ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #517 : (รีวิวอนิเมะอย่างแมวๆ) Winter 2019 ไม่ได้ร้อนแรงอย่างที่หสังเอาไว้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      31
      29 ม.ค. 62

    ก็อยู่กับการรีวิวแมวๆ อนิเมะปีใหม่ 2019 ฤดูหนาว (ซึ่งบ้านเราไม่หนาวเลย) ฏ็เป็นซีวั่นที่มีอนิเมะน่าสนใจเยอะพอสมควร  แต่แนวฮาเร็มซีซั่นนี้ ไม่รู้สิ ไม่อยากดูสักเท่าไหร่ แฝดห้านี้ผมไม่กล้าอวยมากกลัวจบวิน,  เดทสาวกู้โลก ซีซั่น 3 ก็เลิกตามนานแล้ว ส่วนผู้กล้าโล่ก็ไม่ใช่แนวฮาเร็มจ๋าขนาดนั้น (ไม่อวยหรอก)  ส่วน Domestic na Kanojo หลายคนแทบส่ายหน้าเพราะดราม่าอะไรหนักหนา 

                    ดังนั้นขอรีวิวอนิเมะสัก 8-10 เรื่องละกันเรื่องไหนปังในตอนแรกๆ บ้าง โดยรายชื่ออนิเมะมีดังต่อไปนี้

                    Mob Psycho 100 IIม็อบพลังจิต 100 ซีซั่น 2

                    Tate no Yuusha no Nariagariผู้กล้าโล่ผงาด (ที่ผมไม่สนใจเลย)

                    Yakusoku no Neverland- การ์ตูนจัมป์

                    Kakegurui××-โรงเรียนพนันซีซั่น 2 ไม่อยากดูอะ

                    Dororo-โดโรโระน่ารัก

                    Kaguya-sama wa Kokurasetai: Tensai-tachi no Renai Zunousen

    Date A Live -เดทสาวกู้โลก

    Boogiepop wa Warawanai (2019)-

    Domestic na Kanojo-ดราม่า

    Gotoubun no Hanayome-เจ้าสาวแฝดห้า

    Manaria Friends

    3D Kanojo: Real Girl 2nd Season

    Doukyonin wa Hiza, Tokidoki, Atama no Ue.

    Ueno-san wa Bukiyou-ยัยหนูอัจฉริยะ

    Watashi ni Tenshi ga Maiorita!

    Mahou Shoujo Tokushusen Asuka

    Grimms Notes The Animation

    Endro~!

    Girly Air Force

    Egao no Daika

    Fukigen na Mononokean Tsuzuki

    Kouya no Kotobuki Hikoutai

    W'z

    Piano no Mori (TV) 2nd Season

    BanG Dream! 2nd Season

    Pastel Memories

    Meiji Tokyo Renka

    Kemurikusa (TV)

    Kemono Friends 2 (โครตน่าสงสารตรงโดนกดคะแนน)

                    Circlet Princess

    Dimension High School

    Rinshi!! Ekoda-chan

    B-Project: Zecchou*Emotion

    Bermuda Triangle: Colorful Pastrale

    Ame-iro Cocoa: Side G

    Mini Toji

    StarTwinkle Precure

    Hulaing Babies

    Mannaka no Rikkun@Kin Tele

    Kyou mo Tsuno ga Aru


    Dororo (2019)


    ในปี 2019 มีการรีเมคเรื่อง Dororo (ดาบล่าพญามาร โดโรโระ) ผลงานเก่าของ เทซึกะ โอซามุ ผลิตโดย MAPPA ร่วมกับ Tezuka Productions

    เนื้อเรื่องการ์ตูนได้กล่าวถึง  ในญี่ปุ่นยุคเซ็นโกคุหรือในยุคสงครามระหว่างแคว้น มีชายคนหนึ่งเป็นซามุไรครองแคว้นชื่อ คาเงะมิตสึ ไดโกะ ได้ทำข้อตกลงกับเหล่าปีศาจทั้ง 12 ตน (ต้นฉบับเดิมมี 48 ตัว) โดยมีเงื่อนไขให้ตนชนะสงครามและเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และไม่พ่ายแพ้แก่ผู้ใดไม่ว่าจะเป็นการรบที่ไหนก็ตาม  ซึ่งเขาได้แลกเปลี่ยนสัญญากับปีศาจ โดยใช้ 12 อวัยวะ (จากเดิม 48 อวัยวะ) สำคัญของร่างกายของลูกชายที่ยังมิได้ถือกำเนิดของเขาคนนี้ไว้เป็นสิ่งค้ำประกันกับพวกปีศาจ

    ต่อมาลูกของไดโกะได้ถือกำเนิดขึ้น โดยไร้อวัยวะสำคัญของร่างกายทั้ง 12 จนดูเหมือนตัวหนอน แต่สามารถร้องได้ไดโกะจึงนำเด็กน้อยใส่ตะกร้าแล้วปล่อยลอยไปตามน้ำ

