คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #494 : รีวิว Anime Summer 2018 ต่างโลกเริ่มมาแล้วสินะ
บทความนี้จะรีวิว Anime Summer 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่เกลือกาซ่าติดต่อกันหนึ่งเดือนแล้ว และหงังว่าจะมีดวงในตู้กาซ่าต่อไป
นอกเรื่อง อนิเมะซีซั่นก่อน โครตน่าเบื่อมาก ผมตามไม่กี่เรื่อง ผมดู Persona 5 the Animation และ Golden Kamuy นอกนั้นไม่ได้ดูสักเท่าไหร่ ฮาเร็มก็ไม่ค่อยมี (รู้สึกจะมีเรื่องเดียวมั้ง แถมเป็นภาคต่อไม่ได้ดูด้วย)
อย่างไรก็ตาม อนิเมะซีซั่นนี้ดีขึ้นหน่อย เพราะมีหลายเรื่องติดตาม (ขึ้นอยู่กับซับไทยจะทำหรือไม่ทำด้วย) ไม่ว่าจะเป็น Overlord III แล้วไปถึงแนวต่างโลกที่คราวนี้เป็นเรื่องที่ผมติดตามด้วย
รายชื่อบางส่วนอนิเมะ Anime Summer 2018
Shingeki no Kyojin Season 3-ดูสปอยตอน 107 แล้วหมดอารมณ์ที่จะดูจากสงครามชาวยิว กลายเป็นแนวการเมืองไปแล้ว
Overlord III-ภาคสามแล้วสำหรับนายกระรอก ซึ่งภาคนี้ถอว่ากระรอกจะเข้าสู่ด้านมืดแล้ว มาลุ้นว่าจอมเวทย์สาวจะตายหรือไม่
FLCL Progressive-อนิเมะแปลก มาคราวนี้สลับเพศ
Satsuriku no Tenshi-คนแถวๆ นี้อวยกัน เดี่ยวจะดู
kai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu-แนวต่างโลกของจอมมารจูนิเบียว
Island-นานๆ ที่จะมีอนิเมะจีบสาว ประเด็นคือผมไม่เคยประทับใจสักเรื่อง เดี๋ยวดูคนมาสปอยว่าจบฮาเร็มหรือเปล่าค่อยดูอีกที
Yuragi-sou no Yuuna-san-ผีลาล่าน้ำพุร้อน การ์ตูนจัมป์ขายเซอร์วิส
Hanebado!-แนวสาวน้อยนักกีฬา
Free!: Dive to the Future-หนุ่มว่ายน้ำ
Grand Blue-นักศึกษามหาลัยที่เฮฮ่ากินเหล้า
Hyakuren no Haou to Seiyaku no Valkyria-แนวต่างโลก อารมณ์แบบสนมพิชิตปฐพี
Shichisei no Subaru แนวแฟนตาซีคล้ายๆ FAO
Gintama.: Shirogane no Tamashii-hen 2
Happy Sugar Life-แฮปปี้สมกับชื่อเรื่องจริงๆ
Chio-chan no Tsuugakuro-ยัยแว่นจอมมโน ดูดกาว
Harukana Receive-สาวๆ เล่นวอลเลย์บอลชายหาด
High Score Girl-เกมอาเขต
Jashin-chan Dropkick-งูกระโดดถึบ
Sunoharasou no Kanrinin-san-หอพักนม
Muhyo to Rouji no Mahouritsu Soudan Jimusho
One Room 2nd Season-เพื่อนสมัยเด็กกับน้องสาวไปไหน โมโห
Kyoto Teramachi Sanjou no Holmes
Joshiochi!: 2-kai kara Onnanoko ga... Futtekita!? –เกือบเป็นสายมืด เสียดายสั้นไปหน่อย
Lord of Vermilion: Guren no Ou
Angolmois: Genkou Kassenki—พล็อตมองโกลยึดญี่ปุ่นซามูไร (น่าสนใจดี)
Yume Oukoku to Nemureru 100 Nin no Ouji-sama
Yume Oukoku to Nemureru 100 Nin no Ouji-sama
Planet With-แนวขับหุ่นน่าสนใจ
Ani ni Tsukeru Kusuri wa Nai! 2
Yami Shibai 6-จะแตกต่างจากภาคที่ผ่านมาหรือไม่
Cinderella Girls Gekijou 3rd Season
Oshiete Fairilu: Mahou no Pendulum
รายชื่ออนิเมะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเรื่องยิบย่อยนอกเหนือจากนี้อีก อีกทั้งยังไม่รวมอนิเมะจากจีนแผ่นดินใหญ่ อนิเมะของเน็ตฟลิกซ์ (บากิ)
ถ้าจะถามภาพรวม ก็ยอมรับว่าอนิเมะซีซั่นนี้มีหลายเรื่องที่ผมไม่สามารถดูได้ (เพราะไม่ใช่แนว) ที่ใช้แนวและน่าสนใจมีอยู่ 10 เรื่อง ต่างโลก, แนวขับหุ่น, ตลกเมากาว ซึ่งผมจะรีวิวแนวเหล่านี้
Back Street Girls
Back Street Girls เป็นอนิเมะการ์ตูนแนวไอดอล – ตลก ดัดแปลงจากมังงะของ Jasmine Gyuh ตั้งแต่ปี 2015 ในไทยมีลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์โดยเป็นเรื่องราวของยากูซ่าสามคน ประกอบด้วย ยามาโมโตะ เคนทาโร่ (อายุ 28 ปี), สุกิฮาระ คาสุฮิโกะ (อายุ 21 ปี) และทาจิบานะ เรียว (อายุ 25 ปี) ได้ทำเรื่อง’ผิดพลาดขึ้นมา หัวหน้าองค์กรเลยบีบให้ทั้งสามไปศัลยกรรมที่ไทยจนกลายเป็นสาวน้อยน่ารัก และจับเป็นไอดอล แน่นอนว่าแม้ทั้งสามจะกลายเป็นสาวน่ารัก แต่ยากูซ่าสามหน่อก็พยายามที่จะไม่ลืมตัวตนอดีตที่เป็นยากูซ่า ความฮ่าจึงบังเกิด
