ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #404 : (รีวิวอย่างแมวๆ) Summer Anime 2016 -แอ็คชั่นเยอะไปไหม!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.49K
      8
      1 ส.ค. 59

     


    http://myanimelist.net/anime/season

     

     

    อาจช้าไปเสียหน่อย แต่การรีวิว Summer Anime 2016  (ซึ่งไม่รู้ว่ามีใครรอหรือเปล่า) ก็เริ่มแล้วครับ แม้ที่อื่นๆ เขาจะรีวิวไปแล้ว แต่ที่นี้หลังเขา เพราะผมเสียเวลาในการดูอนิเมะมากไปหน่อย เพราะหลายเรื่องไม่ค่อยถูกโฉลกมากนัก กว่าจะทำใจดูนี้นานพอดู (ส่วนมากดูข้ามๆ)

    สำหรับซีซั่นก่อน หนักไปแนวแอ็คชั่น ไม่ได้หลากหลายมากนัก หรือไม่ก็บางเรื่องก็อินดี้เมากาว (ตอนจบเมากาว) ไม่ได้ฮิตอะไรมากนัก (ส่วนออริจินอลสอบตกหมด) แถมบางเรื่องหลังตอนจบโดนด่าจนผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาขอโทษอีก (คนแต่งคนทรงหมีออกมาขอโทษตอนจบแย่) มีเพียงเรื่อง Re:Zero เท่านั้นที่พอเป็นกระแสที่น่าชื่นชมบ้าง

    อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้ก็ยังคงเน้นแนวแอ็คชั่นอยู่ดี ส่วนออริจินอลกฌไม่มีเรื่องไหนโดดเด่นนัก ส่วนที่เหลิอก็มีพวกซีซั่น 2 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมตามอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นซีซั่นนี้มีอนิเมะหนึ่งที่สำคัญมากๆ โดยเรื่องที่ผมได้ดูบ้างแล้วมีดังต่อไปนี้

     

     

    ปกติผมเขียนแต่อนิเมะที่ตาม แต่พอดีช่วงนี้ผมก็ดูอนิเมะบางเรื่องบ้าง และอยากจะบ่น ก็ขอบ่นในนี้ละกันนะครับ โดยอนิเมะที่ผมดูบ้างแล้ว (ทั้งติดตาม และไม่ติดตาม) ก็มี

     

    Berserk (2016)

    2

    ประเดิมเรื่องแรกที่ผมค่อนข้างผิดหวัง เรื่องราวของกัส คนทั่วไปรู้จักเขาในชื่อ นักดาบทมิฬ ผู้ที่ถูกตีตราให้กลายเป็นเครื่องสังเวย ทำให้ปีศาจจากทั่วสารทิศตามล่าตัวเขาและคนรักที่ถูกตีตรา กัสต้องเอาตัวรอดและตามล่าผู้ที่ทำให้เกิดเรื่องที่เลวร้ายครั้งนี้

    ความจริงแล้วก่อนหน้านั้น Berserk เคยทำอนิเมะตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ปี 19971998 ซึ่งนานมาก กราฟฟิกเก่าๆ แถมออริจินอลในตอนท้ายอีกต่างหาก ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจนัก หลายปีต่อมาก็มี   Berserk: The Golden Age Arc (20122013) ที่ทำได้อลังการงานสร้าง แม้จะมีภาพ CG มารบกวนจิตใจบ้าง แต่ก็ถือว่าชื่นชม ดังนั้นผมก็คาดหวังว่า Berserk (2016) จะเป็นอนิเมะที่น่าสนใจของซีซั่นนี้เรื่องหนึ่ง

    แต่....มันก็น่าผิดหวัง

    มันน่าผิดหวังยังไง คือ ปกติต้นฉบับเองก็ออกทะเลอยู่แล้ว คือมันขายความดิบเถื่อนของชายที่บ้าคลั่ง แม้ศัตรูจะเหนือมนุษย์ เป็นปีศาจ แต่กัสก็สามารถฆ่ามันได้ ซึ่งฉากเต็มไปด้วยความโหดร้าย เลือดสาด ซากศพ แหวะๆ อะไรมากมาย หากแต่ตอนหลังเรื่องลดความโหดร้ายลง มีเรื่องเวทมนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง และกัซเป็นหมี

