 4 ข่าวลือทางอินเตอร์เน็ตที่ไม่เป็นจริงสักนิด
ส่งที่ควบคู่กับการมีคอมพิวเตอร์ก็คืออินเตอร์เน็ต เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้วัยรุ่นไทยไม่ว่าใครที่ไหนชอบเข้าอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น อินเตอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยกับชีวิตประวันจำ ไม่ว่าเราจะใช้มันดูหนัง ฟังเพลง บันเทิง ดูเว็บโป๊(เอ้ย...เฉพาะคนเขียนคนเดียว) เรียกได้ว่าหลายคนขาดไม่ได้ วันไหนไม่ได้เล่นเน็ต ไม่ได้แชตกับเพื่อน อาจถึงขั้นลงแดงจะเป็นจะตายเสียให้ได้(ยกเว้นผม แชตเพื่อแสดงความมีอำนาจ) แน่นอนคงมีคนบางส่วนมาดูข่าวในอินเตอร์เน็ต ข่าวอินเตอร์เน็ตบางข่าวนี้รวดเร็วกว่าข่าวในทีวีด้วยซ้ำ และบางข่าวก็ไม่มีในทีวีเช่นกัน เช่นข่าวพบศพตัดศีรษะในทีวีจะเซ็นเซอร์ใช่เปล่าละ แต่ในเน็ตไม่เซ็นเซอร์คุณได้เห็นภาพสยองอย่างสะใจขาโหด แต่ในช่วงหลังๆ หลัง ข่าวบางข่าวก็เริ่มชักเวอร์ซะแล้ว บางข่าวก็เป็นข่าวลื่อ และเริ่มหนักข้อขึ้น เช่น ข่าวน้องโดนข่มขื่นจากชายคนหนึ่ง(แต่สืบแล้วไม่เป็นจริง) หรือข่าวการเกิดสึนามิครั้งใหญ่ในไทย หรือข่าววันโลกแตก ไมเคิลไม่ตาย ฯลฯ ซึ่งถ้าข่าวนั้นมันเป็นจริง สื่อทั้งหมดที่กล่าวมาเหล่านั้นคงออกเสนอข่าว หรือประกาศไปแล้ว(บางข่าวก็มีการนำมาออกด้วย ทั้งๆ ที่ไม่จริงสักนิด อายไหม) บางข่าวแม้จะเป็นข่าวลวงแต่ก็สร้างหายนะกับอีกใครๆ หลายๆ คน บางคนสูญเสียซื่อเสียง บางคนก็ล้มละลาย เช่นข่าวเมื่อเดือนตุลาคม ในเว็บข่าวชื่อดังอย่าง CNN...มีคนใช้ชื่อ "johntw" เข้าไปโพสข่าวลงใน http://www.ireport.com ว่า Steve Jobs ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอที Apple ถูกหามเข้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล ด้วยเหตุหัวใจวาย โดยเล่าว่า"...ฉันได้รับข้อมูลวงในบอกว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ถูกเรียกตัวมาช่วยชีวิต Steve ซึ่งมีรายงานอ้างว่าเกิดอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง และหายใจถี่ แหล่งข่าวของฉันไม่ขอเปิดเผยชื่อ แต่ขอบอกว่าเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้.......ฉันยังไม่มีข้อมูลความคืบหน้า ดังนั้นฉันคิดว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ใครมีข้อมูลมากกว่านี้กรุณาแบ่งปันข้อมูลด้วย..." ข่าวสั้นๆของ CNNs iReport ชิ้นนี้ส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ทำให้หุ้นของ Apple หล่นฮวบลงทันที 5.4 เปอร์เซ็นต์ สำนักข่าวBloomberg รายงานว่า แค่หนึ่งชั่วโมงที่ข่าวนี้ปรากฏขึ้นในเวบ CNNs iReport ทำให้หุ้นของ Apple ดิ่งลงถึง 4.