คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : GOTH เมื่อฆาตกรโรคจิตอยู่ใกล้ตัวคุณ
ขอรายงานในการดูการ์ตูนของผมครับ ช่วงนี้มีคนแนะนำเรื่อง Baka to test ผมเข้าไปดูแล้วฮ่ามากเลย ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องหลุยส์ซึนฯ ภาค 4 ซะอีก แต่เนื้อหาตรงกันข้ามเลยครับ และตอนนี้คิดเรื่องที่จะเขียนถึงเรื่องนี้ได้แล้วละ ไว้วันหลังจะมาออก แถมเรื่องนี้ผมดูซับอังกฤษด้วยนะครับ แบบว่าอยากดูต่ออีก อ่า......
อีกเรื่องที่ดูเมื่อวานก็เรื่อง Ryofuko-Chan OVA ภาษาปากก็คือสามก๊กโลลิคอน อีกหนึ่งที่เอาเรื่องสามก๊กมาดัดแปลง เป็นเรื่องราวของลิโปกับสมุนที่ซื่อสัตย์(มีต้นก๋งกับโกซุ่น)ที่จู่ๆ ดันหลุดมิติมายังโลกปัจจุบันของเรา ตอนแรกลิโปคิดจะครอบครองโลกนี้ไว้ แต่ว่าจู่ๆ เขาก็กลายเป็นเด็กผู้หญิงซะงั้น(น่ารักๆ) แถมลูกสมุนยังกลายร่างอีก ไม่ว่าจะเป็นต้นก๋งที่กลายเป็นสาวแว่นน้อย(แต่วายตัวแม่) โกซุ่นกลายเป็นตุ๊กตา(ที่โครตหื่น) และแล้วลิโป้และลูกสมุนก็ต้องจำใจที่ต้องปรับตัวกับโลกใบนี้พร้อมกับหาวิธีครองโลกไปด้วย... แถมมีตัวก่อกวนตามมา ไม่ว่าจะเป็น โจโฉกับแฮหัวตุ้น (แต่โจโฉเรื่องนี้โครตอนาถ) ตอนท้ายก็มีกวนอูออกมาโชว์ตัวไม่กี่นาทีแถมเป็นพวกโลลิคอนชนิดโรคจิตด้วย(อนาถพอๆ กับโจโฉ) โดยเนื้อหาเป็นการแสดงความน่ารักของลิโป้สาวน้อยโดยเฉพาะที่นิสัยแก่นแก้วเป๋อๆ ซึ่งโดยความจริงแล้วเนื้อหาอมิเนชั่นจะแตกต่างจากหนังสืออย่างมากครับ แต่โดยรวมผมชอบอมิเนชั่นมากกว่าอ่ะ เพราะตัวละครน้อยกว่า เนื้อเรื่องไม่เดินดี เสียดายทำแค่ 4 ตอนจบเอง เศร้าๆ จริงๆ
ส่วนหนังสือก็อ่านเรื่อง เกมหลอกเกมลวง เล่ม 8 คราวนี้ก็รู้จุดประสงค์แอบแฝงของบริษัทไลออนเกมสักที มิน่ามันถึงแต่เลือกคนโง่ๆ ให้เข้าร่วมเกม และนางเอกโครตน่ารักสุดๆ เลย(เว้ย!!)
หลังจากหลงทางไปหลายตอน ดูเหมือนผมไม่ได้พูดถึงการ์ตูนที่เกี่ยวกับฆาตกรเลย ดังนั้น ตอนนี้ก็ขอแนะนำการ์ตูนแนวนี้หน่อยก็ไม่ว่ากันนะครับ
GOTH
แนวระทึกขวัญ หักมุม
นิยายชื่อไทยว่า GOTH คดีตัดข้อมือ
(นิยายหาซื้อตามอินเตอร์เน็ตเว็บซีเอ็ด หรืองานสัปดาห์หนังสือ)
การ์ตูนโหลดดูที่ http://www.tsumi.org/projetos/goth/
GOTH เป็นนิยายที่แต่งโดย โอตสึอิจิ ซึ่งเป็นนักเขียนญี่ปุ่นที่มีผลงานแปลเป็นภาษาไทยมากพอสมควร อย่างที่เรารู้จักกันก็เช่น โทรศัพท์สลับมิติ, ฉันหายไปในวันหยุด, ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน, นัดหมายในความมืด, รอยสักรูปหมา (ทั้งหมดเป็นผลงานของสำนักพิมพ์บลิส) ส่วนเรื่อง GOTH หนังสือแปลของเนชั่นบุ๊คส์ ซึ่งอีกหนึ่งผลงานแปลของโอตสึอิจิของสำนักพิมพ์นี้คือ ZOO
รู้สึกว่านักเขียนโอตสึอิจิ จะมีชื่อในญี่ปุ่นเพราะทั้งเรื่อง GOTH และ ZOO ที่เป็นผลงานของนักเขียนคนนี้ล้วนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ให้เราได้ดูกัน(ZOO ทำเป็นภาพยนตร์ในไทยแล้ว ในชื่อ ตำนานสยอง)
ส่วนเรื่อง GOTH นอกเหนือจะถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จอเงินแล้วมันยังถูกดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูนอีกด้วย แถมคนเขียนก็มีผลงานที่เข้ากับบรรยากาศของนิยายเรื่องนี้เสียด้วยสิ
โอตสึอิจินั้นเป็นนักเขียนที่เน้นนิยายที่ดูเศร้าๆ บีบคั้นน้ำตา ในเรื่อง GOTH เขายังยอมรับเลยว่าเขาไม่ถนัดจำพวกฆาตกรรม อาชญากรรม หรือพวกโรคจิต ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่เคยเขียนนิยายเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ แต่สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นนิยายที่ถ่ายทอดด้านมืดของคนได้ดีเสียจริง แถมยังวางกับดักหลอกคนอ่านได้แยบยลเสียอีก
สำหรับเนื้อหานิยาย GOTH จะเป็นเรื่องสั้นทั้งหมด 6 เรื่องเข้าไว้ด้วยกันคือ ปริศนาดำ ตัดข้อมือ หมา แฝด ดิน และเสียง โดยมีตัวละครชายหญิงมัธยมปลายคู่หนึ่งที่หม่นหมองและชอบเรื่องฆาตกรรมเป็นตัวเดินเรื่อง
ผม(Boku) เป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาเป็นตัวละครที่ไม่ปรากฏชื่อ หากแต่ชื่อของเขาจะปรากฏตอนท้ายเรื่อง ซึ่งคนอ่านจะเข้าใจทันทีว่าทำไมคนเขียนจงใจที่จะไม่เปิดเผยชื่อของพระเอกตอนต้นเรื่องเสียที ครอบครัวเขาก็อยู่ดีปกติสุข มีพ่อ, แม่, น้องสาว หากแต่จิตใจที่แท้จริงของเขาแล้ว เต็มไปด้วยความดำมืด ชอบเห็นความตาย และหลงใหลการฆาตกรรม เขาสนุกและอยากมีส่วนรู้เห็นในการฆาตกรรม เขาชอบจับตาดูฆาตกร มากกว่าจะทำตัวเป็นนักสืบที่จะไล่ล่าฆาตกรเหมือนโคนันหรือคินดะอิจิ