    มันก็ตอบยากว่าหลายคนชอบแบบเก่า หรือชอบช่วงหลัง หลายคนอาจตามการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะมันตัดไม่ขาด ไหนๆ ก็ตามมาหลายภาคแล้ว และผมเชื่อว่าหลายคนที่ติดตามอนิเมะเรื่องนี้ก็หวังจะดูอะไรดิบๆ เถื่อนๆ เลือดสาดเหมือนช่วงแรกๆ มากกว่า

    แต่....ปรากฏว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น

    เริ่มจากอนะมะ 2016 นี้ผิดหวังเยอะมากกว่าชม เป็นต้นว่าเนื้อหาการดำเนินเรื่องนั้นเดินเรื่องเร็วกว่าเดิมมาก  แถมยังออริปรับเปลี่ยนจากต้นฉบับเดิมอีกต่างหาก (ทีภาค ยุคทอง ยังตรงต้นฉบับเลย ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้หว่า) แม้จะดูน่าติดตามเพราะมันไม่เหมือนต้นฉบับ แต่ในใจคงกู่ร้องว่า “มันไม่ใช่ มันไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้น”

    ตัวอนิเมะตัดช่วงสู้กับสาวกออกไป และเริ่มด้วยบทหอคอยพิพากษา  (อาจเป็นเพราะอนิเมะเก่ามันมีอยู่แล้วละมั้ง จึงไม่จำเป็นต้องเอามารีเม็กซ์อีก) แต่สิ่งที่เลวร้ายคือตัวอนิเมะใช้ภาพ OG เข้าไปผาสม ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบภาพ OG สักเท่าไหร่ เพราะภาพออกมามันแข็งกระด้าง การเคลื่อนไหวเก้งก้างๆ ดูแล้วหงุดหงิดมากกว่าจะดี สรุปคือใครที่ดูภาคยุคทอง มาดูภาคนี้ผิดหวังก็ไม่ผิดหนัก (รู้สึกว่าคนสร้างคนละทีมกันด้วย)

     สรุป ไม่ตามครับ



    Mob Psycho 100  

    Mob Psycho 100  เป็นอนิเมะจากมังงะของผู้แต่งเดียวกับ “One Punch Man” เรื่องราวของ คาเงยาม่า ชิเงโอะหรือผู้คนทั่วไปต่างก็เรียกเขาว่า ม็อบเขามีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเพราะว่าเขามี พลังจิตเขามีงานอดิเรกคือการไล่ปราบภูติ ผี ปิศาจ แต่ถ้าถึงพลังจิตของม็อบถึงขั้น 100 เมื่อไหร่พลังจิตจะระเบิดออกมาอย่างมหาศาล แต่เขาใส่ฝันที่อยากจะมีชีวิตที่ธรรมดาและอยากให้สาวที่เขาแอบชอบมาสนใจตนบ้าง

    อนิเมะเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่หลายคนลุ้นแทบแย่ว่าภาพมันจะออกมาแบบไหน จะเป็นเส้นแบบต้นฉบับ หรือออริจินอล เพราะในต้นฉบับนี้ลายเส้นที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์โครตๆ คือ “วาดห่วย” เหมือนการ์ตูนวาดเล่น ตัวละครหน้าตาบิดเบี้ยวผิดสัดส่วน ตัวละครหญิงที่ไม่โมเอะเลยแม้แต่น้อย (ขนาดตัวละครหญิงที่สวยที่สุดในเรื่อง เห็นแล้วปวดตับมาก) ตึกบ้านเรือนในเรื่องลายเส้นสั้นๆ บิดไปบิดมา ราวกับวาดโดยไม่ใช้ไม้บรรทัดขีดเส้นตรง คนดูแล้วทรมานใจ

    อย่างไรก็ตาม เมื่ออนิเมะออกมา หลายคนก็โล่งใจเปราะหนึ่ง เพราะอย่างน้อยภาพก็ออกมาดูดี ตัวละครก็ยังคงลายเส้นดีคงเดิมเอาไว้ ยกเว้นตัวละครหญิงในเรื่องปรับตัวน่ารักขึ้นกว่าในมังงะ (ยกเว้นสาวประธานหน้ายังเหมือนเดิมเหมือนต้นฉบับ ฮ่า)