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ บริษัท Apple ประกาศว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียงข่าวโคมลอย หุ้นของ Apple พลันดีดสูงขึ้นทันทีผลของข่าวลวงโลกชิ้นนี้ ทำให้คณะกรรมาธิการควบคุมการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ (Securities and Exchange Commission: SEC) ของสหรัฐฯ ต้องออกโรงมาตรวจสอบต้นตอของข่าว สืบหาว่าใครคือ "johntw" ผู้โพสข่าวลงเวบ iReport ผลการตรวจสอบระบุคร่าวๆว่า คนโพสน่าจะเป็นเด็กชายวัย 18 ปี ผู้สร้างเรื่องและส่งข่าวลวงโลกด้วยความอารมณ์ขำแบบสนุกห่ามๆ ไม่ได้มีเจตนาหากำไรจากราคาหุ้น Apple แต่อย่างไร เอาเป็นว่า วันนี้ผมจะไปข่าวลื่อบนอินเตอร์เน็ตที่ดังๆ มายกตัวอย่างละกัน บางอันหลายคนคงได้ยิน เคยเห็น บางคนก็เชื่อด้วยว่ามีนเป็นจริง ถึงขั้นไปหาตามที่ต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง ก็บอกอีกทีแล้วว่าสังคมบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นสังคมแห่ง จริงและหลอก เวลาเราจะฟังข่าวเราต้องใช้มีสติเพื่อ คัดกรอง ดูความเป็นไปได้ว่ามันน่าเชื่อหรือไม่
แมวบอนไซ  เป็นอีกเรื่องที่ฮิตมากในหลายๆเว็บ เรื่องของเรื่องคือคนญี่ปุ่นที่นิวยอร์คชื่อ ดอกเตอร์ไมเคิล ว่องชาง จบจากสถาบันเอ็มไอที กำลังขายสินค้าใหม่ที่เรียกว่า "บอนไซแมว" ด้วยการจับลูกแมวเป็นยัดใส่ขวดแก้ว ให้เหลือเพียงรูเล็ก ๆ สำหรับหายใจจนร่างกายพัฒนาเป็นรูปขวดแก้วเหลี่ยม ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์โครงสร้างของลูกแมวก็จะคับพอดีกับขวด และที่สำคัญยังมีชีวิต นอกจากนี้ในข่าวนี้ยังมีการอธิบายขั้นตอนการทำลูกแมวบอนไซไว้อย่างละเอียด โดยมีภาพประกอบ เริ่มตั้งแต่เจาะรูหายใจ และให้อาหารตรงก้นขวด จับส่วนหัวของลูกแมวยัดใส่เข้าไปในขวดโหล ใช้กาวตราช้างปิดรูทวารหนักของสัตว์ และใส่ท่อสำหรับปล่อยของเสียออกมาแทน ขั้นสุดท้ายปิดปากขวดให้สนิทด้วยกาวเพื่อที่จะให้ลูกแมว โตมาโดยมีโครงร่างของโหลนั้นและเขายังให้ยากับลูกแมว เพื่อที่จะทำให้กระดูกของลูกแมวนั้นอ่อนจนกว่าลูกแมวจะตาย การทรมานนี้จึงจะสิ้นสุด นอกจากนี้เว็บไซต์แห่งนี้ ยังจำหน่ายอุปกรณ์สร้างสัตว์บอนไซหลากหลายด้วย เช่น ขวดโหลทรงกลมสูง โหลเหลี่ยมรูปกล่อง แบบพลาสติกใสรูปหมา กรงเหล็ก กรงดักหนู ซึ่งระบุว่า หลายคนใช้ได้ดี เพราะสามารถแต้มสีที่ผิวของสัตว์บอนไซได้ รวมทั้งสารช่วยลดปริมาณแคลเซียลถ้าหากคุณต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้ คุณสามารถเข้าไปดูที่ http://www.bonsaikitten.com/  เรื่องจริงละ คือเรื่องหลอกลวงทางเนื่องจากการจับแมวมาใส่ขวดโหลใสที่มีขนาดปากขวดเล็กไม่สามารถที่จะทำได้ นอกจากนี้แมวไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในขวดได้ เพราะขวดมีขนาดเล็กทำให้ไม่มีอากาศสำหรับหายใจ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำขึ้นมาเล่นๆ โดยกลุ่มนักศึกษาสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้เว็บไซต์ได้ออฟไลน์ไปแล้ว