ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรอยเรื่องลึกลับ

    ลำดับตอนที่ #37 : คนโบราณมีโอกาสเห็นไดโนเสาร์จริงหรือ ? (ตอนที่3 จบ)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.25K
      5
      9 ส.ค. 51


     

    ตามที่เราทราบกันดีครับ ว่ามนุษย์เดินดินสองขาโฮโมเซเปียนกำเนิด อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ จนกระทั่งวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ได้ นี่ก็ประมาณ 5 หมื่นปีมาแล้ว ในขณะที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ไปแล้วประมาณ 65  ล้านปี คนละยุคสมัยกันเลยทีเดียวเชียว  อันนี้เป็นความรู้พื้นฐานครับ ที่ทราบกันมานาน แต่ปัจจุบันนี้ได้ มีหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ว่าเมื่อครั้งหนึ่ง มนุษย์กับไดโนเสาร์เคยอยู่ร่วมโลกกันมาก่อน.......แถมไม่ใช่ล้านกว่าปีมาแล้วนะครับ แต่เป็นระยะเวลาไม่กี่พันปีมานี้เอง....ไดโนเสาร์ยังหลงเหลือรอดมาจนถึงยุคนี้หรืออย่างไร ไม่ได้สูญพันธุ์ไปนานแล้วหรือ ?

    จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายต่อหลายชิ้นที่ได้ค้นพบกันในยุคหลังๆนี้ บ่งบอกให้ความจริงอันน่าพิศวงให้เราทราบกันครับว่าเมื่อไม่กี่พันปีมานี้ บรรพบุรุษของเราเคยใช้ชีวิตร่วมยุคกับไดโนเสาร์มาแล้ว ตัวอย่างหลักฐานพวกนี้ก็ เช่น รอยเท้ามนุษย์ที่เดินตามรอยฝูงไดโนเสาร์ ภาพวาดบนผนัง รูปไดโนเสาร์บนก้อนหิน และตามถ้ำต่างๆ รวมไปถึงรูปสลักที่เป็นลักษณะของสัตว์ที่คล้ายกับไดโนเสาร์ เป็นต้น  ซึ่งบางทีไดโนเสาร์อาจจะรอดจากยุคของการสูญพันธุ์เมื่อ  65  ล้านปีก่อนมาได้ เพียงบางส่วน และ อยู่ต่อมาจนถึงยุคมนุษย์เข้าครองโลกแทนและอาจจะสูญพันธุ์ไปจริงๆ เมื่อไม่กี่พันปีที่ผ่านมานี้ก็เป็นได้ครับ ทำให้ปรากฏหลักฐานของรูปลักษณ์ของสัตว์บางชนิดที่ดูไม่ค่อยเหมือนสัตว์ในยุคหลังๆ นี่เอาเสียเลย ……………………

    ​​

    ตัวอะไรนี้?


                    ภาพวาดที่พบ
    ในรัฐยูท่าห์ของอเมริกา ซึ่งเป็นสมบัติของชาวอินเดียนแดงที่อาศัยอยู่ที่นั่น ในช่วงศตวรรษที่ 14-15 ในภาพจะเห็นว่ามีสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งดูแล้วไม่เหมือนลักษณะของสัตว์ในยุคปัจจุบันนี้ น่าจะคล้ายกับบรอนโตซอรัสมากกว่า แล้วทำไมมันไปปรากฏอยู่ในรูปวาดของชนเผ่าอินเดียนแดงนี้ได้ ถ้ามันสูญพันธุ์ไปเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว ??

     

    รูปสลัก


                    ส่วน
    อันนี้เป็นรูปสลักของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ดูแล้วชวนให้คล้ายไดโนเสาร์คอยาวเข้าไปอีก ค้นพบเมื่อ .. 1924  ที่ Pazyryk valley โดย อายุของรูปสลักนี้เก่าแก่ประมาณ  2500  ปีได้ ถ้าดูตรงช่วงหัวและแนวสันหลัง จะเห็นว่ารูปสลักของสัตว์ตัวนี้ประกอบไปด้วยหงอนกับแผงคอ ซึ่งภายหลังนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะระบุว่า ไดโนเสาร์บางชนิดก็มีแผงคอและหงอนแบบนี้ เช่นกัน ถ้าเช่นนั้น รูปสลักที่เหมือนไดโนเสาร์มีแผงคอและหงอนแบบนี้ มันสื่อถึงอะไรกัน ล่ะครับนั่น ??

     

    อินโดนีเซียก็มี!!


                    สำ
    หรับรูปนี้เป็นภาพวาดพบที่เกาะกะลิมันตัน ที่ประเทศอินโดนีเซียนี่เอง ในรูปนี่เห็นชัดเลยครับ ว่ามีคนและสัตว์ชนิดหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังไล่ล่ากันอยู่ ที่สำคัญเจ้าตัวนั้นมันมีขนาดใหญ่กว่าคนเสียอีกแน่ะครับถ้าดูแล้วจะบอกว่าไดโนเสาร์ ก็คงจะไม่เกินไปใช่มั๊ยครับ และถ้าดูให้ดีตรงช่วงบริเวณส่วนหัวของเจ้าตัวนั่นจะเห็นว่าเหมือนมีตุ่มก้อนโตอยู่บนหัว จากการวิเคราะห์และความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ตรวจสอบ กล่าวไว้ว่ามันอาจจะเป็นไดโนเสาร์พันธุ์ Corythosaurus  ก็เป็นได้ครับ

     

    รอยเท้าไดโนเสาร์


                     เท้า
    ไดโนเสาร์ที่พบแถบแม่น้ำพาลัคซี่(Paluxy) ของรัฐเท็กซัสและที่นี่เองก็ได้พบเจอรอยเท้าของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสองเท้าอยู่ด้วย เช่นกันครับ โดยจากการสำรวจของแสตนเทย์เลอร์(Stan Taylor) ที่ได้ทำงานวิจัยและสำรวจมาตั้งแต่ปี ..1969 แน่ะครับ   บริเวณนี้แตนได้พบรอยเท้าของไดโนเสาร์กว่า 14  รอย ทั้ง หมดเป็นรอยไดโนเสาร์สามนิ้ว แต่ทว่าแสตนได้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจมากกว่ารอยไดโนเสาร์อีกครับ สิ่งนั้นก็คือรอยเท้ามนุษย์ครับ!!

