ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #113 : Haibane Renmei โลกคู่ขนานแห่งชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 54


     

    ช่วงนี้ก็มีการ์ตูนใหม่หลายเรื่องให้ได้เลือกดูกัน แต่ความคิดเห็นผม มีแค่ 2 เรื่องที่ผมดูแล้วโอเค คือ Mitsudomoe 2, Onii-chan no Koto Nanka Zenzen Suki Janain Dakara ne!! นอกนั้นเป็นการ์ตูนแอ็คชั่นแฟนตาซี (เนื้อหาก็ไม่ได้ฉีกแนวเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ที่ญี่ปุ่นฮิตแนวแบบนี้เหรอ) ดูแล้วก็ไม่รู้จะเขียนอะไร เลยรีวิวการ์ตูนที่ผมซื้ออีกเรื่องดีกว่า


               มันเริ่มจากเว็บ
    http://www.nihonreview.com/anime/area-88/ถือได้ว่าเป็นเว็บที่มีความคิดเห็นแตกแยกกับผมมาก  โดยเว็บนี้จะเป็นเว็บเกี่ยวกับรีวิวการ์ตูน จะแตกต่างจากที่อื่นหน่อยคือเขาจะให้คะแนนด้วย ซึ่งเขาให้คะแนนโดยไม่สนว่าการ์ตูนเรื่องนั้นมีคนอวยมากน้อยเพียงใด หรือมีชื่อเสียงได้รับรางวัลอะไรบ้าง ทำให้เขาให้คะแนนการ์ตูนนั้นอย่างน่าตกตะลึงขัดใจเหล่าแฟนการ์ตูนเรื่องนั่นๆ หลายเรื่อง และหลายเรื่องที่ให้คะแนนไม่ตรงใจกับผมสักเท่าไหร่ ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

    11eyes(เขาให้ 4 แต่ผมอยากให้แค่ 2), Angel Beats!(เขาให้แค่ 6), Appleseed(เขาให้ 8 แต่ผมจะให้แค่ 6), Arakawa Under the Bridge(เขาให้แค่ 7), Baka to Test to Shokanju (เขาให้แค่ 3 อันนี้อยากถีบคนให้คะแนน การ์ตูนอุตส่าห์หาสาระดีๆ ให้แค่ 3), Black Rock Shooter (เขาให้ 4 เห็นด้วยโครตเลย), Clannad(หลายคนอวยกันแต่เขาให้ 7), Dragonball Z(เขาให้แค่ 2) และ Durarara!(เขาให้แค่ 7)

    (ปล. สามารถคลิกไปดูเหตุผลเขารีวิวได้ในชื่อเรื่อง)

    ส่วนตัวสำหรับผมแล้ว การรีวิวการ์ตูนไม่ควรให้คะแนนครับ การ์ตูนมันขึ้นอยู่กับรสนิยมคนดู การ์ตูนบางเรื่องเขาให้แค่ 3 แต่สำหรับผมแล้วกลับให้ถึง 10 เรื่องคะแนนแบบนี้มันอยู่ที่ใจครับ

    แม้ว่าผมจะไม่ชอบความคิดเห็นการให้คะแนนในเว็บนี้เท่าไหร่ แต่กระนั้นผมก็เข้าเว็บนี้ประจำ เพราะต้องดูสิ่งที่เขาเขียนถึงการ์ตูนนั้นๆ อีกทั้งมาดูการ์ตูนที่เขาเต็ม 10 ว่ามันเหมาะสมกับเขาบอกหรือไม่ว่าดีหรือเปล่าแล้วก็หาซื้อหาโหลดมาดูจะได้มาเขียนในบทความผมต่อไป โดยในเว็บนั้นมีการ์ตูนหลายเรื่องที่เห็นแล้วอยากจะดูมากๆ เช่น Battle Angel Alita (8), Bokurano (9), Eternal Family 8, Kino's Journey (9) ฯลฯ

                    การ์ตูนที่ผมยกตัวอย่างดังกล่าวไม่สามารถหาโหลดหรือหาซื้อได้แล้วนะครับ เพราะการ์ตูนค่อนข้างเก่า ดังนั้นใครที่มีการ์ตูนเหล่านี้ในมือ(แล้วมีซับไทยด้วย)ถือว่าเป็นโชคของคุณที่ได้ดูการ์ตูนดีๆ หายากแล้วนะครับ