มีแต่เว็บไซต์ที่คัดลอกเนื้อหาที่เคยมีไว้เท่านั้น ซาลาเปากระดาษ  ภาพลักษณ์อาหารของประเทศจีนในสายตาทั่วโลกนั้นคือ อาหารจีนมีวัฒนธรรมที่ยาวนาน และมีความอร่อยเลิศ โด่งดังทั่วโลก แต่ในทางกลับกันคนบางคนยังมองอาหารจีนว่า มันไม่สะอาด และปนเปื้อนอะไรหลายอย่างๆ เช่นนมเพนลานีส ช็อกโกแล็ตหนอน เป็นต้น มีข่าวลือเกี่ยวกับอาหารในจีนข่าวหนึ่งที่โด่งดังมากถึงขั้นเอาไปออกเป็นข่าวให้เราดู จนพี่เลี้ยงผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง นั้นคือข่าวซาลาเปากระดาษ โดยเขาว่าโรงงานแห่งหนึ่งในจีน ตบตาผู้บริโภค นำกระดาษแข็งใช้แล้วมาผลิตไส้ซาลาเปา และใช้ผงชูรสเป็นเครื่องปรุงรสหลัก ข่าวลือนี้มากจาก หนังสือพิมพ์ปักกิ่ง นิวส์ รายงานอ้างผลการสืบสวนของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ของทางการจีนว่า โรงงานแห่งหนึ่งในจีน ใช้กระดาษแข็งที่ใช้แล้วและเก่าเก็บจนมีสีเหลือง มาเป็นส่วนผสมหลักในการทำไส้ซาลาเปาแทนที่จะใช้เนื้อหมูอย่างที่ควรเป็น หลังจากผู้สื่อข่าวของสถานีได้ปลอมตัวเข้าไปหวังเปิดโปงพฤติกรรมของโรงงานแห่งนี้ โดยแอบซ่อนกล้องเข้าไปเก็บภาพภายในโรงงาน โดยอ้างว่ามีการพูดคุยกับคนงานในโรงงาน จนทำให้ได้ข้อมูลว่า ไส้ซาลาเปาที่โรงงานผลิต ทำมาจากกระดาษแข็งผสมกับมันหมูในอัตราส่วน 6 ต่อ 4 โดยก่อนจะนำไปทำเป็นไส้ซาลาเปา โรงงานจะนำกระดาษแข็งไปแช่ในโซดาไฟ ซึ่งเป็นสารละลายที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เพื่อให้เนื้อกระดาษยุ่ยและมีลักษณะคล้ายกับเนื้อสัตว์ และหลังจากผสมกระดาษแข็งที่ผ่านกรรมวิธีกับมันหมูแล้ว จากนั้นจึงปรุงรสชาติ ซึ่งเครื่องปรุงรสหลักที่ใช้คือผงชูรส เรื่องจริงละ ข่าวนี้ไม่เป็นจริงสักนิด เพราะถ้าเป็นจริงจีนคงเสียหน้ามาก ส่วนต้นต่อข่าวมาจาก นายซื่อ เป่ยเจีย วัย 28 ปี ผู้สื่อข่าวช่องไลฟ์แชนแนล สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเทเลวิชั่นนั้นแหละ ที่ให้ข่าวเท็จ จoกลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก สร้างความเสื่อมเสียแก่สินค้าหมวดโภคภัณฑ์ของจีนอย่างใหญ่หลวง นายซื่อให้การรับสารภาพ ตอนแรกเขาได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวพิสูจน์ข่าวลือดูว่า มีพ่อค้าขี้โกงทำซาลาเปายัดไส้กระดาษออกวางขายในกรุงปักกิ่งจริงหรือไม่ แต่ไม่พบซาลาเปาไส้กระดาษจริงตามที่เป้นข่าว แต่เขา ต้องการสร้างชื่อเสียง จึงตัดสินใจจัดฉากขึ้น เพื่อสร้างข่าวเท็จเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมา โดยไปหลอกให้แรงงานอพยพ 4 คนในหมู่บ้านสือซื่อคู เขตจ้าวหยาง ทำซาลาเปาไส้หมูให้กินเป็นอาหารเช้า ถ้าถูกใจจะสั่งซื้อล็อตใหญ่ และถ่ายทำการทำซาลาเปาไว้ทุกขั้นตอน เมื่อแผนขั้นแรกสำเร็จแล้ว นายซื่อก็กลับไปที่หมู่บ้านเดียวกันนี้อีกครั้ง พร้อมกับนำอุปกรณ์ขัดฉากไปด้วย อาทิ ลังกระดาษและโซดาไฟนอกจากนั้น