10 อันดับต่อไปนี้คือจดหมายลึกลับที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมลึกลับไม่แพ้กัน ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาไม่ว่าจะเป็นตัวจริงของผู้เขียนจดหมาย รวมไปถึงรหัสลับ ซึ่งได้กลายเป็นจดหมายที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
10.Syracuse Anthrax Mystery
จดหมายนี้อาจไม่รุนแรงเท่ากับรายการอื่นๆ กล่าวคือมีจดหมายซึ่งมาจากซีราคิวส์ในปี 1997, 1999, 2002, 2010, 2011 และ 2012 จดหมายแต่ละฉบับจะมีผงข่าวซึ่งคนเขียนบอกว่ามันคือโรคแอนแทรกซ์ แต่เมื่อทำการพิสูจน์ดูก็พิสูจน์ว่าเป็นแป้งเด็กหรือผงซักพอก จดหมายทั้งห้าฐับนั้นส่งไปยังโรงเรียน Bishop Ludden High School คือปี 1997-2010 ส่วนสามฉบับที่เหลือส่งไปยังมหาวิทยาลัยเลอมอยน์ ซึ่งมีผ็รับแตกต่างกันไป
เอฟบีไอเชื่อว่าจดหมายทั้งหมดเขียนขึ้นโดยคนบ้าคนหนึ่งอายุเกินสามสิบห้า และน่าจะได้รับการรักษาสุขภาพจิต อาจเป็นพวกนอกคอกที่มีปัญหาการทำงานในรสังคม และน่าจะชอบนิยายของเลิฟคราฟท์ แต่ทุกวันนี้ยังไม่สามารถตามตัวหาคนผิดได้เลย
9.Amerithrax
หลังจากกเหตุการณ์ 9/11 ก็มีโจมตีของการก่อการร้ายที่น่ากลัวอีกเหคตุการณ์หนึ่งคือการ โจมตีด้วยแอนแทรกซ์ หรือเรียกว่า อเมริแทรกซ์ ซึงมันเริ่มต้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2001 เมื่อมีจดหมาย 7 ฉบับ ส่งไปยังสำนักงานข่าว ABC, CBS, NBC, AMI และนิวยอร์กโพสต์ อีกทั้งยังส่งไปยังวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตสองคนคือ นายทอม แดชเชิล แห่งรัฐรัฐเซาท์ดาโคตา และ แพทริก เลฮี แห่ง รัฐเวอร์มอนต์ เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และอีก 17 คนติดเชื้อ
ต่อมาเอฟบีไอได้ตรวจสอบที่มาของจดหมายเหล่านั้น และมันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในการสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ตอนแรกเชื่อว่าจดหมายเหล่านี้ส่งมาโดยมุสลินหัวรุนแรงเพราะข้อความจดหมายเขียนว่า “ตายไปซะอเมริกาและอิสราเอล” หรือไม่ก็มีคนจ้างวานเขียนจดหมายนี้ขึ้นมา
เอฟบีไอเชื่อว่าบรูศ เอ็ดเวิร์ด อีวินส์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำงานที่ห้องปฏิบัติการป้องกันด้านชีวภาพ น่าจะมีส่วนรับผิดชอบ แต่เมื่อทำการสอบสวนก็ไม่สามารถพิสูจน์ว่าเขาเป็นตัวการแต่อย่างใด รวมไปถึงนักจุลชีววิทยาอาวุโสและวุฒิสมาชิกคนอื่นๆ และสภาผู้แทนราษฎรที่นังคงเชื่อว่าเขาไม่น่าใช้ตัวการหรือไม่ก็เขาอาจไม่ได้ทำคนเดียว แต่สุดท้ายคดีก็มืดแปดด้านเมื่อ อีวินส์ฆ่าตัวตายด้วยการทานพาราเซตามอลเกินขนาด ในปี 2008
8. Murder of Vindalee Smith