    ตัวอนิเมะนั้นขายชีวิตประจำวันของม็อบ มุกตลก ตัวละครน่าจดจำ ฉากต่อสู้พลังจิตบ้าพลัง แต่ถ้าถามว่ามันโดดเด่นกว่าอนิเมะแนวแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆ  คำตอบก็คือ “ไม่”  มันเป็นการ์ตูนที่ดูเอาสนุกมากกว่า เพราะเท่าที่ดูฉากแอ็คชั่นนี้น่าตื่นตาตื่นใจพอสมควร ไม่จำเป็นต้องเอฟเฟคอลังการงานสร้างแต่ใช้มุมกล้องแปลกๆ กับการใช้สีสันฉูดฉาก ประกอบกับม็อบที่ดูน่ารักบางมุม ทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจกว่ามังงะเสียอีก

    สรุป ติดตามครับ


    Taboo Tattoo

    Taboo Tattoo เป็นอนิเมะจากมังงะ เรื่องราว อากาสึกะ จัสติส ชื่อเล่นเซย์กิ ได้รับรอยสักจากชายที่เขาไม่รู้จัก แต่นั่นไม่ใช่รอยสักธรรมดา มันคืออาวุธพิเศษที่สามารถทำให้บรรยากาศบิดเบี้ยว สร้างความว่างเปล่าขึ้นทำลายสิ่งรอบข้างได้ ที่เรียกว่าตราเวททำให้เขาต้องเข้ามาในเหตุการณ์ที่วุ่นวาย

    เป็นอนิเมะแนวแอ็คชั่นพลังวิเศษ ที่หลายคนที่อ่านมังงะมาแล้ว กระซิบบอกว่าอย่าไปอวยตัวละครหญิงที่ปรากฏในเรื่องเด็ดขาด เพราะ.........  เอาง่ายๆ เลย เนื้อหาค่อนข้างบัดซบพอสมควร ส่วนตัวก็ไม่ได้อ่านแนวแบบนี้อยู่แล้ว แถมคนแถวนี้ส่งมังงะให้ผมอ่านเล่มหนึ่ง ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหนแล้ว

    ไม่ได้ตามครับ

     

    Rewrite

    Rewrite เป็นอนิเมะจากเกมจีบสาวของต่าย Key เป็นเรื่องราว โคทาโร่ ได้เข้าชมรมวิจัยเรื่องลึกลับแล้วชวนเพื่อนของเขาเข้าร่วมชมรมที่ประกอบด้วยนักเรียนหญิงหลายคน ชีวิตที่สนุกในโรงเรียนของโคทาโร่ต้องมาจบลง เมื่อเขาและเพื่อนต้องมาพัวพันกับชะตากรรมของโลก แล้วต้องแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของพวกเธอ

    เรื่องนี้ผมไม่ตามแน่นอน เพราะไม่ค่อยถูกกับอนิเมะจากเกมจีบสาวสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากตัดเนื้อหาเยอะ จบวิน และอารมณ์ไม่ซึ้งสักเท่าไหร่ แถมจำนวนตอนบอกว่าจบใน 13 ตอน  กับนางเอก 5 คน ก็ยิ่งไม่เชื่อใหญ่ว่าอนิเมะจะเก็บรายละเอียดครบถ้วน และตัวละครหญิงก็ไม่ได้โดดเด่นน่าจดจำมากนัก

    สรุปดูตอนเดียวพอ

     

    Amanchu!

    Amanchu!  เป็นเรื่องราวของโคฮินาตะ ฮิคาริสาวน้อยผู้รักและหลงใหลในการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ที่กำลังตื่นเต้นกับการขึ้นชั้นม.ปลาย ในวันแรกของการเปิดภาคเรียนฮิคาริได้เจอกับ โอคิ ฟุตาบะสาวสวยที่ย้ายมาจากในเมือง และรู้สึกถูกชะตาด้วย เมื่อเห็นว่าฟุตาบะก็สนใจการดำน้ำจึงชวนให้เข้าชมรมดำน้ำด้วยกัน

       ไม่ได้ดู แต่เคยอ่านมังงะ เนื้อหาอาจไม่ใช่แฟนตาซีไซไฟ เหมือน Aria แต่อารมณ์คล้ายๆ กัน คือเรียบง่าย ไม่หวือหวา เน้นความสวยงามของสายน้ำ เพียงแต่ Amanchu! เน้นความสวยงามของทะเล และมิตรภาพของหญิงสาว

