ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #444 : Maou no Hisho เลขาของท่านจอมมาร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.63K
      7
      13 ก.ค. 60

    หากพูดถึงตำแหน่งเลขา ในหนังสือการ์ตูน (หรือละคร และภาพยนตร์)  หลายคนมักเห็นสาวแว่นที่มาดเนี๊ยบที่ช่วยจัดการรายละเอียดยิบย่อยให้เจ้านาย งานที่ยากๆ ก็ให้เลขาจัดการ แล้วเลขาก็กำหนดงานและการนัดหมายงานให้เจ้านาย พูดง่ายๆ เลขานั้นไม่แตกต่างอะไรกับผู้ช่วยและมือขวาของเจ้านายเลย

                    เลขา (ความจริงตามความหมายเลขาเฉยๆ จะแปลว่าเลขเลขาคณิต หากจะเรียกตำแหน่งต้องเติมเลขาธิการ, เลขานุการด้วย แล้วแต่บทบาท แต่หลักๆ เหมือนกันคือคนที่มีตำแหน่งระดับสูง อาจรองกว่าเจ้านายหน่อยๆ มีหน้าที่บริหารองค์กร จัดสรรทรัพยากร ฯลฯฯ ) นั้นเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เพราะอยู่เบื้องหลังความสำเร็จต่างๆ ของเจ้านาย สมัยก่อนนั้นเลขาเปรียบเสมือนรัฐมนตรี, เสนาธิการ, นักวางแผนกลยุทธ์ให้เจ้านาย หากเลขานั้นดีก็ให้เจ้านายประสบความสำเร็จสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้เลย

                    ปัจจุบันเลขาก็ยังเป็นตำแหน่งสำคัญ อย่าง เลขาธิการ (บริหารราชการและการเมือง) ที่มีหน้าที่ทำให้องค์กรเข้มแข็งเพราะเป็นคนกำหนดนโยบายให้องค์กรระดับล่างไปปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้า อย่างเลขาธิการสหประชาติก็ก็ช่วยดูแลให้โลกสงบสุข ส่วนเลขานุการ (ใช้ระบบราชการ การเมือง ธุรกิจ) ก็มีหน้าอำนวยความสะดวก ประสานงาน งานเอกสาร

    พวกเขาเป็นเสมือนเงาที่แม้มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญ แต่หลายคนไม่สนใจนัก

                    แม้มองเผินๆ เลขาเป็นตำแหน่งที่ลำบาก เพราะต้องรับมือความเอาแต่ใจของเจ้านาย, ต้องทำตามผู้ใหญ่ใส่ การจัดการปัญหามากมายที่มนุษย์ธรรมดาเห็นแล้วโครตปวดหัว แต่เลขาก็ยังแข็งแกร่งทุกสถานการณ์ เพราะมันคือหน้าที่ที่จะต้องทำให้องค์กรไปต่อได้สะดวก และการ์ตูนที่จะนำเสนอต่อไปนี่คือความสุดยอดของเลขา

     

     

    Maou no Hisho เป็นเรื่องราวของโลกแฟนตาซีที่มีผู้กล้ากับจอมมาร โดยมีตำนานบอกว่าเมื่อผู้กล้าแห่งแสง ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก จอมมารก็จะถูกปลุกจากการหลับใหล แล้วสร้างความหายนะให้แก่โลก ซึ่งมีเพียงผู้กล้าเท่านั้นที่จะสามารถปราบจอมมาร และสร้างความสงบสุขให้แก่โลกได้ แต่.....นั้นก็เป็นเพียงแค่ตำนาน ที่จนถึงตอนนี้มันก็ไม่เป็นจริงสักที

    อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไป จนกระทั่งตำนานเกิดขึ้นจริง ผู้กล้าแห่งแสงได้ถือกำเนิดขึ้นมา กลายเป็นข่าวใหญ่ ไปทั่ว หากแต่วันเวลาผ่านไป ก็ไม่ได้ยินข่าวว่าจอมมารฟื้นคืนชีพ แถมโลกยังสงบสุขอีกต่างหาก