ดูเหมือนสตูดิโอที่ทำอนิเมะเรื่องนี้ อย่าง J.C.Staff จะเอางบไปทำอนิเมะอื่นเยอะ แล้วเขี่ยทุนมาทำให้อนิเมะเรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะทุนต่ำไปซะอย่างงั้น แม้ว่าอนิเมะจะเป็นอนิเมะยาวกว่า 20 นาที ประกอบด้วยตอนย่อยประมาณ 5 ตอนเป็นต่ำก็ตาม แต่ด้านลายเส้นตัวละครพยายามเหมือนต้นฉบับ แต่ประเด็นคือดันเหมือนเกินไป เพราะลายเส้นตอนแรกๆ ยังไม่เข้าที่เลย ใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่สมส่วน แต่อนิเมะดัดลอกลายเส้นนี้มาเสียอย่างนั้น ส่วนงานเคลื่อนไหว ส่วนตัวผมก็ไม่ได้อะไรกับมันมาก แต่หลายคนตัวละครแทบไม่เคลื่อนไหวเลย ขยับแค่ปากเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมว่าเป็นอนิเมะที่จัดได้ฮ่ามาก แม้จะดูต้นฉบับมาแล้วก็ตาม ส่วนหนึงเพราะเสียงพากย์ตัวละคร ทั้งเสียงแอ๊บแบ๊วของสามหน่อ เสียงผู้หญิงแบบทอมบอย (จิกกี๋) และเสียงผู้ชาย ที่ทำออกมามีจังหวะ เข้ากัน มาก โดยรวมแล้วเป้นอนิเมะที่ผมดูตั้งแต่ต้นจบจบตอนที่ 1
Hataraku Saibou
Hataraku Saibou (การทำงานของเซลล์) เป็นอนิเมะอิงจากมังงะชื่อเดียวกันของ Shimuzu Akane เคยติดอันดับในไกด์บุ๊ค Kono Manga ga Sugoi! (มังงะเรื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก)
สำหรับเนื้อเรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่างๆ ในร่างกาย มาเป็นมนุษย์ (มีทั้ง แบบโหด, โลลิ, โมเอะ) โดยในร่างกายของมนุษย์มีเซลล์ต่าง ๆ รวมมากถึง 60 ล้านล้านเซลล์ที่มีหน้าที่สำคัญต่างกันไป ร่างกายมนุษย์หากเกิดบาดแผลพวกไวรัสและแบคทีเรียจะบุกเข้าสู่ร่างกาย หรือในตอนที่ภูมิแพ้กำเริบเซลล์ทุกเซลล์ตั้งแต่เม็ดเลือดขาวยอดมือสังหารไปจนถึงเซลล์ประสาททุกเซลจะต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อต่อสู้กับวิกฤตในร่างกาย!
ตอนแรกก็กล่าวถึงน้องเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปยังที่ต่างๆ ของร่างกาย ระหว่างทางเจอโรคแบคทีเรีย และนายเม็ดขาวออกมากำจัด นึกว่าดูการ์ตูนต่อสู้ แต่แฝงด้วยความโมเอะ และมีสาระ
สมัยก่อน การ์ตูนช่อง 7 เคยมีการ์ตูนแนวๆ นี้ (จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร คง เปิดโลกความรู้ ร่างกายของเราอะไรนี้แหละ) ที่นำเสนอดระบบร่างกายของเราแบบเข้าใจง่ายด้วยการเปลี่ยนเซลล์มาเป็นตัวการ์ตูน (แต่ไม่โมเอะนะ) เช่น เม็ดเลือดขาว เกลียดเลือดแดง มาเป็นคน
ฉากที่ผมจดจำในการ์ตูนเรื่องนั้นคือ การแสดงให้ว่าการสูบบุหรี่มีผลต่อสภาพร่างกายยังไง เมื่อเซลล์เริ่มตายจากการคุกคามจากอันตรายของบุหรี่
สมัยก่อนการ์ตูนไม่โมเอะ ประกอบกับตอนนั้นยังเด็กดูแล้วไม่เข้าใจเรื่องยากๆ เลยไม่เข้าใจ พอโตขึ้น จู่ๆ อยากดูซะงั้น แล้วมันก็หาดูไม่ได้แล้ว
ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมดู และนึกถึงวันเก่าๆ อีกครั้ง ดูไปแล้วเจ็บปวดไงไม่รู้ แพราะเราทำร้ายร่างกายของเรา ด้วยการปล่อยตัวให้อ้วนฉุ และเป็นหวัดบ่อยๆ ถ้าร่างกายของเรามีชีวิตแบบในการ์ตูน คงด่าว่าผมแล้วมั้ง
ภาพการ์ตูนได้มาตรฐาน สำคัญอยู่ที่เนื้อหามากกว่า เป็นอนิเมะที่นำเสนอความรู้ ผสมกับความโมเอะ (พึ่งรู้ว่าตรูมีโลลิอยู่ในตัวด้วย) ทำให้ไม่น่าเบื่อมากเกินไป กลับกันก็อยากรู้ว่าการ์ตูนจะเปรียบระบบร่างกายของเราเหมือนอะไรบ้าง
สรุปแล้วเป็นการ์ตูนตลก ได้ความรู้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกรักตัวเอง อยากดูแลสุขภาพของตัวเอง และรักชีวิตเราด้วย อย่างน้อยเราก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก และเซลล์ก็เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ตลอดกาลของเรา
