บิ๊กฟุต (Bigfoot) หรือชื่อที่แปลตรงตัวว่า "ไอ้ตีนโต" เป็นสัตว์ลึกลับที่เชื่อว่ามีรูปร่างคล้ายมนุษย์ พบในสหรัฐอเมริกา และทวีปอเมริกาเหนือ โดยชื่อที่เรียกมีที่จากรอยเท้าที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่ใหญ่โตกว่ามาก โดยที่ในแคนาดาเรียก "ซาสควาทช์" (Sasquatch) และมีสัตว์ลักษณะคล้ายเคียงกันพบที่เทือกเขาหิมาลัยในเนปาล เรียกเป็นภาษาพื้นเมืองว่า "เยติ" (Yeti) หรือ มนุษย์หิมะ ที่ออสเตรเลียก็มีสัตว์ลักษณะคล้ายคลึงกันนี้ เรียกว่า "โยวี่" (Yowie) เป็นต้น
หลักฐานแรกที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของบิ๊กฟุตเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นปี ค.ศ. 1811 ในเมืองจัสเปอร์ ประเทศแคนาดา โดยพบรอยเท้าบนหิมะซึ่งมีขนาดยาว 14 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว พบโดย เดวิด ทอมป์สัน ซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกี่ยวกับบิ๊กฟุต
เรื่องราวของการเผชิญหน้ากับคนตัวใหญ่และมีขนดอกยาวไปทั่วตัวนั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีรายงานแบบนี้นับไม่ถ้วน แต่กระนั้นก็ยังคงลึกลับปัจจุบันว่าบิ๊กฟุตยังมีจริงหรือไม่ เพราะบางรายงานคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับเผชิญหน้าบิ๊กฟุตค่อนข้างเหลือเชื่อ บางเรื่องเกินจริงด้วยซ้ำ
รายการต่อไปนี้คือ 10 การเผชิญหน้ากับบิ๊กฟุตตัวเป็น ๆ ที่แปลกประหลาด ซึ่งบางส่วนเป็นบันกทึกเก่าแก่ของตารนบิ๊กฟุต ซึ่งก็แล้วแต่คุณล่ะว่าจะเชื่อเรื่องเหล่านี้หรือไม่!!
10. Jacko Man Ape

http://www.bigfootencounters.com/creatures/jacko.htm
นับถอยหลัง อันดับ 10 เป็นเรื่องของแจ๊คโอ ลิงไม่มีหาง ที่อ้างว่าลูกเรือของคนงานซึ่งเป็นงานรถไฟในบริตัชโคลัมเบียได้จับลิงตัวนี้ได้ในช่วงฤดูร้อนของปี 1884
จากหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อาณานิคมของวิกตอเรีย บริติชโคลัมเบียได้เขียนข่าวว่า “มันคืออะไร?” ตามคำบอกเล่าพวกเขาเห็นสัตว์ตัวหนึ่งรูปร่างเหมือนคนนอนข้างรถไฟในขณะที่พวกเขาเดินทางหุบเขาหิน พวกเขาหยุดเพื่อตรวจสอบมันพร้อมเชื่อว่ามันหลุดออกมาจากหน้าผาและบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเลยจับมันเอาไปเลี้ยงในคุกท้องถิ่นหลายวันโดยให้อาหารเป็นเบอรรี่และตั้งชื่อมันว่า “แจ็คโอ”