    แต่เป็นโชคดีของเด็กน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ (นักประดิษฐ์ชิ้นส่วนเทียมของมนุษย์) ผู้มีนามว่า จูไค และตั้งชื่อเด็กว่า เฮียกกุมารุ และนำชิ้นส่วนของเทียมใส่ตัวเด็กน้อยเพื่อดำเนินชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป และติดเป็นแขนให้กับเฮียกกุมารุ พร้อมกับสอนเพลงดาบให้

    เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เฮียกกุมารุ ได้ออกเดินทางเพื่อกำจัด ปีศาจทั้ง 12 ตน เพื่อนำเอาร่างกายของเขากลับคืนมา หลังจากเดินทางได้ไม่นานเขาก็ได้เพื่อนร่วมทางเป็นเด็กน้อยผู้มีความสามารถเกินนั่นคือ โดโรโระ ทั้งสองเดินทางไปทั่วอาณาจักรญี่ปุ่นเพื่อปราบปีศาจ

    ตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อนิเมะกำลังฉายไปสองตอน โดยรวมๆ แล้วยังอยู่ในระดับน่าพอใจ เพราะอย่างน้อยอนิเมะยังทำอะไรให้น่าสนกว่าต้นฉบับตรงที่เปลี่ยนรายละเอียดเรื่องราวบ้าง เป็นต้นว่าเหล่าปีศาจที่ชิงร่างกายเฮียกกุมารุ จาก 48 ตน เหลือเพียง 12 ตน และเนื้อเรื่องเริ่มต้นที่เฮียกกุมารุยังไม่ได้ฆ่าปีศาจเลยสักตัว (ในมังงะต้นฉบับก่อนหน้าที่เฮียกกุมารุตอนโตปรากฏตัวก็ฆ่าพวกปีศาจมาบ้างแล้ว)

    ทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ เฮียกกุมารุในอนิเมะตอนแรก แทบทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนคนพิการเกือบสมบูรณ์ ไม่พูด ไม่จบ ไม่ส่งกระแสจิต เหมือนในต้นฉบับ นอกจากเดิน แล้วต่อสู้ ทำให้เราได้เห็นเฮียกุมารุแทบทำอะไรอย่างอื่นนอกจากนั้นไม่ได้เลย ทำให้เราได้เห็นโมเมนต์โดโรโระช่วยเหลือเฮียกกุมารุหลายฉาก ซึ่งต้นฉบับไม่มีมากนัก เพราะส่วนมากเฮียกกุมารุมักต้องเป็นฝ่ายช่วยโดโรโระไม่ให้เกิดอันตรายมากกว่า

    พูดถึงเฮียกกุมารุภาค 2019 นี้ก็แตกต่างจากต้นฉบับ  ความจริงต้นฉบับเองก็มองไม่ออกสักเท่าไหร่ ว่าเฮียกกุมารุมีคาแร็คเตอร์ภายนอกเป็นหนุ่มบอบบางหรือไม่ แต่ในอนิเมะปี 1969 เราจะเห็นเฮียกุมารุที่ดูเป็นผู้ใหญ่ อารมณ์แบบพระเอกซามูไรจ๋า แต่เฮียกกุมารุ 2019 ดูเป็นหนุ่มบอบบาง เพียงลม มากกว่าทำให้ได้ความรู้สึกน่าใจไปอีกแบบ (เอาง่ายๆ น่ารักดี)

                    แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวอนิเมะได้เลือกที่จะใช้ลายเส้นบรรยายกาศไม่ให้เหมือนต้นฉบับ ผิดจาก ไม่เหมือนอนิเมะช่วงปี ช่วงปี 1969- ที่ลายเส้น บรรยากาศ เหมือนต้นฉบับมากกว่า แต่เนื้อหายังสอดแทรกเหดร้ายของสงคราม และความหวาดกลัวของชาวบ้านที่นอกจากผจญพวกปีศาจแล้ว ยังต้องผจญสงครามอีกด้วย

    นอกจากนี้อนิเมะเรื่องนี้ผลิตโดย MAPPA ร่วมกับ Tezuka Productions ก็ไว้ใจได้ โดย  Tezuka Productions ก็เป็นสตูดิโอที่เน้นเอาผลงานโอซามุมาทำเป็นอนิเมะมาอย่างยาวนาน  ส่วน  MAPPA เองก็มีผลงานอนิเมะที่มีภาพงามๆ และได้รับความชมหลายเรื่อง ดังนั้นเรื่องงานภาพอนิเมะเรื่องนี้หายห่วง ทำออกมาได้เนียนตา ฉากต่อสู้เน้นความเร็วไปนิด แต่พอดูได้ (เพราะมันเป็นสไตล์ต่อสู้ของพระเอกอยู่แล้ว)