Chio-chan no Tsuugakuro (Chio's School Road)
Chio-chan no Tsuugakuro (Chio's School Road) “จิโอะจัง แม่หนู โหด มัน ฮา” (ยัยหนูจอมมโน) เป็นอนิเมะดัดแปลงจากการ์ตูน ของ Kawasaki Tadataka โดยเป็นเรื่องราวของสาวแว่นจิโอะจัง ซึ่งเป็นยัยหนูเกมเมอร์ตัวยง ที่มักมโนชีวิตประจำวันที่แสนน่าเบื่อ ให้ตื่นเต้น เร้าใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาไปโรงเรียนตอนเช้า
เนื้อเรื่องความจริงก็ชีวิตปกติธรรมดา แต่ยัยหนูแว่นเปลี่ยนจนไม่ธรรมดา เช่นจะเดินทางไปโรงเรียน ไปเจอทางกำลังซ่อมบำรุง พอดีเมื่อคืนยัยหนูแว่นเล่นเกมนักฆ่าไต่กำแพง ผลคือยัยหนูไต่กำแพงข้ามถนนซ่อมบำรุง จนเกิดเรื่องฮ่าตามมา ทั้งเรื่องเราจะเห็นยัยหนูแว่นมโน คิดมาก วางแผน และหักมุมตอนจบ.......(หักมุมจริงๆนะ)
หนึ่งตอนประกอบด้วยสองตอนย่อยของมังงะ มุกอาจดูธรรมดา บ้าง (ความจริงไม่บ้างหรอก คือเน้นไปทางยัยหนูแว่นคิดมาก คิดเยอะ แล้วผลสรุปสิ่งที่เธอเลือกมันโครตเป็นโอเวอร์เป็นไปไม่ได้เลย เช่น เพื่อนร่วมห้องที่แทบไม่รู้จักกันทักระหว่างทาง ยัยหนูแว่นก็คิดเยอะ ว่าจะทำยังไงดี จะทักก็กลัวหน้าแตก หรือเมินก็กลัวอีกฝ่ายโกรธ ผลคือยัยหนูแว่นทำสิ่งที่หลายคนไม่คิดจะทำกัน ซะอย่างนั้น)
หลายคนมักบ่นว่าชีวิตน่าเบื่อ ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ บางทีมันอยู่ที่การมองโลกของคน บางทีเราต้องคิดบวกกับชีวิต พยายามหาสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต อย่างหนูแว่นที่ชีวิตทำซ้ำๆ ซากๆ จนวันหนึ่งเกิดอยากทำอะไรที่นอกกรอบบ้าง แค่ปีนกำแพง ปีนหลังคาบ้านคนอื่น มันก็กลายเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไป บางทีการทำอะไรใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนลงแรง หรือเงินอะไรเลย เพียงแค่ทำสิ่งที่แตกต่างจากชีวิตประจำวัน ลองไปเส้นทางใหม่ๆ ที่ต่างจากเดิมดู
Overlord 3
หลังจากโอเวอร์ลอร์ดจอมมารพิชิตโลก ซีซั่นสองจบในเดือนมีนาคมไปไม่นาน ก็มีประกาศว่าอนิเมะ “โอเวอร์ลอร์ด จอมมารพิชิตโลก” จะมีภาคที่ 3 ในเดือนกรกฎาคม 2018 เรียกว่าตามใจแฟนๆ ที่อยากดูต่อ สมใจอยากเลยทีเดียว
สำหรับซีซั่น 3 ตอนที่ 1 นังไม่มีอะไรมาก เน้นไปทางชีวิตประจำวันของพวกกระรอก ใครที่ งง บา\งจุดก็คงต้องอ่านนิยายกันเอง (จำไม่ได้ว่าเล่มรที่เท่าไหร่) แต่นั้นเป็นเพียงการผ่านคลายเพื่อเข้าสู่เนื้อหาหลักเท่านั้น
ยอมรับว่าหลังจากนี้เนื้อหาโอเวอร์ลอร์ดผมก็ไม่รู้รายละเอียดอีกต่อไป ส่วนใหญ่ดูจากสปอยหลักๆ สิ่งที่รู้คือเนื้อหาต่อจากนี้จะมีความเป็นดาร์กแฟนตาซีมากขึ้น รวมไปถึง เนื้อเรื่องเข้มข้น สลับกับเนื้อหาที่มีอะไรผ่านคลายบ้าง ที่สำคัญบทบาทของกระรอก (ไอซ์) อาจน้อย แต่จะมากกว่าภาคสอง แต่บทฉากสำคัญทั้งสิ้น รวมไปถึงจุดจบของตัวละครหลักบางตัวภาคนี้ และสิ่งสำคัญคือช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในนิยายเรื่องนี้ด้วย ไม่รู้ว่าอนิเมะจะถ่ายทอดความโหดร้าย หรือจะยึดตามแบบนิยายเน็ตต้นฉบับ
เอาง่ายๆ มันเลวร้ายถึงขั้นว่า บางคนเลิกอ่านนิยายเรื่องนี้ไปเลยทีเดียว ส่วนเลวร้ายยังไง ผมไม่ขอพูดถึง เอาไว้ดูอนิเมะ สิ่งที่บอกได้มีเพียงหลักการคิดของพระเอกนี้ที่ผ่านมามันเทาๆ เขาเลวมา เราก็เลวกลับ แต่คราวนี้มาเป็นดาร์กไปเลย
ส่วนโดยภาพรวม ตัวอนิเมะก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ยังคงลายเส้นเดิมอย่างที่ผ่านมา ส่วนเนื้อหาอาจตัดทอนนิยาย อาจมีส่วนประทับใจและไม่ประทับใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงเป็นอนิเมะที่ติดตามอย่างใกล้ชิดในอนิเมะซีซั่นนี้
Joshiochi!: 2-kai kara Onnanoko ga... Futtekita!?