    ไม่ได้ตามครับ


    Danganronpa 3: The End of Kibougamine Gakuen – Mirai-hen

    ถ้าจะถามว่าซีซั่นนี้ อนิเมะเรื่องไหนผมตั้งตารอคอยมาก  Danganronpa 3 ก็คือคำตอบ เพราะมันเป็นภาคปิดตำนานซีรีย์โรงเรียนสิ้นหวัง ว่ามันจะจบในรูปแบบไหน

    อย่างไรก็ตาม อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องต่อจากภาคก่อนๆ หากใครที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน คุณอาจ งง เล็กน้อย เพราะซีรีย์นี้ไม่ทำอนิเมะภาค 2 มา ดังนั้นก็ขอเล่าภาค 2 แบบคร่าวๆ

    หลังที่พวกนาเอกิและพวกรอดมาจากโรงเรียนฆาตกรรมของจุนโกะ ก็พบว่าโลกที่พวกตนอยู่นั้นได้ล่มสลาย เพราะองค์กรที่สิ้นหวังของจุนโกะ ทำให้พวกนาเอกิได้เข้าร่วมกลุ่ม มิไรคิดัง  ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยศิษย์เก่าโรงเรียนคิโบกามิเนะและกลุ่มคนผู้มีพรสวรรค์อื่น ๆ เพื่อต่อกรกับกลุ่มคนผู้สิ้นหวัง

    ผลของสงคราม กลุ่มมิไรคิดัง ได้จับกุมนักเรียนมัธยมปลายสิ้นหวังมาได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นสาวกของจุนโกะ และตามกฎของมิไรคิดังคือต้องกำจัดพวกสิ้นหวังให้หมดแบบถอนรากถอนโคน หากแต่นาเอกิมีความเห็นต่างกันออกไป (บ้านเราคงด่าว่า โลกสวย”) ว่า ทุกคนควรมีโอกาสที่จะแก้ตัว และแก้ไขตนเอง นาเอกิจึงฝ่าฝืนคำสั่ง นำกลุ่มนักเรียนสิ้นหวังนั้นไปบำบัดเกาะร้างแห่งหนึ่ง โดยการล้างสมอง ให้ความทรงจำใหม่  หากแต่อย่างไรก็ตามในระหว่างการบำบัด มีใครบางคนแอบเอาโปรแกรมโปรแกรมบุคลิกจำลองของจุนโกะเข้าไปป่วนการบำบัด ส่งผลให้สาวกจุนโกะฆ่ากันเอง จนเป็นที่มาของเกมในภาค 2

    แม้ว่าสุดท้ายนาเอกิและพรรคพวกจะสามารถหยุดจุนโกะเอาไว้ได้ แต่ผู้ที่ตายในโปรแกรมกลายเป็นสภาพผัก เพราะเชื่อว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว ทำให้สมาชิกจุนโกะที่เหลือขออยู่ดูแล เพราะเชื่อว่าสักวันพวกเขาจะตื่นขึ้นมาได้อีกครั้ง ส่วนนาเอกิก็เดินทางกลับมิไรคิคังเพื่อรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง อันเป็นที่มาของฉากเปิดภาค 3

    สำหรับเนื้อหาภาค 3 โลกก็ยังคงสิ้นหวัง แม้ว่าโลกจะถูกช่วย โดยมิไรคิดัง แต่มันกลับไม่ดีอะไรขึ้น อีกทั้งกลุ่มมิไรคิดังก็ถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย หลังการทรยศของนาเอกิที่ชวยเหลือกลุ่มนักเรียนสิ้นหวัง

    มิไรคิดังจึงรวมตัวในฐานบัญชาการบนเกาะแห่งหนึ่ง เพื่ออกเสียงว่าจะจัดการยังไงกับนาเอกิ หากแต่ระหว่างที่กำลังถกเถียงกันอยู่นั้น ก็มีกองกำลังปริศนาโจมตีเกาะ และฆ่าเจ้าหน้าที่บนเกาะจนหมด

    ส่วนสมาชิกกลุ่มมิไคคิดัง กับนาเอกิและพรรคพวกก็ได้สลบลง และเมื่อตื่นขึ้นมาพวกเขาก็พบว่ามีกำไลแปลกๆ บนข้อมือของตนเอง และจากนั้นเจ้าหมีสองสีจอมกวนก็ปรากฏตัวอีกครั้ง โดยบอกว่าให้กลุ่มมิไคคิดังเล่นเกมหาตัวฆาตกรในกลุ่มของพวกเขา ไม่งั้นทุกคนจะตายหมด และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเกมสิ้นหวัง

