ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #447 : Re:Creators สงครามทะลุมิติถล่มโลกา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.93K
      15
      11 ส.ค. 60

     อนิเมะประจำฤดูใบไม้ผลิ (ของญี่ปุ่น) 2017 มีอนิเมะเรื่องหนึ่งที่ผมโครตบ้า ติดตามอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญอนิเมะที่ว่าไม่ใช่แนวฮาเร็ม (แต่ถ้าจิ้นฮาเร็มก็ไหวอยู่) และตอนแรกๆ ก็เป็นอนิเมะที่ผมไม่สนใจด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องดู แต่ปรากฏว่ามันทำให้ผมติดซะงั้น ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น น่าติดตาม แฝงด้วยประเด็นสังคมอินเทอร์เน็ต-วงการอนิเมะแบบแสบๆ คันๆ ของญี่ปุ่น มันจึงกลายเป็นอนิเมะที่น่าติดตามของซีซั่นนี้ และเป็นอนิเมะที่ดีที่สุดแห่งปีก็ว่าได้ (อย่างน้อยก็ครึ่งหลัง)

     

     

    Re:Creators

     

    น่าจะเป็นผลงานที่น่าติดตามที่สุดในซีซั่นนี้ (อย่างน้อยก็ผม) Re:Creators เป็นอนิเมะแนวออริจินัล  แฟนตาซี ไซไฟ ผลิตโดยสตูดิโอ TROYCA  เป็นผลงานร่วมกันระหว่างนักเขียน Hiroe Rei (มังงะ Black Lagoon) ร่วมกับผู้กำกับ Aoki Ei (Fate/Zero, Aldnoah.Zero) ประพันธ์เพลงโดย Sawano Hiroyuki (Guilty Crown, Aldnoah.Zero)  ซึ่งอนิแมะมีจำนวนทั้งสิ้น 22 ตอน

    อย่างที่บอกเอาไว้ ในตอนแรกผมไม่สนใจเรื่อง Re:Creators  เพราะคิดว่าจะฉากแอ็คชั่นปล่อยพลังเวอร์ๆ แบบพวกซีรีย์เฟสทั้งหลายแหล่  (ประกอบกับตัวละครที่ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้โดนใจผมมากนัก) แต่ถึงอย่างนั้นจากการรีวิวของหลายสำนัก ก็ได้พบว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจ  น่าติดตาม เป็นอย่างยิ่ง และนั่นเองทำให้ผมได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ และปรากฏว่าผมได้ติดใจมันตั้งแต่แรก

    ตอนเปิดเรื่องตอนแรก เราก็ได้เห็นภาพญี่ปุ่นแดนการ์ตูน ที่การ์ตูน และสื่อบันเทิงต่างๆ ได้เข้าไปเป็นส่สนหนึ่งในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ อินเทอร์เน็ต, นิยาย, อนิเมะ, หนังสือการ์ตูน, โฆษณาต่างๆ  สิ่งเหล่านี้มีอยู่ทุกแห่งในการ์ตูน มันคือวัฒนธรรมที่ยอมรับจากทั่วโลก ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย ดูได้ทุกเพศทุกวัย หลายคนสนุกไปกลับมัน

    ภาคต่อมา เป็นภาพของสถานีรถไฟแห่งหนึ่งที่น่าจะเป็นตอนเช้าตรู่ เพราะแทบไม่มีคน ที่นั่นมีเด็กสาวใส่แว่นคนหนึ่งใส่ชุดขาว   กำลังเดินอย่างสงบบนสถานีรถไฟ จากนั่นเธอก็ฆ่าตัวตายโดยการกระโดดไปบนรางเพือให้รถไฟมาแล่นทับตายอย่างสยดสยอง (แต่คนดูไม่เห็นเลือดหรอก) เชื่อเถอะว่าแค่ฉากนี้ฉากเดียวก็ทำให้หลายคนอยากติดตามอนิเมะเรื่องนี้แล้วว่า มันเกิดขึ้นอะไรกันแน่? เธอเป็นใคร? เธอเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?

    จากนั้นภาพก็ตัดมายังตัวละครที่น่าจะ (ย้ำว่าน่าจะ) เป็นตัวเอกของเรื่อง เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง เป็นผู้เล่าเรื่อง ก็คือตัวละครที่ชื่อ มิซูชิโนะ โซตะ

    เจ้าพระเอกโซตะคนนี้ ก็คือตัวเอกของเรื่องอย่างแท้จริง แต่เขาไม่ได้เป็นผู้กล้า ไม่ได้เป็นผู้คัดเลือก และเขาไม่ได้มีความสามารถพิเศษโดดเด่นไปกว่าคนอื่นแต่อย่างใด  เขาเป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่เป็นผู้ชื่นชอบการ์ตูน อนิเมะ นิยายธรรมดาที่พบเห็นทั่วไป เขากลับมาบ้าน พยายามวาดรูปลงเว็บ (ล้อ www.pixivision.net )  แต่ปากกาดัน เขาไม่สามารถวาดอะไรออกมาได้เลย ซึ่งมาถึงจุดนี้คนดูที่คิดมาก็พออนุมานได้ว่าเจ้าพระเอกคนนี้กำลังมีปมอะไรหรือเปล่า (ซึ่งปรากฏว่าถูกซะงั้น)

    เมื่อปากกาตัน โซตะเซ็ง เลยปรับอารมณ์ด้วยการดูอนิเมะแนวหุ่นยนต์เรื่อง Elemental Symphony of Vogelchevalie เพื่อจะดูนางเอกยูฟิทีเรีย เซเลสเซียในคอมพิวเตอร์แท็บแล็ตอยู่นั้น จู่ๆ คอมพิวเตอร์แท็บแล็ตก็เกิดอาการผิดปกติ และเขาก็ถูกลากเข้าไปในโลกอนิเมะที่นั้นเขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเซเลสเซีย กับเด็กสาวลึกลับสวมเครื่องแบบทหาร (ซึ่งประเด็นปริศนานี้หลายคนไม่ได้พูดถึงมากนัก)

    สาวทวินเทลในชุดทหารลึกลับนั้นโครตเก่งมาก สามารถทำลายหุ่นยนต์ของเซเลสเซียอย่างง่ายดาย (จนกลายเป็นที่มาของเซเลสเซียหย่ำฉาไปซะอย่างนั้น) พร้อมกับปริศนาคาใจที่ว่าทวินเทลรู้สึกตกใจ เมื่อเห็นหน้าพระเอก จากนั้นเธอก็ใช้มีดเพื่อพยายามฆ่าเซเลสเซีย(ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นบอกให้ร่วมมือ) หากแต่ทั้งโซตะและเซเลสเซียวาร์ปไปสู่โลกแห่งความจริงเสียก่อน จึงรอดตายอย่างหวุดหวิด