    ดังนั้นเรื่องโดโรโระจึงเป็นอนิเมะที่คาดหวังในซีซั่นนี้ เพราะโดยส่วนตัวนานๆ จะได้เห็นอนิเมะดัดแปลงของโฮซามุนอกจาก อะตอม, แบล็คแจ๊ค เสียที (ซึ่งทั้งสองเรื่องผมไม่ได้อวยมากนัก) 


    Ueno-san wa Bukiyou

                 

                 Ueno-san wa Bukiyou (How clumsy you are, Miss Ueno )    อนิเมะจากผลงานของ tugeneko (Kare to Karetto., Mahoroba Kissa)  เริ่มเขียนตั้งแต่ปี 2015  ซึ่งลายเส้นมีเอกลักษณ์ วาดสาวน่ารักมาก (ผมมีผลงานแบบพิมพ์สีทั้งเล่ม เรื่องสาวน้อยชุดว่ายน้ำโรงเรียนด้วยนะเอ่อ) และถือว่าเป็นหนึ่งมังงะขายดี

    เนื้อเรื่อง กล่าวถึงประธานชมรมวิทยาศาสตร์ อุ "อุเอโนะ" เด็กสาวประธานชมรมวิทยาศาสตร์ ที่พยายามจะสารภาพรักเจ้าหนุ่ม "ทานากะ" ในชมรมเดียวกัน แต่ด้วยวิธีอ้อมๆ แบบใช้วิทยาศาสตร์เข้าช่วย มันใช้ไม่ได้ผลกับหนุ่มหัวทึบเลยแม้แต่น้อย (แต่ถ้าดูจะรู้ว่าทำไมเจ้าหนุ่มคนนี้ถึงหัวทึบ) กลับทำให้เธอเป็นฝ่ายเสียหน้าเองทุกครั้งไป แต่เธอยังได้การสนับสนุนจากเพื่อนสนิท ยามาชิตะ เพื่อนสาวร่วมชมรมที่สนับสนุนไอเดียแปลกๆ ของเธอ

    เป็นการ์ตูนที่ลายเส้นน่ารัก และมุกค่อนข้างเน้นเรื่องเพศสูง  (ทำให้ได้คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่) นี่แหละคือนิยามของการ์ตูนเรื่องนี้ (แต่ไม่เท่ามากประธานเล่นมุกใต้สะดือ)  

    มาถึงตอนแรกนี้หลายคนแทบไม่เชื่อว่าการ์ตูนลายเส้นน่ารักนี้จะเล่นมุกโหดๆ คือยัยทวินเทลประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำขั้นเทพเปลี่ยนน้ำสกปรกเป็นน้ำสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ และเธอก็เอาปัสสาวะของเธอเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดและจะให้ทานากะดื่ม แต่ทานากะส่ายหัวท่าเดียว ไม่เอา ทวินเทลก็งอแง ทานากะก็ไม่ดื่ม ก่อนที่จะหนีออกไปจากชมรม  (ดูตอนนี้ก็รู้แล้วทำไมทานากะสมองทึบ)  เรียกว่าเริ่มต้นมาก็สกปรก หยาบคายเลยก็ว่าได้

    หนึ่งตอนมีสองตอนย่อย  เล่นมุกใส่กันนี้แหละ แต่ผมชอบตรงมุกมันดูสดใหม่ดี ตัวละครน่ารัก ทวินเทลน่ารัก มีเอกลักษณ์ แถมพระเอกมีน้องสาวน่ารักตั้งสองคนด้วยนะเอ่อ

     

    Boogiepop wa Warawanai (2019)


    เป็นอนิเมะจากไลท์โนเวลซีรีส์ Boogiepop (บุกี้ป๊อป) ผลงานของ Kadono Kouhei และวาดโดย Ogata Kouji เริ่มเขียนในปี 1998 จัดจำหน่ายโดย Dengeki Bunko (MediaWorks) โดยอนิเมะทำเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี  ซึ่งแต่เดิมเคยมีภาคทีวีอนิเมะ ผลิตโดย Madhouse ในปี 2000 จำนวน 12 ตอนจบ

    เนื้อเรื่องได้กล่าวถึงเด็กสาวที่เชื่อว่าเป็นยมทูต บูกี้ป๊อปได้ยมทูตที่สามารถปลดปล่อยคนออกจากความเจ็บปวด โดยเนื้อเรื่องเริ่มต้นจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อเคย์ได้พบบูกี้ป๊อปที่หน้าตาเหมือนแฟนของเขา  โดยบูกี้ป๊อปได้บอกว่าเธออาศัยร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อภารกิจอะไรสักอย่าง และเวลานั้นเองคดีปริศนาก็เริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ

    ความจริง ผมสนใจอนิเมะเรื่องนี้นะเพราะบูกี้ป๊อปน่ารักดี  และปกติก็ชอบแนวลึกลับอยู่แล้ว  แถมมีเรื่องคดีอะไรเข้ามาอีก แต่หลังจากที่ดูตอนแรก.....

