4. สัตว์ทะเลสายพันธุ์ใหม่

นอกเหนือจากสัตว์ประหลาดในมหาสมุทร (ไม่ว่าจะเป็น สัตว์จากยุคไดโนเสาร์, เงือก) ก็ยังมีสัตว์ชนิดใหม่ที่ยังไม่ถูกค้นพบในมหาสมุทร ที่ยังคงรอการค้นพบ หากแต่สัตว์เหล่านี้ลึกลงไประดับน้ำที่ลึกมาก ลึกประมาณ200-6000เมตรเลยทีเดียวซึ่งสถานที่แห่งนั้นมีแต่ความมืดมิดและหนาวเย็นอีกทั้งยังมีแรงกดดันมหาสาร ซึ่งมนุษย์จำเป็นต้องใช้เครื่องดำน้ำลึก หรือไม่ก็ใช้หุ่นยนต์ในการค้นหาเท่านั้น อีกทั้งก้นสมุทรนั้นมีความมืดมิด ไม่มีแสงสว่างเลย การค้นหาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จึงเป็นเรื่องยากมาก (สมัยก่อนนั้น การถ่ายภาพในน้ำลึกเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงแค่บันทึก และสเก็ตซ์ภาพเท่านั้น)
สิ่งมีชีวิตจากโลกนี้ส่วนมากจะเป็นปลาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังคงรอการค้นพบ หลายชนิดยังคงเป็นปริศนา ที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แน่ชัด ทำได้เพียงเขียนว่า ปลาทะเลลึก เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีปลาฉลามยักษ์ รวมไปถึงซูเปอร์หมึกยักษ์ที่เชื่อว่ามันใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินหลายเท่า สิ่งเหล่านี้ยังคงลึกลับสำรวจมนุษย์อยู่
3. ขุมทรัพย์
สมัยก่อนนั้น การเกดินทางโดยเรือข้ามทะเลไม่ได้ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน หลายครั้งที่เรือประสบกับพายุ หรืออะไรก็ตามที่เป็นสาเหตุทำให้เรือจม ที่สำคัญเรือจมนั้นได้บรรทุกของที่มีค่าไปด้วย และมันก็ยังไม่ถูกค้นพบ มันจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากสำหรับมนุษย์ที่จะตามล่ามัน
มีรายการขุนทรัพย์มากมายที่หายไปในมหาสมุทร และหากใครค้นพบจะกลายเป็นเศรษฐีใช้เงินเป็นชาติๆ ก็ไม่หมด เป็นต้นว่าสมบัติ ฟลอ เดอ ลา มา (Flor de La Mar) เรือรบโปรตุเกสที่แปลว่า “ดอกไม้แห่งท้องทะเล ได้ถูกจมเพราะพายุรุนแรงแถวช่องแคบมะละกา นอกชายฝั่งของสุมาตรา เมื่อปี 1511 และมันได้ขนทั้งถ้วยทอง แผ่นเงิน ทองคำแทง มูลค่ามากถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ จนบัดนี้ก็ยังไม่พบ
แน่นอนว่าเรือฟลอ เดอ ลามา ไม่ได้มีเพียงลำเดียวแน่นอนในเต็มไปด้วยสมบัติ เพราะยังมีเรือขนสมบัติอีกมากมายที่จม และยังไม่มีค้นพบ
2. เสียง
นอกจากเสียงบลุปแล้ว ยังมีเสียงลึกลับจากมหาสมุทรแล้ว ก็ยังมีเสียงลึกลับอีกหลายคลื่นเสียงประหลาดที่ถูกตรวจจับได้ที่มหาสมุทร โดยเครื่องมือ NOAA's Pacific Marine Environmental Laboratory (PMEL) โดยจุดประสงค์แรกสุดของมันนั้น คือตรวจจับเรือดำน้ำของรัสเซีย แต่กลายเป็นว่ามันกลับตรวจจับเสียงแปลกๆ ที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไรขึ้นมา เป็นต้นว่า
จูเลีย (Julia) เสียงเหมือนคนอ้อแอ้ หรือหอน พบเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1999 ทางทิศตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก
Upsweepm เสียงคล้ายคนครวญคราง หรือเห่าหอน อะไรสักอย่าง ตรวจจับได้เมื่อปี 1991 เชื่อว่าเป็นเสียงการระเบิดภูเขาไฟใต้มหาสมุทร แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัย และไม่สามารถอธิบายว่ามันคือเสียงอะไร
ช้าลง (Slow Down) พบเมื่อ 19 พฤษภาคม 1997 ชื่อ มาจากการที่เสียงมันจะค่อยๆลดความถี่ลงเรื่อยๆในระยะ 7 นาที และถูกตรวจจับได้หลายครั้งใน1ปี แถวแอนตาร์กติกา ข้อสันนิษฐานที่น่าจะเป็นไปได้คือน้ำแข็งเคลื่อนที่ครับ อาจจะเคลื่อนไปขูดกับแผ่นดิน
