ความตายถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ ดังนั้นหากใครอยากทำอะไรก่อนที่จะตาย ก็ให้รีบๆ ทำจะได้ไม่เสียใจในตอนหลัง ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมีมีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เสียชีวิตแตกต่างกันออกไป ซึ่งในจำนวนเหล่านั้นมีคนดังที่ตายอย่างสยดสยอง และต่อไปนี้คือ 10 คนตายที่ไม่ได้ตายธรรมดา แต่เป็นการตายที่น่ากลัวและสยดสยองที่หลายคนอาจไม่รู้
10.Bela I of Hungary (1016-1063)

เบล่าที่ 1 แห่งฮังการี กษัตริย์แห่งฮังการีที่พึ่งนั่งบัลลังก์มาได้ 3 ปีก็เสด็จสวรรคตด้วยสถานการณ์ที่แปลกประหลาด ในขณะที่พระองค์กำลังนั่งบัลลังก์ของพระองค์อยู่นั้นจู่ๆ หลังคาด้านบนของบัลลังก์ก็ทรุดลงมาทับพระองค์ทำให้สวรรคตทันที เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นที่ถกเถียงว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการลอบสังหารที่ชาญฉลาดกันแน่ เพราะพระองค์มีศัตรูการเมืองมากมายและพระองค์ก็ชิงบัลลังก์จากกษัตริย์คนอื่นมาอีกที
9.George Plantagenet (1449 -1478)

จอร์จ แพลนแทเจเนต หรือจอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 1 แห่งแคลเรนซ์ เป็นบุตรชายคนที่สามของริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 3 แห่งยอร์ก มีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งในการอ้างสิทธิในการครองราชบัลลังก์ที่ทำให้เกิดสงครามดอกกุหลาบ จนกระทั่งถูกต้องข้อหากบฏต่อแผ่นดินในการวางแผนโค่นราชบัลลังก์ของพระเชษฐาพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ทำให้เขาถูกขังในหอคอยลอนดอนจนหนึ่งปีต่อมา (อายุ 28) เขาก็ถูกตัดสินโทษประหารเป็นการภายในที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการให้ถ่วงน้ำตายในก้นถังไวน์ที่เต็มไปด้วยไวน์มาล์มซิย์ กว่า 477.3 ลิตร (105 แกลลอน) สาเหตุที่ประหารแบบนี้ก็เพราะชื่อเสียงของเขาที่เป็นนักเลงสุรา อย่างไรก็ตามการตายของจอร์จยังคงเป็นที่ถกเถียง สิ่งที่รู้แน่ๆ เขาไม่ได้ถูกตัดหัวตามวิธีการลงโทษคนชั้นสูงในเวลานั้นเท่านั้น ซึ่งเชกสเปียร์ได้นำเรื่องจอร์จมาเขียนในละคร Richard III
8.Ishikawa Goemon (1558-1594)
อิชากาว่า โกเอม่อนเป็นตำนานจอมโจรที่ยิ่งใหญ่ที่เปรียบเสมือนโรบินฮู้ดของญี่ปุ่น คือการขโมยทองคำของคนรวยเพื่อไปแจกจ่ายคนยากจน อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็เสียชีวิตพร้อมกับลูกชายของเขาในที่สาธารณะหลังจากล้มเหลวในการลอบสังหารโทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ กล่าวกันว่าโกเอมอนถูกต้มในน้ำเดือดจนตายพร้อมกับลูกชาย ในขณะที่โกเอม่อนถูกต้มครึ่งท่อนตัวอุ้มได้อุ้มลูกชายเหนือน้ำจนกระทั่งตัวตาย (ในขณะที่อีกตำนานโหดกว่านั้นกล่าวกันว่าตอนแรกโกเอม่อนพยายามช่วยลูกชายของเขาจากน้ำร้อนด้วยการอุ้มเหนือน้ำเหล่าทหารพยายามทำให้เขาจมสู่ก้นหม้อให้ฆ่าเขาโดยเร็ว แต่เขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมร่างของลูกชายเหนือหม้ออีกครั้งก่อนที่จะทนความเจ็บปวดทรมานไม่ไหวขาดใจตายจมลงในหม้อในที่สุด) ต่อมาอ่างอาบน้ำที่มีรูปทรงกะทะในประเทศญี่ปุ่นได้ตั้งชื่อตามว่า โกเอม่อนบุโระ
7.Edward II (1307-1327)
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงเป็นกษัตริย์ขึ้นครองราชย์ช่วง 1307-1327 ทรงเป็นกษัตริย์อ่อนแอพระองค์ทรงละเลยขุนนางผู้มีอำนาจไปเข้ากับผู้ที่ทรงโปรดปรานทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองและในที่สุดก็ทรงถูกปลดจากการครองราชย์และปลงพระชนม์ โดยคนของพระราชินีอิสซาเบลลาและมอร์ติเมอร์ ซึ่งไม่ทีราบรายละเอียดของการสวรรคตมากนัก บ้างก็ทรงถูกบีบคอ หรือเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ข่าวลือที่ได้รับนิยมที่สุดคือการเอาท่อนเหล็กเสียบเข้าที่ก้นจนเสด็จสวรรคต ดังคำกล่าวของเซอร์ทอมัส มัวร์ว่า
“คืนวันที่ 11 ตุลาคมขณะที่ทรงนอนอยู่ก็ทรงถูกจับตรึงกับแท่นบรรทมและกดทับด้วยที่นอน ทำให้ไม่ทรงหายพระทัยได้ ขณะที่ (ผู้ที่มาทำการ) เอาท่อนเหล็กเผาไฟ สอดเข้าไปในท่อในบริเวณที่ลับของพระวรกายของพระองค์ เพื่อให้เผาภายในร่างกายที่เลยไปจากลำใส้ใหญ่”
การฆ่าด้วยวิธีนี้ทำให้ดูเหมือนผู้ตายตายตามธรรมชาติเพราะผู้ทำจะสอดท่อนเหล็กก่อนที่จะใช้ท่อนเหล็กร้อนสวนลึกเข้าไปในร่างกายจึงทำให้ไม่เห็นรอยไหม้จากภายนอก
6.The Black Dahlia (1924-1947)