    คือมันก็ดีนะ  เนื้อเรื่องน่าสนใจ เกี่ยวกับบูกี๊ป๊ปออาศัยในร่างคนอื่น, คดีปริศนา, ความซับซ้อนคดี   แต่ปัญหาสำหรับผมคือวิธีการเล่าเรื่องมากกว่า ที่ตัวอนิเมะเล่าเรื่องชวนน่าเบื่อ จนมันกลายเป็นแนวเฉพาะกลุ่มแบบไม่จำเป็น   เช่น ดำเนินเรื่องเนิ่บๆ  เหมือนย้ำอยู่กับที่   ช่วงแรกเน้นพูดคุย และยาวมาก  แถมคุยแต่เรื่องยากๆ จน แอบคิดในใจว่า (พวกเอ็งพวกเรื่องบ้าอะไรกัน)  อีกทั้งฉากก็ตัดไปตัดมาเยอะมาก ตัดมาอดีต มาปัจจุบัน ตัดไป ตัดมา จนเริ่มสับสน  มีการหยอดปริศนาก็ไม่ได้น่าสนใจให้ติดตามมากนัก (เอาง่ายๆ กั๊กเยอะมาก)  เข้าใจนะว่าตอนท้ายๆ  อารมณ์น่าติดตามอาจมา  แต่คนดูจะเลิกดูกลางคันแบบไม่สนใจเลยนี้สิ  

    นอกจากนี้  ตัวละครนอกจากบูกี้ป๊อก คนอื่นๆ ผมแทบไม่ชอบขี้หน้า (ไม่มีเหตุผล แค่ไม่ชอบหน้าเฉยๆ )  

    ไม่รู้ทำไม อนิเมะดำเนินเรื่องแบบปกติ สามัญไม่ได้เหรอ 

    ปล. ปกติเรื่องนี้ผมไม่เรื่องมากเรื่องซับไทย แปลถูก แปลผิด เขียนผิดนะ แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องเข้าใจประโยค การพูดคุยตัวละครสูงมาก (ถึงมาก) ถ้าแปลไม่ดีนี้ชวนหงุดหงิดทีเดียว ปกติเนื้อเรื่องก็ชวนใช้สมองลำดับเรื่องราวอยู่แล้ว ถือว่าเป็นอนิเมะที่ดียากที่สุดในซีซั่นนี้แล้วละ

     

    Endro~!


    เป็นอนิเมะออริจินอลของสตูดิโอ Gokumi (Tsuredure Children, Yuki Yuna is a Hero, Toji no Miko) ออกแบบตัวละครต้นแบบโดย Namori (Yuruyuri) ส่วนภาคอนิเมะจะดัดแปลงดีไซน์โดย Iizuka Haruko

    เนื้อเรื่องได้กล่าวถึงสี่สาวปาร์ตี้ผู้กล้าบน เกาะนารัล ทวีปที่ดาบและเวทย์มนต์ มนุษย์และอมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นเรื่องปกติ โดยประกอบด้วย "จูเลีย"ก็มีร่างกายเป็นผู้กล้า หนูเอลซ์"เซย์ล่า"ที่มีปัญหาไม่รู้จบเพราะเธอจริงจังเกินไป "ไฟย์" นักรบที่ร่าเริงและชอบกินเป็นที่สุด "เมย์" จอมเวทย์ผู้เป็นโอตาคุ

      ทั้งสี่คนได้เดินทางไปจอมมารที่ชั่วร้าย แต่จอมมารเก่งเกินไป ทำให้จูเลียใช้ท่าไม้ตายส่งจอมมารไปอยู่มิติอื่น  ปรากฏว่ามิติที่จอมมารไป คือเป็นอดีตหลายปีก่อนที่ก่อนสี่สาวปาร์จี้จะเดินทางไปปราบจอมมาร แถมจอมมารก็กลายเป็นโลลิ  (ตัวจริงเป็นตัวผู้) อีกต่างหาก ด้วยความแค้น (แต่สมองโลลิ) ดังนั้นจึงสมัครเป็นครูในโรงเรียนปาร์ตี้ผู้กล้าสี่สาว โดยเป็นครูที่ปรึกษาประจำห้อง โดยหาทางให้สี่สาวไม่เป็นนักผจญภัยไปปราบจอมมาร

    ตอนแรกก็แนวผู้กล้าXจอมมารเสียอีก แบบว่าเห็นจอมมารโดนดูดย้อนอดีตเป็นโลลิก็น่าสนใจแล้ว แต่ปรากฏว่าจอมมารเป็นแค่ทาผ่านเฉยๆ เนื้อเรื่องหลักอยู่ที่สี่สาวปาร์ตี้ผู้กล้าต่างหาก

    น่าเสียดาย น่าเสียดาย (แต่เดาว่าโมเม้นต์ของจอมมารอาจมาอยู่กับเจ้าหญิงมากกว่า)