ตามคำบอกเล่าแจ๊คโอนั้นมีลักษณะคล้ายกับบิ๊กฟุต เหมือนครึ่งคนครึ่งกอลิล่า สูงประมาณ 4 ฟุต 7 นิ้ว หนัก 127 ปอนด์ ผมยาวสีดำ มีลักษณะเหมือนมนุษย์ยกเว้นทั้งร่างยกเว้นมือหรืออุ้งเท้าของมันถูกปกคลุมด้วยขนมันวาวประมาณหนึ่งนิ้ว มันแข็งแรงมากและไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ เพราะมันเอาแต่คำรามเท่านั้น อย่างไรก็ต่อมามีการเขียนข่าวนี้ว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง อีกทั้งคนหลายคนเข้าไปในเมืองเพราะอยากเจอแจ๊คโอแต่ก็ได้รับความผิดหวังกลับมาเพราะมันหายไป บ้างก็ว่ามันหลบหนีไปได้ หรือไม่ก็เสียชีวิตในระหว่างการขนส่ง ทุกวันนี้ชะตากรรมของลิงแจ๊คโอยังไม่ทราบแน่ชัด
9. The Tale of Albert Ostman

http://en.wikipedia.org/wiki/Albert_Ostman
เรื่องราวการเผชิญหน้ากับบิ๊กฟุตของอัลเบิร์ต อุซแมนซึ่งเป็นชาวเหมืองแร่แคนาดา ค่อนข้างน่ากลัวและเหลือเชื่อสำหรับผู้ฟังไปบ้าง โดยเขาได้อ้างเขาถูกลักพาตัวโดยครอบครัวบิ๊กฟุตในระหว่างเดินทางแคมป์ปิ้งในป่าที่ห่างไกลในบริติชโคลัมเบียในปี 1924 และถูกเลี้ยงดูเหมือนสัตว์เลี้ยงในครอบครัว
อัลเบิร์ตได้เล่าว่า ในขณะที่เขานอนหลับในเย็นกลางป่าวันหนึ่ง จู่ๆ ก็มีบิ๊กฟุตตัวใหญ่ตัวหนึ่งยกเขาเอาไว้บนบ่าและพาเขาออกไปจากที่พักของเขา ซึ่งเขาไม่สามารถขัดขื่นได้ หลังจากนั้นสองสามชั่วโมงต่อมาเขาก็ได้รับการปล่อยตัวออกจากถุงนอน ซึ่งเขาก็พบว่าตอนนี้อยู่ถ้ำที่ราบสูง รอบๆ มีบิ๊กฟุต 4 ตัวที่เชื่อว่าเป็นครอบครัว โดยประกอบไปด้วยบิ๊กฟุตผู้ใหญ่ 3 ตัว (ทั้งตัวผปู้และตัวเมีย) และเด็ก 1 ตัว และเชื่อว่าพวกมันจับเขาเป็นเชลยถึง หนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนสัตว์เลี้ยง แต่มันไม่ทำอันตรายใดๆ เพียงแต่มันไม่่ให้เขาออกไปข้างนอกเท่านั้น มันนำหญ้าที่มีรสหวานมาให้เขาเพื่อกินเป็นอาหาร สุดท้ายเขาก็หนีมาหลังจากที่บิ๊กฟุตตัวใหญ่ที่สุดเมาเพราะกินยาสูบเข้าไป หลังจากที่เขาหนีออกมาได้เขาก็เก็บเรื่องนี้มานานกว่า 24 ปีโดยไม่บอกคนอื่นเพราะกลัวถูกหาว่าเป็นคนบ้า ก่อนที่ในปี 1957 เขาก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขาให้แก่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
8. The Ape Men of Mount St. Helens
มันก็ไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการถูกโจมตีโดยมนุษย์ลิง แต่นั้นคือเรื่องราวที่อ้างว่าเกิดขึ้นจริงของเฟร็ดเบ็คและคนงานเหมืองสี่คนเพื่อนเขาในระหว่างที่ทำงานในเหมืองแร่ในเมาต์เซนต์เฮเลนส์ในช่วงฤดูร้อนในปี 1924 ตามที่เบ็คและเพื่อนเขาเล่าว่า หลังจากที่พวกเขาไปพักผ่อนในที่พักซึ่งเป็นกระท่องไม้ซุง จู่ๆ พวกเขาก็ถูกปลุกกลางดึกเมื่อมีอะไรบางอย่างที่เป็นสิ่งมีชีวิตพยายามทำลายตัวบ้านเพื่อเข้ามาข้างในที่พักหรือมีหินขนาดใหญ่โยนจากหน้าผาเพื่อทำลายหลังคาด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง ด้วยความตกใจทำให้พวกเขาคว้าปืนไรเฟิลของตนและเริ่มยิงผู้บุกรุก
