5. Jan Luedecke

คืนหนึ่ง ในปี 2005 Jan Luedecke จากโตรอนโต แคนาดา ได้ดื่มหนัก ในงานปาร์ตี้ และเขาก็ผล็อยหลับนอนบนโซฟา ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขาก็ได้ยินเสียงตระโกนและแรงผลักให้เขาตื่น และเมื่อเขาตื่นก็พบว่าเขากำลังอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง (แฟน?) และถูกกล่าวหาว่าเขาเป็นคนข่มขืนผู้หญิงดังกล่าว
อย่างเราก็ตามเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาเดินไปห้องน้ำก็พบว่าเขาสวมถุงยางอนามัย อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยพิสูจน์ได้ว่าเป็นการนอนละเมอมีเซ็กต์จากอดีตแฟน และผู้เชี่ยวชาญด็อกเตอร์โคลิน ชาปิโรยืนยันว่าคนเป็นโรคละมอมีเซ็กต์นั้นไม่ผิดกฎหมาย และนั้นทำให้เขาพ้นผิด
4. สาวน้อยคนหนึ่งที่อังกฤษ

ที่ดัลวิช ประเทศอังกฤษ ประมาณตีสอง ผู้คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้สังเกตอะไรบางอย่างที่น่ากลัว เมื่อเห็นสาวคนหนึ่งนอนขดตัวด้านบนของเคลนที่ไม่ได้ใช้งานที่อยู่สูงสูงถึง 130 ฟุต (39.6 เมตร) ๆ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ปีนขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือเธอ หากแต่เมื่อไปถึงก็พบว่าเธอนอนหลับ ทำให้สันนิษฐานว่าเธอเดินละเมอแล้วปีนเคลนมานอนบนนั้นโดยที่ตัวเธอไม่รู้ตัว และไม่รู้สถานการณ์อันตรายเลยแม้แต่น้อย หากปลุกเธอตอนนี้อาจทำให้เธอกลัวแล้วตกใจและตกลงมาได้
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว พนักงานได้พยายามโทรหาพ่อแม่ของเธอ ก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นอายุ 15 ปีและเป็นโรคเดินละเมอ และเมื่อพวกเขาใช้โทรศัพท์เพื่อปลุก สาวน้อยได้ตื่นขึ้น และสามารถเอาลงได้อย่างปลอดภัย (ตอนลงความสูงของเคลน ประมาณ 40 ฟุต (12 เมตร))
3. เลสลีย์ คูแซ็ก (Lesley Cusack)

นางเลสลีย์ คูแซ็ก หญิงชาวอังกฤษวัย 55 ปีจากเชชเชอร์ กำลังประสบปัญหากับการ “ละเมอกิน” หรือ ความผิดปกติทางการนอนที่เกี่ยวข้องกับการกิน (Nocturnal Sleep-Related Eating Disorder: NSRED) กล่าวคือ หากเธอนอนหลับ เธอละเมอตื่นขึ้นมาทำอาหารและกินอาหารทุกคืน กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าเธอกินอะไรไปบ้างก็ตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง ซึ่งจะมีเศษอาหารหรือเปลือกขนมหล่นกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น
อ่านดูแล้วอาจไม่รู้สึกน่ากลัว แต่มันน่ากลัวคือเธอที่มีปริมาณถึง 2,500 แคลอรี ในทุก ๆ คืน และน่ากลัวอีกคือขณะที่เธอละเมอทำอาหารเธอจะใช้เตาอบแก๊ส มันเสี่ยงอย่างมากที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายได้ น่ากลัวยิ่งกว่านั้นเธอเคยกินสี วาสลีน หรือแม้กระทั่งผงซักฟอกเข้าไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการละเมอของเธอส่งผลให้เธอมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น บางครั้งก็ฟันหัก และมีแผลฟกช้ำตามตัว เพราะการพยายามทำอาหารในที่มืดนั่นเอง
แน่นอนว่านางคูแซ็กพยายามทำทุกวิธีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการติดสัญญาเตือนที่ประตูเพื่อปลุกการละเมอ แต่มันก็ไม่ได้ผล ปัจจุบันเธอได้ไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อหวังว่ามันจะช่วยรักษาอาการของเธอได้เสียที
2. จวร์ต มิลเลอร์ (Stuart Miller)

การเดินละเมอพบมากในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และประมาณ 17% เป็นของเด็กอายุ 4-8 ปีมีประสบการณ์เดินละเมอ เมื่อเทียบกับ 4-10%ซึ่งเป็นของผู้ใหญ่ หนึ่งในกรณีนั้นมีเรื่องของ สจ๊วต มิลเลอร์ อายุ 8 ปี เขาได้ประสบอุบัติเหตุในขณะนอนละเมอ โดยคืนหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1993 สจ๊วตเริ่มเดิน และเขาก็ตกจากหน้าต่างห้องนอนบนแฟลตชั้นสี่ของสภาเคหะสถาน
ในชั้นศาลได้พยายามตั้งข้อหาเจ้าของแฟลต ว่าไม่ยอมติดตั้งที่กั้นหน้าต่างเป็นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น แม้ว่าสจ๊วตไม่ตาย แต่กระดูกสันหลังของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามหลังต่อสู้ 7 ปีในชั้นศาลเขาก็ได้รับเงินเพื่อชดเชย £1.35m ($2m) (ประมาณ 1.35 ล้านปอนด์ หรือ 2 ล้านดอลลาร์) จากความเสียหายดังกล่าว
1.โรเบิร์ต เลอดรู (Robert Ledru)

โรเบิร์ต เลอดรู เป็นหนึ่งในนักสืบที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16 แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในปารีสแต่เขาก็ได้รับการติดต่อให้ทำคดีทั่วฝรั่งเศสอยู่เป็นเบาะจำ แต่อย่างไรก็ตามในคดีสุดท้ายที่โรเบิร์ตต้องเผชิญกับเป็นคดีที่ทำให้เปลี่ยนชีวิตของเขาตลอดกาล
เรื่องมีอยู่ว่ามีชายคนหนึ่งชื่ออังเดร โมเนต์ได้ถูกยิงตายในชายหาดแห่งหนึ่ง ของฝรั่งเศส เบาะแสเดียงที่พบมีเพียงกระสุนที่พบห่างจากที่เกิดเหตุ และรองเท้าข้างซ้ายของนักฆ่าเท่านั้น แน่นอนว่าโรเบิร์ตได้เข้ามาสืบสวนด้วย แต่แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผย ราวกับนิยายไม่ตาม โรเบิร์ตได้พบเบาะแสสำคัญและพบว่าเขานั้นแหละที่เป็นฆาตกรเสียเอง!!
ในคืนที่เกิดเหตุ โรเบิร์ตได้นอนหลับ และเขาเดินละเมอ (เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากโรคซิฟิลิส โรคประจำตัว) ไปที่ชายหาด แล้วฆ่าชายคนนั้น เมื่อเขาตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาพบว่าถุงเท้าเปียก นอกจากนี้ยังพบว่าปืนที่ใต้หมอนของเขามีกระสุนแบบเดียวที่คนร้ายฆ่าชายคนนั้น ก่อนกลับเข้ามานาน แน่นอนก็ตามตำรวจไม่ค่อยยอมรับข้อสันนิษฐานนี้สักเท่าไหร่ เขาจึงขอให้มีการทดสอบ โดยให้สังเกตพฤติกรรมเขาในขณะหลับ และคืนแรกเขาก็นอนละเมอ ต่อมาพวกเขาตัดสินใจที่จะวางปืนใกล้เขา และคืนต่อมาเขาก็ยิงยามเฝ้าเขาจนตาย
อย่างไรก็ตาม แม้ตำรวจไม่ได้เอาผิดกับโรเบิร์ต แต่เขาก็ยังคงมีอันตราย จึงได้เนรเทศเขออกจากกรุงปารีต และใช้ชีวิตในชนบท เขาอยู่ที่นั้นจนสิ้นอายุไข เป็นอันปิดฉากที่ไม่สวยหรูมากนักของนักสืบอันโด่งดังผู้นี้
อ้างอิง
http://listverse.com/2013/06/07/10-terrifying-tales-of-sleepwalking/
ส่วนน้องเราเคยละเมอเปิดประตูวิ่งออกไปเลย.... ดีที่ตามไปปลุกได้
PS. หน้าไทย ใจญี่ปุ่น ปลื้มโอโนะ ไดซุเกะซัง หัวเทาพระเอก only
ขออภัยที่ไม่แน่ใจครับ
PS. สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
PS. มาเป็นเพื่อนกันได้ไม//ยิ้ม
PS. S.SMIND :} งวดนี้กูจะซื้อหวยเลข '13' ใครสนใจ ?