     ความจริงแล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะจอมมารขี้เซา แม้ตื่นแล้วก็หลับต่อ จนเวลาผ่านไป 14 ปีกว่าจะตื่นขึ้นมา แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาจอมมารได้สั่งลูกน้องจำนวนมากจับมนุษย์ที่มีความรู้สูงมา เพื่อทราบข่าวสารความเป็นไปของโลกใบนี้

    ต่อมา ลูกน้องจอมมารได้จับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเลขาของราชาประเทศหนึ่ง (ไม่ทราบว่าเป็นเลขานุการ หรือเลขาธิการ แต่น่าจะเป็นทั้งสองอย่าง หรือก็คือสุดยอดเลขา) แถมเป็นสาวแว่น นมโต ที่มีนิสัยจริงจังมาก แล้วเธอคนนั้นก็ทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเมื่อเธอบอกว่า เธอจะเป็นเลขาของจอมมาร  โดยจะใช้ความรู้ทั้งหมดของเธอ ในการคิดแผนการกำจัดมนุษย์ชาติ กับผู้กล้าจนสิ้นซาก และให้จอมมารยึดครองโลกได้อย่างง่ายดาย

    แม้จะบ้า ที่จู่ๆ เลขาสาวแว่นโครตน่ารักยินดีจะวางแผนกำจัดมนุษย์ ยกเว้นตัวเอง) แต่จอมมารก็ว่าง่าย ยอมรับข้อตกลงนั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเลขา (หรือเสนาธิการฟ่ะ) จอมมารที่ร้ายกาจที่สุดในประวัติศาสตร์

     Maou no Hisho เป็นการ์ตูนผลงานของ Kamonabe Kamotsu ปี 2016 ก็ไม่รู้ว่าเป็นการ์ตูนเน็ตหรือเปล่า (น่าจะใช้เพราะผมเห็นโฆษณาอยู่เลยว่าสามารถอ่านในมือถือ) แต่เราสามารถเห็นการ์ตูนทุกตอนของเรื่องนี้ ใน www.pixiv.net และมีเวอร์ชั่นก่อนมาเป็นเลขาจอมมารด้วย (ซึ่งเหมือนกับเวอร์ชั่นปัจจุบัน ต่างตรงภาพลักษณ์ตัวละครมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้นเอง)

    Maou no Hisho อาจเป็นการ์ตูนแนวจอมมารรั่วๆ ที่เป็นอีกหนึ่งพล็อตที่ได้รับปัจจุบันนี้ หากพูดถึงจอมมาร สิ่งแลกที่เรารู้ก็คือลาสต์บอส (บอสตัวสุดท้าย) ในเกม RPG ที่เราที่เล่น (ที่ต้องรับบทเป็นผู้กล้า) ต้องมาเจอ และต่อสู้กันในศึกสุดท้าย เพื่อจบเกม

    ภาพลักษณ์จอมมาร เราก็ต้องนึกถึงปีศาจที่น่าเกรงขาม ท่าทางดุดัน ร้ายกาจ มีลูกสมุนน่าเกลียดน่ากลัวอยู่รายรอบ มีนิสัยโหดเหี้ยม ก่อกวน สร้างความเดือดร้อนแก่เหล่ามนุษย์ หรือบางตัวที่เลวๆ ก็จับมนุษย์มาเป็นทาส ปกครองมนุษย์อน่างโหดร้ายป่าเถื่อน ฯลฯ

    จอมมารจึงกลายเป็นจุดสูงสุดของความชั่วร้ายทั้งหมดทั้งปวง เป็นรากเหง้าของหายนะ สร้างความวุ่นวายไปทั่วหนทุกแห่ง และผู้กล้าก็คือผู้ถูกเลือกให้ผู้กอบกู้ ออกเดินทาง ฝึกฝน รวบรวมพวกพ้อง เพื่อฆ่าจอมมาร นำความสงบสุขมาสู่โลก 