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2012 หญิงอายุวัยกลางคนชื่อ วินดาลี สมิธ อายุ 38 ปีถูกพบเหป็นศพนอนตายในบ้านของเธอในบรูคลิน โดยมีแผลเหวะอยู่ที่ลำคอของเธอ สมิธนั้นเป็นหญิงท้องแก่แปดเดือนและกำลังจกแต่งงานกันในวันรุ่งขึ้น คู่หมั่นของเธอคือแอนโธนีแจ๊คแมนซึ่งแต่งงานแล้ว (แต่งงานซ้ำซ้อน?) ภายใต้ร่างของเธอมีโน้ตพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เขียนว่า “ฉันจะฆ่าผู้หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ลีบอยด์มัลโวเป็นอิสระ !” ( “I will kill one pregnant woman a month starting now until Lee Boyd Malvo is set free!”) พร้อมโน๊ตลงนาม “ฝึกงาน ” พร้อมกับใบหน้ายิ้ม
ลีบอยด์ มัลโวนั้นคือฆาตกรต่อเนื่องที่ร่วมมือกับจอห์น อัลเลน มูฮัมหมัด ที่ก่อคดีที่เรียกว่า DC Snipers สังหารคนไป 10 คน ซึ่งตำรวจไม่สามารถเชื่อมโยงกับลีบอยด์ มัลโวและคดีฆาตกรรมวินลาดี สมิธได้ และจนบัดนี้คดีนี้ก็ไม่ได้รับการคลี่คลายแต่อย่างใด
7. Murder of Eva Kay Wenal
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2008 เวนอล เจ้าของศูนย์กลางค้าแฮโรลด์ “ฮาร์ด” เวนอลได้มาบ้านหาอีวาน เคย์ เวนอล ภรรยาอายุ 60 ปีอดีตนางแบบ ที่อยู่กินมานาน 20 ปี แต่ก็พบเป็นศพนอนจมในสระว่ายน้ำเต็มไปด้วยเลือด ถูกทำร้าย มีร่องรอยบาดแผลที่ช่องลำคอของเธอ เชื่อว่าเธอถูกทำร้ายทันทีที่เปิดประตูบ้าน จากการตรวจสอบภายในบ้าน แม้บ้านจะร่ำรวยแต่กลับไม่มีของมีค่าใดๆ ถูกขโมยไป
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2008 มีจดหมายที่ใช้ตัวอักษรที่ตัดจากนิตยสารมาแปะเป็นคำส่งไปยัง สำนักงานหนังสือพิมพ์ Atlanta Journal Constitution เนื้อหาจดหมายอธิบายว่าทำไมอีวานถึงถูกฆ่า ซึ่งอ้างว่าเธอนอกใจ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นจดหมายจากฆาตกรตัวจริง แต่จนบัดนี้คดีดังกล้าวก็ยังไม่คลี่คลาย
http://www.11 alive.com/news/article/244744/3/ Ex-models-cold-case-heats-up-with-new-evidence
6.Cindy James Case
คดีของเจมส์ ซินดิ้นั้นเป็นคดีประหลาดที่เกิดขึ้นในริชมอนด์ บริติชโคลัมเบีย เมื่อหญิงอายุสิบสี่ปี อาชีพนางพยาบาลคนหนึ่งชื่อ เจมส์ ซินดี้อ้างว่าได้ถูกก่อกวนโดยคนร้ายลึกลับ เป็นระยะเวลาถึงสีเดือน ธอตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวกว่าร้อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการก่อกวนด้วยโทรศัพท์โรคจิต และมีจดหมายโรคจิตวางไว้บนระเบียงหน้าบ้านของเธอ เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเรื่องก็หนักยิ่งขึ้น เมื่อถูกพบว่าเจมส์ถูกมัดและโดนผ้าปิดบ้านนอกบ้านของเธอ และเธอถูกแทงทะลุมือด้วยมีดปอกเปลือก ซึ่งเธออ้างว่าตอนคนบ้าไล่ฆ่า
