ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องจริงทะลุโลก (Of The World)

    ลำดับตอนที่ #28 : 5 จินตนาการฮีโร่ที่กำลังกลายเป็นจริงโดยวิทยาศาสตร์

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 51


    ครั้งหนึ่งเราคงเคยฝันถึงการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ใช่เปล่าละ อยากจะเป็นวีรบุรุษกำจัดอาชญากรรม คนเลวที่กำลังก่อกรรมทำเข็นบนท้องถนนในบ้านของคุณ แต่ก็นะมันก็เป็นแค่ความฝัน เราไม่มีพลังพิเศษซะหน่อย ไม่ได้โดนแมงมุมกัด ไม่ได้มาจากดาวจอมพลัง ไม่ได้โดนรังสีที่เราโกรธแล้วตัวโตใหญ่ยักษ์ เราเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีสมองใหญ่ๆ และอ่อนแอเท่านั้นเอง

                    แหม....ไม่ต้องน้อยใจ ตอนนี้วิทยาศาสตร์ทำได้ทุกอย่าง มันก้าวหน้าเสียด้วยสิ เทคโนโลยีสามารถสร้างคุณเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในการ์ตูนคอมมิกได้อย่างง่ายดาย  และแน่นอนมันก็สามารถทำให้คุณเป็นมหาวายร้ายได้ด้วย!!

                    ไม่เชื่อเหรอ ไปดูกัน จะได้รู้ว่าความฝันของเรานั้นสามารถเป็นได้ในอนาคตข้างหน้า

     

                    (แปลโดย Cammy อ้วนนรก ณ ทุ่งสังหาร ปอช่วยนิดๆ)

     

                    อันดับ 5 Iron Man

     

    เอาเนื้อเรื่องจากการ์ตูนละกันพระเอกชื่อ Stark MacGyver นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์พันล้าน ถูกลักพาตัวโดยทหารเวียดนาม(ในหนังเป็นอัฟกัน) ซึ่งในช่วงเวลานั้นอเมริกากำลังก่อสงครามเวียดนามอยู่พอดี๊พอดี แล้วถูกบังคับให้สร้างอาวุธจรวดมหาประลัย แต่สิ่งที่พระเอกสร้างกลับกลายเป็นชุดเกราะที่ปล่อยพลังมหาประลัยที่หน้าอกได้ และระเบิดคุณด้วยปืนใหญ่ติดมือทั้งสองข้างจนร่างเละเป็นจุน

    กลับมาที่โลกแห่งความจริงบ้างครับ ด้วยเทคโนโลยีสุดมหัศจรรย์ เชิญพบกับ  HAL 5 หรือ ไฮบริดแอสสิทีฟ ลิมป์ 5  (Hybrid Assistive Limb-5) เป็นผลงานการพัฒนาของศาสตราจารย์โยชิยูกิ ซานไก ที่ศูนย์งานวิจัยบรรษัทอุตสาหกรรมซูคูบะ ของมหาวิทยาลัยซูคูบะ Robot Suit หรือชุดหุ่นยนต์นี้ จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีแรงมากขึ้นกว่าเดิม2เท่า โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยผู้สูงอายุหรือผู้พิการให้ดำเนินชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น โดยHAL-5 นี้ได้ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจาก ชุดนี้ทำจากอโคนิม(แปลออกมามันเป็นแบบนี้อ่ะ) ผสมทั้งแขนและขาซึ่งทำให้มันแข็งแกร่งมากๆ นอกจากนี้ยังมีพลังงานเทียมที่ใช้สำหรับเป็นเป็นตัวเคลื่อนไหวเหมือนกับไอออนแมนซะด้วยสิ

    ทีมงานผู้พัฒนาชุดอธิบายหลักการชุดนี้ว่า "ชุดนี้นะครับ สร้างขึ้นเพื่อให้คนที่เดินไม่ค่อยได้สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ มันมีสัญญาณเส้นประสาทที่สามารถบังคับมันได้โดยส่งจากสมองถึงกล้ามเนื้อ ทำให้ชุดนี้สามารถเคลื่อนที่ได้ตามใจนึก ในอนาคตข้างหน้าเราก็จะสร้างให้เป็นชุดเกราะในสงครามหรือใช้ปฏิบัติที่มนุษย์อย่างเราไม่สามารถทำได้ เช่นกู้ภัย ผจญเพลิง ไต่เขา ฯลณ  และอาจมีพลังเหมือนไอแอนแมน และซุปเปอร์ ก็ได้นะครับ ฮ่าๆ"

    อันดับ 4. Jean Grey (X-Men)

     