    หากแต่..... ปัจจุบัน  จอมมารไม่ได้เป็นเหมือนอดีตอีกต่อไป ความชั่วร้ายดำ กับความดีสีขาวมันเป็นสิ่งที่ไม่อยู่จริงอีกต่อไป   จอมมารที่มีภาพลักษณ์ที่โหดร้ายได้กลายเป็นสิ่งที่ล้าหลัง และล้าสมัย  เมื่อจอมมารที่มีภาพลักษณ์ที่โหดเหี้ยมได้ถูกบั่นทอนลง จนกลายเป็นจอมมารที่ไม่มีพิษมีภัย พร้อมกับนำเสนอประเด็นมา “จอมมารไม่ได้ชั่วร้ายเสมอไป”

    จอมมารกลายเป็นสาวนมโตเอย จอมมารกลายเป็นสาวน้อยโลลิเอย จอมมารกลายเป็นผู้ชายสู้ชีวิตเอย จอมมารกลายเป็นคนไร้ประโยชน์เอย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นจอมมาร แต่พวกเขาก็ไม่ได้ชั่วร้ายเสมอไป  จอมมารก็มีอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ ที่พวกเขาก็อยาก

    กลับกัน มนุษย์เองนี้แหละที่เป็นจอมมารเสียมากกว่า จนจอมมารบางเรื่องถึงกับอวดครวญมนุษย์ว่า “น่าจะจับมาเป็นจอมมาร” ด้วยซ้ำ หลายเรื่องจอมมารเองก็มีกาจิกกัดเรื่องราวมนุษย์ ที่ทำอะไรยิ่งกว่าจอมมารเสียอีก ไม่ว่า ตลบตะแลง หลอกลวง  ชอบสงคราม แล้วมันแตกต่างจากจอมมารตรงไหน

     

     

     

                    Maou no Hisho ก็คือหนึ่งในการ์ตูนที่พยายามแสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นจอมมารที่แท้จริง

                    ท่ามกลางความสับสนลูกน้องจอมมารหลายตนสงสัยว่าทำไมมนุษย์ธรรมดาถึงทำหน้าที่เป็นเลขา (เสนาธิการ) มนุษย์ควรเป็นเหยื่อของพวกมันสิ สาวแว่นเลขาที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาจอมมารอย่างเป็นทางการมาหมาดๆ  ก็ไม่รีรอจัดการประชุมใหญ่ทันที                เมื่อลูกน้องจอมมารกันพร้อมหน้า เลขาก็แจงแผนการกำจัดมนุษย์ชาติภายใน 2-3 วัน!! อย่างเสร็จสรรพ สร้างความตกตะลึงกับลูกน้องจอมมารว่า หา..... มันง่ายไปไหม?

                    แน่นอนแผนเลขามันโครตจริงจัง ไม่ใช่ล้อเล่น ทำได้จริง ในเมื่อที่ผ่านมาพวกปีศาจอยู่แต่ในปราสาท (ตามสูตร)  อยู่แต่ในถิ่นตัวเอง แต่กลับไม่ไปถล่มมนุษย์เลยสักนิด ทั้งๆ ที่มีกำลังพล ทรัพยากรมากมาย เลขาแค่เสนอแผนรบให้ง่ายที่สุด คือยกทัพไปสู้ให้จบๆ ไป ยึดโลกในสามวันไม่ดีกว่าเหรอ ถึงยังไงกำลังทหารดีกว่าอยู่แล้ว

                    พวกลูกน้องจอมมารได้ยินแผนการของเลขาสาวแว่น ก็เงียบกริบ "ชิบฉายละ" จึงโอดอวยว่าแผนนี้มันง่ายเกินไปไหม เลขาก็สวนกลับว่าแล้วมันไม่ดีเหรอ   เล่นเอาลูกน้องเงียบเป่าสาก ยังดีที่จอมมารมาขัดก่อนว่าแผนมันอาจเสี่ยงอยู่น่า เลขาเลยนำเสนอแผนการใหม่ ในเมื่อไม่ชอบแผนเร็ว ก็ใช้แผนช้านั่นคือการปล่อยโรคระบาด ปล่อยแมลงทำลายพืชผลมนุษย์ ให้มนุษย์ทำลายกันเองภายใน ผู้กล้ามาเห็นภาพเหล่านั้นก็จิตตก จนเกิดความคิดว่า “เราจะสู้ไปทำไม ในเมื่อโลกมันเน่าเหม็นจนยากแก่การเยียวยาแล้ว”