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนตำรวจพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการสร้างขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะเป็นจดหมายที่เธอเขียนตัวเอง หรือค่าโทรศัพท์ที่โทรเข้าบ้านตัวเอง ทำให้เชื่อว่าธอมีอาการทางจิตที่คิดเอาเองว่ามีคนโรคจิตทำร้าย
วันที่ 25 พฤษภาคม 1989 6 ปีและ 7 เดือนหลังจากที่โทรศัพท์ขู่แรกซินดี้เจมส์หายไป ในวันเดียวกันรถของเธอถูกพบในลานจอดรถบริเวณใกล้เคียง กระเป๋าสตางค์ยังคงอยู่ในรถและมีรอยเลือดอยู่บนประตูด้านคนขับ สองสัปดาห์ต่อมาร่างของเธอถูกพบที่บ้านร้าง มันดูเหมือนซินดี้เจมส์ถูกฆ่าตายอย่างไร้ความปราณี มือและเท้าของเธอถูกมัดเข้าด้วยกันด้านหลังของเธอ ถุงน่องไนลอนสีดำถูกผูกติดอยู่แน่นรอบคอของเธอ แต่การชันสูตรศพเปิดเผยว่าซินดี้เสียชีวิตจากยาเกินขนาดของมอร์ฟีนและยาเสพติดอื่น ตำรวจจึงสรุปว่าซินดี้ได้ฆ่าตัวตาย พ่อของเธอไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ประกาศว่ากรณีตายของซินดี้ยังไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วยอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม และปัจจุบันคดียังคงดำมืดต่อไป
5.Murder of JonBenét Ramsey
มันเป็นคดีฆาตกรรมที่แปลกประหลาดหากไล่เรียงมันเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1996 โจนเบนท์ แรมซี่ย์เด็กหญิงที่อายุเพียง 6 ขวบซึ่งเป็นนางงามเด็กได้หายไปจากบ้านของเธอในโบลเดอร์ โคโลราโด ก่อนที่ศพของเธอจะถูกพบในห้องเก็บไวน์ในบ้านของเธอเอง หลังผ่านไปแปดชั่วโมงหลังจากที่เธอหายไป เธอถูกพบในสภาพใส่ชุดนอน มีผ้าห่มสีขาวปกอยู่ มีเชือกไนลอนสีขาวพันรอบคอ ข้อมือถูกผูกไว้เหนือศีรษะ และมีเทปกาวปิดปาก นอกจากนี้เธอยังถูกล่วงละเมิดทางเพศ ศีรษะของเธอถูกตีด้วยวัตถุแข็งทื่อ และสายเชือกสีขาวรัดแน่นอยู่ลำคอนั้นมีแท่งไม้เสียบคล้ายขันชะเนาะใหเชือกรัดคอให้แน่นขึ้น
ที่ลึกลับไม่แพ้กันก่อนหน้าที่พบศพนั้นแม่ของโจนเบนท์ได้พบจดหมายเรียกค่าไถ่ที่เขียนด้วยลายมือ ความยาวสองหน้าครึ่ง วางอยู่บนบันไดครัว (ซึ่งเนื้อหารายละเอียดอยู่เว็บด้านล่าง)
http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=205702 &chapter=15
เนื้อหาจดหมายคร่าวๆ คือเรียกเอาเงินหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันดอลลาร์สหรัฐแลกกับการปล่อยตัวบุตรของนางอย่างปลอดภัย โดยเงินที่เรียกร้องนี้ตรงกับจำนวนเงินโบนัสที่พ่อของโจนเบนท์ ได้รับเมื่อต้นปีหาที่ผิดเพี้ยน แม้เนื้อหาจดหมายจะบอกไม่ให้พ่อแม่ของโจนเบนท์ติดต่อกับตำรวจ แต่ทั้งคู่ได้ละเลยคำเตือนนั้น ก่อนที่จะพบศพของเธอในเวลาต่อมา (เชื่อว่าจดหมายเขียนขึ้นหลังโจนเบนท์เสียชีวิตแล้ว)