                    Jean Grey สาวสวย ผมยาวแดงในทีม X-Men นั้น เธอมีพลังจิตแสนร้ายกาจ เพียงแค่เธอคิดเท่านั้นแหละ สั่งของต่างๆ ให้เคลื่อนไหวตามที่เธอสั่งได้ นอกจากนั้นยังระเบิดพลังให้คนวายร้ายปลิวไปกลับสายลม และใช้พลังสร้างเกราะป้องกันกระสุนปืนได้ซะด้วยสิ

              กลับมาที่โลกแห่งความจริง ด้วยเทคโนโลยีสุดมหัศจรรย์ เชิญพบกับ  The Brain-Gate Neural Interface System (BGNIS) แปลเป็นไทยคือระบบประสาทอินเตอร์เฟส โดยบริษัท Foxborough คิดเครื่องมือนี้ขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นอัมพาตสามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยเพียงแค่คิดด้วยสมองของคุณเท่านั้น ก็สามารถติดต่อกลับไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งกระทำเป็นเกทเวย์สำหรับกระบวนการทั้งหมด จากข้อมูลที่ส่งมาถูกจกลายเป็นข้อมูลทางกายภาพ เช่น เพียงแค่คิดเท่านั้นก็สามารถเปิดปิดไฟได้ เปิดทีวีได้ เล่นคอมพิวเตอร์ได้   ซึ่งถือว่าเป็นระบบเริ่มต้นในการวางรากฐาน ตัวตรวจจับสัญญาณในการใช้เครื่องยนต์ ซึ่งเทคโนโลยี BGNIS ถูกยืนยันโดย FDA  และ Cyberkinetics หวังว่าเทคโนโลยีนี้จะนำออกวางขายตามท้องตลาดในสามถึงห้าปีข้างหน้า โดยใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องตัดหญ้า รถยนต์ หุ่นยนต์

     

                    อันดับ 3. Spider-Man

     

    วิลเลี่ยม ปาสเกอร์ ชายหนุ่มผู้อ่อนแอแล้วโดนแมงมุมกัมมันตภาพรังสี  จนกลายเป็น "แมงมุม"   เขาสามารถคลาน-ปีน-ไต่บนกำแพง และ พ่นใยที่เหนียวหนึบหนับจับคนร้ายได้อยู่มัดได้

    กลับมาที่โลกแห่งความจริง ด้วยเทคโนโลยีสุดมหัศจรรย์ เชิญพบกับ Carbon nanotube technology and nanoglue (คาร์บอน  nanotube และ   เทคโนโลยี nanoglue)

    อันแรกคือธาตุคาร์บอน nanotube เทคโนโลยีสุดล้ำ ถ้าเราส่องต้องกล้องจุลทรรศน์เราจะเห็นเป็นรูปตะขอเกี่ยวกับไปเกี่ยวกันมา วนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเราจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเลย  โดยเทคโนโลยีนี้กำเนิดโดยนักวิทยาศาสตร์บอิตาลีชื่อ Nicola Pugno บอกว่าเขาพัฒนามันขึ้นเพื่อทำเป็นถุงมือ และรองเท้า ซึ่งมีคุณสมบัติคือสามารถเกาะกำแพงได้ และสามารถไต่กำแพง-เพดานอย่างการรวดเร็วเหมือนจิ้งจก ซึ่งเขาหวังว่าจะได้ต้นแบบที่เหมาะสมสมออกวางจำหน่ายใน ปี2010

    อันที่สองคือเทคโนโลยี nanoglue  เป็นกลุ่มของโพลีเทคนิค Rensselaer เริ่มสร้างโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงาน กับ nanolayers เป็นคาร์บอนไฟเบอร์มาปั่นเป็นเส้นใยสุดแข็งแกร่ง ที่ยากที่จะแกะออกเลยแหละ โดยผู้นำของโครงงาน, ศาสตราจารย์ Ganapathiraman Ramanath บอกว่าเราสามารถใช้มันเป็นเวอร์ชั่นชีวิตยิงใยแบบแมงมุมได้นะจะบอกให้

     

                    อันดับ 2.  Wolverine

        

                 หนึ่งในสมาชิก
    X-Men ที่มีพลังของสัตว์ป่า และมีเนื้อเยื่อของสัตว์เลื้อยคลาน(ประเภทจิ้งจก ตุ๊กแก)  ทำให้มีความสามารถสมานบาดแผลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรักษา อีกทั้งยังสามารถงอกเนื้อเยื่อใหม่ได้ โดยเฉพาะอุ้งเล็บโลหะที่สุดคม ฟาดฟันกับเหล่าร้าย

    กลับมาที่โลกแห่งความจริง วิทยาศาสตร์สามารถเป็นจริงได้โดย  The  extracellular  matrix   เมตริกซ์)