รถไฟ (Train) เสียงเหมือนรถไฟ พบเมื่อปี 1997 อยู่แถวทวีปแอนตาร์กติกาเชื่อว่าเป็นเสียงภูเขาพังทลายน้ำแข็งตกไปยังมหาสมุทร
นกหวีด (Whistle) พบเมื่อเดือนกรกฏาคม 1997 เสียงเหมือนเป่านกหวีดไม่ก็กาต้มน้ำเดือด แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเสียงที่เกิดจากการพ่นของภูเขาไฟใต้น้ำ
1.เรือผี
หนึ่งในเรื่องลึกลับที่สุดในท้องทะเล คือเกี่ยวกับปริศนาของ “เรือผี” ที่เป็นเรื่องราวการพบเรือที่ไร้ผู้คน โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเรือยังคงมีคนโดยสารและเดินทางในทะเลปกติ หากแต่จู่ๆ คนในเรือก็หายไป ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างทำเรื่องเหล่านั้น
หนึ่งในปริศนทางทะเลที่ลึกลับที่สุดก็คงไม่พ้นปริศนาเรือแมรี่ เซเลสต์ ยังเป็นปริศนาที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน โดยเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1872 เมื่อเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอังกฤษชื่อ เดอี กราเซีย เห็นเรือแมรี่ เซเลสต์ เรือใบสองเสาขนาด 100 ฟุต ลำหนึ่งที่ร้างคนและลอยอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายกลางทะเลมหาสมุทรแอตแลนติก ตอนเหนือ ระหว่างประเทศโปตุเกสกับหมู่เกาะอะซอเรส และเมื่อสำรวจในเรือก็ไม่พบร่องรอยของผู้โดยสารทั้ง 11 คนเลย ที่โต๊ะอาหารว่างของกัปตันยังพบร่องรอยไข่ลวกกระเทาะเปลือกทิ้งไว้โดยไม่ตัก รับปะทาน ขนมปังและจานซุปยังวางอยู่บนโต๊ะ ไปป์ถูกวางไว้รอจุดไฟ สมุดโน้ตภรรยาเปิดคาเหมือนยังเล่นค้างอยู่ รูปการบ่งบอกชัดเจนว่าสละเรือเป็นไปอย่างเร่งรีบโดยไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน
และที่น่าตกใจก็คือวันสุดท้ายที่มีการบันทึกคือวันที่ 25 พฤศจิกายน หรือประมาณ 10 วันมาแล้ว หากตำแหน่งเรือปัจจุบันจะพบว่าเรือแมรี่ เซเลสต์ กางใบแล่นมาโดยปราศจากคนบังคับเกือบ 100 ไมล์ แม้จะมีหลายทฤษฏีที่อธิบายเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นกับเรือแมรี่ เซเลสต์ แต่ก็ไม่ใช่คำตอบที่สามารถอธิ บายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรือแมรี่ เซเลสต์ ท้ายที่สุด มันก็ถูกจมทิ้งเพื่อหวังเงินประกันใกล้ๆ เกาะเฮติ ในปี 1884 จนกลายเป็นปริศนาที่ไขไม่ออกจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องลึกลับเกี่ยวกับเรือที่น่ากลัวไม่แพ้กัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 1948 มีได้รับข้อความช่วยเหลือจากบรรทุกสินค้าของชาวดัตช์โอรัง เมดาน (Ourang Medan) ที่ลอยเหนือน่านน้ำอินโดนีเซีย ในสภาพเรือแตก “เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมทั้งกัปตัน นอนตายอยู่ในห้องนั่งเล่นและสะพานเรือ เป็นไปได้ว่าลูกเรือทั้งหมดตายแล้ว”
และเมื่อมีคนขึ้นไปเรือดังกล่าวก็พบเรื่องประหลาดเมื่อลูกเรือทั้งหมดและ กัปตันเรือดังกล่าวตายหมด และใบหน้าของเขาแสดงสี หน้าหวาดกลัวสุดขีด หลังจากนั้นเรือก็ระเบิดแล้วจบลง แม้ว่าจะมีข้อสันนิษฐานว่าคนบนเรืออาจเสียชีวิตจากการสูดสารพิษ ที่เป็นสินค้าอันตรายบนเรือที่ทำให้หายใจไม่ออกและเกิด รั่วขึ้น แต่จนถึงทุกวันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือ โอรัง เมดาน และลูกเรือทั้งหมดของเรือยังคงลึกลับ
เป็นการจัดอันอับเองของผู้เขียน
อ้างอิง
http://www.mandatory.com/2012/06/13/10-unexplained-ocean-mysteries/
http://mysteriousuniverse.org/2014/08/mystery-monsters-of-the-deep-dark-sea
http://listverse.com/2016/06/20/10-intriguing-mysteries-lurking-deep-under-the-ocean/