    จากนั้นก็มาถึงมหกรรมมันนอนสต๊อป ทวินเทลในชุดทหารได้ตามมายังโลกแห่งความจริง และพยายามบอกให้เซลิเซียร่วมมือ แต่ก็ถูกปฏิเสธ จากนั้นทวินเทลก็เริ่มฆ่าเซลิเซีย ทำให้มีทั้งฉากไล่ล่า ต่อสู้กันตูมตาม  บ้าพลัง ชนิดว่าไมเคิล เบย์ยังอาย ก่อนที่ศึกจะหยุดลงต่อการปรากฏตัวของสาวน้อยจอมเวทย์ เอสเทอร์ริซ เมเทโอร่า จากเกม Avalken of Reminisce มาหยุดการกระทำของทวินเทล

    เมเอโอร่าได้พูดคุยกับทวินเทล จับใจความได้ว่า เธอออกมาสู่โลกแห่งความจริงได้เอง รู้ตัวว่าตนเป็นเพียงแค่ตัวละครในจินตนาการในเกม และเธอตามหาผู้สร้างของเธอไม่เจอ ก่อนที่ทวินเทลจะล่าถอยไป จากนั้นเมเทโอร่าและเซเลสเซียก็แยกย้ายกันไป

    เรื่องราวเหมือนจบเพียงเท่านี้ เพราะโซตะเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เขาเป็นเพียงแค่คนที่ยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น เขาได้เพียงแค่เก็บประสบการณ์ที่แปลกประหลาดนี้เอาไว้ในใจเท่านั้น หาแต่วันต่อมาโซตะก็พบว่าทั้งเซเลสเซียและเมเทโอร่าได้มาอยู่ที่ห้องโซตะแล้ว  และมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

     


     

    นอกจาก  เซลิเซีย และเมเทโอร่าแล้ว ก็ยังมีตัวละครจากเกม, อนิเมะ, มังงะ, นิยาย และวีดีโอเกม ซึ่งแต่ละตัวละครก็มีคาแร็คเตอร์แตกต่างกันไป และมาจากเรื่องคนละแนว จนไม่น่าเชื่อจะมายำกันได้ ซึ่งหลายคนปรากฏตัวในโลกแห่งความจริง โดยแต่ละตัวมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป เป็นต้นว่า

    เฟบรูเออรี่  อัลลิเซเทเลีย เด็กสาวลูกสาวของขุนนาง ซึ่งเป็นนางเอกมังงะมหากาพย์แฟนตาซีเรื่อง Alicetelia of the Scarlet ด้วยเรื่องเป็นแนวสงคราม ดาร์กๆ  (ภาษาบ้านๆ ก็ปวดตับ)  ทำให้เรื่องมันโด่งดังจนทำเป็นอนิเมะ ทั้งๆ ที่ตัวเธอจริงๆ แล้วเกลียดชังความรุนแรง ความโหดร้ายของสงคราม พยายามช่วยเหลือคนแต่ไม่สำเร็จ พอออกมาสู่โลกแห่งความจริงเธอก็แทบรับไม่ได้ว่าโลกของเธอนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องแต่งเพื่อความบันเทิง ขายคนปวดตับ คนอ่านชอบความปวดตับ เป็นเหตุทำให้เธอเข้าร่วมกับทวินเทลชุดทหารโดยหวังว่ามันจะเปลี่ยนโศกนาฏกรรมของเธอได้

    คิราเมคิ มามิกะ เด็กสาวที่เป็นตัวละครจากอนิเมะเรื่อง Magical Slayer Mamika ซึ่งเป็นแนวสาวน้อยจอมเวทย์ที่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆ ดังนั้นบุคลิกของเธอจึงออกไปทางนางเอกผู้มองโลกในแง่ดี ไร้เดียงสา  เป็นมิตรกับคนอื่น ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง อยากให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน (แต่คนดูบ้านเราด่าว่า “ยัยโลกสวย”)

    มิโรคุจิ ยูยะ เป็นศัตรูหลัก (ลาสต์บอส ประเภทคู่ปรับ) มังงะเรื่อง Lockout Ward Underground -Dark Night- เป็นคนที่ชื่นชอบความรุนแรงและสนุกกับการต่อสู้  แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนตรงไปตรงมา  เปิดเผย หากเห็นสิ่งที่ขัดใจก็จะพูดออกมาตรงๆ

    รุย คาโนยะด็กหนุ่ม (แต่เสียงผู้หญิงจ๋าเลย) ที่เป็นตัวละครเอกจากอนิเมะแนวหุ่นยนต์เรื่อง Infinite Divine Machine Mono Magia ซึ่งตัวเขาเป็นนักบินประจำหุ่นยนต์ “Gigas Makina” ดูก็รู้ทันทีว่าแรงบันดาลใจมาจากอามุโร่จากเรื่องกัมดั้ม ที่ไม่ชอบการต่อสู้ ไม่ชอบการถภูกสั่ง พยายามหาความสุขในชีวิต

    คิคุจูอิง มางาเนะ เด็กสาวที่เป็นตัวละครจากอนิเมะเรื่องRecord of the Night Window Demon  ประเภทตัวร้าย ภายนอกเป็นนักเรียนมัธยมปลาย แต่ความจริงแล้วเป็นฆาตกรโรคจิตที่สนุกกับการกวนประสาท หรือเล่นกับจิตใจของผู้อื่น   

    บริทซ์ โทก้าร์ คุณลุงจากมังงะ Code Babylon แต่เดิมนั้นเคยเป็นนักสืบมาก่อน

    (อาจมีเพิ่มอีกในครึ่งหลัง)

               Re:Creators กลายเป็นอนิเมะที่น่าสนใจและน่าติดตามประจำซีซั่น  ด้วยเนื้อหาที่น่าติดตามจากผู้แต่ง Black Lagoon (ขออภัยที่ผมไม่ได้ติดตามผลงานของนักเขียนคนนี้เลยสักเรื่อง )  รวมถึงฉากต่อสู้ที่อลังการ ตื่นเต้น เต็มไปด้วยพลัง ซึ่งเป็นจุดแข็งของไดเร็คเตอร์ เออิ อาโออิ ที่ทำไว้ในอนิเมะ Aldnoah.Zero และ Fate/Zero  รวมไปถึงเพลงประกอบต่างๆ ในตัวอนิเมะก็ทำได้ออกมาดี  จังหวะเร็ว แม้จะฟังไม่รู้เรื่องแต่มันก็กระดุ้นความรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย มันจึงกลายเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจและเข้ากัน

