ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #473 : 3 ตัวละครหญิงในวีดีโอเกมแห่งปี 2018 ที่มีเนื้อเรื่องน่าตกใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.66K
      2
      9 ก.พ. 61

    เป็นบทความที่ผมน่าจะทำเมื่อปีก่อนนะครับ พอดีมันลืมสนิทเลย ว่าจะทำ  ส่วนหนึ่งทั้งสามตัวละครอยู่ในเกมที่ผมไม่ได้เล่น ไม่ได้เสพเนื้อเรื่องแต่อย่างใด กว่าที่จะมาสะกิดใจให้ผมสนใจได้ ก็ต้องไปเจอบทความ คนแคสเกมอธิบายเนื้อเรื่องเอา เห็นว่าน่าสนใจดี เลยเอามาเขียนอย่างที่เห็น

    สมัยก่อน เราเล่นวีดีโอเกมเพื่อเสพย์เกมเพลย์ ส่วนใหญ่เกมจะเป็นแนวแอ็คชั่น หรือไม่ก็เกมกะจังหวะ ซึ่งเกมเหล่านี้ยาก หัวร้อนมาก คนเล่นต้องอดทน และเมื่อชนะเกม จะรูสึกดีกับชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก

    เกมสมัยก่อน หลายเกมไม่มีเนื้อเรื่องเลย แม้แต่ร็อคแมน, มาริโอ ที่เป็นเกมโด่งดังของยุค ก็ไม่ได้มีการเล่าเนื้อเรื่องในเกมหรอกว่าเนื้อเรื่องที่มาเป็นยังไง ทำไมร็อคแมนต้องต่อสู้กับหุ่นยนตร์ ทำไมมาริโอ้ต้องไปช่วยเจ้าหญิง การที่จะรู้เนื้อเรื่องเหล่านี้ก็มาจากข้อมูลที่ปล่อยในนิตยสาร หรือข้อมูลจากผู้ผลิต หรือไม่ก็หนังสือคู่มือเกมที่แถมมาเท่านั้น

    จนเวลาผ่านไปอย่างยาวนาน เกมก็มีการพัฒนาเรื่อยๆ จากกราฟฟิก 5 บิต สู่ภาพกราฟฟิกที่โครตสมจริง สวยงาม รวมไปถึงการสร้างเกมที่มีเรื่องราว มากขึ้น เพราะเกมที่ประสบความสำเร็จแล้ว นอกจากเกมเพลย์จะต้องสนุกสุดยอด  เกมจะต้องมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น การเล่าเรื่อง รวมไปถึงการหักมุม ซึ่งจะไม่แปลกเลยที่การเล่นเกมบางเกม เสมือนกับเสพภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง

    และแน่นอนว่าสิ่งที่ควบคู่กับเนื้อเรื่องก็คือ ตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ตัวเอกชาย, ตัวเอกหญิง, ไปจนถึงตัวละครประกอบ ก็มีส่วนทำให้เกมประสบความสำเร็จ หากตัวละครมีเสน่ห์ คนก็เริ่มสนใจเนื้อเรื่อง และเนื้อเรื่องสนุก บทตัวละครทำออกมาดี ก็ทำให้คนเริ่มหลงรักเกมนี้ไป

    ในขณะเดียวกัน หากตัวละครสาวไม่โมเอะ ต่อให้เนื้อเรื่องดี หรือภาพสวยขนาดไหน คนแทบไม่อยากแล.... อย่าถามว่าผมหมายถึงเกมอะไร

    สำหรับบทความนี้จะเล่าเกี่ยวกับตัวละครหญิงในวีดีโอเกม ที่น่าอวยประจำปี 2018 ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนที่อ่านบทความนี้ก็คงคุ้นๆ กับพวกเธอบ้าง ซึ่งก็ยอมรับว่าทั้งสามคน ก็มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ มีเรื่องหักมุมไม่แพ้กัน

     

                    ปล. เนื่องจากทั้งสามตัวละคร มาจากเกมที่ผมไม่ได้เล่น (ยกเว้น FGO พึ่งเล่นสามวันก่อนตอนเขียนบทความนี้เอง ดังนั้นเนื้อหาส่วนใหญ่มาจากดูข้อมูลหลายแหล่ง ผิดพลาดขออภัยด้วย)

     

                    โมนิกะ (Monika | Doki Doki Literature Club)

