ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #163 : ที่สุดแห่งปี 2011 By Cammy

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 17.37K
      3
      29 ม.ค. 57

     

    (มองอย่างแมวๆ) Winter 2012 Anime ตั้งกระทู้ที่

    http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2337597

     

    สิ่งที่เป็นธรรมเนียมเมื่อใกล้จะสิ้นปี ก็คือการจันอันดับต่างๆ และอนิเมชั่นก็เช่นกันที่มีการจัดอันดับว่าเรื่องไหนสนุกที่สุด ตัวละครไหนดีที่สุด (พระเอก-และชาย หญิง) และวันนี้ผมก็จุดอันดับอนิเมชั่นแบบตามใจผมดูบ้างนะครับ ดูว่าตามความคิดของผมแล้วอนิเมชั่นปีนี้เราได้อะไรบ้าง

    หลังจากที่ผ่านหูผ่านตา อนิเมชั่นปี 2011 เท่าที่มองภาพรวม อนิเมชั่นดังส่วนมากมักเป็นอนิเมชั่นนอกสายตาครับแปลกดีไหมครับ ส่วนมากมักเป็นออริจินัลนอกสายตาจริงๆ เช่นเรื่อง Mawaru Penguin Drum ที่แทบไม่มีการโฆษณาแม้แต่น้อยกับดังเกินคาด หรือเรื่อง Puella Magi Madoka Magica ที่หลายคนอวยนักหนา สำหรับผมแล้วผมมีรสนิยมค่อนข้างแปลกครับ ผมมักหาการ์ตูนที่หลายคนไม่สนใจในการดูมากกว่า หากการ์ตูนไหนดังคนอวยหรือมาบอกให้ผมดู ผมจะไม่ดูเลย (Puella Magi Madoka Magica คือหนึ่งในนั้น) แม้การ์ตูนจะดี เทพขนาดไหนก็ตาม

    ถ้าจะมองภาพรวมการ์ตูนทั้งหมด ปีนี้สอบตกหลายเรื่องครับ หลายเรื่องที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็ไม่ไปฝั่งฝัน บางเรื่องก็ทำออกมาแป๊กไม่สนุกเลย  แถมบางเรื่องดูแล้วห่วยจัดถึงขั้นต้องหาการ์ตูนเก่าๆ มาล้างดาอีก ทั้งนี้ไม่รู้เป็นเพราะประสบการณ์หรืออายุของผมหรือเปล่าที่ตั้งแง่อนิเมชั่นเหล่านี้ว่าไม่สนุกอันนี้ก็ไม่ทราบได้

    ถ้าถามว่าผมเลือกดูการ์ตูนแนวอะไร นอกจากไม่ดังแล้ว การ์ตูนที่ผมดูส่วนมากเป็นคอมมาดี้ครับ และตลก ดูแล้วหัวใจซาบซ่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เหมาะสำหรับการทำงานที่ผมจะได้เขียนบทความให้เราๆ ท่านๆ ได้อ่านแหละครับ หากซาบซ่ากระชุ่มหัวใจ สมองมันก็แล่น เขียนอะไรมากมายแบบไม่มีหยุด หากการ์ตูนห่วย ดราม่า เครียด ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียนต่อแล้วครับ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่อนิเมชั่นที่สุดของผมส่วนใหญ่จะเนื้อหาคอมมาดี้

    ถ้าเป็นไปได้ ผมชอบฮาเร็มครับ แต่ไม่ใช่ว่าถ้าเป็นฮาเร็มแล้วผมดูหมดน่ะครับ ฮาเร็มที่ดูต้องดูกระชุ่มกระชวย ดูแล้วได้ข้อคิด ไม่ใช่ขายเซอร์วิส บู๊กระจายอย่างเดียว แล้วนางเอกเข้าวินคนเดียว ขอบอกน่าเบื่อสุดๆ ผมว่านางรองยังดีกว่านางเอกด้วยซ้ำไป

    ว่าแล้วมาดูที่สุดการ์ตูนแห่งปีตามความคิดของผมดีกว่าครับ ว่ามันมีอะไรที่เป็นที่สุดบ้าง

     

    อนิเมชั่นที่ชอบแห่งปี - Denpa Onna to Seishun Otoko  

      

    ผมให้อันดับ 1 เพราะมันเป็นฮาเร็มแห่งปี (ในใจผม) แปลกไหมครับว่าทำไมผมไม่เลือก IS Infinite Stratos  ที่หลายคนอวยหนักหนา สาเหตุง่ายๆครับ ว่าการ์ตูนสาวคลื่นไฟฟ้าเป็นการ์ตูนตรงกับฮาเร็มสมบูรณ์แบบในใจผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพระเอกแคะๆ ตัวละครสาวน่ารักออกแบบเด็ดดวง ในขณะที่  IS นั้นพระเอกไม่แคะและตัวละครหญิงออกแบบสูตรสำเร็จพอสมควรจึงไม่ติดและผมไม่ดูด้วยซ้ำ(ต่อให้เรื่องมันดี เทพขนาดไหนก็ตาม) เพราะสิ่งที่ผมต้องการคือมันจะทำให้หัวใจผมกระซุ่มกระซวยได้หรือเปล่า?

    Denpa Onna to Seishun Otoko หรือ Electric Wave Woman and Youthful Man” อนิเมชั่น 12 ตอน กำกับโดยอากิยูกิ เชงโบ (Akiyuki Shinbo) เริ่มออกอากาศในเดือนเมษายน 2011 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง ชื่อ มาโกโตะ นิวะ ที่ได้บ้านและย้ายโรงเรียนมาโรงเรียนมาเรียนต่อที่เมืองแห่งหนึ่งซึ่งเขมาอาศัยอยู่กับญาติ  และเขาก็ได้พบสาวน้อยสุดน่ารักนาม เอริโอ้ ที่สุดเพี้ยนและขี้อาย และอีก 3 สาว ที่เป็นสาว เพี้ยนเหมือนกัน แต่ความเพี้ยนจะเพี้ยนมากหรือเพี้ยนน้อยก็แล้วแต่เอกลักษณ์ของแต่ละคนซึ่งการ์ตูนเรื่องผมดูแล้วกระซุ่มกระซวยจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ ตัวละครที่มีกริยาบทที่น่าดูน่าชม การดำเนินเรื่องสื่อถึงความเป็นวัยรุ่นซาบซ่า  ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ปลายทางของเรื่องที่ลงเอยว่าตัวเอกและเหล่าสาวๆ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมกับการพัฒนาบุคลิกส่วนตัวอย่างมีหลักมีเกณฑ์ ดูแล้วอิ่มใจ ไม่มีดราม่าปวดตับแต่อย่างใด

    ส่วนอนิเมชั่นที่ผมสนใจรองลงมา ก็เช่นอันดับ 2.Oniichan no Koto Nanka Zenzen Suki Janain Dakara ne!! ฮาเร็มของพี่ชายหื่น แม้ว่าสัดส่วนตัวละครจะเพี้ยนๆ ไปบ้าง แต่ผมดูแล้วเพลินครับ มังงะก็อยู่ในข้างที่นอน ดูก่อนนอนก่อนหลับประจำ รองลงมาก็อันดับ 3. Ano Hi Mita Hana no Namae o Bokutachi wa Mada Shiranai หลายคนบอกว่าเฉยๆ แต่ผมกลับดูแล้วประทับใจดีครับ ฉากจบออกจะดี แอปปี้หลายฝ่าย หรือจะเป็นอันดับ 4.Mawaru Penguin Drum  ม้ามืดแห่งปี ผมขอบอกว่าผมไม่ได้ดู งง เลยสักนิดครับ ดูแล้วเข้าใจด้วยซ้ำแต่คนดูมันอุปทานหมู่ดูไม่รู้เรื่องมากกว่า  และอันดับ5.Boku wa Tomodachi ga Sukunai แม้เนื้อหาตัดทอนจากไลน์โนเวลพอสมควร แต่ได้ดูเซนะในชุดว่ายน้ำก็ไม่เสียชาติเกิด แล้วละ