อลิซาเบธ ซอร์ต (Elizabeth Short) หรือฉายาเดอะ แบล็คดาห์เลียเป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนักตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ กลับกันการตายของเธอนั้นหลายคนจดจำเธอมากกว่า เพราะเธอไม่ได้ตายธรรมดา เธอถูกฆาตกรรมอย่างสยอดสยอง
วันที่ 15มกราคม 1947 เมื่อมีการพบศพอันเปลือยเปล่าของเธอข้างถนนนอร์ตัน สวนสาธารณะไลเมิร์ต ชานเมืองลอสแอนเจลีส ร่างของเธอถูกหั่นครึ่งที่เอวขาดเป็นสองท่อน ซ้ำฆาตกรยังล้างศพเธอสะอาดจนขาวซีด และกรีดบาดแผลที่มุมปากตั้งแต่หูซ้ายจรดจนหูขวาแลดูเหมือนรอยยิ้มตัวตลกหน้าผีอย่างน่าสยดสยองผลจากการชันสูตรศพอย่างละเอียดก็พบเรื่องตกตะลึง เพราะเธอถูกทรมาน ซ้ำยังบังคับให้ทานอุจจาระของคน (ไม่ทราบว่าเป็นอุจจาระของคนหรือของเธอเอง) จนเต็มกระเพาะ และถูกหั่นครึ่งท่อนทั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ จากากรสอบสวนไม่มีหลักฐานที่จะสาวไปหาคนทำผิดเลย สุดท้ายคดีฆาตกรรมก็ปิดไม่ลงและกลายเป็นปริศนาลึกลับในที่สุด
5.Sigurd the Mighty

ซีเกิร์ด ออฟ ไมตี้ เป็นไวกิ้งผู้ปกครองยิ่งใหญ่ในตอนเหนือของสกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 8 เป็นคนกล้าหาญ ชอบการต่อสู้และความท้าทายทำให้เขาได้รับฉายาว่า “ไมตี้” และแน่นอนว่าการเสียชีวิตของเขานั้นไม่น่าจะเกิด คือกล่าวว่าระหว่างที่พระเจ้าซีเกิร์ดได้ตัดหัวศัตรู และมัดหัวกับอานม้าเหมือนเป็นรางวัลด้วยความชอบขอบเขา และเมื่อพรเจ้าซีเกริ์ดขี่ม้า ซึ่งด้วยแรงส่ายทำให้ฟันของหัวจ้าเมือง ส่ายไปโดนขาของเขาจนมีเปิดบาดแผลขึ้น และเกิดอักเสบและติดเชื้อจนขาเน่า และเขาเสียชีวิตในที่สุด
4. Herod the Great (73 - 4 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

พระเจ้าเฮโรดมหาราช ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งมณฑลยูเดีย[ ของจักรวรรดิโรมัน มีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงและความเจ็บป่วยทั้งกายและใจตลอดชีวิต ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า พระเจ้าเฮโรดมีพระราชโองการให้ประหารเด็กทุกคนในหมู่บ้านเบธเลเฮมเพราะทรงหวาดกลัวว่าเด็กที่เกิดใหม่จะเติบโตขึ้นมาเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งชาวยิว”(King of the Jews)และยึดราชบัลลังก์ของพระองค์ และต่อมาพระเจ้าแฮรอดก็ต้องระทมทุกข์ทรมานจากโรคประหลาดอย่างหนึ่งที่ทางการแพทย์ไม่สามารถอธิบายได้คือ "เนื้อเน่าภายใน" อาการก็คือเจ็บปวดในลำไส้ ไตเรื้อรัง เจ็บปวดภายใน อาการหายใจขาดเป็นห้วงๆ มีอาการชัก ในไตยังมีเนื้อร้ายโฟเนียร์ และเนื้อเกิดอาการเน่าภายใน อวัยวะเพศเร่ พระองค์ทรมานโรคนี้หลายปีก่อนที่จะเสียชีวิตลงในที่สุด
3. Galerius (260 –311)