    เกมชมรมวรรณกรรมโดกิ โดกิ (Doki Doki Literature Club! ) ถือว่าเป็นเกมที่สร้างเซอร์ไพร์ของใครหลายคน ขนาดคนแถวๆ นี้ เคยสบประมาณเกมนี้ว่า เกมจีบสาวพล็อตโครตสูตรสำเร็จเลยว่ะ (ดูถูกตั้งแต่ยังไม่ได้เล่น) จนกระทั่งได้ลอง ได้เล่น (เพราะเกมฟรี) ก็พบว่า โอ้โห้ เกมจีบสาวเหรอว่ะเนี้ย เนื้อเรื่องล้ำลึก โคตรจิตตกเลยฟ่ะ

     Doki Doki Literature Club! เป็นเกมจีบสาวสุดแนว (จิตวิทยาสยองขวัญ)  ที่สำคัญคือไม่ใช่เกมของคนญี่ปุ่น (แม้เนื้อหาจะเป็นญี่ปุ่นก็เถอะ)  แต่เป็นของทีม Team Salvato ที่หลายคนแทบไม่รู้จักโดยเผยแพร่ครั้งแรกสำหรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์, โอเอสเทน และลินุกซ์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2017  และในสตีม เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมในปีเดียวกัน

    ตอนแรกๆ ตัวเกมไม่ค่อยมีใครสนใจสักเท่าไหร่ เพราะภาพปกนึกว่าเกมจีบสาวธรรมดา หากแต่เมื่อหลายคนได้เล่น แล้วพบว่ามันไม่ใช่เกมจีบสาวธรรมดา เกิดกระแสปากต่อปาก จนทำให้เกมฟรีนี้มียอดดาวน์โหลดถึง 2 ล้านแล้วจนถึงปัจจุบัน

    โดยเนื้อหาเป็นเรื่องของตัวเอก (แล้วแต่เราจะตั้งชื่อ) ที่มีชีวิตเหมือนอยู่ในโลกเกมจีบสาว เริ่มต้นเกมมาเราจะรู้จักตัวละครหนึ่งชื่อ ซาโยริเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่บ้านอยู่ติดกัน ที่สนิทกับพระเอกมาก ชนิดว่า มีความผูกพันกันมากตั้งแต่เด็ก  เรียนที่เดียวกัน ไป-กลับโรงเรียนด้วยกันเกือบเป็นประจำ และแน่นอนว่าซาโยริแอบชอบตัวเอก แต่ไม่แสดงออก

     

    วันหนึ่งซาโยริได้ชักชวนเราให้เข้าชมรมวรรณกรรม ภายในชมรมมีสมาชิกผู้หญิงล้วนสามคน ประกอบด้วย

    -โมริกะ สาวหางม้า ที่ตอนแรกแทบไม่มีบทอะไรมากนัก เป็นสาวฉลาด มั่นใจสูง เป็นผู้นำ  และเป็นดาวเด่นของโรงเรียน เป็นที่หมายปองของทุกคน

     -นัตสึกิ เป็นสาวเตี้ยสุดในกลุ่ม ขี้โวยวาย ไม่อยู่นิ่ง ร่าเริง

     -ยูริ สาวน้อยที่ดูเรียบร้อย ชอบอ่านหนังสือ และเธอชอบทอดสะพานให้กับเราตลอด

     ช่วงแรกๆ เกมก็เหมือนเกมจีบสาวทั่วไป มีฉากพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสาวสี่คน แต่ที่แปลกคือตัวเกมแทนที่เราจะจีบสาว เลือกสาวที่ชอบ แต่ตัวเกมจะให้สาวๆ เข้ามาจีบเรา  แบบแสดงให้เห็นว่าพวกเธอนั้นแอบชอบเราอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะซาโยริกับยูริต่างทำแต้มกันอย่างเมามัน ส่วนโมริกะนั้นไม่ได้แสดงออกว่ารักเราสักเท่าไหร่  (ตัวเกมไม่มีตัวเลือกมากนัก ส่วนมากตัวเลือกสำคัญจะเน้นการตัดสินใจระหว่างเรากับเพื่อนสมัยเด็กมากกว่า)

    วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งถึงงานโรงเรียน (อีเวนส์สูตรสำเร็จเกมจีบสาว) ยูริได้ชิงแต้มเราก่อน ด้วยการขอไปบ้านตัวเอกเพื่อเตรียมงานโรงเรียนสองต่อสอง (เห็นชัดเลยว่าทอดสะพานสุดๆ)  แน่นอนว่าตัวเอกตอบตกลงแบบไม่มีขัด

    อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เรามีความสัมพันธ์กับยูรินั้น ซาโยริก็เริ่มทำตัวแปลกๆ ไม่เป็นตัวของตัวเอง และเราเห็นเธอน้อยลง  จึงแสดงความเป็นห่วง