                    และเว็บนี้เองที่ทำให้ผมได้รู้จักการ์ตูนเรื่องหนึ่งชื่อ Haibane Renmei ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักแรกที่ผมสั่งซื้อจากเว็บมาเลยนะครับ เพราะเนื้อหาของมันนั้นหลายคนยกนิ้วว่า “สุดยอด!!” ซึ่งสุดยอดตามคำวิจารณ์หรือไม่นั้น คุณเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสิน

     

     

    Haibane Renmei

    ดราม่า, แฟนตาซี, ชีวิตวันต่อวัน

     

    Haibane Renmei เโดยเปิดตัวครั้งแรกในฐานะโดจินชิชื่อเดียวกันของ "โยชิโตชิ อาเบะ"(เป็นคนออกแบบอนิเมชั่นไซไฟที่งงสุดยอด(แต่นางเอกน่ารักโครต)อย่าง “เลน” ) เมื่อปี1998หลังจากนั้นในปี 2001 อ.อาเบะ ก็ได้หยิบเรื่องนี้มาเขียนใหม่อีกครั้ง โดยวางโครงเรื่องและตัวละครใหม่ทั้งหมด  และใช้ชื่อว่า"Old home no Haibane" (เหล่าไฮบาเนะแห่งบ้านเก่า) และเขียนเล่มที่สองตามมาในปี 2002 ส่วนเล่มที่สาม "Haibane Lifestyle Diary" (บันทึกชีวิตประจำวันของเหล่าไฮบาเนะ) และThe Haibane of Old Home: Extra Editionวางจำหน่ายปี 2002               ต่อมาในปี 2002 ก็มีกำหนดในการสร้างอนิเมชั่น กำกับโดย Tomokazu Tokoro มีทั้งหมด 13 ตอนจบ และถูกรีแม็คใหม่ครั้งหนึ่ง

    Haibane Renmei เริ่มต้นด้วยฉากโลกคู่ขนานแห่งหนึ่ง โดยฉากแรกเป็นภาพของสาวน้อยกำลังตกจะฟากฟ้าหัวกำลังลงพื้น โดยมีพวกอีกาพยายามที่จะช่วยสาวน้อยนี้ไม่ให้ตกบนพื้นโดยการเอาปากดึงเสื้อคลุมของเธอ แต่พวกอีกาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้

    จากนั้นฉากก็กลับมาเป็นบ้านเก่าๆ หลังหนึ่ง มีกลุ่มคนซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก ที่เหมือนเทวทูต มีปีกและมีวงแหวนอยู่ที่หัว จู่ๆ พวกเธอก็ได้พบรังใหญ่ๆ เหมือนรังสัตว์ประหลาดอยู่ในห้องเก็บของ ซึ่งเมื่อไฮบาระพบกับรังดังกล่าวพวกเขาก็แสดงอาการตื่นเต้นและทำความสะอาดห้องเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะรอให้สิ่งที่อยู่ในรังฟักตัวออกมาข้างนอก เมื่อรังเปิดปรากฏว่ามีเด็กสาวที่ปรากฏตัวตอนต้นเรื่องออกมา ซึ่งเด็กสาวคนนั้นความทรงจำในอดีตนั้นหายไปหมด ไม่รู้ว่าตนเป็นใครมาจากไหน มาที่นี้เพื่ออะไร จำได้แต่ความฝันว่าเธออยู่บนท้องฟ้ากับพวกอีกาเท่านั้น ดังนั้นเหล่าไฮบาระจึงตั้งชื่อเธอว่า “รัคกะ” และเด็กสาวคนดังกล่าวได้ผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนตนเองเป็นไฮบาระซึ่งต้องทนความทรมานเจ็บปวดต่อปีกที่งอกอยู่ด้านหลัง