การต่อสู้ดำเนินตลอดทั้งคืน แต่ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งถึงตอนเช้าเรื่องก็เงียบสงบลงอย่างน่าขนลุก แล้วพวกเขาก็ออกจากที่พักอย่างระมัดระวัง และแล้วพวกเขาก็พบมนุษย์ลิงในระยะไกล พวกเขาพยายามยิงมันหลายครั้ง หากแต่มันก็หนีเข้าไปในป่าลึกไปได้ เหลือทิ้งไว้ร่องรอยการโจมตีที่ปรากฏในบ้านที่พักให้เห็นเท่านั้น
ทั้งหมดคนเห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงเก็บข้าวของออกจากที่พักทันที ตอนแรกพวกเขาพยายามเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่อยากให้คนอื่นรู้ หากแต่ต่อมาก็เป็นข่าวโด่งดังในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ขนามนามว่า “มนุษย์ลิงแห่งเซนต์เฮเลนส์”
http://www.youtube.com/watch?v=njtISBulvzk
7. Big Feet at Bluff Creek
ในช่วงตอนเช้าของฤดูร้อนของปี 1958 เจอร์รี่ ครูว์ คนงานเตอร์ของบริษัทผู้ก่อสร้างได้ออกไปทำงานในพื้นที่บลัฟ ครีกด้านนอกทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย (สถานที่เจอบิ๊กฟุตมากที่สุด) หลังจากที่เขากำลังตรงไปที่รถแทรกเตอร์ที่เจอทิ้งในป่านั้นเขาก็พบรอยเท้ามนุษย์ขนาดยักษ์รอบรถแทรกเตอร์ของเขา รอยเท้านั้นเเม้จะมีรูปร่างเเละสัดส่วนเหมือนรอยเท้าคน เเต่เป็นเท้าเปล่าไม่สวมรองเท้า เเละที่สำคัญคือ มีขนาดใหญ่กว่าเท้าคนทั่วๆไปมากวัดได้ยาวถึง 16 นิ้ว ระยะก้าวอยู่ระหว่างเมตรถึงเมตรครึ่ง ซึ่งเฉลี่ย เเล้วสองเท่าของคน
ตอนแรกครูว์ไม่เชิ่อกับสิ่งที่เห็น เพราะคิดว่ามีคนเล่นตลกมากกว่า หากแต่เขาได้ยินเรื่องตำนานของมนุษย์ลิงยักษ์ที่อาศัยอยู่ในที่นี้ บวกกับก่อนหน้านี้ก็มีรายงานการพบมนุษย์ลิงและรอยเท้าในบริเวณใกล้ๆ กันมาแล้ว เขาจึงเชื่อว่ามันเป็นรอยเท้าของมนุษย์ลิง และเมื่อเขาเดินตามรอยเท้านี้ไปก็ประหลาดใจเมื่อรอยเท้านี้หายเข้าไปในป่า ต่อมาครูว์ก็ได้ประทับรอยเท้าเข้าไปกับปูนปลาสเตอร์ และแล้วข่าวการพบรอยเท้ายักษ์ของลิงยักษ์ก็โด่งดังในเวลาต่อมา และเป็นที่มาของคำว่าบิ๊กฟุตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2002 เรย์เเอล วอลเลซ เจ้าของบริษัทก่อสร้าง วัย 84 ปี ได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวก่อนตายเขาได้สารภาพกับลูกชายของตนเองว่า เขาได้ว่าเป็นคนสร้างเรื่องบิ๊กฟุตในปี 1958 ขึ้นมาเพื่อหวังให้เป็นเรื่องตลกเท่านั้น
6.Honey Island Swamp Monster

มอนสเตอร์แห่งเกาะบึงฮันนี่ เป็นตำนานของหลุยเซียนาที่เชื่อว่าเกาะบึงฮันนี่เป็นที่อยู่ของบิ๊กฟุตจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านหลายคนพบเห็นบิ๊กฟุตมาหลายชั่วคน