               แค่ไม่กี่ตอนก็ขำแล้ว ทั้งจิกกัดจอมมารที่ชอบอยู่ปราสาท พวกลูกน้องเก่งๆ อยู่แนวหลังไปหมดไม่ไปรุกรานมนุษย์เลย (ให้ลูกน้องอ่อนๆ ไปให้พวกผู้กล้าเก็บเลเวล) จอมมารก็ไม่ได้เรื่องได้ราว (ความจริงช่วงหลัง ก็มีจอมมารที่รุกรานมนุษย์แบบนี้ แต่ในการ์ตูนน่าจะจิกกัดจอมมารในเกม RPG มากกว่า ประมาณว่า แม้จอมมารรุกรานโลก แต่ชาวบ้านชาวช่องยังโครตสงบสุข ขายของปกติแล้ว)

    บางถึงตอนนี้เราก็ได้เห็นความเนี๊ยบของสิ่งมีชีวิตที่ว่าเลขา และในความเนิ๊บยนี้ก็แฝงด้วยความเด็ดขาด และความโหดเหี้ยมเอาไว้ด้วย

    หลายคนอาจให้ความคิดเห็นว่าเลขานั้นโหดกว่าจอมมาร คำตอบคือ “ผิด” ครับ เลขานั้นไม่ได้โหดเหี้ยมอะไรเลย เพราะเธอทำสิ่งที่เรียกว่าเลขาได้อย่างคุ้มค่าเงินค่าจ้าง

    เลขา (ขอพูดรวมๆ กับเลขานุการ เลขาธิการ และเสนาธิการ) ต้องมีความรู้รอบด้าน มีหน้าที่รับผิดชอบการงาน มีไหวพริบ รู้จักวางแผน เป็นคนเข้ากับทุกคนได้ ไม่คิดมาก และหน้าที่สำคัญของเลขาคือการสรุป รายงาน ว่าองค์กรมีจุดอ่อนอะไร จะจัดสรรทรัพยากรยังไง ควบคุมสิ่งต่างๆ เพื่อให้ไปได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อให้เจ้านายทำอะไรสะดวก ง่ายดายขึ้น ไม่จำเป็นต้องผจญกับสิ่งยุ่งยากยิบย่อยอื่นๆ  และทำให้องค์กรเข้มแข็ง ไปรอดขึ้น

    การที่เลขาท่านจอมมารใช้แผน เอากองทัพบุกมนุษย์ยึดโลกในสามวัน มัน ไม่ได้โหดเหี้ยมอะไรเลย เพราะสิ่งที่เธอทำคือการวางแผนที่เป็นไปได้ ทำแล้วประสบความสำเร็จที่สุด  และเสี่ยงน้อยที่สุด

    เลขาไร้จิตใจเหรอ คำตอบคือไม่ มันเป็นสิ่งปกติของมนุษย์   ในโลกแห่งความจริงหลายบริษัทก็ต้องการทำให้องค์กรของเราเข้มแข็ง แม้ว่าสิ่งที่ทำอาจสร้างความเดือดร้อนต่อสังคม หรือสิ่งรอบข้างก็ตาม แต่เราจำเป็นต้องทำเพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรรอด  มันเป็นสิ่งที่ดิ้นรนแม้จะทำร้ายผู้อื่นก็ตาม

    กลับกันพวกจอมมารนั่นแหละที่สงสารมนุษย์ นั่นคือความอ่อนแอ เพราะพวกปีศาจไม่เข้าใจกฎธรรมชาติว่าคนอ่อนแอ่ยอมตกเป็นเหยื่อผู้เข้มแข็ง

    จริยธรรมมันมีซะที่ไหน

    มันเป็นหน้าที่ของเลขา หากเลขามีความรู้สึกขี้สงสาร ดูถูกศัตรู  ก็ไม่สมควรเป็นเลขา นี่คือโลกธุรกิจ ไม่ใช่โลกการกุศล