    ในวันที่ยูริมาที่บ้านเรา ตัวเอกได้ไปบ้านของซาโยริ  เราก็ได้พบซาโยริที่ห้องนอน ซาโยริได้สารภาพว่ารักเรามากกว่าเพื่อน อีกทั้งรู้สึกไม่สบายใจที่ตัวเอกอยู่กับสาวสาววรรณกรรมเกือบทุกวัน แม้เธอจะดีใจที่เรามีความสุข แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกริษยา ทำให้เธอรู้สึกสับสนจิตใจ ไม่กล้าสู้หน้าเราได้อีก

    แม้ว่าตัวเอกจะปลอบ แต่ดูเหมือนซาโยริก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แต่เราจำเป็นต้องกลับบ้านก่อน เพราะยูริรออยู่ จากนั้นทั้งสองก็ทำงานเตรียมงานในห้องนอนตัวเอกสองต่อสอง มีฉากโรแมนติกอย่าง ยูริดูดนิ้วมือที่ถูกบาด กับฉากพระเอกเอาผ้าเช็ดหน้าลูบหน้ายูริ เรียกได้ว่าหวานกันมาก แต่ก็ไม่มีฉากเกินเลยไปมากกว่านี้

     ต่อมา ทั้งสองก็เตรียมงานเสร็จ ยูริก็ขอกลับบ้าน ระหว่างนั้นซาโยริได้ปรากฏตัวออกมา แทรกระหว่างตัวเอกกับยูริ ทำให้ยูริตกใจแล้วรีบกลับบ้าน ทำให้เหลือเพียงตัวเอกกับซาโยริสองต่อสองอีกครั้ง

    จากนั้นซาโยริก็ถามคำถามเด็ดว่า “รักเราไหม”

     แน่นอนว่าหลายคนคงตอบว่า “รักสิ” แน่นอน คงไม่ปฏิเสธว่าฉันไม่รักเธอเป็นแค่เพื่อนหรอก และเมื่อเราตอบรักสิ ซาโยริก็กอดเราอย่างโรแมนติก

    เรื่องราวเหมือนจะจบโรแมนคิกระหว่างเรากับเพื่อนสมัยเด็ก แต่มันไม่จบเพียงเท่านี้ ในวันรุ่งขึ้น ก็ถึงงานโรงเรียน ปรากฏว่าไร้วี่แววเพื่อนสมัยเด็กสิ้นเชิง เธอไม่ออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนตัวกันกับตัวเอกเหมือนเช่นทุกวัน

    อย่างไรก็ตาม ตัวเอกไม่ได้เอะใจเรื่องนี้นัก คิดว่าซาโยริคงตื่นสายไปโรงเรียนไม่ได้ จึงมาโรงเรียนด้วยตัวคนเดียว หากแต่เมื่อถึงโรงเรียนโมริกะได้ยื่นกระดาษที่เป้นบทกวีของยาโซริให้เราอ่าน และเมื่อเราอ่านก็แทบตกใจ เพราะเนื้อหากระดาษ มีแต่ประโยคว่า “ออกไปจากหัวฉันซะ” ซ้ำไปมา จนเกือบเต็มหน้ากระดาษ ทำให้พระเอกรู้สึกได้เลยว่าเกิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับซาโยริแน่นอน

    ตัวเอกรีบไปบ้านของซาโยริ พยายามตะโกนเรียกซาโยริ แต่ก็ไม่มีใครโต้ตอบ เราตัดสินใจเข้ามาบ้านของซาโยริ และมุ่งไปที่ห้องนอนของเพื่อนสมัยเด็ก ที่นั้นทำให้เราต้องพบกับ..... ซาโยริแขวนคอตัวเอกตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ

    จากนั้นก็มีเสียงเพลงประกอบหลอนๆ และภาพมัวๆ ตามมา  จากนั้นก็ขึ้นข้อความว่า Error และจบเกมช่วงแรกตรงนี้...