บริเวณเกาะบึงฮันนี่นั้นเป็นบริเวณที่เก่าแก่ค่อนข้างห่างไกลจากโลกภายนอก ยากที่จะเข้าถึง อีกทั้งสภาพแวดล้อมสมบูรณ์แบบจึงเหมาะแก่สัตว์อ่ศัยอยู่ โดยเฉพาะบิ๊กฟุต ซึ่งรายงานส่วนใหญ่การพบเห็นบิ๊กฟุตส่วนใหญ่จะมาจากนักล่าหรือชาวประมงที่อ้างถึงการพบสิ่งมีชีวิตยักษ์ที่ขนดกหรือรอยเท้าขนาดยักษ์ นอกจากนี้ตัวของมันมีกลิ่นเหม็นมาก เหม็นชนิดที่สัตว์อื่นๆ ไม่อยากเข้าใกล้ แต่ที่แปลกๆ คือมันแตกต่างจากบิ๊กฟุตที่รู้จักเพราะบางคนบอกว่ามันสัตว์ประหลาดบึงที่เกิดจากชิมแปนซีและจระเข้ มีดวงตาสีแดง มีพังผืด ปัจจุบันยังมอนสเตอร์แห่งเกาะบึงฮันนี่ยังคงเป็นเรื่องลึกลับว่าตัวจริงมันคือตัวอะไรกันแน่
http://www.youtube.com/watch?v=4w-GOleG1es
5.The Mount Shasta Sightinge

ภูเขา แชชตะเป็นภูเขาอยู่ทางตอนเหนือ ของแคลิฟอร์เนีย ที่บริเวณดังกล่าวมีรายงานการพบเห็นยูเอฟโอเป็นจนนวนมาก รวมไปถึงการเผชิญหน้ากับบิ๊กฟุตด้วย
ในปี 1976 เวอจิล ลาร์สสัน กำลังนั่งสูบบุหรี่ในป่าสน บริเวณเนินเขาแชตะอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็พบร่างสูงใหญ่อยู่ในหลังพุ่มไม้ ตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะเป็นคน จึวเรียกร้องเสียงตะโกนเรียกถาม แต่ทันใดนั้นร่างก็โผล่ออกจากพุ่งไม้และพวกเขาก็พบว่าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ประมาณ 7 ฟุต ปกคลุมด้วยขนสีเข้มทั้งตัว มันยืนมองเขาไปชั่วครู่ จนเขาตัวเข็ม ก่อนที่เจ้าสัตว์นั้นจะหันและหายเข้าไปในป่า เมื่อลาร์สสันตั้งสติได้เขาจะวิ่งตนงกันข้ามและบอกกับเพื่อนในสิ่งที่เขาเห็น และเมื่อนำกำลังไปตรวจสถานที่พบมันก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่เลย มันหายไป แต่ก็ยังเหลือกลิ่นเหม็นอยู่บนพื้นที่บริเวณที่พบมันครั้งสุดท้าย
ด้วยความตกใจทำให้ลาร์สสันจำลักษณะสิ่งมีชีวิตที่เขาพบไม่ได้นัก แต่จำได้ว่าเหมือนสัตว์ป่าประเภทหมี ซึ่งเขาไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาพบในวันนั้นคือบิ๊กฟุต แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือป่าทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียเป็นที่อยู่อาศัยของบิ๊กฟุตที่น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว
4. Bigfoot in Big Sky Country

ในช่วงฤดูร้อนของปี 2001 ในบี๊ก สกาย มอนทาน่า (เป็นอีกหนึ่งในสถานที่บิ๊กฟุตมักปรากฏตัว) มีข่าวลือไปทั่วว่าเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์คนหนึ่งได้ยิงและฆ่าบิ๊กฟุตได้ หลังจากเจ้ามนุษย์ลิงตัวนี้ชอบมาจับและทำอันตรายกับสัตว์เลี้ยงของเขา ซึ่งข่าวลือยังมีรายละเอียดอีกว่าไม่กี่นาทีข้างหน้าก็มีเจ้าที่ของรัฐและเอฟบีไอเอาเจ้าบิ๊กฟุตออกมาและไปยังสถานที่ไม่เปิดเผย โดยเชื่อว่าเอาบิ๊กฟุตไปวิจัย ต่อมาเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ก็ตอบว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทำให้ข่าวลือแพร่กระจายว่าเขาคงถูกทางภาครัฐปกปิด
