อุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดก็ยังคงสร้างรายได้ให้แก่ผู้ผลิตอย่างมหาศาลอยู่เหมือนเดิม โดยในปี 2014 ก็มีภาพยนตร์มากมายสร้างรายได้ เนื้อหาดี ไปจนถึงห่วยแตก และน่าผิดหวัง ดาราดังๆ ก็แจ้งเกิดในบทบาทในภาพยนตร์จนคนดูตราตรึงใจ ไปจนถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญล้อเลียนเกาหลีเหนือส่งท้ายปี 2014 ด้วย และนี่คือ 10 ที่สุดภาพยนตร์ 2014 ที่ผมคัดมา จะถูกใจสำหรับหลายคนหรือไม่นั้นก็ติดตามเอาเอง
ภาพยนตร์ที่สร้างกำไรมากที่สุดในปี 2014 - Annabelle
หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าภาพยนตร์ Annabelle –ตุ๊กตาผี จะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างแล้วได้กำไรมากที่สุดในปี 2014 จากข้อมูลพบว่างบประมาณในการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ $ 6,500,000 แต่สร้างกำไรทั่วโลกรวม $ 252,673,813 คิดเป็นกำไรถึง 3,887% !! แม้เนื้อหาก็ยังคงวนเวียนอยู่กับตุ๊กตาที่มีผีสิงที่สร้างความหลอนแก่เจ้าของมันก็ตาม ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะสืบผลมาจากภาพยนตร์ภาคก่อนเมื่อ 2013 แม้ว่านักวิจารณ์จะให้คะแนนเรื่องนี้ต่ำเตี้ยติดดินก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ดูที่อยากดูภาพยนตร์ผีภาคต่อนี้แม้แต่น้อย จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ปี 2014 จะเป็นปีทองของภาพยนตร์สยองขวัญ
ภาพยนตร์ที่เลวร้ายที่สุดแห่งปี 2014 -Teenage Mutant Ninja Turtles
แน่นอนว่ามีภาพยนตร์ดีก็ต้องมีภาพยนตร์ไม่ดีน่าผิดหวังด้วย ในปี 2014 ก็มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่เหมือนจะดี แต่พอดูแล้วน่าผิดหวัง และหนึ่งในนั้นคือเต่านินจา (2014) ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่หลายคนคาดหวังของการกลับมาของ 4 เต่านินจา ตัวละครยอดนิยมจากคอมมิคฝีมือนักเขียนการ์ตูน ปีเตอร์ ลาร์ดและเควิน อีสต์แมน และครองใจผู้ชมทุกวัยมานาน
อย่างไรก็ตาม ตัวภาพยนตร์กลับทำได้น่าผิดหวัง แม้มันจะไม่ได้เลวร้าย แต่มันก็ไม่สมกับที่รอคอยมาอย่างยาวนาน โดยเว็บมะเขือเทศเน่า (Rotten Tomatoes)ซึ่ง เป็นเว็บวิจารณ์ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง ให้คะแนนเต่านินจาเพียง 22 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยสาเหตุคือตัวภาพยนตร์ค่อนข้างสูตรสำเร็จคนดูจับทางไว้แล้ว ดำเนินเรื่องฉับไวเกินไป แอ็คชั่นเยอะเกินไป แต่ที่หลายคนตำหนิที่สุดคือการออกแบบ 4 เต่านินจาในเรื่องที่ดูแล้วน่ากลัว แต่โชคดีที่กินบุญเก่าทำให้ได้รายได้พอสมควร และมีแผนจะทำภาค 2 ด้วย
สารคดียอดเยี่ยม - The Missing Picture
ภาพยนตร์สารคดีสัญชาติกัมพูชา-ฝรั่งเศส โดยฝีมือผู้กำกับมือเก๋าชาวกัมพูชาอย่าง Rithy Panh เจ้าของผลงานสารคดีเกี่ยวกับเขมรแดงหลายต่อหลายชิ้น และเรื่องล่าสุดเรื่องนี้ The Missing Picture โดยเนื้อหาเป็นสารคดีอิงประวัติศาสตร์ความโหดร้ายสมัยกัมพูชาปกครองโดยเขมรแดง
The Missing Picture ไม่มีจุดตำหนิเลย เพราะ การเล่าเรื่องที่ไม่ได้น่าเบื่อ เพราะเต็มไปด้วยการความสร้างสรรค์ การใช้หุ่นดินมาแทนชาวกัมพูชา ภาพพื้นหลังเป็นภาพขาวดำในช่วงประวัติศาสตร์ พร้อมกับการเล่าเรื่องความโหดร้ายของทหารเขมรแดงมากยิ่งขึ้น ไม่แปลกเลยที่สารคดีนี้จะก็ได้รับความสนใจและคำสรรเสริญอย่างมากทั้งจากการได้รับรางวัล Un Certain Regard ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนังสารคดีเรื่องเดียวในสายประกวดนี้ด้วย
สูญเสียมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ -โรบิน วิลเลียมส์
