ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #4 : คลังสยองขวัญลงหลุม เรื่องสั้นของจุนจิ อิโต้ (ตอนที่ 1)

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 53




    คลังสยองขวัญลงหลุม เรื่องสั้นของจุนจิ อิโต้ 

     

                    ผมคิดอยู่นานว่าผมจะเขียนเรื่องนี้ยังไงดี

                    มีหลายๆ คนเรียกร้องผมให้เขียนถึงการ์ตูนของจุนจิ  อิโต้ แต่ผมดันไม่มีอะไรเขียนถึงเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะมันเป็นเรื่องสั้นหลายตอน แต่ละตอนมีจุดเด่นต่างกันซึ่งมากมายจนไม่รู้จะเอาเรื่องไหนมาเขียน เออ.........แบบสองจิตสองใจละมั้ง

                    ผมเคยอ่านหนังสืออะไรสักอย่างของสำนักพิมพ์อะไรสักอย่างนี้แหละ เขาพูดถึงนักเขียนการ์ตูนแนวสยองขวัญในตำนานเจ็ดคนที่เป็นสุดยอดของญี่ปุ่นซึ่งแต่ละคนอาจคุ้นหูชาวไทย อย่างคนเขียนผีน้อยคิวทาโร่,  อ.อุเมซุ คาซุโอะ และหนึ่งในนั้นก็มีอิโต้ จุนจิอยู่นั้นแน่นอน

                   อาจารย์จุนจิ อิโต้เป็นบุคคลในตำนานแห่งวงการการ์ตูนสยองขวัญ....

                   

                    จุนจิ อิโต้(Junji Ito)เกิดเมื่อปี 1963 จังหวัดกิฟุ ได้รับอิทธิพลจากงานวาดของพี่สาว และงานของอ.อุเมซุ คาซุโอะ ทำให้เขาเริ่มสนใจเกี่ยวกับการ์ตูนสยองขวัญ พอจบมหาลัยก็เข้าฝึกงานในสาขาเทคนิคทันตกรรม แต่พอต้นปี1990 เขาก็ได้ลาออกจากอาชีพทำฟันหันไปหางานอดิเรกที่เขาสนใจ นั่นก็คือ การ์ตูนสยองขวัญ งานที่ทำให้อิโต้เปรี้ยงขึ้นมาได้คือ โทมิเอะ และหลังจากนั้นก็มีผลงานสยองขวัญที่เป็นเรื่องสั้นออกมามากมาย

                    และนี้คือผลงานบางส่วนของเขา

    ·       Tommie

    ·       Tomie Part 2

    ·       Flesh Coloured Horror

    ·       The Face Burglar

    ·       Souichi's Diary of Delights

    ·       Souichi's Diary of Curses

    ·       Slug Girl

    ·       Blood-bubble Bushes

    ·       Hallucinations

    ·       House of the Marionettes

    ·       The Town without Streets

    ·       The Bully

    ·       The Circus is Here

    ·       The Story of the Mysterious Tunnel

    ·       Lovesick Dead

    ·       Frankenstein

    ·       Uzumaki Volume 1

    ·       Uzumaki Volume 2

    ·       Uzumaki Volume 3

    ·       Tomie 3

    ·       Gyo - The Eerie Wriggle Part 1

    ·       Gyo - The Eerie Wriggle Part 2

    ·       Mimi's Ghost Stories

    ·       Voices in the Dark

    ·       Hellstar Remina

    ·       New Voices in the Dark (Ghost Stories)

                   

                    ความจริงการ์ตูนแนวสยองขวัญนั้นถึงคราวหมดยุคเสียแล้ว แม้มันจะบูมเมื่อปี 80 ก็เถอะ แต่หลังจากนั้นการ์ตูนแนวอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้คนเริ่มสนใจการ์ตูนแนวผู้หญิงน่ารัก เซ็กซี่ มากที่จะมาดูพวกแหวะหนอนเต็มหน้าในการ์ตูนสยอง ส่งผลให้การ์ตูนเหล่านี้เริ่มหายหน้าหายตาจากแผงหนังสือในญี่ปุ่นและบ้านเราในที่สุด