    Danganronpa 3: The End of Kibougamine Gakuen – Mirai-hen เป็นอนิเมะที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีรีย์นี้ เพราะเป็นภาคออริจินอลสำหรับอนิเมะโดยเฉพาะ ผิดจากที่ผ่านมาที่เป็นเกมตั้งแต่แรก  และเป็นภาคที่น่าจะเป็นภาคสุดท้ายของซีรีย์นี้ ที่จะต้องดู

    แน่นอนว่ามันเป็นซีรีย์ที่ไม่ผิดหวัง เพราะเปิดออกมาก็ชวนน่าติดตาม มีอะไรให้ช็อก หักมุมตลอด รวมไปถึงการวางปริศนาที่ยิ่งคาใจอะไรต่างๆ ด้วย และเป็นภาคที่ทำเพื่ออนิเมะโดยเฉพาะ เห็นได้จากเกมที่เล่นภาคนี้กระชับกับจำนวนตอน 12 ตอนขึ้น แต่ความซับซ้อนก็ยังคงมีเหมือนเดิม


    Danganronpa 3  The End of Kibougamine Gakuen- Zetsubou-hen  

    ยังอยู่ในเรื่องของ Danganronpa  เพราะซีซั่นนี้ซีรีย์ Danganronpa 3 ถูกปล่อยออกมาสองเวอร์ชั่น คือ Danganronpa 3  The End of Kibougamine Gakuen- Mirai Hen  (อนาคต)  และ Zetsubou-hen   (สิ้นหวัง) และฉายเวลาไล่เลี่ยกัน เรียกได้ว่าใครเป็นสาวกซีรีย์นี้ได้เต็มอิ่มตลอดสัปดาห์แน่นอน

    สำหรับเนื้อหา Zetsubou-hen  จะเป็นการย้อนกลับจากอดีต ก่อนเกิดเหตุการณ์ Danganronpa   ภาคแรก หรือเป็นช่วงที่นาเอกิยังไม่ได้เข้าเรียน และยังองค์กรสิ้นหวังยังไม่ออกฤทธิ์เดช

     Zetsubou-hen  เปิดตอนด้วยการตายของจิสะใน Mirai Hen  (อนาคต)  จากนั้นก็เริ่มเล่าเหตุการณ์อดีต สมัยที่เธอเป็นอดีตนักเรียนสุดยอดแม่บ้าน (ซึ่งเป็นผู้ตายจากภาคอนาคต) และเป็นคุณครูผู้ช่วยที่ต้องมาสอนเหล่านักเรียนที่มีพรสวรรค์ในโรงเรียนคิโบกานิเมะ

    จากนั้นเนื้อเรื่องเปิดตัวละครที่เป็นนักเรียนจากภาค 2 โดยให้จิเสะตามหานักเรียนที่โดดเรียนมาเรียนในชั้นให้ครบทุกคน  จากนั้นเนื้อเรื่องก็เปิดตัว ฮินาตะ ฮาจิมะ พระเอกจากภาค 2 นั้นเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย แต่เขาก็ได้เรียนโรงเรียนคิโบกานิเมะ ชั้นสำรอง (แม้จะขึ้นว่าสำรอง แต่ก็ถือว่าเป็นเป็นโรงเรียนชั้นเลิศพอๆ กัน) ทำให้ เขาโดนคนรอบข้างดูถูกว่าเขาเรียนโรงเรียนแห่งนี้ได้ยังไง

                    Danganronpa 3  Zetsubou-hen ค่อนข้างแตกต่างไป Mirai Hen  มาก เพราะมีอารมณ์แตกต่างกัน ทางด้านอนาคตนั้นเน้นความตื่นเต้น อารมณ์มาฆ่ากันเถอะ การเอาตัวรอด เลือดสาดอะไรมากกว่า แต่สำหรับภาค Zetsubou-hen จะเน้นแบบเนิ่บๆ ก่อนที่จะเข้มข้นในภายหลัง

                    อารมณ์ของ Zetsubou-hen สองตอนแรกจะเหมือนอนิเมะชีวิตประจำวันในโรงเรียน ของตัวละครในภาค 2 ที่ไม่มีอะไร สดใส สนุกสนาน ตลก หากแต่ตัวของฮินาตะนั้นกลับมีปม  ที่บ่บอกว่าอนาคตจะมีอะไรสิ้นหวัง ดราม่า แน่นอน