เป็นเรื่องราวของไอคาว่า โซสึเกะ พนักงานพาร์ทไทม์ที่ได้มาอยู่ในอพาร์ทเมนต์เก่าๆ แห่งหนึ่ง ระหว่างกำลังมีความสุขกับการระบายอารมณ์บนเตียงตามลำพัง อันยู สึนาโอะ สาวสวยที่เขากำลังฝันถึงได้ตกจากชั้นสองมาคล่อมท่อนล่างของเขาพอดี จนทำให้เขามีอะไรกับเธอ เรื่องราวเริ่มวุ่นวายขึ้น เมื่อ ชิมิสึ ยูกิ ผู้ดูแลหอพักได้เข้ามาเห็น
อนิเมะดัดแปลงจากมังงะสำหรับผู้ใหญ่แนว 18+ Onna no Ko ga Ochita saki wa, Ore no Musuko no Sakippo Deshita ผลงานของ HatoKonro
ตอนแรกว่าจะปล่อยด้านมืดเต็มที่ปรากฏว่าเป็นอนิเมะสั้นแค่ 4 นาทีเท่านั้นไปค้นดูว่ามันมีสองแบบ คือแบบสั้นจะเป็นแบบไม่จำกัดอายุ และแบบสมบูรณ์จะจำกัดอายุซึ่งอยู่ที่เว็บไซต์เว็บไซต์หลักซะงั้น (แล้วเว็บไซต์หลักนี้ต้องมีใบอนุญาตหรือเปล่าถึงจะดูได้)
อย่างไรก็ตามในแง่สายมืดแล้ว เรื่องนี้ธรรมดาไปนะ มันก็ฮาเร็มก็จริง (ตอนแรก ffm แต่ตอนหลังเพิ่มสาวอีกคนแล้ว มีดราม่าหน่อยๆ เข้ามา แต่ก็แสดงความเป็นฮาเร็มดีนะ แม้เรื่องจะไม่ได้เด่นอะไรมากก็เถอะ (สาวคนแลรกเปลี่ยนทรงผมทำไมหว่า ความน่ารักหายหมด)
Yami shibai season 6
Yami Shibai ทีวีอนิเมะแนวลึกลับสยองขวัญ ได้ดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 6 แล้ว ซึ่งมีจุดเด่นการเล่าเรื่องแบบนิทานกระดาษ พร้อมกับมีคนบรรยายเรื่อง เหมือนเดม เพิ่มเติมคราวนี้ฉากเปิดเรื่องไม่ใช่สวนสาธารณะอย่างที่เคย แต่มันเหมือนกลางป่าท่ามหมอก และธีมของเรื่องจะเกี่ยวข้องกับบรรดาปรากฎการณ์ทางธรรมชาติรอบๆตัวเรา
สำหรับตอนแรก เป็นเรื่องนี้เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ามาตั้งแต่เด็ก อยู่มาวันหนึ่งก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นในคืนที่ฝนตกหนัก ที่มีฟ้าผ่า เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากแม่ที่ทิ้งเขาตอนเด็ก
ปกติก็เป็นอนิเมะทุนต่ำอยู่แล้ว มาคราวนี้ทุนต่ำมากขึ้นไปอีก เพราะคราวนี้ภาพแทบไม่เคลื่อนไหวเลย และยังคงจบ งง โดยไม่เฉลยให้กระจางเหมือนเดิม
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อน หลายคนอยากเห็นผีออกมาตุ้งแช่ แนะนำให้ไปดูเรื่องอื่นเถอะ เพราะช่วงหลังๆ ซีรีย์นี้เน้นไปเรื่องจิตใจดำมืดของมนุษย์ เน้นให้คนดูตีความเอาเอง ว่าแท้จริงแล้วตัวละครนั้นไปทำอะไรไว้กันแน่ ซึ่งเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เฉยอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะ คนที่ดูก็พอเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ถ้าให้พูดตรงๆ ผมว่า ผมชอบตอนนี้นะ นำเสนอเรื่องความเป็นแม่ ที่รักลูก กับความทรงจำของลูกที่ถูกพ่อปกปิดเอาไว้ สิ่งเหล่านี้นำไปสู้เรื่องหลอนๆ ที่ผมว่าเข้าใจง่าย และโอเคเลนทีเดียว ผมว่าซีซั่นนี้จะตามสักหน่อย
One Room
แม้ว่าจะเป็นอนิเมะที่ถูกตำหนิมาก ในซีซั่นแรก (เพราะเนื้อหาแทบไม่มีอะไรเลย) แต่ผมก็ดู และตอนนี้มันก็เข็นมาทำซีซั่นสองจนได้ โดย One Roomออริจินัลอนิเมะ จำนวน 12 ตอนจบ ตอนละประมาณ 4 นาที มีจุดเด่นในเรื่องมุมมองแบบบุคคลที่ 1 จากภาคแรกเราจะสวมบทบาทเป็นชายหนุ่มที่ได้สนิทกับผู้หญิงสามคน คือ ยุย นัตสึกิ และ โมกะ ภาคแรกผลิตโดย Typhoon Graphics ดีไซน์ตัวละครโดย Kantoku (Imouto sae Ireba Ii., HenNeko)
สำหรับภาคนี้ ยัยคนแรกยังอยู่ แต่บทน้องสาวและเพื่อนสมัยเด็กถูกตัดออก แล้วเพิ่มตัวละครใหม่สองคนเข้าไปแทน เอาตรงๆ คือผมเซ็งมาก แล้วทำไมสาวมหาลัยห้องข้างๆ คนแรกยังอยู่ฟ่ะ (เพราะเป็นตัวละครที่ผมชอบน้อยที่สุด และไม่ดูด้วยซ้ำ) ถ้าสองคนใหม่ไม่พีคพอ ก็จะไม่ดูเรื่องนี้แล้ว
Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu
“Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu” หรือ “จอมมารต่างโลกกับบริวารสาวนักอัญเชิญ” สำหรับเรื่องนี้เป็น Light Novel แนวต่างโลกที่สนุกมากอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้เป็นผลงานของ Murasaki Yukiya และได้อาจารย์ Tsurusaki Takahiro มาเป็นผู้วาดภาพประกอบให้