                    ในตอนแรกๆ ผมก็นึกว่าอนิเมะเรื่องนี้ คล้ายๆ ซีรีย์เฟส ตามพล็อตสูตรสำเร็จ ประมาณว่า พระเอกกำลังใช้ชีวิตธรรมดา เกิดไปมีพลังวิเศษ ต่อสู้ บลาๆ  เน้นการต่อสู้อลังการบ้าพลังอะไรมากกว่า (พล็อตแบบนี้กลายเป็นของโหลไปแล้ว)  หากแต่เอาเข้าจริง อนิเมะยังสามารถจัดสมดุลออกมาได้ดี  เพราะไม่มีการละเลยการดำเนินเนื้อเรื่อง ซ้ำยังต้องการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ในเรื่อง  รวมไปถึงปมต่างๆ ของเรื่องไปด้วย จนดูเหมือนเน้นการพูดคุยมากกว่า (ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้) แต่พอมาถึงฉากต่อสู้นี้จัดเต็มอลังการดาวล้านดวง

    ยอมรับว่าฉากเปิดสาวแว่นที่กระโดดฆ่าตัวตายในมันเป็นแรงขับให้หลายคนอยากติดตามว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ มันสำคัญยังไง  เจอ)ฉากนี้เข้าไปหลายคนก็อยากติดตามดูแล้ว

                    ไม่แปลกแต่อย่างใดที่หลายคนที่บอร์ดฝรั่ง บอร์ดไทยมีการวิเคราะห์กันออกมามากมาย แม้มันจะไม่ซับซ้อนนัก (เพราะพอเดาได้) แต่มันก็สนุกนี้ที่ได้เห็นทฤษฏีต่างๆ ในเรื่องนี้ ที่พูดคุย ถกเถียงกัน ทั้งเรื่องตัวละคร  ปมต่างๆ ในเรื่อง

     

    คราวนี้มาพูดถึงตัวละครหลักแบบละเอียดบ้าง

     

    แม้ว่าในเรื่องจะมีตัวละครมากมายหลายคน และตัวละครแต่ละคนก็โดดเด่นในแบบของตน บางคนก็ดราม่า บางคนก็มองโลกในแง่ดีเกินไป (ไม่อยากใช้คำว่า “โลกสวย”) บางคนมาทำลายเกม (ก่อกวน) บางคนก็งอแง  แต่ถึงอย่างนั้นมีตัวละครที่น่าจะเอามาพูดถึงในเรื่องมากที่สุดสามคน ก็คือโซตะกับทวินเทลในชุดทหาร และตัวละครน่าอวย ถ้าไม่มีเธอสีสันของเรื่องคงขาดหายไปมากโข ก็คือเมเทโอร่า

     

     

     

    มิซูชิโนะ โซตะหากใครที่เคยอ่านนิยายเรื่อง โลกอลเวงของคุณฮาริยามะ  (ของสำนักพิมพ์บลิสที่ปิดตัวไปแล้ว)  หลายคนก็คงคลับคล้ายคับคาว่าพระเอกโซตะนั้นก็เหมือนกับคุณฮาริยามะไม่มีผิด ก็คือเป็นคนธรรมดา แต่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง เหมือนตัวประกอบแต่ความจริงแล้วเขาคือพระเอกสำคัญของเรื่อง

    ใช่ตอนแรกโซตะนั้น เป็นแค่คนธรรมดาที่ดันมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น    เอาง่ายๆ ต่อให้เรื่องนี้ไม่มีโซตะ เรื่องก็สามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้ เพราะช่วงแรกนั้นโซตะแทบไม่มีความสำคัญ ทำให้ตอนต้นๆ หากผมเป็นโซตะคงคิดในใจแล้วว่า “ตรูมาทำแมวอะไรว่ะเนี้ย อยากกลับบ้าน”

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ โซตะก็เริ่มมีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากขึ้น ประเด็นต่างๆ ก็ถูกโยนมาที่ตัวโซตะ ว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวโซตะหรือไม่ สาเหตุที่ทวินเทลก่อเรื่องขึ้นเพราะตัวโซตะหรือเปล่า หากเขาเป็นตัวเริ่มต้นแล้วสุดท้ายเขาจะเป็นตัวปิดฉากยังไง เขาจะมีบทบาทใดในอนาคตยังไงต่อ ซึ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เนื้อเรื่องติดตามไม่มากก็ไม่น้อย  ซึ่งในช่วงแรกนั้นเรื่องเหล่านี้ยังไม่ได้เฉลยแบบกระจ่างชัดมากนัก แต่มันก็ช่วยให้รู้ว่าโซตะน่าจะเป็นบุคคลสำคัญของเรื่อง และน่าจะมีฉากอะไรที่น่าตกใจแน่นอนในครึ่งหลัง

                    ....นานแล้วที่เราจะได้เห็นอนิเมะที่ตัวพระเอก (ตัวเอก) ผู้ชายที่ไร้ซึ่งพลัง มาเป็นจุดศูนย์กลางดำเนินรื่องที่เต็มไปด้วยผู้มีพลังวิเศษ กับผู้คนที่มีพรสวรรค์มีความสามารถ (เหล่านักเขียนนิยายและการ์ตูนขายดี, เจ้าหน้าที่พิเศษ ฯลฯ) โซตะทำหน้าที่เป็นผู้ดู เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่เนื้อเรื่องจะเพิ่มความสำคัญกับตัวเอก ซึ่งหาได้จากสำหรับอนิเมะแบบนี้ยากมาก เพราะหากเป็นแนวแบบนี้พระเอกส่วนใหญ่จะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ได้สกิลโกง ได้พลังวิเศษมาก เพียบเทียบเท่าตัวละครในเรื่อง แต่เรื่องนี้ผ่านไปหลายตอนโซตะก็ยังคงเป็นคนธรรมดาเหมือนเดิม  ไม่ได้รับพลังวิเศษใดๆ  (อีกเรื่องที่จะมาในซีซั่นนี้ที่ดำเนินเรื่องในรูปแบบเดียวกัน คือ ยัยบ้าพนัน ที่ตัวเอกก็ไม่ได้มีความสำคัญในเรื่องเลย มีบทน้อยมาก ทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น จนกลายเป็นแนวผู้หญิงเป็นตัวเอกไปแล้ว)

    แต่สำหรับคนดูบางคน (โดยเฉพาะคนไทย) ไม่ค่อยชอบตัวละครโซตะมากนัก เพราะออกลูกขี้ขลาด หงุดหงิด โดยเฉพาะฉากที่เอาแต่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่บอกความจริง ชอบจิตตก จนคนดูขัดใจ บางคนบอกว่ารำคาญโซตะเลยทีเดียว

                    แต่ถึงอย่างนั้น หากมาดูการจัดความนิยมของตัวละครชาย พบว่าตัวละครอย่างโซตะนั้นติดอันดับท็อปเทนเลยทีเดียว  แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นชื่นชอบอยู่ไม่น้อย (หากมาไบ่ดูอันดับพระเอกระดับท็อปที่ได้รับความนิpม ส่วนใหญ่เป็นพระเอกที่เต็มไปด้วยปัญหา และไม่ใช่พระเอกสมบูรณ์แบบค่อนข้างเยอะ อย่างนัตสึมะ, เอเรน)  แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นชอบพระเอกที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่มีพัฒนาการไปในทางบวกมากกว่า