จักรพรรดิกาเลริอุส หรือ กาเลริอุส กาเลริอัส วาเลริอัส แม็กซิมิอานัส ผู้ยินยอมให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้โดยสันติ ซึ่งก่อนหน้านั้นคริสตชนถูกบรรดาผู้ปกครองของโรมันกดขี่และพยายามกำจัดด้วยวิธีการทารุณต่าง ๆ อยู่เป็นเวลานาน ซึ่งจักรพรรดิกาเลริอุสเสียชีวิตด้วยโรคที่น่ากลัวคือเกิดโรคมะเร็งลำไส้ เนื้อเน่าภายในและอวัยวะเพศเน่า เสียชีวิตในพระราชวังกัมซิกราด-โรมูเลียนาในประเทศเซอร์เบียซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นมรดกโลกในเดือนมิถุนายน 20047
2.Caliph Al-Musta'sim (1213-1258)

กาหลิบ อัล-มัสตา เป็นผุ้ปกครองกรุงแบกแดกมาตั้งแต่ปี 1242 จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในอีก 16 ปีต่อมา ในช่วงมองโกลรุกราย ที่นำโดยฮูลากูข่าน และจับเขาประหารชีวิต ปกติมองโกลนั้นจะประหารด้วยการตัดหัว แต่พวกมองโกลก็มีความเชื่อว่าหากประหารกาหลิบแบบปกติมาซึ่งความโชคร้าย ดังนั้นพวกเขาเลยกิล้งกาหลิบมัดเข้ากับพรมและใช้ม้าเหยียบย่ำเขาซ้ำไปซ้ำจนกว่าเสียชีวิต การประหารใช้เวลานานกว่าสิบห้านาทีกว่าที่กาหลิบจะขาดใจตาย และนอกจากนี้ลูกชายส่วนใหญ่ของกาหลิบก็ถูกประหารตามพ่อเช่นเดียวกัน
1.Thomas Beckett (1118 –1170)

โทมัส เบ็กเก็ตเป็นนักบุญและมรณสักขีในศาสนาคริสต์ ดำรงตำแหน่งอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีระหว่าง ค.ศ. 1162 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1170 เบคเคตเกิดความขัดแย้งกับพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษเกี่ยวกับสิทธิและอภิสิทธิ์ของคริสตจักร และในที่สุดก็ถูกลอบสังหารโดยข้าราชบริพารอัศวินทั้ง 4 ของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ภายในมหาวิหารแคนเทอร์เบอรี ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ได้ระบุว่าโทมัส เบ็กเก็ตถูกฟันที่หัวสองครั้งเกือบขาดแต่เขายังไม่ตาย
“...อัศวินผู้ชั่วร้ายกระโดดเข้ามายังเบ็กเก็ต ตัดยอดหมวกสูงซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่อุทิศให้แก่พระเจ้า จากนั้นเบ็กเก็ตก็ถูกฟันเป็นครั้งที่สองที่ศีรษะ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ได้โดยไม่เคลื่อนไหว เมื่อถูกฟันเป็นครั้งที่สาม เบ็คเก็ทก็ทรุดลงบนเข่าและข้อศอก ประทานตนเป็นเครื่องสังเวย และกล่าวด้วยเสียงเบา ๆ ว่า 'ในนามของพระเยซูและการพิทักษ์คริสตจักร ข้าพร้อมที่จะยอมรับความตาย' แต่อัศวินคนที่สามฟันทำให้เกิดแผลฉกรรจ์ขณะที่เบ็กเก็ตนอนแผ่ การฟันครั้งนี้ทำให้หมวกหลุดออกจากศีรษะของเบ็กเก็ต จนเลือดที่ขาวไปด้วยสมอง และสมองที่แดงไปด้วยเลือด สาดกระจายไปบนพื้นของมหาวิหาร คนที่มาด้วยกันกับอัศวินก็เอาเท้าเหยียบคอของนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ และมรณสักขีอันมีค่า....กล่าวต่อผู้อื่นในกลุ่มว่า 'เราไปกันเถิด เจ้าคนนี้คงไม่มีวันที่จะลุกขึ้นมาอีก”
อ้างอิง
http://toptenbestandworst.com/?p=6689
http://listverse.com/2012/06/25/top-10-bizarre-deaths-of-the-middle-ages/
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
|
ล้างซะสะอาด 55555555555
PS. philharmonique - when heaven is earth
ปล.ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าไปกระทบใครขออภัยด้วย
PS. ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ในพจนานุกรมของฉัน
PS. วายคือจิตวิญญาณ จิตวิญญาณของฉันคือวาย !
PS. อย่าคิดว่าเขาเลวเพราะเขาแค่น่าเกลียด อย่าคิดว่าเขาดีเพราะหน้าตาดี อย่ามองคนเพียงภายนอก ต้องมองภายในถึงจะรู้
PS. แม่มดแห่งทองคำ