ในปี 2014 เป็นปีที่สูญเสียนักแสดง ผู้กำกับ และคนวงการภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และน่าจดจำหลายคน ไล่ตั้งแต่ ฮัล ดักลาส (Hal Douglas) ผู้ให้เสียงตัวอย่างภาพยนตร์ฮอลลีวูดยาวนานเกือบ 60 ปี, ริชาร์ด คีล ( Richard Kiel) ผู้รับบทตัวร้ายที่น่าจดจำในเจมส์บอนด์, HR Giger ผู้ออกแบบเอเลี่ยน ฯลฯ เอาเป็นว่าอยากทราบว่ามีใครอีกบ้างให้ดูลิงค์ข้างล่าง
http://whatculture.com/gallery/21- brilliant-movie-talents-lost-201
อย่างไรก็ตาม หากจะเอาช็อกๆ ของคนทั่วโลก ก็คงจะเป็น การจากไปอย่างกะทันหันของ โรบิน วิลเลียมส์ ( Robin Williams) นักแสดงที่มีความสามารถมากมาย จนเป็นที่น่าจดจำของคนทั่วโลก ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2014 จากการแขวนคอฆ่าตัวตายปริศนา ซึ่งจนบัดนี้ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุที่เขาคิดฆ่าตัวตาย
ดารายอดนิยมปี 2014 -เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
แม้ว่าภาพยนตร์ปี 2014 เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์จะแสดงไปแค่ 3 เรื่อง ( X-Men: Days of Future Past, Serena, Hunger Games: Mockingjay – Part 1 แน่นอนบทบาทดังที่สุดคือมิสทีกจากเอ็กซ์เมน) แต่เธอกลับได้เป็นดาราภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมในปี 2014 แต่อนิจจาส่วนใหญ่ข่าวที่ออกมามักเป็นข่าวด้านลบชีวิตส่วนตัวของเธอมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโดนแฮ็กรูป, ถูกเปิดเผยภาพนูด แต่อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของเจนนิฟอร์ก็ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องและเธอติดอันดับหนึ่งชื่อที่ถูกค้นหาที่สุดในโลกออนไลน์ด้วย
โดนล้อเลียนมากที่สุด -Star Wars และ Jurassic World
ยังไม่ทันฉาย แต่ตัวอย่างมหากาพย์ Star Wars: The Force Awakens ภาคใหม่ก็ถูกหลายคนออกมาล้อเลียนมากมายแล้ว แม้ว่าภาพยนตร์ตัวอย่างจะมียอดเข้าชมอย่างมหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนออกมาบ่นเมื่อเห็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่เฉยให้เห็นดาบเลเซอร์ใหม่ล่าสุด ซึ่งมี แสงเลเซอร์ออกมาเป็น 3 แฉก ซึ่งอีกสองแฉกอยู่เป็นด้านดาบดูไร้ประโยชน์สินดี (แถมมองแล้วผู้ใช่จะโดนแสงเลเซอร์สับนิ้วได้ง่าย ผลคือโดนล้อเลียนและสับเละ
เช่นเดียวกับ Jurassic World ภาคใหม่ที่ฉายในปี 2015 แม้ตัวอย่างที่ปล่อยออกมาจะอลังการและยอดคนในยูทูปสนใจอย่างล้มหลาม แต่ ในสายตาของนักวิชาการมองว่าภาพยนตร์ยังนำเสนอภาพลักษณ์ไดโนเสาร์ล้าหลัง ทั้งๆ ที่สมัยนี้มีการค้นหาอะไรใหม่ๆ และพบว่าภาพลักษณ์ไดโนเสาร์ต่างจากภาพยนตร์แล้ว โดยเฉพาะแรปเตอร์ ในภาพยนตร์มีขนาดที่ใหญ่เกือบเท่ามนุษย์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แรปเตอร์ มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าไก่ตัวหนึ่งเท่านั้น และไม่มีความร้ายกาจเหมือนที่ถ่ายทอดในหนังแต่อย่างใด ซึ่งการถ่ายทอด ไทแรนโนซอรัส หรือ ทีเร็กซ์ ในหนังภาคแรก ก็ถูกวิจารณ์อย่างมาก เมื่อจากหลักฐานทางฟอสซิลพบว่า ทีเร็กซ์ ในยุคจูราสสิค ไม่มีวันตัวใหญ่โตเหมือนในหนัง และมีความเร็วในการวิ่งสูงสุดแค่ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง จึงไม่อาจวิ่งไล่ตามรถยนต์ได้เหมือนที่ผู้สร้างถ่ายทอดในหนังแต่อย่างใด
ฉากแห่งปี 2014-ฉากการตายของ คิม จอง อึน
ดูคลิป https://www.youtube.com/watch?v=jR4q61byve4
แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่วุ่นวายที่สุดในวงการภาพยนตร์ 2014 ก็คือเหตุการณ์ การตัดสินใจว่าจะยกเลืกฉายภาพยนตร์ The Interview หรือเปล่า ?