ปัจจุบันคดีของโจนเบนท์ก็ยังไม่ได้คลี่คลาย ส่วนจดหมายเชื่อว่าผุ้เขียนน่าจะเป็นฆาตกรหรือบุคคลที่ทราบว่าใครคือฆาตกร อีกทั้งเชื่อว่าแม่ของโจนเบนส์เป็นคนเขียนจดหมายฉบับนั้น แต่จนบัดนี้ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นคนเขียนจดมายดังกล่าว เพราะลายมือไม่ตรงกับคนในบ้านของโจนเบนส์
4.Circleville Letter Writer
เซอร์เคิลเป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐโอไฮโอที่มีประชาชนกว่า 13.000 คน แต่เมืองแห่งนี้กำลังเกิดคดีลึกลับคดีหนึ่งที่ต่อมาถึงเรียกว่านักเขียนจดหมายเซอร์เคิล
เริ่มต้นในปี 1976 หลายบ้านในเซอร์เคิลได้รับจดหมายพยาบาทลึกลับ ซึ่งจดหมายดังกล่าวมีกว่าพันตัวอักษรที่เขียนส่งไปยังเจ้าหน้าบ้านเมืองและแม้กระทั่งประชาชนคนปกติ เนื้อหาจดหมายแปลกประหลาดเพราะมีข้อมูลส่วนตัวบุคคลแบบละเอียดยิบเกี่ยวกับชีวิตของเขา คนหนึ่งได้รับจดหมายเป็นคนขับรถโรงเรียนชื่อแมรี่ กิลเลส ที่เนื้อหาจดหมายกล่าวหาว่าเธอมีความสัมพันธ์พิเศษกับคนทางการโรงเรียน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1977 สามีของรอน แมรี่ กิลชิป ได้รับโทรศัพท์ที่ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงตัวตนของคนเขียน เขาออกจากบ้านพร้อมหยิบปืนเพื่อไปเผชิญหน้ากับคนเขียน แต่กลายเป็นว่าเขาถูกพบเห็นศพห่างจากบ้าน รถของเขาถูกขับออกจากถนนและปืนของเขายิงไปหนึ่งนัด ซึ่งนัดนั้นทำให้เขาตาย แน่นอนคำถามที่ตามมาคือทำไมเขาถึงยิงปืน มันเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม
ต่อมาในขณะขับรถไปตามทาง แมรี่ก็สัญญาปกติ และเมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีใครบางคนวางกับดักที่ออกแบบมาเพื่อฆ่าเธอ มือปืนเป็นอดีตน้องเขยของเธอพอล เฟรชฮอย
ถูกตัดสินลงโทษในข้อหาพยายามฆ่าและคิดว่าจะเป็นนักเขียนเซอร์เคิล อย่างไรก็ตามในขณะที่จองจำจดหมายก็ยังมีการส่งเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่เขาอยู่ในที่คุมขังเดี่ยวโดยไม่มีการเข้าถึงการเขียนจดหมายและอีเมลของเขาถูกตรวจสอบแต่ไม่พบหลักฐานหรือตัวจริงของนักเขียนจดหมายเซอร์เคิลแต่อย่างใด
3. Murder of Ricky McCorkmick
การฆาตกรรมริกกี้ แมคคอร์กมิก ยังคงเป็นคดีอาชญากรรมปริศนาที่เอฟบีไอ, Racketeering Records Unit (CRRU)และสมาคมรหัสลับอเมริกา ยังคงต้องปวดหัวอยู่เสมอ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการพบร่างกายที่เน่าเฟะในทุ่งนาชาร์ลส์เคาน์ตี้ ในมิสซูรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1999 ซึ่งนายริกกี้คนนี้เป็นคนว่างงานและมีประวัติอาชญกรรม
สาเหตุการตายของเขาไม่แน่ชัด ทางการเองก็ไม่ประกาศว่าเป็นการฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย ถึงเป็นการฆาตกรรมก็มีปัญหาคือไม่มีใครมีแรงจูงใจฆ่าเขาและไม่มีใครรายงานว่าเขาหายตัวไป หรือฆ่าตัวตายก็ไม่พบแรงจูงใจแต่อย่างใด ทำให้การสืบสวนมืดแปดด้าน