เนื้อเรื่องกล่าวถึง MMORPG ที่มีชื่อว่า Cross Reverie นั้นซาคาโมโตะ ทาคุมะ เป็นผู้ทรงพลังแข็งแกร่งเหนือชั้นชนิดที่เพลเยอร์คนอื่นๆ ต่างพากันเรียกว่า ‘จอมมาร’ (ในเกมเขาเป็นจอมมารจริงๆ) แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกอัญเชิญไปสู่โลกต่างมิติโดยอยู่ในร่างที่ใช้ภายในเกม ที่นั่นเขาได้พบกับสาวน้อย 2 คนซึ่งต่างก็ยืนกรานว่า ‘ฉันนี่แหละ คือ ผู้อัญเชิญ’ พวกเธอร่ายเวทเปลี่ยนอสูรอัญเชิญให้กลายเป็นทาสใส่ทาคุมะทว่าพลังพิเศษเฉพาะตัว สะท้อนเวท ก็ทำงานขึ้น
คนที่กลายเป็นทาสกลับกลายเป็นเหล่าสาวน้อย จึงทำให้ทาคุมะรู้สึกปั่นป่วน เขาเป็นจอมขมังเวทสุดแกร่งก็จริง แต่ไร้ซึ่งความสามารถในการสื่อสารโดยสิ้นเชิง คำแรกที่พูดออกมาหลังจากกลุ้มใจก็มาจากบทบาทจอมมารที่เขาใช้ภายในเกม ‘ฉันสุดยอด งั้นเรอะ แน่นอนอยู่แล้ว นามของข้าคือเดียโบล ผู้เป็นที่เกรงกลัวในฐานะ จอมมารนะ’ เรื่องเล่าขานแห่งการผจญที่ไม่หยุดยั้งด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของจอมมาร (ตามบท) ผู้ซึ่งจะทำให้โลกสะท้านสะเทือนในไม่ช้า เปิดฉากขึ้นแล้ว
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้ดัดแปลงจากนิยายเน็ต แต่เป็นผลงานของคนแต่งนิยายก่อนหน้านี้มีหลายเรื่องพอสมควร ไม่ใช่นักเขียนหน้าใหม่ จากเว็บมาแต่งนิยายกันเถอะแต่อย่างใด
เนื้อหาจะดูเป็นแนวต่างโลก แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ไว้ก็คือเรื่องนี้มีอะไรแตกต่างจากต่างโลกอื่นๆ ก็คือ “เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับรูทสาวๆ ในเรื่อง” ใช่ครับ เน้นเรื่องรูทสาวๆ ในฮาเร็มของพระเอก ตัวหลักสองคนคือ หูแมว กับเอลฟ์ มีความสำคัญเท่าๆ กัน และสาวคนอื่นๆ ก็กำลังมีบทสำคัญเช่นกัน และแต่ละคนมีปมปัญหาแตกต่างกัน ซึ่งอร่อยมาก ที่ได้เห็นจอมมารปักธงสาวๆ แน่นอนรวมถึงเซอร์วิสด้วย (ส่วนฮาเร็มจอมมารนี้จะมีกี่คน ผมไม่ทราบได้ เพราะสปอยออกมาน้อยเหลือเกิน) ซึ่งปกติต่างโลกฮาเร็ม จะไม่ได้เน้นเรื่องรูทสาวๆ มากนัก เน้นการเดินทาง และปักธงง่ายเกินไป
แม้เนื้อหาจะยังคงวนเวียนกับเกิดใหม่ต่างโลก ได้รับสกิลโกง แต่ส่วนตัวผมว่าการดำเนินเรื่องสนุกดี (แม้จะรู้สูตรของมันก็ตาม) และการปล่อยท่าไม้ตาย ก็ได้อารมณ์ยิ่งใหญ่พอสมควร ส่วนตรงต้นฉบับหรือไม่นั้น ก้ตอบว่าตัดบางส่วนออก แต่โดยส่วนตัวผมว่ายังไหลลื่น ไม่สะดุดสาระสำคัญ
ที่สำคัญตัวละครทำออกมาได้น่ารักกว่าที่คิด
Hyakuren no Haou to Seiyaku no Valkyria-
Hyakuren no Haou to Seiyaku no Valkyria เป็นอนิเมะจากนิยายผลงานการแต่งเรื่องของ Takayama Seiichi และวาดภาพประกอบโด Yukisan
โดยเนื้อหา เป็นเรื่องราวของพระเอก Suoh Yuuto ได้หลงไปยังโลกหนึ่ง ที่วัฒนธรรมเหมือนกรีกโบราณ และมีชนเผ่าต่างๆ ขัดแย้ง ก่อสงครามแย่งชิงกัน แล้วโชคชะตาพระเอกได้เป็นหัวหน้าเผ่า “หมาป่า” เผ่าที่อ่อนแอเวลานั้น หากแต่พระเอกได้ใช้ความรู้จากยุคปัจจุบัน ปรับปรุงมันจนกลายเป็นกองทัพแกร่ง พร้อมกับสาวๆ ในฮาเร็มที่มีพลังวิเศษ โดยพระเอกมีเป้าหมายรวบรวมชนเผ่าและหาทางกลับบ้านให้ได้
เป็นแนวต่างโลก (หรืออาจไม่ใช่ต่างโลกก็ได้ เพราะพระเอกสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นที่ใดสักแห่งบนโลกใบนี้) ที่เน้นไปทางการทำสงคราม จะว่าไปมันก็คงเหมาะทำอนิเมะมั้ง เนื้อหาอารมณ์คล้ายๆ ฮาเร็มพิชิตปฐพี พระเอกเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วแม่ทัพเป็นผู้หญิงสู้กับเผ่าอื่นๆ (เผ่าที่ล่มจมส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นหัวหน้าเผ่า ส่วนเผ่าที่ผู้หญิงเป็นหัวหน้าจะเป็นพันธมิตรพระเอก โครตดีงาม)
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจหงุดหงิดตอนแรก เพราะเริ่มต้นมาแทบไม่กล่าวเนื้อเรื่องอะไรเลย โผล่พระเอกก็ทำสงคราม บลาๆ เป็นใหญ่ สมานโฟน คุยกับเพื่อนสมัยเด็ก โชว์การปักธงผมชมพู จนดูเหมือนโหวงๆ ไงบอกไม่ถูก
ความจริงตอนแรกที่เห็นนั้นถอดมาจากตัวต้นฉบับเลย ในต้นฉบับพระเอกเล่าความหลังอะไรบ้าง แต่อนิเมะไม่มีจุดนั้น และกว่าจะเล่าที่มาที่ไปว่าทำไมพระเอกเป็นหัวหน้าเผ่า ทำไมยังมีความขัดแย้งในอาฯจักรพระเอก (พวกผู้ใหญ่ในเรื่องนี้น่าเขกกะโหลก)