โมริโนะ โยะหรุ(Yoru Morino) นางเอก ที่ภายนอกเหมือนเป็นคนเงียบๆ ไม่เข้ากับคนอื่นในห้อง ยกเว้นพระเอก มีนิสัยประหลาดคือสนใจภาพคนตายและหลงใหลการฆ่าตัวตาย เวลานอนต้องเอาเชือกมาแขวนคอหลวมๆ รอบๆ คอ ไม่งั้นนอนไม่หลับ หากแต่ลึกๆ ในจิตใจแล้วเธอค่อนข้างเป็นคนอ่อนแอ และเหมือนเด็กสาวทั่วไป แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ในอดีตเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแบบนี้ไป
พูดไม่ออกเหมือนกันว่าแนวนิยายเรื่องนี้เป็นแนวอะไร จะเรียกแนวสืบสวนสอบสวนก็ไม่ได้ จะเรียกอาชญากรรมก็ไม่เต็มปาก เอาเป็นว่าเป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ชอบเรื่องฆาตกรและซากศพคนตาย หลงไหลถึงขั้นชอบไปสำรวจสถานที่ที่มีการฆ่ากันตาย และเมื่อเรื่องราวยังเชื่อมโยงด้วยเหตุการณ์ซึ่งคนทั้งคู่มักถูกดึงดูดให้ได้พบเจอฆาตกรอำมหิตรอบๆตัว เต็มไปด้วยความระทึกขวัญและหักมุมตอนท้ายเรื่อง
พูดถึงฆาตกรแล้วเรามักหลงใหลฆาตกรที่เป็นอัจฉริยะ อย่างจำพวก คิระ, ฮันนิบาล เลคเตอร์ หรือฆาตกรในโคนันหรือคินดะอิจิ เพราะพวกเขาได้สร้างปริศนาและปัญหาให้แก่พระเอกและคนอ่านได้ปวดหัวเล่นๆ
หากแต่ในโลกแห่งความจริง ฆาตกรอัจฉริยะแบบนี้เกิดขึ้นน้อย หรือถ้ามีจริงคนอื่นก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาเลือกฆ่าคนไม่ให้เป็นข่าวมากกว่าฆ่าเพื่อประกาศศักดิ์ดาว่ากูแน่ ดังนั้นเรามักจำพวกฆาตกรที่ปริศนาที่ไม่สามารถไขได้มากกว่า เช่น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ หรือ โซดิแอต เดอะ คิลเลอร์
แต่ฆาตกรในเรื่อง GOTH นั้นต่างกัน ฆาตกรในนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอัจฉริยะ หรือคิดแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อน ฆาตกรในเรื่องนี้ไม่ได้ฆ่าคนเพราะหวังข่มขืนหรือชิงทรัพย์ หรือมีความแค้นส่วนตัวเพราะผู้ตายพรากคนที่ฆาตกรรัก หากแต่ฆาตกรฆ่าเหยื่อนั้นเพราะความวิปริตภายใน ฆาตกรบางคนแทบไม่รู้สึกตัวเองเลยว่าตนฆ่าคนเพราะอะไร
ฆาตกรในเรื่อง GOTH ภายนอกเป็นคนปกติธรรมดาที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย บางคนเป็นอาจารย์ บางคนเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา บางคนเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ซึ่งเป็นบุคคลที่เราเห็นทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ภายในจิตใจคนธรรมดาเหล่านั้นกับซ่อนจิตใจที่เย็นชาเลือดเย็นและความวิปริตแฝงอยู่ภายในที่พร้อมจะปล่อยปลดออกมาทุกเมื่อ หากแต่ฆาตกรบางคนก็พยายามต่อสู้กับอีกตัวตนในจิตใจนี้เอาไว้ หากแต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้และปลดปล่อยออกมาในที่สุด
ปริศนาดำ(Goth) เรื่องแรกของหนังสือเรื่องโกธ เปิดฉากออกมาด้วยความระทึกขวัญ ตื่นเต้น เมื่อนางเอกของเราคือ โมริโนะ โยะหรุ ไปเจอสมุดโน๊ตไดอารี่บันทึกที่ภายนอกเหมือนสมุดธรรมดา หากแต่เนื้อหาภายในนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวชวนสยอง โดยเขียนว่าเจ้าของสมุดโน้ตเล่มนี้ได้หลอกผู้หญิงทีร่ชื่อ นะนะมิ มิซึงูเข้าในป่าและฆ่าโหดและชำแหละเธออย่างสยดสยอง ร่างกายของเธอยับเยิน ตัวหนังสือเล็กๆบรรยายภาพ ขณะลูกตาทั้งสองข้างของเธอถูกควักออกมา รวมทั้งสีสันความเงางามของมดลูกเธอ จากนั้นก็ร่างของไว้ที่ป่าลึกแห่งหนึ่ง และเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อรายที่สามของฆาตกรต่อเนื่องที่ตำรวจยังไม่พบศพเธอจนถึงตอนนี้
โมริโนะ โยะหรุเอาสมุดโน้ตเล่มนี้ไปให้พระเอก “ผม” อ่าน แทนที่ทั้งคู่จะคลื่นไส้ หวาดกลัว ขยะแขยงข้อความดังกล่าว เอาสมุดโน้ตนี้ไปให้ตำรวจเพื่อเป็นเบาะแสตามจับคนร้ายใจโหด กลับตรงกันข้าม ทั้งคู่พูดถึงเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่สนุกตื่นเต้นเพิ่มสีสันของชีวิต ทั้งคู่ตามรอยเส้นทางของฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง ไปตามจุดที่ฆาตกรอ้างว่าได้ฆ่า นะนะมิ มิซึงู และทิ้งศพเธอเอาไว้ที่นั้น เพื่อให้เห็นกลับตาทั้งคู่
