ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #514 : อนิเมะดีประจำปี 2018 ที่คุณต้องดู

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      18
      29 ธ.ค. 61

                    ต่อจากมังงะ ก็มาถึงอนิเมะดีประจำปี 2018 แม้ว่าปีนี้ผมจะดูอนิเมะน้อยมากก็ตาม แต่ก็ค้นๆ ดูก็พบว่าเป็นปีที่มีอนิเมะดีหลายเรื่อง หากไม่ถึงขั้นตำนาน (Poputepipikkuไม่น่าจะเป็นตำนานขนาดนั้น)  แต่ก็เพียงพอ ที่ให้มีอนิเมะหลายเรื่องมีการกล่าวถึงอยู่พักใหญ่ และทำให้หลายคนรู้สึกสนุกตลอดทั้งปี

    ส่วนรายชื่ออนิเมะแนะนำประจำปี 2018 ขอตัดพวกภาคต่อเช่น ไททัน โอเวอร์ลอร์ด, เทพทรู เพราะยังไงก็มีคนอวยอยู่แล้ว กับอนิเมะของจัมป์บางเรื่องนะครับ (เพราะเห็นคะแนนสูงๆ ทุกเรื่อง และเป็นภาคต่อ)  และตัดบางเรื่องที่ไม่แน่ใจว่ามันสนุกตามคำอวยหรือเปล่า  

                    (ปล. ตรงตัวเข้มคืนอนิเมะดีอันดับต้นๆ ประจำปี 2018

    ปล. หลายเรื่องไม่มีซับไทย น่าเสียดายจัง)


    Winter 2018 แค่ต้นปีก็มีอะไรให้พูดเยอะ อย่างอนิเมะที่ผมดูไม่รู้เรื่องเลยอย่าง Poputepipikku แล้วมันเกิดดังอย่างน่าเหลือเชื่อ หรือเรื่องดาร์ลิ่งด่าทุกตอนที่ออกมา (คือมีอารมณ์ร่วม) และม้ามืดที่ส่วนใหญ่แนวโมเอะทำได้ดี

                 -Violet Evergarden-แนวสาวหุ่นยนตร์ที่เต็มไปด้วยแฟนตาซี ดราม่า ความหมายของชีวิต

    -Darling in the FranXX-ช่วงครึ่งหลังโดนด่ากระจาย แต่ก็ยืนอยู่ได้

    -Karakai Jouzu no Takagi-san-คู่รักขี้หยอกกัน หยอกกันจนแต่งงานกัน

    -Sora yori mo Tooi Basho-ม้ามืด ไปขั้วโลกเหนือ

    -Yuru Camp△-สาวตั้งแคลมป์

    -Koi wa Ameagari no You ni-สาวมัธยมปลายรักชายวัยกลางคน

    -Poputepipikku-ความจริงเป็นการ์ตูนที่แย่ที่สุดที่ผมดูมาในชีวิต มุกไม่รู้เรื่อง แต่ทำไมมันดังฟ่ะ

    -Kokkoku-สนุกตื่นเต้น

    -Hakata Tonkotsu Ramens-เป็นแนวนักฆ่าที่ดำเนินเรื่องไม่ค่อยเหมือนการ์ตูนสักเท่าไหร่

    -Ryuuou no Oshigoto!-หมากรุกกับโลลิ

    -Gakuen Babysitters

    -Cardcaptor Sakura: Clear Card-hen-การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของการ์ดซากุระ

    -Miira no Kaikata

    -Mitsuboshi Colors- เป็นอนิเมะที่คุณจะอิ่มโลลิ

    -IDOLiSH7 ไอดอลชาย

     

      Spring 2018 ช่วงใกล้กลางปี ช่วงนี้อาจไม่หวือหวามากนัก แม้จะมีการ์ตูนที่เคยดังสมัยก่อน Full Metal Panic!, Piano no Mori (TV), คิวทาโร่, ซึบาสะ โผล่มาให้เราคิดถึง แต่กระแสก็ไม่ดังเปรี้ยงในบ้านเราเท่าไหร่