                    แต่แม้วงการ์ตูนสยองขวัญของญี่ปุ่นจะตายแล้ว แต่หนังผีของที่นั้นยังบูมเป็นระยะ ที่ดังคือเดอะริงคำสาปมรณะที่ต่างชาตินำพล็อตไปทำเป็นหนังเวอรชั่นฝรั้งเรียบร้อย หรือแม้กระทั้งผลงานของอิโต้ จุนจิ ก็ถูกนำมาทำเป็นหนังเช่นกัน อย่างโทมิโกะ และก้นหอยมรณะ

                    พูดง่ายๆ การ์ตูนของอิโต้ จุนจิ ยังเป็นอมตะไม่เสื่อมคลาย จนกลายเป็นหนึ่งในตำนาน จนการ์ตูนหลายเรื่องมักนำมุกไปใช้ทุกครั้งไป

                    สำหรับการ์ตูนของอิโต้ จุนจิในบ้านเรานั้นไม่รู้เพราะอะไร มีการแปลแบบถูกต้องตามลิขสิทธิ์น้อยมาก ทั้งๆ ที่การ์ตูนแนวนี้สามารถขายได้ในบ้านเราได้สบาย เพราะตามปกติคนไทยนั้นชอบแนวผีอยู่แล้ว หรือเห็นได้จากเรื่องปลามรณะและก้นหอยมรณะ(บวกอีกเรื่องคือมิมิคนเห็นผี) ยอดขายก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร มีการพูดถึงในเน็ตบ่อยๆ และยังขายได้เรื่อยๆ ในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะงานส่วนใหญ่ของอิโต้นั้นค่อนข้างจะกระจัดกระจาย วาดให้นิตยสารโน้นมั่ง วาดพิเศษให้ที่นี่มั่ง ทำให้เป็นการยากที่สำนักพิมพ์ลิขสิทธิ์ของไทยจะจับทีละส่วนมารวมเป็นเล่มออกมาให้อ่านกันง่ายๆ

                    โดยส่วนตัวและผมก็ชอบอ่านผลงานของจุนจิ อิโต้ นะครับเพราะ.......อารมณ์ประมาณการ์ตูน 1-5 บาทไทย สมัยก่อน ที่ลายเส้นค่อนข้างถมดำและไม่จำเป็นต้องใช้สกีนโทน แต่พล็อตเรื่องหรือการดำเนินเรื่องของจุนจิ อิโต้นั้นค่อนข้างดำเนินเรื่องแปลกใหม่พอสมควร  คือสยองแต่มีส่วนผสมออกแนวแฟนตาซีและเสริมด้วยตลกร้ายนิดหน่อยก็ติดใจจนอ่านหลายรอบแล้ว ส่วนการ์ตูนผี 5 บาทไทย(ผมพูดการ์ตูนผีสมัยนี้ ไม่ใช้สมัยก่อน)ค่อนข้างดำเนินเรื่องซ้ำๆ ซากๆ ดำเนินเรื่องเน้นบาปบุญคุณโทษที่ผีปรากฏตัวแล้วหักคอและจบ  ความละเมียดน้อยลงเรื่อยๆ

                    น่าเสียดาย ความจริงการ์ตูนผี 5 บาทไทยนี้ถ้าเขียนแบบพล็อตแปลกใหม่ลงไปหรือตัวละครน่ารักหน่อย ผมว่าอุตสาหกรรมการ์ตูนไทยจะเจริญขึ้นมากแน่นอน เพราะการ์ตูน 5 บาทถือว่าเป็นเป็นแหล่งการอ่านราคาถูกที่ทุกคนแตะต้องได้ แต่น่าเสียดายเพราะพล็อตซ้ำซากนั้นเองที่ทำให้ถอยลง ถอยลง และลูกค้ามีแต่คนขับรถบรรทุก(ทำให้เราเรียกการ์ตูนเหล่านี้ว่า การ์ตูนรถบรรทุก), คนแก่, หรือแม่ค้าที่ซื้อไปไว้บนโต๊ะร้านอาหารให้ลูกค้าที่รอเมนูมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น(ผมดูประจำ)