                    แม้ว่า Zetsubou-hen จะมีอารมณ์ที่เนิ่บๆ แต่มันก็น่าสนใจอยู่ดี เพราะมันมีปมต่างๆ ให้ได้คิดตลอด ซึ่งผมเชื่อว่า เนื้อเรื่องจะมีอะไรเซอร์ไพร์แน่นอน และน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับภาคอนาคต รวมไปถึงการการปรากฏตัวของตัวละครที่หลายคนคิดถึง “จุนโกะ” สุดยอดนักเรียนแห่งความสิ้นหวัง ว่าจุนโกะได้ทำยังไงให้นักเรียนภาค 2 กลายเป็นนักเรียนแห่งความสิ้นหวัง แล้วเข้ายึดโรงเรียนได้ยังไง และทำไมอดีตสุดยอดนักเรียนในมิไรคิคังถึงต้องหวาดกลัวจุนโกะนัก

                    เรียกได้ว่าเป็นภาคเสริมที่ทำให้เราเข้าใจภาค Mirai Hen ก็ไม่ผิดนัก (แม้จะฉายที่หลังก็เถอะ)

                    ปล. ผมโครตเกลียดเจ้าซาคาคุระ จูโซทั้งสองภาคเลยพับผ่า

                    สรุปติดตามครับ


    Regalia: The Three Sacred Stars

    Regalia: The Three Sacred Stars เป็นอนิเมะออริจินอล ที่เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องเรนะและยุย (หรือยูอิ) ที่อาศัยอยู่ใน ประเทศ Rimguard  ที่กำลังภัยพิบัติที่จู่ๆ ก็มีหุ่นยนต์ยักษ์ลึกลับเข้ามาอาละวาด

    เป็นอนิเมะที่พล็อตก็ไม่ได้สดใหม่  เหมาะสำหรับสาวโมเอะที่มีฉากแอ็คชั่นของหุ้นซูปเปอร์โรบอท แถมสามโมเอะเหล่านี้ปลูกทุ่งลิลลี่บานสะพรั่นเต็มทุ่ง ที่แปลกหน่อยตรงเรนะคนพี่นั้นตัวเต้ย จจนนึกว่าเป้นน้อง ส่วนยุยนั้นตัวสูง กว่ากันมาก แม้เนื้อเรื่องช่วงแรกๆ ออกไปทางยูริมีงอน คืนดี แต่ก็มีช่วงต่อสู้หุ่นยนต์ และก่ารเปิดเผยปมว่าที่แท้สองพี่น้องไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกัน ซึ่งเรนะแท้จริงเป็นแกนกลางของหุ่นยนต์ยักษ์ที่ยุยเป็นคนขับ ส่วนยุยก็เป็นจักพรรดินีของอาณาจักรของเรื่องนั้นเอง

    สรุปไม่ตามครับ

     

    Time Travel Shoujo: Mari Waka to 8-nin no Kagakusha-tachi

    Time Travel Shoujo: Mari Waka to 8-nin no Kagakusha-tachi(แปลไทย; สาวน้อยนักท่องเวลา: มาริและเพื่อนๆ กับนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 8) เป็นอนิเมะออริจินัลของค่าย FUNimation Entertainment เล่าเรื่องของเด็กผู้หญิงที่ชื่อมาริซึ่งมีภารกิจที่ต้องเดินทางข้ามเวลาไปพบกับนักวิทยาศาตร์และนักประดิษฐ์ในอดีตอย่าง โทมัส เอดิสัน หรือ เบนจามิน แฟรงคลิน และคนอื่นๆ  

    โดยส่วนตัวแล้วพล็อตเนื้อเรื่องนี้ให้อารมณ์การ์ตูนฉายช่อง 9 เมื่อนานมาแล้วมากๆ (อารมณ์ประมาณการ์ตูนเด็กดี) ช่อง 9 การ์ตูนน่าจะซื้อลิขสิทธิ์มานะ และผมเองก็เนื่องมาจากเขียนบทความเรื่องจริงทะลุโลกได้อ่านด้านหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 8 ในเรื่องที่แต่ละคน...... จนดูแล้วรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก

    สรุปไม่ตามครับ

     