    เนื้อเรื่องก็เป็นแฟนตาซีอารมณ์ RPG ผสมกับแนวโมเอะชีวิตประจำวันเข้าไป มุกตลกก็ไม่ได้ฮ่ามาก เน้นมุกทั่วไปใน RPG แฟนตาซีมากกว่า เช่นดันเจี้ยน, ดาบผู้กล้า, นิสัยตัวะละครที่ถอดแบบจากตัวละครที่พบเห็นในปาร์ตี้ผู้กล้าในเกมด้วย เช่นผู้กล้าต้องมองโลกแง่ดี, ดวงดี เอลฟ์ก็จะต้องเอาจริงเอาจังดูเป็นหัวหน้ากลุ่ม, นักรบก็จะบ้าๆ บอๆ ไม่คิดอะไรมาก, จอมเวทย์ก็ศึกษาหาความรู้เวทมนต์ (ซึ่งเวทมนต์ในเรื่องนี้มารูปแบบการ์ด) ซึ่งก็มุกเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นัก  ส่วนเรื่องรักๆ ไม่ได้เน้นเหมือน Yuruyuri)

    ที่ไม่ชอบอีกอย่างคือ การดีไซน์ตัวละคร   ไม่ค่อยดึงดูดเลย มันเหมือนชุดรุ่มร่ามมากกว่าเดิน จอมมารโลลิใครสอนให้ออกแบบการแต่งตัวแบบนั้น จอมมารโลลิที่ดีจะต้องชุดบิกินี่สิถึงจะดี

    เอาเป็นว่าดูเรื่อยๆ ตัวการ์ตูนเหมือนจะพยายามให้ปาร์ตี้สี่สาวเด่น แต่ผมว่าจอมมารโลลิขโมยซีน สมัยนี้จอมมารโลลิกำลังดังนะครับ

                 

      Mob Psycho 100 II


    หลังจากที่ภาคแรกทำออกมาดี ได้รับเสียงชื่นชม ได้รับความนิยม ก็ไม่แปลกจะมีภาคสอม็อบ  (แม้ต้นฉบับจะจบไปแล้วก็ตาม)               

    Mob Psycho 100 II   ผลิตโดยสตูดิโอ Bonesรื่องราวของ คาเงยาม่า ชิเงโอะหรือผู้คนทั่วไปต่างก็เรียกเขาว่า ม็อบเขามีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเพราะว่าเขามี พลังจิตสำหรับตอนแรกนี้ เรียกว่าเปลี่ยนอารมณ์ไม่ถูก จากฉากต่อสู้ผีห่วงที่ดิน กลางตอนก็เป็นแนวตลก มาท้ายเรื่องดราม่าโรแมนติก ปักธงสาวได้หนึ่งคนซะงั้น เรียกว่าเป็นอนิเมะที่มีหลายรสชาติจริงๆ

    ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าภาคนี้งานภาพดีขึ้น ทั้งฉากต่อสู้ ฉากโรแมนติก ทำได้ใจมากความจริง

    สำหรับภาคที่สองนี้  สิ่งที่ต้องรู้ต้องเตรียม ก็คือน่าจะเป็นภาคที่จะไม่เน้นตลกอะไรมากมายนัก เพราะเนื้อหาหลักจะเน้นดราม่าหนักๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ต้องเผชิญวิญญาณที่มีพลังจิตกล้าแกร่ง แกร่งจนทำให้ม็อบจิตตกไปเลย, อีเวนส์ม็อบเลิกเป็นลูกศิษย์อาจารย์จอมหาผลประโยชน์ และอีเวนส์สงครามพลังจิตที่น่าจะเป็นอีเวนส์ที่ดราม่าและพลังจิตตูดตามอลังการแน่นอนเรียกได้ว่ามามันกันต่อในภาคสอง สำหรับคนที่ติดตามภาคแรกแล้วชอบ


    Gotoubun no Hanayome-เจ้าสาวแฝดห้า

     

    Go-toubun no Hanayome มังงะแนวเลิฟคอเมดี้ เป็นผลงานของ Haruba Negi (Rengoku no Karma) ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shounen Magazine รายสัปดาห์ จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Kodansha ตั้งแต่ 9 สิงหาคม 2017 ถึงปัจจุบัน (ลิขสิทธิ์ไทยโดยรักพิมพ์ในชื่อเจ้าสาวแฝดห้า) โดยอนิเมะผลิตโดยสตูดิโอ Tezuka Productions 

    Go-Toubun no Hanayome เรื่องราวของ อุเอสึงิ ฟูทาโร่ หนุ่มฐานะยากจน มีหนี้สิน ไม่คบใคร ไม่มีเพื่อนและค่อนข้างหยาบคาย หลังได้พบนักเรียนหญิงที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมา นาคาโนะ อิตสึกิ ที่ผลการเรียนแย่ ทำให้เขาได้มาติวเธอ ได้พบว่าเธอยังมีแฝดอีก 4 คนที่นิสัยต่างกัน แต่ผลการเรียนไม่ดีเหมือนกัน ด้วยค่าแรงเพิ่มเป็น 500% ทำให้เขายอมที่จะสอนพวกเธอและสนิทกันมากขึ้น และหนึ่งในห้าแฝดนี้จะมีคนหนึ่งเป็นเจ้าสาวของเขาในอนาคต...........