    ส่วนอนิเมชั่นรองลงมาก็ได้แก่ อันดับ6. C (anime)ไอเดียดี แต่ตอนจบมึน, อันดับ 7.Fractaleแม้คุณภาพห่วยแตก ก็อปจากการ์ตูนค่ายจิบบิมาเพียบ ทั้งลาพิวก้า หรือเจ้าหญิงแห่งหุบเขาสายลม บลาๆ แต่กระนั้นชอบแนวคิดมัน ชอบพระเอกมัน แค่นี้ก็พอใจแล้วละ, อันดับ 8.Guilty Crown เพราะเนื้อหาเดาทางง่ายเกินไป สิ่งเดียวที่ผมให้อยากดูก็คือซูมันจะได้ฮาเร็มไหม(??), อันดับ 9. PERSONA 4 The Animation เสียดายที่เอาเรื่องของเกมมาใส่ในอนิเมชั่นมากเกินไป ทำให้มีหลายจุดไม่เข้าใจ (โดยเฉพาะท่าไมตาย) แต่โดยรวมสนุกน่า และอันดับ 10. Steins;Gate มานึกตอนหลังได้ว่าเรื่องนี้ งง หลายจุด ข้อแนะนำคือวันหลังไม่ควรนำเรื่องย้อนเวลามาทำการ์ตูน ทำแล้ว งง ชิบหาย


                     

    อนิเมชั่นเข็นไม่ขึ้นแห่งปี- Cube x Cursed x Curious (C3)


                 ถ้ามีรางวัลภาพยนตร์ยอดแย่ ผมก็มีรางวัลอนิเมชั่นยอดแย่แห่งปีบ้าง ไม่รู้หลายคนคิดเหมือนผมอะไรหรือเปล่า แต่ผมให้อนิเมชั่นเรื่อง
    Cube x Cursed x Curious (C3) เข็นไม่ขึ้นแห่งปี แม้จะมีอนิเมชั่นมากมายที่ทำออกมาไม่สนุก แต่เรื่องนี้ทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นการ์ตูนเรื่องเดียวในชีวิตที่ผมเลิกดูกลางคันและไม่มีความคิดอยากจะดูอีกเลย(ผิดจากเรื่องอื่นๆ ที่ผมเลิกดูกลางคันแล้วเกิดความรู้สึกเสียดายอยากกลับมาดูอีกบ้าง แต่เรื่องนี้ไม่เกิดความรู้สึกนี้เลย)

    Cube x Cursed x Curious (C3) เป็นการ์ตูนสร้างจากนิยายไลน์โนเวล ซึ่ง เป็นเรื่องราวของฮารุอากิ ยาจิเด็กมัธยมปลายที่ได้พบ ซึ่งเป็นสาวน้อยต้องสาปจนเกิดปัญหาวุ่นๆ ตามมา โดยตอนแรกที่ออกมา หลายคนติกัน ส่วนผมก็พยายามเป็นแฟนอวยเดนดาย ขอร้องให้คนระงับอารมณ์บ้าง แบบว่าแค่ตอนแรกอยู่ อย่าตัดสินอะไรมาก อย่างน้อยเพลงก็เพราะ ฮาเร็มเซอร์วิส ตัวละครน้อยน่ะ แม้ออกแบบสูตรสำเร็จก็เถอะ แต่หลังจากดูหลายๆ ตอนผลปรากฏว่าเข็นไม่ขึ้น ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นานวันความสนุกเริ่มลดลง ทั้งที่นางเอกน่ารักแท้ๆ แต่บทที่ทำออกมาไม่น่าติดตามเลย  ผมว่าคนเขียนการ์ตูนผิดพลาดตั้งแต่เลือกวางบทให้พระเอกรู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับของต้องสาปตั้งแต่แรกแล้ว หากสร้างตัวเอกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย จะได้สร้างอารมณ์น่าติดตามมากกว่านี้เสมือนหนึ่งพระเอกคือตัวเรา ที่ผิดพลาดที่สุดคือการเอาตัวละครต่างๆ ที่เข้ามาแบบไม่มีที่ไป(มีพลังวิเศษหมด) องค์กรชั่วร้าย(ประจำ) แต่ผิดพลาดสุดๆ คือการ์ตูนเรื่องนี้อารมณ์ไหนกันแน่ จะการ์ตูนแอ็คชั่น โรแมนติก ฮาเร็ม ตลก คอมมาดี้ เลือกเอาสักอย่างสิ ผสมปนเปจนหงุดหงิดหมด ฉากต่อสู้ที่เข้ามาก็ทำได้ไม่ดีนัก ฉากเลือดสาดที่ไม่มีความจำเป็น หักมุมแบบใช้ไม่ได้  งานอาร์ตศิลปะลูกเล่นเหมือนจะดูดีแต่ล้มเหลวเพราะแทนที่จะดูแปลกกลับกลายเป็นความรำคาญ ไม่มียังจะดีกว่า (เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักศัพท์ Anti Climax ซึ่งหมายถึงจุดสุดยอดที่ปราศจากความเข้มข้นที่ใช้สำหรับนิยามการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย) การดำเนินเรื่องที่เหมือนคนเขียนบทไม่เต็มใจทำ เซอร์วิสก็เหมือนจับยัด และเป็นการ์ตูนที่หลายคนใช้คำนิยามว่ากุโระผิด กุโระจะต้องมีเรื่องเซ็กต์ เพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เห็นตัวละครตายเกิดความอารมณ์ทางเพศ หากไม่มีก็เป็นเพียงเลือดสาดธรรมดา (สรุปคือเป็นการ์ตูนที่ผมอวยไม่ลง)

     

                   อนิเมชั่นเผาวอดแห่งปี - Fractale


                ผมยกให้อนิเมชั่น
    Fractale เป็นอนิเมชั่นเผาวอดที่สุดแห่งปี เนื่องจากผมเห็นงานเผาแบบจะๆ ตา ซึ่งน่าเสียดายมาก หากใส่ใจกับงานภาพสักนิดล่ะก็ บางทีอนิเมชั่นเรื่องนี้อาจประทับใจใครต่อใครหลายคนก็ได้

    ที่จริง Fractale ก็น่าสนุกเต็มไปด้วยข้อคิดคติสอนใจโดยเป็นเรื่องราว โลกยุคอนาคตที่ปกครองโดยแฟรคเทลซิสเต็ม ที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตและดำรงภายใต้เทคโนโลยีและการปกครองเผด็จการทำให้เหล่าผู้คนขี้เกียจลง ทำอะไรก็ไม่เป็น หวังพึ่งแต่เทคโนโลยีไปหมด และเวลานั่นเอง เครน เด็กชายแสนธรรมดาได้ช่วยเหลือสาวน้อยนักบวชลึกลับคนหนึ่งชื่อ ฟรีนเน่ ที่โดนกลุ่มบุคคลลึกลับไล่ล่ามา และแล้วการผจญภัยของเคลน(และฮาเร็มของเครน)จึงเริ่มต้นขึ้น.......