                    -Steins;Gate 0 –ดีแห่งปี (เขาว่างั้น)

                    -Sword Art Online Alternative: Gun Gale Online

                    -Wotaku ni Koi wa Muzukashii-หนุ่มสาวที่ทำงานบริษัท

                    -Megalo Box-แนวชกมวยที่สนุกมาก

                    -Hinamatsuri- ยากูซ่ากับเด็กสาวพลังจิต

                    -Tada-kun wa Koi wo Shinai

                    -Golden Kamuy อินุชวนชิม กับหมี

                    -Comic Girls

    -Kakuriyo no Yadomeshi

                    -Uma Musume: Pretty Derby-สาวม้าแข่ง (สนุกขนาดนั้นเลย)

    -Ginga Eiyuu Densetsu: Die Neue These - Kaikou

    -Hisone to Maso-tan-มังกรเครื่องบิน (สนุกขนาดนั้นเลย)

     

    Summer 2018 ช่วงนี้แม้อนิเมะจะไม่หวือหวา แต่มันก็เต็มไปด้วยอนิเมะดีๆ หลายเรื่อง และมีหลายเรื่องที่หลายคนติดตามไม่ว่าจะเป็นกินทามะ, ไททัน 3 และโอเวอร์ลอร์ด 3 และหลายเรื่องที่ทำออกมาดีกว่าที่คิด

    -Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu-แนวต่างโลกที่ผมออกมาดี

    -Hataraku Saibou-น้องเกล็ดเลือดขโมยซีน

    -Grand Blue-แนวเฮอ่าหนุ่มมหาลัย

    -Asobi Asobase-แนวโมเอะที่ผมดีเกินคาด

    -Banana Fish-

    -Hanebado!-

    -Yuragi-sou no Yuuna-san-ผีลาล่า

    -Sirius-

    -Happy Sugar Life-หวานโศกนาฏกรรม

    -Chio-chan no Tsuugakuro-ยัยแว่นจอมมโน

    -Free!: Dive to the Future-

    -Sunohara-sou no Kanrinin-san-บ้านพักนม

    -High Score Girl-วีดีโอเกมดักแก่

    -Angolmois: Genkou Kassenki-

    -Planet With-หุ่นแมว

    -ShoujoKageki Revue Starlight-

    -Yama no Susume: Third Season-



    ปิดท้ายด้วย  Fall 2018 ซึ่งเป็นซีซั่นที่มีอะไรน่าสนใจเยอะ  ไม่ว่าจะเป็นภาคต่อของ  Sword Art Online: Alicization, Fairy Tail: Final Series และ Toaru Majutsu no Index III ให้เหล่าแฟนๆ ฟินกัน รวมถึงออริจินอลหลายเรื่องก็ทำออกมาดีด้วย

    -Goblin Slayer

    -Seishun Buta Yarou wa Bunny Girl Senpai no Yume wo Minai-เกืดใหม่เป็นสไลม์

    -Tensei shitara Slime Datta Ken-รุ่นพี่บันนี่

    -Zombieland Saga+-ซอมบี้ไอดอล

    -Irozuku Sekai no Ashita kara-

    -JoJo no Kimyou na Bouken: Ougon no Kaze-โจโจ้ภาค 5 ที่เนื้อหาโหดมันฮ่า

    -Kishuku Gakkou no Juliet-     หอพักหมาแมว

    -SSSS.Gridman-กรีดแมนที่บางเพจโครตอวย

    -Yagate Kimi ni Naru-สุดท้ายก็คือเธอ

    -Kaze ga Tsuyoku Fuiteiru

    -Uchi no Maid ga Uzasugiru!-เมดอย่างโหด

    -\Gaikotsu Shotenin Honda-san

    -Tonari no Kyuuketsuki-san

    -Karakuri Circus

    -Release the Spyce

    -Dakaretai Otoko 1-i ni Odosarete Imasu.