                    ตอนแรกผมก็คิดว่าอนิเมะเรื่องนี้ผลตอบรับน่าจะดี เพราะว่ายอดขายมังงะดีมาก และมีหลายคนติดตาม ก่อสงครามอวยเยอพอควร (แต่ส่วนใหญ่อวยสาวหูฟัง)

                    แต่ปรากฏว่า ยอดจองแผ่นกับน้อยอย่างน่าใจหาย (แต่ก็คงหวังยอดขายมังงะก็ได้อยู่)ตัวอนิเมะก็ดำเนินเรื่องต้นฉบับ ภาพก็ดี

                    หรืออาจเป็นเพราะมันเหมือนต้นฉบับ  ซึ่งใครอ่านมังงะแล้วก็คงขี้เกียจมาดูอนิเมะก็ได้ มั้ง เพราะ เอาตามความรู้สึกผม ความจริงตัวเนื้อหาไม่เหมาะทำเป็นเรื่องยาวเหท่าไหร่ เพราะมันมีประเด็นน่าสนใจสักเท่าไหร่ สิ่งที่หลายคนติดตามมังงะนี้คือการปั่นของคนแต่ง ที่เผยฉากจบที่เริ่มจากตอนต้นเรื่อง และโผล่เป็นระยะ ถึงงานแต่งงานที่พระเอกได้แต่งงานไปหนึ่งในแฝดสามที่ห้า แต่ปัญหาคือเจ้าสาวคนนั้นเป็นใครกันแน่ และทำไมในงานถึงไม่มีแฝดอีกสี่คนที่น่าจะมาร่วมยินดี (หรือมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว)  เลยแม้แต่คนเดียว

                    บางคนก็สันนิษฐานแตกต่างกันไป บ้างงก็ว่าสาวกิ๊บดาว (ขออภัย ขี้เกียจจำชื่อตัวละคร) หรืออาจจบแบบหมู่ก็ได้  อย่างไรก็ตาม นอกจากฉากปั่นงานแต่งงาน ส่วนต่างๆ ของเรื่อง ก็ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรใหม่อะไรนัก  ฉากอีเวนส์ก็สูตรเดิมๆ น้ำหนักก็เน้นสาวกิ๊บดาว กับสาวหูฟังมากกว่า ส่วนสามสาวที่เหลือสายสนับสนุน ผมก้รอดูว่าจะมีฉากว้ายๆ อะไรหรือเปล่า

                    และโดยส่วนตัวน่าถ้าจะให้เรื่องนี้จบดีควรจบฮาเร็มนะ ถ้าจบวินใครคนใดคนหนึ่งผมว่ามันจะกลายเป็นการ์ตูนธรรมดาทันที เพราะมันไม่ได้มีน่าตกใจเท่านั้น


    Watashi ni Tenshi ga Maiorita! (WataTen)


    Watashi ni Tenshi ga Maiorita!  เป็นอนิมเจากมังงะ ผลงานของ Mukunoki Nanatsu ตีพิมพ์ในนิตยสาร Comic Yuri Hime ลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์  Ichijinsha   โดยภาคทีวีอนิเมะ ผลิตโดย Doga Kobo  

    มังงะ 4 ช่อง แนวคอเมดี้ ชีวิตประจำวัน เรื่องราวของ มิโยโกะโอตาคุสาวนิสิตมหาวิทยาลัย ที่ออกไปทางชีวิตเรื่อยเปื่อย เหมือนไม่มีอะไรจะทำ   แถมนิสัยยังขี้อายมากๆ กับคนแปลกหน้า เธอมีน้องสาวที่ร่าเริงสดใสวัยประถมอยู่หนึ่งคน  วันหนึ่งน้องสาวได้พาเพื่อนสาวมาที่บ้าน ปรากฏว่ามิโยโกะเกิดหลงใหลในความน่ารักของเพื่อนน้องสาว ประถม ทำให้เธอเข้ามาวุ่นวายกับทั้งสอง

    อนิเมะนี้มีแนวคล้ายกันแบบ Uchi no Maid ga Uzasugiru! (ก็ผลงานก่อนของสตูดิโอนี่แหละ) เพียงแต่เรื่องนี้ลดลูกบ้าน้อยกว่า  เนื้อหาก็เน้นผู้ใหญ่รักเด็กโลลิเช่นเคย เพียงแต่ตัวเอกคราวนี้เป็นโอตาคุสาว (ถ้าเป็นโอตาคุชายคงจะไม่น่าดูมั้ง) เนื้อหาก็เรื่อยๆ เน้นความน่ารักของโลลิซะส่วนใหญ่ ไม่ได้แปลกใหม่เสื่อมเท่าเมดกล้าม แต่ เห็นว่าหลายคนชอบก็ดีแล้วละ