    อนิเมชั่นดังกล่าวกำกับโดยยาโมโตะ ยูทากะผู้กำกับคนดังที่ออกมาท้าว่าถ้าอนิเมชั่นไม่ดัง เขาจะลาออก และเขาก็ลาออกจริงๆ เพราะอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ดัง ด้วยสาเหตุหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ออกดันไปชนกับอนิเมชั่นดังเข้า (Mahou Shoujo Madoka Magica) และพล็อตเรียกง่ายเกินไป แฟนตาซีพื้นๆ เก่าๆ สูตรสำเร็จค่อนข้างมาก สาเหตุหลักใหญ่ๆ ที่ทำให้อนิเมชั่นล้มเหลวก็คืองานภาพที่ทำไม่ค่อยมีพิถีพิถันจนถึงขั้นเผาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอนแรกที่มีการออกแบบตัวละคร นั้นตัวละครออกน่ารักน่าชัง  แต่เมื่ออนิเมชั่นออกมาหลายคนกลับผิดหวังเมื่อตัวละครที่ออกมานั้นแตกต่างกับตอนแรกอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะตัวละครพระเอกเครนที่ในมังงะจะดูออกมืดมนเล็กน้อย หากแต่เมื่อเป็นอนิเมชั่นกลับเหมือนเด็กผู้ชายธรรมดา เป็นต้น นี้ไม่นับเรื่องคนพากย์เสียงตัวละครที่ไม่ตรงบุคลิกตัวละครนั้นๆ อีก  นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเรื่องเพลงประกอบการ์ตูน ซึ่งหลายคนบอกว่าเสียงเพลงนั้นใช้เพลงคลาสสิก หากแต่ยังขาดความจริงใจในการแสดงอารมณ์และไม่ลงทุน(ไม่มีภาพประกอบ OP แม้แต่น้อย) ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่นักวิจารณ์หลายคนกล่าวถึงการ์ตูนเรื่องนี้ในเชิงลบเป็นส่วนมาก ทำให้ Fractal อาจไม่ใช่การ์ตูนที่ยอดเยี่ยมในสายตาของใครหลายคน หรือมีแนวคิดที่แปลกใหม่นัก แต่สำหรับผมแล้วก็การ์ตูนนี้น่าติดตามใช้ได้ ดูไปเรื่อยๆ ฆ่าเวลาได้ดี และจบลงอย่างมีสุข  (แนะนำดูมังงะดีกว่า มังงะภาพสวยน่ารักกว่านอนิเมชั่นมาก)

     

     

                    ไม่มีวาสนาได้ดู (และไม่คิดที่จะดู) Puella Magi Madoka Magica

     

    ปกติผมไม่ค่อยได้ดูอนิเมชั่นสักเท่าไหร่ครับน่ะครับ มันไม่เหมือนมังงะที่ดูเมื่อไหร่ก็ได้ ดูห้องน้ำก็ได้ ดูก่อนนอนก็ได้ และใช้เวลาดูค่อนข้างน้อย(แต่ดูหลายรอบ) ซึ่งอนิเมชั่นนี้ผมเตรียมการหลายอย่างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นต้องเตรียมเวลา (มีเสบียง, มีเวลาว่าง) และต้องเตรียมใจ(ต้องดูว่าเรื่องที่ดูเหมาะกับตนเอง, โดนใจ, ฉากจบดี) และอนิเมชั่นบางเรื่องผมยังตั้งแง่ด้วยว่า “ฉันจะไม่ดู” โดยไม่สนว่ามันจะสนุก คนอวยมากเพียงใด ตั้งแง่นี้คือเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ คือ พระเอกไม่แคะว่ะ มีแต่แอ็คชั่น ไม่ชอบนางเอก คนมาแนะนำ เรื่องนี้ดัง ยิ่งเป็นบทความนี้ผมยิ่งไม่อยากเขียนถึงใหญ่หากเรื่องไหนมันดัง เพราะผมอยากแนะนำการ์ตูนดีๆ ที่หลายคนไม่สนใจมากกว่า หากไม่ใช่แนวผมที่ผมชอบจริงๆ นี้ผมจะไม่ได้ดูเลย

    ดังนั้นปีนี้ผมพลาดอนิเมชั่นดีๆ หลายเรื่องมากครับ และหนึ่งในนั้นคือ Puella Magi Madoka Magica หรือ “สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ มาจิกะ” กำกับโดย อะคิยูกิ ชินโบ ซึ่งเนื้อหาภายนอกเหมือนสาวน้อยทั่วไปคือเด็กสาวถูกเลือกเป็นแม่มดสู้กับสัตว์ประหลาดมากมาย แต่เมื่อฉายนานวันเข้าอนิเมชั่นก็โด่งดังเหลือเชื่อเพราะความแปลกแหวกแนวเป็นไปได้มากกว่าอนิเมชั่นสาวน้อยเวทมนต์ทั่วไป ก่อให้เกิดศัพท์และมุกต่างๆ มากมายเอามาเล่นอย่างสนุกสนาน และเชื่อเปล่าครับว่าจนบัดนี้ผมไม่ได้ดูเลยว่าเรื่องนี้เป็นยังไง มันแปลกใหม่อะไร แหวกแนวยังไง ส่งผลทำให้ผมก็ไม่รู้สึกว่าว่ามุกเจ้าคิวเบมันคืออะไร ทำไมหลายคนถึงเกลียดคิวเบ เกลียดเพราะอะไร โดจิน(ทั้งโป๊*ไม่โป๊) สินค้าที่ออกมามายก็ไม่กระดุ้นให้ผมอยากดูแม้แต่น้อย เพราะผมคงตั้งแง่ว่าเรื่องนี้มันดังและมีคนมาแนะนำ สำหรับผมแล้วยิ่งบอกยิ่งทำตรงข้าม บอกให้ดู ผมก็จะไม่ดูซะเลย (หากผมดูตอนแรกและไม่มีใครมาแนะนำนี้ผมคงดูไปนานแล้ว ) และผมอีกว่าผมจะดูอีกไหม อืม...อนาคตไม่แน่ ผมอาจจะได้ดูก็ได้ หากแต่ตอนนี้การ์ตูนที่ผมโหลดใส่แผ่นเอาไว้มันหายไปไหนก็ไม่รู้ เอาเป็นว่ารอสัก 2-3 ปีคุณอาจจะได้เห็นผมพูดถึง Puella Magi Madoka Magica ก็ได้ใครจะไปรู้

    ส่วนอนิเมชั่นที่ไม่มีวาสนาดูนอกเหนือจากนี้ก็เช่น Toaru Majutsu no Index II (ไม่เข้าใจว่ามุกบิริบิริดุ้นคืออะไร?), Tiger and Bunny, Chihayafuru, Ben-To, Fate/Zero ซึ่งที่ผมไม่ได้ดูก็เพราะปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งผมอยากดูอะไรที่เบาสมองดูแล้วสบายใจ ไม่จิตตกทำงานมากกว่า (แต่ส่วนใหญ่มาจากการตั้งแง่ส่วนตัวผมแหละ) ดังนั้นใครที่อยากให้ผมรีวิวหรือบ่นการ์ตูนเรื่องอะไร ผมจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

     

     

    เพลงประกอบอนิเมชั่นที่ชอบแห่งปี Ano Hana – Secret Base

                     

    ปกติผมชอบเพลงมันๆ โดนใจ ติดหู ฟังแล้วมีอารมณ์ในการทำงานมากกว่าเพลงเศร้าๆ ชวนหดหู่มากกว่า ที่น่าสังเกตคือปีนี้เพลงเพราะๆ ที่ผมชอบส่วนใหญ่ ดันเป็นเพลงจากการ์ตูนที่ผมไม่ชอบเลย ไม่ว่าจะเป็น เพลงเปิดของ C3 หรือจะเป็นเพลงเปิดของ Kami-sama Dolls  อย่างไรก็ตามทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอเลือกเพลงจบตอนจากการ์ตูนเรื่อง Ano Hana คือ Secret Base -Kimi ga Kureta Mono โดยวง ZONE  มาเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็นคำแปลของเพลงและเนื้อหาและภาพประกอบเคลื่อนไหวเพลงที่แสนจะลงตัว ทำนองร้องที่สดใส บวกกับหดหู่ประทับใจเล็กน้อยชวนนึกถึงเพื่อน(แม้ผมจะมีแต่เพื่อนกินก็เถอะ) และได้อารมณ์แฟนฉันสมัยเด็กมากๆ โดยเนื้อหาจะกล่าวถึงวัยเด็กทั้ง 6 คนที่เล่นด้วยกันในตลอดช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ ที่ฐานทัพ โดยประโยคสุดท้ายแปลคร่าวๆ ว่า “ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกับฉัน หวังว่าสิบปีข้างหน้าเราจะพบกันอีก แด่ความทรงจำที่แสนล้ำค่า” โหยอ่านแล้วอิ่มสุดประทับใจจริงๆ  (อ่านแล้วชักอยากดูการ์ตูนเรื่องนี้อีกแล้วแล้วสิ)