    Kokkoku  


    Kokkoku  เป็นอนิเมะแนวลึกลับ ดัดแปลงมาจากมังงะ Kokkoku: Moment by Moment ผลงานของ อ.Seita Horio กำกับโดย: Yoshimitsu Ohashi (จากผลงาน Witchblade, Sacred Seven และ Galaxy Angel)  

    เนื้อหาอนิเมะกล่าวถึงตัวเอกที่ชื่อ ยูคาวะ จูริ  ที่มีครอบครัวที่พ่อไม่เอาไหน กับพี่ชายนีทขี้แพ้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ในตอนเย็นขณะที่พี่ชายนีทกับหลานถูกลักพักตัวระหว่างทางกลับบ้าน โดยกลุ่มโจรเรียกค่าไถ่5 ล้านเยน ทำให้คุณปู่ก็ต้องใช้หินวิเศษไปสู่โลกคู่ขนานที่เวลาหยุดนิ่งเพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือสองคนที่จับตัวไปโดยง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ไปช่วย ปรากฏว่าพวกเขาได้พบกันกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเอง่า ลัทธิ ปรากฏตัว และพวกเขาวสามารถเคลื่อนไหวในโลกได้อย่างอิสระ พวกเขามีจุดหมายสังหารทุกคนในครอบครัวนางเอก เหลือเพียงปู่ และหินวิเศษเท่านั้น พวกเขาจะสามารถกลับคืนสู่ชีวิตอันแสนปกติของเขาได้หรือไม่

    Kokkoku    เป็นอนิเมะที่มีการดำเนินเรื่องที่ผมค่อนข้างชอบ เพราะดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ และนำเรื่องของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบมาสอดแทรก พร้อมกับชงานภาพจัดเข้าขั้นดีมาก ทั้งมุมกล้อง การใช้สโลโมชั่น แม้แต่ตัวสัตว์ประหลาดที่ทำออกมาน่ากลัวจริงๆ    เป็นอนิเมะที่ผมออกมาดีมาก จนไม่เชื่อว่าเป็นผลงานสตูดิโอหน้าใหม่อย่าง Geno Studio ที่มีผลงานไม่กี่เรื่องเท่านั้น

    เนื้อหาอาจดูรุนแรงบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นดาร์ก แต่ก็ไม่ใช่อนิเมะที่ดูแล้วาสบายใจเช่นกัน ดูแล้วลุ้นตลอด และตอนจบก็ถือว่าดีคุ้มค่าที่ติดตาม

     

    Steins;Gate 0


    Steins;Gate 0  เป็นอนิมะดัดแปลงจากเกมไลท์โนเวล โดยสตูดิโอที่จะรับผิดชอบงานนี้ยังคงเป็น White Fox สตูดิโอเดิมจากภาคที่แล้ว แต่มีการเปลี่ยนผู้กำกับ มาเป็นผู้กำกับที่เคยกำกับอนิเมเรื่อง Qualidea Code คุณคาวามูระ เคนอิจิ

    Steins;Gate 0 ถือเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการของภาคแรก เนื้อหาจะเป็นเหตุการณ์ในโลก β (Beta) เปลี่ยนแปลงเนื้อหาอนิเมะตอนที่ 23 ของภาคเดิม โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า โอคาเบะ ไม่สามารถช่วยเหลือ คุริสุ เอาไว้ได้ แถมยอมแพ้จะช่วยเหลือเธอ (เนื่องจากไม่อยากให้เธอตายแบบเพื่อนสมัยเด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว) โอคาเบะจึงใช้ชีวิตปกติ หากแต่ทุกช่วงเวลา เขาเกิด Flash Back ตอนที่คุริสึตาย ทำให้รู้สึกทรมานทุกครั้ง