    Kakegurui2

    ซีซั่นสองของโรงเรียนพนัน  ยังคงเป็นเรื่องราวของโรงเรียนเอกชนเฮียคคะโอ โรงเรียนแห่งนี้ปกครองด้วยระบบชนชั้น คณะกรรมการนักเรียนซึ่งมีอำนาจสูงสุดใช้ "การพนัน" ในการควบคุมนักเรียน ถ้าชนะ ได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าแพ้ ตกนรก โรงเรียนที่ผู้แข็งแกร่งในการพนัน จะเป็นที่อิจฉา ส่วนผู้อ่อนแอ จะได้รับความทุกข์ทรมาน และที่โรงเรียนแห่งนี้เอง ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งย้ายเข้ามา ชื่อของเธอคือ จาบามิ ยูเมะโกะ ผู้ซึ่งฟินกับการพนัน.

    สำหรับภาคสองนี้ เพราะความเก่งกาจของยัยบ้าพนัน ทำให้เป็นศัตรูกับสมาคมนักเรียน และเธอยังต้องรับมือกับเซียนพนัน  กับเกมพนันที่มารูปแบบกลโกงต่างๆ เช่นเคย

                        ความจริงภาคนี้ผมเลิกตามแล้ว ไม่รู้สิ  เนื้อเรื่องไม่เดินมั้ง  คือเรื่องนี้ผมเชียร์พระเอกตัวประกอบนะ อยากให้มีบทอะไรบ้าง แต่หากอนิเมะทำต้นฉบับเราจะได้เห็นฝีมือพระเอกพนันบ้าง แต่หลังจากนั้นบทก็หายต๋อม  ช่างเป็นพระเอกที่จืดจริงๆ ตัวละครใหม่ๆ ก็โผล่มาเรื่อยๆ แถมแต่ละตัวดีกรีเหม็นขี้หนย่าทั้งนั้น ตัวเก่าที่เหม็นขี้หน้าก็ยังไม่ได้ชำระเลย และรู้สึกไม่ดีที่เห็นตัวละครเอาเงินพ่อเงินแม่ตนเองมาพนันสักเท่าไหร่ (มันใช้เงินตัวเองพนันจะไม่ว่าเลย)    นี้ยังไม่นับทวินเทลบทหายเลยนะ

                        แม้ว่าคุณภาพอนิเมะภาคสองจะเหมือนตัว ตัวละครทำสีหน้าได้...... เหมือนเดิม แต่นั้นก็มุกเดินๆ ของซีซั่นแรกที่ผ่านมา

          

     Circlet Princess


    เป็นอนิเมะดัดแปลงจากเกมแนว RPG บนเว็บไซต์ของทาง DMM  เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2018  อนิเมะ ผลิตโดย Silver Link

    ธีมเนื้อเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตมีกีฬา e-sport เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)   และตัวเอกเป็นนักเรียนหน้าใหม่ที่กำลังนักเรียนหญิงมัธยมปลายจากสถาบัน Saint Union Academy และเข้าทีมหญิงล้วนโดย มีเป้าหมายชนะการแข่งขันการเล่นกีฬา E-Sport ที่เรียกว่า Circlet Bout.

    ยอมรับว่าสนใจอนิเมะเรื่องนี้โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นแนวอะไร เห็นชุดต่อสู้โมเอะมาก นึกว่าแนวต่อสู้กับยมนุษย์ต่างดาว แต่สิ่งที่เห็นกลายเป็นแนวต่อสู้ e-sport ที่การเคลื่อนไหวไม่เนียนเลย สัดส่วนตัวละครมีเพี้ยนๆ บ้างบางจุด

    เนื้อเรื่องเองก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ใช้สูตรเดิมๆ ของมุกการ์ตูนญี่ปุ่นแนวนี้  คือตัวเอกเป็นนักเรียนย้ายมาใหม่ ตื่นตาตื่นใจบ้านเมืองที่เจริญ จู่ๆ โดนลากเข้าแข่งขัน  มีพรสวรรค์ในการต่อสู้ มีคู่ปรับ อยากเอาชนะ เข้าทีมเป็นสมาชิกใหม่ ที่ลูกทีมดูไม่ค่อยเก่ง ฝึกฝน แข่งขัน ชนะรอบต่อรอบ มีมิตรภาพ  มีเพื่อน  ตัวเอกก็เป็นคนสดใสร่าเริง ให้ตายเถอะน่าเบื่อ (ฟ่ะ)

    คือมันไม่มีพล็อตให้มันแปลกใหม่ ฉีกแบบนี้บ้างเหรอ  ตั้งแต่แนวสปอต ยันแนวปกป้องโลกทั้งหลายแหล่ ทำไมตัวเอกจะต้องธีมเดิมๆ ทุกครั้ง  (หรือว่ามุกเกมฟรีก็มุกแบบนี้) อยากให้ดูแปลกใหม่ มีความสดใสใหม่ (ไม่ต้องเอาดาร์กโง่ๆ มาให้เรื่องน่าสนใจขึ้นด้วย)  เช่น ทีมตัวเอกกำลังจะเจ๊งต้องหาสมาชิกทีม สร้างทีมใหม่ ผมว่ามันดูน่าสนใจกว่านะ