     
                    คู่รักแห่งปี Takakura  Shouma X Oginome Ringo

      

    แน่นอนว่าหลายคนคงมีคู่รักพระเอก-นางเอก(หรือนางรอง) อยู่ในใจบ้างสำหรับอนิเมชั่นปีนี้ ส่วน ผมยกให้ Shouma Takakura X Ringo Oginome จากการ์ตูน Mawaru PenguinDrum หนุ่มแคะกับสโต็กเกอร์ เป็นคู่รักที่เหมาะสมแห่งปี ด้วยการวางบท ซ่อนปมได้ดีมาก การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน กว่าจะรัก กว่าจะชอบนี้ ต้องผ่านลุ้นหลายเหตุการณ์  

    Mawaru PenguinDrum เป็นการ์ตูนม้ามืดแห่งปีที่ผมดูแล้วถูกใจตั้งแต่ตอนแรก ไม่น่าเชื่อเลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะออกมาอย่างเงียบๆ แทบไม่มีการโฆษณาแม้แต่น้อย แต่ด้วยเนื้อหา ตัวละครที่มีเสน่ห์ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นการ์ตูนม้ามืดกู้ศรัทธาการ์ตูนซีซั่นปีนี้ที่ช่วงหลังๆ แผ่วปลายในที่สุด โดยการ์ตูนเป็นเรื่องราวของหนูเถิกทาคาคุระ ฮิมาริที่ป่วยเป็นโรครักษาไม่หาย และได้รอดอย่างปาฏิหาริย์จากความตายจากจิตวิญญาณที่แปลกประหลาดที่อยู่ในหมวกรูปนกเพนกวิน อย่างไรก็ตามเพื่อการแลกเปลี่ยนจากการต่อชีวิตของฮิมาริ สองพี่น้องทาคาคุระ คันบะและโชมะจะต้องตามหา “เพนกวิน ดรัม” ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร?

    ตอนแรกผมก็นึกว่าเป็นการ์ตูนจีบสาวไปวันๆ ที่ไหนได้ เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับโชคชะตาของกลุ่มคนต่างๆ ภายในเรื่องที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันและกันต่างหาก ส่วนตอนแรกผมก็นึกว่าเป็นการ์ตูนจีบสาวคือสองพี่น้องต้องทำตามคำสั่งฮิมาริในร่างราชินีเพนกวินให้ไปเอาเพนกวินดรัมจากคนที่ชื่อโอกิโนเมะ ริงโกะมาให้

    ตอนแรกสองพี่น้องก็ไม่รู้จักริงโกะหรอกว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ทำให้ตอนแรกสืบเรื่องราวของเธอแบบคร่าวๆ ก็ทราบว่าเธอมีอายุพอๆ กับโซมะ เป็นเด็กมัธยมปลาย พ่อแม่แยกทางกัน และหลังจากตามสะกดรอยก็พบว่าเธอเป็นสาวสโต๊กเกอร์ที่แอบหลงรักทาบูกิซึ่งเป็นครูประจำชั้นของโซมะชนิดที่เรียกว่าอยากมีลูกให้ได้ ทำให้คัมบะเห็นว่าโชมะน่าจะจัดการได้ดีกว่า เลยสั่งให้โชมะจับตาริงโกะเพื่อสบโอกาสขโมยเพนกวินดรัม(ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร) จากนั้นเป็นต้นมาโชมะก็พยายามอยู่ใกล้ชิดริงโกะเพื่อหวังจะขโมยเพนกวิน ดรัม ซึ่งทำให้ริงโกะรำคาญโชมะมาก ซ้ำตอนหลังริงโกะยังให้โชมะเป็นผู้ช่วยของเธออีก และด้วยนิสัยแคะๆ ของโชมะ โชมะจำเป็นต้องทำตามริงโกะสั่งอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งคำสั่งของริงโกะแต่ละอย่างนี้บ้าๆ ทั้งนั้น เช่นยกเฟอร์นิเจอร์(เกือบจะย้ายบ้านแนะ)ไว้ใต้ถุนของห้องฮิบูกิแล้วเอากลับไปไว้ที่เดิมใหม่, เอาตัวมารองรับกบน่าเกลียดเพื่อทำยาเสน่ห์ ฯลฯ  แต่ในที่สุดริงโกะก็ไม่สามารถรักทาบูกิได้เพราะโซมะได้เข้ามาอยู่ในใจของริงโกะเป็นที่เรียบร้อย เพราะโชมะทำทุกอย่างเพื่อเธอ รวมถึงเอาชีวิตเขาปกป้องเธอมาแล้ว หากแต่เนื้อเรื่องก็พลิกอีกเนื่องจากริงโกะได้รู้ความจริงว่าพ่อแม่ของโชมะเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่ก่อคดีสังหารหมู่ที่ทำให้พี่สาวของริงโกะตายไปก่อนที่ริงโกะเกิดมา ทำให้โชมะไม่กล้าเข้าหน้าริงโกะ เพราะคิดว่าริงโกะเกลียดชังเขา อีกทั้งริงโกะเองก็ไม่มีเพนกวิน ดรัม(ไดอารี่?) ด้วย โชมะเลยบอกริงโกะให้ยกเลิกที่จะคบหากันเพื่อเป็นการถนอมจิตใจทั้งสองฝ่ายไม่ให้เจ็บปวดมากกว่านี้  ซึ่งความจริงแล้วริงโกะไม่ได้เกิดความรู้สึกแค้นใดๆ เลย (โชมะตอนนี้ยังไม่รู้สึกรักริงโกะ แต่ริงโกะรักโชมะเรียบร้อย) และความรักทั้งคู่จะจบลงแบบไหน จะได้สมหวังหรือเปล่าก็ติดตามต่อไป

     

     

    แต่งกายยอดแย่แห่งปี Atsumu "Yukiatsu" Matsuyuki

      

    รางวัลนี้อยากมอบให้แก่ ยูคิอัตสึ จากการ์ตูนอนิเมชั่น Ano Hi Mita Hana no Namae wo Bokutachi wa Mada Shiranai (ต่อไปนี้ขอย่อว่า Ano Hana) แต่เพียงผู้เดียว ในฐานะเป็นตัวละครที่แต่งกาย(เป็นสาวดุ้น)ยอดแย่แห่งปี

    Ano Hana เป็นการ์ตูนที่อารมณ์คล้ายๆ กับ “แฟนฉัน” แต่ดราม่ามากกว่า โดยเป็นเรื่องราวกลุ่มเพื่อนสนิทสมัยเด็ก 6 คน ที่ สนิทกันมากในวัยเด็ก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนเติบโตขึ้นและเข้าสู่ชั้นมัธยมปลาย ความสนิทก็ ลางเลือน กลายเป็นไม่ได้คุยกันแม้แต่สัญญาที่เคยทำกันไว้ก็ไม่มีใครจำได้ แต่แล้วเหตุการณ์บางอย่าง เกิดขึ้นกับ "เมนมะ" เธอได้เสียชีวิตลงไปเมื่อหลาย ปีก่อน ซึ่งเธอกลับมาในสภาพของ " วิญญาณ" มาหา " จินตัน " ซึ่งมีแต่จินตันคนเดียวที่มองเห็น และเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ความปรารถนาของเมนมะให้สำเร็จ โดยเขาจะต้องสารสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทในวัยเด็กให้กลับมาอีกครั้ง