                    ส่วนตัวผมแล้ว ผมเข้าใจในตัวโซตะ

                    อย่างที่ผมบอกเอาไว้ว่า ตัวโซตะนั้นเป็นตัวละครที่สร้างเพื่อให้ตรงใจกับใครหลายคน  บางทีโซตะเป็นตัวแทนของคนญี่ปุ่นหลายคนด้วยซ้ำไป  เป็นตัวละครตัวเล็กๆ ในสังคมที่ยิ่งใหญ่  นิสัยไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง ไม่มีเพื่อนสนิท ชื่นชอบนิยาย, มังงะและอนิเมะแต่เขาไม่สามารถหาคนที่ชื่นชอบแบบเดียวพูดคุยกันได้ ฝีมือวาดรูประดับกลางๆ (แต่อุปกรณ์วาดแพงระยับ) พยายามโฟสภาพวาดในเว็บ เพื่อหาเพื่อน แต่ก็ไม่มีใครสนใจ

                    (ต่อไปนี่คือสปอย) จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็มีคนหนึ่งได้คอมเมนต์ภาพวาดของโซตะขึ้นมา โซตะดีใจมาก จากนั้นก็เริ่มต้นสนทนาไปมา จนเกิดมิตรภาพ (?) จนทำให้โซตะทราบว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงสาวแว่นชื่อ “เซ็ตสึนะ” เธอเป็นนักวาดที่มีฝีมือเก่งกว่าเขามากหลายเท่า หากแต่เซ็ตสึนะก็เป็นเหมือนโซตะคือมีโลกส่วนตัวสูง และไม่มีเพื่อน แต่ด้วยเคมีเข้ากัน ชอบอะไรที่เหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อน (?) กัน

                    ความสัมพันธ์ระหว่างโซตะกับเซ็ตสึนะดีเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงจุดที่โซตะเริ่มเกิดด้านมืดนั่นคือความริษยา เซ็ตสึนะกลายเป็นคนดังในโลกอินเทอร์เน็ต กำลังมีงานมืออาชีพ ส่วนเขากลับเป็นย้ำอยู่ที่เดิม

                    จนกระทั่งวันหนึ่ง เซ็ตสึนะก็ถูกเกรียนในเน็ตกระหน่ำโจมตีไม่ยั่ง ดราม่าว่า ภาพไปลอกคนอื่นเขามา บลาๆ โซตะรู้เลยว่ามันเป็นเรื่องไม่จริง หากแต่เขาไม่ทำอะไรเลย ได้แต่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ใช่เพราะเขาไม่กล้าปกป้องเธอ แต่เป็นเพราะเขาเข้แอบรู้สึกสะใจที่เซ็ตสึนะกำลังถูกโจมตี

                    แม้ว่าเซ็ตสึนะพยายามคุยปรึกษากับโซตะเพื่อผ่านช่วงเวลาที่โหดร้าย แต่โซตะปฏิเสธเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา จนกระทั่งโซตะได้รู้ว่าเซ็ตสึนะได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว นั้นเองทำให้โซตะรู้สึกผิดบาปขึ้นมา เขาพยายามลืมก็ลืมไม่ได้ และไม่สามารถวาดรูปได้เหมือนเดิมอีก

                    คนไทยหลายคนไม่เข้าใจเรื่องของเซ็ตสึนะ กับโซตะดี คือทำไมเซ็ตสึนะต้องฆ่าตัวตายในเมื่อน่าจะรู้ตัวดีว่าวงการนี้รุนแรงมาก หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็อย่าเข้าวงการนี้เลย

    ในกรณีของเซ็ตสึนะ หากใครไม่เคยประสบพบเจอ ก็คงไม่รู้สึกหรอกครับ ว่าโลกอินเทอร์เน็ตมันโหดร้ายขนาดไหน ต่อให้เรารู้สังคมแบบนี้เป็นยังไง มันก็ยากรับมืออยู่ดี ยิ่งผู้หญิงมาเจอสังคมอินเทอร์เน็ตที่โดนกระหน่ำดูถูกฝีมือคุณแย่ นักก็อป ก็คงทนไม่ไหว (คุณลองไปเว็บไอ้โม่ง ไปอ่านพวกนินทาคนที่คุณชอบ หรือไม่ก็หากคุณเป็นคนดังอยู่แล้ว ก็อาจจะเจอ เชื่อเถอะ ต้องมีจิตตก น่าหงุดหงิด น่าโมโหบ้างแหละ แน่นอน ผมเองก็เคยโดนมาแล้ว แต่มันจริงอะ ผมชอบฮาเร็มนี่น่า)

    สำหรับคนญี่ปุ่นที่แทบไม่มีเพื่อนแล้ว สังคมอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามาก และเป็นโลกเดียวที่เรามี อีกทั้งมันผิดด้วยเหรอ ที่เรามีความฝัน อยากทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่เราคิดว่าทำแล้วมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่งมันกลายเป็นสิ่งที่ไม่สนุกขึ้นมา และมันกลายเป็นโลกที่โหดร้ายขึ้นมา

    ผมจึงชื่นชอบอนิเมะเรื่องนี้ คือต่อให้มีฉากต่อสู้ผสมโลก ตูมตามระเบิดภูเขา เผากระท่อมมากมายเพียงใดก็ตาม แต่ใจความหลักๆ ของเรื่องยังคงเป็นเรื่องใกล้ตัว อย่างสังคมอินเทอร์เน็ต วงการแฟนคลับ (fandom) ที่บางครั้งก็ออกมาล่าแม่มด แม้จะเป็นเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย หรือดราม่าที่ไม่มูลความจริง หรือทำลายอะไรบางอย่างที่เขาอุตสาห์จิ้นขึ้นมาละก็มีอันต้องมาถล่ม จนเคยมีการแซวกลุ่มพวกนี้ว่าเป็นกลุ่มคนที่อันตรายมากที่สุดในโลก พวกเขาไม่มีปืนหรือระเบิดก็จริง แต่การวิจารณ์ของพวกเขามันก็เหมือนระเบิดปรมาณู และมันเกิดจึ้นจริงด้วย หากจำไม่ผิด (ปล. ผมไม่ได้ตามปอบโตเกียวนะ) อย่างตัวเอกจากเรื่อง Tokyo Ghoul มีฉากพระเอกมีเพศสัมพันธ์กับนางเอก แฟนๆ แทบรับไม่ได้เพราะที่ผ่านมาเขา  พระเอกกับตัวละครอื่น (ไม่แน่ใจว่า มี ชายXชาย) หรือเปล่า ทำให้แฟนๆ เสียใจมาก แล้วดราม่าบอกให้คนวาดฆ่าตัวตายไปซะ นอกจากนี้ Fairy Tail ก็เคยออกมาขออ้อนวอนแฟนๆ ให้หยุดตีกันแล้วจากสาเหตุเรื่องให้ตัวละครนี้ X กับตัวละครนั้น โดยคนแต่งบอกว่าเขาไม่สามารถสนองความต้องการแฟนๆ ทุกคนได้

    มันออกจะเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติของวงการสื่อบันเทิง ที่อนิเมะเป็นอุตสาหกรรมบันเทิง อยู่ได้โดยอาศัยเงินจากผู้บริโภค หากได้ผลตอบรับไม่ดีก็ถูกตัดจบ หรืออาจผลตอบรับดีแฟน

    กลับมาเรื่องโซตะต่อ หลายคนอาจตำหนิเรื่องที่โซตะไม่บอกความจริงเกี่ยวกับความผิดของเขาตั้งแต่อดีต หากแต่เราก็ต้องเข้าใจโซตะว่า โซตะนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่สู้คน การจะหาเพื่อนสักคนนี้มันยากแสนยาก จนกระทั่งมาเจอเซลิเซีย และเมเทโอร่า  ตัวละครที่เขาชื่นชอบ (โดยเฉพาะเซลิเซีย จะเห็นว่าโซตะชอบเธอมาก ขนาดหน้ามือถือยังมีรูปของเซลิเซีย, ในห้องก็มีนิยาย, เวลาเครียดก็ดูอนิเมะของเซลิเซีย และภาพวาดของโซตะที่เอามาโฟสในอินเทอร์เน็ตก็เป็นภาพของเซลิเซียด้วย) ส่วนเมเทโอร่าก็เป็นคนที่เขานับถือ เห็นได้จากเวลาเขามีเรื่องคับแค้นใจ เขาก็โทรศัพท์หาเมเทโอร่า เพื่อขอคำปรึกษา (ครอบครัวของโซตะเท่าที่เห็น ตอนนี่มีเพียงแค่แม่ และเป็นแม่ที่ไม่ค่อยใส่ใจลูกมากนัก ทำให้ขาดการเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตที่ดีไป) และนั่นเองทำให้โซตะไม่อยากพูดถึงด้านมืดของเขาในอดีต เพราะเขากลัวที่ตัวละครที่เขาชื่นชอบ เกลียด และมองเขาเป็น

                    แต่อย่างน้อยโซตะก็ยังคิดได้ที่เขาอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่หนีปัญหาอีก  ในที่สุดโซตะก็ได้เล่าด้านมืดของตนเองต่อหน้าคนอื่น เรียกได้ว่าโซตะนั้นมีพัฒนาการดีกว่าพระเอกหลายเรื่อง จากเด็กที่ไม่มีความกล้า ก็เริ่มมีความกล้า จากเด็กที่เอาแต่หนีปัญหา ก็เริ่มที่จะเด็กที่พยายามจะแก้ปัญหา หลายคนอาจมองว่าธรรมดา แต่อย่าลืมว่าโซตะเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่ได้มีพลังวิเศษใดๆ  ซึ่งมันก็คือสิ่งที่โซตะสามารถทำได้แล้ว

                    อย่างไรก็ตาม บทบาทของโซตะตอนนี้ เรายังไม่ทราบว่าเขาจะเปลี่ยนทิศทาง เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องอย่างไร แม้จะเป็นตัวก่อเรื่อง แต่ก็ไม่ได้กระจ่างอธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมด เพราะเชื่อว่าเรื่องราวต่างๆ น่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น เรื่องราวของโซตะจะออกมาทิศทางใด ตัวของโซตะจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญของศึกครั้งนี้หรือไม่ และเขาคือพระเอกจริงหรือเปล่า ซึ่งต้องติดตามต่อไป


     

     

                    อัลแตร์ หรือ ทวินเทลในชุดทหาร อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในเรื่องที่ยังคงลึกลับจนถึงบัดนี้ (หลังจากดูไป 12 ตอน) สิ่งที่รู้แน่ชัดคืออัลแตร์เป็นตัวละครแฟนฟิควิดีโอออนไลน์ที่เรียกว่า Altair: World Étude แต่งโดยเซทสึนะ ซึ่งเป็นเรื่องราวสุดท้ายของชีวิตของเธอ และหลังจากที่เธอตาย คนอื่นๆ ก็เริ่มแต่งนิยายแฟนตาซีเกี่ยวกับตัวเธอหลายเรื่อง (คล้ายๆ จักรวาลเลิฟคลาส) พร้อมใส่ความสามารถไม่จำกัด  จนทำให้เธอกลายเป็นตัวละครสุดโกง (แน่นอนว่ามันมีข้อจำกัดแน่นอน เพราะในเมื่อมีพลังเป็นอนันต์ แต่ทำไมเธอไม่ทำลายโลกคนเดียว กลับตามหาพรรคพวก แถมยังปล่อยให้ฝ่ายพระเอกวางแผนรับมืออีก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้)  

                    แม้ว่าอัลแตร์จะเป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เพราะอีกด้านหนึ่งเธอก็น่าสงสารเพราะถือกำเนิดจากเจ้านายที่กำลังอยู่ในภาวะสิ้นหวังที่สุดในชีวิต ทำให้เกิดความแค้นต่อโลกแห่งความจริง จนอยากทำลายให้สิ้น

                    แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปริศนามากมายเกี่ยวกับตัวอัลแตร์ที่ยังไม่อธิบายได้ และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมอยากติดตามว่าเรื่องมันจะเฉลยในทิศทางใดด้วย เป็นต้นว่า

                    ตกลงแล้วสาเหตุตัวละครในสื่อบันเทิงหลุดมาโลกแห่งความจริง  แท้จริงแล้วอะไรเป็นต้นเหตุ แม้ในเว็บ Wiki จะบอกว่าอัลแตร์จะมีความสามารถเข้าไปในโลกสื่อบันเทิงได้ แต่ในเรื่องเราจะพบว่าตัวละครในสื่อบันเทิงหลุดไปยังโลกแห่งความจริงได้เอง โดยที่อัลแตร์ไม่เกี่ยวข้อง เป็นต้นว่า รุยหลุดแบบมายังโลกแห่งความจริงแบบไม่มีสาเหตุ ไปจนถึงโซตะเองที่จู่ๆ เขาก็หลุดไปยังโลกอนิเมะได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร

    คำถามคือมันเกิดขึ้นได้ยังไง มันเป็นพลังของใครคนหนึ่งหรือเปล่า หรือเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ หรือจะเป็นพลังของโซตะ (!?)  หากสังเกตดีๆ ตัวละครที่ออกมาสู่โลกแห่งความจริง ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงในเวลานั้น ไม่ได้เป็นผลงานเก่า หรือการ์ตูนอมตะแต่อย่างใด ส่วนผู้วาดเรื่องนั้นๆ ก็อายุยังน้อย ไม่ได้แก่อะไรมากมาย ทำให้กลายเป็นคำถามว่าตกลงแล้วตัวละครที่ออกมาสู่โลกความจริงมีข้อจำกัดหรือไม่ ทุกตัวล้วนเป็นผลงานที่เซ็ตซึนะ หรือโซตะชอบหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ไม่ค่อยมีใครตั้งคำถามมากนัก

                    สรุปแล้วอัลแตร์เกลียดโซตะหรือไม่? แม้ใน Wiki จะบอกว่าอัลแตร์เกลียดโซตะเพราะเขามีส่วนในการฆ่าตัวตายของเซทสคนะ และอัลแตร์ก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าเขา แต่เอาเข้าจริง ผมดูแล้วอัลแตร์ไม่ได้เกลียดโซตะ

                    ลองคิดดู ถ้าอัลแตร์เกลียดโซตะจริง อัลแตร์ก็น่าจะฆ่าโซตะไปนานแล้ว ยิ่งฉากตอนโผล่มาบ้านโซตะ อัลแตร์ก็ใช้พลังบึ้มบ้านโซตะก็จบ แต่อัลแตร์กลับไม่ทำอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

                    ที่สำคัญแม้ว่าอัลแตร์จะอยู่ต่อหน้าโซตะ แต่อัลแตร์ไม่พูดอะไรกับโซตะสักคำ ในเมื่อโซตะเป็นตัวต้นเหตุ แต่อัลแตร์ทำอย่างกับโซตะไม่มีตัวตน มีเพียงครั้งเดียวที่อัลแตร์พูดถึงโซตะ คือการสนทนากับเซ็ทสึนะว่าเธอเจอเขา และเธอจะทำลายโลกแม้จะมีเขาก็ตาม

                    ความรู้สึกที่ว่าอัลแตร์เกลียดโซตะนั้น เป็นความรู้สึกของโซตะเอง ที่โซตะคิดว่าอัลแตร์เกลียดเขา แต่เอาเข้าจริงไม่มีสิ่งบ่ชี้อะไรเลยที่อัลแตร์เกลียดโซตะเลยแม้แต่น้อย ในฉากที่มารินะพูดคุยกับอัลแตร์เกี่ยวกับเซ็ทสึนะ อัลแตร์บอกว่าเธอเกลียดโลก เกลียดพวกสื่อบันเทิง แต่เธอกลับไม่พูดว่า “เกลียดโซตะ” สักคำ

                    ดังนั้นจึงมีตัวเลือกสองข้อ ข้อแรกคืออัลแตร์ไม่เห็นหัวโซตะ โซตะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ที่เธอไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย (เอาง่ายๆ เหมือนขยะ ถึงยังไงมันก็ถูกทำลายพร้อมโลกอยู่แล้ว) ซึ่งอันนี้ผมว่าไม่น่าใช้ มันธรรมดา สูตรสำเร็จไป และมันไม่ส่งเสริมบทบาทโซตะตามสูตรของคนแต่งที่ชอบสร้างตัวละครประเภทนี้เลย

                    และข้อสองที่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ (และโครตอยากให้เป็น) ก็คืออัลแตร์รักโซตะ

       ข้อสันนิษฐานนี้แม้จะเป็นไปไม่ได้เลย  แต่การกระทำของอัลแตร์ก็แอบคิดว่าสรุปแล้วการทำลายล้างโลกเป็นจุดหมายหลักแท้จริงของอัลแตร์หรือไม่ หรือเธอมีจุดมุ่งหมายอย่างอื่นอีก จนผมแอบคิดว่าสิ่งที่อัลแตร์ทำนั้นเธอทำเพื่อโซตะด้วยซ้ำ หรือผมคิดไปเอง ซึ่งถ้าเป็นจริงนี้ถือว่ามันจะหักมุม และน่าติดตามมาก

                    อัลแตร์ริษยาเซลิเซีย ทำไมผมถึงคิดว่าอัลแตร์รักโซตะ มันก็เริ่มมาจากตอนแรก ที่อัลแตร์ได้ขอให้เซลิเซียร่วมมือกับตน ซึ่งเซลิเซียได้ปฏิเสธ และจากนั้นเมื่ออัลแตร์ได้เห็นโซตะข้ามโลก แล้วอยู่ใกล้กับเซลิเซียก็รู้สึกตกใจ จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีโจมตีเซลิเซียกะเอาให้ตายให้ได้

                    หากเราสังเกตดีๆ การปรากฏตัวของอัลแตร์ต่อหน้าโซตะมีน้อยมาก แล้วเมื่อทุกครั้งที่อัลแตร์ปรากฏตัว ก็เป็นตอนตะอยู่กับเซลิเซีย และทุกครั้งที่เจอกัน อัลแตร์มักทำร้ายเซลิเซียอย่างหนัก แถมยังลดความสามารถของเซลิเซียให้อ่อนลงอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นหุ่น หรือดาบ และยังเจาะร่างของเซลิเซียจนเป็นรูโบ๋ว ราวกับว่าเซลิเซียเกลียดเซลิเซียนัก พอๆ กับกรณีของมารินะไปจี้จุดเรื่องเซ็ตสึนะเข้าจนอัลแตร์ของขึ้น

                    มันเป็นไปได้ไหมที่ แท้จริงแล้งอัลแตร์เกลียดเซลิเซีย ซึ่งสาเหตุที่เกลียด ก็น่าจะเป็นช่วงที่โซตะยังไม่มีเพื่อนนั้น เขาวาดรูปแฟนพีคเซลิเซียจนเซ็ตสึนะเห็นแล้วติดต่อจนเป็นเพื่อนกัน เซลิเซียจึงเป็นสื่อกลางที่ทำให้ทั้งคู่รู้จักกัน เป็นความหวัง เป็นสิ่งที่ทั้งคู่ชอบ ส่วนอัลแตร์เป็นเพียงสิ่งที่ถือกำเนิดจากความสิ้นหวัง ความแค้น ความเกลียด และเป็นช่วงเวลาที่เซ็ตสึนะแยกออกจากโซตะตลอดกาล ก็ไม่แปลกที่อัลแตร์จะเกลียดเซลิเซีย ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้ก็ต้องติดตามต่อไปว่ามันจะจริงหรือไม่  

                    สุดท้าย อัลแตร์ก็คือเซ็ตสึนะ ตัวตนของอัลแตร์ยังคงลึกลับ และมีฉากหนึ่งที่อัลแตร์ได้พูดคุยกับใครบางคนที่เชื่อว่าเป็นเซ็ตสึนะ ปัญหาคือ  เซ็ตสึนะที่อัลแตร์พูดคุยนั้น เป็นวิญญาณ หรือเป็นความรู้สึกที่นึกคิดไปเอง (มโน) หรือจะเป็นอาการของสองบุคลิกกันแน่?

