในลักษณะแข็งแกร่งเหมือนกัน แต่ช่วงหลังไม่ทำแล้ว) นอกจากนั้นยังมีหูแมว หูหมาปรากฏออกมาอยู่เนื่องๆ

    ผลงานออริจินอลส่วนใหญ่เป็นแนวฮาเร็ม อย่างเรื่องTail Chaser และ Ring x Mama ล้วนเป็นแนวฮาเร็มทั้งสิ้น แต่ฮาเร็มส่วนใหญ่จะออกไปทางเซ็กต์เฟรนด์ (Sex Friends) คือความสัมพันธ์แบบคู่ขาประจำ  แบบว่าเอากันเฉยๆ แก้เหงา ไม่มีความผูกพันทางใจ เซ็กต์เป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งของคนรู้จักกัน อารมณ์ก็แค่อันสนุกเท่านั้นเอง อย่างอารมณ์ของ Ring x Mama ก็ออกไปทางพระเอกพ่อพันธุ์ไม่ได้รักใครจริงจังสักเท่าไหร่ (เกือบทุกเรื่องก็ว่าได้) ดังนั้นพวกตัวละครในเรื่องนี้จะเป็นพวกวัยทำงาน มากกว่าจะเป็นเด็กมัธยมปลายธรรมดา

    ผลงานมืดที่ผมชอบพอสมควรน่าจะเป็นเรื่อง Kanojo de Ippai เห็นมีความเป็นฮาเร็มมากกว่าผลงานอื่นๆ (คือพระเอกมีแฟนสามคน ส่วนอีกสองคนเป็นคู่ขา) และคาแร็คเตอร์ในเรื่อง

    ข้อเสียของนักเขียนส่วนมากการ์ตูนหลายเรื่องมักมีฉากจบของมังงะ (ทั้งมืดและสว่าง) ไม่ค่อยโดนใจหลายคนมากนัก อารมณ์จบแบบขาดๆ หายๆ  ประมาณว่า อ้าวจบแล้วเหรอ น่าจะต่ออีกหน่อยสักสองสามหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบดีๆ ให้มันเคลียร์หน่อยไม่เป็นเหรอ

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนเขียนยังคงวาดผลงานใหม่ต่อไปเรื่อยๆ (ทั้งมืดและสว่าง) และน่าจะเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดีสำหรับการได้เห็นนักเขียนการ์ตูนเปลี่ยนแนวทาง และการปรับตัวให้เข้ากับวงการการ์ตูนมังงะที่มีการแข่งขันมากปัจจุบัน

     

     

     

    Brandish

     

    Rusty Soul  และ ARUTO Seneka

    ใครจะคิดล่ะว่าการ์ตูนลายเส้นแสนธรรมดาอย่างการ์ตูนเรื่อง Sengoku!? - Yukyu Ransei Renge Tan หรือ สงครามบุปผา!? ~ตำนานรักอลวน~ ลิขสิทธิ์สำนักพิมพ์รักพิมพ์ คนวาดการ์ตูนเรื่องนี้มีผลงานด้านมืดเหมือนกัน

    Sengoku!? - Yukyu Ransei Renge Tan (มี 5 เล่มจบ) เขียนในปี 2009 เป็นผลงานของ Author(s) Rusty Soul  และ Artist(s) ARUTO Seneka ( หรือ Alto Seneka) นักเขียนทั้งสองนั้นมีส่วนรวมในการวาดการ์ตูนทั้งสว่างและมืดมามากพอสมควร

    Rusty Soul (คนเขียนคนนี้เป็นผู้ชายครับ) และ Alto Seneka (คนเขียนคนนี้เป็นผู้หญิง) ผลงานแรกๆ เขียนโดจินพวกเคอง!, เนียวรุโกะ, Touhou และยังมี

    อย่างไรก็ตาม ผลงานที่สร้างชื่อมากที่สุดของคนเขียนสองคนนี้ก็คือการ์ตูนแนวผู้ใหญ่ (เฮ็นไต) เรื่อง “Brandish  (2007) ซึ่งปัจจุบันออกมาแล้วถึง 5 เล่มและไม่จบ เป็นเรื่องราวของสาวสวยซัคคิวบัส (ปีศาจในร่างสาวสวยที่เกลี้ยกล่อมผู้ชายในความฝันเพื่อที่จะมีเพศสัมพันธ์) ซึ่งซัคคิวบัสสาวสวยคนนี้หื่นมาก ชอบจับกดผู้ชายหน้าตาในหมู่บ้านนับไม่ถ้วน จนผู้กล้า “ธีโอ” ต้องออกมาปราบ หากแต่ซัคคิวบัสตกหลุมรักผู้กล้าธีดอมากเพราะเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ซึ่งซัคคิวบัสพยายามทุกวิถีทางที่จะชนะใจผู้กล้าคนนี้ให้ได้

    Brandish ภายใต้ลายเส้นที่ดูแสนจะธรรมดา แต่เนื้อหานั้นครบสูตรสายมืดจริงๆ เพราะมีครบหมด ทั้งข่มขืน ลงแขก ซาดิสต์ ไปจนถึงแปลกแปลกประหลาด (เพราะเป็นแนวแฟนตาซี) เทนตาเคิล สาวมีอวัยวะเพศชาย ไปจนถึงสัตว์ประหลาด  จนไม่น่าเชื่อว่าลายเส้นที่ดูธรรมดา จะล้ำขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็เนื้อหาการ์ตูนที่ออกมาจะเน้นในทิศทางที่ตลกเสียมากกว่า และโดจินเกือบทุกเรื่องก็แอบหยอดมุกตลกลงไปด้วย (ก็เป็นพวกตลกสบายๆ ไม่ให้เครียดมากเกินไป)