                    กลับมาที่คลังสยองฯ ต่อ ผมจำได้ว่าผมไปเจอหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ตอนผมไปเชียงใหม่ในสมัยจบการศึกษามามาดๆ เป็นสำนักพิมพ์มด(ANT) ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ ส่งผลทำให้การ์ตูนนี้จึงพิมพ์จากซ้ายไปขวา(ซึ่งผมชอบมาก) ตอนแรกผมก็จะข้ามการ์ตูนนี้แล้วถ้าไม่ไปเจอปกชื่อสำนักพิมพ์เข้า(ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักชื่ออิโต้ จุนจิและสำนักพิมพ์นี้)ด้วยความสนใจผมซื้อมาเกือบยกชุดเลยก็ว่าได้ และเมื่ออ่านก็คุ้มดีครับเพราะประทับใจหลายเรื่องเลย เช่น ชายหนุ่มที่สี่แยก, หัวลูกโป่ง, โซอิจิ, ดาวนรกเรมิน่า (Hellstar Remina)

                    แต่น่าเสียดายเพราะเหตุผลบางอย่าง ปัจจุบันผมเหลือหนังสือคลังสยองขวัญลงหลุมไม่กี่เล่ม ทำให้อดที่จะกลับไปอ่านอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย

                    
                    แม้ลายเส้นของอิโต้ จุนจินั้นค่อนข้างโบราณ หลายคนมาเห็นลายเส้นแบบนี้อาจหนีไปอ่านการ์ตูนอื่นที่ลายเส้นสดใสกว่า ผมก็ยอมรับแหละที่ผมอ่านผลงานของเขาครั้งแรก(เรื่องปลามรณะ) ผมแทบปิดหนังสือหนีเพราะนางเอกไม่น่ารัก(......) จนกระทั้งมาอ่านเรื่องนี้อีกครั้งหลังจากที่ญาติคนหนึ่งเอามาให้ ผมก็รู้ว่าสิ่งที่สนุกไม่ใช้ลายเส้น แต่เป็นความแปลกใหม่ในสยองขวัญมากกว่า

                    นอกจากความแปลกใหม่ของเรื่องสยองขวัญผสมแฟนตาซีแล้ว จุดเด่นการ์ตูนของอิโต้คือเน้นตัวประหลาดมากกว่าภูตผีวิญญาณ อีกทั้งไม่เน้นการแก้ปริศนาหรือฉากจบมากนัก เช่นไม่มีอธิบายเพราะอะไรถึงเป็นอย่างงั้น มันคือตัวอะไร ทำไมมันต้องฆ่าคน กินคนด้วย อย่างในตอน ปลามรณะ ที่จู่ๆ ก็มีเครื่องกลประหลาดออกมาอาละวาดฆ่าผู้คนให้มีกลิ่นเหม็นตลอดทั้งเรื่อง  แต่อิโต้ไม่เขียนสักนิดเลยว่าเครื่องเหล่านี้มาจากไหน มาเพื่ออะไร และผลสุดท้ายมันจะจบแบบไหน เสมือนว่าผมหลุดมาจากนรกซะงั้น ซึ่งอิโต้เลือกที่จะจบค้างๆ คาๆ ให้เราได้กลับคิดต่อ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นหนึ่งของการ์ตูนแนวสยองขวัญที่หลายเรื่องมักนำมุกนี้มาใช้ประจำ

                    นอกจากนี้จุดเด่นของอิโต้คือ ขอบเขตการเล่าเรื่อง ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณกว้างเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งแปลกใหม่มากสำหรับแนวสยองขวัญ เพราะส่วนใหญ่แนวนี้มักเกิดในบริเวณที่แคบๆ มากกว่า เช่นในเรื่องปลามรณะ ที่อยู่ดีๆ ปลาในทะเลก็มีขาแปลกประหลาดวิ่งขึ้นมาไล่งับคนบนบก และลุกลามส่งกลิ่นเหม็นทั้งเมืองและมีแนวโน่นว่ามันจะไปทั้งโลก หรือดาวนรกที่กลืนกินโลก หรือก้นหอยมรณะคำสาปที่สาปทั้งเมือง ฯลฯ 