    ต่อมาโอคาเบะได้เจอฮิยะโจ มาโฮะ ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของคุริสึที่มหาวิทยาลัยวิคเตอร์คอนเดรีย  มาโฮะได้ศึกษาการใส่ความทรงจำของมนุษย์ลงไปในคอมพิวเตอร์ โดยใช้ชื่อระบบว่า Amadeus (อามาเดอุส) และในระบบนั้น เธอได้บรรจุความทรงจำของคุริสึเอาไว้

    ในขณะเดียวกันองค์กร SERN ก็ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง และได้เผชืญหน้ากับโอคาเบะอีกครั้ง ทั้งๆ ที่โลกนี้ไม่มีเตาไม่โครเวฟมือถือ(ชื่อชั่วคราว) แล้วพวกมันต้องการอะไรจากเขากันแน่......

    หลังจากทำพวก Steins;Gate และ Chaos;Child ไม่ค่อยปังสักเท่าไหร่  (เห็นว่าเรื่องที่สองจะมีการวางแผนทำภาคหนังโรง เพื่อบทสรุปให้ดีขึ้นประมาณนั้น)  ในที่สุดก็กลับมาทำภาค Steins;Gate 0  จนได้ ซึ่งภาคนี้ผมดูมังงะมาหน่อยๆ แล้ว  ก็สนใจนิดหน่อย

                    Steins;Gate 0  ถูกสารต่อภาคแรกได้อย่างน่าสนใจ พำราะเป็นโลกที่ขาดคุริสึ แม้ว่าเนื้อหาช่วงแกรๆ จะเต็มไปด้วยดราม่า อึดอัด กับความสิ้นหวังของโอคาเบะ แต่เนื้อหาก็เริ่มหยอดปริศนามากมายเขาไป ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงจุดพีคของเรื่อง แต่ถ้าใครเคยติดตามภาคหนึ่งก็ถือว่าชินแล้ว  หลายตัวละครที่ภาคก่อนๆ เหมือนไม่มีบทบาท ก็เพิ่มบทบาทให้น่าสนใจขึ้น สิ่งที่ผมคาดใจมานาน อย่าง สาวดุ้นกับทวินเทลทำไมไม่กล่าวถึงในอนาคตว่าพวกเขาเป็นยังไง มาภาคนี้ก็จะได้คำตอบสักที

    ตัวละครเก่าๆ ยังอยู่ครบ ยังคงเหมือนเดิม  ส่วนตัวละครใหม่ก๋ดีเช่นกัน และใส้บทได้มีมิติ เข้าที่เข้าทาง  ยังคงเป็นอนิเมะที่จำเป็นต้องการเล่าเรื่องราวตอนแรกให้เนิ่บๆ ก่อนที่จะมาปล่อยของในตอนท้ายเหมือนเดิม และยังดีเมื่อเทียบเท่าภาคแรก



    Hataraku Saibou

    Hataraku Saibou (การทำงานของเซลล์) เป็นอนิเมะอิงจากมังงะชื่อเดียวกันของ  Shimuzu Akane  เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่างๆ ในร่างกาย มาเป็นมนุษย์ (มีทั้ง แบบโหด, โลลิ, โมเอะ) โดยในร่างกายของมนุษย์มีเซลล์ต่าง ๆ รวมมากถึง 60 ล้านล้านเซลล์ที่มีหน้าที่สำคัญต่างกันไป ร่างกายมนุษย์หากเกิดบาดแผลพวกไวรัสและแบคทีเรียจะบุกเข้าสู่ร่างกาย หรือในตอนที่ภูมิแพ้กำเริบเซลล์ทุกเซลล์ตั้งแต่เม็ดเลือดขาวยอดมือสังหารไปจนถึงเซลล์ประสาททุกเซลจะต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อต่อสู้กับวิกฤตในร่างกาย!