และแล้วทั้งคู่ก็เจอศพ นะนะมิ มิซึงู ในสภาพสยอดสยองเครื่องในของเธอเน่าแฟะจนเป็นสีดำและไส้ของเธอถูกพันรอบๆ ต้นไม้ และไม่มีสภาพหลงเหลือของมนุษย์มนุษย์อยู่เลย ซึ่งฉากนี้ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากเพราะได้พรรณาและบรรยายศพได้อย่างเห็นภาพ ซึ่งเป็นตัวยืนยันอย่างดีเลยว่าการพรรณนาศพนั้นสำคัญมากในนิยายสยองขวัญ แต่ดูเหมือนว่านักเขียนหลายคนในเว็บเด็กดีนี้จะเขียนนิยายแนวระทึกขวัญไม่ใส่ใจในเรื่องการพรรณาหรือบรรยายเท่าที่ควร ซึ่งหากไม่มีการพรรณนา ใส่แค่คำพูด ใส่ประโยคว่ามีคนตายแค่นั้นก็จบ นั้นทำให้ผู้อ่านไม่เกิดความรู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย และทำให้ไม่อิงกับเรื่องที่อ่านด้วย ซึ่งใครคิดจะเขียนนิยายให้คนอ่านมากๆ นั้นก็อย่ามองข้ามจุดนี้ด้วย
และเมื่อคู่หนุ่มสาวได้ดูสภาพศพที่น่าขยะแขยงจับ แต่ฉากบรรยายนั้นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ไม่หวาดกลัวหรือขยะแขยงแต่อย่างใดเลย ทั้งคู่ดูศพเหมือนภาพในพิพิธภัณฑ์ พระเอกดูเหมือนจะปลื้มผลงานของฆาตกรคนนี้ด้วยซ้ำ แถมโมริโนะยังหยิบเสื้อผ้าของผู้ตายใส่กระเป๋าเสมือนของที่ระลึกจากเทศกาลไม่ปาน
วันต่อมาโมริโนะเริ่มแต่งตัวเหมือนเหยื่อรายที่สาม เธอบอกว่ามันน่าสนุก และไม่กี่วันหลังจากนั้นเธอก็หายตัวไป โดยมีข้อความมีเมล์ส่งมาถึงมือถือพระเอกสั้นๆ ว่า “ช่วยด้วย”
จากนั้นเรื่องก็ดำเนินแบบสืบสวนสอบสวน “ผม” ได้เล่นเป็นนักสืบสมัครเล่น ตามหาร่องรอยตามที่ต่างๆ ในใจของเขาก็คิดว่าอยากเห็นโนริเนะกลายเป็นศพด้วยตาคู่นี้ของเขาด้วยว่ามันจะสวยงามเพียงไหน ระหว่างที่การกระทำและใจของพระเอกต่างขัดแย้งไปมา พระเอกก็เบาะแส จนกระทั้งพบฆาตกรตัวจริง ที่ไม่อยู่ไกลไปจากตัวเขาเลย นั้นก็คือมาสเตอร์ร้านกาแฟที่โมริโนะไปกินประจำนั้นเอง แต่สิ่งที่ตามมากลับทำให้คนอ่านต้องอึ้ง เพราะการกระทำของตัวเองที่แตกต่างจากนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่มีมาทั้งหมด นั้นก็คือ
“พระเอกจับมือฆาตกรอย่างเป็นมิตร และปล่อยให้ฆาตกรหนีลอยนวล” ซึ่งขัดหลักจากพระเอกแนวสืบสวนสอบสวนอย่างยิ่ง สาเหตุเป็นเพราะคนเขียนจงใจให้คนได้มองภาพพระเอกว่า เป็นคนเยือกเย็น ไม่สนใจความถูกต้อง เขาชอบเป็นผู้ดู มากกว่าผู้ขัดขว้างหรือมีส่วนร่วม และการที่คนอ่านเชื่อพระเอกเป็นคนแบบนี้ยิ่งเข้าทางคนเขียน เพราะนี้คือกับดักที่คนเขียนวางไว้ ที่ส่งผลให้เกิดการหักมุมในตอนท้ายเรื่อง
สิ่งที่ขัดใจอีกรอบคือ ไม่มีการเผยประวัติฆาตกรในเรื่อง “ปริศนาดำ” เลย ปกตินวนิยายสืบสวนสอบสวน อาจมีการเกริ่นเหตุที่คนธรรมดามาเป็นฆาตกรต่อเนื่องคดีนั้นๆ ไว้ด้วย แต่นิยายโกธ ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าละเลย ไม่รู้คนเขียนจงใจ หรือไม่จงใจหรือเปล่า
เกือบลืม นิยายเรื่องนี้เล่าแบบมุมมองที่หนึ่ง โดยผ่านตัวละครที่ชื่อว่าผม หลายคนมุกไม่ชอบการดำเนินเรื่องแบบนี้ แต่ขอบอกว่านี้แหละคือการดำเนินเรื่องที่เหมาะที่สุดในนิยายระทึกขวัญมากที่สุดแล้ว เพราะว่าการเล่าโดยมุมมองชนิดนี้จะทำให้เกิดมุมมองแคบๆ มืดมิด ถ่ายทอดความน่ากลัวได้ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก ที่ทั้งทำให้เราได้รู้ถึงจิตใจของคนที่เล่าเรื่อง(บุคคลที่หนึ่ง)ไปด้วย
ตัดข้อมือ(Wristcut) เป็นเรื่องย้อนกลับไปก่อนที่พระเอกกับโมริโนะจะรู้จักกัน ตอนนั้นทั้งคู่อยู่ชั้นเรียนด้วยกัน โนริโนะเป็นเด็กใหม่ที่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ เวลาอยู่ชั้นเรียนจะอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียวและไม่คบกับคนอื่น แต่พระเอกไม่ได้มองที่โนริโนะสวยอย่างเดียว แต่เขาสนใจข้อมือของเธอและอยากได้ข้อมือของเธอมาเชยชม
เขาอยากตัดข้อมือของเธอซะจริงๆ
วันหนึ่งพระเอกได้พบเจอสิ่งหนึ่งในถังขยะที่ห้องวิทยาศาสตร์คือ “ตุ๊กตาที่โดนตัดมือไป” พระเอกหวนนึกถึงคดีที่ไอ้โรคจิตออกอาละวาดไล่ตัดข้อมือเหยื่อโดยไม่คิดเอาชีวิตเหยื่อ พระเอกรู้ทันทีว่าฆาตกรต่อเนื่องรายนี้อยู่ใกล้ตัวเขา นั้นก็คืออาจารย์ที่สอนวิทยาศาสตร์(พระเอกเดาล้วนๆ) และเขายอมเสี่ยงเพื่อบรรลุแผนยังหนึ่งคือ บงการฆาตกรเพื่อตัดข้อมือโนริโนะ!!