3.The Big Bigfoot Joke

ในเดือนสิงหาคม 2008 ที่เมือง พาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย มีสองหนุ่มอเมริกัน แมตต์ วิตตัน และริก ดายเออร์ ได้ประกาศว่าพวกเขาได้พบศพของ บิ๊ก ฟุต หรือคุณตีนโต ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน ที่มีขนาดใหญ่ มีขนรูปร่างหน้าตาคล้ายลิง ในป่าทางเหนือของรัฐจอร์เจียเมื่อเดือนมิถุนายน จากการวัดขนาดคร่าวๆ ศพเจ้าบิ๊กฟุตตัวนี้มีความสูง 7 ฟุต 7 นิ้ว หรือราว ๆ 230 เซนติเมตร หนักประมาณ 500 ปอนด์ เพศผู้ มีผมสีแดง ตาสีเทาเข้มมีมือและเท้าคล้ายมนุษย์ และนำศพนี้แช่แข็งในสถานที่ไม่เปิดเผยในเมืองแอตแลนต้า
ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายราวกับไฟลามทุ่ง สื่อต่างประเทศโคมข่าวว่ามีการตรวจดีเอ็นเอโดยนายเคิร์ต เนลสัน นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยมิเนโซต้ามายืนยันด้วยว่า เป็นบิ๊กฟุตจริง ๆ ทำให้เริ่มเชื่อว่ามีบิ๊กฟุตอยู่จริงๆ
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็มีการแถลงข่าวจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจากทั่วทั้งประเทศที่ออกมาบอกพร้อมเพียงว่านั้นเป็นของปลอม ซึ่งต่อมาสองหนุ่มก็สารภาพว่าว่าเป็นเรื่องโกหก โดยบอกศพบิ๊กฟุตที่เห็นก็แค่เครื่องแต่งกายในวันฮาโลวีนที่ซื้อในอินเทอร์เน็ต และเมื่อเมื่อถามว่าทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนั้น ทั้งสองก็ตอบว่ามันเพียงเป็นแค่ “โจ๊ก”
2.The Bauman story

เรื่องราวของบาวแมนมาจากทีโอดอร์ รูสเวล เมื่อปี 1892 ในหนังสือ “The Wilderness Hunter” ที่ได้บรรยายการเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์ลิงบิ๊กฟุตกับหนุ่มคนหนึ่งชื่อบาวแมนและหุ้นส่วนของเขา ขณะกำลังล่าสุดในภูเขา Bitterroot ในมอนทาน่าในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 หลังจากที่สร้างค่ายเพิงหมาแหงนและติดตั้งกับดักของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ดักรอยิงสัตว์ที่ผ่านมาจนถึงเวลากลงคืน
อ้างอิงจากหนังสือ ในคืนนั้นบาวแมนถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงพึงพำและกลินเหม็นของสัตว์ป่า ทันที่เขาลุกขึ้นและยิงไปที่ต้นเสียงนั้น เขาก็ได้ยินเสียงการฉีกพุ่มไม้ที่กำลังมุ่งหน้าไปทางพวกเขา ทำให้เขาและหุ้นส่วนตกใจและตัดสินใจทิ้งค่ายไปยังที่ปลอดภัยมนช่วงแสงแรกของอรุณรุ่ง
ตอนเช้าทั้งสองแยกกันเพื่อเก็บกับดัก ในขณะที่หุ้นส่วนของเขาเดินไปตามน้ำนั้นเขาก็หายไปเลย บาวแมนจึงสงสัยเลยออกไปตามหา ก็พบว่าหุ้นส่วนนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นดินที่คอของเขามีรอยกัดของสัตว์ป่า ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของสัตว์ร้ายเมื่อคืนนั้นเอง