    เป็นการนำเสนอในรูปแบบ บุคลาธิษฐาน  กำหนดเซลล์ในร่างกายให้มีชีวิตประจำวัน หน้าที่เหมือนมนุษย์  โดยผสมกับแอ็คชั่นการต่อสู้ของเหล่าเซลล์กับเชื้อโรคร้ายที่มาบุกรุกร่างกายของเรา ถือว่าเป็นการ์ตูนที่นำเสนอที่น่าสนใจ สอดแทรกความรู้การทำงานของเซลล์ต่างๆ  มีฉากแอ็คชั่น ตลกไม่ให้น่าเบื่อมาเกินไป ที่สำคัญคือเรื่องนี้โลลิ น้องเกร็ดเลือดทั้งหลาย โครตขโมยซีน

     


    Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu


    “Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu” หรือ จอมมารต่างโลกกับบริวารสาวนักอัญเชิญอนิเมะจากนิยายของ Murasaki Yukiya และได้อาจารย์ Tsurusaki Takahiro มาเป็นผู้วาดภาพประกอบให้

    เนื้อเรื่องกล่าวถึงซาคาโมโตะ ทาคุมะ นักเล่นเกม MMORPG - Cross Reverie ที่เก่งเหนือกว่าคนอื่นๆ จนถูกเรียกว่า จอมมาร’ (ในเกมเขาเป็นจอมมารจริงๆ) แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกอัญเชิญไปสู่โลกต่างมิติโดยอยู่ในร่างที่ใช้ภายในเกม 

    แม้ว่าพล็อตของจอมมารจะไม่แตกต่างอะไรไปจากต่างโลกทั่วไปนัก ที่พระเอกเป็น ฮิคิโคโมริ (หรือแค่นีท) จู่ๆ ก็ไปต่างโลก มีสกิลเทพ มีฮาเร็ม ปักธงสาวๆ และอีเวนส์ทำภารกิจกิลด์ ที่พบเห็นในนิยายเน็ต แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องจอมมารนี้ไม่ได้เป็นนิยายเน็ต เพราะตัวผู้เขียนนิยายต้นฉบับ Murasaki Yukiya นั้นมีอาชีพนักแต่งนิยายไลท์โนเวลอยู่แล้ว ก่อนหน้าก็มีหลายผลงาน ไม่ว่าจะเป็น Altina the Sword Princess (13 เล่ม+เล่มพิเศษหนึ่งเล่ม) ซึ่งเป็นผลงานที่หลายคนคุ้นบ้าง , Fuyuu Gakuen no Alice and Shirley (4 เล่มจบ), และ Hourou Yuusha wa Kinka to Odoru ซึ่งเน้นหนักไปทางแฟนตาซีอยู่แล้ว

    ดังนั้นคนแต่งก็ถือว่ากล้ามากที่แต่งนิยายจอมมาร โดยใช้พล็อตบ้านๆ ต่างโลก แต่เขาเน้นเนื้อเรื่อง สร้างมิติตัวละคร มากกว่าจะเล่าเรื่องภาพรวมเหมือนนิยายต่างโลกเรื่องอื่นๆ ที่มุ่งแต่การผจญภัย โชว์เทพ สะสมเลเวล ทำอีเวนส์ การนำความก้าวหน้าด้านอาหารและเทคโนโลยีมาเผยแพร่ต่างโลก กว่าจะเข้าเรื่อง โครตน่าเบื่อ

    ตัวนิยายมุ่งเน้นไปการเล่าเรื่อง โดยช่วงแรกๆ เน้นการทำความรู้สึกสองสาวในฮาเร็มจอมมาร เอลฟ์ กับแม่เสือดำ (ผมดันเรียกน้องแมวมานาน) ที่คาแร็คเตอร์เหมือนจะแบน ขายเซอร์วิส แต่พอเล่าเรื่อง ใส่มิติก็ทำให้หลายคนชอบไม่ยาก พร้อมฉากต่อสู้ที่ทำได้ลุ้น ตื่นเต้น พระเอกแม้เทพ แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจแบบเก่งจนไม่ลุ้น อีกทั้งยังมีสถานการณ์วิกฤตอื่นๆ อีก