    รัคกะและเหล่าไฮบาระคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสาววุ่นรุ่นและเด็กชายและหญิงที่อายุน้อยกว่าต้องอาศัยอยู่บ้านใกล้กับเมืองที่เรียกว่า “บ้านเก่า” ที่เคยเป็นโรงเรียนมาก่อน ในเวลาผ่านไปรัคกะ ได้เรียนรู้โลกที่ตนอยู่ โดยโลกที่ว่าเป็นโลกคู่ขนานที่เป็นเมืองสมัยยุคกลางประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ไม่มีรถยนตร์ แต่มีไฟฟ้าโดยใช้พลังงานจากกังหันลม บริเวณรอบเมืองนั้นมีกำแพงสูงมาก นอกจากนี้เธอต้องจำกฎของไฮบาระหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น เหล่าไฮบาระจะต้องใช้ของมือสองของมนุษย์คนอื่นเท่านั้น, เหล่าไฮบาระจะต้องมีงานทำ, ไฮบาระไม่สามารถใช้เงินของมนุษย์ได้ ไฮบาระไม่มีสิทธิออกนอกเมือง(และชาวเมืองก็ไม่มีสิทธิออกนอกเมืองเช่นกัน) และเหล่าไฮบาระจะถูกเลี้ยงดูโดยองค์กรหรือ "สมาพันธ์ปีกสีเทา" ของเมืองที่ตั้งกฎและจะต้องปฏิบัติตาม แม้กฎหลายข้อจะแปลกและเหมือนกีดกันแต่ไฮบาระคนอื่นไม่ได้เดือดร้อนอะไร กลับให้ความสำคัญต่อกฎนั้นอย่างเคร่งครัด จากนั้น รัคกะก็พบว่าคนในเมืองนั้นมีความเป็นมิตรและมีน้ำใจต่อไฮบาระ และนอกจากไฮบารพวกเธอแล้วยังมีไฮบาระคนอื่นๆ ในโรงงานที่ถูกทิ้ง โดยส่วนมากเป็นกลุ่มเด็กชายและวัยรุ่นชาย

                    
                    
    การ์ตูนดำเนินเรื่องช้าๆ ตามประสาชีวิตวันต่อวันและมิตรภาพของเหล่าสาวๆ รัคกะได้ค้นหางานที่เหมาะสมกับตัวเองในเมืองโดยสถานที่รัคกะไปก็มี ห้องสมุด ร้านนาฬิกา ร้านเบเกอรี่ ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีเพื่อนของเธอทำงานอยู่

                    และเมื่อถูกฤดูหนาว รัคกะได้พบกับความสูญเสีย เมื่อคูเพื่อนของเธอซึ่งมีพฤติกรรมแปลกๆ หลายวันก่อนได้หายตัวไป รัคกะได้รู้ว่าคูได้ถึงวันที่จะต้องออกกำแพง ที่รัยกว่าวันแห่งการบิน อันเป็นชะตากรรมของไฮบาระ ซึ่งจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่ไม่มีบาปและละทิ้งทุกสิ่งอย่างหมดห่วง

                    การหายตัวอย่างกะทันหันไปของคูส่งผลทำให้รัคกะเกิดการกังวลและเศร้าซึม จนกระทั้งเธอพบว่าขนปีกของเธอนั้นเป็นสีเทาและเริ่มกลายเป็นสีดำ ริคกะพยายามทำลายขนนี้ออกแต่ไม่สามารถทำได้และเริ่มหมดความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของเธอ รัคกะได้รู้ความหมายของปีกสีดำว่ามันคือ “บาป” ที่จมอยู่กับความผิดในอดีต

                    นับวันจิตใจของรัคกะได้เศร้าซึมถึงขีดสุด ปีกของเธอเริ่มเปลี่ยนสีดำสับสนจนกระทั้งหนีออกจาก “บ้านเก่า” จนกระทั้งพบอีกาฝูงหนึ่งที่นำพาไปยังป่าต้องห้าม จนกระทั้งมาพบบ่อน้ำบ่อหนึ่งในป่าและเมื่อเธอลงไปในบ่อ ก็ได้รับอุบัติเหตุจนขาเพลงและเธอก็ได้พบซากกระดูกอีกาตายตัวหนึ่ง เธอเชื่อว่าอีกาตัวนี้เป็นตัวเดียวที่เห็นในฝันพยายามช่วยเธอกำลังตกไปข้างล่าง อีกาตัวนี้น่าจะเป็นตัวแทนของคนที่เคยทำร้ายหรือคนที่เธอรักเมื่อครั้งอดีต ริคกะได้ทำการฝังศพขออีกาตัวนั้นเพื่อชดเชยอะไรบางอย่าง ก่อนที่ปีกของเธอจะกลายเป็นปกติอีกครั้ง และระหว่างนั้นเองริคกะได้ถูกช่วยเหลือจากคนสมาพันธ์ปีกสีเทาและเธอก็ได้พบกับ “ผู้สื่อสาร” ซึ่งเป็นหัวหน้าสมาพันธ์ ระหว่างที่ทำสองกำลังออกจากป่านั้น รัคกะได้พูดเรื่องบาปของตนแก่ผู้สื่อสารฟัง

    ผู้สื่อสาร: "To recognize one's own sin is to have no sin. So, are you a sinner?"