                   

                    โทมิโอะ(Tomie)

                    โทมิโอะเป็นผลงานสร้างชื่อของอิโต้ และเป็นที่ชื่อชอบของแฟนๆ พอสมควร ดังเห็นแต่จากการสร้างเป็นหนังออกมาหลายภาค(ในชื่อผีอมตะ) และมีหลายคนแต่งคอมเพลย์ในชุดของโทมิโอะด้วย

                    อิโต้ จุนจิเปิดตัวโทมิโอะในคลังสยองเล่ม 1 ที่พูดตรงๆ หลายคนแทบรับไม่ได้กับลายเส้นที่โบราณกาลขนาดนี้ หลายคนแทบเกลียดมากกว่าชอบด้วยซ้ำถึงขั้นเอาหนังสือไปเผา แน่นอนผมก็แทบคิดแบบนี้เหมือนกันในตอนแรก แต่ถ้าเรามาเปิดใจ เออ...อย่างน้อยพล็อตอาจสนุกก็ได้นะ อย่าสนลายเส้นเลยมาดูพล็อตดีกว่า

                    ผลคือเป็นอย่างที่ผมคิดครับ เพราะพล็อตมันสนุกมาก

                    เรื่องของโทมิเอะในตอนแรกนั้น เปิดตัวในฉากที่ยามาโมโต้ครูประจำชั้นเรียนแห่งหนึ่งกำลังตีหน้าเศร้าเด็กๆ พร้อมประกาศว่าโทมิโอะเด็กสาวนักเรียนร่วมชั้นนั้นพึ่งเสียชีวิตเมื่อวาน เนื่องจากถูกฆ่า ตำรวจพบชิ้นส่วนเธอกระจัดกระจายอย่างสยอง และมีการยืนยันจากนิติศาสตร์ว่านั้นเป็นศพของโทมิเอะจริงๆ

                    แต่ไม่ทันทีทุกคนในชั้นเศร้าใจการตายของโทมิโอะ ทันใดนั้นเองโทมิโอะก็ปรากฏกายออกมา และเข้าเรียนในชั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    เป็น....เป็นไปได้ไง โทมิโอะ เธอตายแล้วนี้น่า แล้วโทมิโอะที่เห็นตอนนี้ละคือใคร????

                    ท่ามกลางปริศนามากมายที่กระหน่ำเข้ามาในชั้นเรียน ความตึงเครียดสูงสุดขึ้นเมื่อมีการพิสูจน์ว่าเป็นโทมิเอะคนเดียวที่ถูกฆ่าตายตัวจริงหรือไม่ ผลการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นโทมิเอะตัวจริง ไม่ใช้คนหน้าเหมือน, คนแอบอ้าง หรือฝาแฝดแต่อย่างใด

                    จากนั้นฉากก็เริ่มเผยว่าโทมิเอะนั้นไม่ใช้เด็กที่ดีในสายตาเพื่อนร่วมห้องนัก แม้เธอจะเป็นสาวสวยแต่เธอนั้นกลับหลงรูปลักษณ์ตัวเอง จองหอง อวดดี เอาแต่ใจ ชอบดูถูก ต้องการอะไรต้องเอาให้ได้ สำหรับสังคมมนุษย์แล้วนิสัยแบบนี้น่ารังเกียจอย่างยิ่ง

                    แทนทีทุกคนในห้องจะดีใจกับการกลับมาของโทมิโอะ กลับกลายเป็นว่ารู้สึกอยากฆ่าเธอแทน....