    ตัวอนิเมะก็ทำออกมาดี เซอร์วิสทำได้เยี่ยม (โดยเฉพาะนมเอลฟ์เด้งอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ) การเล่าเรื่องก็มีขัดจากต้นฉบับ ฉากต่อสู้ก็อลังการ ทำได้เต็มอื่ม ตัวละครตัวโกงทำได้กวนสิ้นดี และแต่ละอีเวนส์ก็สอนอะไรแก่เรามากมาย เรียกว่าเป็นนิยายที่เหมาะแก่ทำอนิเมะ และทำออกมาดีด้วย และมันก็คือนิยายต่างโลกที่ควรเป็นแบบอย่าง

    อีกเรื่อง สิ่งที่รำคาญคือเวลาอ่านความคิดเห็นเรื่องนี้จะมีคนที่บอกว่า รำคาญพระเอกกินพืช ส่วนตัวผมไม่ชอบความคิดเห็นแบบนี้นะ จะพระเอกกินพืช หรือกินเนื้อ มัน ต้องดูบริบทของเนื้อเรื่อง ด้วยว่าสมควรหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเห็นสาวๆ รุกก็จะมีเพศสัมพันธ์ท่าเดียว มันแนวเซอร์วิสไม่ใช่การ์ตูนโป๊ หรือการ์ตูนผู้ใหญ่ แบบนี้ผมแนะให้ไปดูสายมืดไปเลย ที่สำคัญการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่ชั่วคราว มันเหมือนดาบสองคม ถ้าแย่ก็จะแย่ไปเลย แต่ถ้าแบบสาวน้ำแตก Parallel Paradise ว่าไปอย่างเพราะเนื้อเรื่องมันมุ่งไปทางนั้นแล้ว 

    สำหรับฉบับนิยาย ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ แม้ว่าจำนวนหน้าจะสั้นกว่านิยายต่างโลกเรื่องอื่นๆ แต่เนื้อหานี้โครตสนุกน่าติดตามกว่าอีก ตัวละครใหม่ๆ โผล่มาไม่แบน มีอีเวนส์ มีฉากให้ตื่นเต้นได้ลุ้น แถมตอนจบอารมณ์ค้างอีกต่างหาก นี้สินะคือความแตกต่าง


    Asobi Asobase 


    Asobi Asobase เป็นอนิเมะจากมังงะแนวคอมเมดี้ของสาวน้อย เป็นผลงานของ Suzukawa Rin (Little Chaos) เขียนลงใน Young Animal Densi ของสำนักพิมพ์ Hakusensha ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน

    เนื้อหา Asobi Asobase   เริ่มจากสาวแว่นที่ตอนแรกกลายเป็นตัวตบมุก แต่กลายเป็นตัวละครปล่อยมุกซะงั้น เมื่อเธอไปขอสาวลูกครึ่งบ้านย้ายมาใหม่ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ แต่กลายเป็นว่ายัยลูกครึ่งมันไม่ได้เก่งอังกฤษอะไรเลย  แต่แกล้งอำคนอื่น ไปๆ มาสาวแว่น ยัยเด็กฝรั่งดอง กับยัยสมองกลวง (เพื่อนคนแรกของยัยฝรั่งดอง) มาตั้งชมรมวิจัยการเล่น  ความฮ่าเลยบังเกิด

    ดูเผินๆ นึกว่าเป็นแนวคอเมดี้โมเอะชีวิตประจำวันธรรมดา แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นอนิเมะที่เต็มไปด้วยตัวละครสาวๆ ที่เล่นมุกตลกที่ชวนหัว คือเหตุการณ์ก็ดูธรรมดานะ แต่เนื้อเรื่องขยี้ซะทำลายสิ่งธรรมดานั้นให้พินาศสิ้น แถมยังขายสีหน้าประหลาดของพวกตัวละครสาวๆ ที่ตบมุกกันได้อย่างมีอารมณ์มาก

    สรุปว่าเป็นอนิเมะโมเอะ เหมือนแนวชีวิตเด็กมัธยมปลาย แต่มันกลับนำสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ใส่เข้าไปทำให้