     

     

     

    แม้ในเรื่องจะมีการนำเสนอเรื่องไม่ดีของปีศาจอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องก็แสดงให้เห็นสิ่งมีชีวิตของมนุษย์ที่นิสัยไร้เหตุผลยิ่งกว่าปีศาจอีก อย่างตอนพระราชาที่อดีตเป็นเจ้านายของสาวแว่นเลขา หลังจากสาวแว่นเลขาลาออกไปอยู่ฝั่งจอมมาร พระราชาก็ดีใจเพราะที่ผ่านมาจะทำอะไรเลขาแว่นคุมหมด พอไม่มีใครมาขัด ก็ทำตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นไล่คนออกตามใจชอบ หานางสนมมาบำเรอความสุข ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ใครมาขัดอะไรนิดหน่อยก็ไล่ออก ผลก็คือบ้านเมืองมีแต่ทรุด กับทรุด

    แทนที่พระราชาจะสำนึก หรือรู้ซึ้งถึงความสำคัญสาวแว่นเลขา เพราะที่ผ่านมาการบริหารบ้านเมือง สาวแว่นจัดการหมด เมื่อเลขาแว่นไม่มี การบริหารเมืองก็ห่วยแตก ยิ่งทำยิ่งทรุด  และที่น่าเกลียดคือ เมื่อประชาชนไม่พอใจ พระราชาก็หน้าด้านด้วยการเฉไปเรื่องอื่น ว่าสิ่งสำคัญตอนนี้คือการปราบหจอมมาร โทษจอมมาร ให้จอมมารเป็นแพะรับบาทแทน ที้งๆ ที่สาเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นมาจากมนุษย์ด้วยกันเอง ในขณะที่พวกปีศาจและจอมมารเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของความวุ่นวายเท่านั้น

    อีกสิ่งหนึ่งที่น่าคิดสำหรับการอ่านการ์ตูนเรื่องนี้คือ การเป็นเลขา นอกเหนือจากการบริหาร สู้ศึกภายนอกแล้ว ภายในการต้องรับมือกับเจ้านายด้วย

     สำหรับความสัมพันธ์ของเลขากับเจ้านายที่ยั่งยืนก็แบ่งเป็นหลายแบบ คือเลขาควบคุมเจ้านาย ซึ่งปกติเจ้านายที่ถูกเลขาคควบคุมคือจะทำตัวไม่ได้เรื่อง ไม่มีความเป็นผู้นำเสียเลย และแบบที่สองคือเลขาที่อยู่เป็น หากเป็นเจ้านายที่เก่งกาจกว่า หรือไม่ก็เจ้านายที่ขี้ระแวงที่ชอบทำโทษข้ารับใช้แบบไร้เหตุผล

    สำหรับเลขาของจอมมารนั้น เลขาสาวแว่นจัดอยู่ในเลขาสายควบคุม เพราะชีวิตของเธอทำงานกับเจ้านายสองคนที่ไม่ได้เรื่องทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชาและจอมมารที่เอาแต่ใจทั้งคู่ ซึ่งทั้งสองคนเลขาก็ใช้วิธีเดียวกัน นั่นคือการควบคุมเจ้านายให้อยู่กำมือ

     เลขานอกจากจะมีความรู้ เก่งเรื่องการบริหารงานแล้ว ศิลปะการควบคุม (?) เจ้านายก็ถือว่าเป็นเลิศเช่นกัน เพราะในประวัติศาสตร์เองต่อให้เลขา (หรือเสนาธิการ) มีความรู้ความสามารถเพียงใด แต่ถ้าเจ้านายไม่ได้เรื่อง ไม่เห็นคุ้นค่า หรือขี้ระแวงว่าเสนาธิการคิดไม่ซื่อกับตน ก็ถือไล่ออก หรือประหารได้เลยก็มี (อย่างกุญซื่อสามก๊กนี้ เห็นโครตบ่อย)