                    จนกระทั้งวันหนึ่งที่เธอไปเรียน วิชาข้างนอก ระหว่างยามาโมโต้อาจารย์ประจำชั้นหนุ่มอยู่ตามลำพังโทมิโอะก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่าเธออยากได้อาจารย์เป็นสามี  แล้วยามาโมโต้ชายหนุ่มที่แอบชอบเธอ เกิดอาการหึงหวง แล้วยื้อกันไปมา เธอพลัดตกจากหน้าผา

                    ทุกคนในห้องคิดว่าเธอตายแล้ว ด้วยความรู้สึกกลัวความผิดที่เกิดขึ้นอาจารย์ยามาโมโต้เลยข่มขู่เด็กทั้งชั้นว่าทุกคนต้องรับผิดชอบที่เกิดขึ้น และให้ทุกคนอำพรางศพ โดยให้พวกผู้ชายหั่นศพเธอ แต่ก็พบว่าเธอไม่ตายจริงๆ แค่สลบเท่านั้น แต่ไหนก็ไหนแล้วก็ต้องทำให้จบละน่าอย่างน้อยยายโทมิโอะนี้มันน่าหมั่นไส้สิ้นดี ตายซะเถอะอย่าอยู่เลย

                    ผลสุดท้ายหลังจากหั่นศพโทมิเอะ อาจารย์ก็จัดการแบ่งศพเธอเป็น 42 ชิ้นเท่ากับจำนวนคนในห้องและให้แต่ละคน แยกกันนำชิ้นส่วนศพเธอไปทิ้ง และห้ามใครทรยศไม่งั้นเจอบทลงโทษแสนสาหัส     จนกระทั้งวันต่อมา มีนักเรียนประจำชั้นของโทมิโอะคิดจะไปมอบตัวต่อตำรวจ ทำให้คนทั้งชั้นตามล่าฆ่าปิดปากเด็กนักเรียนทั้งสอง  หลังจากครูและนักเรียนทั้งชั้นฆ่าเด็กคนหนึ่งแล้ว จู่ๆ ก็ปรากฏโทมิโอะออกอีกครั้ง เธอทำหน้าเหมือนไม่สิ่งใดเกิดขึ้น แต่อาจารย์และนักเรียนที่เห็นโทมิโอะที่คืนชีพขึ้นมานั้นก็เกิดสติแตกหนีหายแตกกระจายไปหมดแล้ว....

                    จากนั้นเรื่องก็ตัดฉากมายังเด็กที่รอดชีวิตคนนั้นเล่าเรื่องหลังจากนั้นว่าอาจารย์ยามาโมโต้หายไป สาบสูญ ส่วนเด็กนักเรียนทั้งชั้นบางคนบ้าไม่ก็ฆ่าตัวตาย ส่วนโทมิโอะตัวต้นเรื่องนั้นก็หายสาปสูญเช่นกัน

                    และทันใดนั้นเองเด็กที่รอดชีวิตนั้นก็เห็นสิ่งหนึ่งที่น่าขยะแขยงน่าขนลุกอยู่ใกล้หลืบของหินผาชายหาด

                    มันคือหัวโทมิโอะ ที่กำลังสร้างร่างใหม่ราวกับจิงจอกกำลังงอกหาง..........

                    และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญของโทมิโอะ

                   

                    หลังจากคดีนี้เป็นต้นมา เรื่องของโทมิโอะก็เริ่มพิสดารพันลึกขึ้น ส่งผลให้เธอกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงและพิสดารในที่สุด

                    นอกจากความแปลกพิสดารของร่างกายของเธอ เรายังได้เห็นจุดเด่นและนิสัยของโทมิโอะเพิ่มขึ้น กล่าวคือเธอมีไฝ่ใต้ตาซ้าย นิสัยของโทมิเอะนั้นราวกับถอดแบบนางร้ายในละครหนังไทยสมัยก่อน คือมีความริษยา เอาแต่ใจหย่อหยิ่งจองหอง ปากร้าย ถือดี เจ้าคิดเจ้าแค้น ห่วงแต่ตัวเอง ชอบคนที่หน้าตาหล่อเหลา ชอบเอาชนะ และชอบที่จะใช้ชีวิตอย่างหรูหราและฟุ่มเฟือย ชอบเสื้อผ้าเครื่องประดับและกินอาหารหรูๆอีกอยู่ดี