สิ่งที่นำเสนอไม่ใช้อยู่ที่ตัวฆาตกรหรือการดำเนินเรื่องที่หลายคนต่างร้องว่า “เออ.....จบแบบนี้เหรอ?” หากแต่เนื้อหาตอนนี้คือ เป็นกับดักของคนเขียนได้ปูไว้ทำให้คนอ่านเชื่อว่าพระเอกเป็นเย็นชาและโหดเหี้ยม สามารถเสแสร้ง ตีสีหน้าเป็นคนธรรมดาอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งเวลาจะคิดจะทำอะไรพระเอกยอมเสี่ยงเพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ให้จงได้ โดยไม่สนว่าจะมีผลเสียตามมา ซึ่งตัวตนของพระเอกนี้จะถูกนำมารวมกับตอนที่หนึ่งเพื่อไปสู่กับดักในตอนท้ายเรื่อง....
หมา(Dog) เป็นการดำเนินเรื่องโดยมุมมองของหมา(??) ที่เด็กสาวคนหนึ่งวางแผนฆ่าพ่อเลี้ยงที่ชอบทารุณกรรมตน ด้วยการฝึกหมาในการสังหารโดยจับสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านมาให้ขย่ำคอเพื่อฝึกประสิทธิภาพการสังหาร และการกระทำของเธอทั้งหมดนั้นถูกจับตาโดยพระเอกอย่างใกล้ชิดอย่างเงียบๆ เพราะพระเอกรู้ดีว่าจะเกิดคดีใหญ่ในไม่ช้า และเขาก็อยากจะเห็นภาพเหล่านั้น และแล้วเมื่อถึงวันเกิดคดีฆาตกรรม...คนอ่านแทบอึ้ง...ก่อนที่จะหักมุมตอนท้ายเรื่อง
มาถึงตอนนี้คนเขียนเริ่มวางกับดักแล้วครับ เป็นกับดักที่เจ็บแสบมาก แถมมันมีประสิทธิภาพหลอกลวงคนดูอย่างแนบเนียนอีก คือกับดักว่าด้วยหลอกคนดูเชื่อในสิ่งที่อ่าน ปกติมนุษย์เราเวลาอ่านนวนิยายมักปล่อยตามอารมณ์ไปกับเนื้อเรื่องมากกว่าที่จะคิดเล็กคิดน้อย หรือสงสัยการกระทำที่ขัดแย้งของละคร ก่อนที่จะหักมุม(หักหลัง)จนคนอ่านต้องอึ้งเสมือนโดนตบหลายฉาก ซึ่งปกติแล้วใครจะคิดละว่าสิ่งที่กัดคอหอยคนไม่ใช้หมาหากแต่เป็น...........ซึ่งทำให้คนอ่านกลับมาแนวคิดของเรื่องนี้อีกครั้งว่าตัวละครในนิยายเรื่องนี้มีจิตผิดปกติทุกคน คนเขียนเก่งมากในการหลอกคนอ่านให้เชื่อได้ เนื่องจากการบรรยายและความคิดของตัวละครนั้นทำให้คนอ่านเชื่อว่านี้คือการเล่าเรื่องโดยผ่านมุมมองของหมา ซึ่งเทคนิคแบบนี้ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ในไปใช้ในตอนที่เหลือจากนี้ไป
แฝด (Twins) เป็นเรื่องราวความทรงจำของโมริโนะ เมื่อโมริโนะมีปัญหาด้านการนอนและเธอได้ชวนพระเอก “ผม” ไปชื้อเชือกเพื่อทำเป็นบ่วงพันรอบคอเธอเพื่อให้นอนหลับ ระหว่างนั้นเธอก็ได้เล่าเรื่องราวของตนว่า ตนเคยมีแฝดน้องสาวคนหนึ่งชื่อ “ยู” ซึ่งแฝดนี้ดูภายนอกจะเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว หากแต่นิสัยแตกต่างกันอย่างสุดขั้น แฝดคนพี่(โมริโนะ)มีนิสัยโหดร้ายและหลงใหลในตาย ส่วนแฝดน้องเป็นเด็กที่ต้องตามใจพี่เพราะอ่อนแอกว่าและต้องทำตามพี่สั่งเสมอ และแล้ววันหนึ่งเด็กทั้งสองหันมาเล่นแผลงๆ โดยการแกล้ง “แขวนคอตาย” โนริโนะสั่งให้ยูแขวนคอ และแล้วก็เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อยูเกิดโดนแขวนคอและตายจริงๆ โนริโนะคิดว่าเหตุการณ์นี้ตนเป็นคนผิด จนเป็นเหตุให้เกิดตราบาปโนริโนะเรื่อยมา
พระเอก “ผม” ได้ฟังความทรงจำของโนริโนะ แต่เขาสะกิดใจได้อย่างหนึ่ง บางทีเรื่องราวนี้อาจมีเบื้องหลัง และมีอะไรนอกเหนือจากนั้น เขาต้องการรู้คำตอบ และแล้วบทสรุปที่คาดไม่ถึงของคดีนี้คือ...........
ดิน(Grave) เป็นตอนที่ผมค่อนข้างชอบ สาเหตุเนื่องมาจากวิธีการฆ่าของฆาตกรนั้นค่อนข้างที่จะเยือกเย็นและโหดร้าย น่าขนลุก แม้มันจะไม่ใช้พวกชำแหละศพ เลือดสาดกระจาย แต่เป็นวิธีที่น่ากลัวอย่างมากหากเราเป็นเหยื่อและอยู่ในเหตุการณ์นั้น ผมอ่านไปก็แอบเสียวหัวใจเหมือนกัน.....