เรื่องนี้พระเอกก็ไม่ได้เก่งอะไรมากหรอก คนธรรมดาเลย เพียงแค่อยู่ถูกที่ถูกเวลา ได้ตั้งเป็นหัวหน้าเผ่า แล้วมีสกิลสมานโฟน ได้นำความรู้จากอัจฉริยะโบราณ (ที่หาได้เพียงกดกูเกิ้ล) รู้ทั้งกระบวนจัดทัพ การเจรจา จนสำเร็จได้ดี ดังนั้นกรุณาให้ความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เรียนรู้การทำดินปืน การประดิษฐ์อะไรให้มากๆ จะช่วยได้เยอะหากเราไปต่างโลก (คงเกิดอยู่หรอก)
ส่วนจะมีโมเมนต์ฮาเร็มหรือไม่นั้น ก็....นะ นิยายเน็ตเนอะ
อย่างไรก็ตาม ใครที่เป็นพวกมาเนียสงครามโบราณ อาจอารมณ์ขึ้นได้ บวกกับการแต่งกายตัวละคร (แบบกรีก โรมัน) ผมสี อะไรนี้คงขัดไม่น้อย
ส่วนเรื่องตัดนี้ ก็ถือว่าตัดเนื้อหาเยอะพอดี โดยเฉพาะจุดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ขาดช่วงอารมณ์ได้ แต่รวมๆ แล้ว ผมชอบโมเมนต์ฮาเร็มแบบนี้นะ
Asobi Asobase
Asobi Asobase เป็นอนิเมะจากมังงะแนวคอมเมดี้ของสาวน้อย เป็นผลงานของ Suzukawa Rin (Little Chaos) เขียนลงใน Young Animal Densi ของสำนักพิมพ์ Hakusensha ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน
เนื้อหา Asobi Asobase ดูเผินๆ นึกว่าเป็นแนวคอเมดี้โมเอะชีวิตประจำวันธรรมดา แต่ขอบอกว่าคุณโดนปกหลอกแล้วละ เพราะเนื้อหาอาจเหมือนแนวสาวน้อยธรรมดาทั่วไป แต่มันจุดขายคือสีหน้าประหลาดของพวกตัวละครสาวๆ ที่ตบมุกกันได้อย่างมีอารมณ์มาก
ตัวละครก็เด่น เริ่มจากสาวแว่นที่ตอนแรกกลายเป็นตัวตบมุก แต่กลายเป็นตัวละครปล่อยมุกซะงั้น เมื่อเธอไปขอสาวลูกครึ่งบ้านย้ายมาใหม่ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ แต่กลายเป็นว่ายัยลูกครุ่งมันไม่ได้เก่งอังกฤษอะไรเลย แต่แกล้งอำคนอื่น ไปๆ มาสาวแว่น ยัยเด็กฝรั่งดอง กับยัยสมองกลวง (เพื่อนคนแรกของยัยฝรั่งดอง) มาตั้งชมรมวิจัยการเล่น ความฮ่าเลยบังเกิด
สรุปว่าเป็นอนิเมะหลอกลวงเพลงเปิดมากๆ เพลงเปิดนี้อยากกับแนวยูริ โรแมนติก แต่เนื้อหามันแนวอะไรว่ะ หลอกตั้งแต่หนึ่งนาทีที่อนิเมะเริ่ม สนุกตรงสีหน้าตัวละครนี้แหละ จากตัวละครน่ารัก ทำสีหน้าซะ.........หมดกันความโมเอะ
แถมคาแร็คเตอร์ตัวละครมัน........ขัดแย้งกันมาก.........
ตอนที่หนึ่งชุดว่ายน้ำโรงเรียนละ
กลายเป็นว่าเป็นอนิเมะที่ฮ่าที่สุดของซีซั่นนี้ด้วยซ้ำ
Yuragi-sou no Yuuna-san
Yuragi-sou no Yuuna-san เป็นอนิเมะดัดแปลงจากมังงะฮาเร็มแฟนเซอร์วิสขวัญใจหนุ่ม ๆ ของ Miura Tadahiro ประจำนิตยสาร Weekly Shounen Jump เป็นเรื่องราวของ ritgvdไม่เกรงกลัวผีสางใดๆ แถมยังมีพลังวิญญาณ(ต่อย)ขับไล่ผี ปีศาจ แต่ปัญหาคือเขายากจน ไม่มีอะไรจะแด๊ก จนวันหนึ่งได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าราคาแสนถูก และได้พบว่าห้องที่เขาพักอยู่นั้นมีผีสาวอาศัยอยู่ และสมาชิกหอพัก (ที่มีแต่ผู้หญิง) ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา เรื่องราวชวนอลเวงจึงได้เริ่มต้นขึ้
เอาตรงๆ นะ แม้จะเป็นแนวฮาเร็ม แต่ผมไม่อยากจะดูพักผ่า เนื้องด้วยมันเป็นการ์ตูนจัมป์ ผู้ขึ้นชื่อว่าไม่คึยจบแนวฮาเร็ม คลั่งการจับวิน แถมผลงานของคนวาดนี้ล้มเหลวมาจากไอดอลด้วย พอมาทำแนวเซอร์วิสฮาเร็มจ๋าผลงานก็ดีๆ ขึ้นๆ ลงๆ (หนักไปทางตาราง) หลังๆ หนักไปทางเซอร์วิส ตัวละครโผล่เยอะ (ตามสไตล์จัมป์) ส่วนสาเหตุท่าสร้างพระเอกให้ต่อยตีเก่ง ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะถือเวอร์วิสไม่รุ้งก็กะให้แอ็คชั่นไปเลย พอดีเซอร์วิสมันรุ่ง แอ็คชั่นเลยพับเก็บไป
ตัวอนิเมะก็ภาพดีนะ เซอริวิสก็ดี แต่...... ไม่รู้สิ มันพล็อตหอพักที่เห็นบ่อยๆ นี้สิ
ประเด็นคือนางเอกหลัก ผีลาล่านี้ เป็นนางเอกตัวประกอบเลยแหละ ในเมื่อสาวๆ รอบตัวพระเอกมันเลเวลสูงกว่า (แถม ทวิรเทลผมม่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกรักคนแต่ง อีเวนส์โผล่บ่อยมาก แต่ทำไมเพลง OP หายไปไหนหว่า)
Planet With
คุโรอิ โซยะ เด็กหนุ่มความจำเสื่อมที่อาศัยอยู่กับคนประหลาด (แมวยักษ์ กับสาวเมด) ทั้งอย่างนั้นด้วยความที่เจ้าตัวไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงได้ใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่แล้วชะตากลับพลิกผัน เมื่อมีประกาศอพยพผู้คนเนื่องจากพบวัตถุบินปริศนาปรากฏขึ้นเหนือชายฝั่งของเมือง และพบกับฮีโร่แห่งแสงผู้คอยช่วยเหลือโลก .....