     

                   อย่างไรก็ตาม ตัวเกมยังไม่ได้จบ เพราะจุดสนุกอยู่ที่การกลับมาเล่นใหม่  การตามหาความลับ ความจริงในเกมว่ามันเกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงการเก็ฉากจบลับมากมายหลายฉาก ซึ่งเราจะเห็นฉากหลอนๆ ที่น่าตกใจเพิ่มขึ้น รวมไปถึงเรื่องที่น่าตกใจว่าเกมจีบสาวนี้มีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ ซึ่งจะเป็นอะไรบางนั้น ก็ลองไปดู เพราะปัจตจุบันมีการแคสเกมนี้หลายเจ้า และมีการสรุปฉากหลอนๆ ฉากจบไว้แล้ว

    แต่หากใครยัง งง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเกม ก็ขอเล่าแบบง่ายๆ คือ แท้ที่จริงแล้วตัวต้นเหตุที่เกิดขึ้นนั้นคือโมนิกะนั้นเอง ซึ่งเธอไม่ใช่ตัวละครเกมจีบสาวธรรมดา...... คือเธออยากมีตัวตนที่อยากสู่โลกแห่งความจริง

    อาจฟังดู งง คือส่วนใหญ่ผู้หญิงตัวละครจีบสาวก็จะมีเส้นทางรูท  ตามบทบาทของตัวเองที่ได้รับ  อย่างซาโยริก็ตามบทเพื่อนสมัยเด็ก, ยูริก็เล่นตามบทของคนแอบชอบตัวเอก แต่โมนิกะนั้นไม่ใช่

    โมนิกะนั้นชอบบทบาทของเธอในเกม แม้เกมกำหนดบทของเธอเป็นไอดอลที่เป็นหมายปองของทุกคน แต่เธอไม่พอใจที่บทของเธอน้อย โดยเฉพาะฉากการมีความสัมพันธ์กับตัวเอก ทั้งๆ ที่ตัวเธอนั้น

    ที่สำคัญ เธอรู้ว่าโลกที่เธออยู่นั้นเป็นแค่โลกวีดีโอกมจีบสาว รู้ตัวเอกที่เธอชอบเป็นเพียงผู้เล่นในโลกแห่งความจริง แต่เธอก็ยังชอบผู้เล่น และอยากจะออกไปสู่โลกแห่งความจริง

    ดังนั้นโมนิกะพยายามแสดงให้ความรักแก่ตัวเอกหรือตัวผู้เล่น ว่าเธอรักเราแค่ไหน เริ่มจากซาโยริเพื่อนสมัยเด็กที่สนิทกับตัวเอกมากที่สุด (ตามบท) เกมเอาแต่อวยซาโยริ เราก็ไม่สามารถขัดความรู้สึกซาโยริได้ ดังนั้นโมนิกะ (หรือเกม) ก็ลบตัวตนซาโยริเลย ลบตัวตนเธอออกไปจากเกมหมด รวมไปถึงไฟล์ด้วย แม้เราจะพยายามใส่ไฟล์ซาโยริยังไง ตัวเกมก็ขึ้นฉากซาโยริแขวนคอตายอยู่ดี

    แม้ว่าซาโยริจะถูกลบไปจากเกม แต่ตัวเราก็มีรูทกับยูริอยู่ดี โมนิกะก็ยังกำจัดยูริ ด้วนการให้ยูริฆ่าตัวตายด้วยการแทงด้วยมีด นอนจมกองเลือด ต่อหน้าต่อตาเรา

    แน่นอน ไม่ว่าโมนิกะจะทำยังไง  เธอก็ไม่ได้สมหวังกับตัวผู้เล่น   เพราะรู้ดีว่าโลกที่เธออยู่นั้นเป็นเพียงแค่โลกจำลอง เธอไม่สามารถออกไปได้ และสุดท้ายคนเล่นก็คงเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่น เธอทำได้แค่รู้สึกเศร้า และเหงา หวังว่าผู้เล่นจะกลับมาเล่นเกมของเธอเท่านั้นเอง

    เรียกได้ Doki Doki Literature Club คือเกมหลอนไม่น่าเชื่อแห่งปี  เราไม่ได้เล่นเกม แต่เกมเล่นเราต่างหาก

    yorha no. 2 type b (ย่อๆ ก็ 2B)

    หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ ทาโร โยโกะ (Yoko Taro) มากนัก แต่หากไม่ค้นดูประวัติดู จะพบว่านี้คือจอมมารเกนแห่งวงการวีดีโอเกมชัดๆ   โดยเขาเป็นผู้อำนวยการและคนเขีบยนบทเกม แม้ว่าเกมจะเป็นแนวแอ็คชั่น แต่เนื้อหาออกไปทางดาร์ก เน้นการออกแบบ ผสมกับเรื่องราวไซไฟที่แปลกใหม่  รู้จักในวงแคบ อย่าง เกม Drakengard และ   Nier ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก เพราะส่วนหนึ่งเขาไม่ชอบสัมภาษณ์ เวลาจะสัมภาษณ์ก็จะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้า (หน้ากากส่วนใหญ่เป็นตัวเอมิล)