“นี่!!.........วิธีที่ฆ่าคนน่ะ รู้หรือเปล่าวิธีไหนโหดร้ายทารุณที่สุด?”โมริโนะเอ่ยปากถาม “ผม” ในขณะที่เดินทางกลับบ้านด้วยกันหลังเลิกเรียน
“ถ้านี่ไม่ใช้การเล่นทายปัญหามันก็ตอบยากนะ”ผมตอบกลับ”เพราะทารุณมันก็มีหลายแบบ”
“นั้นสินะ.........งั้นก็ต้องเป็นวิธีที่ทรมานและก็ไม่ตายในทันที”
“อย่างอดตายกับจมน้ำตายน่ะเหรอ?”ผมออกความเห็น
“อืมห์..... นั้นมันก็ใช่ แต่ว่าวิธีที่โหดร้ายและสิ้นหวังกว่านั้น” โมริโนะคิดเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะตอบกลับไปว่า” เป็นเรื่องที่ใครๆก็ต้องกลัวจนอยากบิดหน้าหนีก็คือ การช่วงชิงเสรีภาพทั้งหมดไปและทำให้ร้องขอชีวิตก่อนที่จะฆ่า”
(จากหนังสือการ์ตูนเรื่อง GOTH สำนักพิมพ์ ANT)
ตอนนี้ดำเนินเรื่องโดยผ่านมุมมองของฆาตกรคนหนึ่ง ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดเขากลายเป็นคนโหดเหี้ยม รู้แต่ว่าเขาเป็นคนชอบจับคนเป็นๆ ใส่ไว้ในโลงแล้วฝังดิน(โดยมีท่อให้เหยื่อหายใจ) และเขามักฟังเสียงเหยื่อที่ฝังในดินอย่างกับตนมีชัยเหนือกว่า และเมื่อเบื่อเขาก็จะปล่อยน้ำลงท่อ ให้เหยื่อจมน้ำตาย
“วันนั้น....ผมได้ฝังโคสึเกะเพื่อนบ้านที่น่ารักที่รักราวกับน้องชายทั้งที่มีชีวิต โดยใส่ลงในกล่องไม้ ฝังไว้ในดินที่ลึกและมืด ผมได้ฝังคนที่ตนเองรักลงไว้ได้ดินเสียแล้ว...”
ครั้งแรกฆาตกรได้ฆ่าเด็กชาย โดยไม่มีเหตุผลที่จะฆ่า เด็กตายคาโลงที่ถูกฝังอยู่บริเวณสวนบ้านของเขา คนข้างบ้านได้แต่คิดว่านี้เป็นคดีเด็กชายหายไป จนเวลาล่วงไป สังคมก็เลิกสนใจการหายตัวของเด็กชาย ตัวฆาตกรก็ไม่ถูกทางการสงสัยและไม่มีใครๆ สนใจเลยว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีเด็กหายหรือเป็นฆาตกรฆ่าเด็กเลย
จนเวลาสามปี ฆาตกรเริ่มรู้สึกว่าอยากเติมเต็มความต้องการของเขาแบบนี้อีกครั้ง
และแล้วฆาตกรก็ได้เจอเหยื่อเป็นเด็กผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ฆาตกรรอโอกาสให้เหยื่ออยู่ตามลำพังในสวนสาธารณะจากนั้นก็เข้าไปทำร้ายจากนั้นก็พากลับไปที่บ้าน ใส่ในโลงและฝังบริเวณบ้าน
เช้าวันต่อมาฆาตกรก็พูดคุยกับเหยื่อผ่านทางท่อที่ต่อกับโลงต่อขึ้นมาข้างบนฆาตกรสนทนากับเหยื่อที่กำลังหวาดกลัวกับการอยู่ในโลงที่แคบๆ มืดๆคนเดียวอย่างผู้มีชัย ฆาตกรกำหนดตัวเองว่าตนเป็นพระเจ้าสามารถชี้เป็นชี้ตายได้หากเขาเบื่อเมื่อไหร่ตนจะเทน้ำลงในท่อเพื่อให้เธอจมน้ำตาย
“เธอกลัวใช่ไหมล่ะคุณโมริโนะ” ฆาตกรถามเหยื่อที่ชื่อโมริโนะเขารู้ชื่อเหยื่อคนนี้จากสมุดพกนักเรียนที่อยู่ในกระเป๋าถือที่เหยื่อถืออยู่
“........”โนริโนะไม่ตอบ เธอถูกตอบโต้กับฆาตกรเสมือนกับไม่กลัวตาย น้ำเสียงเหมือนคนเย่อหยิ่งและมีนิสัยไม่ยอมแพ้ ซ้ำยังทำพูดประโยคที่ทำให้ฆาตกรหวาดกลัวยิ่งกว่าเธอที่ถูกฝังในดินเสีย
“นายจะไม่ได้ฆ่าฉันแน่นอนเพราะที่กระเป่าเสื้อของชั้นมีปากกาอยู่ถ้าชั้นแทงที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอนายจะแพ้ทันที”
“แต่ยังไงเธอก็ตายอย่างเดียวดายไม่เปลี่ยนนี้”ฆาตกรยังพยายามพูดเพื่อให้ฝ่ายตนเหนือกว่า“อีกไม่นานคนที่ชั้นรู้จักจะต้องมาที่นี้และรู้ถึงอาชญากรรมที่นายก่อไว้เขาจะไม่ปล่อยให้ชั้นตายลำพังแน่นอน”
ฆาตกรทำหน้าถอดสีจนซีดประโยคนี้ทำให้เขาเป็นฝ่ายถูกฝังทั้งเป็นโดยสิ้นเชิงเมื่อเขารู้ว่าทำบัตรประจำตัวหายไปมันเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ตัวเขาว่าเป็นฆาตกรซึ่งหากมันตกในที่เกิดเหตุละก็หายนะมาเยือนเขาแน่ๆ
ระหว่างที่ฆาตกรหาบัตรประจำตัวที่สวนสาธารณะที่เดียวกับลักพาตัวเหยื่อนั้นเองเขาก็ได้พบกับ“ผม”ซึ่งฆาตกรรู้ทันทีเลยว่าเขาคือคนรู้จักที่โนริโนะพูดถึงและแล้วการตอบโต้ระหว่าง“ผม”และ“ฆาตกร”ก็ได้เริ่มต้นขึ้นสู่บทสรุปท้ายเรื่องที่ยากจะคาดเดา.........