     

    JoJo's Bizare Adventure Part 5: Golden Wind

    โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 5 : สายลมทองคำ (JoJo's Bizare Adventure Part 5: Golden Wind) เป็นอนิเมะดัดแปลงจากมังงะของฮิโรฮิโกะ อารากิ ซึ่งเป็นภาคที่ 5 ของซีรีย์ โดยเรื่องราวเกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี ในปี 2001 โจรูโน่ โจบาน่า เด็กหนุ่มอายุ 15 ทายาทของดิโอผู้มีสายเลือดของตระกูลโจสตาร์ไหลเวียนอยู่ในกาย มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอิตาลี จึงพยายามหาทางเข้าร่วมองค์กร พาสซิโอเน่ ซึ่งเป็นมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอิตาลี แต่เขาจะต้องผ่านด่านทดสอบมากมายเพื่อโค่นล้มบอสให้ได้เสียก่อน

    โจโจ้ซีรีย์ก็ถือว่าเป็นดีทุกภาค ได้รับคำชมทุกภาค และภาคที่ 5 ยังเต็มไปด้วยพลัง ความสนุกน่าตื่นเต้นเหมือนเดิม แม้ว่าจะเคยดูมังงะมาแล้ว ภาคกลับเราได้เห็นเวทีการต่อสู้เป็นประเทศอิตาลี การไล่ล่าอีกครั้ง ความสนุกยังคงมีครบ ในแบบของตัวเอง

    โจโจ้ภาค 5 พิเศษอยู่อย่างคือเป็นภาคแรกที่สแตนท์เริ่มมีสถานะค่าความสามารถ ความเก่ง และเป็นภาคที่จริงจัง  และตัวละครตายเยอะมาก ผิดจากภาค 4 ที่เน้นตลก แต่ตัวละครตายนาย (แต่ภาค 5 ก็ยังมีกลิ่นอายตลกอยู่  )

    โจโจ้ต้นฉบับมังงะนั้นนอกเหนือจุดเด่นเรื่องการออกแบบตัวละคร ลายเส้น การแต่งตัวที่โครตล้ำแล้ว จุดเด่นที่พอๆ กันก็คือมุมกล้อง และการแบ่งช่อง แตกต่างจากอนิเมะทั่วไป มีการเพิ่มอะไรหลายอย่างให้ดูใหลลื่น เรียกว่าหลายฉากอินดี้มากๆ คือดูเลยก็รู้เลยว่านี่คือโจโจ้ที่ดีเทียบเท่าต้นฉบับ


    Zombieland Saga

    Zombieland Saga ผลิตโดยสตูดิโอ MAPPA แม้ว่าเป็นสตูดิโอที่ทีผลงานออกมาไม่มากนัก แต่หลายเรื่องที่ออกล้วนรับคำชมเป็นบวกทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น ผลงานเด่นที่เป็นที่รู้จัก เช่น Shingeki no Bahamut: Genesis, Zankyou no Terror, Sakamichi no Apollon, Yuri!!! on Ice แค่นี้ก็รู้แล้วว่าผลงานจะดีขนาดไหน

    Zombieland Saga เป็นเรื่องราวของ มินาโมโตะ ซากุระ สาวที่ฝันจะได้เป็นไอดอลและจะไปยื่นใบสมัคร ใช่ตอนแรกหลายคิดว่าเป็นแนวไอดอล หากแต่ตอนออกจากบ้านก็ถูกรถบรรทุกชนหน้าบ้านตนเอง   หลายปีต่อมาเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นซอมบี้ และเธอกับเพื่อนๆ ซอมบี้ด้วยกันก็ต้องขึ้นเวทีเป็นไอดอลท้องถิ่น