12 ปีหลังจากการตายของเขา เอฟบีไอได้ประกาศว่านี้เป็นการฆาตกรรมและขอช่วยเหลือจากประชาชนให้ไขโน๊ตจดหมายรหัสลับสองแผ่นที่พบในกระเป๋าของแมค ซึ่งทั้ง CRRU และสามคมรหัสลับอเมริกายังไม่สามารถที่จะแก้รหัสเหล่านี้ได้ พวกเขาเชื่อว่าจดหมายนี้เขียนเมื่อสามวันก่อนที่เขาจะตาย
สามารถดูแบบเต็มๆ ได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Ricky_McCormick's_encrypted_notes
จดหมายมีหลายหลายตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นตัวอังกฤษ ตัวเลข ขีดกลางและวงเล็บ ซึ่งเชื่อว่าหากไขรหัสนี้ได้ก็จะสามารถแก้ปัญหาปริศนาการฆาตกรรมของแมคได้ แต่ความหมายของรหัสทั้งสองแผ่นยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
2.Zodiac Killer
คงไม่มีฆาตกรต่อเนื่องคนใดที่มีความสุขที่เหน็บแนมตำรวจและสร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาชนในแคลิฟอร์เนียในช่วงปลายปี 1960 ได้เท่าโซดิแอต ที่สังหารคนไป 5 คน (บาดเจ็บ 2 คน)
โซดิแอตได้เขียนจดหมายเปิดตัวครั้งแรกแก่สำนักพิมพ์ทั้ง 3 แห่ง เนื้อหาจดหมายเขียนด้วยลายมือและเขียนผิดๆ ถูกๆ แต่เชื่อว่าเป็นการแกล้งเขียน โดยอ้างว่าเป็นคนรับผิดชอบในการฆ่าเหยื่อหลายคนที่ผ่านมา พร้อมจดหมายยังแนบรหัสลับ ที่ซึ่งฆาตกรอ้างถึงความเป็นลักษณะเฉพาะของรหัสลับที่เขาประดิษฐ์ขึ้น และยังบอกอีกว่ามีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะไขรหัสมันได้ ต่อมา อาจารย์โรงเรียนมัธยมศึกษาคนหนึ่งกับภรรยาไขปริศนานี้ได้ในสัปดาห์ที่รหัสลับได้ลงในหนังสือพิมพ์นั้น ซึ่งมันไปตรงกับรหัสลับของกองทัพเรือสหรัฐใช้กัน
โดยข้อความที่ถูกถอดรหัสได้เขียนว่า "ผมชอบฆ่าคน เพราะมันสนุกมาก สนุกกว่าการล่าสัตว์ป่าเสียอีก...เพราะคนคือสัตว์ที่อันตรายที่สุดในการล่าสังหาร...มันสนุกกว่าออกไปเที่ยวกับสาว ๆ เสียอีก และดีที่สุดเมื่อผมตายผมจะขึ้นสวรรค์และเหยื่อที่ผมฆ่าทั้งหมดก็จะไปเป็นทาสรับใช้ผม " และ EBEORIETEMETHHPITI ซึ่งเป็นอักษรภาษาอังกฤษ 18 ตัวสุดท้ายที่ถอดได้ไม่มีผู้ใดเข้าใจถึงความหมายของมัน
ต่อมาก็มีจดหมายที่คนเขียนอ้างว่าเป็นฆษตกรและใช้ชื่อว่าโซดิแอตส่งมาหลายฉบับ เนื้อหาเป็นการเหน็บแนมตำรวจ ข่มขู่ประชาชนให้หวาดผวา อ้างคดีฆาตกรรมที่ตนเองอ้างว่าเป็นคนก่ออีก 37 คน และรหัสลับอื่นๆ ที่แนบในจดหมาย ซึ่งหลายปีที่ผ่านมามีผู้ที่พยายามแก้ปริศนารหัสลับเหล่านั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้เชื่อว่ารหัสลับนั้นมั่วขึ้นมาเองและคดีฆาตกรรมต่อเนื่องจของโซดิแอตก็ยังคงเป็นอาชญากรรมที่ยังไม่คลีคลายจนถึงทุกวันนี้
1. Jack the Ripper
แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ก็ยังเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่หลายคนรู้จักไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด ฆาตกรต่อเนื่องผู้ออกอาละวาดในย่าน "ไวท์แช็พเพล " ซึ่งเป็นถิ่นยากจนใกล้นครลอนดอนในช่วงครึ่งปีหลังของ ค.ศ. 1888 โดยมีโสเภณีตกเป็นเหยื่อ 5 คน ซึ่งระหว่างนั้นก็มีจดหมายลึกลับสามฉบับส่งมา แม้ว่าจดหมายสามฉบับนั้นผู้เขียนอาจไมใช่แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ตัวจริง แต่กระนั้นความลึกลับของจดหมายทั้งสามนั้นก็ยังคงมีเสน่ห์ไม่แพ้แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์เลยที่เดียว
เนื้อหาจดหมายฉบับสามารถอ่านได้ที่
http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=11
จดหมายฉบับแรกถูกตั้งชื่อว่า “เจ้านายที่เคารพ” ซึ่งเนื้อหาของจดหมายฉบับนี้เองที่ได้ตั้งชื่อฉายาฆาตกรสังหารโสเภณีว่า "แจ๊ด เดอะ ริปเปอร์” มันเป็นจดหมายลงวันที่ 28 กันยายน 1888 ไปยังสำนักข่าวเซ็นทรัล หลังจากฆาตกรรม แอนนี่ แซ็ปแมน 17 วัน เขียนด้วยลายมือหมึกแดง เนื้อหายั่วยุตำรวจและอธิบายความสุขเวลาทำการฆาตกรรม พร้อมกับคุยว่าจะฆ่าผู้หญิงรายต่อไป และวางแผนที่จะตัดใบหูเหยื่อเอาไว้ด้วย พร้อมเย้ยหยันความคิดตำรวจว่าเขาเป็นหมอ ซึ่งต่อมาเนื้อหาของจดหมายดังกล่าวก็เป็นจริงเมื่อเหยื่อสองรายถูกฆ่า และเหยื่อรายหนึ่งโดนตัดหู
จดหมายฉบับที่สองคือ “ไปรษณีย์แจ็คจอมซ่า” วันเดียวกับเดียวกับการเกิดคดีฆาตกรรมสองครั้งซ้อน สำนักข่าวเซ็นทรั่ลได้รับไปรษณียบัตรเปื้อนเลือดสกปรก เนื้อหาพูดถึงการฆาตกรรมสองรายซ้อน และยั่วตำรวจเหมือนเดิม
จดหมายที่สามคือ “จากนรก” ถูกส่งเมื่อวันอังคารที่ 16 ตุลาคม 1888 ผู้รับคือจอร์จ เอคิ่น ลัสก์ ประธานกรรมการป้องกันภัยของไวท์แช็พเพล ซึ่งจดหมายมาพร้อมพัสดุกล่องเล็ก ๆ ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล เมื่อเขาเปิดก็พบชิ้นส่วนของไตแช่ในไวน์ ซึ่งอ้างว่าเป็นของเหยื่อที่เขาฆ่าและตัดออกมา และจดหมายยังอ้างอีกว่าได้กินชิ้นส่วนไตอีกครึ่ง
ตำรวจที่สืบสวนคดีนี้สืบหาที่มาของจดหมายทั้งสามฉบับ ทั้งตั้งรางวัลนำจับหรือแจ้งเบาะแสและ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่จนแล้วจนรอดคดีก็ไม่คืบหน้า
อ้างอิง
http://listverse.com/ 2013/02/02/ top- 10- mysterious-letters/
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ขอเชิญเอโดงาว่า โคนันมาสืบ.... ^____^++
เจอชัวร์! ==
PS. ถ้าลืมความเจ็บปวดไม่ได้ ก็จำไว้ซะสิ
PS. สัตว์โลกมีหัวใจโปรดชาวไทยอย่าย้ำยี
ถึงจะชอบ แต่ก็ไม่ต้องการจะเป็นคนไม่มีหูหรือเอาไตไปให้นายกินนะ แจ๊ค
PS. เมื่อคุณมีความภูมิใจและมีความรักตัวเองอย่างเพียงพอ คุณจะไม่โหยหาความรักจากคนอื่น