Planet With เป็นแนวขับหุ่นนอกสายตาในซีซั่นนี้ ผมเชื่อว่าหลายคนกำลังโมโหกับ Darling in the FranXX อยู่ (ก็บอกแล้ว อย่าไปดู ไม่เชื่อเอง ยาบิกุอย่าติดเชื้อมาทำ To Love Ru ไม่งั้นโกรธด้วย) แต่ขอบอกว่าแนวขับหุ่นเรื่องนี้มีธีมแตกต่างกันมาก
แม้ว่าผลคะแนนตอนแรกอนิเมะเรื่องนี้น้อยไปหน่อย ส่วนหนึ่งพล็อตก็ไม่ได้หวือหวา หรือไม่มีอิมแพคเหมือน Darling in the FranXX สักเท่าไหร่ แต่โดยส่วนตัว ผมว่าน่าสนใจอยู่ดี ส่วนหนึ่งคือมันเป็นแนวขับหุ่นที่มีธีมเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง
คือจากที่ผ่านๆ มาแนวขับหุ่นดังๆ จะเป็นแนวอนาคต สู้กับศัตรูรุกราน หนุ่มสาวถุกเกณฑ์มาขับหุ่น มาคราวนี้ติดดิน ด้วยการนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันในโรงเรียน ญี่ปุ่นที่แสนสงบสุข ตัวเอกเป็นคนธรรมดา และผู้รุกรานหุ่นยักษ์ พระเอกถูกเลือก ขับหุ่นออกไปต่อสู้ พล็อตสูตรสำเร็จที่สมัยนี้จะมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่มันเป็นพล็อตที่เราคุ้นเคยสมัยเด็ก
พล็อตนี้ดีอยู่อย่าง คือมันจะไม่ดราม่ามาก เหมือนแนวที่ธีมเป็นโลกอนาคต เน้นเรื่องจิตใจ การเติบโตของตัวเอกมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีจุดหักมุมอยู่หนึ่งอย่า เมื่อพระเอกจะต้องเป็นคนปราบผู้ปกป้องโลก ทั้ง 7 (ถ้าถาษาเซ็นไต คือฮีโร่คนที่ 6 มั้ง แต่เรื่องนี้มีฮีโร่ 7 คน งั้นพระเอกคงเป็นฮีโร่คนที่ 8 ) ด้วยเนื้อหาแบบนี้ก็ทำให้หลายคนสนใจว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครดี ใครร้าย ขอบอกเลยว่า นานแล้วครับ ที่เราไม่ได้เห็นแนวขับหุ่นที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยเนื้อหาที่โยนคำถาม ให้คนดูเกิดความอยากรู้มากขนาดนี้
เอาเป็นว่าใครอยากรู้มันคืออะไร ก็ติดตามเอา
ส่วนตัวมันเป็นแนวขับหุ่นที่น่าสนใจดีนะ ขึ้นชื่อมิสึคามิด้วย งานภาพเองก็ดูดี งานออกแบบหุ่นจะดูไม่หวือหวาก็เถอะ (ดู รกๆ นิดหน่อย)
สำหรับชื่อของคนเขียนบทอย่างมิสึคามิ หลายคนก็คงคุ้นๆ กับ
Spirit Circle, Ore no Mangamichi)
ซึ่งธีมเรื่องก็เหมือนผลงานก่อนๆ ด้วย (ปล. มีไข่ฮีสเตอร์ด้วยนะ)
Satsuriku no Tenshi
Satsuriku no Tenshi เป็นอนิเมะดัดแปลงจากเป็นเกมแนว Adventure สยองขวัญจิตวิทยาออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2015 และได้รับดัดแปลงเป็นฉบับมังงะปัจจุบันมีรวมเล่มออกมาแล้ว 4 เล่ม และเล่มที่ 5 จะวางจำหน่ายปี 2017 นอกจากนี้ยังมีภาคแยกอย่าง Satsuriku no Tenshi Episode.0 และ มังงะ 4 ช่อง Satsuten! อีกด้วย
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ เรเชล การ์ดเนอร์ (ต้นฉบับญี่ปุ่นชื่อ เรย์) เด็กสาวอายุ 13 ปีตื่นขึ้นมาโดยที่จำอะไรไม่ได้เลยแล้วพบว่าตนเองติดอยู่ในตึกร้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ และเและถูกตามล่าโดย แซ็ค ชายปริศนาที่ถือเคียว ภายหลังทั้งสองได้พยายามหาทางออกร่วมกันหาทางออกจากตึกนรกนี้ให้ได้
ตอนแรกผมก็สงสัยนะ ว่า เกม RPG Maker มีตั้งเยอะ (พ่อโรคจิต, บ้านแม่มดฅ โลกศิลปะสยอง) แต่เลือกเรื่องนี้มาทำเป็นอนิเมะ เดาๆ ว่าอย่างน้อยเนื้อเรื่องคงยาว (ความจริงตัวเกมก็ไม่ได้ยาวสักเท่าไหร่หรอก หากเดาทางได้) และมีแอ็คชั่นละมั้ง ถึงเลือกทำออกมา (แลที่สำคัญเกมนี้แนวสำคัญตรงที่เนื้อหาของเรื่อง ปริศนาของเรื่อง จุดหักมุมด้วย)
ยอมรับว่าไม่ได้เล่นเกมนี้ และไม่ได้ดูแคสเกมนี้ด้วย เรียกง่ายๆ ดูอนิเมะโดยไม่รู้ว่ามันมีเนื้อหาอะไร
สำหรับตอนแรกนั้น ยอมรับว่าสนุกกว่าที่คิดเอาไว้ เนื้อหาออกไปทางสิ้นหวัง มืดมน แต่ไม่ได้ปวดตับอะไรมาก (อยู่ในขั้นรับได้) บรรยายดูลึกลับ ดำเนินเรื่องได้มีจังหวะ ไอเดียก็อารมณ์เกม RPG Maker (ตัวเอกหนีพวกโรคจิต สัตว์ประหลาดทั้งหลายแหล) ที่สำคัญนางเอกเรื่องนี้น่ารักมากๆ แม้ว่าตอนนี้น้องเกล็ดเลือดจะได้รับความนิยมล้นพ้น แต่นางเอกเรื่องนี้น่ารักจริงๆ ครับ