    Ano Hana เป็นการ์ตูนที่ผมค่อนข้างชอบนะครับ อารมณ์เหมือนแฟนฉัน แม้เนื้อหาจะสามารถเดาตอนจบได้ แต่กระนั้นผมดูที่บุคลิกตัวละคร ที่แต่ละตัวโด่งเด่นจริงๆ และหนึ่งตัวละครที่แสนโดดเด่น(??) นั่นก็คือมัตสึยูคิ อาสึมุหรือยูคิอัตสึนั่นเอง

    ยูคิอัตสึ เป็นหนึ่งในเด็กทั้ง 6 คนที่ค่อนข้างจะบุคลิกภายนอกเหมือนเด็กหนุ่มเยือกเย็น แต่ความจริงแล้วเขามีงานอดิเรกที่ไม่เหมือนใครนั่นคือการแต่งหญิง!! อารมณ์ประมาณว่าเหมือนฆาตกรโรคจิตยังไงชอบกล คือเป็นคนที่รับไม่ได้ว่าเมมะคนที่ตนแอบชอบตายแล้ว และจากนั่นเขาก็คิดว่าตนเองมองเห็นวิญญาณเมมมะ และพยายามทำเหมือนเมมมะมีชีวิตอยู่ เช่นเก็บชุดผ้าสีขาวที่คล้ายกับชุดที่เมมมะใส่ตอนเต็กเก็บเอาไว้ในในตู้ และหากเวลาว่างๆ ก็ดมเสื้ออย่างกับพวกโรคจิตดมกางเกงในสาว เท่านั้นยังไม่พอยังอุตส่าห์แต่งตัวเป็นเมมมะ ใส่ชุด ใส่วิกด้วย แต่ดูเหมือนหนุ่มเยือกเย็นไม่ได้ศึกษาวิชาการแต่งดุ้น แทนที่จะแต่งดุ้นขึ้นกลับกลายเป็นสาวดุ้นกระเทยควายไปซะงั้น เท่านั่นยังไม่พอเจ้าหนุ่มเยือกเย็นยังแต่งชุดโชว์ตัวให้เหล่าจินตันและพรรคพวกได้เห็นอีก พอจับได้พี่แกก็แถดราม่าไปเรื่อย ผมดูแล้วทำหน้าบอกบุญไม่ถูกเลย หลังจากนั่นเป็นต้นมาเวลาไหนที่ต่อให้ยูคิอัตสึปรากฏตัวมีบท เก๊กหล่อ ทำตัวแมน เยือกเย็นเท่าใดผมก็ไม่สามารถสลัดภาพยูคิอัตสึแต่งหญิงที่แสนจะยอดแย่ได้เลย พูดง่ายๆ เสียลุคหนุ่มหล่อโดยสิ้นเชิง

     


                   ตัวละครเสื่อมแห่งปี - ชิกุมะ ริกะ

      
                บางครั้งความเสื่อมไม่ต้องเซอร์วิสอะไรมากมาย ขอให้เสื่อมแบบให้คนดูเกิดความคิดว่าตัวละครตัวนี้จิตไม่ปกติ คิดอะไรหื่นๆ จนเสียเส้น แค่นี้ก็สามารถกลายเป็นตัวละครเสื่อมเทพได้แล้ว และอนิเมชั่นปีนี้แม้ว่าจะเป็นตัวละครเสื่อมหลายคน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครจาก
    Oniichan no Koto Nanka Zenzen Suki Janain Dakara ne!, R-15, แต่กระนั้นผมให้ริกะจาก Boku wa Tomodachi ga Sukunai หรือชมรมคนไร้เพื่อน ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์

    Boku wa Tomodachi ga Sukunai เป็นเรื่องราวของพระเอกโคดากะที่ด้วยหน้าตาเหมาะนักเลงห้าร้อยทำให้ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนจนกระทั้งเขาพบเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งชื่อโยโซระที่พาเขาจัดตั้งชมรมเพื่อนบ้านเพื่อหาเพื่อนและเขาก็ได้พบผู้หญิงแปลกๆ มากมายเข้ามาในชีวิตเขา หนึ่งในนั้นคือ ชิกุมะ ริกะ เด็กสาวรุ่นน้องของโคดากะเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแต่ทักษะการคบเพื่อนต่ำ ที่โคดากะไปเจอในขณะสลบเพราะผลการทดลองทางเคมีในห้องวิทยาศาสตร์ และต่อมาริกะเกิดสนใจในตัวโคดากะเลยขอเข้าชมรมเพื่อนบ้านเพื่อใกล้ชิดกับเขา แต่เมื่อเข้ามาในชมรมริกะก็เผยซะบุคลิกหมดอัจฉริยะเลย เพราะเธอมีความเพี้ยนได้โล่นิสัยบ้าๆ บอๆ ถนัดเรื่องเสื่อม แม้ตัวละครเสื่อมจะมีมากมาย แต่ผมว่าริกะนี้เด่นแปลกไม่เหมือนใครจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาจิ้นเรื่องตนเองโดนข่มขืนโดนพบโคนาดะครั้งแรกทำได้ติดตาไร้ที่ติ(และยังชอบอ่านะโดจินบอยเลิฟแนวหุ่นยนต์ที่ไม่มีสาวบ้าวายที่ไหนอ่าน(ยิ่งตอนล่าสุดที่ริกะดูขอพ่วงรถไฟยังเกิดอารมณ์ได้เทพจริงๆ นอกจากนั้นยังชอบมักจิ้นวาย และมักสิ่งเสียอุทานแปลกๆ เช่น ยูนิเวิร์ส เอ็กซ์คาลิเบอร์ และท่าเสื่อมได้โล่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฉากเปิด OP ทำท่าเลียไมค์ เสื้อกาวน์ทับชุดว่ายน้ำ ฯลฯ แต่ถึงแม้จะเป็นสาวเสื่อมแต่ก็สอดแทรกประเด็นน่าสงสารเข้าไปด้วย เช่น เป็นโรคเก็บตัวไม่กล้าคบใคร แต่พอมาอยู่ชมรมริกะมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ พูดคุยเปิดอกแก่คนในชมรมเสมือนหนึ่งเพื่อนได้แล้ว ผมว่าริกะอาจเป็นอีกคนที่มีความสุขแล้วล่ะ

     

                    ตัวประกอบหญิงอวยแห่งปี -ชิกุมะ ริกะ, คุสุโนกิ ยูคิมูระ, ฮาเซกาว่า โคบาโตะ(น้องผัก). มาเรีย

                     

    อย่างที่ผมว่าไว้ตอนต้นๆ แม้ว่าอนิเมชั่น Boku wa Tomodachi ga Sukunai หรือชมรมคนไร้เพื่อนจะมีเนื้อหาแตกต่างจากไลน์โนเวลพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนเนื้อเรื่องลดลง การเปลี่ยนฉาก ผิดหลักการ์ตูนฮาเร็มนิดหน่อยตรงที่อนิเมชั่นไม่ได้จัดอวยตัวละครหญิงนั้นๆ หนึ่งตอนเต็มๆ แต่กระนั้นสิ่งที่เข้ามาทดแทนที่ทำให้ผมชอบอนิเมชั่นเรื่องนี้คือการสร้างบท การเคลื่อนไหวตัวละครหญิงในเรื่องที่แสดงท่าทางการอวยได้ใจผมเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า รอยยิ้ม ที่สามารถทำให้ผู้ดูชอบโดยไม่มีตัวละครไหนกล้าเข้าวิน(??)  ได้เลย  และเป็นการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่เหล่าตัวละครหญิงลงตัว ทั้งๆ ที่การตัวละครผู้หญิงเยอะถึง 6 คนอีกทั้งการออกแบบและนิสัยของแต่ละตัวบางตัวเหมือนมีตัวละครต้นแบบจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ก็ตาม