                    จากเรื่องสั้นของจุนจิอิโต้ ที่เขียนเกี่ยวกับโทมิโอะนั้นโดยถ้าเราเอาเรื่องของเธอมารวมๆ กัน เราจะได้ข้อมูลว่า โทมิเอะนั้นเป็นเด็กสาวปริศนาปริศนา ไร้ที่มา มีความสามารถทำให้ผู้ชายทุกคนที่ได้พบเธอแรกนั้นต้องลุ่มหลงหลงรักเธออย่างบ้าครั้งยอมทำตามสิ่งที่เธอสั่งไม่ว่าจะต้องไปฆ่าคนก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ผู้ชายที่มีแต่ความลุ่มหลงนั้นก็จะกลายเป็นชายที่มีความรู้สึกอยากฆ่าเธอทันที 

                    แต่ใช่ว่าจะมีผู้ชายทุกคนหลงรักโทมิเอะ มีหลายกรณีเช่นกันที่หลายคนไม่รักเธอตั้งแต่แวบเห็น แต่ด้วยนิสัยอยากเอาชนะของโทมิโอะทำให้ชายเหล่านั้นแอบมีใจให้เธอจนได้

                   
                   
    แต่สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของโทมิโอะต่อไปคือร่างกายพิลึกพิลั่นของเธอ เพราะหลังจากฆ่าเธอแล้วเธอสามารถคืนชีพได้ แต่การคืนชีพแต่ละครั้งก็ทำให้หลายๆ คนต่างขนลุกขนพอง แม้หัวถูกตัดเธอก็สามารถเดินไปไหนมาไหนโดยไม่มีหัวได้ หรือจะสับเธอเป็นเนื้อบด แยกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ชิ้นส่วนเหล่านั้นก็จะงอกออกกลายเป็นโทมิเอะตามจำนวนชิ้น หรือถ้าฉีดเลือดของเธอใส่ในร่างทารก เมื่อทารกโตขึ้นเธอจะกลายเป็นโทมิเอะทั้งรูปร่าง หน้าตา และนิสัยใจคอ นอกจากนั้นเธอสามารถฟื้นคืนชีพได้ทุกเมื่อและทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็น ใต้ผืนดิน ในถ้ำ ใต้น้ำตก ในน้ำ กลางหิมะ หรือแม้แต่ในพรม

                    เนื่องจากโทมิเอะสามารถแบ่งร่างได้ จึงมีปัญหาหลายครั้งที่โทมิเอะแต่ละตัวมักมีเรื่องทะเลาะกับตัวอื่นประจำ โทมิเอะยอมไม่ได้ที่จะให้มีคนที่สวยกว่าเธอ ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นเหมือนเธอเองก็ตาม ด้วยเหตุนี้โทมิเอะแต่ละตัวจึงมักจะฆ่ากันเองเสมอ ทำให้อายุของโทมิโอะส่วนใหญ่มักหยุดลงในช่วงวัยรุ่นไม่มีโอกาสจะถึงวัยชรา

                  โทมิโอะคือตัวอะไรกันแน่ เจ้าตัวก็ไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ทั้งสิ้น เธอยังคงดำเนินชีวิตประจำวันของเธอเธอต่อไปด้วยการจีบผู้ชาย (โดยไม่รู้ว่ามีชายคนไหนบ้างที่มีโอกาสแอ้มเธอ)เป็นทาส ถึงแม้ว่าซักวันพวกเขาจะฆ่าเธอก็ตาม โทมิโอะไม่กลัว

                   

                    โทมิโอะเหยื่อในอุดมคติ

                    หลังจากผมอ่านเรื่องโทมิโอะเสร็จจบชุด 1-5 แน่นอนครับตอนจบของซีรีย์ก็ไม่สมบูรณ์ค้างๆ คา ตามแบบของอิโต้แหละ สิ่งที่ผมได้คิดไม่ใช้ความสยอดสยองของเรื่องราวที่น่าขนลุกของโทมิโอะ หรือฉากตลกร้าย หรือฉากการคืนชีพของโทมิเอะ แต่สิ่งที่ผมอ่านแล้วคิดคือ

