คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #168 : (เรื่องจริง โหด มัน ฮ่า) เมื่อสัตว์ทำผิดกฎหมายของคน!! ตอนที่ 1 ประหารชีวิตช้าง
เมื่อสัตว์ทำผิดกฎหมายของคน!!
เรื่องพิลึกพิลั่นนี้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์จนได้ เมื่อกฎหมายของมนุษย์สร้างขึ้นมานั้นไม่เว้นยืนมือที่จะเอาผิดกับสัตว์ โดยไม่สนหรอกนะว่าสัตว์นั้นจะพูดได้หรือไม่ได้ ถ้าหากมันไปก้าวก่ายประเพณี กฎหมายของคน ต้องมีความผิดตามกฎหมาย
ไม่เว้นแม้แต่ แมว หมา ไก่ มด สัตว์ทุกชนิดโดนหมด
แต่หาเราดูในประวัติศาสตร์ที่จารึกของมนุษย์ชาติแล้วล่ะก็กรณีที่โด่งดังที่สุดในเรื่องที่มนุษย์ตัดสินให้สัตว์มีความผิดตามกฎหมายเห็นได้ว่ากรณีของช้างชื่อแมรี่ ถือได้ว่าโด่งดังที่สุดครับ
รู้หรือไหมว่าโลกของเราเคยตัดสินประหารชีวิตช้างที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรงมาแล้ว
แมรี่ เป็นช้างตัวแรกที่ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
แมรี่ เป็ช้างที่ถือว่าแก่มากแล้วอายุ 30 ปี หนัก 5 ตัน เป็นช้างพังประจำคณะละครสัตว์สปาร์ค ที่ตะเวณแสดงตามที่ต่างๆ มานาน 15 ปี แล้ว แต่เบื้องหลังพี่เลี้ยงช้างรู้ดีว่าแมรี่เป็นช้างที่ค่อนข้างมีนิสัยเลว อารมณ์ร้าย แต่จำเป็นต้องเลี้ยงเพราะเป็นตัวชูโรงเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คน
แล้วเรื่องมันก็เกิด
บ่ายวันอังคารที่ 12 ก.ย.1916 หลังการแสดง นายวอลเทอร์ เอลดริดจ์ ซึ่งเพิ่มมาทำงานที่คณะละครสัตว์ได้เพียง 2 วัน พาแมรี่ไปอาบน้ำ หลังอาบน้ำเสร็จก็พามันเดินกลับ ระหว่างทางมีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ว่าแมรี่เห็น แตงโมครึ่งลูกข้างถนน จึงเดินเข้าไปใช้งวงเก็บกินแต่โดนนายวอลเทอร์ใช้ตะขอเกี่ยวไม่ให้แมรี่เก็บแตงโมกิน แมรี่โมโหจึงใช้งวงคว้าเอววอลเทอร์จับฟาดกับซีเมนต์อ่างน้ำก่อนที่จะปล่อยลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำจนหัวเละมันสมองและเลือดกระจายเกลื่อนถนน
แม้แมรี่จะเป็นดาราของคณะละครสัตว์แต่ชื่อเสียงที่ไม่สู้ดีว่าเป็นช้างเกเรมานานแล้ว ทำให้ชาวบ้านเรียกร้องให้จัดการสำเร็จโทษแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยใช้วิธีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในที่เกิดเหตุ
"ฆ่ามัน ฆ่ามัน"
แต่การยิงเป้าเพื่อปลิดชีวิตช้างไม่ใช้เรื่องง่ายนักเพราะสมัยนั้นไม่มีปืนที่อนุภาพร้ายแรงพอที่จะทะลวงผิวหนังที่หยาบหนาของช้างได้
"ในประเทศนี้ไม่มีปืนใหญ่พอที่จะล้มช้างได้"เจ้าของคณะละครสัตว์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจอให้ลองยิงดู การประหารชีวิตเริ่มต้น ณ ที่เกิดเหตุ มือประหารใช้ปืนสมัยนั้นยิงแมรี่ไป 5 นัด แต่ก็ล้มมันไม่ได้ เพราะกระสุนพุ่งข้าไปฝังผิวหนังเล็กน้อย แมรี่จึงมีโอกาสต่อชีวิต ได้แสดงละครสัตว์ต่อไป โดยทุกคนหวังเห็นมันกลับเนื้อกลับตัวเป็นช้างนิสัยดี
วันต่อมาละครสัตว์ย้ายวิกจากคิงสปอต์ไปเปิดการแสดงที่จอห์นซิตี้คราวนี้แมรี่แสดงความเป็นอันธพาลอีก โดยวิ่งไล่ผู้จัดการคณะละครสัตว์ถึงขั้นใช้งวงจับเสื้อเขา แค่โชคดีที่ผู้จัดการถอดเสื้อให้มันจึงรอดมาได้
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเปิดประชุมโต๊ะกลมแล้วมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ "พอกันที" แม้มันจะมีค่าตัวถึง 2 หมื่นเหรียญ (สมัยนั้นแพงมาก)
จากนั้นจึงได้ประชุมปรึกษาว่าควรประหารชีวิตด้วยวิธีใด ในเมื่อใช้ปืนไม่ได้ผล
ในที่สุดผลการประชุมก็ออกความเห็นว่า "ควรใช้วิธีแขวนคอโดยใช้รถเครน"
วันที่ 13 กันยายน นั่นเอง ทางคณะละครสัตว์เปิดโอกาสให้แมรี่แสดงเป็นตรั้งสุดท้าย จากนั้นชาวบ้านจึงพามันไปยังบริเวณใกล้สถานีรถไฟ โดยมีรถเครนยักษ์หนักกว่า 100 ตัน คอยอยู่
พร้อมกับฝรั่งมุงเป็นจำนวนมาก ที่ไปเป็นประจักษ์พยานการประหารชีวิตสัตว์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ผู้ทำการควบคุมรถเครนมีหลายคน หนึ่งในนั้นคือ มอนตี้ ลิลี่ อายุ 16 ปี(ปัจจุบันอายุ 81 ) เล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า
"เราเอาโซ่ขนาดใหญ่พันที่รอบคอแมรี่ แล้วใช้เครนยกขึ้น แต่พอเท้าพ้นจากพื้นราว 6 ฟุต โซ่เกิดขาด มันตกลงมาทำท่า งง แต่ไม่มีปฏิกิริยาอื่นๆ คงไม่รู้ว่ามันกำลังเจออะไร เราจึงเอาโซ่ขนาดใหญ่กว่าเดิม ยกขึ้นใหม่ คราวนี้มันได้ผล มันลอยสูง โซ่รัดคอแน่นจนมันขาดใจตายอย่างรวดเร็ว"
แมรี่ถูกฝังในหลุมตรงแดนประหารนั้นเอง
แมรี่น่าจะไม่ใช้สัตว์ตัวแรกที่ถูกประหารชีวิตด้วยกฎหมายของคน จากประวัติศาสตร์เก่าแก่พบว่า พลาโต นักปรัชญาชาวกรีก เคยพูดว่า สัตว์ใดก็ตามที่ทำผิดฐานฆ่าคนควรลงโทษให้ตายตาม โดยการประหารแล้วเอาศพมันไปทิ้งนอกประเทศ โดยใช้ญาติผู้ตายเป็นคนประหารมัน!!
ตอนหน้าคนเขียนจะยกคดีแปลกๆ ที่สัตว์ทำผิดกฎหมายให้อ่านครับ บางคดีมีทนายแก้ต่างให้มันด้วย!
http://lemonodor.com/archives/001078.html
+
+
ความคิดเห็น