    รัคกะ: "Uh! But if I think I have no sin, then I become a sinner!"

    ผู้สื่อสาร "Perhaps this is what it means to be bound by sin. To spin in the same circle, looking for where the sin lies, and at some point losing sight of the way out."

                    เมื่อทั้งสองออกจากป่า รัคกะได้แยกจากผู้สื่อสารเพื่อกลับไปบ้านเก่า ระหว่างทางเธอได้พบเพื่อนๆ ที่ออกตามหาเธออย่างจ้าระหวั่น และในคืนนั้นเองรัคกะได้ป่วยอย่างหนักเนื่องจากเธอสัมผัสกับกำแพง และคำคืนนั้นเรกิซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อน,รุ่นพี่,คนดูแล ได้เฝ้าไข้เธออย่างใกล้ชิดพร้อมกับความรู้สึกอิจฉาและความเหงาที่ก่อเกิดในจิตใจลึกๆ ในจิตใจจนเกิดบาป ทำให้เธอไม่สามารถออกนอกกำแพงได้ และรัคกะได้รู้เรื่องนี้เธอจะทำอย่างไร เธอจะช่วยเรกิได้หรือไม่ ก็ติดตามตอนต่อไป

    (ปล.เรื่องย่อจาก 1-9 ขอล่ะเรื่องย่อ 10-13 เพื่อให้ผู้สนใจได้ติดตามดู)

      

    Haibane Renmei  เป็นการ์ตูนที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมากและมันได้เปิดตัวไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และนอกจากนี้มันยังเป็นบรรทัดฐานการ์ตูนแนวโลกคู่ขนาน โลกหลังความตายในหลายเรื่องในเวลาต่อมาด้วย  แต่สิ่งที่ผมพยายามที่จะหาการ์ตูนเรื่องนี้มาดูก็เนื่องมาจากผมอยากเห็นโลกแฟนตาซีของ Abe Yoshitoshi ซึ่งเป็นผู้สร้างการ์ตูนที่เรื่อง “เลน”อีกทั้งยังการกล่าวขวัญในเว็บอื่นๆ ว่ามันเป็นผลงาน “ชิ้นเอก” ที่ไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนที่จะสามารถนำเสนอโลกแฟนตาซีโลกหลังความตายแบบนี้ได้

    ก่อนที่จะพูดต่อไป ขอแนะนำคนที่คิดจะดูการ์ตูนเรื่องนี้ว่า แม้การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องอย่างช้าๆ แต่กระนั้นเมื่อคุณดูจะพบว่ามันจบอย่างไม่รู้ตัว(แต่กระนั้น 13 ตอนที่ว่าจบแต่ละตัวของมันที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปเพิ่มอะไรเลย) แต่ใครที่คาดหวังว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะสนุก ภาพสวยอลังการ มีปริศนาให้ขบคิดละก็ การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่ตัวเลือกอย่างแน่นอน รัคกะไม่ใช่ตัวละครฉลาดหรือน่ากลัวอย่าง “เลน” ไม่ใช่คนขี้สงสัยว่าทำไมไฮบาระจะต้องทำตามกฎแบบนี้ด้วย, อะไรอยู่นอกกำแพง, ทำไมเธอต้องมายังโลกใบนี้ ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่การไขปริศนา แต่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเหล่าสาวๆ ในเรื่องเสียมากกว่า

    ถ้าผมจะเปรียบเทียบการ์ตูนเรื่องนี้สักเรื่องหนึ่ง คงจะเริ่มจากมันเป็นแฟนตาซีมิตรภาพสาวๆ เหมือนเรื่อง So Ra No Wo To (ระหว่างรุ่นน้องกับรุ่นพี่), มีศัพท์ยากและดำเนินงงเหมือนเรื่อง Lain  (แต่เรื่องนี้ งง น้อยกว่า) และมาแบบเพื่อนหายไปทีละคน พูดง่ายๆ มันก็คือการ์ตูนมิตรภาพ, การสูญเสีย, ศาสนา และสิ่งเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความสุขกับชีวิตของเรา

    การ์ตูน Haibane Renmei  ไม่ต้องการให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนานหรือความสุข หากแต่การ์ตูนต้องการให้เรา งง (ถ้าคุณไม่ งง ถือได้ว่าคุณไม่สามารถเข้ากับการ์ตูนเรื่องนี้ได้) แม้การดำเนินเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนจะเข้าใจง่าย แต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศพิศวงและลึกลับนั้นมาจากสัญลักษณ์ตัวแทนมากมายที่ปรากฏในเรื่อง ที่กระหน่ำยิงคุณด้วยศัพท์และคำอธิบายยากไม่แพ้เรื่อง Neon Genesis Evangelion เลยทีเดียว  มีทั้งสัญลักษณ์ทางศาสนา การบูชาเทพเจ้า การสร้างโลก คำสอนของศาสนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน พุทธ ต่างมารวมเรื่องนี้หมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็น การเกิดใหม่, บาป ขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นฉากแรกที่รัคกะถือกำเนิดจากรัง(ที่เรียกว่าโคคูน)นั่นเปรียบเสมือนการคลอดบุตร เพียงแต่สิ่งที่เกิดนั้นแทนที่จะเป็นทารกแต่กลายเป็นว่าเป็นเด็กสาวเลยไม่จำเป็นต้องรอเติบโต(แต่กระนั้นไฮบาระที่กำเนิดจากที่โคคูนนั้นก็สามารถเจริญเติบโตเหมือนคนปกติเหมือนกัน) ซึ่งเด็กสาว(รัคกะ)ดังกล่าวสามารถเดินได้และสามารถเรียนรู้และพูดได้ทันทีที่เกิดมา ส่วนปีกและวงรัศมีนั้นมาที่หลังก่อนที่เธอจะไฮบาระอย่างเต็มตัวนั้นก็ถูกโยงมาในชีวิตวัยรุ่น และทุกสิ่งทุกอย่างที่รัคกะมองนั้นก็คือประสบการณ์ใหม่ในมุมมองของวัยรุ่นที่กำลังเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านอารมณ์(จะเห็นหลายฉากที่รัคกะมีพัฒนาการด้านอารมณ์ไม่คงที่)

    นอกจากนี้ศาสนาก็ถูกนำมาเชื่อมโยงกับการ์ตูนเรื่องนี้ เห็นได้จากการอ้างถึง “พระเจ้า” ที่เป็นผู้สร้างโลกรวมทั้งมนุษย์และไฮบาระ นอกจากนี้ยังมีการกำเนิดให้ไฮบาระนั้นมีการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดาโดยทั่วไป แม้พวกเธอจะเหมือนเทวทูต(อันเป็นความเชื่อของชาวคริสเตียน)หากแต่ชาวเมืองไม่ได้กราบไว้หรือให้ความเคารพแต่ก็ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามแตกแยก แหกต่จะผูกมิตรและเป็นเพื่อนมากกว่า ไฮบาระนั้นดำรงชีวิตด้วยความเข้มงวดเสมือนหนึ่งเคร่งศาสนาทำตามประเพณีและแนวทางปฏิบัติตามความเชื่อที่ยินดีปฏิบัติตาม อีกทั้ง "บาป" ก็ถูกนำมาใช้อย่างแนบเนียนกล่าวคือสื่อให้เห็นว่าไฮบาระที่มีปีกดำนั้นคือบาป ซึ่งหลังจากรัคกะพบว่าตนเองมีปีกดำเธอทำท่าทำทางกังวลใจและพยายามที่จะสลัดต่อบาป จนกระทั้งเธอได้รับการปลดปล่อยหลังจากเล่าเรื่องผู้สื่อสารฟัง(เสมือนหนึ่งการสารภาพบาปต่อหน้าบาทหลวง) เธอก็ได้รับการให้อภัยและปีกของเธอก็กลับมาเป็นสีขาวก่อนที่รัคกะจะไปชำระจิตใจในวิหารในวันรุ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้เสมือนการปฏิบัติคาทอลิก

    ในด้านภาพ Haibane Renmei นั้นแม้จะเป็นอนิเมชั่นเก่า หรืออาจเป็นเจตนา ที่ทำให้ภาพเหมือนมีฝ้าหมองเหมือนภาพเลืองรางเหมือนอยู่ในความฝันที่ไม่สามารถลืมตาตื่นขึ้นได้(และมุกนี้ Angel Beats! ก็นำมาใช้) ศิลปะเรื่องไฮบาระอยู่ที่ภาพของธรรมชาติแต่กระนั้นมันก็ดูแล้วพิศวงไม่แพ้เรื่องเลนเลยทีเดียว ภาพเหมือนโลกคู่ขนานที่ห่างไกล และเศร้าหมอง เมืองที่ล้อมด้วยกำแพงทำได้อย่างน่ากลัวและมืดมน โดยเฉพาะฉากหิมะตกใส่หัวรัคกะนี้ทำให้ผมรู้สึกหนาวหัวใจแทนจริงๆ รวมไปถึงเพลงประกอบที่ฟังดูแล้วแล้วผ่อนคลายและเงียบเหงาด้วยเสียงเปียโนและโทนเสียงเหมือนเพลงศาสนาอะไรสักอย่างหนึ่งจนเรียกว่ามันหลอนพอๆ กับ “เลน” เลยทีเดียว