โดยภาพยนตร์ The Interview เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาตลกขบขัน โดยเล่าเรื่องเกี่ยวกับสองนักข่าวที่ถูกส่งตัวไปยังดินแดนเกาหลีเหนือเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ซึ่งภาพยนตร์มีฉากที่คิม จอง อึนนั่งบนเครื่องบินแล้วโดนขีปนาวุธจากรถถังระเบิดตาย ซึ่งฉากดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นแก่เกาหลีเหนือมาก และโซนี่ พิคเจอร์สก็โดนผู้ผลิตโซนี่โดนกลุ่มแฮ็คเกอร์ที่เรียกตนเองว่า ผู้พิทักษ์ความสงบ ข่มขู่ว่าจะมีการก่อการร้ายให้เหมือนเหตุการณ์ 9/11 หากภาพยนตร์ฉายลงโรง และนั้นทำให้โซนี่ตัดสินใจยกเลิกแผนที่จะฉายหนังเรื่อง The Interview ในวันที่ 25 ธันวาคม ก่อนที่จะกลับลำฉายในอินเทอร์เน็ต และฉายในในโรงต่อไป และที่ขำไม่ออกคือเพราะเรื่องระทึกขวัญดังกล่าวทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทั่วโลกอยากจะดีดูแห่งปีซะงั้น พูดง่ายๆ ภาพยนตร์เรื่องเดียวหวิดเกือบเป็นปัญหาระดับโลก
ภาพยนตร์ไทยแห่งปี 2014 – ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู้
พูดถึงภาพยนตร์เมืองนอกมามากแล้ว มาพูดถึงภาพยนตร์ไทยกันบ้าง สำหรับวงการภาพยนตร์ไทยในปี 2014 เหมือนข่าวไม่สู้ดีมากนัก เพราะส่วนใหญ่ที่หลายคนรับรู้คือปีนี้มีหนังหน้าแหกมากมายหลายเรื่อง กล่าวคือ นอกจากทุนต่ำแล้ว ยังบทหนังขาดความสมจริง ขาดความสมเหตุสมผล ดาราแสดงไม่ดี วนเวียนอยู่แต่ตลกสาวประเภทสอง และหนังผีหากิน ฯลฯ บางเรื่องแค่ตัวอย่างก็ให้ความรู้สึกว่าหนังวอนเจ๊งจัดๆ นอกจากจะกลบภาพยนตร์ไทยดีๆ แล้ว และทำให้หลายคนเสียความรู้สึกได้ดูไปด้วย
แต่ถ้าจะให้พูดถึงภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จในปี 2014 ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้ จากค่าย GTH เข้าฉาย 10 ธันวาคม นั้นสร้างรายได้มากถึง 29 ล้านบทในการฉายวันแรก ซึ่งตัวภาพยนตร์ได้ไอซ์ ปรีชญา และโจ๊ก โซคูล รวมทั้งชื่อของผู้กำกับอย่างเมษ ธราธรมาเรียกคนดูซึ่งคาดหวังจากผลงานก่อนหน้า ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาดีระดับหนึ่งได้แบบหนังไทยแนวรักตลก
ภาพยนตร์ขายดีที่สุดแห่งปี 2014 Transformers: Age of Extinction
Transformers: Age of Extinction ทรานส์ฟอร์เมอร์สยังคงเป็นซีรีย์ที่สร้างเป็นกอบเป็นกำเสมอ แม้ว่าภาคที่ 4 มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์ จะไม่ได้ใช้นักแสดงที่เป็นตัวเอกภาค 1-3 เพราะถูกปฏิเสธ แต่ไมเคิล เบย์ไม่ง้อให้นักแสดงอย่าง มาร์ก วาห์ลเบิร์กมาแสดงเป็นตัวเอกแทน แถม "ยกเครื่อง" เล่าทรานส์ฟอร์มเมอร์ในมุมมองใหม่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังภาคนี้ก็ยังคงวนเวียนเรื่องราวเหมือนภาคก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวตัวเอกมีปัญหา หุ่นยนต์สองฝั่งทะเลาะกันไม่เลิก และรัฐบาลสมองกลวงเหมือนเดิม