ตอนนี้เราจะเห็น“ผม”เล่นจิตวิทยากับฆาตกรอย่างผู้มีชัยและเหนือกว่าฆาตกรหลายขุม ทั้งๆ ที่“ผม”ยังไม่เคยฆ่าคนกลับสามารถต้อนฆาตกรจนตรอกได้
กับดักของคนเขียนที่ทำให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่อ่านยังคงมีอยู่ในตอนนี้โดยคนเขียนได้วางกับดักทำให้เราหลงเชื่อในสิ่งที่อ่านเสียสนิทสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เราโดนหลอกอย่างสนิทใจคือเรามักสร้างภาพของนางเองโนริโนะว่าเป็นหญิงแกร่งผู้ที่ไม่ยอมแพ้ใครมาดนิ่ง ใจเย็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราได้เห็นเธอแสดงออกในหลายๆตอนที่ผ่านมาจนทำให้หลายคนมีความคิดว่าหากตัวละครมีนิสัยแบบนี้ก็คือโนริโนะแน่นอนเลยโดยเฉพาะในตอนที่พระเอกพูดประโยคนี้กับฆาตกรว่า“คุณโนริโนะน่ะ...ไม่ค่อยเก่ง แต่เธอมีแรงดึงดูดพวกนิสัยวิปริตราวกับมีฟีโรโมนอะไรอย่างงั้น” ซึ่งประโยคนี้ได้เกิดทำให้เราเข้าใจผิดเต็มๆถึงเหยื่อที่ฆาตกรฝังนั้นคือโนริโนะและเช่นกัน...กับดักนั้นจะมาเผยตอนท้ายเรื่องให้เราได้อึ้งกันจนได้
และนอกเหนือสิ่งที่อึ้งตอนท้ายบทแล้ว คนเขียนยังเติมเต็มตัวละคร “ผม” ให้แก่คนอ่านอีก เมื่อให้คนเห็นได้เห็นความเลือดเย็นของ “ผม” ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนอื่นได้โดยไม่สนว่ามันจะผิดหรือถูกหรือไม่!!
เสียง(Voice) บทสรุปทั้งหมดนำมาไว้ในตอนนี้ทั้งหมด ทำให้เรื่องนี้จึงยาวเป็นพิเศษ การโปรยกับดักที่ทำให้คนอ่านเห็น “ผม” เป็นคนเลือดเย็น วิปริต ฉลาด ที่พร้อมจะฆ่าคนอื่นได้ทุกเมื่อ ถูกนำมาสารต่อในตอนนี้ เมื่อ “ผม” วางแผนที่จะลงมือฆ่าใครสักคน เพราะทนต่อความยั่วยวนของมีดที่ระลึกที่ฆาตกรทิ้งไว้ในตอน “ปริศนาดำ” ไม่ไหว
ตัดมาที่การดำเนินเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่พี่สาวของเธอถูกฆาตกรปริศนารายหนึ่งฆ่าอย่างโหดเหี้ยมระหว่างทาง ภาพของการตายของพี่สาวนั้นสภาพโหดร้ายไม่สามารถบรรยายมาเป็นคำพูดได้ อีกทั้งครอบครัวรับไม่ได้กับการจากไปพี่สาว โดยเฉพาะเธอที่มีเรื่องทะเลาะพี่สาวและไม่ได้คืนดีกันจนกระทั้งวันที่พี่สาวจบชีวิต เธออยากจะพบพี่สาวอีกครั้งเพื่อขอคืนดี
จนกระทั้งวันหนึ่งมีชายคนหนึ่งมาหาเธอ ชายคนนั้นไม่บอกชื่อแซ่ เขาเรียกตนเองว่า “ผม” เขาได้พูดคุยกับหญิงคนนั้นว่าเขาฆ่าพี่สาวของเธอ ส่วนสาเหตุที่ฆ่านั้นไม่สามารถอธิบายได้ เขาบอกว่ามันเหมือนรักแรกพบที่เขาฆ่าเพื่อให้ได้จิตวิญญาณของเธอ
จากนั้น “ผม” ก็มอบสิ่งของหนึ่งให้ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นเทปบันทึกเสียงพี่สาวที่พูดก่อนถูกสังหารโหด
โดยปกติแล้วฆาตกรต่อเนื่องเวลาจะฆ่าเหยื่อมักจะเอาของที่ระลึกจากศพผู้ตายติดตัวไปด้วยทุกครั้งเพื่อแสดงถึงรางวัลที่ได้จากการฆาตกรรมแต่ละครั้ง ของที่ระลึกก็เช่น กางเกงในของเหยื่อ, นิ้วมือ, ชิ้นส่วนศพ ยกตัวอย่างเช่น ฆาตกรแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ที่อวัยวะภายในของศพหนีหายไป
แต่ดูเหมือนว่าฆาตกร “ผม” ได้เอาของที่ระลึกนี้แก่น้องสาวของเหยื่อ เพื่อให้น้องสาวของเหยื่อเกิดอาการสิ้นหวัง หดหู่ และยินยอมถูกฆาตกร “ผม” ฆ่า และผลก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ น้องสาวเลือกที่จะไม่แจ้งความ และยินยอมทำตามคำสั่งของฆาตกร “ผม” เพื่อมายังที่โรงพยาบาลร้างเพราะอยากได้ยินเสียงเทปเสียงสุดท้ายของพี่สาวอีกสักครั้ง แม้จะถูกฆาตกรฆ่าก็ตาม และแล้วระหว่างที่ฆาตกรจะฆ่าน้องสาวของเหยื่อนั้น ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น และแล้วบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็ติดตามได้ในเรื่อง GOTH
กับดักที่โปรยมาตั้งแต่ต้นจนจบได้สัมฤทธิ์ผล ทำให้ผู้อ่านโดนหลอกจนหน้าหงายสนิทได้ในตอนนี้ เสียดายเรื่องนี้โนริโนะไม่ได้ปรากฏตัวเท่าไหร่นัก เพราะหนักไปทาง “ผม” ซึ่งเมื่อกับดักถูกเผยออกไปแล้ว ส่งผลให้เราจำเป็นต้องอ่านนิยายในตอนนี้อีกครั้งเพื่ออ่านข้อมูลส่วนตัวของตัวเอกที่ตอนแรกเราคิดว่าเป็นเพียงข้อมูลของตัวประกอบที่ไร้จุดเด่น ก่อนที่ไม่วายเมื่ออ่านจนจบเล่มส่งผลให้เกิดอารมณ์ค้าง แม้เรื่องราวก็จบลงอย่างสวยงามชนิดที่คุณจะต้องปาดเหงื่อ แต่ในใจเราก็อยากให้มี ภาค 2 อีกครั้ง เพราะกับดักของคนเขียนนี้หลอกคนอ่านได้อยู่หมัดจริงๆ