     Brandish ค่อนข้างเป็นผลงานดังพอสมควร เพราะมีการนำไปสร้างเป็นอนิเมะ และมีสินค้าเกี่ยวกับมังงะเรื่องนี้วางขายด้วย (พวกฟิคเกอร์อะไรพวกนี้)

    ปัจจุบันคนเขียนทั้งสองก็ยังออกผลงานโดจินสายมืดออกมาให้เห็นอยู่เนื่องๆ

     


    Iinazuke Kyoutei

     

     

    ความจริงยังมีการ์ตูนอีกหลายเรื่องที่มีลิขสิทธิ์ในบ้านเรา อย่าง คนเขียนมืด THE SEIJI ผู้เขียนมะรุมมะตุ้มรุมรักคาริน ลิขสิทธิ์โดยบูรพัฒน์  (Karin to) ซึ่งเขียนมืดมาก่อน (ปัจจุบันคนเขียนหายหน้าไปจากวงการทั้งมืดและสว่างไปแล้ว)

    หรือจะเป็นคนเขียน อย่าง MATRA Milan ผู้วาดฮิมาริเจ้าสเน่ห์ (Omamori Himari), ฮิโรยูกิผู้วาดนักเขียน สุดป่วนกับผู้ช่วยสุดแก่น (Mangaka-san to Assistant-san to) วาดมืดเพียงไม่กี่หน้า (เป็นโดจินเฟส/ซีโร่ ซึ่งไม่ได้เน้นกระดุ้นอารมณ์ แต่เน้นตลก และส่วนใหญ่ของเขียนวาดโดจินสายสว่างมากกว่า) หรือ Kouichi Kusano  ผู้วาด “รักตายล่ะพี่ชายพรรค์นี้” (Oniichan no Koto Nanka Zenzen Suki Janain Dakara ne) ที่ถูกทำเป็นอนิเมะก็เคยเริ่มจากการวาดสายมืดเรื่องหนึ่งเช่นกัน หรือจะเป็น Takeda  Hiromitsu ผู้วาด “ แก๊งศาสตราวุธสุดป่วน” (Maken-Ki!) ที่สร้างเป็นอนิเมะ (คนวาดหุ่นผู้หญิงไม่สมส่วนเสียเลย) ญลฯ

    การที่ผมเขียนบทความนี้ไม่ได้สื่อให้หลายคนตามหาการ์ตูนมืดเหล่านี้มาอ่าน แต่อยากให้หลายคนทำลายตรรกะที่ว่า “คนเขียนสายมืดไม่สามารถเอาดีได้สว่าง” ได้แล้ว  เพราะไม่ว่าจะเป็นสายไหน ก็ล้วนมีความยาก ง่ายแตกต่างกัน มีคู่แข่งมากพอๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นสายไหนล้วนมีการแข่งขันสูงมากทั้งนั้น

    นอกจากนี้ การได้ดูประวัติของนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่ง ได้ดูผลงานที่ผ่านมาของคนเขียน ทำให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง คนเขียนมีทัศนคติ มีพัฒนาการเขียนอย่างไร ตอนนี้และที่ผ่านมาคนเขียนวาดเรื่องอะไรลงไปบ้าง ประสบความสำเร็จมากขนาดไหน ตอนนี้คนเขียนเป็นอย่างไร การที่เราดูประวัติคนเขียนเหล่านี้ ก็ทำให้เข้าใจวงการการ์ตูนได้อีกระดับหนึ่ง

    วงการการ์ตูนมันไม่ง่ายอย่างที่คิด หลายคนประสบความสำเร็จ ในขณะที่หลายคนดับหายหน้าจากวงการ (ไม่ว่านักเขียนเก๋าหรือนักเขียนใหม่ก็ตาม) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทรรศคติของผู้เขียน ฝีมือการเขียน รสนิยมของคนอ่าน ทั้งหมดล้วนเป็นส่งผลตอบรับความนิยมของผลงานว่าจะอยู่หรือใจ หากคนเขียนคนใดสามารถปรับตัว หรืออ่านทิศทางกับสายนั้นได้ก็ย่อมประสบความสำเร็จสูง

    นอกเหนือจากนี้ ยังมีนักเขียนสายมืดอีกหลายคนเข้ามาสู่สายสว่างมากกว่าที่คุณคิดก็เป็นผลงานออจินอลบ้าง หรือเอามาไลท์โนเวลบ้าง ซึ่งมากก็เป็นแนวคอเมดี้ฮาเร็ม ตามใจอยากของคนเขียน ซึ่งค่อนข้างมีหลายเรื่องที่ผมชอบด้วย ยกตัวอย่าง Iinazuke Kyoutei ผลงานของ Fukudahda นักเขียนโดจินสายมืดที่คนไทยรู้จักดีในเรื่องนมโต หรือ มังงะจากนิยายไลท์โนเวลเรื่อง Maou na Ore to Fushihime no Yubiwa ผลงานของ YayaHinata นักเขียนสายมืดที่ชอบวาดแนวโลลิและน้องสาวตัวเล็กซึ่งลายเส้นมีเอกลักษณ์ (คือวาดผู้หญิงน่ารักดีและชอบวาดฮาเร็มด้วย) ทั้งหมดก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ด้านสว่างในปี2012ทั้งสิ้นเพียงแต่หลายคนไม่รู้เท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่อนาคตอาจคนเขียนมืดดังๆ มาสู่ด้านสว่างมากขึ้น จนความมืดอาจอยู่ใกล้ชิดคุณแบบไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×