    ปัจจุบันมีหนังสือมากมายหลายเล่ม ที่มีจุดประสงค์ให้คนอ่านรับมือเจเนายในที่ทำงาน รวมไปถึงการควบคุมเจ้านาย  ซึ่งถือว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงมาก เพราะเราจะต้องมีจิตวิทยาการคาดเดาสูง ว่าเจ้านายชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีนิสัยยังไง เมื่อพบจุดอ่อนก็จะสามารถควบคุมเจ้านายแบบไม่รู้ตัว

    ในกรณีของพระราชาไม่ได้เรื่อง เลขาควบคุมแบบเบ็ดเตร็ด คือพระราชามีหน้าที่อยู่เฉยๆ เท่านั้น อย่าทำอะไรไม่เข้าท่า จะใช้เงินสิ้นเปลืองหาความสุขส่วนตัวไม่ได้ ส่วนนอกนั้นเธอจะจัดการทั้งหมด แม้พระราชาจะมีอำนาจมากกว่า แต่เลขาก็ไม่ได้หวาดกลัว และสามารถทำให้พระราชาไม่กล้าใช้อำนาจทำโทษเธอ หากเอามาเทียบกับโลกแห่งความจริงแล้ว เลขาสาวแว่นนี้น่าจะอยู่ในระดับสุดยอดเลขา ที่สามารถปรับตัวทุกสถานการณ์ มีเทคนิคที่ทำให้เจ้านายอยู่ในโอวาท หลากหลายวิธีที่ใช้ แต่หลักๆ คือเลขาสามารถทำให้พระราชารับรู้ ว่าพระราชามีหน้าที่อะไร และหน้าที่ของเลขาคืออะไร จึงจะสามารถทำงานด้วยกันได้

    หรือแม้แต่จอมมาร ที่เอาเข้าจริง จอมมารเรื่องนี้ก็เป็นจอมมารไม่ได้เรื่อง เอาแต่ใจ  ทำอะไรตามใจตนเอง เมื่อเจ้านายไม่ได้เรื่องพวกลูกน้องเองก็ไปคนละทิศคนละทาง (ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่พอเลขาอยู่ ก็เริ่มจัดงานเป็นระบบ การแบ่งหน้าที่ การทำให้จอมมารไม่ได้เรื่องดูดีต่อหน้าพวกลูกน้องได้


     


    แน่นอนว่าอาณาจักรจอมมารค่อนข้างใหญ่ แต่เลขาสาวแว่นใส่ใจทุกรายละเอียด จนถึงขั้นการพูดคุยลูกน้องระดับล่าง และเป็นเลขาที่ไม่สะทบสะท้านแต่อย่างใดต่อลูกน้องจอมมารที่มองเธอว่าเป็น “เป็นมนุษย์” แปลกแยกแม้แต่น้อย เธอก็ยังทำหน้าที่ของเลขา แม้งานนั้นจะหนัก ยุ่งยากเพียงใดก็ตาม


    Maou no Hisho  จึงเป็นการ์ตูนที่นอกเหนือจะสนุกกับเรื่องชวนหัวของจอมมาร กับกฎเหล็กของจอมมาร RPG (เป็นต้นว่า จอมมารจะไม่ส่งลูกน้องแกร่งๆ ไปยังพื้นที่เริ่มต้นเกม ก็เพราะมันจะเสียระบบนิเวศน์ เป็นต้น)  และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือสิ่งมีชีวิตแข็งแกร่งที่เรียกว่าเลขา  ที่เก่งไปทุกอย่าง ทั้งมีความรู้ ความอดทน ความตั้งใจ และมันก็ส่งผลต่อการทำงาน และมันสิ่งที่ยืนยันว่า แม้ว่าเจ้านายจะไม่ได้เรื่อง แต่ถ้ามีเลขาดีๆ อยู่ข้างกาย คอยจัดการอะไรให้แล้วละก็ องค์กรก็จะแข็งแกร่ง เข้มแข็ง  ไปรอดได้ทุกสถานการณ์


     

    ใครสนใจเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ครับ ลายเส้นเรียบง่าย แต่เลขาสาวแว่นนี้โครตน่ารัก






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×