1. The Patterson-Gimlin film

อันดับหนึ่งในการเผชิญหน้ากับบิ๊กฟุตที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน นั่นคือฟิล์มแพตเตอร์สัน-กัมสัน ซึ่งเป็นภาพยนตร์สั้นถ่ายด้วยฟิล์ม 16 ม.ม. ถ่ายใน 20 ตุลาคม 1967 ซึ่งวันนั้นโรเจอร์ แพตเตอร์สัน และบ๊อบ กิมสันได้เดินทางไปบ่าที่บลัฟฟ์ครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย และได้เห็นฟุต (เชื่อว่าเป็นตัวเมีย) กำลังเดินก้าวยาวๆ ในที่โล่งแห่งหนึ่ง ความสูงของมันราว 25 ฟุต (7.6 เมตร) และน้ำหนักเฉียด 130 กก. ตอนแรกพวกเขากำลังคิดจะยิงมัน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ พวกเขาลงจากหลังม้าและหันมาจับกล้องด้วยวีดีโอแทน แพตเตอร์สันถ่ายภาพจากระยะห่าง 120 ฟุต (37- 40 เมตร) เป็นความยาวฟิล์มนานถึง 53 วินาที ก่อนที่มันจะหายเข้าไปในป่า ซึ่งเมื่อนำออกมาฉายเปิดเผย ก็สร้างความตื่นตะลึงให้ชาวโลกโดยทั่วกัน
และเมื่อมีการนำวีดีโอนี้มาให้นักวิทยาศสตร์ดู ส่วนมากหลายคนให้ความเห็นว่าเป็นของปลอม แต่พวกชุมนุมบิ๊กฟุตก็ออกมาเถียงว่ามันเป็นของจริงเนื่องจากการท่าทางการเดินของมันไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด อีกทั้งทรวงอกของมันใหญ่เกินกว่าจะเป็นของมนุษย์ แสดงให้เห็นว่าไม่มีมนุษย์ที่มีรูปร่างขนาดนั้นในโลกใบนี้ การกล่าวอ้างนั้นถูกตรวจสอบโดยนักมนุษย์วิทยาสองคนคือเดวิด เดกลิง และแดเนียล ชมิดท์(1999) ที่ต่อมาลงความเห็นว่า ความจริงแล้วขนาดทรวงอกนั้นมันไม่ผิดปกติสำหรับมนุษย์เลย ส่วนท่าเดินนั้นมนุษย์ทั่วไปก็เลียนแบบได้
ภาพยนตร์เหล่านี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงวิเคราะห์หลายครั้งหลายครามานานถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือเรื่องหลอกลวง แพตเตอร์สันได้เสียชีวิตใน ค.ศ.1972 ด้วยโรคมะเร็ง เขาสาบานว่าภาพที่เขาถ่ายในวีดีโอนี้เป็นของจริงเขาได้พบและถ่ายวีดีโอบิ๊กฟุต ส่วนเพื่ออีกคนของแพตเตอร์สันได้หลีกเลี่ยงการตอบคำถามการพูดถึงวีดีโอชุดนี้มาตลอดก่อนที่จะสารภาพว่าวีดีโอนี้เป็นของปลอมเมื่อปี 2000 ในที่ประชุมบิ๊กฟุตนานาชาติ ว่าเป็นเพียงคนใส่สูทเท่านั้น แต่ปัญหาก็ตามมาอีกนั้นก็คือคนใส่สูทบิ๊กฟุตในภาพนี้คือใครกัน (มีคนอ้างมาเพียบ) จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบจาก บ๊อบ กิมสัน
อ้างอิง
http://animal.discovery.com/tv/lost-tapes/bigfoot/stories/jacko-ape-man.html
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
|
PS. ลัทธิแห่งโลกใหม่ ไร้ถูกและผิด...