ยังหลอกคนงานกลุ่มเดิมว่าให้ช่วยนำกระดาษไปแช่โซดาไฟจนยุ่ยแล้วสับผสมใส่เนื้อหมูยัดลงไปในไส้ซาลาเปา เพราะจะนำไปให้สุนัขกิน คนงานจึงทำตาม โดยไม่รู้ว่านายซื่อจะนำภาพวิดีโอที่ถ่ายไว้ทั้งสองครั้งนี้ไปตัดต่อและเผยแพร่ลวงโลกผ่านสถานีโทรทัศน์ ส่วนนายซื่อตอนนี้เป็นอย่างไงเหรอ ก็โดนศาลประชาชนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พิพากษาจำคุก 1 ปี ฐานจงใจกุข่าวเท็จว่าไงละ
Progesterex  Progesterex เป็นชื่อยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่ข่าวลื่อเตือนภัยสาวๆ ทั้งหลายจะได้ระวังตัวก่อนตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ดังมากในบ้านเรา ในฐานะเป็นยาที่หนุ่ม 'นักข่มขืน' นำมาใช้เผด็จศึกสาว ที่ตกเป็น 'เหยื่อ' ของมัน Progesterext เป็นยาที่สัตวแพทย์ใช้ในการทำหมันสัตว์ขนาดใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มอ้างว่า 'ยา Progesterex' นั้นมักจะถูกใช้ควบคู่กับ Rphypnol ซึ่งเป็นยาที่นักข่มขืนมักจะใช้กัน โดยผู้ลงมือมักจะใส่ยา Rohypnol ลงในเครื่องดื่มของเหยื่อ และในเช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อจะไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนก่อนหน้าได้เลย ยา Progesterex สามารถละลายในเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว และสามารถป้องกันการตั้งครรภ์จากการข่มขืน ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นเจ้าพวกนักข่มขืนจึงมักไม่ต้องคอยกังวล เรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือการตรวจสอบเพื่อระบุตัวพ่อของเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ยา Progesterex ยังทิ้งผลกระทบ กับเหยื่อในระยะยาวตามมาอีกด้วย จากนั้นข่าวลื่อก็อ้างอีกว่า ยา Progesterex นั้นถูกใช้ในการทำหมันม้า ซึ่งผู้หญิงที่ได้รับยาตัวนี้เข้าไปในร่างกาย จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อาจถาวร หรืออาจเป็นมะเร็ง!!!! ยา Progesterex หาซื้อได้ง่ายในโรงเรียนฝึกสอนของเหล่าสัตวแพทย์ หรือวิทยาลัยเขตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสัตวแพทย์และที่ยิ่งกว่านั้น...แม้แต่บนหน้าเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตหลายแห่ง ก็อ้างว่ามียาตัวนี้จำหน่ายอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งบอกวิธีการใช้อย่างละเอียด!!!!  เรื่องจริงละ Progesterex คือชื่อของยาสำหรับใช้ข่มขืนซึ่งไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้น ข่าวลวงนี้เริ่ม