แบบว่าผมเอาใจช่วยเธอตลอดทั้งตอน ไปเจอคนโรคจิต ก็ด่าว่าอย่ามาแตะต้องเธอนะ และก็ตามสูตรก็มีคนมาช่วย แต่คนช่วยนั้นมันก็ช่าง................ เอาเป็นว่านางเอกน่ารัก คนโรคจิตก็โครตโดดเด่น
สรุปว่าเป็นอนิเมะตามแบบฉบับ RPG Maker สยองขวัญเลยก็ว่าได้ ที่โลกมืดมน บ้าคลั่ง โรคจิต หลอน แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เราจะพบอะไรบางอย่าง ที่ที่ก่อตัวขึ้น มันก็คือความหวัง ที่จะทำลายความมืดมน ซึ่งปลายทางจะดีหรือเลวก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
Harukana Receive
Harukana Receive เป็นอนิเมะแนววอลเลย์บอลชายหาด (หญิง) ดัดแปลงจากมังงะของ Nyoijiza โดยเป็นเรื่องราวของฮารุกะ มีความลำบากใจในเรื่องความสูงของเธอ และคานาตะเด็กสาวผู้อยากเล่นวอลเลต์บอลชายหาดแต่ติดปัญหาเรื่องความสูง ด้วยความสูงของฮารุกะ และความรู้ด้านกีฬาของ คานาตะทั้งสองจึงมาร่วมเล่นวอลเลต์บอลชายหาดที่โอกินาวะ
(ขอเวลาดูก่อน)
Angolmois – Genkou Kassenki
Angolmois – Genkou Kassenki เป็นอนิเมะผลงาน Takagi Nanahiko โดยเป็น เรื่องราวในปี 1274 เมื่อชาวมองโกลได้บุกเข้ามาหมายจะยึดครองประเทศญี่ปุ่น ทำให้กลุ่มซามูไรผู้กล้าหาญจำเป็นต้องพิทักษ์บ้านเกิดของตนเองไม่ให้ใครมายึดไปได้
(ขอเวลาดูก่อน)
Attack on Titan ซีซั่น 3
หลังจากภาค 2 หลายคนบ่นๆ กันว่าไม่มันเท่าภาคแรก (ตรงไหน) กับตอนน้อยไปหน่อย มีแค่ 12 ตอน มาคราวนี้ก็มีประกาศทำ Attack on Titan ซีซั่น 3 ตามมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถึงตอนพวกเอเรนเปลี่ยนแปลงเมืองหลวง เผยประวัติคริสต้า เอเรนถูกจับตัว และไททันมหึมามหายักษ์ เอาง่ายๆ ภาคนี้เน้นหนักไปทางการต่อสู้มนุษย์ด้วยกันเอง มากกว่าไททันอีก (ไททันแทบไม่ออกมาเลยในช่วงนี้)
สำหรับเพลงเปิด ที่หลายคนบ่นซีซั่นสองว่าฟังแล้วไม่ติดหูเหมือนภาคแรก ภาคนี้ยิ่งไม่ติดหูเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าไม่สนจุดนี้ ผมว่าเป็นเพราะดี และภาพสวยขึ้น สอดคล้องกับภาพอนิเมะที่สวยขึ้น เช่นกัน
สำหรับภาคนี้ไม่รู้ผลตอบรับดีหรือเปล่า เพราะว่าตัวต้นฉบับมังงะตอนนี้ก็ไปไกลมากโขแล้ว หลายคนเขาก็รู้ความลับต่างๆ ในโลกไททันจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ฉากน่าตกใจโผล่ออกมามากกว่า โดยส่วนตัวผมเองก็เลิกที่จะสนใจ Attack on Titan มาระยะหนึ่งแล้วด้วย เพราะประเด็นแรกๆ เกี่ยวกับมนุษย์ชาติสู้กับไททัน ล่าสุดมันหายไปแล้ว (ขอสปอยละกัน) ทั้งหมดเป็นเพียงแค่โฆษณาทางการเมืองเท่านั้น ช่วงหลังๆ ดูเอาให้รู้ว่ามันมีอะไรบ้างเท่านั้น ความรู้สึกอารมณ์ร่วมไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่
ก็อย่างที่บอก สำหรับภาคนี้ อารมณ์ความสิ้นหวังของมนุษย์ชาติหายไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เพราะภาคนี้น่าจะตอบคำถามคาใจหลายเรื่อง (สำหรับคนที่ไมได้อ่านมังงะ) ทั้งความเป็นมาของตัวละครสำคัญในเรื่อง และการศึกภายใน ที่ดูเข้มข้นไม่แพ้กว่าการต่อสู้กันไททัน
สรุปคือซีซั่นนี้ผมตามถึง 6 เรื่อง คือ
Hyakuren no Haou to Seiyaku no Valkyria-ดูเอาขำๆ อย่างน้อยก็มันแนวฮาเร็ม
Hataraku Saibou-สนุกดี
Overlord 3-ติดตามมาสองภาคแล้ว
Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu-ฮาเร็มดี
Planet With
Satsuriku no Tenshi-แนวเรื่องน่าสนใจดี เดี๋ยวดูเขาแคสเกมดีกว่า
มากกว่าซีซั่นก่อน 6 เท่า (เพราะตามเรื่องเดียว คือ เพอร์โซน่า 5) ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งต่างโลก สยองขวัญ และแนวขับหุ่น แต่ถ้าน่าติดตามที่สุดผมยกให้ Planet With ทั้งนี้การรีวิว และการดูการ์ตูนของผมเป็นเพียงรสนิยมส่วนตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็มีอนิเมะที่ตามนอกเหนือจากนั้น หรือไม่เห็นด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ละคน
สำหรับผมขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ ดูอนิเมะให้สนุกนะครับ
ความคิดเห็น