                    ในตอนนี้เรื่องการกำเนิดอัลแตร์ยังคงลึกลับ การคาดเดาก็มากมาย สิ่งหนึ่งที่น่าจะหักมุมไปสักหน่อย ก็คืออัลแตร์ก็คือเซ็ตสึนะนั่นเอง บางที่เซ็ตสึนะอาจเข้ามาในโลกของอนิเมะ หลักจากเหตุการณ์รถไฟชนกัน และวิญญาณส่วนหนึ่งได้อยู่ในตัวของอัลแตร์

                    แน่นอนว่าสิ่งที่ผมอยากเห็นในช่วงครึ่งหลัง ก็คือฉากที่โซตะเผชิญหน้ากับอัลแตร์ตัวต่อตัว ซึ่งน่าจะเป็นฉากที่น่าจะเฉลยตัวตนของอัลแตร์ และน่าจะเป็นคำตอบว่าแท้จริงแล้วอัลแตร์เกลียดหรือชอบโซตะกันแน่

     

     


                    เอสเทอร์ริซ เมเทโอร่า อนิเมะเรื่องนี้แปลกอยู่อย่างที่ ไม่มีใครเป็นนางเอกแน่ชัด ระหว่างเซลิเซีย  ทวินเทลในชุดทหาร และเมเทโอร่า ซึ่งแต่ละคนดำเนินเรื่องโดดเด่นไม่แพ้กัน เซลิเซียดำเนินเรื่องเหมือนเป็นนางเอก ในขณะที่ทวินเทลเน้นไปทางความลึกลับน่าติดตาม ส่วนเมเทโอร่านั้นเน้นไปทางตัวละครสร้างสีสัน จนเรียกได้ว่าหากไม่มีเมเทโอร่าอนิเมะเรื่องนี้คงจืดไม่น้อย

                    ใครจะคิดว่าสาวหน้านิ่งอย่างเมเทโอน่าจะเป็นตัวละครสร้างสีสันในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ฉากต่อสู้ของเมเทโอน่าทำได้อลังการงานสร้าง ดราม่าก็ทำได้ แถมยังมีบทบาทเป็นมันสมองของกลุ่มจนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มที่ขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่โครตโดดเด่นของสาวหน้านิ่งคนนี้ก็คือเป็นคนที่ชอบพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ยิ่งถ้ามีฉากสนทนายาวๆ เมื่อไหร่ เมเทโอร่าจะเป็นประธานกลุ่มสนทนาทุกเมื่อ แถมแต่ละประโยชน์ที่ยัยหนูที่พูดสั้นๆ เลย “มึน” ทั้งศัพท์เฉพาะ โลกชนกัน สิ่งสร้างสรรค์ บลาๆ เรียกได้ว่าหลายคนคิดว่าเรื่องมันเฉื่อยๆ ก็เพราะสิ่งที่เมเทโอร่าพูดนี้แหละ (และที่น่าตะลึงก็คือ ตัวละครในเรื่องดันเข้าใจสิ่งที่เธอพูดซะงั้น)

                    แม้เมเทโอร่าเป็นยัยหนูที่พูดอะไรไม่รู้เรื่อง (ตามประสาสาวคูล) แต่ก็ยังเป็นเป็นตัวละครที่สร้างสีสัน ที่โดดเด่นของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมุกตลก แอบเกรียน ตลกบริโภค และยังเป็นตัวละครที่ขโมยซีนหลายครั้ง โดยเฉพาะฉากที่เยียวยาจิตใจของโซตะนั้น ก็ทำได้ดี จนเรียกว่าเมเทโอร่าจะเป็นนางเอกก็ได้

                    อย่างไรก็ตาม หลายคนก็เสียวไปตามๆ กัน เพราะว่าหากเมเทโอน่ามีบทเกินหน้าเกินตา อาจจะมีบทตายได้ในอนาคต เหมือนกับมารินะ  แต่โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าอนิเมะเรื่องนี้จะข่ายความปลอดตับ (บางที่มารินะอาจคืนชีพด้วยซ้ำ เพราะสาวน้อยเวทมนต์ก็มีมุกแบบนี้บ่อยๆ)  ผมคิดว่าบทของเมโทโอร่าน่าจะยาว และบางทีอาจได้ตีกับทวินเทลด้วย ทำให้เมเทโอร่าน่าจะเป็นตัวละครที่ดูแล้วสนุก สร้างสีสัน และมีความสำคัญกับโซตะมากกว่าตัวละครอื่นๆ ในเรื่อง

     

                 แม้ในช่วงครึ่งแรกตัวอนิเมะอาจไม่หวือหวาเท่า Guilty Crown, Aldnoah.Zero ที่เน้นไปทางแอ็คชั่น อลังการงานสร้าง ตอนต้นจัดเต็ม และฉากหนักๆ ในช่วง 11-12 แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นอนิเมะที่น่าติดตามไม่แพ้กัน การเน้นประเด็นเรื่องความรู้สึกของตัวละครในเรื่องที่ทำได้หลากหลาย มีมิติ ไม่ได้แบนๆ อีกทั้งการเน้นการดำเนินเรื่องให้เราคาดเดาไม่ออกมากกว่าแอ็คชั่น สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าอนิเมะRe:Creators ทำได้ดีกว่ามาก เพราดูจนค่อนเรื่องแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าอนิเมะจะจบในทิศทางไหน มันจะทำให้คนดูรับได้หรือเปล่า

     

     

    Last Action Hero

     

                    สำหรับใครที่ดูซีรีย์เฟส หลายคนก็อาจจะรู้สึกที่มันมีหลายจุดที่คล้ายๆ เฟสบ้าง ทั้งนี้เพราะทีมงานก็เป็นทีมงานเดียวกับสร้างเฟสซีโร่ แต่ถึงอย่างนั้นจากบทสัมภาษณ์ของผู้เกี่ยวข้องอนิเมะ จะเห็นว่านอกจากซีรีย์เฟสจะเป็นต้นแบบแล้ว พวกเขายังมีต้นแบบ Last Action Hero  ที่นำแสดงโดยดาราชื่อดังในยุคนั้นอย่างอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ด้วย ซึ่งได้นำส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ใส่เข้าไปในเรื่องด้วย