มีการเผยแพร่ทางอีเมลและอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ปี 1999 ยาชื่อนี้หรือยาที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ไม่มีอยู่จริง เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกันก็ไม่เคยมีหลักฐานว่าเกิดขึ้นจริง ไข่ปลอม  คลิป http://play.kapook.com/vdo/show-75856 เป็นอีกข่าวที่โด่งดังและฮิตมาก และเป็นอีกข่าวที่พี่เลี้ยงเชื่อชนิดที่เรียกว่าจริงจังจนเครียดมาก กับข่าวไข่ปลอม ผมอ่านข่าวนี้จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเขาว่าชาวบ้านคนหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน ซื้อไข่ปลอมจากพ่อค้าแผงลอยไปบริโภค และพบว่าไข่แดง มีสีสดผิดปกติหลังจากปรุงสุกแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจสอบ จึงได้ทราบว่าเป็นข่าวปลอม จากนั้นก็พูดอีกว่าจากการตรวจสอบไข่ปลอมดังกล่าว ไข่ปลอมมีลักษณะเหมือนไข่จริงมาก แต่ไม่มีโปรตีน มีสารเคมีหลายชนิดแทน เช่น สารส้ม โซเดียม อัลจิเนต เจลาติน แคลเซียม คลอไรด์ และโซเดียม เบนโซเอต ส่วนไข่แดง ถูกย้อมสีด้วยเกลือ หรือเอสเตอร์ของกรด "ทาร์ทาริค เอซิด" ซึ่งใช้ทำเครื่องดื่มที่มีฟอง และขนมฟูรวมทั้งใช้ในอุตสาหกรรมถ่ายรูปและฟอกหนัง ไข่ขาวใช้เจลาตินที่ทำเจลลี่และแป้ง รวมทั้งอะลูมิเนียม ส่วนเปลือกไข่ปลอมทำจากสารแคลเซียม คาร์บอเนต และพาราฟินแวกซ์ผสมกับน้ำ นอกจากนี้มีคลิปวิธีทำไข่ปลอมเผยแพร่ทั่วไปบนเว็บไซต์หลายแห่งในจีน และมีบริษัทด้านเทคโนโลยีบางแห่งถึงกับเคยเปิดคอร์สสอนวิธีทำไข่ปลอม รวมทั้งทำวีซีดีวิธีการทำออกขายอีกทางหนึ่งด้วย โดยระบุว่าไข่ไก่ปลอมมีวิธีการทำแสนง่าย และใช้ทุนแค่ 1 - 5 เซนของสกุลเงินเหรียญฮ่องกง (ไม่ถึง 20 สตางค์) เทียบกับราคาไข่จริงอยู่ที่ฟองละ 25 - 30 เซนของเหรียญฮ่องกง (1 - 1.2 บาท) อีกทั้งวิธีการทำไข่ปลอมมี ขณะที่ คิดค่าสอนคอร์สละ 150 - 800 เหรียญฮ่องกง (600 - 3,200 บาท) และช่วงสุดท้ายก็อ้างผู้เชี่ยวชาญทั้งจีนและไทยมาพูดถึงอันตรายจากไข่ปลอมโดยบอกว่ามีผลทำให้การทำงานของระบบจิตประสาทช้าลง ร่างกายสามารถขจัดผ่านการขับถ่ายได้ ส่วนความเสี่ยงเป็นอันตราย อาจเป็นอันตรายต่อส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้อีกด้วย ปิดท้ายโดยบอกว่าไข่ปลอมนี้ออกวางขายเป็นล่ำเป็นสันในประเทศจีน  เรื่องจริงละ เป็นข่าว e-mail ลูกโซ่ เพราะบล็อกเกอร์ประเทศสหรัฐเคยได้เสนอข่าวไปแล้วและได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นข่าวลวงโลก เบื้องหลังไข่ปลอมนี้ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ www.tian.cc ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในข่าวไข่ปลอมหลายจุด เริ่มจากราคาขายไข่ไก่จริงๆ ในประเทศจีน ซึ่งไม่ได้แพงมโหฬารจนถึงขั้นต้องลงทุนทำไข่ปลอมขาย เช่น ไข่ปลอมขายในห้างคาร์ฟูร์ นครเซี่ยงไฮ้ กล่องละ 15 ฟอง ราคา 9 หยวนเศษ ตกฟองละ 2 บาทกว่าๆ นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบต้นตอที่มาของข่าว ซึ่งอยู่ในเว็บไซต์วารสารพิษวิทยา The Internet Journal of Toxicology ยังพบความผิดปกติหลายข้อ เช่น กรณีผู้เขียนใช้ชื่อว่า