    ตัวอย่างเช่นตัวละครตัวประกอบ(??) ทั้งสาม ริกะ, ยูคิมูระ, มาเรีย, โคบาตะ(น้องผัก) ที่ตอนที่ 11 อวยอย่างได้น่ารักน่าชัง คือ สาวเสื่อมริกะที่ดูแต่แรกเหมือนสาวบ้าวิทยาศาสตร์เสื่อมเหมือนตัวละครจากการ์ตูนธรรมดาทั่วๆ ไป แต่กระนั้นการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องนี้กลับทำให้ริกะทำได้หน้ารัก หรือเสื่อมบ้าได้โล่ โดยเฉพาะตอนที่ 11 ของอนิเมชั่นทำได้ดีน่ารักไม่ว่าจะเป็นฉากกินช็อกโกบันน่าหรือฉากพระเอกชมว่าน่ารัก ริกะก็เริ่มเป็นสาวน้อยธรรมดาแล้ว, ส่วนยูคิมูระเองแม้ว่าอนิเมชั่นบทจะไม่ค่อยมาก แต่ออกแต่ละทีก็แทบใจละลาย ด้วยเสียงและสีหน้าเหมือนสาวเงียบ แต่ไม่เงียบ เพราะยังยิ้ม มีความรู้สึกที่แอบชอบพระเอก อารมณ์ประมาณว่าขอแค่อยู่ใกล้ ขอให้ทำตัวเป็นประโยชน์ก็ไม่เอาอะไรอีกแล้วช่างน่ารักจริงๆส่วนโคบาโตะ(น้องผัก) ผมก็ชอบ แม้ว่าผมจะไม่ใช่พวกสายน้องสาวเพราะชีวิตจริงน้องสาวผมไม่ได้น่ารักเหมือนในการ์ตูน แต่ก็เป็นตัวละครที่อดไม่ได้ที่จะรัก ใครมีน้องสาวแบบนี้โชคดีเป็นบ้า โดยเฉพาะตอนที่น้องโคบาตะ(น้องผัก)ซึนแตกร้องเรียก “พี่จ๋า” นี้น่ารักมากๆ ส่วนมาเรียอาจน่ารำคาญแต่ผมว่าขาดเธอไม่ได้เหมือนกัน  เรียกได้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ผมอวยตัวละครหญิงทุกตัว อิจฉาพระเอกโคดากะจังไม่ต้องหาเพื่อนแล้ว เอาฮาเร็มไปเถอะ ฮาเร็มแบบนี้หายากน่ะเออ

     

    สาวซึนแห่งปี- อันโจ นารุโกะ.

      

    สาวทวินเทลกลายเป็นตัวละครหลักในการ์ตูนเกือบทุกเรื่องในเวลานี้ ด้วยความเป็นตัวละครที่เหมือนจิตใจเข้มแข็ง แต่ภายในจิตใจนั้นอ่อนแอ และเมื่อพระเอกทำลายกำแพงจิตใจเมื่อไหร่ ซึนแตกทันที เดเระพุ่งออกมา ส่งผลทำให้คนดูอวยกันทั่วหน้า

    สำหรับอนิเมชั่นปีนี้มีสาวทวินเทลซึนมากมายหลายตัว บางตัวดังด้วยซ้ำ แต่ผมกลับเลือกอันโจ นารุโกะ หรือ อานารุ จากอนิเมชั่นเรื่อว Ano Hana ที่เวลาซึนแตกน่ารักจริงๆ

    อานารุเป็นเพื่อนวัยเด็กคนเดียวในเรื่องที่ใกล้พระเอกจินตันที่สุด ปรากฏตัวตนแรกก็แสดงอาการสาวทวินเทลซึนชนิดเผาขนโดยบอกพระเอกว่า “ที่จริงฉันไม่อยากมาหานายหรอก แต่พอดีบ้านเราใกล้กันนะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ” ดูก็รู้เลยว่านี่คือซึนเดเระชัดๆ

    ภายนอกแม้ว่าอานารุมักแสดงทัศนคติที่มีต่อจิตันแบบเย็นยา แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนวัยเด็ก 6 คนที่เป็นห่วงจิตันมากที่สุด ภายนอกเหมือนสาวทันสมัย จนหลายคนบอกว่าเธอเปลี่ยนไปจากตอนเด็กค่อนข้างมาก ทั้งที่นิสัยตอนเด็กเธอเป็นคนขี้อายและเงียบที่สุดในกลุ่มแท้ๆ ความจริงแล้วเธอไม่ได้เปลี่ยนไป ที่เปลี่ยนก็แค่ภายนอกเท่านั้นที่เธอมักได้รับอิทธิพลต่อคนรอบข้างมาเป็นแบบอย่าง  แม้ภายนอกซึนแต่ความจริงรักจิตันมากๆ ถึงกับเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่เดียวกับจินตัน แต่แล้วจินตันกลับกลายเป็นเด็กเก็บตัว ทำให้เธอพยายามที่จะดึงเขากลับมา แม้จะยากลำบากก็ตาม

     

     

    จิตตกแห่งปี –ดันไปอ่านสปอยตอนจบ Usagi Drop

     
               เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเกลียดการสปอยตอนจบการ์ตูน แม้ว่าผมจะเจอสปอยบ่อยๆ ในบทความนี้ก็รับได้ อย่างมากก็เลิกดูการ์ตูนคนที่มาสปอยเลย(ในเมื่อรู้ตอนจบแล้วฉันจะดูทำไมอีกล่ะ) แต่กระนั้นผมจิตตกสุดเมื่อได้อ่านตอนจบ ของอนิเมชั่น
    Usagi Drop ที่หลายคนแนะนำผมว่าเป็นการ์ตูนดี (หลังๆ ไม่เห็นมีใครแนะนำผมแล้วละ แสดงว่าหลายคนคงอ่านตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว เลยไม่อยากแนะนำผมสักเท่าไหร่)

    Usagi Drop เนื้อเรื่องกล่าวถึง คาวาจิ ไดคิจิ ชายหนุ่ม(โสด)อายุ 30 ปี เขาเดินทางไปร่วมงานศพของคุณตาและที่นั่นเขา ได้พบกับเด็กหญิงอายุ 6 ปีชื่อรินซึ่งในตอนแรกเขาเข้าใจว่ารินนั้นเป็นหลาน แต่หลังจากนั้นเขากลับได้รับคำตอบว่าริน คือลูกสาวตัวเล็กๆ ของตา ซึ่งเท่ากับรินก็มีศักดิ์เป็นน้าของไดคิจิ ส่งผลทำให้บรรดาญาติๆ ของไดคิจิไม่ชอบหน้ารินสักเท่าไหร่ ทำให้ไดคิจิต้องรับเลี้ยงรินซึ่งก็พบว่าการเลี้ยงเด็กมันยากกว่าที่คิดเอาไว้

    การ์ตูนดังกล่าวดังมากในญี่ปุ่นและถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ภาคคนแสดงมาแล้ว โดยในภาคแรกจะเป็นรินโดนเด็กเนื้อหาก็อบอุ่น สดใส น่ารัก แม้จะมีความเป็นการ์ตูนเลี้ยงต้อยก็ตาม และมาภาคสองจะเป็นช่วงรินโตเป็นสาวมัธยมปลาย ซึ่งตอนแรกผมนึกว่าตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้รินจะเลี้ยงดูไดคิจิจนแก่เฒ่า เหมือนดั่งลูกกตัญญู. ซึ่งก็น่าจะจบมากกว่านี้ไม่ควรเกินมากกว่านั้น  และถ้ามีเป็นไปได้ผมอยากเขียนบทความแนะนำให้หลายคนได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้อีก แต่ในระหว่างผมกำลังอ่านบทความต่างๆ ที่เขียนเกี่ยวกับบทความเรื่องนี้ บังเอิญผมไปอ่านตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้เข้า และเมื่ออ่านจบ ผลคือผมซึมไปพักใหญ่ มานั่งดูการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ให้หายจิตตก กว่าที่จะยอมรับฉากจบดังกล่าวได้ เล่นเอาทำใจไปพักใหญ่ สุดท้ายผมก็ไม่พูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ และเลิกความคิดจะเขียนแนะนำการ์ตูนเรื่องนี้ในบทความไปเลยตลอดกาล