     

    บทสรุปคนโบราณมีโอกาสเห็นไดโนเสาร์หรือเปล่า?

     

    หัวข้อเกี่ยวกับไดโนเสาร์ในพระคัมภีร์ไบเบิลก็ยังเป็นรถกเถียงกันตลอดมาในแวดวงคริสเตียนเกี่ยวกับ ยุคต่าง ๆ ของโลก แต่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าพระคัมภีร์ไม่ได้ เอ่ยถึงไดโนเสาร์ เพราะตามความเห็นของเขา ไดโนเสาร์ได้สูญพันธ์ไปแล้วเป็นล้าน ๆ ปีก่อนที่มนุษย์คนแรกจะถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ดังนั้นผู้ที่บันทึกพระคัมภีร์จึงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นไดโนเสาร์เป็น ๆ แน่นอน

    ส่วนผู้ที่เชื่อก็เชื่อว่าพระคัมภีร์ได้มี บันทึกเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้แม้ว่าจะไม่ได้ใช้คำว่า ไดโนเสาร์ก็ตาม โดยพระคัมภีร์ใช้คำว่า tanniyn ซึ่งเป็นภาษาฮีบรู หมายถึง สัตว์ประหลาดในท้องทะเลบางครั้งใช้คำว่า งูดึกดำบรรพ์แต่คำแปลที่เป็นที่นิยม คือ มังกรโดยพระคัมภีร์ยังบรรยายเกี่ยวกับมันสองสามตัว ซึ่งเมื่อดูจากคำบรรยายลักษณะของมันแล้วผู้ทรงคุณวุฒิเชื่อว่าผู้บันทึกคงจะบรรยายถึงไดโนเสาร์ ซึ่งมันก็คือ เบเฮโมท เป็นสัตว์ที่ทรงพลังมากที่สุดในบรรดาสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง เป็นสัตว์ยักษ์ที่มีหางเหมือนไม้สนสีดาร์ (โยบ 40:15)ซึ่งผู้เชียวชาญบอกว่ามันน่าจะเป็นไดโนเสาร์ประเภทแบรคซีโอซอรัส และ ไดโพลโดคัส ซึ่งมีหางใหญ่ซึ่งอาจนำมาเปรียบเทียบได้กับไม้สนสีดาร์

    อารยธรรมโบราณเกือบทุกอารยธรรมจะต้องมีภาพวาดเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ ปรากฏอยู่ ภาพวาดหรือแกะสลักบนหิน, สิ่งของเครื่องใช้ หรือแม้แต่เครื่องปั้นดินเผา ที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ ดูคล้ายคลึงกับภาพเหมือนไดโนเสาร์ในปัจจุบัน มีภาพแกะสลักบนหินที่ทวีปอเมริกาใต้ภาพหนึ่งเป็นภาพของผู้ชายขี่สัตว์ที่ดูคล้ายกับไดโนเสาร์พันธ์ไดโพลโดคัส และที่น่าอัศจรรย์คือ ภาพอื่น ๆ ดูเหมือนเป็นภาพของสัตว์ที่คล้ายกับทรีเซอราทอป, เทอโรแดคทริล และ ไทแรนโนซอรัส เร็คส์ ภาพลงหินลวดลายโมเซอิคของชาวโรมัน, เครื่องปั้นดินเผาของชนเผ่ามายัน, และกำแพงเมืองบาบิโลน ล้วนแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในสัตว์เหล่านี้ของมนุษย์ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในวัฒนธรรมไหน, ภูมิภาคไหนในโลกก็ตาม ในหนังสือชื่อ Il Milione ที่มาร์โค โปโลเขียนเกี่ยวกับการเดินทางของเขา เขาได้ผสมเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับสัตว์เฝ้าสมบัติเข้าไปด้วย ในปัจจุบันรายงานเกี่ยวกับสัตว์เหล่านี้ยังมีอยู่แม้ว่ามันจะถูกมองด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก(รายละเอียดพบได้ในตอน กรีฟฟิน)

    นอกจากหลักฐานมากมายทางด้านมานุษย์วิทยาและประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่ามีไดโนเสาร์อยู่ร่วมกับมนุษย์มาแล้ว ยังมีหลักฐานทางกายภาพอื่น ๆ อีกด้วย เช่นได้มีการค้นพบฟอสซิลของรอยเท้าของมนุษย์และไดโนเสาร์อยู่ด้วยกันในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอาเซียตะวันตกและกลาง

    แล้วมีคนโบราณมีโอกาสเห็นไดโนเสาร์หรือไม่? คำตอบก็คือมันยังไม่แน่นอนครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านตีความหมายของหลักฐานที่มีอยู่อย่างไร และมีมุมมองต่อโลกรอบ ๆ ตัวอย่างไร ไม่ก็รอเวลาซึ่งต้องมีสักวันครับที่ความจริงเหล่านั้นจะเปิดเผย

     

    http://www.pantown.com/board.php?id=15921&name=board7&area=1+ +

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×