    จนกระทั่งเป็นผู้กำกับเกม  และได้ทำให้ตัวละครที่ชื่อ  yorha no. 2 type b (2B) โด่งดังไปทั่วโลก ตั้งแต่เกมไม่ได้ออกด้วยซ้ำ

                    ปี 2017 เป็นปีที่อุตสาหกรรมเกมต่อสู้ดุเดือดมาก แต่มีเกมที่น่าประหลาดใจ ก็คือ NieR: Automata ที่พัฒนาโดย Platinum Games ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทั้งในแง่บทวิจารณ์และยอดขาย โดยทำยอดขายไปได้ 1.1 ล้านชุด และขึ้นแท่นอันดับ 9 เกมบน PS4 ที่ขายดีที่สุด ในปัจจุบัน ซึ่งทางสตูดิโอเองก็ตกตะลึงในยอดขายระดับนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดว่ามันดัง

                    ส่วนหนึ่งเพราะการปรากฏตัวครั้งแรกของตัวละครหญิงที่เป็นตัวเอกที่เราต้องเล่นในเกม คือ yorha no. 2 type b (ต่อไปนี้ ขอเรียกย่อว่า 2B)

    2B เป็นตัวเอกชูโรงในเกม NieR: Automata เธอเป็นแอนดรอยด์YoRHa ที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ชาติที่อยู่ดวงจันทร์ โดยเธอเป็นหนึ่งทหารราบของกลุ่ม YoRHa (Automated Infantry Squad) และนอกจาก 2B แล้ว ก็มีอีกสองสมาชิกในกลุ่ม  YoRHa ที่ผู้เล่นบังคับได้ ประกอบด้วย  A2 และ  9S   (ไม่ขอกล่าวถึงบทบาทแบบละเอียดของทั้งสองคน)

    โดยตัวเธอนั้นมีภารกิจในการชิงโลกจากหุ่นยนต์มีชีวิตที่ถูกสร้างโดยมนุษย์ต่างดาว โลกในตอนนี้เป็นโลกที่กำลังล่มสลาย มีมนุษย์อยู่ไม่กี่หยิบมือ และกำลังถูกหุ่นยนตร์ขากมนุษย์ต่างดาวมารุกรานอีก นั้นจึงเป็นภารกิจที่ยากสำหรับ 2B แต่ถึงอย่างนั้นตัว 2B นั้นเก่งมาก รบได้ในทุกสถานการณ์ มีดาบติดตั้งอยู่เพื่อใช้ต่อสู้ในระยะประชิด และสามารถโจมตีระยะไกลได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหุ่นที่ชื่อ "Pod" ที่เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มกลยุทธการต่อสู้  

    แม้ว่า 2B ภายนอกจะเหมือนเด็กสาวสวย  แต่เธอนั้นไม่ใช่มนุษย์     เป็นเพียงแอนดรอยด์ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอารมณ์ของมนุษย์อยู่บ้าง  มีความสงบเยือกเย็น สำรวม เฉียวฉลาด พูดน้อย มีนิสัยเป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่นต่อภารกิจที่มอบหมาย

    แน่นอน ตอนแรกๆ คนเล่นเกมนี้ ก็คงคิดว่าพล็อตเดิมๆ  แค่สู้กับหุ่นยนต์ยักษ์ อลังการงานสร้าง หากแต่ความจริงแล้ว เมื่อเล่นเกมก็พบกับความจริงที่น่ากลัว และเป็นจุดหักมุมของเกมด้วย

    แท้จริงแล้วมนุษย์ชาติในโลกของ NieR ไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว เพราะมนุษย์ชาติสูญพันธ์ไปนานแล้ว  สิ่งที่พวก 2B ต่อสู้ก็คือการปกป้องแอนดรอยด์พวกเดียวกัน ที่พวกแอนดรอยด์เหล่านั้นคิดว่าตนเองเป็นมนุษย์เท่านั้น!?

    ก่อนที่จะกล่าวต่อ ขอเล่าเรื่องให้เข้าใจโลกของ NieR เล็กน้อย ซึ่งเป็นเกมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ศัพท์แสงมากมาย  มีดราม่า และมีจุดหักมุมพอสมควร และหากใครไม่รู้ว่าเกมที่ทาโร โยโกะหลายเกม (Drakengard และ   Nier )  ล้วนมีจักรวาลเดียวกัน ฉากจบ (แถมเป็นฉากจบแบบเลวร้ายอีก) ของเกมนั้นจะส่งผลต่อโลกของเกมถัดมาของทาโร โยโกะด้วย