    (เอาเป็นผมจะไม่สปอยตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้ แนะนำให้ไปหาอ่านตามเว็บทั่วๆ ไปเองเองนะครับ)

    ขณะที่หลายคนรับไม่ได้ตอนจบ (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้อ่านที่มีอายุมากและผมก็รวมอยู่ในนั้น) แต่กระนั้นก็มีคนอ่านส่วนหนึ่งรับตอนจบดังกล่าวได้ โดยให้เหตุผลว่าถึงยังไงการ์ตูนเรื่องนี้ก็จบแบบอบอุ่น แม้สายตาคนรอบข้างอาจมองว่าเป็นเรื่องผิดจริยธรรม แต่หากคนเรารักกันจริงก็ไม่ต้องกลัวสายตาคนรอบข้าง นานาจิตตัง เอาเป็นว่าผมอวยพรให้รินมีความสุข และขอคือว่าการตัดสินของรินและไดคิจิจะถูกต้องล่ะกัน

     

    มังงะโหด มัน ฮ่าแห่งปี-Kamisama no Iutoori (Fujimura  Akeji)

      

    Kamisama no Iutoori หรือชื่อไทยเท่ๆ ก็ “พระเจ้าสั่งตาย” เป็นการ์ตูนแนวเซอร์ไวรัสต้องรอด(เกมแห่งความตาย) ซึ่งเป็นเรื่องของชุนพระเอกที่แสนจะธรรมดาเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น และวันหนึ่งเขาก็มาโรงเรียนตามปกติและน่าเบื่อหน่าย แต่แล้วระหว่างที่ครูเข้าห้องเรียน หัวของครูก็ระเบิดขึ้น และเขากับเพื่อนร่วมชั้นถูกบังคับให้เล่นเกมเด็กเล่นต่างๆ เช่น เกมจับตัวดารุมะ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลังเกมนี้ แต่สิ่งที่รู้คือเขา(และเพื่อน)จะต้องชนะเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้

                    นอกเหนือจากมังงะฮาเร็มแห่งปีแล้ว ผมยกให้ Kamisama no Iutoori เป็นมังงะโหด มัน ฮ่า มุกแปลกใหม่แห่งปี(ชนิดตามติดเลยทีเดียว)  แม้ลายเส้นจะเพี้ยนๆ แต่เรื่องนี้ผมยกให้การ์ตูนแนวคิดแปลกใหม่มากๆ (รีวิวเร็วๆ นี้) แบบว่าเปิดฉากมาผมก็นึกว่าเป็นการ์ตูนแบบตอนเดียวจบ มาถึงอะไรว้า ตายห่ากันเกือบหมดชั้น และจบตอนแรกแล้ว การ์ตูนจะไปต่อยังไง นึกไม่ออกเลยว่าการ์ตูนจะเอามุกอะไรมาเล่นต่อ ที่ไหนได้ หลังจบตอนแรก มุกเพียบเลยวุ้ย ไม่ว่าจะเป็นมุกเกมแห่งความตาย(แฝงไปด้วยข้อคิด การตัดสินใจ, มิตรภาพ, สมาธิ, จิตวิญญาณ ฯลฯ) มุกตัวละครประกอบ และมีหลายจุดผมปล่อยก๊ากๆ เลยทั้งๆ ที่เนื้อหาไม่ใช่การ์ตูนตลกแท้ๆ ยิ่งตอนล่าสุด(ตอนที่ 8) กำลังซึ้งอยู่ดีๆ เต็มไปด้วยมิตรภาพ(และมหาเมพ)อยู่ดีๆ หักมุมซะผมฮ่าตกเก้าอี้เลย สรุปคือหากใครชอบเซอร์ไววัลเกมแห่งความตาย ชอบอะไรมันสะใจ พระเอกเมพ (และอาจจะได้ฮาเร็มด้วย) แนะนำเรื่องนี้เลย!!

     

    ฉากจบอนิเมชั่นประทับใจแห่งปี(สำหรับผม)-Ano Hana


                  ที่จริงอนิเมชั่นปีนี้ไม่มีฉากจบไหนที่ถูกใจเป็นพิเศษครับ กลับกันมีแต่ฉากจบไม่ดีเป็นส่วนมาก ไม่รู้มันเป็นเอกลักษณ์ของอนิเมชั่นของญี่ปุ่นหรือเปล่าที่ทำฉากจบดีๆ ไม่ค่อยเป็น จะจบแบบมีความสุขแอปปี้นี้หายากจริงๆ พับผ่า

    เอาเถอะ เอาเป็นว่าผมยกให้ Ano Hana เป็นอนิเมชั่นที่ฉากจบประทับใจที่สุดเท่าที่ผมดูในปีนี้ล่ะกัน

    Ano Hana แม้ว่าเป็นการ์ตูนที่เนื้อหาจะเป็นเส้นตรง คาดเดาตอนจบไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นการ์ตูนที่ผมดูแล้วประทับใจซาบซึ้งอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะตอนจบที่สุดท้ายเมมมะก็หายไปหลังจากเล่นซ่อนหากลับทุกคน ซึ่งทุกคนก็ได้เห็นเมมะอีกครั้งก่อนที่เมมะจะหายไป หลังจากนั้นเจ้าพระเอกก็เดินตามเส้นทางของตนเอง แม้เส้นทางจะไม่ใช้เส้นทางในฝัน แต่กระนั้นเขาก็ยังมีสายสัมพันธ์ของเพื่อนที่กลับมาเหนียวแน่นเหมือนครั้งก่อนและคงจะอยู่ตลอดไป ส่วนคู่หญิง-ชาย คนไหนเข้าวินก็ไปตามคาด สาวทวินเทลได้สมหวังสักทีกับพระเอกเสียที หลังจากที่เสียวเกือบไปเลือกพระรองหลายครั้ง

    Ano Hana เป็นการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่หลายเว็บวิจารณ์ออกมาด้านบวกฃ ) เป็นการ์ตูนที่สื่อได้ดีถึงการย้อนอดีตแบบภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน หากแต่การ์ตูนได้เสริมเรื่องปมการขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น ความรักของหนุ่มสาว เข้าไป  อีกทั้งคุณภาพของภาพก็ทำได้กระตุ้นต่อมน้ำตาแตก(จนไม่เชื่อเลยว่านี้เป็นภาพของสตูดิโอที่ผลิตการ์ตูนเรื่อง  Fractale)

    สุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผมดูการ์ตูนดราม่ากระตุ้นต่อมน้ำตาแตกได้ก็คือสาวทวินเทลนารุโกะ อันโจ(อานารุ) ที่ซึนและน่ารักตั้งแต่ต้นจนจบ(สาวทวินเทน+เพื่อนสมัยเรียน+ซึน+โอตากุ นี้มันเทพประทานพร) ถ้าไม่มีเธอละก็จ้างให้ผมก็ไม่ดู เอาปืนจ่อหัว เอาสาวมาเต้นระบำก็ไม่ดู(จริงๆ น่ะ)

     

    ตัวละครที่ผมอวย(เกินเหตุ)แห่งปี มาซู

     

    C - The Money of Soul and Possibility Control เป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ คิมิมาโระ ที่เป็นนักศึกษามหาลัยธรรมดา ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันเกม(หรือลงทุน)ในมิติย่านธุรกิจการเงิน ซึ่งเกมคล้ายๆ โปเกมอนสู้กัน และโปเกมอน(คู่หู)ของคิมิมาโระก็คือมาซู โดยมี เงินและ อนาคต เป็นสิ่งเดิมพัน