แม้วรรณกรรมญี่ปุ่นนั้นสำหรับไทยแล้วไม่ค่อยคุ้นเคยนัก จากสภาพสังคม และชื่อ อาจทำให้ผู้อ่านจำยาก และจิตนาการไม่ออก หากแต่สิ่งชดเชยเข้ามาคือ เนื้อหาที่ขัดแย้ง การดำเนินเรื่อง ก่อนจบลงด้วยการหักมุมที่หายคนต้องอึ้ง จึงไม่น่าแปลกแต่อย่างใดที่วรรณกรรมญี่ปุ่นหลายเรื่องได้ยึดแผงหนังสือของไทยให้เราๆ ท่านๆ ได้อ่านได้เสพกัน
คราวนี้มาถึงตาการ์ตูนบ้าง เรื่อง GOTH ถูกสร้างเป็นการ์ตูน ของสำนักพิมพ์ ANT เล่มเดียวจบ ขอบอกว่าหายากมากๆ ขนาดผมยังหาซื้อไม่ได้ เล่มที่มีอยู่ในมือนั้นเป็นของคนรู้จักทางเน็ตส่งมาให้ฟรีๆ เพื่อให้ผมได้ชื่นชม
ก่อนอื่นขอบอกเลยครับว่า ไม่ควรอ่านการ์ตูน GOTH ก่อนที่จะมาอ่านนิยายอย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้เราได้ทราบกับดักของคนเขียนทั้งหมด และเมื่อเวลาอ่านนิยายแล้วจะทำให้ความสนุกลดลง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความรู้สึกเสียดายเงินมากๆ
ยังดีที่ตอนหมาไม่มีในการ์ตูน ทำให้ผมโดนคนเขียนหลอกจนสนิทใจ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นการฆาตกรรมธรรมดาที่แสนน่าเบื่อ จำพวกฆาตกรสั่งฆ่าหมาให้กัดคอหอยคน หากเมื่อเรื่องหักมุม ผมก็โดนนิยายตบอย่างเจ็บแสบรวดร้าว หน้าแดงยับ จนต้องอ่านนิยายตอนนี้อีกครั้ง ในอีกเว่อร์ชั่นหนึ่งทีเดียว
แม้ว่าการหักมุมในเรื่อง “หมา” อาจไม่แปลกใหม่ หากเทียบกับนิยายในอดีตเรื่องอื่นๆ ที่มีฉากจบแบบหมา หากแต่สิ่งที่ทำให้คนอ่านได้สนุกคือ การวางกลอุบายกับดักหลอกผู้อ่านเสมือนกับว่าคนเขียนเล่นกับผู้อ่าน ลากผู้อ่านให้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์พร้อมพระเอกและฆาตกรไปด้วย ก่อนที่หักหลังผู้อ่านว่าสิ่งที่อ่านตรงนี้มันไม่ใช้อย่างที่คุณคิด
สำหรับการ์ตูนลำดับตอนอาจแตกต่างจากนิยายพอสมควร โดนตอนแรกของนิยายคือ ตัดข้อมือ ตามด้วย ปริศนาดำ, ดิน, แฝด+เสียง และมีการดัดแปลงเนื้อหาเล่นน้อยเพื่อให้เหมาะต่อรูปเล่มไม่ให้ยาวมากจนเกินไป
แน่นอนข้อดีข้อเสียนิยายที่ถูกดัดแปลงมาเป็นหนังสือการ์ตูนคือ การ์ตูนสามารถทำให้เราเห็นภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของตัวละคร สถานที่ หากแต่จุดด้อยของหนังสือการ์ตูนคือไม่สามารถเก็บรายละเอียดในนิยายได้ครบถ้วน
การ์ตูนเรื่องนี้เขียนโดย Kendi oiwa ผู้เขียนเรื่อง Welcom to the n.h.k. หรือชื่อไทยสมาคมคนหนีโลก การ์ตูนตลกแบบเครียดๆ ที่ถ่ายทอดสังคมในด้านลบของญี่ปุ่นชนิดตีแผ่ให้ชาวโลกได้รับรู้ จนคนเขียนไม่กลัวนั่งยางแต่อย่างใด มุกที่เอามา ก็เช่น ลัทธิหลอกลวง, แชร์, โลกเก็บตัว, โอตากุ ฯลฯ โด่งดังจนถูกสร้างเป็นอมิเนชั่น(ว่างๆ อาจจะเขียนถึง) ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็มี Tsukumo Happy Soul
สำหรับเรื่อง คนเขียนได้ถ่ายทอดบรรยากาศได้อย่างดีมาก สมชื่อคำว่า GOTH เพราะโกธนั้นมาจากคำว่า โกธิคซึ่งหมายถึง ดำมืด หรือนิยายประเภทสยองขวัญที่ได้รับความนิยมในสมัยวิกตอเรีย (อีกความหมายหนึ่งคือชื่อเรียกลักษณะของศิลปะสถาปัตยกรรมในยุคกลางราวช่วงกลางของ
ผมชอบบรรยากาศในเรื่อง “ดิน” ตอนที่ใบไม้ร่วงหล่นตลอดฉาก ทุกหน้า ที่ดูแล้วหม่องเมิน แห้งแล้ง ดำสนิท บรรยากาศช่างน่าสิ้นหวังสิ้นดี
นอกเหนือจากเนื้อหาเรื่องสั้น(ขนาดยาว) ทั้ง 6 ในเรื่องแล้ว สิ่งที่คนอ่านติดตามมากที่สุดคือการพัฒนาของพระเอก “ผม” และนางเอกที่แสนจะน่ารัก
“ผมเก็บมีดกับกระดาษที่ถูกเขียนเป็นรูปไม้กางเขนนับไม่ถ้วนของฆาตกรกลับไปเป็นที่ระลึก ทว่าโมริโนะไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าเจ้าของร้านเป็นฆาตกรเลือดเย็นคนนั้น”
“ผมเองก็ยังไม่ได้เข้าในความหมายไม้กางเขนเหล่านั้น แต่ว่าตอนนี้มีดที่วางอยู่บนโต๊ะของผม กำลังเปล่งประหายความอำมหิตออกมาอย่างเจิดจ้า เสมือนกับว่ามันอยากได้เลือดของใครสักคนเพื่อเติมเต็มความต้องการของมัน”
ในฉากจบในตอนตัดข้อมือก็ไม่วายที่คนอ่านมองพระเอก “ผม” เป็นคนวิปริตที่น่าหวาดกลัว