     โลกของเกมนี้เป็นโลกที่กำลังล่มสลาย เผ่าพันธุ์มนุษย์มีเพียงหยิบมือ เพราะในอดีตนั้นโลกประสบกับหายนะอย่างต่อเนื่อง ทั้งหุ่นยนตร์มีชีวิตที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลก อีกทั้งยังเจอโรคระบาดมรณะอีกต่างหาก แม้ว่าเหล่ามนุษย์จะพยายามที่จะหาวิธีหยุดยั้งความเลวร้ายเหล่านี้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สำเร็จ เหล่ามนุษย์นั้นตายหมด เหลือเพียงสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ชื่อ เอมิล (ไม่ขอเล่าที่มา) และแอนดรอยด์ที่รูปร่างเหมือนมนุษย์เท่านั้น พวกเขาก็ดำรงชีวิตอยู่แบบมนุษย์ ส่วนแอนดรอยด์ที่รู้ความลับนี้ก็ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ เนื่องจากแอนดรอยด์นั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยเป้าหมายในการ ปกป้องมนุษยชาติ

    (ซึ่งตรงนี้คือจุดสปอยความลับในเกม ที่เป็นจุดหักมุมในตอนท้ายของ NieR: Automata ใครที่ไม่ได้เล่นเกมของทาโร โยโกะก็คงคิดไม่ถึงกับมุกนี้)               

    หลายปีต่อมา จนกระทั่งปี 5012 ภัยพิบัติก็มายังโลกอีกครั้ง เมื่อมนุษย์ต่างดาวมายังโลก และได้ส่งหุ่นยนตร์มีชีวิตเข้ามารุกรานแอนดรอยด์บนโลก แอนดรอยด์ (หรือมนุษย์ชาติ) บางส่วนได้หนีไปดวงจันทร์ ภายหลัง มนุษยชาติก็ได้ก่อตั้งกองกำลังหุ่นรบแอนดรอยด์ขึ้นเพื่อต่อต้านและยึดเอาโลกกลับคืนมา เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์มนุษย์ชาติก็ได้สร้างหุ่นรบแอนดรอยด์ก็คือพวก 2B นั้นเอง

    แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของการหักมุมเท่านั้น ยิ่งช่วงท้ายๆ ดราม่ามาเพียบ แถมฉากจบก็มีหลายฉากจบ แต่เกือบทุกฉากจบล้วนเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม จนคนเล่นต้องร้องไห้ อินไปตามๆ กัน ซึ่งฉากจบที่ว่ามีอะไรบ้างนั้น คงต้องไปค้นหาเอาเอง (ส่วนหนึ่งก็ต้อง ตีความเอาเองด้วย เพราะฉากจบบางฉาก ก็กำกวมเหมือนกัน)

    แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนรู้จักเกมนี้ ก็คือตัว 2B ทืดังตั้งแต่เกมไม่ออกด้วยซ้ำ  ด้วยการออกแบบ (ต้องให้เครดิตคนออกแบบด้วย) ที่โดดเด่น เป็นสาวสไตล์โกธิค และชุดเว้าสูงขาวข้างใน  ยิ่งบุคลิกเยือกเย็น ก็ยิ่งเป็นที่ถูกใจหลายคน ทั้งญี่ปุ่นและฝรั่ง จนมีฝรั่งหลายคนคอลเพลย์ 2B  (อย่างเย้ายวน และอย่างเหมือนมาแล้ว)

     

    เอเวอลีน (Eveline)

    สำหรับอันดับ 1 เป็นตัวละครที่แสนน่ารัก (?) และเป็นบอสใหญ่ใน Resident Evil 7 สาเหตุที่ติดอันดับ ก็มีหลายอย่างครับ แต่หลักๆ เราได้เห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดของซีรีย์ Resident Evil

    ก่อนหน้าภาค 7 มีหลายคนด่า Capcom  เยอะ  โดยเฉพาะเรื่อง Resident Evil ภาค 5 และ 6 ที่เน้นเรื่องแอ็ตชั่นมากเกินไป จนขาดอารมณ์สยองขวัญ ไซไฟ เอาตัวรอดที่มีมาตั้งแต่ภาคก่อนๆ ไป จนหลายคนบอกว่าแคปคอมสนใจเงินรายได้  และเอาใจฝรั่งมากกว่า (ภาค 5 และ 6 เป็นภาคที่ขายดีมาก แม้จะโดนด่ามาก ในขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนแนวเพื่อเอาใจฝรั่งด้วย)