    แม้การ์ตูน C - The Money of Soul and Possibility Control อาจไม่ใช่การ์ตูนที่ดีในใจของใครหลายคน เนื่องจากจำนวนตอนน้อยเกินไป และฉากจบคลุมเครือ แต่กระนั้นในเรื่องไอเดียผมกับชอบอย่างบอกไม่ถูก และสำหรับผมแล้วผมกับชอบพระเอกคิมิมาโระการ์ตูนเรื่องนี้ และชอบที่สุดก็คือนางเอกมาซู นอกจากคาแร็คเตอร์จะเป็นาวทวินเทล ซึนนิดๆ แล้ว นอกจากนั้นเธอยังเทพจริงๆ ต่อให้พระเอกจะกากขนาดไหน ขอให้มีมาซูอยู่ข้างกายปล่อยพลังครั้งเดียวฝ่ายตรงข้ามจอดเมื่อนั้น อีกทั้งยังมีความซื่อสัตย์ และยังรักคิริมาโระมากๆ ด้วย โดยเฉพาะฉากที่คิริโนะเผาเงินไมดาสโดยมีมาซูอยู่เคียงค้างเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ เรียกได้ว่าผมดูการ์ตูนเรื่องนี้เพราะมาซูนี้แหละ

     

    ขโมยซีนแห่งปี-มิคาซึกิ โยโซระ

      

    ก็อย่างที่บอกอนิเมชั่น Boku wa Tomodachi ga Sukunai อาจไม่ดีนักเมื่อเทียบกับไลท์โนเวล แต่กระนั้นอนิเมชั่นทำบทอวยตัวละครได้เด็ดดวง แม้แต่ตัวละครอย่างยัยฟ้ามืดที่หลายคนไม่ค่อยชอบ ผมก็ชอบเธอมิคาซึกิ โยโซระ

    มิคาซึกิ โยโซระสาวสวยผมยาวดำนิสัยโหดร้ายและเห็นแก่ตัว (เธอคงแกล้งทำมากกว่า) และบุคลิกน่ากลัวทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าใกล้ จนเธอไม่มีเพื่อน และเป็นคนตั้งชมรมเพื่อหาเพื่อน นิสัยชอบแกล้งคนอื่น เช่น เอาชุดเมดให้ยูคิมูระใส่ ดีดหน้าผากมาเรีย แต่ชอบแกล้งที่สุดคือเซนะ และเธอเป็นคนตั้งฉายาเซนะว่า เนื้อ

    หลายคนอาจไม่รู้ (หรือรู้อยู่แล้ว)ว่าโยโซระนั้นคือนางเอก แต่กระนั้นทั้งอนิเมชั่นและนิยายไลท์โนเวล ช่างทำบทเธอแสนจืดจางเหลือเกิน หลายคนอาจไม่ชอบด้วยซ้ำเนื่องจากเธอพูดหยาบคาย ด่าน้องเนื้อแรง แกล้งมาเรียมากเกินไป (แต่กระนั้นโยโซระกลับแพ้ทางโคบาตะและริกะ) จนหลายคนเกลียดโยโซระด้วยซ้ำ

    ในไลน์โนเวลนั้นบทของโยโซระนี้น้อยมาก เนื่องจากคาแร็คเตอร์ตอนแรกของเธอคือ ไม่ค่อยเข้ากับคนอื่นสักเท่าไหร่ อนิเมชั่นยิ่งแล้วใหญ่บทอวยเธอแทบไม่มีเลย ปล่อยให้ตัวละครสาวๆ ในเรื่องเก็บแต้มอย่างเมามัน

    หากแต่แล้วเมื่อถึงตอนที่ 11 ขึ้นไป เล่นเอาหน้าหงายเลยครับ เมื่อโยโซระเปลี่ยนลุคใหม่ (ซึ่งเป็นครั้งแรกด้วยที่ตัวละครหลักเปลี่ยนลุคแล้วผมชอบ) เป็นสาวผมสั้น ราวกับหนุ่มน้อยเลยก็ว่าได้ (ยิ่งนิยายแล้วเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก) และเมื่อพระเอกเห็นลุคใหม่ของเธอ ก็จำได้ทันทีว่าโยโซระก็คืออดีตเพื่อนสมัยเด็กของพระเอกนั่นเอง

    เมื่อพระเอกทักโยโซระด้วยการเรียกชื่อเล่นสมัยเด็ก เท่านี้แหละครับโยโซระซึนแตกทันที เรียกว่าฉากนี้ได้ใจผมเต็มๆ ไปเลย

    และในที่สุดทั้งสองก็ได้รู้จักกัน........

    ปกตินี้บทโยโซระมักจะจืดจาง บทไม่ค่อยมี มาถึงตอนที่ 11 นี้โยโซระเด่นขึ้นทันตา (ชนิดเลยว่าตัวละครคนอื่นๆ เก็บแต้มแทบตาย เจอโยโซระผมสั้นเอาไปกินตอนท้ายซะงั้น) จากนั้นเนื้อหาก็ไหลน่าดูมาก เพราะย้อนอดีตเป็นฉากๆ เลยว่านิสัยจริงๆ ของโยโซระเป็นยังไง (ปกติไลน์โนเวลจะเป็นมุมมองพระเอกอย่างเดียว  โยโซระนี้เป็นซึนเดเระแบบลึกๆ และเมื่อซึนแตกนี้เดเระสุดๆ

    แต่เชื่อเปล่าครับว่าผมชอบโยโซระครับ ชอบแต่แรกก่อนเปลี่ยนลุคด้วยซ้ำ เพราะส่วนตัวแล้วผมชอบคาแร็คเตอร์เพื่อนสมัยเด็ก และออกทอมบอย คำพูดคำจาเหมือนผู้ชาย สาเหตุที่ชอบก็เพราะมันสามารถหาเจอได้ในโลกแห่งความจริงครับ แต่ถ้าถามว่าอยากได้เป็นแฟนหรือเปล่าอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนะ แต่ถ้าเป็นโยโซระผมก็เอา(เก็บไว้ฮาเร็ม)

    ในอนิเมชั่นนี้ผมก็แปลกใจหน่อยๆ น่ะครับ เพราะว่าเสียงพากษย์ของโยโซระนี้จะแหบๆ น้ำเสียงผู้ชาย แต่เมื่อตอนที่ 11 ขึ้นไปที่นี้ก็รู้ทันทีว่าเพราะอะไร เพราะคราวนี้เสียงเข้ากับลุคของเธอแล้ว มาคราวนี้โยโซระได้กลายเป็นหนุ่มน้อยที่แสนน่ารักไปโดยบริยาย ซึ่งผมว่าปีนี้ผมจะได้เห็นอนิเมชั่นภาค 2 ต่อน่ะครับ ซึ่งขอแบบเก็บรายละเอียดดีกว่าภาคแรกหน่อยล่ะ นับลองดังไม่แพ้การ์ตูนฮาเร็มหลายเรื่องแน่นอน

     

     

     

                    ก็จบการจัดอันดับแต่เพียงเท่านี้ครับ ถ้าจะสารภาพตามตรงปีนี้ผมดูอนิเมชั่นน้อยมาก ดูประมาณ 20 เรื่องได้มั้ง ดูที่มีแต่ซับไทย และผลสรุปคือปีนี้ก็มีอนิเมชั่นดีๆ หลายเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึง ในขณะที่หลายเรื่องถูกด่าถูกสับจะยับจนไม่เผาทีกันทีเดียว ซึ่งผู้ผลิตน่าจะได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อปรับปรุงต่อไป ผมก็หวังว่าปีหน้าจะมีอนิเมชั่นดีๆ ให้ได้ติดตามกัน (โดยเฉพาะฮาเร็ม)

     + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×