“นี่.....สอนวิธีสร้างอารมณ์ความรู้สึกหน่อยสิ” โนริโนะมองพระเอกออกว่าเป็นคนสองหน้า ซึ่งภายนอกทำตัวเป็นคนธรรมดาและร่าเริง หากแต่ภายในเต็มไปด้วยความวิปริตและเย็นชา ซึ่งโนริโนะยอมที่จะคุยกับพระเอกเพราะทั้งสองมีจิตใจดำมืดเหมือนกัน(ผีย่อมเห็นผีด้วยกัน)
“เธอให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีด้วยการให้อภัยและไม่ใส่ใจกับความอำมหิตในตัวผม เพียงแค่นึกถึงเวลาที่มองมือที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอ ผมก็สบายใจแล้วแม้แผนบงการฆาตกรของผมจะล่มสลายก็ตาม”
“ผมเคยคิดจะฆ่าโมริโนะ มันเป็นความรู้สึกที่มีมาแต่แรก”
(จากหนังสือการ์ตูนเรื่อง GOTH สำนักพิมพ์ ANT ตอนที่ 2 )
นั้นเองเป็นสาเหตุให้เราไม่ไว้พระเอก “ผม” ยิ่งตอนดินยิ่งเราเห็นนิสัยพระเอกชัดเจน ตัวเอกลึกลับ และมีแต่ด้านมืด จนกระทั้งบทสุดท้าย กลับกลายเป็นว่า “ผม” กลายเป็นผู้พิทักษ์โนริโนะไป หากจุดประสงค์ของเขาที่ปกป้องโนริโนะอยู่ที่ฉากสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือ ฉากที่โนริโนะเปิดใจให้พระเอกถึงบาปในอดีต
"ถ้าอยากตายเมื่อไหร่....เวลานั้น.... ชั้นจะเป็นคนฆ่าเธอเอง"
พระเอกพูดประโยคนั้น ก่อนออกจากห้องเรียนไป และทิ้งโนริโนะที่กำลังร้องไห้อยู่เบื้อหลัง เป็นอันปิดฉากการ์ตูน GOTH อย่างงดงาม(ว่าง่ายๆ คือมีแต่ฉันเท่านั้นที่จะเป็นฆ่าเธอได้คนเดียวว่างั้นเถอะ)
หลังจากที่อ่านจบ ผมว่าหากใครคิดจะแต่งนิยายประเภทระทึกขวัญนั้นควรจะนำเรื่อง GOTH เป็นต้นแบบ ไม่ใช้ว่าแต่งให้เหมือน แต่อยากให้แต่งให้เหนือกว่า GOTH เพราะเรื่องนี้เหมาะสมกับประเภทระทึกขวัญที่สอดแทรกจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี
โดยรวมๆ แล้วสิ่งที่นิยายต้องการสื่อคือ การสะท้อนจิตใจด้านมืดของมนุษย์ ที่มีทั้งความอ่อนไหว อ่อนแอ ซึ่งจิตใจเหล่านี้ได้บ่มเพาะจนสักวันหนึ่ง ใครจะรู้เล่าว่าจิตใจอ่อนแอเหล่านี้จะกลายเป็นฆาตกรโหดเหี้ยมอำมหิตเกินมนุษย์ได้
ใช่ว่าฆาตกรเกิดมาแล้วจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตซะเมื่อไหร่ จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู สังคมรอบตัวของฆาตกรด้วย อีกทั้งหน้าตาและนิสัยภายนอกก็ไม่ได้ตัวกำหนดว่าคนๆ นี้คือฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรต่อเนื่องที่ดังๆ หลายหลายที่หน้าตาดูดี มีนิสัยน่าคบ หากแต่นั้นเป็นนิสัยหลอกๆ ที่ฆาตกรแกล้งทำเพื่อให้คนรอบด้านเห็นเขาเป็นคนดีและธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
“การปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมชั้น เป็นอะไรที่ง่ายมาก...ก็แค่เออออไปกับรายการทีวีที่คุยกัน ที่เหลือก็ยิ้มเข้าไว้ก็พอแล้ว....”
(จากหนังสือการ์ตูนเรื่อง GOTH สำนักพิมพ์ ANT ตอนที่ 1 )
ยกตัวอย่าง เช่น เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) 1960 -1994 ชายผมบลอน์อายุราว 30 ต้น ๆ แต่งกายสะอาดเรียบร้อยตอนยังเล็ก ๆ กล่าวได้ว่าเขาเป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่ง มีนิสัยเหมือนเด็กทั่วๆ ไปที่ชอบเล่นของเล่นรักสัตว์ หากแต่วันหนึ่งเขาเกิดสนใจสต๊าฟสัตว์และกระดูกสัตว์ที่พ่อเก็บไว้ดูเล่น
หรือจะเป็นฆาตกรอีกคนคือ เอซ.เอซ.โฮสม์ (H.H. Holmes) 1861 1896 ฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารผู้หญิงกว่า 200 ราย และนำศพไปซ่อนในโรงแรมที่เขาเป็นเจ้าของกิจการอยู่ ภายนอกของฆาตกรคนนี้คือ เป็นสุภาพบุตร ตัวเล็ก ท่าทางอ่อนแอ และมีอาชีพเป็นหมอที่ใครๆ เห็นต่างเคารพนับถือ หากแต่ในวัยเด็กของเขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อติดเหล้า และเพื่อนๆที่รังแกกัน ก่อนที่จะผันตัวเป็นฆาตกรต่อเนื่องในที่สุด
ปัจจุบันฆาตกรต่อเนื่องก็ยังคงอยู่ และปะปนอยู่กับคนธรรมดาในสังคมทุกประเทศ ทั่วทั้งโลก ตราบใดที่มนุษย์ยังมีปัญหาอยู่รอบด้าน ฆาตกรต่อเนื่องคนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ก็เกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จบ
สิ่งเหล่านี้แฝงอยู่ในสังคมและเหล่าหมู่คนที่ปกติทั่วไป... ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าคุณจะเป็นฆาตกรโหด....
+ +
ความคิดเห็น