    แม้ว่าภาค 5 และ 6 จะได้รับคำวิจารณ์ด่าจากแฟนเกมเก่า ที่เปลี่ยนแนวนี้โดยสิ้นเชิง แต่แคปคอมก็ได้กำไรจากสองภาคนี้เป็นอย่างมาก (มากกว่าภาคแรกรีเม็กซ์อีก) อย่างไรก็ตามแคปคอมก็รู้ตัวดีว่าหากจะดื้อทำแนวแอ็คชั่นบู๊อย่างเดียวตลอดไป ซีรีย์แห่งตำนานนี้ก็จะหมดมนต์ขลังไปด้วย

    และนั้นเองที่ทำให้แคปคอมได้ตัดสินใจที่เสี่ยงที่สุดอีกครั้ง (หลังจากที่ทำมาแล้วในภาค 4 ) ด้วยการทำ Resident Evil 7 มาเป็นแนวเกม FPS / Survival ซึ่งเป็นแนวที่กำลังฮิตปัจจุบัน โดยโปรยไปว่ามันเป็นภาคกลับคืนสู่รากเหง้าจุดเริ่มต้นอีกครั้ง นั้นคือเน้นเอาตัวรอด ทรัพยากรมีจำนวนจำกัด ศัตรูอึดโหด ปริศนา ที่มีภาคก่อนๆ กลับมาอีกครั้ง รวมไปถึงเนื้อเรื่อง ตัวละครใหม่หมด แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงต่อจากภาค 6

    แน่นอนว่าหลังจากข่าวเกมภาคใหม่ออกมา ก็มีเสียงวิจารณ์ทั้งด้านบวกและลบของใครหลายคน แม้แต่เกมื่อเกมออกมา หลายคนที่เล่นก็ยังคงวิจารณ์ด้านลบอยู่ดี (อย่างที่บอกว่าเป็นซีรีย์ที่เอาใจแฟนยาก) แต่ก็มีด้านบวกๆ อยู่บ้าง ว่าภาคนี้เป็นอีกภาคที่เล่นสนุก และเนื้อเรื่องน่าติดตามเรื่องหนึ่ง

     

    สำหรับเรื่องราวภาคนี้เป็นเรื่องราวของพระเอกคนใหม่ (ที่แสนจืด) ชื่อ อีธาน วินเธอร์ส” (ชายหนุ่มผู้ที่ออกตามหาภรรยาสุดที่รัก มีอา วินเธอร์สที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 2014 หรือสามปีก่อน และวันหนึ่ง เขาก็ได้รับเมล์ของมีอา บอกว่าเธออยู่ที่นั้น และนั้นเองทำให้เขาต้องขับรถตามหามีอา นำไปสู่บ้าน-คฤหาสน์ผีสิงหลังหนึ่งที่อยู่ไกลผู้คน

    และแล้วอีธานก็มาถึงบ้านผีสิง  เขาก็พบที่ทางลับสู่ห้องใต้ดิน ที่นั้นเขาก็ได้พบมีอา แต่เธอไม่มีเวลาอธิบายมากนัก เพราะต้องหนีบุคคลที่เรียกตัวเองว่า พ่อ ผู้เป็นเป็นเจ้าของบ้าน หากแต่ระหว่างทางได้เกิดสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับมีอา เมื่อมิอาได้กลายเป็นคนละคน เธอได้เข้าโจมตีอีธาน ทำให้อีธานไม่มีทางเลือกจึงได้ฆ่ามีอา

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อีธานกำลังจะออกจากบ้านเพื่อหาคนมาช่วย อยู่ๆ พ่อ หรือ แจ๊ค เบเกอร์เจ้าของบ้านทำร้ายจนสลบไปอีกคน และลากทั้งเขา และมีอาออกจากบ้านไป

    อีธานฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกมัดติดกับเก้าอี้ และตรงหน้าก็มีดินเนอร์มื้อค่ำสุดสยองของครอบครัวเบเกอร์ ที่ประกอบไปด้วย แจ๊ค หัวหน้าครอบครัวเบเกอร์ มาร์กาเร็ต ภรรยา / ลูคัส ลูกชายคนโต และหญิงชราที่ไม่ทราบชื่อ  ซึ่งทั้งหมดก็คือบอสของภาคนี้นั้นเอง