    Handa-kun

    อนิเมะภาคแยกของ “Barakamon” เป็นเรื่องราวของ ฮันดะคุงกับเพื่อนๆ ของเขา สมัยที่ยังเรียนอยู่เรียนในชั้นมัธยมปลาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนในซีรี่ส์ Baragamon 6 ปี ฮันดะคุงเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการเขียนพู่กันจนกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักเรียนดั่งซุปเปอร์สตาร์ แต่ทว่า ฮันดะคุง กลับคิดว่าคนทั้งโรงเรียนนั้นกำลังเกลียดเขาอยู่

    ตอนอนิเมะฉายอยู่ มังงะ Handa-kun พึ่งจบไปหมาดๆ สำหรับซีรีย์นี้ถ้าถามว่าตลกไหม ก็ตอบว่าตลก แต่คุณค่านั้นก็เป็นอีกเรื่อง เพราะเนื้อหาก็เป็นการอวยฮันตะของพวกผู้ชาย (ตัวละครภาคนี้ไม่ค่อยมีตัวละครหญิงแจ่มๆ สักเท่าไหร่ บทเทไปตัวละครที่เป็นผู้ชายเกือบหมด)

    สรุปไม่ตามครับ


    Hybrid x Heart

    Hybrid x Heart เป็นอนิเมะจากนิยายของ Masamune Kuji  เป็นเรื่องราวของ ฮิดะ คิสึนะ ที่อยู่มาวันหนึ่งพี่สาวได้ขอให้ไปเข้าโรงเรียนยุทธศาสตร์การป้องกัน Ataraxia ที่นักเรียนส่วนใหญ่ที่นั่นมีความสามารถในการขับ HHG เพื่อต่อสู้กับผู้รุกรานจากต่างโลก ด้วยการสวมชุดอันน่าอับอาย และถึงแม้ความสามารถของคิซึนะจะไม่ได้ดีเด่อะไรนัก แต่แผนของคุณพี่สาวก็คือ การให้เขาทำเรื่องลามกกับสาวๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของพวกเธอ! อนาคตของโลกอยู่ในกำมือของชายผู้นี้เสียแล้ว

    ถ้าถามความรู้สึกผม ผมก็ตอบว่า “โรงเรียนต่อสู้” อีกแล้วเหรอ คือมันตามสูตรจริงๆ ครับ คือเป็นโลกอนาคตที่ถูกศัตรูลึกลับรุกราน  แทนที่จะใช้ทหาร กลับไปใช้นักเรียนหญิงต่อสู้ แถมนักเรียนหญิงใส่ชุดหน้าอาย มีเพียงเกราะหนักบินได้ที่ให้เป็นอาวุธเท่านั้น (นักวิทยาศาสตร์เขาคิดอะไรอยู่หว่า) แล้วพระเอกเป็น ชายคนเดียวที่เข้ามาเรียนที่ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยสาวๆ (ส่วนตัวแนวนี้พระเอกเป็นผู้ชายคนเดียวดีแล้ว มีชายอื่น ผมร้อง”ยี้”) แล้วได้ฮาเร็ม ฉากเซอร์วิส บลาๆ เป็นแบบนี้ทุกเรื่อง

    ถ้าถามว่าอนิเมะแนวนี้ มีอะไรที่แปลกใหม่ แตกต่างอะไรกับแนวนี้บ้าง ก็ตอบว่าแทบไม่มีอะไรเลย พระเอกก็หน้าเดิมๆ หน้าโหลๆ ฉากเซอร์วิสหรือทำเรื่องหน้าอายสาวๆ เพื่อให้เพิ่มพลังมุกนี้สายมืดก็ทำมาแล้ว พอสว่างหน่อยก็ทำให้มันสามแง่สามง่ามเท่านั้น  จะแปลกหน่อยตรงที่ตอนแรกพระเอกเรื่องนี้เป็นสายสนับสนุน แต่ดูแววแล้ว เดี๋ยวก็คงต่อสูเคียงบ่าเคียงไหลสาวๆ อยู่ดี (อันนี้ไม่ทราบ ฝากถามคนอ่านนิยายมาแล้ว ว่าพระเอกมันสู้ไหม)

    ในด้านการออกแบบชุดเกราะสาวๆ เอาตรงๆ ผมว่าไม่ค่อยเด็ดสักเท่าไหร่ ขนาดเรื่องหนึ่งที่ผมโครตตำหนิว่าออกแบบชุดต่อสู้ห่วยแต่พอดูได้อย่างน้อยก็มีบางตัวละครที่ชุดต่อสู้ที่ถูกใจผมพอดี โดยส่วนตัวแล้วชุดเกราะสาวๆ จะต้องมีส่วนประกอบของชุดว่ายน้ำ หรือชุดเลโอตาร์ดหน่อยๆ ผมจะดูน่ารัก ไม่ใช่มาแบบเกือบเปลือย หรือเกือบโป๊ มีเพียงปกปิดจุดสงวนเท่านั้น

    ถามจริงเถอะแนวนี้ไม่เบื่อบ้างเรอะ!!