                    Last Action Hero   เป็นภาพยนตร์ที่ฉายในปี 1993 ชื่อไทยคือ “คนเหล็กทะลุมิติ” โดยเป็นเรื่องราวของเด็กชายคนนั้นที่บ้าภาพยนตร์แอ็คชั่นมาก บ้าถึงขั้นโดดเรียนเพื่อมาดูภาพยนตร์ วันหนึ่งเขาได้มาดูภาพยนตร์เรื่องโปรดที่พระเอกอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์เล่น และเขาเกิดหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ และเด็กชายก็ไปเจอพระเอกเข้า จนเกิดเรื่องวุ่นวายตามมา

                    ประเด็นที่ภาพยนตร์ Last Action Hero   ต้องการนำเสนอ ก็คล้ายๆ Re:Creators ในช่วงครึ่งแรก ที่ภาพยนตร์คนเหล็กทะลุมิติได้ใช้ประเด็นเสียดสีข้ามโลกว่าโลกมายานั้นเกิดจากความแห่งความจริง ที่เป็นเพียงแค่บทที่คนเขียนบทแต่งขึ้น และมันจะไม่จบโดยง่าย อีกทั้งมันก็เป็นไปตามบทที่เขียน ซึ่งตัวพระเอกอาร์โนลด์สูญเสียคนสำคัญไป มันเป็นสิ่งที่กำหนดเอาไว้แล้ว ตามสูตรสำเร็จของหนัง และมันเป็นไปตามบทที่เขียน แน่นอนว่าอาร์โนลด์แทบรับไม่ได้กับทุกอย่างเป็นบท รับไม่ได้ว่าโลกที่เขาอยู่เป็นโลกแต่ง อีกทั้งคนเขียนบทก็ไม่ได้แคร์ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องที่ต้องเจอเรื่องโหดร้าย ทำให้ตัวละครรู้สึกว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง เหมือนโดนหลอกให้เต้นตามบทของคนเขียนบทยังไงอย่างนั้น

                 ความจริงประเด็นเหล่านี้ เป็นสูตรสำเร็จมากในการ์ตูนที่ตัวเอกหลุดจากโลกจิตนาการมาสู่โลกแห่งความจริง แต่ส่วนใหญ่ประเด็นเหล่านี้พวกตัวเอกจะรับได้อย่างง่ายดาย และปรับตัวเข้ากับโลกแห่งความจริงได้อย่างรวดเร็ว แต่ Re:Creators ได้ใส่ประเด็นนี้ใส่ตัวละครที่จากสื่อบันเทิง (ในเรื่องเรียกว่า สิ่งสร้างสรรค์”) พวกฝ่ายโซตะไม่เท่ารับเพราะเป็นพวกรับได้กับทุกสถานการณ์ บางคนก็รู้สึกยินดีด้วยซ้ำที่อยู่ในโลกแห่งความจริงที่โครตสงบสุข ไม่ได้ไปรบกับใคตร ไม่มีใครมาสั่ง แต่สำหรับตัวละครที่อยู่ฝ่ายทวินเทลได้รับผลกระทบเต็มๆ สาวน้อยจอมเวทย์มารินะพบว่าการต่อสู้ของจริงนั้นโหดร้ายที่มีเลือดออกยางแตกไม่เหมือนในการ์ตูนที่ดูสดใสน่ารัก และเธอไม่สามารถทำให้ตัวละครทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน ไม่สู้กัน มันไม่เหมือนโลกของสาวน้อยเวทมนต์ที่อะไรก็ง่ายไปหมด  และตัวละครที่หนักสุดก็คืออัศวิน อัลลิเซเทเลีย (อลิซ) ที่มาทราบความจริงว่าสิ่งที่เธอพยายามปกป้องอาณาจักรที่เธอรัก และได้พบกับความสูญเสียมากมาย แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงแค่บทที่ถูกวางอาไว้โดยคนแต่ง เพื่อความบันเทิงแก่ผู้อ่าน ราวกับเป็นการเล่นความรู้สึกของเธอ จนทำให้เธอรับกับมันไม่ได้

                  ดังนั้นช่วงครึ่งแรกเน้นไปทางรู้จักตัวละคร รู้ที่มาที่ไปของตัวละคร (ทั้งตัวละครจากสื่อบันเทิง ผู้สร้าง เด็กชายธรรมดา) รวมไปความรู้สึกของตัวละครต่างๆ  อะไรเป็นต้นเหตุ อะไรคือสิ่งที่ควรทำ นำไปสู่การดำเนินเรื่องในช่วงครึ่งหลัง  ส่วนฉากแอ็คชั่นมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น


    สิ่งที่กล่าวมาก็คือ Re:Creators ช่วงครั้งแรก ทั้ง 12 ตอน) แน่นอนว่ายังเหลืออีก 12 ตอน และตอนพิเศษอีก 3 ตอน ให้ได้ติดตามอีก ซึ่งมันอาจไม่ได้หวือหวา บางช่วงก็อืดๆ อยู่บ้าง  แต่มันก็เป็นอนิเมะที่น่าติดตาม น่าสนใจ สำหรับซีซั่นนี้ ฉากแอ็คชั่นแม้จะไม่ได้จ๋า แต่มันก็ทำออกมาดูดี มีอารมณ์ร่วม เสน่ห์ของตัวละครที่ดึงจุดเด่นของสูตรสำเร็จพวกสาวน้อยเวทมนต์ ไซไฟ แฟนตาซี ออกมาได้อย่าง และส่วนตัวที่ผมติดตามผมก็ลุ้นให้โซตะกลายเป็นตัวละครสำคัญ มากกว่าตัวละครเชื่อมโยง หรืออยู่ผิดที่ผิดทาง เหมือนกับตัวประกอบเกรดบีไม่ปาน ผมอยามโซตะทำอะไรให้มากกว่านี้


    สำหรับผลตอบรับของคนดู แม้ว่าตัวละครในเรื่องจะติดอันดับได้รับความนิยมหนึ่งในสิบ (ส่วนใหญ่ได้อันดับ 10) แต่ในด้านยอดขายแผ่น (ไม่รู้เป็นบลูเรย์หรือเปล่า) กลับน้อยกว่าที่คิด เพราะเพียงแค่ 2,000 แผ่น ซึ่งถือว่าเป็นการขาดทุน เพราะหากจะได้กำไรต้องหมื่นขึ้นไป (แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่สามารถเอาไปเทียบได้อยู่ดี เพราะก็ต้องหวังสินค้าอื่นๆ ด้วย เช่น ฟิคเกอร์ ของทีระลึกอื่นๆ อีก)


     


    และสุดท้าย ผมก็หวังว่าช่วงครึ่งหลังน่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งแรก ไม่อยากซ้ำรอยเดิมอนิเมะ 24 ตอนที่ผมโครตผิดหวังเลยในช่วงหลังๆ  หากครึ่งหลังทำออกมาดีผมก็จะเขียนอีกว่ามันได้ให้อะไรกับเราบ้าง


     










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×