แม้ตัวภาพยนตร์จะน่าผิดหวัง และไม่สนุกสำหรับหลายคน แต่กระนั้นภาพยนตร์ก็ยังคงขายได้ $1,087,404,499 เพราะกินบุญเก่าจากภาคก่อนๆ
ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2014 - Boyhood
Boyhood โดยผู้กำกับริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ติดอันดับ 1 ของภาพยนตร์ดีแห่งปี โดยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่เล่าผ่านสายตาของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ต้องเผชิญปัญหาต่าง ตั้งแต่เด็กจนถึงโตเป็นวัยรุ่น
แน่นอนคำถามที่คนไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องถามว่าเหตุใดภาพยนตร์นี้ถึงได้ติด สาเหตุแรกๆ คือมันเป็นภาพยนตร์ที่สื่อถึงความตั้งใจของผู้ผลิตอย่างแท้จริง เพราะภาพยนตร์นี้ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 12 ปี สาเหตุเป็นเพราะได้เลือกเด็กที่เป็นตัวเอกมาแสดง ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเขาก็ให้เด็กคนนี้เติบโต โดยไม่ใช่ตัวละครอื่นมาแสดงแทน การถ่ายทำดำเนินเช่นนี้ทุกปี ปีละหนึ่งสัปดาห์จนเด็กกลายเป็นวัยรุ่นอายุ 18 ปี ส่วนตัวตัวภาพยนตร์นานถึง 3 ชั่วโมง อีกทั้งเนื้อหาก็มีข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับวัยรุ่นอเมริกัน สถาบันครอบครัวอเมริกัน ปัญหาของประเทศอเมริกัน ซึ่งเนื้อหาไม่น่าเบื่อแน่นอน จึงไม่แปลกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของใครหลายคนด้วย
ปิดท้ายภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี 2014
20. The Raid 2
19. The Double
18. Locke
17. Guardians Of The Galaxy
16. How To Train Your Dragon 2
15. The Guest
14. Dallas Buyers Club
13. Captain America: The Winter Soldier
12. Interstellar
11. X-Men: Days Of Future Past
10. Noah
9. The Lego Movie
8. The Two Faces Of January
7. The Babadook
6. Gone Girl
5. The Wolf Of Wall Street
4. Nightcrawler
3. Her
2. Inside Llewyn Davis
1. Boyhood
อันดับเหล่านี้เป็นการจัดอันดับโดยผมเอง โดยเอามาจากอันดับต้นๆ ในเว็บ http://whatculture.com ซึ่งน่าเสียดายที่มีหลายหัวข้อที่ไม่ได้พูดถึงไม่ว่าจะเป็น นักแสดงตกอับแห่งปี 2014, ฉากจบโครตเลวร้ายแห่งปี 2014, ภาพยนตร์อินดี้แห่งปี 2014 อาเป็นว่าใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็เข้าไปดูได้ครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
สุดยอด ได้ที่หนึ่งมันยิ่งกว่าเหมาะสมซะอีก
1. Whiplash
2. Boyhood
3. Interstellar
4. Gone Girl
5. The Lego Movie
6. How To Train Your Dragon 2
7. Fury
8. The Fault In Our Stars
9. Big Hero 6
10. ตุ๊กแกรักแป้งมาก
ป.ล.Her ถือว่าเป็นของปี 2013 ไปละกัน เพราะว่าได้ชิงรางวัลของปีนั้นๆไปแล้ว
PS.
PS. yami no hono ni dakarete shine
PS. ..
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 ธันวาคม 2557 / 13:00
PS. สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