    ผมอยากดูแนวโรงเรียนต่อสู้ ที่พระเอกมันคนธรรมดาสามัญ ไม่ได้เรียน ไม่มีพลังใดๆ ไม่ได้ต่อสู้ด้วย อะไรก็ได้ที่เป็นแนวประชดแนวนี้ ผมว่าใครทำแนวนี้นี่ น่าจะฮิตนะ ขนาดยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่องแนวประชดต่างโลกนี้ยังฮิตแบบไม่ได้ตั้งใจเลย

    ในด้านตัวอนิเมะ ผมก็ยิ่งหงุดหงิดอีกกับฉากเซ็นเซอร์ที่ถมดำมืดเลย นี้ยังเห็นสูตรเดิมๆ อีกช่างหงุดหงิดยิ่งนัก

    สรุป ก็จะดูข้ามๆ อยู่นะ พอดีเสี้ยนอยากดูอนิเมะแนวฮาเร็ม เรื่องนี้ใกล้เคียงที่สุดแล้ว (ซีซั่นที่แล้วไม่ดูแนวเดียวกัน เพราะหงุดหงิดมีคู่รอง)

     


    New Game!

    New Game! อนิเมะจากมังงะแนวแก๊ก 4 ช่อง อาโอบะ สึซึคาเสะ ที่ดูเหมือนเด็กมัธยมต้น แต่เธอเพิ่งจบจากมัธยมปลาย ตั้งใจมาทำงานด้านกราฟฟิคในบริษัทเกม ที่ซึ่งเธอได้พบกับเหล่าพนักงานสาวที่นิสัยแตกต่างกันไป

                    เป็นการ์ตูนแนวโมเอะ-ชีวิตประจำวัน ที่เน้นไปที่ความน่ารักของตัวละครหญิง ตามสูตรสำเร็จ จนไม่มีแปลกใหม่อะไร นอกจากเวทีของเรื่องเป็นบริษัทและตัวละครไม่ใช่เด็กมัธยมปลายแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีความน่ารักของทวินเทล (แต่ผมชอบทวินเทลซึนเดเระ) รู้สึกว่าทวินเทลดังพอสมควร เพราะเห็นสายมืดอยู่

                    สรุป ไม่ตามครับ

     

    Ange Vierge

    เมื่อประตูมิติ “Hairou” ได้เปิดขึ้น ทำให้โลกทั้ง 4 ได้เชื่อมต่อกัน ในขณะเดียวกันก็ได้ทำให้พลัง “Exceed” ในตัวของเหล่าเด็กสาวตื่นขึ้น และได้มีการก่อตั้งโรงเรียน Seiran สำหรับผู้สาวน้อยผู้มีพลังพิเศษที่ถูกเรียกว่า “Progress” ขึ้นที่โลกมนุษย์ เพื่อให้สาวๆ จากทั้ง 4 โลกได้เรียนรู้ในการใช้พลังพิเศษ

    สรุป เป็นแนวโรงเรียนต่อสู้เหาะเหินฟากฟ้า ที่ไม่มีตัวผู้ ผมไม่ตามนะครับ

     

    สำหรับการรีวิวก็มีเพียงเท่านี้ครับ  ส่วนที่เหลือนั้นผมไม่ได้ดูเลย แม้แต่ตอนแรก และส่วนตัวผมก็ติดตาม 4 เรื่อง (แต่ถ้าให้สุดยอดซีซั่นนี้ผมให้ Danganronpa 3 ทั้งสองเวอร์ชั่นเลย เพราะน่าติดตาม การวางปม มันคาดเดาไม่ได้ และเสน่ห์ตัวละคร) แม้ซีซั่นนี้ไม่ค่อยมีฮาเร็มมีคุณภาพสักเท่าไหร่ แต่ซีซั่นหน้าจะมีฮาเร็มที่ผมรอคอย ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ซีซั่นน่าจะมาพูดถึงครับ

    ขอให้มีความสุขในการดูอนิเมะซีซั่นนี้นะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×