    ยอมรับว่าแนวไอดอลเป็นแนวแสลงสำหรับผม แต่ด่วยการใส่อะไรประหลาดลงไปในอนิเมะเรื่องนี้ก็ทำให้อนิเมะที่ดูเหมือนสูตรสำเร็จนี้ก็ทำได้น่าใจชนะอย่างนั้น ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 อาจเมากาวให้หลายคนสนใจ พอมากลางๆ เรื่องหน่อยก็กลับมาเข้าแนวไอดอล แต่ถึงอย่างนั้นก็มีมุกตลกสอดแทรกให้ได้ฮ่า บ้าบอดี ไม่ใช่แนวไอดอลสูตรสำเร็จเหมือนเรื่องอื่นๆ แม้ขัดใจฉากแสดงที่ใช้ CG อยู่บ้างก็เถอะ


    (ชอบเป็นการส่วนตัว) Planet With  


    Planet With  เป็นอนิเมะออริจินอล ทั้งแผนงาน บทดั้งเดิม บทอนิเมะ ดีไซน์ตัวละคร เป็นของ Satoshi Mizukami ร่วมกับ BNA และ JC โดยเป็นเรื่องราวของคุโรอิ โซยะ เด็กหนุ่มความจำเสื่อมที่อาศัยอยู่กับคนประหลาด (แมวยักษ์ กับสาวเมด)  ทั้งอย่างนั้นด้วยความที่เจ้าตัวไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงได้ใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่แล้วชะตากลับพลิกผัน เมื่อเขาจะต้องต่อสู้กับเหล่าคนกู้โลก ผู้ปกป้องโลก ทั้ง 7 

     เป็นอนิเมะที่อาจไม่ดีมาก แต่ก็เป็นอนิเมะที่ผมชอบในปี 2018 อีกเรื่อง แม้เนื้อหาไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แต่มันก็คือแนวขับหุ่นที่ผมค่อนข้างพอใจในช่วงเวลานี้ ถ้าอนิเมะนี้ยาว 26 ตอนบางทีอาจดียิ่งกว่านี้ก็ได้

     

                    สำหรับอนิเมะแนะนำประจำปี 2018 ก็มีแค่นี้ แม้ว่าภาพรวมอนิเมะปีนี้จะมีหลากแนว และทำออกมาดี น่าชื่นชม แต่ก็ยังขาดอนิเมะระดับตำนานที่ดังระเบิดอยู่  มีแต่เรื่องที่คาดว่าจะตำนานแต่ตอนจบส่วยหัวไปซะอย่างนั้น

                    ที่น่าเสียใจก็คงเป็นแนวฮาเร็ม ปีนี้คุณภาพแย่อย่างน่าตกใจ มีไม่กี่เรื่องที่สอบผ่าน คือจอมมารเดียโบ กับหมากรุกเจ้ามังกร แถมโดนแนวต่างโลกนิยายเน็ตมาตีตลาด ผมก็ไม่ได้รังเกียจแนวนี้หรอก แต่ปัญหาคือบางเรื่องมันไม่เหมาะเอามาเป็นอนิเมะ อย่างเดธมาร์ธก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่เหมาะ ส่วนแนวฮาเร็มเรื่องอื่นๆ ถ้าไม่นับภาคต่อ เรื่องอื่นๆ แทบสอบตกหมดเลย  ทั้งคุณภาพ และเนื้อเรื่อง จะดีหน่อยก็ OVA ฮาเร็มน้องแมวร้านเค้กเท่านั้นแหละ

                    ที่แน่ๆ ฮาเร็มออริจินอลไม่มี

                    สำหรับปีหน้า  ก็มีอนิเมะหลายเรื่องที่น่าสนใจ และบทความนี้ก็ยังคงอยู่ต่อไป เพราะมีการ์ตูนหลายเรื่องที่ผมยังอยากหยิบมาเขียนถึงอยู่

                    สุดท้าย ขอฝากเฟสบี facebook การ์ตูนอย่างแมวๆ-สัญจร ถ้าเกิน 5000 (ติดตาม) เมื่อไหร่ ก็จะมาอัฟเรื่องจริงทะลุโลกต่อ....

     

    สวัสดีปีใหม่ 2019 ครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×