                    โทมิโอะเป็นเหยื่อในอุดมคติของฆาตกรทั้งหลาย

                    โดยทั่วไป เรามักโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้แก่ฆาตกร และมักพอใจบทสรุปในการปัญหาโดยฆาตกรถูกนำตัวมาลงโทษ ในขณะที่เหยื่อ ผู้ตายสังคมมักันพวกนี้ออกจากความรับผิดชอบ เพราะสังคมมองว่าเหยื่อเป็นผู้เคราะห์ร้าย หรือผู้เสียหาย ไม่ควรให้ใครพูดถึง

                    แต่ความเป็นจริงเราต้องยอมรับว่าเหยื่อบางส่วนก็มีผลให้ฆาตกรลงมือฆ่าเช่นกัน เราเรียกเหยื่อพวกนี้ว่า Provovocative Victims ซึ่งเหยื่อประเภทนี้จะทำสิ่งบางอย่างกระตุ้นฆาตกรให้ลงมือกับตน เช่น ยั่วยุ ขัดใจ กระตุ้นความโกรธ ยั่วยวน ถือได้ว่าเหยื่อเป็นผู้ลงมือกระทำก่อน

                    นอกยังมีแบบที่เรียกว่า  Provovocative Victims คือเหยื่อทำพฤติกรรมหนึ่งที่ล่อให้ฆาตกรมาฆ่าตนอย่างไม่ได้ตั้งใจ เช่นผู้หญิงเดินอยู่คนเดียวในที่รกร้าง การเปลื้องเสื้อ นั่งเสื้อผ้าเอวต่ำเอวลอย หรือสวยจนฆาตกรอยากลงมือเพราะคิดว่ามันคุ้ม

                    และก็เหยื่อที่มีความอ่อนแอเชิงชีวภาพ Bio Iogicacally Weak Victims หมายถึงเหยื่อที่มีร่างกายและจิตใจ เช่น เด็ก ผู้หญิงคนแก่ ซ่งน้อยมากที่เราเห็นฆาตกรโรคจิตฆ่าชายที่แข็งแกร่งกว่าตน

                    สำหรับโทมิโอะนั้นถือได้ว่าเป็นเหยื่ออุดมคติของฆาตกรเลยทีเดียว เพราะเธอมีครบประเภทเลยไม่ว่าจะเป็น Provovocative Victims , Provovocative Victims และ Bio Iogicacally Weak Victims ถ้าใครได้อ่านคลังสยองลงหลุมละก็คุณเคยเห็นโทมิโอะทำร้ายคนในเรื่องหรือเปล่าละ คุณเห็นฉากโทมิโอะแยกเขี้ยวกัดกินสมองคนหรือเปล่า คำตอบคือไม่ เธอเคยทำร้ายอะไรใครสักคนในเรื่องถึงตายเลย เธอแค่ยั่วยวนให้คนอื่นหลงรัก และเกิดอารมณ์ฆ่าเธอเท่านั้นเอง อย่างมากเธอก็สั่งให้ชายอื่นไปฆ่าคนที่สวยกว่าตน หรือลากคนลงในบึงให้จมน้ำตายเท่านั้น แต่เมื่อเธอตายก็คืนชีพอีกครั้งเท่านั้น

                    ตาย คืนชีพ ตาย คืนชีพ ตาย คืนชีพ ฯลฯ

                   

                    แถวอีกนิด

                    -ผลงานเรื่อง "โทมิเอะ" ได้เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ Tomie (1999), Tomie Replay (2000) และ Tomie : Re-birth (2001) และปัจจุบันมีทั้งหมด 9 เรื่อง ซึ่งใช้ชื่อไทยว่า "ผีหัวหลุด" ปัจจุบันสามารถหาดูได้ตามร้านเช่าวีซีดีทั่วไป(ได้ยินมาว่าจุนจิ อิโต้ลงทุนในการเลือกเฟ้นนักแสดงที่แสดงเป็นโทมิอะด้วยตนเองจนกระทั้งเอยปากคนที่แสดงเป็นโทมิโอะว่านี้แหละใช่เลย)

                                   

     

    (ยังมีต่อ+ +)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×