    The  extracellular  matrix ผมก็ไม่รู้จักมันซักเท่าไหร่ แต่จากการแปลคงเป็นการผลิตเนื้อเยื่อเทียมใหม่สำหรับคนที่สูญเสียอวัยวะ เช่น ผิวหนัง นิ้วมือ โดยเทคโนโลยีการผ่าตัดนี้เคยประสบผลสำเร็จมาแล้วในปี ค..2005 เมื่อทำการทำข้อนิ้วมือใหม่แก่ชายคนหนึ่งที่ประสบอุบัตินิ้วชี้ขาด โดยของเทียมนี้ทำจากกระเพาะปัสสาวะหมู!! ซึ่งกระเพาะปัสสาวะหมูนี้มีสารสำคัญพื้นฐานของโปรตีนที่พบระยะฟีตัสอยู่ในทารกมนุษย์ โดยสามารถซ่อมแซมความเสียหายใดๆในร่างกายของเราได้ คุณสามารถรักษาบาดแผลที่ถูกแทงในเวลาเพียง 1 วินาที ในขณะที่พวกผู้ร้ายต้องตกใจในขณะที่กำลังแทงคุณอย่างสุดแรง "โอ้!! พระเจ้าจอร์ดมันเป็นไปได้ยังไง"

                   นอกจากนั้นมีข่าวลือว่า The  extracellular  matrix นั้นกำลังถูกนำมาใช้กับการทหาร ซึ่งสามารถทำเล็บเทียม อวัยวะเทียมต่างๆ และอีกไม่นานเราอาจได้เห็นอุ้งเล็บโลหะก็เป็นได้

     

                    และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 ของเรา ซึ่งตรงกลับใจหลายคนเหมือนกันนะครับ ซึ่งมันเป็นพลังวิเศษในฝันที่คนอยากจะได้มากๆ

     

                    มันคือ............

     

                    อันดับ 1. Sue Storm, the Invisible Woman

     

    ซู สตอร์ม (Sue Storm) หรือ สาวพลังล่องหน (Invisible Woman) หญิงสาวสวยที่ หายตัวได้และยังสร้างสนามพลังซัดเข้าใส่เป้าหมายใด ๆ ก็ได้ดังใจสั่ง...

    กลับมาที่โลกแห่งความจริง วิทยาศาสตร์สามารถเป็นจริงได้โดย  Retro -Reflectum

                    ซุสุมุ ทาชิ นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโตเกียวได้กำเนิดเทคโนโลยี Retro -Reflectum ซึ่งว่ากันว่าเป็นความสำเร็จใหญ่ที่สุดของมนุษย์...จนกระทั่งมันถูกใช้โดยตัวอย่างแรกเป็นเสื้อที่สวมใส่แล้วมองทะลุตัวไปได้เหมือนผ้าคลุมโดเรมอนไม่มีผิด!

    ซุสุมุ ทาชิ ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าวว่า Retro -Reflectum จะช่วยให้วัตถุที่อยู่ใต้อุปกรณ์อำพรางดูใสแจ๋ว ราวกับล่องหนได้ โดยมันถูกสร้างขึ้นจากวัสดุสะท้อนด้านหลัง ที่ทำตัวเหมือนจอสะท้อน ทำให้เกิดผลกระทบอย่างที่เห็น และถ้าอยากจะเห็นภาพให้ได้ โฟกัสดีเหมือนจริงที่สุด ผู้มองจะต้องมองผ่านรูเข็ม

                    ประโยชน์ของ  Retro -Reflectum ก็มีเยอะนอกจากทำให้เราหายตัวได้ โดยการแพทย์จะช่วยให้ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดได้อย่างสะดวกโดยไม่มีนิ้วมือหรืออุปกรณ์ผ่าตัดไปกีดขวางการมองเห็น นอกจากนี้ยังติดไว้ที่พื้นห้องนักบิน ก็จะช่วยให้พื้นล่องหนหายไปทำให้นักบินนำเครื่องลงจอดได้ง่ายขึ้น แต่เทคโนโลยีนี้ก็สามารถนำมาใช้ในเรื่องร้ายๆ เช่นกัน เช่นพวกแอบคนข้างบ้าน เวลาคุณอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณจะไม่รู้ตัวเลยว่ายังมีใครคนหนึ่งกำลังจ้องดูคุณอย่างหื่นกระหายบ้ากามท่ามกลางฝนตก ฝูงลูกเห็บกระหน่ำนั้น หรือทางการทหารเหล่าคอมมาโดสามารถจับคุณบิดคอหรือบาดคอคุณได้โดยไม่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังเข้าใกล้คุณ

    นิตยสารต่างประเทศได้ยกย่อง Retro –Reflectum ว่าเป็น "สิ่งประดิษฐ์ที่สุดเจ๋งที่สุดของปี 2003" และมันจะออกวางขายในปี 2008 ในอนาคตข้างหน้านี้

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×