    Kemono Friends (Season 2)


    Kemono Friends (Season 2)  เป็นโปรเจคอนิเมะใหม่หลังฉายจบภาคแรกไป โดยเป็นอนิเมะที่หลายคนตั้งตาเหยียบย้ำสุดๆ สาเหตุจากดราม่าเปลี่ยนผู้กำกับมาเป็น Kimura Ryuichi  โดยภาคสอง จะมีเนื้อหาต่อจากภาคแรก

         (ขอตัวเป็นอนิเมะก่อน)

    เนื้อเรื่องต่อจากภาคแรก (กี่ปีก็ไม่รู้)  และน่าจะมีปริศนาเยอะกว่าภาคึแรกด้วยซ้ำ โดยคราวนี้เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีเด็กมนุษย์คนใหม่ (ยังไม่รู้เพศชายหรือหญิง) และกำลัง งง กับสถานที่ก่อนที่จะถูกช่วยด้วยพวกเซอร์วัล   ที่น่าตกใจคือเซอร์วัลที่เป็นตัวเอกของเรื่องจดจำเรื่องราวของคาบังก่อนหน้าไม่ได้เลย ว่าคายังเป็นหรือตายหลังจากที่ออกผจญภัยด้วยกัน อย่างไรก็ตามพวกเซอร์วัสยินดีจะช่วยมนุษย์คนใหม่นี้ตามหาบ้าน และต้องผจญภัยพร้อมปริศนามากมาย ว่า ทำไมพวก เซลูลีน สิ่งมีชีวิตประหลาดที่กลืนกินสรรพสิ่ง ต้องตามล่ามนุษย์คนใหม่นี้

    ก่อนอื่น การที่จะดูเรื่องนี้เราจะต้องขจัดอคติเรื่องดราม่าที่ผ่านมาก่อน คือเห็นคะแนนรีวิวอนิเมะเรื่องนี้โครตน่าสงสารเลย อคติแบบเต็มๆ ทั้งๆ ที่เนื้อหาของมันผมว่าสนุก น่าติดตามดี ใช่ครับ ผมว่ามันสนุกดี มันหยอกปริศนา น่าติดตามตลอด มีอะไรคาใจเยอะให้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์คนใหม่แท้จริงแล้วเป็นใคร, ทำไมเซอร์วัลถึงจำเรื่องของคาบังไม่ได้, คาบังตายหรือเปล่า, บุคคลปริศนาที่คอยช่วยพวกเซอร์วัล เป็นใคร ผมว่าปริศนาภาคนี้ทำได้หลากหลาย เยอะกว่าภาคแรกเสียอีก ผมว่าน่าติดตามดีออก แม้สูตรจะเหมือนภาคแรกก็เถอะ

    อีกอย่างภาคนี้ ผมดูดีกว่าภาคแรกนะ เพราะว่าภาพสวยกว่าภาคแรกด้วยซ้ำ  หากมีเรื่องมุมตัวละครหน้าแปลกๆ หรือการเคลื่อนไหวติดขัดบ้าง แต่โดยรวมแล้วภาพสวยขึ้น กราฟฟิกสวยขึ้น มีมุมมอง มุมกล้องสวยงาม ตัวละครน่ารักขึ้น   แบบภาคแรกทำไอดอลเพนกวินสุดที่รักผมหมดอวยเลย และดูแล้วภาคนี้น่าจะ

    คือผมไม่สนความยากลำบากของคนทำหรอกนะ  ผมไม่ได้อินดราม่าพวกนี้ ถ ส่วนตัวถ้าทำแล้วทำให้อนิเมะออกมาสนุก มีจิตวิญญาณ ผมว่าผมให้พร้อมที่จะเปิดใจนะ

    ด้านตัวละคร เหล่าสัตว์ผมว่าทำดีแล้ว แต่ตัวละครที่เป็นมนุษย์ยังไม่ได้แสดงศักยภาพของความเป็นมนุษย์เท่าไหร่ ผมก็หวังว่าตอนต่อไปจากมีโมเม้นต์อะไรขึ้นมาบ้าง

                     สรุปว่าเป็นอนิเมะที่หลายคนควรเปิดใจในการดูนะ  มันอาจไม่ว้่าส ไม่เยี่ยม แต่ผมว่ามันก็สนุกดีนะ

     

                    ก็จบเพียงเท่านี้กับการดูอนิเมะ เขียนครบ 10 เรื่องแล้ว  ส่วนเรื่องดังๆ ผมไม่อยากดูเท่าไหร่นัก และเป็นซีซั่นที่ไม่มีแนวฮาเร็มที่ผมถูกใจอีกแล้ว........

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×