นายอเล็กซานเดอร์ เซียะ เหยียนหลี่ สังกัดเครือข่ายวิจัยเรื่องพิลึก (Queers Network Research) ในฮ่องกง เมื่อตรวจสอบ ไม่พบหน่วยงานดังกล่าวในฮ่องกงและหมายเลขโทรศัพท์ในเว็บก็ไม่มีอยู่จริง tian.cc เตือนไว้ในบล็อก ด้วยว่า เพียงแค่มีคนนำอะไรๆ มาโพสต์อินเตอร์เน็ต ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นต้องเป็นเรื่องจริง สำหรับเว็บไซต์ที่แฉข่าวลวงโลก ไข่ปลอมจีน อาทิ 1. http://www.tian.cc/2007/05/hoax-chinese-counterfeit-eggs.html 2. http://www.hoax-slayer.com/fake-eggs-china.shtml http://www.thaihealth.or.th/node/10193 http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mana&date=03-01-2009&group=2&gblog=13 http://www.rssthai.com/reader.php?r=14660&t=foreign http://talk.mthai.com/topic/29556+ +
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
|
PS. สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ไออ้วน คนนึงบอกว่าตัวเองเทพเพอซิอุส และสามาถปล่อยพลังออกจากโทรทัสได้
โดยต้องมี "ชิปเปอร์"
หรือเหรียญปลอมหลอกขาย ในรายการทุกข์ปัญญามีคำตอบ
ตอนนี้รายการนั้นโดนบล็อกแล้วครับ
"ผมว่าไม่น่าบล็อกเลย มันสนุกดีครับ 555"
PS. ยึดถือความมั่วไว้มันอาจจะช่วยได้ทุกเวลา
PS. 'สายตา'ของคนบางคนมีผลต่อการเต้นของ'หัวใจ' ~~~
สงสารน้องเหมียววววววว TwT
PS. Love 1D : Harry Zayn Niall Louis Liam :D
PS. ดีคะเพื่อนๆ^-^
มันต้องตายที่อาน้องแมวมาทำแบบนี้!!!
PS. a secreat make a woman woman
น่าสงสารจะตายไป >:(
PS. กงล้อชะตากรรมได้หมุนเวียนแล้ว...
PS.
โดยเฉพาะแมวบอนไซ
อะไรประมาณนี้
เเต่ก็คงไม่จีิงหรอกเนอะ เพระาเราก็ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยไว้นั่นแหละ (ขี้เกียจส่ง555)
ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น
ใครที่เจอก็ทำใจหน่อยนะ ลบทิ้งซะ 55555
เเต่ก่อนเราลบ เราก๊อปของเดิม เเล้วเขียนเพิ่มไปว่า
"กุเกลียดลูกโซ่"
= = สนุกดีเนอะ
ฉันเป็นคนรักแมวนะย่ะ >:(
PS. ความรักของฉันคือเธอคนเดียวเท่านั้น
ตกลงมันไม่เป็นเรื่องจริงแน่ๆแล้วแหละ 55+
PS. ถ้ามันมีทางเดินต่อไปข้างหน้า คุณจะมัวเดินเหยียบ 'ขี้' อยู่ตรงนี้ทำไม???
PS. I ♥ U more than yesterday but less tomorrow!
เพิ่งเคยได้ยินนะนี่
โกรธมากๆๆๆ เรา รักแมวอ่ะ
ที่บ้านเลี้ยงสองตัว
ชั้นจะเอากาวตาช้างทาตูดมันแล้ว ตัดตูดมัน
มาต้มให้โคตรเหง้ามันกิน
ตอนแรกนึกว่าแมวเป็นเรื่องจริง
คนชอบแมวเกลียดไปพักใหญ่
PS. ชีวิตนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
เราเป็นคนชอบแมวนะ....
เลยรู้สึกว่า ถ้าใส่ขวดมันคงไม่น่ารักเหมือนแมวตัวเดิมหรอก
อันี้เขาเรียกน่ารักแบบธรรมชาติใช่ปะ =-=
PS.
PS. Wegen der schwachen Schicht. Debido a la capa débil. En raison de la couche fragile.