                     

    หลังจากผมดูการ์ตูนเรื่องนี้จบแล้ว ผมรู้สึกเงียบๆ อยู่ในใจ อาจเป็นเพราะบรรยากาศ(เศร้า หดหู่ สลด  อารมณ์ (ไม่เหมือนกับเลน ที่บรรยากาศเหมือนโรคประสาทหรือเดจาวูมากกว่า) การนำเสนอแนวเรื่องนำไปสู่ความลึกของอารมณ์ที่เริ่มจากการหายตัวไปของคูอย่างไม่คาดฝันที่ไม่ได้จากลาหรือปรับความเข้าใจกับเพื่อนๆ ทำให้รัคกะกลายเป็นคนเศร้าหมองไม่สามารถทำใจได้ ทั้งๆ ที่คูไม่ได้ตายอะไรเลย แต่รัคกะกับทำตัวทุกข์ทรมานเหมือนคูได้ตายจากเธอไป   และความเงียบเครียดก็มาถึงฉากจบ จริงอยู่ที่ฉากจบแอปปี้ แต่กับเป็นว่าเป็นฉากจบที่ดูเหงาๆ เปลียวใจชอบกล ที่เหมือนปลดปล่อยอะไรบางอย่าง และเกิดความคิดว่า Angel Beats! เอาแนวคิดของการ์ตูนรื่องนี้มาใช้นี้เอง(ที่ว่าเพื่อนหายไปที่ละคน)

    ใช่ว่าการ์ตูน Haibane Renmei จะไม่มีข้อเสีย ข้อเสียของการ์ตูนเรื่องนี้อาจเป็นที่การออกแบบตัวละครที่ออกแบบตรงเกินไป น่าจะมีจุดน่ารักกว่านี้ ความจริงแล้วการออกแบบตัวละครนี้เป็นการจงใจเพราะคนออกแบบต้องการให้ตัวละครเรียบง่าย ดังนั้นมันอาจไม่ทำให้คุณรู้สึกซาบซ่าหรืออุทานว่า “โมเอะ” เป็นแน่แท้ อีกทั้งบทบาทของตัวละครต่างๆ นั้นไม่ได้มีบทเท่าใดนัก เพราะเน้นตัวละครอย่างรัคกะกับเรกิมากกว่า(เน้นรัคกะมากเกินไป) และประเด็นที่นำเสนอเหมือนเกือบเรื่องนี้จะวาย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เพราะรัคกะนั้นเป็นตัวละครประเภทหนุ่มสาววัยต่อต้านที่กำลังต้องการหาคนที่ปรึกษาหรือแบ่งเบาภาระของตน ส่วนเรกินั้นเป็นผู้ปกครอง(แม่)และเพื่อนและรุ่นพี่ต่อตัวรัคกะในเวลาเดียวกันทั้งๆ ที่ความจริงแล้วตัวเรกินั้นเต็มไปด้วยปัญหาและบาปในอดีตไม่แพ้ตัวรัคกะเลย ก่อนที่รัคกะจะเป็นฝ่ายตอบแทนเรกิในตอนท้ายเรื่อง ความเศร้า ความเสียใจและการสูญเสียนำมาซึ่งความเจ็บปวด และความเข้าใจ อ่อนโยน และการมองโลกในแง่ดี ซึ่งประเด็นเหล่านี้ได้ถูกนำไปสารต่อในการ์ตูนมิตรภาพสาวๆ หลายเรื่องอย่างที่เรารู้กัน

      

    สรุปคือการ์ตูนเรื่องนี้เหมาะสำหรับวัยรุ่น ที่ต้องการปรัชญาที่ค่อนข้างยุ่งยาก และสามารถรับมือฉากที่มีสัญลักษณ์ต่างๆ ที่กระหน่ำมาไม่ขาดสาย เราขอแนะนำให้เด็กเล็กที่จะดูการ์ตูนเรื่องนี้ให้ผู้ปกครองมาดูด้วยเพื่อจะให้ผู้ปกครองอธิบายว่าฉากเหล่านี้ต้องการสื่ออะไร

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×