    ต่อมา เมื่ออีธานหนีมาได้  เขาพบว่าเขาอยู่ในนรกบนดิน บ้านที่เต็มไปด้วยเชื้อราที่น่าขยะแขนง สัตว์ประหลาดที่โครตน่ากลัว การต่อสู้กับพวกเบเกอร์ที่ทั้งอึด ทน น่าขยะแขยง รวมไปถึงข้อมูล เบาะแสต่างๆ นำไปสู่ตัวการของเหตุการณ์ทั้งหมด นั้นคือ  เอเวอลีน เด็กสาวอาวุธชีวภาพ ของบริษัทลึกลับแห่งหนึ่ง (ตอนแรกหลายคนคิดว่าเป็นบริษัท Umbrella แต่ไม่ใช่ ) ที่ได้หลบหนีออกมา  จากนั้นก็ได้ปล่อยเชื้อสู่ครอบครัวเบเกอร์ และเอามีอาเป็นแม่  พร้อมกับจับผู้คนมาให้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์

    ปกติพวกบอส Resident Evil  จะไม่ค่อยมีประวัติเรื่องราวเป็นของตนเองมากนัก หรือไม่ก็พวกบอสที่มีนิสัยสุดโด่งอยากครองโลก  พวกก่อการร้ายอะไรมากกว่า แต่กรณีของเอเวอรีนเป็นครั้งแรกที่บอสไม่ได้มีความคิดที่อยากครองโลก หรือก่อการร้ายอะไรทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องการเป็นสิ่งที่ใครๆ สามารถทำได้ นั้นคือ การมีครอบครัวเท่านั้น แต่มันกลับสร้างโศกนาฏกรรม และหายนะในตอนท้าย และเป็นบอสที่น่าสงสารที่สุดในซีรีย์เกมนี้เลยทีเดียว

    เอเวอรีนมีชื่อรหัสว่า E-001 เป็นมนุษย์ที่ดัดแปลงทางพันธุกรรมที่ดำเนินการโดย The Connections องค์กรนี้มีเป้าหมายในการผลิตอาวุธชีวภาพที่ลงทุนน้อย แต่สร้างความหายนะสูง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ และมันก็สามารถควบคุมจิตใจได้ แนวคิดนี้ก็ก่อให้เกิดเชื้อราที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและพวกเขานำมาใส่ในมนุษย์ทดลองเอเวอรีนนั้นเอง

    เชื่อว่าเอเวอรีนเกิดเมื่อปี 2014 ภายนอกเธอเหมือนอายุ 10 ปี แต่อาจเป็นอายุเทียม เพราะเธอเติบโตเร็วมาก  เธอไม่มีครอบครัว ดังนั้นจึงใช้เจ้าหน้าที่ขององค์กรมาทำเป็นพ่อแม่หลอกๆ  อย่างไรก็ตามเอเวอรีนก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่  ถึงอย่างนั้นเอเวอรีนก็ยังคงต้องการครอบครัวสิ่งที่เธอโหยหาที่สุดในชีวิต

    จนกระทั่งวันที่เอเวอร์ลีนต้องขึ้นไปบนเรือบรรทุกสินค้า องค์กรต้องการขายเธอให้ตลาดค้าอาวุธในฐานะอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรงที่สุด หากแต่ระหว่างทางเรือเกิดอัปปางอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เอเวอร์ลีนหลุดออกมาและสร้างหายนะไปทั้งเรือ

    ต่อมาครอบครัวเบเกอร์ได้เจอเอเวอร์ลีน พวกเขาก็เอาเอเวอร์ลีนกลับบ้าน เอเวอร์ลีนสัมผัสถึงความอบอุ่นที่เรียกว่าครอบครัวเบเกอร์ได้ ดังนั้นเอเวอร์ลีนจึงแพร่เชื้อให้สมาชิกเบเกอร์ ให้กลายเป็นพวกเดียวกับตน นอกจากนี้ยังให้ครอบครัวเบเกอร์จับคนภายนอกที่หลงมายังพื้นที่เบเกอร์มาสร้างครอบครัวให้เธออีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม เอเวอรีนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการฉีดยาเพื่อยับยั้งร่างกายที่เติบโตเร็วของเธอ หากแต่หลังจากเธอหลุดออกมา ก็ไม่ได้รับยา ทำให้ร่างกายเธอเติบโตรวดเร็ว จนกลายเป็นหญิงชราที่แทบไม่มีแรงอยู่บนรถเข็น จนกระทั่งอีธานไปพบ

    แม้ว่าสุดท้าย อีธานจะสามารถกำจัดเอเวอลีนในร่างหญิงชราไปได้ แต่มันกลับกลายเป็นว่ามีเรื่องราวมากมายที่ยังหาคำตอบไม่ได้เต็มไปหมด สิ่งเหล่านี้ทำให้ซีรีย์ Resident Evil   กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง และหวังว่าภาค 8 จะทำออกมาดีเหมือนภาค 7


    ยังมีต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×